ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภารกิจลับ ถอดรหัสหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 50


         "เฮ้ย ! ตอนนี้ฉันอยู่หน้าโรงแรมเป้าหมายแล้ว แกรีบบอกมาเลยว่าจะเอายังไงต่อ ที่บริษัทมีงานเข้านะเว้ย" วินด์หรือวายุ กระซิบกับโทรศัพท์เครื่องจิ๋วที่ถูกติดตั้งอยู่บนหูอย่างอารมณ์เสีย

         "เออๆ แกเข้าไปเลย เป้าหมายอยู่ชั้น V.I.P ห้อง 3009 พวกมันกำลังจะเริ่มเจรจาแล้ว แกเตรียมกำลังไว้แถวๆ หน้าลิฟต์ก่อน อย่าให้มีพิรุธ
    ตอนนี้ฉํนอยู่ห้อง 2909 อีก 10 นาที เจอกันที่บันไดหนีไฟ"

        แวซายด์ ตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนวางสายไป ทำเอาคนที่อารมณ์เสียอยู่แล้วก็พาลหงุดหงิดเข้าไปอีก

         "หนอย... ไอ้แวซายด์ 10 นาทีเนี่ยนะ พูดมาไม่ได้นึกถึงคนอื่นเล้ยย" วินด์สบถ ก่อนจะส่งสัญญาณให้ตำรวจ FBI นำกำลังไปประจำยังเป้า
    หมาย ซึ่งทุกคนล้วนมาในรูปแบบของคนนอกเครื่องแบบ เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ ที่พวกเขาเฝ้าติดตามมาเป็นเดือนๆ จนในที่สุด พวกมันก็มีการนัดเจรจาครั้งใหญ่ เพื่อซื้อขายยาบ้า นำมากระจายในอิตาลี คุณคิดดูสิ ว่าถ้ายาบ้าถูกขายทอดเข้ามาในประเทศถึง 10 ล้านเม็ด พลเมืองและประเทศจะเป็นอย่างไร !!

         "เออ...ว่าไง?" วินด์รับโทรศัพท์ เมื่อเขาขึ้นมาถึงห้องเป้าหมายแล้ว

         "แกมาหาฉันตรงบันไดหนีไฟก่อน บอกพวก FBI ด้วยว่าให้กระจายกำลังรอก่อน" ทันทีที่เพื่อนตัวดีของเขาวางสายไป วินด์จึงหันไปสั่ง
    พวก FBI ก่อนเร่งฝีเท้าไปยังบันไดหนีไฟ

         "แกมาช้าไป 10.45 วินาที

         "นี่ ! ไอ้แวซายด์... ฉันขอทีเหอะ แกรีบบอกวิธีมาได้แล้ว" วินด์บ่น กับคนที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและเพื่อนซี้ของเขา ไอ้หมอนี่เป็นลูกครึ่ง
    ฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น ทำให้หน้าตามันจะออกแนวอินเตอร์ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ตาสีเทา จมูกโด่ง ปากอมชมพู แล้วด้วยเชื้อทางฝรั่งเศส ทำให้ไอ้หมอนี่มันสูงตั้ง 188 เซนฯ แถมพ่วงด้วยมันสมองอัจฉริยะ ดูโดยรวมแล้ว ไอ้เพื่อนตัวดีของเขาก็สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์ เสียแต่อย่างเดียว มันดันมาทำอาชีพ 'สายลับ' นี่สิ

         "อีก 1 ชั่วโมง พวกมันถึงจะเริ่มการเจรจา พวกเอเย่นต์ที่จะมารับซื้อ จะเดินทางมาถึงภายในครึ่งชั่วโมง ซึ่งเราจะต้องจัดการเจ้าพวกนั้น
    ก่อนที่จะปลอมตัวเข้าไป ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้พวกมันดิ้นไม่หลุดแน่ๆ แต่ข้อเสียคือ ความเสี่ยงในครั้งนี้มีถึง 60 % ฉะนั้นงานนี้เราห้ามพลาด เพราะมันหมายถึงชีวิตของพวกเรา"

         วินด์พยักหน้า ก่อนจะเริ่มลงมือสั่งงานตามแผน โดยแบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปจัดการกับเอเย่นต์ที่จะมาเจรจาและทำการปลอมตัวและ
    แทรกแซงเข้าไป แต่ถ้าเกิดงานพลาด พวกเขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น !!

