คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 :: First Met
Chapter 1
First Met
“เชี่ยฝอย ตื่น” แรงสะกิดที่ส่งมาจากฝ่าเท้าของร่างมืดข้างๆทำให้ร่างสูงที่นอนเน่าอยู่บนเตียงต้องตื่นขึ้นมานั่งเกาหัวกางหูโคฟเวอร์เป็นลิงชิมแปนซีอยู่ปลายเตียง หันไปมองร่างมืดที่นอนเน่าไม่ต่างกันพลางใช้นิ้วเท้าทั้งห้าสะกิดตูดมันไปสองที มันงิดครับงิด ปลุกกูแต่แม่งไม่ยอมตื่น
“เชี่ยมืด มึงก็ตื่นดิ เร็วๆกูไปด้วยสัด”
“มึงก็นั่งรถเมล์ไปเองดิห่า”
“อ้าวเชี่ยมืด อ้อนตีนละไงมึง ห่าลุก” ว่าแล้วก็ยกตีนขึ้นมาชอนไชตูดมันไปสองสามทีครับเป็นการกระตุ้น ร่างมืดที่นอนเน่าอยู่บนเตียงเมื่อครู่สปริงตัวตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตูดของตัวเอง
“สัด”
ผมไม่สนใจคำด่าเน่าๆของมันพลางเดินหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำบ้านไอ้มืดไปอย่างหน้าด้าน ที่ผมต้องมานอนบ้านมันนี่ก็ไม่ได้มีซัมติงอะไรกับมันหรอกครับ ผมกับมันแมนๆเตะบอลด้วยกันตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะเมื่อคืนเมายับละไม่กล้ากลับหอครับ ไม่อยากจะบอกว่าครูคุมหอโรงเรียนผมนี่โหดอย่างกับอะไร ไม่รู้จะโหดไปไหน นี่ตอนเจอเจ๊แกครั้งแรกยังตกใจอยู่ว่าเดี๋ยวนี้ครูฝ่ายปกครองต้องมาคุมหอด้วยหรอ แล้วก็มารู้ทีหลังว่าเจ๊แกเป็นแค่ครูคุมหอเฉยๆ พอรู้แล้วก็ถึงกับเครียดไปหลายวันเลยครับ โครงการที่จะออกไปเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่อย่างที่ใฝ่ฝันเป็นอันต้องจบลงเพราะเจ๊แก อ้อ ผมลืมบอกไปว่าโรงเรียนของผมกับไอ้มืดเนี่ยเป็นโรงเรียนประจำชายล้วนนะครับ
เหตุผลที่ต้องเรียนโรงเรียนประจำควบด้วยดีกรีความเป็นโรงเรยนเอกชนอันดับหนึ่งของเกาหลีใต้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับก็แค่เพราะ รวย ครับ ด้วยความที่พ่อแม่มีฐานะหรืออย่างที่บอกไปว่ารวย มีสังคมค่อนข้างสูง จึงต้องส่งลูกไปเรียนโรงเรียนดีๆเพื่อไม่ให้น้อยหน้าคนอื่น แต่ถึงอย่างนั้นค่าเทอมที่เหยียบหลักแสนของเขาก็ไม่ได้สะเทือนแม้แต่ขนอ่อนของบุพการีที่เป็นถึงเจ้าของโรงงานอาหารแช่แข็งรายใหญ่ของเกาหลีมีรายได้เดือนละหลายสิบล้านวอนของ
ปาร์คชานยอล คนนี้เลยแม้แต่น้อย
“กูเสร็จละ”
“เออ” ว่าเพียงแค่นั้นไอ้มืดก็เดินทำหน้าง่วงถือผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป มึงจะง่วงอะไรขนาดนั้นกูละสงสัยแรง
