ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER iKON GOT7 : : SONGKIM] MAZE♂ FIRST STORY

    ลำดับตอนที่ #34 : MAZE : CHAPTERS 30

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 487
      2
      29 เม.ย. 58




    CHAPTERS 30

     

                วันนี้ก็เหมือนกับทุกวัน ที่มินโฮขับรถตระเวนไปทั่วเพื่อหวังจะได้เจอจินอู และผลลัพธ์มันก็ออกมาแบบเดิม คือการที่เขาไม่เห็นแม้แต่วี่แวว โทรศัพท์ที่กระหน่ำโทรหาจินอูมาทั้งวันก็แบตหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่ที่คิดว่าจินอูจะไปก็ลองไปมาหมด แต่ก็ไม่เจออะไรเลย สุดท้ายก็ขับรถมาหยุดอยู่ตรงนี้

                บ้านหลังเก่าของจินอู ..ที่ที่เคยอยู่ด้วยกันสองคน ที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย

                จินอูขายบ้านหลังนี้เมื่อตอนเรียนจบ และเขาคือคนที่ซื้อมันโดยที่จินอูไม่รู้ เขาไม่ยอมหรอกถ้าหากว่าความทรงจำทั้งหมดของเขาจะตกไปอยู่ในมือของคนอื่น

                ร่างสูงลงจากรถ เดินไปที่หน้ารั้ว วางฝ่ามือลงไปบนรั้วไม้เบาๆ แล้วนึกถึงความทรงจำครั้งเก่า

     

     

                “ย๊า ทาให้มันดีๆหน่อยสิจินอู นายเลอะเทอะมาก”

              “อะไรๆ ตรงนั้นนายเป็นคนทาเองต่างหากมิโน อย่ามาโบ้ยฉันเซ่”

              “เถียงเหรอ ก็เห็นๆอยู่”

              “ฉันพูดความจริงนะเว้ย ดูเลย แปรงสีในมือนายน่ะสีเหมือนตรงนั้นเป๊ะ”

              “งั้นเหรอ”

              “เออน่ะสิ”

              “มาทาแก้มหน่อยไหมพ่อรูปหล่อ”

              “ย๊า ซงมินโฮ อย่าน้าาาาาาาาาาา”


     

                วันนั้นจบลงตรงที่ทั้งเขาและจินอูเลอะเทอะกันทั้งคู่ สุดท้าย รั้วบ้านก็เละ สีไม่เสมอกันไปตามระเบียบ แต่ทั้งคู่เห็นด้วยว่าปล่อยเป็นแบบนี้ก็เท่ดี

                มินโฮยิ้มแล้วเดินเข้าไปด้านใน สวนเล็กๆหน้าบ้านมีชิงช้าแขวนอยู่ ที่ที่จินอูมานั่งเป็นประจำเวลารอเขาซ้อมแร๊ปในห้องเล็กข้างๆกัน

     

     

                “ทายซิใครเอ่ย”

                “หืม มือใหญ่เกือบเท่าหน้าฉันขนาดนี้มีคนอื่นด้วยเหรอ”

                “หึๆ”

                “ซงมินโฮ ปล่อยได้ละ ฉันรู้น่า ไม่ได้โง่นะเว้ย”

                “โอเคๆ พ่อจินอูคนฉลาด ไอคิวแปดหมื่นเก้า”

                “นั่นน่ะมันก็เวอร์ไป แล้ว ซ้อมเสร็จแล้วเหรอ”

                “อืม วันนี้คิดไรไม่ค่อยออก”

                “ก็ว่าอยู่ ฉันอ่านหนังสือไปยังไม่ถึงครึ่งเล่มเลย งั้น..เข้าบ้านกัน”

                “ไปสิ”

                “มินโฮย่า”

                “หือ?”