         อีกด้านหนึ่งของอิตาลี เกิดการก่อคดีปล้นธนาคาร ซึ่งโจนกระทำอย่างอุกอาจ โดยมีตัวประกันถึง 200 คน สถานการณ์ตึงเครียดอย่างหนัก
    ตำรวจทำได้เพียงแค่กระจายกำลังล้อมรอบธนาคารเท่านั้น

         "ครับหัวหน้า ตอนนี้เราค่รอทางฝั่งนั้นติดต่อมาครับ ตัวประกันทั้ง 200 คน ยังปลอดภัยดีครับ"

         "อีก 10 นาที ผมจะส่งหน่วยพิเศษไป คุณเตรียมตัวรอได้เลย" เสียงปลายสายตอบกลับมา

         นายตำรวจหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ งานนี้ไม่หมูเลย ตัวประกันตั้ง 200 คน ถ้าเกิดพวกเขาผลีผลามล่ะก็ มีหวังเด้งไปอยู่ชายแดน
    แหงมๆ ขณะที่เขายังไม่ทันได้ถอนหายใจอีกรอบ ก็มีรถสปอร์ตเปิดประทุนสีแดง ขับเข้ามาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะปัดท้ายโค้งอย่างสวยงาม และจอดสนิทเรียบร้อย เมื่อประตูรถถูกเปิดออกโดยคนขับและเพื่อนร่วมทาง ทำเอาอิตาลีมุงอ้าปากค้าง !

         หญิงสาวชุดดำทะมัดทะแมง ผมสีอัลมอนด์ยาวสยายถึงกลางหลัง โครงหน้ารูปไข่ ตาสีเขียวสดใส คิ้วที่มีสีเดียวกับเส้นผมโก่งรับกับใบ
    หน้าอย่างลงตัว คางได้รูปสวย เดินลงมาจากที่ประจำคนขับอย่างมาดมั่น พร้อมกับเพื่อนสาว ที่อยู่ในแจ๊คเก๊ตกางเกงยีนส์ ผิวขาวตามเชื้อสายเกาหลี ผมสีดำยาวถูกมัดรวบไว้ ดวงตาสีดำคมกริบกราดมองไปทั่ว ทำเอาคนรอบข้างเสียวสันหลังวาบ สร้อยสีเงินบนลำคอระหงสะท้อนแสงแวววาว

         "เอ่อ... สวัสดีค่ะ พวกเราเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษค่ะ ขอความเป็นมาของสถานการณ์ตอนนี้ด้วยค่ะ" สาวผมสีอัลมอนด์เอ่ยขึ้น ทำให้นาย
    ตำรวจหนุ่มอึ้งในความสวยของอีกฝ่าย ซักพัก ก่อนจะรวบรวมสติรายงานสถานการณ์ที่ตึงเครียดกับผู้หญิงตรงหน้า

         "คะ..คือ.. ตอนนี้พวกโจรได้ปิดทางเข้าทุกทางครับ ข้างในมีตัวประกันหลายเชื้อชาติราวๆ 200 คน และพวกมันเรียกร้องรถตู้พร้อมกับ
    เงินอีก 10 ล้านครับ ถ้าภายใน 2 ชั่วโมงมันไม่ได้ของ มันจะฆ่าตัวประกันทีละคน"

