ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ONABEE กับดักหัวใจของยัยแม่มด

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 55



    Intro

     


     


             ' ขอโทษนะคะโปรดเรียกฉันว่า โอนาบี ไม่ใช่นาบีถ้าคุณไม่ใช่คนสนิทของฉัน ' 

             คำประกาศิตของนางแบบสาวผมสีบรอนด์ทองตวาดใส่ MC หนุ่มกลางรายการในขณะที่กำลังออกอากาศ

    ไปทั่วโลกพร้อมกับเดินหนีหายไปทันทีโดยที่ไม่แคร์ชื่่อเสียงของเธอในอนาคตข้างหน้า

             ใช่แล้ว!! เธอคือ โอนาบี  คาสเตอร์ ฟรอยด์  หญิงสาวที่กำลังเป็นที่อิจฉาของผู้หญิงอีกนับล้านทั่วโลกด้วย

    ดีกรีที่เป็นถึง Super Model ของนิวยอร์กอีกทั้งเธอยังเป็นลูกผู้ดีจากตระกูลนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รวย

    มหาศาลและมีชื่อเสียงดังก้องไปทั่วโลก ยอมรับได้เลยว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นไอดอลของสาวทุกคนบนโลกนี้จริงๆ

            หลังจากรายการได้ออกอากาศไปได้ไม่เพียงสิบนาที การกระทำของนาบีก็ถูกตกเป็นประเด็นทันทีในโซ

    เชี่ยลเน็ตเวิร์คหลายคนออกมาวิพากวิจารณ์เกี่ยวกับการทำที่ไม่เหมาะสมของเธอ นับได้ว่าตอนนี้เธอ
    กำลังเป็นที่

    สนใจของสื่อมวลชนมากมายและรวมถึงประชาชนอีกหลายล้านคนที่เฝ้าติดตามข่าวของเธอ
    แม้กระทั่งต้นสังกัด

    ของเธอเอง Star Entertianment  โดยเฉพาะประธานบริษัท ลิซ่า ชาร์ลเบ็ตตี้
      ได้จับตาดูการกระทำที่ไม่สู้ดีนัก

    ของนาบีรวมกระทั่งภาพลักษณ์ด้านลบที่กำลังถูกโจมตีในขนาดนี้

             แม้จะผ่านมาสองอาทิตย์ข่าวคราวที่กำลังเป็นที่สนใจของนาบีก็ไม่ได้จะเบาบางลงเลยแต่อย่างใดตอนนี้

    สื่อยิ่งจับตามองเธอในฐานะนางแบบแนวหน้าที่ขี้วีนที่สุดในโลก  และโดยเฉพาะต้นสังกัดที่ไม่มีแม้
    แต่การออกมา

    แถลงข่าวใดๆตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

             "  โอ้วพระเจ้า นี่นักข่าวยังให้ความสนใจข่าวนี้อีกหรอเนี่ยให้ตายเถอะ " นาบีเอ่ยปากบ่นทันทีเมื่อเห็นข่าว

    ของเธอถูกตีแผ่ขึ้นหน้าหนึ่งทุกฉบับตลอดเวลาสองอาทิตย์ที่ผ่านมา

             "   แน่นอน เธอจะมาพูดอะไรตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์หรอกนาบี  ตอนนี้พวกนักข่าวอยากจะสัมภาษณ์เธอ

    กันจะแย่อยู่แล้ว " คุณลิซ่าบอกกับเธอแม้จะยังปวดหัวกับเรื่องนี้ไม่หาย  นาบีได้แต่ถอน
    หายใจเพราะความจริงเธอ

    อยากจะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวจะแย่แต่เพียงเพราะต้นสังกัดไม่ยอมให้เธอ
    ออกมาพูดใดๆเพราะจะเหมือนยิ่งเป็น

    การแก้ตัวแต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้เธอแคร์ข่าวพวกนี้เลยแม้แต่น้อย

             "   ความจริงเราไม่ต้องไปแคร์ข่าวพวกนี้ก็ได้นี่คะคุณลิซ่า  นาบีว่าถ้าเราไม่ไปใส่ใจมันมากเดี๋ยวนักข่าวก็คง