                “ขอขี่หลังหน่อย ขี้เกียจเดิน”

                “เฮ้ออออออออออ จริงๆเล้ย”

                “ทำไม? บ่น จะไม่ให้ว่างั้น”

                “ขึ้นมาให้ไว”

                “ฉันรู้ ซงมินโฮน่ารักที่สุดในโลก ฮ่าๆๆๆๆๆ”

     

     

                มินโฮถอนหายใจ มองชิงช้าที่ใกล้จะพังเต็มที สุดท้ายก็มองไปที่ชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอนที่เขากับจินอูนอนด้วยกันอยู่ทุกคืน ..ที่ที่เป็นครั้งแรกของความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป

                “ฉันมันโง่เอง ที่ปล่อยนายไปแบบนั้นจินอู”

                ตอนนี้ทดสอบกันพอหรือยัง ..ลงโทษคนโง่คนนี้กันจนพอใจหรือยัง

              ถ้าพอใจแล้วก็ช่วยที

              ..แค่เจอจินอูอีกครั้ง แล้วจะไม่ขออะไรอีกแล้ว

                ถนนยามค่ำคืนในย่านฮงแดคึกคักเหมือนกับทุกวัน มินโฮที่สวมฮู้ทพร้อมกับหมวกแก๊ปที่ปิดลงมาครึ่งหน้าเดินล้วงกระเป๋าท่ามกลางผู้คนมากมาย แน่นอนว่าไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ทุกคนไม่กล้าเข้ามาทัก ทุกคนรู้ดี แฟนๆของเขาก็รู้ดี

                เวลาที่เดินอยู่คนเดียว นั่นหมายความว่ามินโฮอยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา เขาเคยวีนไปครั้งนึงแบบไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น และตั้งแต่นั้นมาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ ไม่มีไอดอลคนไหนทำได้ แต่ซงมินโฮทำได้ เพราะเขาเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ไม่ได้สร้างภาพลักษณ์สวยหรูเหมือนไอดอลบางคนคนที่รับได้ก็ยังคงชอบเขา ส่วนคนที่รับไม่ได้จะเกลียดเขา เขาก็ไม่สนใจหรอก

                มินโฮนั่งลงบนม้านั่ง มองผู้คนที่เดินผ่านไปมาแล้วฮัมเพลงเบาๆ แต่ในจังหวะที่กำลังสอดส่องสายตามองไปรอบๆ ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับหัวใจที่เหมือนกำลังจะหยุดเต้น คนรอบข้างพลันหายไปจากสายตา และมีเพียงหนึ่งคนที่อยู่ในสายตาเขา

                คิมจินอู..

                ยืนอยู่อีกฝั่งของถนน มินโฮยกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเองที่จู่ๆก็กลับมาเต้นแรง รอยยิ้มระบายออกอย่างไม่สามารถห้ามได้ แต่ก่อนที่ขากำลังจะก้าวเดินไปเขาก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นอีกคนที่กอดคอจินอูแล้วหัวเราะไปด้วยกัน

                คิมฮันบิน

                ไอ้หมอนั่น.. คนที่บอกว่าไม่รู้ว่าจินอูอยู่ที่ไหน

                คนโกหก























     









     

     

                หลังจากไปเอาเสื้อผ้าและของเล่นมันเซที่คอนโดของยุนฮยองแล้ว จุนฮเวก็ขับรถ(ที่ยืมเขามา)มาที่คอนโดของจินฮวาน เมื่อถึงที่หมายก็เหล่มองมันเซที่เจื้อยแจ้วตั้งแต่ที่ห้องจนถึงนี่ก็ยังไม่หยุดพูด

                ไอ้เด็กนี่ใช้ถ่านกี่ก้อนวะ มันชาร์จเองได้หรือไง

                “มันเซ ขอบคุณพี่จุนฮเวเร็ว ถึงแล้วนะ”จินฮวานพูด หยิบกระเป๋าของมันเซมาสะพาย แล้วบุ้ยไปยังจุนฮเวที่นั่งหน้ามุ่ย

                “ไม่เอา”แต่มันเซส่ายหน้าแล้วยิ้มกวน “มันเซไม่ได้ขอให้พี่จุนฮเวมาส่งสักหน่อย”

                “ไอ้..”

                “พี่จุนฮเว อย่าดุน้องนะ”จินฮวานรีบปรามทันที “เอาเป็นว่าขอบคุณมากนะฮะที่มาส่งเรา ไปกันมันเซ ขึ้นไปเล่นบนห้องกันเถอะ”

                “ฮะ!!!!!

