คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Intro
' ขอโทษนะคะโปรดเรียกฉันว่า โอนาบี ไม่ใช่นาบีถ้าคุณไม่ใช่คนสนิทของฉัน '
คำประกาศิตของนางแบบสาวผมสีบรอนด์ทองตวาดใส่ MC หนุ่มกลางรายการในขณะที่กำลังออกอากาศ
ไปทั่วโลกพร้อมกับเดินหนีหายไปทันทีโดยที่ไม่แคร์ชื่่อเสียงของเธอในอนาคตข้างหน้า
ใช่แล้ว!! เธอคือ โอนาบี คาสเตอร์ ฟรอยด์ หญิงสาวที่กำลังเป็นที่อิจฉาของผู้หญิงอีกนับล้านทั่วโลกด้วย
ดีกรีที่เป็นถึง Super Model ของนิวยอร์กอีกทั้งเธอยังเป็นลูกผู้ดีจากตระกูลนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รวย
มหาศาลและมีชื่อเสียงดังก้องไปทั่วโลก ยอมรับได้เลยว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นไอดอลของสาวทุกคนบนโลกนี้จริงๆ
หลังจากรายการได้ออกอากาศไปได้ไม่เพียงสิบนาที การกระทำของนาบีก็ถูกตกเป็นประเด็นทันทีในโซ
เชี่ยลเน็ตเวิร์คหลายคนออกมาวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับการทำที่ไม่เหมาะสมของเธอ นับได้ว่าตอนนี้เธอกำลังเป็นที่
สนใจของสื่อมวลชนมากมายและรวมถึงประชาชนอีกหลายล้านคนที่เฝ้าติดตามข่าวของเธอ แม้กระทั่งต้นสังกัด
ของเธอเอง Star Entertianment โดยเฉพาะประธานบริษัท ลิซ่า ชาร์ลเบ็ตตี้ ได้จับตาดูการกระทำที่ไม่สู้ดีนัก
ของนาบีรวมกระทั่งภาพลักษณ์ด้านลบที่กำลังถูกโจมตีในขนาดนี้
แม้จะผ่านมาสองอาทิตย์ข่าวคราวที่กำลังเป็นที่สนใจของนาบีก็ไม่ได้จะเบาบางลงเลยแต่อย่างใดตอนนี้
สื่อยิ่งจับตามองเธอในฐานะนางแบบแนวหน้าที่ขี้วีนที่สุดในโลก และโดยเฉพาะต้นสังกัดที่ไม่มีแม้แต่การออกมา
แถลงข่าวใดๆตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
" โอ้วพระเจ้า นี่นักข่าวยังให้ความสนใจข่าวนี้อีกหรอเนี่ยให้ตายเถอะ " นาบีเอ่ยปากบ่นทันทีเมื่อเห็นข่าว
ของเธอถูกตีแผ่ขึ้นหน้าหนึ่งทุกฉบับตลอดเวลาสองอาทิตย์ที่ผ่านมา
" แน่นอน เธอจะมาพูดอะไรตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์หรอกนาบี ตอนนี้พวกนักข่าวอยากจะสัมภาษณ์เธอ
กันจะแย่อยู่แล้ว " คุณลิซ่าบอกกับเธอแม้จะยังปวดหัวกับเรื่องนี้ไม่หาย นาบีได้แต่ถอนหายใจเพราะความจริงเธอ
อยากจะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวจะแย่แต่เพียงเพราะต้นสังกัดไม่ยอมให้เธอออกมาพูดใดๆเพราะจะเหมือนยิ่งเป็น