    เหนื่อยแล้วเลิกสนใจกันไปเองไม่เห็นยากเลย "

             "   แล้วยังไง เธอจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆน่ะหรอ  ตอนนี้นักข่าวก็มาดักรอเธอที่หน้าบริษัททุกวัน

    จนตอนนี้ไม่ต้องขยับตัวทำอะไรกันแล้ว  ฉันล่ะปวดหัวจริงๆ " คุณลิซ่าว่าพร้อมกับ
    กุมขมับอย่างหัวเสียกับคำพูดที่

    ไม่เข้าท่าแล้วยังไม่สร้างสรรค์ของนาบี  ' สิ่งที่เธอพูดไปนั้นมันคิดว่า
    ทำง่ายแค่ไหนกันเชียวนะนาบี ' คุณลิซ่าคิด

    ในใจพร้อมกับมองสีหน้าของคนตรงหน้าที่ดูไม่รู้ร้อน
    รู้หนาวเท่าไหร่ทั้งๆที่เป็นเรื่องของตัวเองแท้ๆ

             "   นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้  โอ๊ย!!ไม่รู้จะสรรหาวิธีไหนแล้วค่ะ เอาเป็นว่าคุณลิซ่าคิดวิธีดีๆออก ก็โทรบอกนาบี

    ด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ "

             นาบีบอกพร้อมหยิบกระเป๋าถือเดินเชิดหน้าออกจากห้องไปทันทีโดยไม่สนใจอีกคนที่กำลังนั่งมองเธอด้วย

    สายตาที่ผิดหวัง

             แน่นอน!! คุณลิซ่าหวังเพียงจะปั้นเด็กผู้หญิงคนนี้ให้เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงได้เฉิดฉายอยู่ในวงการบันเทิง

    แม้ว่าเธอจะเพรียบพร้อมทุกอย่างในชีวิตแต่คุณลิซ่ามองเห็นถึงความมีเสน่ห์
    ในตัวของเธอเพราะฉะนั้นเธอจึงได้

    เป็น โอนาบี คาสเตอร์ ฟรอยด์ ที่คนทั่วโลกรู้จักในตอนนี้

             หลังจากที่นาบีแยกตัวออกมาจากคุณลิซ่า เธอก็รีบขับรถ Lotus Evora รถสปอร์ตสีบลอนด์คู่ใจของเธอบึ่ง

    กลับบ้านทันที  วันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าและอยากพักผ่อนหลังจากที่
    วันนี้ต้องมานั่งพูดเรื่องข่าวบ้าบอที่เธอไม่รู้สึก

    แคร์และไม่รู้สึกว่ามันจะผิดร้ายแรงอะไรเลยแม้
    แต่นิดเดียว

            เมื่อมาถึงบ้านนาบีรีบจอดรถคันโปรดแล้วเดินปรี่ตรงเข้าไปหาโอลิเวียพี่สาวของเธอที่กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่

    สวนหน้าบ้านทันที

             "   ดูสบายใจจริงนะคุณพี่สาว "

             ลิเวียชำเลืองสายตามองคนตรงหน้าที่กำลังยืนกอดอกเชิดใบหน้าสวยเหมือนหงษ์เธอได้แต่ฉีกยิ้มเป็นการ

    ทักทายเท่านั้น
      

             "   มานั่งจิบกาแฟอยู่ในสวนดูท่าจะว่างมากเลยสินะเนี่ย " นาบีว่าพร้อมกับนั่งลงข้างๆพร้อมกับคอยเชิดหน้า

    เธอเป็นเหมือนนางพญาในฝูงหงษ์

             "   แน่นอนสิ  ใครเขาจะยุ่งเหมือนเธอล่ะนาบีที่ต้องคอยหาทางแก้ข่าวเสียๆหายๆตลอด แย่หน่อยนะเวลา

    เป็นคนดังมันก็ลำบากงี้ล่ะ " ลิเวียว่าด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแต่คำพูด
    ของเธอมันช่างบาดลึกเข้าไปในใจของคนฟัง