                แล้วจินฮวานกับมันเซก็ลงจากรถไป จุนฮเวเลยเข้าเกียร์ถอยหลังแล้วจอดรถก่อนจะลงตามมา จินฮวานเลยหันไปมองอย่างแปลกใจ

                “พี่จุนฮเวลงมาทำเหรอฮะ”

                “ใช่ๆ พี่จุนฮเวลงมาทำไม”มันเซพูดขณะจับมือจินฮวานแน่น

                “มานี่เลยไอ้ตัวเล็ก”จุนฮเวพูดแล้วโผเข้าไปอุ้มมันเซแยกจากจินฮวาน “พี่จะนอนที่นี่ด้วย”

                “ฮะ?!”จินฮวานขึ้นเสียงสูง ทั้งสงสัยและตกใจ “พะ พี่จะนอนที่นี่ทำไมฮะ”

                “พี่จะปล่อยให้นายนอนกับผู้ชายคนอื่นสองต่อสองได้ไง”จุนฮเวพูดเสียงเข้ม หันไปแกล้งทำหน้าถมึงทึงใส่มันเซ แต่เจ้าตัวเล็กไม่ได้กลัวเลยสักนิด กลับหัวเราะคิกคักแล้วเอามือมาหยิกแก้มเขาอีกต่างหาก “ย๊า ทำอะไรเนี่ย”

                “ฮ่าๆๆๆ พี่จุนฮเวตลก”

                “ตลกตรงไหนฟะ”จุนฮเวพึมพำ

                “ตลกตรงเหตุผลพี่นั่นแหละฮะ”จินฮวานรีบตอบ ยิ้มระอา แต่ก็อดขำไปด้วยไม่ได้ “ผู้ชายคนอื่นที่พี่ว่าน่ะแค่ 5 ขวบเองนะฮะ”

                “จะ 5 ขวบ หรือ 25 ขวบพี่ก็ไม่สนใจทั้งนั้นแหละตัวเล็ก”จุนฮเวพูดแล้วเหวี่ยงมันเซเล่น ซึ่งดูเหมือนมันเซจะชอบใจเป็นอย่างมาก “ไปเถอะซงมันเซ พี่ชายสุดหล่อคนนี้จะเล่นกับนายเองงงงงงงงงงงงง”

                “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

                แล้วทั้งคู่ก็เข้าไปข้างใน จินฮวานเลยได้แต่หัวเราะกับตัวเอง ดูเหมือนว่าวันนี้

                ต้องรับมือกับเด็กน้อยสองคนซะแล้วสิ




















     

     

     

     

     

     

     

     

     

                จินอูเผลอกำชายเสื้อของฮันบินแน่น เขาไม่ได้ตาฝาด คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนนั่น.. คนที่ยืนท่ามกลางผู้คนมากมาย คนที่แม้จะคิดถึงมากแค่ไหนแต่ก็ไม่อยากกลับไปหา ยืนอยู่ตรงนั้นจริงๆ

                “ฮันบิน”

                “หือ ไรเหรอ ไหนบอกจะรีบกลับห้องไง”

                “มิโน..”จินอูพึมพำเบาๆ “เขาอยู่ตรงนั้น”

                “เวรแล้วไง”ฮันบินพึมพำกลับบ้าง แกล้งทำเป็นไม่สนใจแต่ก็แอบเหลือบมอง โชคดีที่ตอนนี้สัญญาณไฟข้ามถนนเป็นสีแดง และถึงมินโฮจะบ้า ก็คงไม่บ้าวิ่งข้ามมาทั้งที่รถวิ่งเต็มถนนแบบนี้ “เอาไงดีอ่ะ”

                “เราต้องกลับเดี๋ยวนี้”

                “อือ แน่นอน”

                “ทะ โทรหาซึงยูนให้ฉันที”จินอูพูด หันหน้าไปทางอื่น ทำเป็นเหมือนว่าเขาไม่เห็นมินโฮ ทว่าการแสดงของคิมจินอูห่วยแตก เพราะเพียงแค่มองมินโฮก็รู้ได้ทันทีว่าหลอกกัน จินอูเลยรีบโบกแท็กซี่ที่ขับผ่านมาแล้วเข้าไปนั่งพร้อมกับฮันบิน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มินโฮวิ่งตามมา แต่ก็ไม่ทัน เมื่อแท็กซี่ขับออกไปแล้ว

