ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER iKON GOT7 : : SONGKIM] MAZE♂ FIRST STORY

    ลำดับตอนที่ #17 : MAZE : CHAPTERS 15

    • อัปเดตล่าสุด 16 มี.ค. 58


    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r




    CHAPTERS 15

     

                วันนี้เป็นวันที่โอซาก้าคึกคักมากเป็นพิเศษ เนื่องจากการปรากฏตัวของพวกเขาทั้ง 4 คน เหล่า MAZE ที่สร้างกระแสสุดฮอทให้ที่นี่ร้อนระอุมากขึ้นไปอีก พวกเขาเดินทางมาถึงโอซาก้าในตอนเช้า และมีงานแถลงข่าวตอนบ่าย หลังจากนั้นก็ฝึกซ้อมเหมือนอย่างที่เคยทำ จนตอนนี้ก็แยกย้ายกันกลับมาพัก

                โดยคราวนี้ไม่ได้พักที่โรงแรมอีกต่อไป แต่เป็นบ้านหลังขนาดกลางที่มีอยู่หลายหลัง โดยแบ่งให้เมมเบอร์กับเมเนเจอร์ทั้งสองคนนอนหลังเดียวกัน ส่วนทีมงานก็กระจายกันไปอยู่หลังอื่น แทฮยอนยังไม่ได้มา แต่จะมาในวันมะรืน เพราะติดทัวร์ใหญ่ของบริษัท ซึงฮุนเองก็กลับโซลไปแล้ว แต่เห็นว่าจะบินไปดูคอนเสิร์ตที่ไต้หวันด้วย

                ขณะที่ทุกคนรวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น จุนฮเวกับชานอูกำลังเล่นโทรศัพท์ แจบอมกับจินยองนั่งคุยกัน มินโฮนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่เงียบๆ ส่วนจินอูยืนพร้อมกับกวาดตามองทุกคน จนจุนฮเวที่หันไปมองพอดีต้องเอียงคออย่างสงสัย

                “เป็นไรจินอู”

                “ฮะ?”

                “ผมเห็นพี่ยืนมองซ้ายมองขวาอยู่นานละนะ เป็นอะไร”

                จินอูเม้มปากแน่น รู้สึกเขินๆนิดหน่อย “หิวอ่ะ”

                “เจริญละ แล้วตอนเขากินกันไม่ยอมกิน”

                “ฉันก็มัวแต่บลีฟคิวงานให้พวกแกอยู่ไง”จินอูโวยวาย เดินไปนั่งข้างจุนฮเวแล้วกระพิรยตาปริบๆ “จุนฮเวย่า ไปซื้ออะไรกินกันเถอะนะ”

                “เฮ่ยๆๆๆ มาทำหน้าทำตาแบบนี้ใส่หมายความว่าไงเนี่ย”

                เมื่อเสียงโวยวายของจุนฮเวดัง ทุกคนก็เงยหน้ามองกันอย่างพร้อมเพรียง ในขณะที่จุนฮเวขนลุกซู่ ไม่รู้ทำไม มันสยิวแปลกๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่เขินจนแทบมุดลงดินแล้วนะ

                “ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยดิวะ นะๆๆๆๆ หิวอ่ะ *o*

                “ไม่เอา ขี้เกียจเดิน”

                แปลกใจตัวเองชิบหาย ทำไมถึงปฏิเสธจินอูได้ลงคอ.. คงไม่ใช่เพราะหน้าจอแชทที่ค้างอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์นี่หรอกนะ.. ไม่สิ ไม่ใช่หรอก แค่ขี้เกียจเดิน

                กูจุนฮเวแค่ขี้เกียจเดินครับ!!

