ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER iKON GOT7 : : SONGKIM] MAZE♂ FIRST STORY

    ลำดับตอนที่ #36 : MAZE : CHAPTERS 32

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 460
      2
      14 พ.ค. 58







    Chapters 32

     

                จินอูลงมาจากห้องของซึงยูนเพื่อเตรียมตัวจะไปทำงาน วันนี้ซึงยูนมีอัดเสียงเลยออกไปตั้งแต่ตีห้าแล้ว ตอนแรกก็จะให้รถเขาไว้ใช้ แต่เขาปฏิเสธไป นั่งแท็กซี่ไปสะดวกกว่ากันเยอะ ขี้เกียจขับมาคืนด้วย เพราะยังไงคืนนี้ก็กลับไปนอนกับฮันบินอยู่ดี

                ถึงมินโฮจะรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ถ้ากลับไปอยู่คอนโดตามเดิม มินโฮก็คงไม่วายเข้ามาวุ่นวายแน่ๆ อย่างน้อยมีฮันบินอยู่มินโฮก็น่าจะเกรงใจกันบ้าง

                “ออกมาช้าจัง”

                “-o- นะ นายมาทำอะไรน่ะ”จินอูอ้าปากค้าง เอ่ยถามผู้ชายที่แต่งตัวชิคๆยืนพิงรถอย่างแปลกใจ “นี่มัน เจ็ดโมง? แต่นาย ..ตื่นแล้ว”

                “ความจริงคือฉันยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก”มินโฮพูด ขยิบตาใส่จินอู

                “หะ เหอะ”จินอูแค่นหัวเราะ “ก็ว่าอยู่ ปกติกว่าจะปลุกนายได้ก็สายทุกที”

                “ก็ฉันเป็นคนใหม่แล้ว นายไม่รู้เหรอ”มินโฮแกล้งก้มไปใกล้ ยิ้มทะเล้นให้จินอู

                จินอูเลยถอยหนีออกมาแล้วปั้นหน้านิ่งใส่ “จะไปไหนก็ไปเหอะ ฉันจะไปทำงานแล้ว”

                “ก็ไปสิ ฉันมารับเนี่ย”

                “ไม่ต้อง ไปเองได้”จินอูตอบ เดินเลี่ยงไปริมถนนเพื่อจะโบกแท็กซี่ แต่แล้วกลับถูกดึงคอเสื้อเอาไว้ “อะไรอีก”

                “มันยังเช้าอยู่เลยนะจินอู ฟ้ายังไม่สว่างดีด้วยซ้ำ”

                “แล้วทำไม”

                “อยากจะเป็นเมียแท็กซี่ หรืออยากจะเป็นเมียแร็ปเปอร์ดีล่ะ”

                “นาย!!!”จินอูชี้หน้ามินโฮดุๆ ก่อนจะแกล้งทำเป็นยิ้มหวาน “นั่นสินะ ถ้าโดนแท็กซี่พาไปทำอะไรไม่ดีล่ะแย่เลย”

                “อ่าฮะ เพราะงั้น..”

                “แต่ฉันยอม ดีกว่าให้ไปกับนาย”

                พลั่ก

                “โอ๊ยจินอู!!!!!

                มินโฮร้องลั่นหลังจากถูกจินอูเตะตัดขาจนเสียการทรงตัวล้มลงไปกับพื้น จะลุกขึ้นก็ไม่ทันจินอูที่วิ่งไปโบกแท๊กซี่แล้ว สุดท้ายเลยได้แต่ยืนยิ้มอยู่คนเดียว

                “จินอูตัวแสบเอ๊ย นายคิดว่านายจะใจแข็งกับฉันได้นานแค่ไหนเชียว”

                ฉันจะรอดู

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “จินอู!!!!!!!!!!!!!!!