                แต่ไม่เป็นไร ..ตอนนี้เขารู้แล้วว่าจินอูอยู่ที่ไหน

                คิดได้แบบนั้นมินโฮก็รีบวิ่งกลับไปที่รถของตัวเอง แล้วตรงไปยังคอนโดของฮันบินที่เคยถามที่อยู่เอาไว้เมื่อหลายวันก่อนทันที ยังไงวันนี้เขาก็ต้องพาจินอูกลับไปให้ได้ ยังไงก็ต้องทำ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ซึงยูนรีบร้อนลงมาจากห้องหลังจากได้รับสายจินอู เมื่อมาถึงล็อบบี้ก็เห็นคนตัวเล็กที่หน้าซีดมาแต่ไกล

                “จินอู”

                “..ซะ ซึงยูนอ่า”จินอูเสียงสั่น เมื่อกี้ยังตกใจไม่หาย เขารู้ว่ามินโฮไม่ทำอะไรเขา แต่ก็แค่กลัว กลัวว่าจะใจอ่อนกลับไปง่ายๆ

                “คืนนี้ก็นอนที่นี่เถอะ”ซึงยูนพูดแล้วเขย่าไหล่จินอูเบาๆ

                “อืม ขอบใจนะ”จินอูตอบรับก่อนจะเดินไปพร้อมกับซึงยูน แต่เมื่อมาถึงห้อง ซึงยูนก็หยุดเดินดื้อๆ “มีอะไรหรือเปล่า”

                “จินอู ..ถ้าเข้าไป อย่าตกใจนะ”

                “ทำไม ระ หรือว่ามิโน..”

                “ไม่ใช่ มันไม่มีทางอยู่ที่นี่ได้แน่นอน”ซึงยูนพูดเสียงเข้ม แต่ก็ยังมีสีหน้ากังวล “ไม่ใช่มินโฮ แต่เป็น ..คนอื่น”

                “???”

                ซึงยูนจับมือจินอูเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะเปิดประตู ฮารุกิที่นั่งดูทีวีอยู่ยิ้มกว้างเหมือนทุกทีที่ซึงยูนกลับเข้ามา แต่เมื่อมองเห็นคนข้างกายซึงยูน รอยยิ้มของเขาก็จางหายไปช้าๆ

                “ซะ ซาโต้”จินอูเรียกชื่อคนตรงหน้า แล้วมองซึงยูนสลับไปมา “ทำไม..”

                “เดี๋ยวซาโต้ก็กลับแล้ว อีกสองสามวันนี้แหละ”ซึงยูนรีบพูด “แต่นายไม่ต้องห่วงนะจินอู นายอยู่ที่นี่ได้ นอนกับฉัน”

                “...”ฮารุกิมองซึงยูนด้วยความเสียใจ

                กับจินอูยินดีต้อนรับซะมากมาย แต่กับคนไร้ค่าอย่างเขา ซึงยูนไม่แม้แต่จะปรายตามองด้วยซ้ำ

                “เข้าไปนอนพักเถอะ ฉันว่านายดูเหนื่อยๆ”ซึงยูนพูด ดันหลังจินอูให้เข้าไปในห้อง ก่อนจะหันมามองฮารุกิด้วยสายตานิ่งๆ “อย่าก่อเรื่อง”

                พูดจบก็เดินตามเข้าไปในห้องทันที ฮารุกิได้แต่มองคนทั้งคู่ สุดท้ายก็ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย

                ทั้งเสียใจ น้อยใจ และโกรธ..

                จินอูมาทำไม..

                กำลังจะมาเอาซึงยูนไปอีกคนเหรอ..

                ไม่มีทางเป็นแบบนั้นหรอกนะ

               



     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                มินโฮเผชิญหน้ากับฮันบินอยู่ที่ลานจอดรถของคอนโดฮันบิน เพราะฮันบินไม่ยอมให้เขาเข้าไป แถมยังโกหกต่อหน้าด้านๆว่าไม่รู้ว่าจินอูอยู่ที่ไหนอีก

                “ฮันบิน กูขอเถอะ”มินโฮพยายามพูดอย่างใจเย็น ข่มอารมณ์เอาไว้ทั้งที่อยากจะพุ่งเข้าไปแทบบ้า “จินอูอยู่ไหน มึงก็รู้ว่ากูหาจินอูมาตลอด”

                “กูไม่รู้”

                และสุดท้าย คำว่าไม่รู้ของฮันบินก็ส่งผลให้มินโฮตรงไปขยุ้มคอเสื้อของชายหนุ่มแน่น “มึงจะไม่รู้ได้ยังไง ในเมื่อมึงอยู่กับจินอู”

                “...”