         "ฮึๆ งั้นเหรอ... พวกมันนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ... เอาล่ะ ! ต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกฉันแล้ว พวกคุณแค่กระจายกำลังให้ดี แล้วก็เตรีบมถุงลม
    ตรงหน้าต่างชั้น 2 ทางขวามือสุดไว้ด้วย และก็เรียกรถพยาบาลมาเตรียมพร้อมไว้ กันคนออกไปให้หมด ทันทีที่โทรศัพท์มือถือของคุณดังขึ้น ให้เข้าชาร์จทันที แตถ้าภายใน 2 ชั่วโมง พวกฉันยังไม่ออกมา ให้ตามหน่วยพิเศษและก็รถเก็บศพมาได้เลย ไปล่ะนะค่ะ" เวนิชหรือเวนิสราและคิมโซจู สองเพื่อนซี้ คว้ากระเป๋าเป้ ประจำตัวคนละใบ ก่อนจะเดินไปทางหน้าต่างบานหนึ่งของชั้น 3 ที่เปิดไว้ ก่อนจะใช้เชือกที่ติดตะขอเหวี่ยงไปทางหน้าต่างอย่างแม่นยำราวกับจับวาง และเริ่มปีนเชือกอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งทำให้ตำรวจหลายนายที่ประจำอยู่เบื้องล่างไดรู้ซึ้งว่า พวกหน่วยพิเศษนี่ก็ปีศาจดีๆ นี่เอง เห็นก็รู้ว่าพวกเธอวางแผนและคาดการณสถานการณ์ล่วงหน้ามาอย่างดี เห็นอย่างนี้แล้วพวกเขาก็อยากรู้นักว่าพวกหน่วยพิเศษนั้นฝึกกันยังไงกันแน่ !

         ทางด้านของสองสายลับหนุ่มหล่อ หลังจากขั้นตอนที่ 1 ประสบผลสำเร็จ ได้ทำการปลอมตัวและแทรกแซงเรียบร้อย พวกเขาจึงเริ่ม
    ดำเนินการบุกจุดหมายทันที แน่นอนว่าวินด์กับแวซายด์ ก็ต้องเป็น 1 ในนั้นด้วยเช่นกัน

         "เอ่อ... คุณแวซายด์ครับ เราต้องใช้บัตรผ่านที่เป็นรหัสไอดีครับ ถึงจะเข้าไปได้ หนึ่งในนั้นพูดขึ้นเมื่อสำรวจบานประตูของห้อง V.I.P

         "ไอ้วินด์ ของที่ฉันให้แกเตรียมมาล่ะ" วินด์ยักไหล่ ก่อนจะล้วงกล่องที่บรรจุไอดีปลอมขึ้นมา และทำการแจกจ่ายให้ผู้ร่วมขบวนการทั้ง 10
    คน

         "ไม่ต้องห่วง บัตรพวกนี้ทำมาจากโลหะพิเศษ ส่วนรหัสนี่ก็เป็นของจริง เอามาจากของไอ้พวกนั้นนั่นล่ะ พอเจรจารับของมาเรียบร้อยแล้ว
    ฉันจะใช้ระเบิดควัน พวกคุณรีบจับกุมคนร้ายเลย แล้วเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยนะ"

         "งั้นทุกคนเริ่มได้ จำไว้ว่างานนี้หมายถึงชีวิตของพวกคุณ ถ้าพลาดก็หมายถึงชีวิตของพวกคุณ เอาล่ะ ! พร้อมแล้วใช่ไหม?"

         "ครับ"

         ส่วน 2 สาว เมื่อเล็ดลอดมายังภายในธนาคารแล้ว ทั้งสองไม่รอช้า ลงมือปลอมตัวกันทันที เพียงไม่นาน... จากสองสาวสวยเฉี่ยว กลับ
    กลายเป็นสองหนุ่มหน้าใสมาดเท่ ในสูทสีดำ ผมที่ยาวถึงกลางหลังกลับกลายเป็น ผมสไลด์ระต้นคอ และทั้งสองไม่รอช้า เริ่มปฏิบัติตามแผนทันที เริ่มจากการตัดวงจรไฟฟ้าซะก่อน เพื่อเป็นการสร้างความโกลาหลเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งได้ผลดีชะงัดนักแล เพราะเมื่อโซจูจัดการสับคัทเอาท์ลง เสียงเอะอะโวยวายจากทั่วทุกสารทิศก็ดังขึ้น ทั้ง 2 ยิ้มอย่างมีเลศนัย เมื่อได้ยินฝีเท้าคนเดินมาประมาณ 3 คน เมื่อโอกาสมา เวนิชไม่รอช้า เข้าจัดการ 3 ผู้เคราะห์ร้ายในพริบตา