                จินอูเหวอไปเล็กน้อยหลังจากก้าวเข้ามาในห้องประชุมตอนเก้าโมงเช้า จุนฮเวที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็ตะโกนเรียกเขาเสียงดังลั่น ไม่พอ ร่างสูงวิ่งเข้ามาดึงเขาเข้าไปกอดแน่น

                “ยะ ย๊า กูจุนฮเว อะไรของแกเนี่ย”

                “ผมน่ะ โคตรคิดถึงพี่เลย เจอพี่เมื่อครั้งก่อนไม่มีอารมณ์ดีใจ”

                “เห๊อะ”จินอูหัวเราะในลำคอ ผละออกจากจุนฮเวแล้วยีหัวแรงๆ “เออ ตอนนั้นฉันก็ไม่มีอารมณ์อะไรเหมือนแกนั่นแหละ อย่าให้รู้นะ”

                “ก็.. ไม่รู้สินะ”จุนฮเวยักไหล่ แล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม ก่อนจะโดนมินโฮล็อคคอเข้าไปใกล้ “อะ อะไรล่ะเฮีย”

                “กูยังมีเรื่องให้ต้องคิดบัญชีกับมึง อย่าให้กูบอกจินอูนะว่ามึงไปนอนที่ไหนมา”

                “-o- เฮ้ยเฮีย พลีสสสสสสสสสสสสส”

                “หึ! แลกกัน มึงต้องช่วยกู”

                “ยอมหมดอ่ะให้ช่วยอะไร”

                “ดี เอาไว้จะบอก”มินโฮยิ้มมุมปากเมื่อหาผู้ช่วยได้คนนึงแล้ว

                จุนฮเวเหล่มองคนข้างๆ แอบเบ้ปากใส่

              หึ เห็นว่าเป็นเฮียหรอกนะ ไม่งั้นไม่มีสิทธิ์มาลอยหน้าลอยตาข่มขู่กูจุนฮเวได้แบบนี้หรอก

                “ชานอูไปไหน”จินอูถาม เมื่อมองไม่เห็นชานอู “แจบอม”

                “มันยะ..”

                “ผมอยู่นี่”ชานอูเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับยิ้มกว้างแล้วปรี่ไปหาจินอู ก่อนจะทำแบบเดียวกันกับจุนฮเว “ผมน่ะ โคตรคิดถึงพี่เลย”

                “ไอ้ชานอู!!!!!! ไอ้ขี้ก๊อป เมื่อกี้กูพูดไปแล้วโว้ย”จุนฮเวตะโกนแทรก ชี้หน้าชานอูอย่างคาดโทษ

                “อะไรของพี่ ผมจะไปรู้ได้ไง อย่ามาเยอะว่ะ”

                “ไม่ต้องมาเยอะทั้งคู่นั่นแหละ”จินอูรีบปราม “ไปนั่งได้แล้วไปชานอู”

                “ว่าแต่ เฮียออกไปรับพี่ตั้งแต่เช้าแล้วนี่นา ทำไมไม่ได้มาพร้อมกันอ่ะ ทำไมถึงช้าจัง”แจบอมถาม

                และบังเอิญเป็นคำถามที่มินโฮอยากรู้พอดี นี่เขามาถึงก่อนจินอูตั้งร่วมชั่วโมง ไม่รู้ไปแอบแวะไหนมา

                “ไปทำธุระนิดหน่อย”จินอูตอบเสียงเบา แกล้งไม่ให้คนที่แกล้งทำเป็นไม่สนใจทั้งที่อยากรู้จะตายฝั่งตรงข้ามได้ยิน

                มินโฮขมวดคิ้วเพราะไม่ได้ยินสิ่งที่จินอูพูด แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไร ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง ทุกคนรีบยืนขึ้นแล้วก้มทำความเคารพผู้มาใหม่ในทันที

                “จินอู ไอ้ตัวปัญหา ทำฉันเสียไปหลายแสนเลยนะ”

                จินอูยิ้มแห้งๆ “ขอโทษครับบอส”

                “บอส!! อย่ามาว่าพี่จินอูของผมนะ ว่าคนนู้นเลย เฮียต่างหาก ที่ก่อเรื่อง”

                “จองชานอู”มินโฮเรียกชานอูด้วยเสียงทุ้มต่ำ

                ใช่สิ พอรู้ว่ามีจินอู ก็เก่งกับเขาขึ้นมาเลยเชียว หึ! ไอ้ตัวแสบเอ๊ย

                “เอาล่ะ ไม่มีอะไรจะต้องมาสาธยายกันให้มากความแล้ว”ประธานค่ายพูดแล้วนั่งลงที่หัวโต๊ะ “แผนการเวิร์ลทัวร์จะยังคงมีต่อไป ไม่ว่ายังไงคอนเสิร์ตที่อเมริกาก็ยังคงมีต่อ เราจะไม่คืนเงินกับแฟนๆของพวกแก แต่อยากให้ทำงานหนักขึ้นสองเท่าโดยการเพิ่มโชว์ลงไป”