การแก้ตัวแต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เธอแคร์ข่าวพวกนี้เลยแม้แต่น้อย
" ความจริงเราไม่ต้องไปแคร์ข่าวพวกนี้ก็ได้นี่คะคุณลิซ่า นาบีว่าถ้าเราไม่ไปใส่ใจมันมากเดี๋ยวนักข่าวก็คง
เหนื่อยแล้วเลิกสนใจกันไปเองไม่เห็นยากเลย "
" แล้วยังไง เธอจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆน่ะหรอ ตอนนี้นักข่าวก็มาดักรอเธอที่หน้าบริษัททุกวัน
จนตอนนี้ไม่ต้องขยับตัวทำอะไรกันแล้ว ฉันล่ะปวดหัวจริงๆ " คุณลิซ่าว่าพร้อมกับกุมขมับอย่างหัวเสียกับคำพูดที่
ไม่เข้าท่าแล้วยังไม่สร้างสรรค์ของนาบี ' สิ่งที่เธอพูดไปนั้นมันคิดว่าทำง่ายแค่ไหนกันเชียวนะนาบี ' คุณลิซ่าคิด
ในใจพร้อมกับมองสีหน้าของคนตรงหน้าที่ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวเท่าไหร่ทั้งๆที่เป็นเรื่องของตัวเองแท้ๆ
" นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ โอ๊ย!!ไม่รู้จะสรรหาวิธีไหนแล้วค่ะ เอาเป็นว่าคุณลิซ่าคิดวิธีดีๆออก ก็โทรบอกนาบี
ด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ "
นาบีบอกพร้อมหยิบกระเป๋าถือเดินเชิดหน้าออกจากห้องไปทันทีโดยไม่สนใจอีกคนที่กำลังนั่งมองเธอด้วย
สายตาที่ผิดหวัง
แน่นอน!! คุณลิซ่าหวังเพียงจะปั้นเด็กผู้หญิงคนนี้ให้เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงได้เฉิดฉายอยู่ในวงการบันเทิง
แม้ว่าเธอจะเพรียบพร้อมทุกอย่างในชีวิตแต่คุณลิซ่ามองเห็นถึงความมีเสน่ห์ในตัวของเธอเพราะฉะนั้นเธอจึงได้
เป็น โอนาบี คาสเตอร์ ฟรอยด์ ที่คนทั่วโลกรู้จักในตอนนี้
หลังจากที่นาบีแยกตัวออกมาจากคุณลิซ่า เธอก็รีบขับรถ Lotus Evora รถสปอร์ตสีบลอนด์คู่ใจของเธอบึ่ง
กลับบ้านทันที วันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าและอยากพักผ่อนหลังจากที่วันนี้ต้องมานั่งพูดเรื่องข่าวบ้าบอที่เธอไม่รู้สึก
แคร์และไม่รู้สึกว่ามันจะผิดร้ายแรงอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
เมื่อมาถึงบ้านนาบีรีบจอดรถคันโปรดแล้วเดินปรี่ตรงเข้าไปหาโอลิเวียพี่สาวของเธอที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่
สวนหน้าบ้านทันที
" ดูสบายใจจริงนะคุณพี่สาว "
ลิเวียชำเลืองสายตามองคนตรงหน้าที่กำลังยืนกอดอกเชิดใบหน้าสวยเหมือนหงษ์เธอได้แต่ฉีกยิ้มเป็นการทักทายเท่านั้น
" มานั่งจิบกาแฟอยู่ในสวนดูท่าจะว่างมากเลยสินะเนี่ย " นาบีว่าพร้อมกับนั่งลงข้างๆพร้อมกับคอยเชิดหน้า