แต่งตัวเสร็จก็ไปโรงเรียนครับ พ่อแม่ส่งให้มาเรียนก็ต้องไปครับสงสารพ่อแม่ หลังจากที่ผมปิดประตูรถ BMW i8 ของเพื่อนมืดก็ได้ยินเสียงออดพักเที่ยงดังขึ้นมาอย่างพอดิบพอดี ทำให้เป้าหมายของเราต้องเปลี่ยนไปเป็นโรงอาหารแทนที่จะเป็นห้องเรียน ดีเลยครับกำลังหิวอยู่พอดี อ้อ ผมลืมบอกไปว่าไอ้มืดเนี่ยบ้านมันก็รวยไม่ต่างจากผมนักหรอกครับ มีพ่อเป็นนักการเมืองส่วนแม่ก็เป็นเจ้าของผับหรูอันดับต้นๆของเกาหลีและธุรกิจยิบย่อยอีกมากมาย แล้วด้วยความที่เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวพ่อแม่จึงประเคนทุกอย่างให้อย่างไม่อิดออด รวมถึงรถ BMW i8 ราคาสี่ร้อยกว่าล้านวอนคันนี้ด้วย
ซื้อข้าวเสร็จแล้วก็ต้องหาโต๊ะนั่งครับเราจะยืนกินไม่ได้ครับพ่อแม่สอนมาดี ว่าแล้วก็เจอโต๊ะที่มีแต่ไอ้พวกหน้าหงิมนั่งกันอยู่ทำให้เราต้องเดินเข้าไปขอแชร์โต๊ะนั่งด้วยอย่างมีมารยาทและเป็นมิตรด้วยไมตรีจิตอย่างสุดซึ้ง
ตึ้ง!!
เสียงจานข้าวกระแทกกับโต๊ะอย่างแรงทำให้ไข่ดาวที่อยู่ในจานถึงกับเกือบจะบินออกจากจาน ถ้าไม่ติดว่าผมเลื่อนจานไปรับทันอ่ะนะ ไม่ได้ครับ เราจะมาฟอร์มแตกตรงนี้ไม่ได้ เดี๋ยวมันจะหมดความน่าเชื่อถือ
“เฮ้ย พวกมึงอ่ะ”
“อะ อะระ อะไรหรอ”
“มึงรู้มั้ยว่าพวกกูหิวขนาดไหน”
“อะ อืม”
“ถ้ารู้แล้วก็ลุกดิสัด กูจะนั่ง”
“แต่พวกเรายังกินไม่เสร็จเลยนะ”
“มึงยังกินไม่เสร็จ แต่กูยังไม่ได้กิน”
“…”
“ลุก!”
สิ้นเสียงนั้นไอ้พวกหน้าหงิมที่เคยนั่งกินข้าวกันอยู่ก็ลุกหายตัวไปอย่างเร็วด้วยความที่กลัวว่าร่างสูงตรงหน้าจะหิวจัดแล้วเลิกกินข้าวละหันมากินหัวพวกเขาแทน
“เมื่อกี้กูได้ยินโต๊ะของไอ้เทามันคุยเรื่องรับน้อง สงสัยจะมีเด็กใหม่ว่ะ” เสียงของไอ้มืดหรือ คิมจงอิน พูดขึ้นหลังจกที่นั่งกินข้าวกันได้สักพัก
“แล้วไง” ตอบกลับไปพลางเอาช้อนกวาดข้าวเม็ดสุดท้ายในจานเข้าปาก
“คราวนี้มึงจะเอาด้วยมั้ยละ”
“เอาดิ มีเด็กใหม่มาทั้งทีก็ต้องต้อนรับหน่อยดิห่า ผูกมิตรนะรู้จักมั้ย”
“เออ พ่อเฟรนลี่”
“เออ” สิ้นสุดเสียงตอบรับ ผมกับไอ้มืดก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าและตรงไปที่โต๊ะเทาที่มีไอ้หน้าอูฐหรือ คิมจงแด เพื่อคุยเรื่องการรับน้องใหม่ทันที ไม่ได้ครับ อะไรเลวๆเราไม่เคยพลาดครับ ของอย่างนี้ช้าไม่ได้