                “จะให้กูเป็นบ้าเลยเหรอวะฮันบิน จินอูอยู่ไหน กูถามว่าจินอูอยู่ไหน”

                ฮันบินปัดมือมินโฮออก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ใช่ ตอนแรกจินอูอยู่กับกู กูขอโทษที่ต้องโกหกมึง แต่จินอูขอร้อง”

                “...”

                “แต่ตอนนี้กูไม่รู้จริงๆว่าจินอูไปไหน เราแยกกันบนรถ แล้วจินอูก็ขึ้นรถแท็กซี่อีกคันไปไม่บอกกูเลย ตอนนี้กูก็ติดต่อจินอูไม่ได้เหมือนกัน”

                “..ฮัน..”

                “จริงๆมินโฮ กูไม่ได้โกหก ..กูไม่รู้”ฮันบินพูดด้วยความสัตย์จริง ไม่มีการโกหกแม้แต่นิดเดียว

                ร่างสูงของมินโฮค่อยๆทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ทั้งๆที่เจอแล้ว แต่จินอูก็หนีเขาไปอีก ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย..

                โทรศัพท์ที่เพิ่งชาร์จบนรถดังขึ้น มินโฮไม่ได้สนใจเพราะอาจจะเป็นเมมเบอร์สักคนที่โทรตาม หรือไม่ก็อาจจะเป็นจินยอง เขาเลยปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น

                ฮันบินมองมินโฮอย่างสงสาร เขารู้สึกว่ามันน่าจะพอแล้วกับการลงโทษมินโฮ แต่จะให้ช่วยยังไง ในเมื่อเขาเองก็ไม่รู้

                “มึง ..รับโทรศัพท์หน่อยไหม”

                “..ช่างเหอะ”มินโฮพึมพำอย่างคนหมดแรง

                “บางที อาจเป็นใครสักคนโทรมาบอกก็ได้ว่าจินอูอยู่ที่คอนโดพวกมึง”

                มินโฮแค่นหัวเราะ แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอยู่ดี คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันหลังจากเห็นเบอร์ไม่คุ้นโทรเข้ามา

                “สวัส..”

                (หาจินอูซังอยู่ใช่ไหม)

                “ฮะ ฮารุ..”

                (คอนโดพี่ซึงยูน รีบมาพากลับไปสิครับ)

                แล้วสายก็ถูกตัดไป มินโฮเลยรีบลุกขึ้นยืน แล้วเดินกลับไปที่รถ

                “มึงจะไปไหน”ฮันบินตะโกนถามเมื่อจู่ๆมินโฮก็ลุกออกไป

                “กูรู้แล้ว ว่าจินอูอยู่ไหน”

     

     









     

     

     

     

     

     

     

                ฮารุกิถอนหายใจและหลับตาลงช้าๆ ข้างในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดต่อจินอู เมื่อสติกลับเข้าร่างก็เพิ่งสำนึกได้ว่าสิ่งที่ทำไปเมื่อกี้มันผิด แต่เขาแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ในเมื่อบอกมินโฮไปแล้ว พอมาคิดดูอีกที ก็ถือซะว่าเป็นการช่วยมินโฮแล้วกัน

                “ทำอะไรน่ะซาโต้”

                ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงเย็นยะเยือกของเจ้าของห้องดังขึ้นด้านหลัง มือกำโทรศัพท์แน่นขณะเผชิญหน้ากับซึงยูน

                “ผม.. แค่ โทรหาเพื่อน”

                ไม่ว่ายังไง เขาก็จะต้องอยู่กับซึงยูน ..เมื่อมีซึงยูน ยังไงเขาก็จะต้องปลอดภัย มีไม่กี่คนที่รู้ว่าซึงยูนเป็นลูกของใคร พ่อของซึงยูนเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในญี่ปุ่น และฮารุกิคือหนึ่งในคนที่รู้ เพราะอย่างนั้น ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน เขาก็จะต้องอยู่กับซึงยูนแค่คนเดียว