                “จุนฮเวอ่า *o* นะๆๆๆ”

                “นี่จินอู ถ้าไม่ใช่พี่ผมกระโดดเตะสลบไปแล้วนะ อย่ามาเซ้าซี้ ผมจะเล่นโทรศัพท์อ่า”

                “แม่ง! จำไว้เลยนะ”จินอูย่นจมูกอย่างขัดใจ เบนสายตาไปทางเหยื่อรายต่อไป “ชานอูย๊า”

                “ยะ อย่าเข้ามานะเว้ยพี่”

                “*o*

                “พี่อย่าคิดว่าพี่จุนฮเวไม่กล้าเตะพี่ แล้วผมจะกล้านะเว้ย”

                ทุกคนต่างก็มองชานอู ส่งสายตาไปถามพร้อมกัน ชานอูพูดผิดหรือเปล่า ฟังแล้วมันแปลกๆนะ

                “อะ อะไรกันล่ะ ผมก็พูดไปตามความจริงอ่ะ พี่จุนฮเวไม่กล้าเตะพี่จินอู ผมก็ไม่กล้าเหมือนกันนั่นแหละ แล้วผมก็ไม่ไปไหนทั้งนั้นด้วย เพราะงั้นไม่ต้องมาชวนให้เสียเวลาครับ ไปนอนดีกว่า แบร่!

                แล้วมักเน่ก็เดินหนีเข้าไปในห้องแทบจะทันที คราวนี้จินอูเลยหันไปมองแจบอม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

                “ผมไปเป็นเพื่อนไหมครับ”

                และเป็นจินยองที่เสนอตัว ถ้าเป็นแจบอม จินอูคงดีใจกว่านี้ แต่ดันเป็นจินยองที่ไม่ค่อยสบายซะงั้น เฮ้อ..

                ไอ้พวกน้ำใจเป็นเลิศ ฉันจะจำไว้ทุกคนเลย!!!

                “ไม่เป้นไรหรอกจินยอง พักผ่อนเถอะ ..ไปคนเดียวก็ได้วะ มาร์เก็ตใกล้แค่นี้”

                “พี่จินอู”แจบอมร้องเรียกผู้จัดการที่กำลังจะเดินออกไป “ทำไมไม่ชวนเฮียล่ะ”

                จินอูหันไปมองตามแจบอม มินโฮเงยหน้ามาสบตาเขาโดยที่ไม่พูดอะไร “มะ ไม่เป็นไรหรอกพักผ่อนกันให้เต็มที่เหอะ ฉันไปละ”

                ตั้งแต่ระบุความสัมพันธ์ชัดเจน การเข้าใกล้และอยู่ตามลำพังกับมินโฮก็กลายเป็นเรื่องน่าอึดอัดขึ้นมาดื้อๆ

                เข้มแข็งไว้นะคิมจินอู สักวันจะกลับไปเป็นเพื่อนกับมินโฮได้อย่างสนิทใจ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ขอกลับขึ้นไปแก้ไขคำพูดที่เพิ่งพูดไปได้ไหม มาร์เก็ตใกล้แค่นี้ ใช่! มันใกล้มากสำหรับคนอื่น

                แต่นี่เขาเดินวนไปวนมาอยู่เป็นชั่วโมงแล้วนะ ไอ้มาร์เก็ตใกล้แค่นี้มันอยู่ตรงไหนวะ???

                จินอูมองซ้ายมองขวา ถนนโอซาก้ายามค่ำคืนก็เหมือนๆกันไปซะหมด แถมไม่มีคนออกมาเดินให้ถามเลยสักคน ให้ตายเถอะ นึกว่าจะเลิกเป็นแล้วนะ ไอ้นิสัยขี้หลงขี้ลืมเนี่ย ไหงมากำเริบเอาตอนนี้ได้ว๊า หิวก็หิว หนาวก็หนาว ตายๆๆๆ

                “อืม ทางซ้ายละกัน ทางมันคุ้นๆ”จินอูบ่นพึมพำกับตัวเอง หลังจากยืนชี้ซ้ายขวาอยู่เกือบจะห้านาที ก็ตัดสินใจหันไปทางซ้าย แต่ขณะที่กำลังจะก้าวเดินไป ตัวของเขาก็ถูกรั้งเอาไว้ก่อน ตอนแรกจินอูจะหันไปด่าแล้ว แต่เมื่อเห็นสายตาที่คุ้นเคย ริมฝีปากก็ปิดนิ่งสนิท