ไอ้เทาหรือ หวงจื่อเทา ที่พูดถึงก็เป็นเพื่อนในแก๊งของผมด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าตอนแรกที่เจอหน้ามันจะรู้สึกหมั่นหน้าเขียวๆของมันอยู่ไม่น้อยเลยทำให้เคยมีเรื่องกันมาหลายต่อหลายครั้ง จนอยู่ๆมาสนิทกันได้ยังไงก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
“ไงมึง” มาถึงก็ต้องทักทายกันครับ และเพื่อแสดงถึงความสนิทสนมผมจึงเท้าสะกิดเข้าที่เอวของไอ้เขียวเป็นการบอกให้มันเขยิบไปกูจะนั่ง และมันก็เข้าใจได้อย่างดีจึงเขยิบออกให้ผมแทรกตัวลงไปนั่งได้
“ได้ข่าวว่าจะรับน้องใหม่หรอว่ะ”
“เออดิ แต่รอบนี้ไม่โหดนะเว้ย”
“อ้าว ไมวะ” ข้องครับข้องมาก รับน้องใหม่ทั้งทีไม่โหดได้ไงว่ะ
“เชี่ย มึงยังไม่เห็นเด็กใหม่แม่งน่ารักชิบหาย”
“หรอวะ”
“เออดิ ไอ้ห่า ตอนแรกที่รู้ว่ามีเด็กใหม่มากูก็อุตส่าห์จะหาไรทำสนุกๆพอเห็นหน้าแล้วแม่งกูทำไม่ลง” ไอ้เขียวที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเพ้อฝันเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้มที่มีความรักครั้งแรกแบบบริสุทธิ์ผุดผ่องใสอยู่ข้างๆผม เห็นแล้วก็ขนลุกครับ ทนไม่ได้เลยเอาตีนขึ้นมาทาบหน้าอกมันไปทีนึงเป็นการเตือนว่า ‘มึงอย่าได้ทำเหี้ยอะไรนี้อีก’
“แต่ว่าอีกคนนึงมันก็ไม่แน่ว่ะ ไอ้หน้าติ๋มหัวทองนั่นอ่ะ” ตอนแรกไอ้เขียวมันก็พูดกับผมเนี่ยแหละครับ แต่ประโยคหลังนี่มันหันไปคุยกับไอ้หน้าอูฐฝั่งตรงข้าม
“อ้าว มีสองคนเหรอว่ะ” ไอ้มืดพูดขึ้นมาหลังจากที่มันนั่งเสพเสือกอย่างเงียบๆมานาน ไอ้ห่านี่มันเป็นพวกเงียบๆครับ ไม่ค่อยจะพูดห่าอะไรหรอกหรือถ้าจะเรียกอีกอย่างก็คงเรียกว่ามันรู้จักพูดครับว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนไม่ควรพูด ซึ่งนิสัยตรงนี้ของมันเป็นอย่างเดียวที่มันต่างจากผมลิบลับครับ
“อืม” อันนี้ก็เป็นไอ้หน้าอูฐที่นั่งลำเลียงน้ำลายไปเก็บที่โหนกแก้มอยู่นานพูดขึ้น ไอ้ห่านี่ก็เป็นพวกเงียบๆครับ แต่มันคนละเหตุผลกับไอ้มืดครับ เพราะไอ้ห่านี่มันจะเก็บรักษาเสียงเอาไว้ใช้ร้องเพลงครับ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามีปากแต่ทำไม่ค่อยพูดกัน พวกมันเคยคิดบ้างมั้ยว่าแม่มันต้องเจ็บขนาดไหนกว่ามันจะมีร่างกายครบสามสิบสอง พูดแล้วก็เสียดายน้ำเชื้อแทนพ่อมันครับ
ตึ๊ง~~ดึ่ง~~ตึ๊ง~~ดึ่ง~~