         "เอาล่ะ เสร็จไปสาม ที่เหลือก็แค่รอ และเก็บกวาดอีกนิดหน่อย" โซจูพูดเพราะไม่นาน พวกมันต้องส่งคนมาที่นี่เรื่อยๆ แน่ แค่พวกเธอรอ
    อยู่ตรงนี้เก็บไปทีละคนละคน สบายสุดๆ ว่าแล้วสองสาวก็ช่วยกันจัดการลากร่างที่ไร้สติของสามผู้โชคร้ายให้พ้นทาง เพื่อเหยื่อ เอ๊ย ! คนร้ายคนต่อไป ผ่านไป 1 ชั่วโมง ทั้งสองจึงเริ่มแผนการที่สอง โดยแสร้งทำเป็นพนักงานปะปนไปกับกลุ่มตัวประกัน ก่อนจะสังเกตกำลังของฝ่ายตรงข้าม

         "ว่าไงเวนิช พวกมันเหลืออีกเท่าไหร่" เวนิชหันไปมองรอบๆ อีกครั้งก่อนตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

         "8 คน ถ้ารวมกับที่พวกเราจัดการไป 15 คน นับว่าเจ้าพวกนี้เป็นกองโจรได้เลย"

         "อืม... แต่จำนวนที่เหลือไม่เยอะเท่าไหร่ เอาไงดี?" โซจูถาม

         "ตอนนี้ไฟยังดับอยู่ ลงมือเลยละกัน เอาแค่เงียบที่สุดก็พอ แยกกันเลย คนละ4 โอเคมะ"

         "ได้" ว่าแล้วทั้งสองก็ออกจากลุ่มตัวประกันไปอย่างเงียบๆ ก่อนจะเข็มชนิดพิเศษที่เคลือบยาชาไว้ ถ้าใครที่โดนเข้าไปหลังจากนั้น 5
    วินาที จะไม่สามารถขยับร่างกายได้ ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง ประตูธนาคารก็ถูกเปิดออก โดยมือของสองสาว ก่อนจะช่วยตัวประกันทั้ง 200 คนมาได้อย่างปลอดภัย

         "เอาล่ะค่ะ ตอนนี้ทุกคนปลอดภัยแล้ว ขอให้อยู่ในความสงบด้วยค่ะ ส่วนพวกคุณ ช่วยนำกำลังเข้าจับกุมคนร้ายได้เลยค่ะ 15 คนอยู่บนชั้น
    2 ทางห้องเก็บเครื่องมืทำความสะอาด ส่วนอีก 8 คน อยู่ตรงเคาน์เตอร์นั่นแหละ" โซจูพูดเสียงเรียบกับตำรวจหนุ่ม

         "เอ่อ... แล้วไม่ทราบว่าของที่ให้เตรียมไว้ ตรงหน้าต่างนั่น..." นายตำรวจพูดตะกุกตะกัก...'ก็มันอดสงสัยไม่ได้นี่หว่า'

         "อ๋อ.. ก็ไม่มีอะไรหรอก คิดไว้ว่าเผื่อคับขันจะได้กระโดดลงมาเท่ๆ เหมือนในหนังไง ฮ่าๆๆ" เวนิชหัวเราะทันทีที่โซจูพูดจบ และเมื่อเห็น
    ว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วทั้งสองจึงรีบกลับไปรายงาน ทิ้งให้นายตำรวจหนุ่มยืนอ้าปากค้างอยู่ ณ ที่นั้นเอง