                “ผมจะจัดการเรื่องนั้นให้ครับ”ฝ่ายออกแบบรับคำ

                “แล้วก็เพิ่มรอบที่นั่นไปอีกสามรอบ หลังจากนั้นก็ดำเนินการตามแผนเดิม เพราะฉะนั้นพวกแกทุกคนต้องเวิร์ลทัวร์ในสองอาทิตย์ให้จบ ฉันมีเวลาให้ซ้อมโชว์ที่จะเพิ่มอีกหนึ่งอาทิตย์ ตั้งใจกันด้วย”

                “ครับ”ทั้งสี่คนรับคำพร้อมกัน

                “หลังจบเวิร์ลทัวร์ ก็ให้เตรียมคัมแบ็ค ไม่ว่ายังไง ที่ฉันขาดทุนไป ฉันต้องได้คืนสิบเท่า เข้าใจไหม ไอ้พวกไร้ความรับผิดชอบ”

                “โห่บอส เดี๋ยวเอากำไรคืนให้ยี่สิบเท่าเลยอ่ะ”

                “อย่ามาทำเป็นพูดดีไอ้จุนฮเว ทำให้ได้จริงๆเหอะ”

                “ครั้งที่แล้วขาดทุนไปเท่าไหร่ แล้วผมเอาคืนให้เท่าไหร่ อย่าให้ต้องรื้อฟื้นนะบอส”

                คราวนี้คนที่ตำแหน่งใหญ่สุดได้แต่อ้าปากพะงาบๆ เพราะเถียงไม่ออก ความจริงไม่ใช่แค่มินโฮหรอกที่เขาไม่สามารถสู้ได้ แต่เป็นพวกมันทั้ง 4 คนนี่แหละ นี่ถ้าเลือกได้อยากจะยกบริษัทให้พวกมันไปเลยด้วยซ้ำ

                “เอาล่ะ เริ่มซ้อมตั้งแต่วันนี้เลย อย่าขี้เกียจ จินอู จัดการคุมเข้มเลยนะ เข้าใจไหม”

                “ครับบอส”

                “ไปๆ พวกแกออกไปซ้อมได้แล้ว”

                เมื่อได้รับคำสั่ง ทุกคนก็ทยอยกันเดินออกไปจากห้อง แต่จินอูยังไม่ไป “บอสพอมีเวลาคุยไหมครับ”

                “มีอะไร”

                “จินยอง มานี่ก่อน อย่าเพิ่งไป”

                จินยองหันไปมองจินอูก่อนจะหันกลับมาหาแจบอมซึ่งยิ้มให้เขาแถมยังพยักเพยิดให้เขาไปอีก

                “ไม่มีอะไรหรอกเนียร์ เรื่องดีๆน่ะ”แจบอมพูดเบาๆ บีบมือจินยองก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

                “มีอะไร”

                จินอูยิ้ม แล้วให้จินยองนั่งข้างๆ “ผมจะคุยกับบอส เรื่องให้จินยองเทรนเป็นศิลปินครับ”

                “พี่จินอู”

                ศิลปิน.. เขาไม่ได้ยินผิดใช่ไหม










     




     

     

                ยุนฮยองเข้าไปในสตูดิโอที่ไม่คุ้น มองความวุ่นวายเล็กน้อยถึงปานกลางอย่างงุนงง แต่สายตาก็มองไปเห็นคนที่กำลังยืนอยู่ตรงกลาง มีแสงไฟส่องตรงไป เขาเลยยิ้มบางๆ

                เวลาตั้งใจทำงาน ชานอูก็ดูใช้ได้เหมือนกันแฮะ..