                “ไม่ใช่ทางนั้น แต่เป็นทางนี้ต่างหาก”เสียงทุ้มๆของลีดเดอร์แห่งวงเขาวงกตพูด ออกแรงดึงคอเสื้อจินอูให้เดินไปทางด้านหลัง แทนที่จะเป็นแยกซ้ายหรือขวา

                จินอูปล่อยตัวไปตามแรงดึงของมินโฮ แต่เมื่อมาถึงบริเวณถนนที่ต้องข้าม มือที่จับคอเสื้อก็ค่อยๆเลื่อนลงมาที่มือเล็กแล้วจับเบาๆ

                ความอบอุ่นที่ปลายนิ้ว ทำให้ร่างกายที่หนาวยะเยือก รู้สึกดีขึ้นได้อย่างเหลือเชื่อ จินอูเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น อดยอมรับไม่ได้ว่าตอนนี้รู้สึกดีมากแค่ไหนที่มีคนๆนี้อยู่ข้างกาย

                เขามั่นใจว่าเขาจะปลอดภัยแน่ถ้ามีมินโฮ

                “จะกินอะไรก็รีบไปซื้อเถอะ ฉันนั่งรอข้างนอก”

                “อะ อือ”

                จินอูพยักหน้ารับ เมื่อมาถึงที่หน้ามาร์เก็ต ร่างบางเดินเข้าไปเพื่อหยิบราเม็งมาต้มกินสักถ้วย ระหว่างที่กำลังเลือกสายตาก็แอบมองไปยังคนที่นั่งนิ่งๆอยู่ข้างนอกไปด้วย

                มินโฮดูนิ่งมากขึ้น เหมือนตอนที่เจอกันแรกๆ หรือนี่คือการเป็นเพื่อนที่มินโฮมอบให้

                มันต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ขนาดนั้นเลยเหรอ..

                ใช้เวลาไม่นาน จินอูก็เดินออกมาพร้อมกับถ้วยราเม็ง และโคล่าสองกระป๋อง อีกกระป๋องคือของเขา และอีกกระป๋อง..

                “อ่ะ..”

                “หืม ขอบใจ”มินโฮที่นั่งหลับตาภายใต้ฮู้ทที่ปกคลุมใบหน้าเกือบจะทั้งหมดลืมตาขึ้นเมื่อสัมผัสกับความเย็นที่ข้างแก้ม ก่อนจะรับกระป๋องโค้กมา “ไม่ปวดท้องหรือไง”

                “ไม่หรอก”จินอูส่ายหน้า  ก้มหน้ากินราเม็งไปเงียบๆ

                โดยมีสายตาของมินโฮที่คอยลอบมองอยู่ตลอดเวลา ..เขาเดินตามจินอูออกมาตั้งแต่แรกแล้ว ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะแค่ตามอยู่เงียบๆ แต่เห็นคนตัวเล็กที่สับสนกับเส้นทางอยู่นาน สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเลยต้องปรากฏตัว

                การเป็นเพื่อนสำหรับเขามันไม่ใช่แบบนี้หรอกนะจินอู..

                แทฮยอน ซึงฮุน ซึงยุน เขาไม่เคยต้องมาดูแลอะไรเลยสักอย่าง และไม่เคยจะเป็นห่วงมากขนาดนี้ด้วย

                แล้วดูสิ บอกให้เป็นเพื่อน แต่ก็มาทำตัวให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย

                ความสัมพันธ์แบบเดิมมันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ.. ทำไมจินอูถึงไม่มีความสุข

                หรือว่าเขาทำอะไรข้ามขั้นตอนไป ทำผิดอะไรไปตรงไหน

                “จินอู”

                “หือ”

                “...นายว่าฉันจะทำกับนายเหมือนที่ทำกับไอ้สามคนนั้นได้ไหม”

                “...”