    เหลือเกิน  แต่ทั้งคู่ก็ต่างรู้ว่าการพูดจิกกัดกัน
    ไปมาแบบนี้ได้เป็นเรื่องธรรมดาของพี่น้องแห่งตระกูลคาสเตอร์

    ฟรอยด์ ไปเสียแล้ว

             "   ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่หน่าในเมื่อฉันไม่แคร์มันซะอย่าง  จริงสิอาทิตย์หน้าบ้านแฮมเบอร์ตันจะจัดงานกุศล

    ประจำปีแล้วนี่เธอจะไปหรือเปล่า  งานนั้นฉันได้รับเชิญเป็น
    แขกพิเศษเชียวนะ "

             "   ก็ไม่อยากพลาดหรอกแต่เธอก็รู้ว่าฉันกับลูกชายบ้านนั้นถูกกันซะที่ไหน ถ้าขืนไปโผล่ตัวอยู่ในงานฉันว่า

    งานมันจะพังไม่เป็นท่าน่ะสิ "

             ความจริงลิเวียกับเฮเซล ลูกชายคนเดียวของตระกูลผู้ดีเก่าอย่างแฮมเบอร์ตันไม่ชอบขี้หน้ากันมาตั้งแต่

    สมัยเด็กๆแม้เธอจะรู้ว่ามันนานมาแล้วและยังเป็นเรื่องตั้งแต่ตอน
    เด็กๆแต่เธอก็ยังจำฝังใจกับสิ่งที่เฮเซลได้กระทำ

    ต่อเธอเพราะมันช่างโหดร้ายเกินกว่าที่
    เธอจะรับได้

             "   นั่นมันก็นานมากแล้วนะเมื่อไหร่เธอจะลืมมันไปซักทีล่ะลิเวีย  ตอนนี้เฮเซลเขานับว่าเป็นผู้ชายที่มีนิสัยดี

    คนหนึ่งเลยนะ  ฉันเคยเจอเขาที่งานกุศลงานเดินแบบตั้ง
    หลายครั้งเขาก็ยังถามถึงเธออยู่เสมอนะ  ฉันว่าเธอน่าจะ

    มีทิฐิอยู่คนเดียวนะตอนนี้ "

             ลิเวียถึงกับถอนหายใจเมื่อได้ยินชื่อนี้  เธอคิดในใจเพียงว่า ต่อให้หมอนั่นดีเลิศแค่ไหนในตอนนี้เธอก็ไม่มี

    วันให้อภัยและไปคบค้าสมาคมด้วยเป็นอันขาดเพราะเรื่องใน
    ตอนเด็กมันยังคงวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาเป็นภาพฉาย

    ซ้ำจนเธอไม่มีวันลืมผู้ชายคนนี้ได้ลง
    เลยซักครั้งเดียว  เธอไม่ได้จะพิศวาสอะไรเขาหรอกนะแต่เพราะเขาเคยทำ

    ให้เธอต้อง
    รู้สึกเจ็บปวดมากก็เท่านั้นเอง

             "   เอาล่ะเลิกพูดถึงลูกบ้านนั้นแล้วก็ฟังฉันให้ชัดๆนะคุณน้องสาว  ฉันจะไม่ไปงานนั้นเด็ดขาดไม่ว่าอย่างไร

    ก็ตามฉันจะไม่ไปเหยียบที่นั่นเด็ดขาด ขีดเส้นใต้แบบชัดๆ
    นะคะคุณนาบี" ลิเวียประกาศคำขาดพร้อมกับเมินหน้า

    ไม่สนใจคนด้านข้างอีก นาบีได้
    แต่ทำจมูกย่นอย่างหมั่นไส้กับทิฐิของพี่สาวเธอ

             "   ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจนะ  ฉันไปคนเดียวก็ได้ "

             นาบีว่าก่อนจะลุกขึ้นปัดกระโปรงพีชยาวสีน้ำตาลแล้วเดินหายเข้าไปในบ้านลิเวียได้แต่มองตามหลังของ