                “เหรอ”ซึงยูนตอบรับสั้นๆ และไม่ได้สนใจอะไรอีก

                ฮารุกิเลยได้แต่ลอบถอนหายใจ กะว่าจะเข้าไปในห้องแล้วรีบหลับๆไปจะได้ไม่ต้องรับรู้อะไรอีก ทว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้ มินโฮคงอยู่ใกล้ที่นี่เกินไป นี่ยังไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำหลังจากที่โทรไปบอก

                “ครับ? มินโฮน่ะเหรอ ..มันมาทำอะไรที่นี่ ครับๆ เดี๋ยวผมจะรีบลงไป”

                ฮารุกิรีบเดินไปที่ประตู หวังว่าจะเข้าห้องก่อนซึงยูนจะคุยโทรศัพท์เสร็จ แต่ก็ไม่ทัน เมื่อซึงยูนปราดมายืนขวางพร้อมกับจ้องหน้าเขาด้วยสายตาน่ากลัว

                “พะ พี่ซึงยูน ผมง่วง อยากนอน”

                “เพื่อนที่โทรหาเมื่อกี้นะ ใช่ซงมินโฮหรือเปล่า”

                “ไม่ ไม่ใช่ครับ เป็นเพื่อนที่ญี่ปุ่น”

                ซึงยูนแค่นหัวเราะ บีบไหล่บางแน่น ขณะที่กำลังข่มอารมณ์กรุ่นโกรธเอาไว้ “ฉันบอกนายแล้วนะซาโต้ อย่าสร้างปัญหา”

                “ผม..”

                “ตอนแรกฉันก็กะให้นายอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดจะไล่นายไป แต่นายกลับทำมัน นายสร้างปัญหาอีกจนได้”

                “พะ พี่ซึงยูน ผมขอโทษ ผม ผมก็แค่อยากช่วย”

                “มีใครเขาขอร้องนายล่ะ!!!!!!”ซึงยูนตะคอกเสียงดัง แล้วกระชากร่างของฮารุกิจนลอยหวือตามเขา “ฉันมีที่ให้นายไปแล้วล่ะ”

                ฮารุกิพยายามดิ้นรน แต่ก็สู้แรงของซึงยูนไม่ได้ สุดท้ายก็ถูกลากให้มาที่ลานจอดรถ และที่นี่มินโฮอยู่พร้อมกับรปภ.ของคอนโดอีกหลายคน

                “ปล่อยสิโว้ยยยยย”มินโฮตะโกนลั่นแล้วสะบัดตัวจนหลุดออกจากวงล้อม เดินมาเผชิญหน้าซึงยูน “ไอ้ซึง..”

                “มารับคนของมึงคืนเหรอ เอาไปสิ”ซึงยูนพูด แล้วเหวี่ยงฮารุกิไปทางมินโฮ แล้วหันไปทางรปภ. “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”

                “ครับคุณซึงยูน”

                “ฮะ ฮารุ..”

                “พี่มิโน.. ฮึก”ฮารุกิปล่อยก้อนสะอื้นออกมา มองซึงยูนอย่างอ้อนวอน “พี่ซึงยูน ผมขอโทษ อย่าทำกับผมแบบนี้”

                “ไปซะ.. ไปกันทั้งคู่นั่นแหละ”

    มินโฮดันฮารุกิไปข้างหลัง จ้องซึงยูนกลับ “กูมาพาจินอูกลับต่างหาก”

    “หึ! น่าสมเพชนายนะซาโต้ ไร้ค่าจนไม่มีใครต้องการ”

    “มึงอย่ามานอกเรื่องคังซึงยูน”มินโฮพูด ไม่ยอมแพ้ “กูรู้ว่าจินอูอยู่ที่นี่ ให้กูได้เจอจินอูเถอะ”

    “แต่จินอูเขาไม่ได้อยากเจอมึง”

    “กู..”