                “..ยากเน๊อะ”

                “...”

                “จะกอดนายเหมือนเดิมก็ไม่ได้ จะจับมือนาย จะอยู่ใกล้นายฉันก็ต้องห้ามใจ”

                “...”

                “มันยากจริงๆนะจินอู”

                “...”

                “ฉันอยากกอดนาย อยากจูบนาย ..ฉันควรทำยังไงเหรอ”

                จินอูเม้มริมฝีปากแน่น เงยหน้ามองมินโฮด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยน้ำใสๆที่เอ่อคลออยู่ “นายไม่รู้จริงหรือแกล้งไม่รู้ล่ะมิโน”

                “...”

                “ถ้าคำว่ารัก นายให้ฉันไม่ได้ ก็อย่าทำแบบนั้นกับฉัน ..ถ้านายบอกว่าฉันเป็นเพื่อนนาย หลังจากนี้เราก็จะเป็นเพื่อนกันจริงๆ แค่เราต้องใช้เวลา”

                “...”

                “ฉันเองก็เจ็บที่เราต้องมาลงเอยกันแบบนี้ แต่ตราบใดที่นายยังบอกว่าฉันเป็นเพื่อน..”

                “...”

                “ฉันเองก็คงทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน แม้ว่าฉันจะรักนายมากแค่ไหนก็ตาม”














     

     

                “ตรงนี้ห้ามเข้านะครับ แฟนคลับห้ามเข้า ไปรอด้านนอกนะครับ อีกไม่นาน MAZE จะเริ่มแสดงแล้ว”

                “ก็ผมไม่ได้เป็นแฟนคลับนี่ครับ ให้ผมเข้าไปเถอะนะ ผมจะเข้าไปหาคนรู้จักในนั้น”

                “ไม่ได้ครับ ที่นี่เข้าได้แต่ทีมงาน”

                “โธ่ ให้ผมเข้าไปเถอะ”

                “ไม่ได้จริงๆครับ”

                จินอูที่เดินออกมาจากห้องแต่งตัวได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย จึงเดินไปตามเสียง ก็เห็นว่าสต๊าฟพยายามจะกันใครบางคนให้ออกไป

                “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

                “คือ คุณผู้ชายคนนี้พยายามจะเข้าไปข้างในน่ะครับ”สต๊าฟตอบกลับมาเป็นภาษาเกาหลี เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นรู้เรื่อง แต่..

                “ก็บอกแล้วไงว่าผมจะเข้าไปหาคนรู้จัก”ผู้บุกรุกกลับตอบกลับมาเป็นภาษาเกาหลีอย่างคล่องแคล่ว พร้อมกับหันมายิ้มให้ผู้จัดการหนุ่มที่เหวอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ใช่ไหม จินอูซัง”

                “ซะ ซาโต้”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ในห้องแต่งตัวแบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งมีจุนฮเว แจบอม จินยอง ชานอูและจินอู ส่วนอีกฝั่งมีมินโฮกับผู้ชายญี่ปุ่นที่คนอื่นไม่รู้จัก ทั้งสองคนกำลังนั่งคุยกันอย่างสนิทสนม

                จินอูลอบถอนหายใจพร้อมกับเบือนหน้าไปทางอื่น

                “ไอ้หน้าหว๊านหวานนั่นใครอ่ะพี่ ผมว่าพี่กับพี่จินฮวานหน้าหวานแล้วนะ แต่หมอนั่นโคตรจะหวานอ่ะ”ชานอูเอ่ยถามอย่างสงสัย มองจินอูสลับกันผู้มาใหม่ “เฮ้ย แม่งเจอผู้ชายที่สวยกว่าพี่จินอูแล้วอ่ะ”