หลังจากที่เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่า ‘พวกมึงควรย้ายตูดไปอยู่บนห้องเรียนได้แล้วนะคะ’ พวกผมก็ทำตามสัญญาณนั้นอย่างเคร่งครัดโดยการสะพายเป้เบาหวิวแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำชายทันทีก่อนที่ยามจะเดินมาเจอพวกผมแล้วลากพวกเราไปนั่งตากแอร์เย็นไข่อยู่ที่ห้องปกครอง ส่วนไอ้อูฐก็ต้องแยกไปเพราะโดนครูเรียกตัว
พอมาถึงห้องน้ำพวกผมทั้งสามคนก็เขาไปอัดกันอยู่ในห้องน้ำห้องเดียวกัน หลังจากที่ปิดประตูและหาพื้นที่ของแต่ละคนได้ทุกคนก็พร้อมใจกันขวักบุหรี่ขึ้นมาจุดกันคนละมวนโดยที่ไอ้มืดคนจุดให้ทีละคน ถ้าถามว่าพวกผมจะเข้ามาเบียดกันทำไมแทนที่จะแยกกันสูบ ก็อย่างที่บอกนั่นแหละครับว่าโรงเรียนผมเป็นโรงเรียนเอกชนซึ่งค่าเทอมแพงมากๆ ดังนั้นห้องน้ำจะมาแคบเท่าตูดมดแหย่เหมือนโรงเรียนรัฐบาลทั่วๆไปเนี่ยมันไม่ได้หรอกครับ ถ้าจะให้เทียบกันแล้วห้องน้ำโรงเรียนผมห้องนึงคงกว้างประมาณห้องน้ำปกติสามห้องได้แหละครับ
หลังจากยืนสูบบุหรี่กันได้สักพักก็ได้ยินเสียงามเดินเข้าห้องน้ำมาทำให้พวกผมที่กำลังอัดนิโคติเข้าปอดกันอยู่ถึงกับสะดุ้งแล้วรีบบี้บุหรี่ทิ้งอย่างช่วยไม่ได้ ร้อยวันพันปีไม่เคยเดินเข้ามาถึงในห้องน้ำ อะไรไปดลใจให้ลุงแกเดินเข้ามาถึงในนี้ คิดแล้วก็เคืองครับ แต่มันคงช้าไปก็ตอนที่ยามมาเคาะประตูห้องน้ำให้เปิดออก พวกผมมองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะไม่เคยประสบพบเจอเหตุการณ์ขนหัวลุกแบบนี้มาก่อน
ปังๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งทำให้ผมที่ยืนอยู่ใกล้ประตูที่สุดสะดุ้งและถึงกับหลุดปากพูดอะไรโง่ๆออกไป
“ขี้อยู่ครับ!” พูดจบไอ้พวกเพื่อนๆของผมก็ถึงก็กุมขมับครับ หันไปเห็นไอ้มืดมองมาด้วยสายตาที่กำลังบอกว่า ‘ถ้ามึงอยู่เงียบๆต่อไปก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ จะพูดทำเหี้ยอะไรเนี่ย’ มาให้ก็ถึงกับรู้สึกผิดครับ รู้สึกเสียวไข่ขึ้นมาทันที่นึกถึงแอร์ห้องปกครอง ไอ้เทาที่ตั้งสติได้รีบปีนขึ้นไปเหยียบบนชักโครกแล้วปีนข้ามห้องน้ำออกไปอย่างเงียบที่สุดเป็นการบอกแผนที่เรากำลังจะทำกันต่อไป เห็นอย่างนั้นพวกผมจึงเริ่มทำตามและแยกย้ายกันไปคนละห้อง ผมที่ปนขึ้นมาคนสุดท้ายจึงต้องปีนไปหลีกภัยที่ห้องริมสุดอย่างช่วยไม่ได้เพราะไอ้พวกนั้นได้จับจองห้องใกล้ๆไปแล้วและพอผมปีนไปเจอพวกมันก็ทำมือเป็นรูปกากบาทแล้วชี้ไปที่ห้องอื่นเป็นการบอกว่า ‘มึงไม่ต้องมาห้องกู ไปหาห้องอื่นซะ’ ทำให้ผมต้องปีนต่อไปอย่างยากลำบาก