                “โอเค เรียบร้อยครับ ชานอูเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ เตรียมเซ็ตต่อไป”

                “ครับ”ชานอูก้มหัวให้ช่างภาพแล้วเดินไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ก็สะดุดตากับผู้ชายที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตูเข้าซะก่อน เมื่อเห็นว่าเป็นยุนฮยองก็ยิ้มร่าแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหา “พี่ยุน มาทำไรอ่ะ”

                “เอาข้าวกลางวันมาให้”ยุนฮยองพูด พร้อมกับชูกล่องข้าวในมือขึ้น “พอดีคุณจินอูกับจินยองต้องดูแลพี่ๆนายที่ซ้อมอยู่ เขาก็เลยวานให้ฉันมาดูนายที่นี่”

                “แล้วเด็กๆอ่ะ”ชานอูถาม เอากล่องข้าวมาถือแล้วดันยุนฮยองให้เข้าไปในห้องแต่งตัว

                “ก็อยู่ที่ร้านแหละ ให้ที่ร้านช่วยๆกันดู ฉันอยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ ยังเป็นไอ้เดี้ยงอยู่เลยเนี่ย”

                “หึๆ พี่ก็ช่วยมาดูแลผมอยู่นี่ไง”

                “เออไง”ยุนฮยองยิ้มมุมปาก มองชานอูกินข้าวกล่องที่จินอูฝากมาให้ “อีกนานไหมถึงจะเสร็จ”

                “ไม่น่าเกินสองชั่วโมงหรอก พอดีนายแบบเก่งอ่ะพี่ แป็บเดียวก็เสร็จ”

                “เห๊อะ”ยุนฮยองหัวเราะแล้วยีหัวชานอู “หลงตัวเองโคตรๆ”

                “พี่!!! หัวยุ่งหมด เพิ่งเซทนะเนี่ย”

                “เฮ้ย!!! ขอโทษ ทำไงอ่ะ”

                ชานอูมองยุนฮยองที่มีสีหน้ารู้สึกผิดเต็มที่ ก่อนจะหัวเราะร่วน “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ผมล้อเล่น เดี๋ยวช่างเขาก็ทำให้ใหม่เองแหละน่า”

                “นี่แกหลอกฉันงั้นสิ”

                “อือฮึ”

                “จองชานอู!!!!!!!!!

                “อ๊ากกกกกกกก อย่าฆ่าผมพี่ยุน”

                ไม่ได้มีเวลาให้หยอกเล่นกันมากนัก ยุนฮยองจำต้องปล่อยให้ชานอูกินข้าวแล้วกลับไปถ่ายแบบต่อ ส่วนตัวเขาก็ยืนมองการถ่ายแบบนั้นด้วยความชื่นชม ถึงจะยังเด็ก และดูไม่เอาไหน แต่เวลาทำงาน ชานอูก็ดูเป็นผู้ใหญ่ดี ดูแตกต่างไปเป็นคนละคนเลยด้วยซ้ำ

                “โอเคครับ เรียบร้อยแล้ว”

                “ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบบ”

                เสียงของช่างภาพเป็นสัญญาณว่างานถ่ายแบบของชานอูสิ้นสุดลงแล้ว ชานอูยิ้มให้ยุนฮยองก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมกลับไปซ้อมต่อ ยุนฮยองเลยยืนเล่นโทรศัพท์อยู่คนเดียวเพื่อฆ่าเวลา

                “พี่ยุน..ฮยอง?”

                ยุนฮยองปิดมือถือแล้วหันไปทางด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก แต่เมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน ดวงตาก็เบิกกว้างอย่างตกใจ “จะ แจยง”

                “เฮ้ย ใช่พี่จริงๆด้วย ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะครับ”

                ยุนฮยองยืนนิ่งปล่อยให้ร่างสูงกว่าดึงเข้าไปกอดแน่น ในขณะที่เขาได้แต่ทำอะไรไม่ถูกจนเป็นอิสระ แววตาสั่นระริกยามมองคนตรงหน้า

                “นายมา ทะ ทำอะไรที่นี่”

                “ผมเป็นช่างภาพน่ะสิ ผมต่างหากที่ต้องถามว่าพี่มาทำอะไร”

                “ฉัน..”ยุนฮยองกัดริมฝีปากก่อนจะสูดลมหายใจเข้า “ฉันมาดูชานอูน่ะ พอดี รู้จัก..กัน”