    นาบีที่ดูยังไงก็มีเสน่ห์สมกับเป็น Super Model ที่สาวๆ
    และหนุ่มๆทั่วโลกต่างอยากเป็นเหมือนเธอและได้เธอไป

    ครอบครอง ถึงแม้บางทีเธอจะ
    รู้สึกแอบอิจฉารัศมีในตัวของน้องสาวตัวเองอยู่นิดๆแต่เธอก็ยังมั่นใจว่าความเป็น

    โอลิเวีย คาสเตอร์ ฟรอยด์ ก็เปล่งประกายพอสู้กับน้องสาวเธอได้เช่นกัน

              ที่บ้านแฮมเบอร์ตันกำลังวุ่นวายกับการจัดงานกุศลประจำปีของตระกูล งานนี้เขาเชิญแขกที่เป็นทั้งคนดัง

    และนักธุรกิจที่รวยมหาเศรษฐีมากมาย ไหนจะตระกูลผู้ดี
    เก่าจากสารทิศทั่วโลก แน่นอนทุกคนต้องยินดีที่จะมาร่วม

    งานของตระกูลเก่าที่มีชื่อ
    เสียงดังคับโลกอยู่แล้ว

              "   เฮ้มาโลว์ นายได้ส่งการ์ดไปเชิญบียอนเซ่หรือยัง  งานนี้ฉันเชิญให้เขามาเป็นนักร้องให้กับงานเรานะ " 

    เสียงหนุ่มหล่อร่างใหญ่ในชุดสูทขาวสะอาดตากำลัง
    เอ่ยถามชายหนุ่มอีกคนที่กำลังสาละวนอยู่กับการไล่รายชื่อ

    แขกที่ต้องส่งการ์ดเชิญ
    เป็นแถวยาว

              "   แน่นอน  ฉันส่งไปก่อนคนอื่นๆเลยล่ะ "

              "   ก็ดี  แล้วทอมครูซล่ะ  นั่นน่ะแขกพิเศษฉันเลยนะงานนี้เขาต้องมาร่วมงานของเรานะเพราะฉันอยากจะ

    ถ่ายรูปคู่กับเขาเป็นพิเศษ "

              "   โอเคฉันเชิญไปเรียบร้อยแล้วนายไม่ต้องห่วงหรอกเฮเซล  งานนี้จะต้องมีแต่แขกคนพิเศษที่มีชื่อเสียง

    ดังคับโลกมาร่วมงานทุกคน "

              "   ฉันก็ขอให้เป็นอย่างนั้น "

              เฮเซลว่าพร้อมกับหยิบกล่องลังใบใหญ่ที่บรรจุการ์ดเชิญเกือบร้อยฉบับที่สั่งทำเป็นพิเศษเมื่อหลายเดือน

    ก่อนให้กับมาโลว์เลขาฯส่วนตัวของเขา

              "   ส่งไปให้ครบทุกคนนะ "  เฮเซลย้ำอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป  มาโลว์นั่งมองกล่องใบใหญ่ตรงข้างหน้า

    พร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าเพราะตลอด
    เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาต้องวิ่งเต้นจัดการงานนี้ตามคำสั่ง

    ของเฮเซลจนไม่มี
    เวลาจะได้หยุดพักซักวันเดียวเพื่อจะให้งานนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

              อีกอาทิตย์เดียวก็จะถึงงานของบ้านแฮมเบอร์ตันแล้วทั้งเจ้าของงานหรือแม้กระทั่งแขกที่ถูกเชิญมาร่วมงาน

    นั้นก็ต่างพากันวุ่นวายกับการเตรียมพร้อมกับ
    งานในวันนั้นเพราะต่างคนต่างจะประชันความเด่นความดังใส่กันจน

    มันเป็นเรื่อง
    ปกติที่จะได้พบได้เห็นกันในสังคมผู้ดีไฮโซแบบนี้

             [   นาบีเธอเตรียมชุดสำหรับงานนี้หรือยัง ]  ปลายสายกรอกเสียงถาม

             "   อื้มแน่นอนอยู่แล้วเจฟ ว่าแต่นายเถอะเป็นไงไปสั่งตัดชุดสูทหรือยัง ถ้ายังเดี๋ยวจะไม่ทันเอานะขอเตือน