         ทางด้านของแวซายด์และวินด์ที่กำลังเครียดได้ที่ ตอนนี้พวกเขากำลังจะดำเนินแผนขั้นต่อไป โดยให้แวซายด์ทำทีเป็นขอเข้าห้องน้ำและ
    โทรเรียกกำลังเสริมขึ้นมา ส่วนวินด์ยังคงทำการเจรจาเพื่อถ่วงเวลาอยู่ หลังจากที่แวซายด์กลับมา จึงทำการแลกของกันทันที เมื่อได้ของกลางมา หนึ่งในพวกเขาก็จัดการส่งระเบิดควันลงมาทันที เพื่อสร้างความชุลมุน และจัดการเปิดประตูให้กำลังเสริมจากข้างนอกเข้ามา เพียงไม่นาน เจ้าพวกคนชั่วก็กระเด็นเข้าซังเตกันไปเรียบร้อย แต่ถึงแม้จะจับได้แต่พวกตัวใหญ่ๆ แต่ก็ยังไม่สามารถสาวไปถึงตัวผู้บงการได้อยู่ดี และพวกเขาก็ต้องงอีกครั้งเมื่อสายลับทั้งสองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจริงๆ ไม่มีใครรู้แม้แต่ชื่อจริงของพวกเขา ซึ่งเปรียบราวกับสายลมที่หาจับตัวยากยิ่ง !

         'ก๊อกๆๆ'

         "ขออนุญาติครับท่าน"

         "เข้ามาสิ"

         "ว่ายังไง เรื่องที่ผมให้ไปจัดการ"

         "แทบจะไม่คืบหน้าเลยครับ พวกมันระวังตัวกันน่าดู ทางเราคิดว่าพวกองค์กรนั้นน่จะมีพวกอิทธิพลหนุนหลังครับ"

         "อืม ผมว่าเราควรเริ่มเอาจริงได้แล้ว คนของผมบอกว่าพวกมันคิดจะทำการบางอย่างที่อิตาลีนี่ล่ะ แต่เรายังไม่รู้แน่ชัดว่ามันคืออะไรกันแน่
    ผมต้องการหน่วยพิเศษที่จะคอยติดตามและสืบหาองค์กรพวกนี้ คุณพอจะหาบุคลากรฝีมือดีให้ผมได้มั้ย?"

         "ได้ครับท่าน ผมพอจะรู้จักอยู่ 4 คน"

         "4 คนหรือ? ไม่น้อยไปรึ คุณอย่าลืมนะว่าองค์กรนี้ไม่ธรรมดา"

         "ครับ พวกเขาไม่เคยทำงานพลาด และก็ยังเป็นระดับหัวกะทิทุกคน"

         "งั้นรึเนี่ย... ความสามารถของพวกเขาล่ะ?"

         "การต่อสู้ทุกชนิด ปลอมตัว สืบเสาะ วิเคราะห์ผล แฝงกาย ถอดรหัส"

         "ฮ่าๆ หลากหลายความสามารถดีมาก งั้นผมตกลง ! ภายใน 2 วันนี้ คุณเรียกพวกเขามาพบผมได้เลย เราจะได้เริ่มภารกิจนี่สักที"

         ย่านการค้าของกรุงโรม ประเทศอิตาลี ในมุมสงบของร้านอาหารแห่งหนึ่ง สุภาพสตรีทั้ง 2 กำลังคุยกันอย่างออกรส ท่ามกลางอาหาร
    เมนูพิเศษที่สั่งมาอย่างไม่อั้น

         "เออนี่โซ วันนี้จู่ๆ หัวหน้าก็เรียกเข้าไปหาอ่ะ บอกว่าพรุ่งนี้เช้าให้รีบไปพบด่วน ไม่รู้มีธุระอะไร" เวนิชพูดขณะที่ปากก็เคี้ยวสเต็กไปด้วย

         "สงสัยเรียกไปรับงานมั้ง เคยเรียกเป็นเวลาที่ไหน ครั้งที่แล้วก็เรียกตอนกำลังอยู่ในฟิตเนสพอดี ดีนะที่เป้าหมายอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่"
    โซจูว่าก่อนจะหยิบทิชชู่ส่งให้เพื่อนสาวที่กินซอสจนเลอะมุมปาก ก่อนส่ายหัวอย่างระอาใจ

         "แหะๆ ขอบใจจ้ะ"