    “กลับไปแล้วไม่ต้องเสนอหน้ามาที่นี่อีก ..ขอร้องเถอะ มึงอย่าทำให้กูต้องใจร้ายมากไปกว่านี้ อย่าให้แม้แต่คำว่าคนรู้จัก กูก็ให้มึงไม่ได้เลยมินโฮ”

    “ซึงยูน กูรู้นะว่ามึงโกรธกับสิ่งที่กูทำลงไป กูสำนึกผิด และอยากจะขอโทษ”

    “แต่จินอูคงไม่อยากฟัง”

    “มึงเป็นใคร ทำไมถึงคิดแทนจินอู”

    ซึงยูนจ้องหน้ามินโฮ ขยุ้มคือเสื้อของอีกฝ่ายแน่น “กูก็เป็นคนที่ได้แต่ยืนดูจินอูถูกมึงทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ข้างหลังไง กูทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง วันที่กูให้โอกาสมึง นั่นคือโอกาสสุดท้ายจริงๆ มันจะไม่มีครั้งต่อไปอีก”

    “อย่ามาทำตัวเผด็จการหน่อยเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องของกูกับจินอู มึงไม่เกี่ยว”

    พลั่ก

    “กูก้าวเข้าไปเกี่ยวตั้งแต่วันที่มึงบอกว่ามึงรำคาญจินอูแล้วซงมินโฮ”ซึงยูนตะโกนดังลั่นหลังเหวี่ยงหมัดใส่มินโฮจนล้มลงไป

    ฮารุกิรีบดึงมินโฮให้ลุกขึ้น ร้องไห้อยู่คนเดียว ..จะไม่โทษใครทั้งนั้น ทั้งหมดคือเขาเอง คนผิดคือเขา คนเห็นแก่ตัวอย่างเขาเท่านั้นที่ผิดเอง

    “ไอ้ซึงยูน กู..”

    “หยุดนะ!!!!!!!!!!!

    มินโฮหยุดมือที่กำลังจะต่อยซึงยูนกลับ มองไปด้านหลังด้วยดวงตาที่สั่นระริก “จินอู”

    “จินอู!! นายออกมาทำไม”

    จินอูก้าวมายืนอยู่ตรงหน้ามินโฮ แล้วต่อยคนตัวสูงจนเซไปข้างหลัง “เลิกบ้าเป็นหมาแบบนี้สักทีเถอะ”

    “ฉันจะเลิกก็ต่อเมื่อนายยอมคุยกับฉัน”

    “งั้นก็ได้”

    “จินอู!!!!!

    “ซึงยูน ..ขอบใจมากนะ แต่ฉันจะจัดการต่อเอง”จินอูพูดแล้วเดินไปหาฮารุกิ ปรายตามองอีกคนด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิม “นายทำดีมากนะซาโต้ ..จากเดิมฉันแค่เฉยๆ แต่นายเก่งมาก”

    “จะ จินอูซัง”

    “ตอนนี้ฉันโคตรเกลียดนายเลยว่ะ”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    จินอูกับมินโฮมาที่สวนสาธารณะข้างๆกับคอนโด ในขณะที่ฮารุกิกับซึงยูนยังอยู่ที่เดิม ..จินอูนั่งลงบนม้านั่ง ส่วนมินโฮได้แต่ยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น

    จินอูเปลี่ยนไป.. ทุกอย่าง

    “มีอะไรก็รีบพูด”

    “กลับมาเถอะนะจินอู”

    คำพูดตรงๆของมินโฮทำให้จิตใจที่อุตส่าห์เข้มแข็งมาตั้งนานของจินอูสั่นไหว แต่ก็พยายามซ่อนมันเอาไว้ด้วยการแสดงสีหน้านิ่งๆออกไปแทน

    “ถ้ามาแค่พูดเรื่องนี้ คำตอบของฉันคือไม่”

    “โกรธมากเหรอ”

    “...”

    “ฉันขอโทษ”

    “นาย..”จินอูเรียกอย่างตกใจเมื่อจู่ๆร่างสูงก็ลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”

    “ไม่ จนกว่านายจะบอกกับฉันว่านายจะกลับมา ..มาเป็นเมเนเจอร์ให้พวกเราเหมือนเดิม”

    “...”

    “กลับมาอยู่ข้างฉันเหมือนเดิมไม่ได้เหรอจินอู ฉันจะไม่ทำเรื่องเดิมๆให้นายต้องเสียใจอีกแล้ว ฉันรู้แล้วว่า ฉันคิดถึงนายมากแค่ไหน ฉันรู้สึกว่าตัวเองโง่มากแค่ไหนที่ปล่อยนายไปแบบนั้น ฉันรู้สึกว่าเลวมากแค่ไหนที่ทำร้ายนายซ้ำแล้วซ้ำเล่า และฉันรู้สึกว่ารักนายมากแค่ไหน.. ตอนที่นายไม่อยู่”

    จินอูเม้มปากแน่น เผลอหันไปสบตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกของมินโฮ ร่างบางลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มบางๆ

    “ฉันดีใจนะที่ได้ยินแบบนั้น”

    “นายจะกลับมา..”มินโฮพูดอย่างตื่นเต้น

    “แต่มิโน ..มินโฮ”

    “...”