    ไว้ก่อน " นาบีตอบก่อนจะย้อนถามปลาย
    สายที่คุ้นเคยกันดี เพราะเขาคือ เจฟฟี่ ชอย หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส-เกาหลี

    ที่มีดี
    กรีเป็นถึงนักแสดงอันดับต้นๆของอเมริกา

             [   ถ้าห่วงขนาดนั้นเธอก็จัดการให้ฉันหน่อยสิที่รัก  ความจริงฉันก็ไม่ค่อยอยากจะออกงานสังคมแบบนี้ซัก

    เท่าไหร่หรอกนะ  แต่นี่ฉันเห็นว่ามีเธอไป
    ด้วยหรอกนะก็เลยต้องยอมไปๆตามการ์ดเชิญของนายเฮเซล ]

             "   เรื่องอะไรทำไมฉันต้องจัดการให้ ถ้านายไม่อยากไปก็ปฏิเสธเฮเซลไปสิไม่เห็นจะยากอะไร  งานนี้ฉันไป

    โชว์ตัวเด่นคนเดียวโดยไม่มีนายก็ได้ย่ะ
    ดีออกไม่ต้องถูกจับคู่เหมือนงานนู้นงานนี้อีกน่ารำคาญ  "

             จบคำพูดของนาบีเจฟฟี่ถึงกับทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจเพราะเขาออกจะพอใจกับข่าวที่ถูกจับคู่กับโอนา

    บีคนนี้เสมอ

             [   โอเคๆ งั้นไว้เจอกันในวันงานก็แล้วกันนะที่รักเดี๋ยวฉันไปถ่ายแบบต่อก่อนนะ ]  เจฟฟี่รีบตัดบททันที

    เพราะเขารู้สึกหมดคำพูดใดๆแล้วและอีกอย่างเขาก็กำลังยุ่งกับการถ่ายแบบต้อนรับซัมเมอร์ที่จะมาถึงนี้

             "   โอเคๆ ตั้งใจทำงานนะเจฟ โชคดีนะ  " เมื่อพูดจบนาบีก็กดตัดสายทิ้งให้อีกคนนั่งฟังคำพูดสุดท้ายที่ดู

    เหมือนเป็นห่วงเขาเล็กๆ  แม้เขาจะรู้สึกดี
    กับคำพูดนั้นอยู่ไม่น้อย แต่เจฟย่อมรู้ตัวดีว่าเขาและนาบีเหมาะสมที่จะ

    เป็นเพียง
    แค่เพื่อนกันมากกว่าเพราะเขาไม่อยากจะต้องสูญเสียเธอไปซักวันหนึ่งแต่นั่นก็ทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาคิด

    อยู่นั้นมันเป็นเรื่องที่ดีแล้ว

             จากนี้ไปก็รอเพียงแต่ให้ถึงวันงานของบ้านแฮมเบอร์ตัน วันที่ทุกคนจะได้เฉิดฉายประชันความเด่นดังกัน

    อย่างเต็มที่ท่ามกลางสื่อมวลชนมากมายจาก
    หลายสำนักที่ถูกเชิญมากันอย่างคับคั่ง  รวมถึงนาบีเองเธอได้แต่รอ

    คอยวันที่
    เธอจะได้โชว์ตัวท่ามกลางสื่อมวลชนอีกครั้งหลังจากที่เป็นข่าวฉาวดังอยู่หลายสัปดาห์ทำให้เธอต้องพัก

    งานไปบ้างแต่เธอก็หวังว่าการปรากฏตัวของเธอที่งาน
    ในฐานะแขกพิเศษคนสำคัญจะทำให้กลบข่าวของเธอลง

    ไปบ้าง

     


     


    โปรดติดตามตอนต่อไป --> ONABEE  กับดักหัวใจของยัยแม่มด


    ฝากติชมหรือให้คำแนะนำกับนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×