         อีกมุมหนึงของร้านไม่ไกลนัก

         "เฮ้ยไอ้แวซายด์ แกเห็นสองสาวนั่นเปล่าวะ สวยเป็นบ้าเยว่ะ" วินด์พูด

         "แล้วยัยซีน่าของแกล่ะ" แวซายด์พูดก่อนจะจิบชา

         "แหม นั่นก็แค่กิ๊กเก่าน่า แล้วแกว่าไง ฉันว่าคนที่ผมสีอัลมอนด์นั่นน่ะดูมีเสน่ห์ใช้ได้เลยว่ะ คนผมสีดำก็ดูดี แต่ท่าทางไม่ค่อยมีอารมณ์ขัน
    แฮะ" แวซายด์ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน

         "เออ วันนี้หัวหน้าเรียกฉันไปพบ บอกว่าพรุ่งนี้ให้ไปหาคนๆ นั้น"

         "หืม?" แวซายด๊ลดหนังสือลง คนนั้นๆ น่ะเหรอ แปลก ! จู่ๆ ไม่น่าเรียกเราไปนี่ มีอะไรก็เพียงแค่สั่งลงมา แสดงว่าที่เรียกไปต้องเป็นเรื่อง
    ไม่ธรรมดาแน่ๆ

         "แกรู้ไหมว่าเรื่องอะไร" วินด์ถาม แวซายด์ได้แต่ขมวดคิ้วก่อนจะส่ายหน้า ยังไม่ทันที่วินด์จะถามอะไรต่อ ดันเกิดเสียงเอะอะโวยวายมา
    จากมุมหนึ่งของร้าน สาเหตุของเสียงนั่นก็มาจากโต๊ะของสองสาวที่เขาแอบมองเมื่อกี้นี้นั่นเอง เพราะเมื่อกี้พวกเขามัวแต่คุยจึงไม่ทันสังเกตนักเลงกลุ่มหนึ่งที่พึ่งเข้ามาใหม่ เมื่อพวกมันเข้ามาก็สะดุดตาเข้ากับสองสาวอย่างจัง พอหมายจะเข้าไปคุยด้วย ดัหน้าแตกซะยับเยิน เมื่อสาวเจ้าไม่เล่นด้วย

         "นี่รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?!"

         "บ้ารึเปล่า พวกแกยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร พวกฉันจะไปรู้ได้ยังไง" เวนิชยักคิ้วตอบอย่างกวน...

         "หนอย ! ปากดีนักนะ ไหนดูซิว่าบนเตียงลีลายังจะดีสู้ปากได้มะ..."

         'ผั๊วะ !!'

         "เฮ้ย ! ลูกพี่ เป็นอะไรรึเปล่า?" ลูกน้องรีบเข้าไปดูพี่ใหญ่ทันที เมื่อจู่ๆ ลูกพี่ก็ถลาเอาหน้าไปถูกับพื้นซะอย่างนั้น

         "ฉันว่าพาไปส่งโรงพยาบาลดีกว่า ฟันคงหักไม่กี่ซี่หรอก" โซจูพูด ก่อนจะจับแขนเพื่อนตนเอาไว้กลัวว่านักเลงพวกนี้จะไม่ตายดี

          "หนอย ! พวกเรา จับตัวนังนี่ไว้ ! " เมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง เธอจึงหมดปัญญา มีอย่างเดียวที่เธอทำได้คือ.... เรียกรถพยาบาลมาเท่านั้น

         ทางโต๊ะของวินด์และแวซายด์ที่ตอนแรกจะเข้าไปช่วยต้องหยุดและกลับลำทันควัน เมื่อผู้หญิงที่ดูท่าจะบอบบางและอ่อนแอ กำลังซ้อม
    ผู้ชายทั้งแท่งอย่างเมามันส์ โดยเพื่อนสาวเพียงยืนดูและคุยโทรศัพท์เท่านั้น

         "ไอ้แวซายด์ นี่แกบอกฉันทีสิว่าไม่ได้ตาฝาด" วินด์สะกิดถามเพื่อนอย่างไม่ยอมรับความจริง

         'ผั๊วะ !...' "ถ้าแกรู้สึกแสดงว่าแกไม่ได้ตาฝาดว่ะ"

         "เออว่ะ..." วินด์ยอมรับตามความจริง เมื่อรู้สึกเจ็บแปลบบริเวณหัว ก่อนจะมองนักเลงเป็นหมู่ที่ล้มระเนระนาดตาค้าง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×