พอปีนมาถึงห้องสุดท้ายได้ผมก็จัดการกระโดดลงไปโดยที่ไม่ดูเลยว่าในห้องนั้นมีบุคคลอื่นอยู่ด้วย และพอผมหันกลับมาก็เจอกับใครคนนึงที่ตอนนี้กำลังจะถอดกางเกงเพื่อทำภารกิจส่วนตัวซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าอะไรยืนมองผมอย่างอึ้งๆ เรายืนจ้องตากันสักพักก็เหมือนจะเป็นฝ่ายนั้นที่ตั้งสติได้ก่อนและกำลังจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่างทำให้ผมรีบถลาเอามือเข้าไปปิดปากคนตัวเล็กนั่นไว้และทำท่าทางบอกให้มันอยู่เงียบๆก่อนที่มันจะพูดอะไรออกมา
ปังๆๆๆๆ
“นี่! นักเรียนเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ พวกนายสูบบุหรี่กันใช่มั้ย!”
ปังๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูที่ห้องน้ำที่พวกผมหลบภัยออกมายังดังอยู่ไม่หยุด
ปังๆๆ!!!!
เสียงเคาะประตูชุดสุดท้ายดังขึ้นก่อนที่จะได้ยินเสียงฮึดฮัดของยามเดินออกไปจากห้องน้ำอย่างอารมณ์เสีย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกผมเดินออกมากห้องน้ำที่หลบกันอยู่แต่อย่างใด เพราะถ้าเดินออกมายามที่ตอนนี้คงยังยืมเฝ้าอยู่ที่หน้าทางเข้าคงเดินเข้ามาลากพวกผมไปนั่งห้องปกครองให้เย็นไข่เล่นเป็นแน่
หลังจากที่ได้ยินเสียงยามเดินออกไปได้สักพัก คนตัวเล็กที่ผมปิดปากอยู่ก็เริ่มดิ้นเล็กน้อยเป็นการบอกว่าให้ปล่อยได้แล้ว เห็นอย่างนั้นผมจึงเอามือออกมาแต่โดยดี แต่พอผมมองสภาพตอนนี้ดีๆแล้วก็ถึงกับค้างไปเลยครับ อะไรคือการที่ไอ้เตี้ยนั่นอยู่ในสภาพที่ปลดเข็มขัดกับตะขอแล้วก็รูดซิบกางเกงลงมาได้ครึ่งนึงแล้วเจ้าตัวก็เอามือจับกางเกงไว้แค่ตรงตะขอกางเกงเท่านั้นทำให้ผมเห็นส่วนที่ไม่ได้ถูกปกปิดไว้ก็คือไอ้กางเกงในขาวตัวบางนั่น พอเลื่อนสายตาขึ้นมาก็เห็นว่าเสื้อนักเรียนตัวบางนั่นเปียกเหงื่อของเจ้าตัวจนมันแนบสนิทไปกับตัวทำให้เห็นสัดส่วนกับผิวขาวๆนั่นได้อย่างง่ายดาย
นี่มันอันตรายเกินไปแล้ว…
TBC
______________________________________________________________________
ตอนแรกเป็นงายม้างงงง5555555 เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเราน้า มันเลยยังกากๆอยู่ ฮ่าๆ ชอบไม่ชอบยังไงก็คอมเม้นให้กำลังใจไรต์หน่อยนาาาา สัญญาว่าจะมาลงให้จบน้า
ฝาก #ฟิคไอ้หมา ด้วยนะฮ้าบ
ความคิดเห็น