เธอเป็นเหมือนนางพญาในฝูงหงษ์
" แน่นอนสิ ใครเขาจะยุ่งเหมือนเธอล่ะนาบีที่ต้องคอยหาทางแก้ข่าวเสียๆหายๆตลอด แย่หน่อยนะเวลา
เป็นคนดังมันก็ลำบากงี้ล่ะ " ลิเวียว่าด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่คำพูดของเธอมันช่างบาดลึกเข้าไปในใจของคนฟัง
เหลือเกิน แต่ทั้งคู่ก็ต่างรู้ว่าการพูดจิกกัดกันไปมาแบบนี้ได้เป็นเรื่องธรรมดาของพี่น้องแห่งตระกูลคาสเตอร์
ฟรอยด์ ไปเสียแล้ว
" ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่หน่าในเมื่อฉันไม่แคร์มันซะอย่าง จริงสิอาทิตย์หน้าบ้านแฮมเบอร์ตันจะจัดงานกุศล
ประจำปีแล้วนี่เธอจะไปหรือเปล่า งานนั้นฉันได้รับเชิญเป็นแขกพิเศษเชียวนะ "
" ก็ไม่อยากพลาดหรอกแต่เธอก็รู้ว่าฉันกับลูกชายบ้านนั้นถูกกันซะที่ไหน ถ้าขืนไปโผล่ตัวอยู่ในงานฉันว่า
งานมันจะพังไม่เป็นท่าน่ะสิ "
ความจริงลิเวียกับเฮเซล ลูกชายคนเดียวของตระกูลผู้ดีเก่าอย่างแฮมเบอร์ตันไม่ชอบขี้หน้ากันมาตั้งแต่
สมัยเด็กๆแม้เธอจะรู้ว่ามันนานมาแล้วและยังเป็นเรื่องตั้งแต่ตอนเด็กๆแต่เธอก็ยังจำฝังใจกับสิ่งที่เฮเซลได้กระทำ
ต่อเธอเพราะมันช่างโหดร้ายเกินกว่าที่เธอจะรับได้
" นั่นมันก็นานมากแล้วนะเมื่อไหร่เธอจะลืมมันไปซักทีล่ะลิเวีย ตอนนี้เฮเซลเขานับว่าเป็นผู้ชายที่มีนิสัยดี
คนหนึ่งเลยนะ ฉันเคยเจอเขาที่งานกุศลงานเดินแบบตั้งหลายครั้งเขาก็ยังถามถึงเธออยู่เสมอนะ ฉันว่าเธอน่าจะ
มีทิฐิอยู่คนเดียวนะตอนนี้ "
ลิเวียถึงกับถอนหายใจเมื่อได้ยินชื่อนี้ เธอคิดในใจเพียงว่า ต่อให้หมอนั่นดีเลิศแค่ไหนในตอนนี้เธอก็ไม่มี
วันให้อภัยและไปคบค้าสมาคมด้วยเป็นอันขาดเพราะเรื่องในตอนเด็กมันยังคงวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาเป็นภาพฉาย
ซ้ำจนเธอไม่มีวันลืมผู้ชายคนนี้ได้ลงเลยซักครั้งเดียว เธอไม่ได้จะพิศวาสอะไรเขาหรอกนะแต่เพราะเขาเคยทำ
ให้เธอต้องรู้สึกเจ็บปวดมากก็เท่านั้นเอง
" เอาล่ะเลิกพูดถึงลูกบ้านนั้นแล้วก็ฟังฉันให้ชัดๆนะคุณน้องสาว ฉันจะไม่ไปงานนั้นเด็ดขาดไม่ว่าอย่างไร
ก็ตามฉันจะไม่ไปเหยียบที่นั่นเด็ดขาด ขีดเส้นใต้แบบชัดๆนะคะคุณนาบี" ลิเวียประกาศคำขาดพร้อมกับเมินหน้า
ไม่สนใจคนด้านข้างอีก นาบีได้แต่ทำจมูกย่นอย่างหมั่นไส้กับทิฐิของพี่สาวเธอ
" ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจนะ ฉันไปคนเดียวก็ได้ "