                “หุบปากได้ละชานอู”แจบอมที่นั่งเงียบๆปรามมักเน่ที่ดูจะร่าเริงเกินเหตุ หันไปมองผู้จัดการที่สีหน้าไม่ค่อยดี “พี่เป็นอะไรหรือเปล่า”

                “หืม เปล่านี่”จินอูส่ายหน้าเป็นคำตอบ ลุกขึ้นยืนปรบมือ “ได้เวลาแล้ว รีบไปเตรียมตัวหลังเวทีกันได้ละ เร็วๆ”

                เมมเบอร์ทั้งสามคนต่างก็ลุกขึ้นยืน ก่อนจะมองไปยังงลีดเดอร์ที่ทำท่าเหมือนว่าไม่อยากจะลุกไปไหนเลย แต่สุดท้ายก็ต้องลุกมารวมกลุ่ม แล้วเอามือวางไว้ด้วยกันก่อนจะตะโกนให้กำลังใจตัวเอง แล้วพากันแยกย้ายออกไป

                มินโฮเหลือบมองจินอูก่อนจะกวักมือเรียกอีกคนให้มาอยู่ข้างๆ

                “ฝากฮารุด้วยนะจินอู จินยอง”

                “ฝากเฝิกอะไรกันพี่มิโน ผมกับจินอูก็สนิทกันออกนะ”พูดจบก็เดินมากอดไหล่จินอู “จริงไหมจินอูซัง”

                “อะ อืม”จินอูแค่นยิ้มแล้วปล่อยให้มินโฮเดินออกไป “ซาโต้”

                “อะไร จนป่านนี้ยังเรียกซาโต้อยู่อีก เรียกผมฮารุได้แล้วน่า”

                “..ไม่ดีกว่า”จินอูปฏิเสธเสียงแผ่ว หันไปทางจินยอง “ฝากพาซาโต้ไปนั่งตรงหน้าเวทีด้วยนะจินยอง เดี๋ยวพี่ตามออกไป ขอไปดูความเรียบร้อยก่อน”

                “ครับ”จินยองรับคำก่อนจะพากันเดินออกไป

                จินอูถอนหายใจเฮือกใหญ่ เดินไปล็อคประตูแล้วก็กลับมานั่งที่เก้าอี้ ไหล่บางเริ่มสั่นเทิ้ม ก่อนที่มือเล็กจะยกขึ้นมาปิดหน้าตัวเองแล้วร้องไห้เงียบๆเพียงลำพัง

                ซาโต้ ฮารุกิ คือผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น..

                ผู้ชายที่มินโฮเคยคบด้วยตอนเรียนมหาลัย แต่เพราะฮารุกิเป็นคนญี่ปุ่น เป็นแค่นักศึกษาที่มาแลกเปลี่ยน พอมาเรียนปีหนึ่งจบ เขาก็กลับญี่ปุ่น หลังจากนั้นก็ห่างกันไป

                ผู้ชายเพียงคนเดียวที่มินโฮพูดเต็มปากเต็มคำว่ารัก ..และรักมาก

                ผู้ชายที่ไม่ต้องทำอะไร ก็ชนะคิมจินอูได้แล้ว

                “ฮึก..”

                อย่าร้องสิจินอู..

                เราเป็นเพื่อนเขานะ เขาจะรักใครชอบใครก็ควรจะดีใจด้วยสิ..

              ...

              มินโฮจะได้มีความสุขจริงๆสักที

                จริงไหม..












     

    เอาแล้วไง เรื่องเก่ายังไม่ทันหาย เรื่องใหม่มาอีกแล้ว

    ซาโต้ ฮารุกิ ถ้าใครนึกหน้าไม่ออก ก็นึกเอาแล้วกันว่าเป็นผู้ชายที่หน้าสวยกว่าคิมจินอู

     

    นั่นหมายความว่าสวยโคตรๆๆๆๆๆๆ แล้วจะมาทำไม อะไรยังไง ต้องอ่านนนนต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×