                “อ่า งี้นี่เอง”แจยงพยักหน้าเข้าใจ แตะบ่ายุนฮยองเบาๆ “เจอพี่ก็ดี ผมไม่รู้ว่าจะไปติดต่อพี่ที่ไหน พี่เลยหายเงียบไปเลย”

                “อือ.. พอดี ฉัน ยุ่งๆนิดหน่อย”

                “เอาเถอะ ไหนๆก็ไหนแล้ว อาทิตย์หน้าผมจะแต่งงาน”

                “แต่ง.. งาน”

                “ครับ ไว้จะฝากให้ชานอูเอาการ์ดเชิญไปให้ พี่ต้องไปให้ได้นะ”แจยงพูด ขมวดคิ้วมองมือของยุนฮยองที่พันผ้าพันแผลไว้ “มือพี่ไปโดนอะไรน่ะ ไหนผมดะ..”

                “ไม่มีอะไรหรอก”ยุนฮยองรีบชักมือกลับ ยิ้มให้คนตรงหน้า “อุบัติเหตุนิดหน่อย.. คือ”

                “เสร็จแล้วพี่ยุน!!!!!!!!! อ้าว พี่แจยง”

                “ไงชานอู”

                “รู้จักกันด้วยเหรอ”ชานอูถาม มองทั้งสองคนสลับกันไปมา

                “อือ เคยเรียนที่เดียวกัน”แจยงตอบ ยิ้มให้ยุนฮยองอีกครั้ง “งั้น ผมไปก่อนนะครับ พี่ต้องไปให้ได้นะ”

                “อะ อืม”

                “หวัดดีพี่แจยง”

                “เออ ไว้เจอกัน”

                ชานอูโบกมือให้ช่างภาพคนเก่งก่อนจะก้มหน้าลงไปมองยุนฮยองที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ “พี่ยุน!! เป็นไรอ่ะ”

                “..ปะ เปล่า”

                “แต่หน้าพี่ดูซีดๆนะ เป็นอะไรหรือเปล่า”

                “กลับกันเถอะ.. ป่านนี้เด็กๆคงรอแย่แล้ว”

                “อ่า.. โอเค”

                สุดท้ายชานอูก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เดินตามยุนฮยองที่ไม่พูดอะไรอีกไปที่รถ ระหว่างทางก็ยังคงอึดอัด เพราะไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลย รถจอดที่หน้าบริษัท ชานอูเลยลงจากรถโดยไม่ลืมหันมาบอกลา

                “ผมไปก่อ.. อ้าว”

                แต่ยุนฮยองไม่แม้แต่จะรอฟังให้จบ เพราะทันทีที่ชานอูปิดประตู เขาก็ขับรถออกไปเลย ชานอูเลยได้แต่เกาหัวตัวเองด้วยความงุนงง บวกกับเป็นห่วง

     

                เขาเป็นอะไรของเขา












     

    รูปเซทเก่ายังไม่ได้ส่ง แต่ไม่เกินวันมะรืนจะไปส่งให้แน่นอนจ้า

    ขอโทษนะที่ช้าไปมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    และ.. กลับมาอีกครั้ง พร้อมกับการแจก เพราะของเก่ามันยังเหลืออยู่

     

    เหมือนเดิม กฎเดิมเลย

    ขอแค่คอมเม้นท์เรื่องนี้(แต่ขอเพิ่มจากตอนแรกด้วยเน๊อะ)มากกว่า 10 ตอนขึ้นไป

    แล้วก็ทิ้งเมลล์เอาไว้ในตอนที่ 18 วงมั่นหน้าแจกของ

     

    หรือไปทิ้งเมลล์ไว้ในแท็ก #วงมั่นหน้า

    ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการสุ่มล้วนๆ มีทั้งสิ้น 2 รางวัล หรือบางทีอาจมากกว่า

     

    ขอแค่คอมเม้นท์ ไม่มากไปใช่ไหม

     

    หลังจากตอนนี้ไป จะเน้น “ซงคิม” เต็มสูบแล้วนะ

    คู่อื่นๆจะตามมาทีหลัง จะให้จบลงทีละคู่ เพราะงั้นอีกไม่เกิน 10 ตอน ซงคิมจะแฮปปี้เอนดิ้ง(รึเปล่า??)

     

    เป็นกำลังใจให้ด้วยน้า >< ซียู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×