นาบีว่าก่อนจะลุกขึ้นปัดกระโปรงพีชยาวสีน้ำตาลแล้วเดินหายเข้าไปในบ้านลิเวียได้แต่มองตามหลังของ
นาบีที่ดูยังไงก็มีเสน่ห์สมกับเป็น Super Model ที่สาวๆและหนุ่มๆทั่วโลกต่างอยากเป็นเหมือนเธอและได้เธอไป
ครอบครอง ถึงแม้บางทีเธอจะรู้สึกแอบอิจฉารัศมีในตัวของน้องสาวตัวเองอยู่นิดๆแต่เธอก็ยังมั่นใจว่าความเป็น
โอลิเวีย คาสเตอร์ ฟรอยด์ ก็เปล่งประกายพอสู้กับน้องสาวเธอได้เช่นกัน
ที่บ้านแฮมเบอร์ตันกำลังวุ่นวายกับการจัดงานกุศลประจำปีของตระกูล งานนี้เขาเชิญแขกที่เป็นทั้งคนดัง
และนักธุรกิจที่รวยมหาเศรษฐีมากมาย ไหนจะตระกูลผู้ดีเก่าจากสารทิศทั่วโลก แน่นอนทุกคนต้องยินดีที่จะมาร่วม
งานของตระกูลเก่าที่มีชื่อเสียงดังคับโลกอยู่แล้ว
" เฮ้มาโลว์ นายได้ส่งการ์ดไปเชิญบียอนเซ่หรือยัง งานนี้ฉันเชิญให้เขามาเป็นนักร้องให้กับงานเรานะ "
เสียงหนุ่มหล่อร่างใหญ่ในชุดสูทขาวสะอาดตากำลังเอ่ยถามชายหนุ่มอีกคนที่กำลังสาละวนอยู่กับการไล่รายชื่อ
แขกที่ต้องส่งการ์ดเชิญเป็นแถวยาว
" แน่นอน ฉันส่งไปก่อนคนอื่นๆเลยล่ะ "
" ก็ดี แล้วทอมครูซล่ะ นั่นน่ะแขกพิเศษฉันเลยนะงานนี้เขาต้องมาร่วมงานของเรานะเพราะฉันอยากจะ
ถ่ายรูปคู่กับเขาเป็นพิเศษ "
" โอเคฉันเชิญไปเรียบร้อยแล้วนายไม่ต้องห่วงหรอกเฮเซล งานนี้จะต้องมีแต่แขกคนพิเศษที่มีชื่อเสียง
ดังคับโลกมาร่วมงานทุกคน "
" ฉันก็ขอให้เป็นอย่างนั้น "
เฮเซลว่าพร้อมกับหยิบกล่องลังใบใหญ่ที่บรรจุการ์ดเชิญเกือบร้อยฉบับที่สั่งทำเป็นพิเศษเมื่อหลายเดือน
ก่อนให้กับมาโลว์เลขาฯส่วนตัวของเขา
" ส่งไปให้ครบทุกคนนะ " เฮเซลย้ำอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป มาโลว์นั่งมองกล่องใบใหญ่ตรงข้างหน้า
พร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าเพราะตลอดเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาต้องวิ่งเต้นจัดการงานนี้ตามคำสั่ง
ของเฮเซลจนไม่มีเวลาจะได้หยุดพักซักวันเดียวเพื่อจะให้งานนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
อีกอาทิตย์เดียวก็จะถึงงานของบ้านแฮมเบอร์ตันแล้วทั้งเจ้าของงานหรือแม้กระทั่งแขกที่ถูกเชิญมาร่วมงาน
นั้นก็ต่างพากันวุ่นวายกับการเตรียมพร้อมกับงานในวันนั้นเพราะต่างคนต่างจะประชันความเด่นความดังใส่กันจน
มันเป็นเรื่องปกติที่จะได้พบได้เห็นกันในสังคมผู้ดีไฮโซแบบนี้