    “ฉันจะไม่กลับไปที่เดิมอีกแล้วล่ะ อย่าบังคับฉันเลยนะ”

    แต่ความตื่นเต้นทั้งหมดก็พังทลายทันทีเมื่อได้ยินประโยคถัดไป เขารีบลุกขึ้นยืนคว้าแขนจินอูเอาไว้ เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เป็นแบบนี้ ในเมื่อไม้อ่อนใช้ไม่ได้ ก็ต้องใช้ไม้แข็งแล้วล่ะ

    “บอสอยากให้นายกลับไปนะจินอู”

    “เขาไม่อยากให้ฉันกลับไปหรอก เราคุยกันรู้เรื่องแล้ว นายอย่าเอาบอสมาอ้างเลย”จินอูพูด ดึงแขนตัวเองออก แต่..

    “บอส ตอนนี้อย่าเพิ่งมาสะลึมสะลือ ลุกขึ้นตั้งสติคุยกับผมก่อน”

    “มิโน!!!!!!!!!”จินอูเผลอเรียกมินโฮอย่างสนิทสนมอีกครั้งด้วยความตกใจ นี่มันตีสองแล้วไม่ใช่เหรอ

    “ผมเจอจินอู.. ใช่.. ก็โอเค คุยให้ผมหน่อย บอกให้จินอูกลับมา งั้นเหรอ.. งั้นบอสก็รู้ไว้ด้วยนะ ว่าถ้าไม่มีจินอู MAZE จะไม่ไปเวิร์ลทัวร์ต่อไม่ว่ายังไงก็ตาม และภายในหนึ่งเดือน พวกเราทั้งสี่คนจะยกเลิกสัญญา”

    “ซงมินโฮ!!!!!!!!!!!!”คราวนี้จินอูตะโกนดังกว่าเดิม

    “ผมไม่ได้ขู่ ..เชื่อผมเถอะ แค่ผมพูด ไอ้พวกนั้นไม่ขัดแน่..หรือจะลองดูไหมล่ะ..ใช่..แค่มีจินอู”มินโฮยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินเสียงลนลานจากประธานค่ายเขา รู้ซะบ้างว่าใครใหญ่ “อ่ะ บอสจะคุยกับนาย”

    จินอูกัดฟันแน่น ตอนนี้จากอารมณ์หม่นหมองเมื่อกี้เปลี่ยนไปเป็นอยากจะฆ่าคนแทน เพราะรู้อยู่แล้วใช่ไหม ว่าเขาปฏิเสธบอสไม่ได้ แล้วยิ่งเอาวงไปขู่แบบนั้น เพราะมินโฮรู้ ว่าเขาจะต้องรู้สึกผิดแน่ ถ้าหาก MAZE ต้องยุบวง ให้ตายเถอะ..

    เขาไม่น่าใจอ่อนลงมาเจอมินโฮเลย



















     

    ตอนนี้เหมือนจะดราม่าเน๊อะ แต่ไหงกลับกลายเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ลีดวงมั่นหน้าไม่สามารถทำแบบนี้ได้นะจ๊ะ เป็นไงล่ะ 
    สำหรับอะไรๆที่ค้างๆทั้งหลาย จะจัดการเคลียร์ให้หลัวจากวันที่ 10 น้าาาาา ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยจริงๆ

    แต่ฟิคยังอัพได้อยู่เรื่อยๆ เพราะพิมพ์ไว้บ้างแล้ว
    มาลุ้นกันต่อตอนหน้า ว่าสรุป จินอูจะกลับไปหรือไม่ แต่แหม มาถึงขั้นนี้แล้ว.. ก็น่าจะรู้คำตอบกันเน๊อะ

    แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุป ยังมีอะไรๆอีกเยอะ มันไม่จบง่ายๆแค่นี้หรอก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×