[ นาบีเธอเตรียมชุดสำหรับงานนี้หรือยัง ] ปลายสายกรอกเสียงถาม
" อื้มแน่นอนอยู่แล้วเจฟ ว่าแต่นายเถอะเป็นไงไปสั่งตัดชุดสูทหรือยัง ถ้ายังเดี๋ยวจะไม่ทันเอานะขอเตือน
ไว้ก่อน " นาบีตอบก่อนจะย้อนถามปลายสายที่คุ้นเคยกันดี เพราะเขาคือ เจฟฟี่ ชอย หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส-เกาหลี
ที่มีดีกรีเป็นถึงนักแสดงอันดับต้นๆของอเมริกา
[ ถ้าห่วงขนาดนั้นเธอก็จัดการให้ฉันหน่อยสิที่รัก ความจริงฉันก็ไม่ค่อยอยากจะออกงานสังคมแบบนี้ซัก
เท่าไหร่หรอกนะ แต่นี่ฉันเห็นว่ามีเธอไปด้วยหรอกนะก็เลยต้องยอมไปๆตามการ์ดเชิญของนายเฮเซล ]
" เรื่องอะไรทำไมฉันต้องจัดการให้ ถ้านายไม่อยากไปก็ปฏิเสธเฮเซลไปสิไม่เห็นจะยากอะไร งานนี้ฉันไป
โชว์ตัวเด่นคนเดียวโดยไม่มีนายก็ได้ย่ะดีออกไม่ต้องถูกจับคู่เหมือนงานนู้นงานนี้อีกน่ารำคาญ "
จบคำพูดของนาบีเจฟฟี่ถึงกับทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจเพราะเขาออกจะพอใจกับข่าวที่ถูกจับคู่กับโอนา
บีคนนี้เสมอ
[ โอเคๆ งั้นไว้เจอกันในวันงานก็แล้วกันนะที่รักเดี๋ยวฉันไปถ่ายแบบต่อก่อนนะ ] เจฟฟี่รีบตัดบททันที
เพราะเขารู้สึกหมดคำพูดใดๆแล้วและอีกอย่างเขาก็กำลังยุ่งกับการถ่ายแบบต้อนรับซัมเมอร์ที่จะมาถึงนี้
" โอเคๆ ตั้งใจทำงานนะเจฟ โชคดีนะ " เมื่อพูดจบนาบีก็กดตัดสายทิ้งให้อีกคนนั่งฟังคำพูดสุดท้ายที่ดู
เหมือนเป็นห่วงเขาเล็กๆ แม้เขาจะรู้สึกดีกับคำพูดนั้นอยู่ไม่น้อย แต่เจฟย่อมรู้ตัวดีว่าเขาและนาบีเหมาะสมที่จะ
เป็นเพียงแค่เพื่อนกันมากกว่าเพราะเขาไม่อยากจะต้องสูญเสียเธอไปซักวันหนึ่งแต่นั่นก็ทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาคิด
อยู่นั้นมันเป็นเรื่องที่ดีแล้ว
จากนี้ไปก็รอเพียงแต่ให้ถึงวันงานของบ้านแฮมเบอร์ตัน วันที่ทุกคนจะได้เฉิดฉายประชันความเด่นดังกัน
อย่างเต็มที่ท่ามกลางสื่อมวลชนมากมายจากหลายสำนักที่ถูกเชิญมากันอย่างคับคั่ง รวมถึงนาบีเองเธอได้แต่รอ
คอยวันที่เธอจะได้โชว์ตัวท่ามกลางสื่อมวลชนอีกครั้งหลังจากที่เป็นข่าวฉาวดังอยู่หลายสัปดาห์ทำให้เธอต้องพัก
งานไปบ้างแต่เธอก็หวังว่าการปรากฏตัวของเธอที่งานในฐานะแขกพิเศษคนสำคัญจะทำให้กลบข่าวของเธอลง
ไปบ้าง
โปรดติดตามตอนต่อไป --> ONABEE กับดักหัวใจของยัยแม่มด
ฝากติชมหรือให้คำแนะนำกับนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^
ความคิดเห็น