ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    YongSeo --------- Just say 'YES'

    ลำดับตอนที่ #28 : ตอนที่21(THE END)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.84K
      8
      22 ม.ค. 55

     

    ตอนที่
    21

     

     

                ตอนนี้ฉันกลับมาอยู่ที่เกาหลีเพื่อเตรียมตัวคัมแบ๊กในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี่แล้ว ทุกคนต่างเป็นห่วงฉันกันให้วุ่น โดยเฉพาะเด็กสาวคนหนึ่งที่เป็นห่วงฉันมากกว่าใครเพื่อนเบซูซี่

     

    กลับมาแล้ว…” ฉันเปิดประตูเข้าห้องไป และเมื่อเห็นซูซี่กำลังนั่งเหม่ออยู่ที่โซฟาก็เลยพูดแสดงตัวว่าฉันกำลังจะเข้าไปในห้อง

    พี่ซอฮยอน!!!” ซูซี่วิ่งเข้ามาก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอด

    ฉันขอโทษนะคะที่คิดไม่ดีกับพี่แบบนั้น แต่ฉันแค่…” ซูซี่บอกฉันอย่างรู้สึกผิด ฉันยิ้มบางๆกับตัวเองก่อนจะกอดตอบหญิงสาวรุ่นน้องไป

    ไม่เป็นไรหรอกนะ เธอมีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้นเพราะพี่เองก็ทำมากเกินไปจริงๆ

    แต่ตอนที่พี่ยุนอาบอกว่าพี่ไปญี่ปุ่นเพื่อไปหาพี่ยงฮวาน่ะ ฉันตกใจมากจริงๆนะคะ  ฉันกลัวว่าเพราะฉันพูดแรงเกินไปพี่เลยรู้สึกแย่ ขอโทษนะคะพี่

    ไม่เป็นไรหรอกน่า ว่าแต่ว่างอยู่รึเปล่าซูซี่ฉันผละตัวออกมา ก่อนจะเห็นว่าดวงตาสวยๆของซูซี่มีน้ำใสๆคลออยู่เต็มหน่วย

    ฉันว่างแบบไม่เคยว่างมากขนาดนี้มาก่อนเลยล่ะค่ะ

    งั้นทำอาหารให้พี่หน่อยสิ พี่คิดถึงฝีมือเธอจะแย่แล้วเนี่ยฉันบอกอย่างจริงใจก่อนจะยิ้มหวานให้เธอไป ซูซี่พยักหน้ารัวก่อนจะรีบวิ่งไปเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารให้ฉัน

     

                ฉันกับซูซี่กลับมาซี้ปึ้กกันเหมือนเดิมแล้ว ช่วงนี้ฉันต้องเข้าบริษัททุกวันเพื่อเริ่มเตรียมตัวสำหรับซิงเกิ้ลใหม่ที่จะลังจะคัมแบ๊ก ซูซี่เองก็มีเรียนหนักขึ้น เราเลยไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันบ่อยๆเหมือนเดิม แต่เวลาไหนที่เธอว่างฉันก็จะพาซูซี่ไปที่บริษัทด้วย ฉันยอมรับเลยว่าฉันแทบลืมการร้องเพลงและการเต้นบนเวทีไปหมดแล้ว ฉันจะต้องนับหนึ่งใหม่ และฉันจะต้องพยายามให้มากกว่าพี่สาวคนอื่นเป็นเท่าตัว ช่วงนี้ฉันเลยหมกมุ่นอยู่กับตัวเองมากกว่าจะมีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่น

     

                วันหนึ่งที่ฉันกำลังซ้อมเต้นอยู่ที่ห้องซ้อมของบริษัท พี่ซูยองก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาฉันในห้อง ตามมาด้วยพี่แทยอนกับพี่ทิฟฟานี่ที่วิ่งตามเข้ามาด้วยอาการเหนื่อยหอบไม่แพ้กัน

    ซอจูฮยอน!!!!”

    มีอะไรคะพี่ซูยอง นั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยพูดก็ได้ค่ะฉันเดินเข้าไปก่อนจะประคองพี่สาวตัวสูงไปนั่งพัก

    เธอรู้เรื่องยงซอบังรึยังชื่อของอีกคนที่ฉันเฝ้าคิดถึงหลุดออกมาจากปากของพี่ซูยองนั้นเรียกความสนใจให้หัวใจของฉันเต้นรัวได้อย่างรวดเร็ว

    เธอก็รู้เรื่องแล้วหรอซูยองพี่แทยอนเอ่ยถามพี่ซูยองขึ้น

    เมื่อกี้ฉันกำลังเดินเข้าบริษัท ฉันเดินสวนกับประธานบริษัทFNCน่ะ ฉันได้ยินพี่อีทึกพูดกับทางนั้นเรื่องการเดบิวท์ของยงซอบังแล้วก็พูดเรื่องความสัมพันธ์กับเธอด้วย

    อะไรนะคะ? เรื่องความสัมพันธ์ของพี่ยงฮวากับฉันหรอคะฉันตกใจมากจริงๆตอนที่ได้ยินพี่ซูยองพูดออกมาอย่างนั้น ไหนทางนั้นบอกว่าความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ยงฮวาไม่มีผลต่อการเดบิวท์ยังไงล่ะ

    ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกซอจู~ อ่านนี่ดูสิพี่ทิฟฟานี่พูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันแล้วยื่นเอกสารแผ่นหนึ่งให้ฉัน

    พี่ชินดงเรียกพี่ไปหาเพื่อให้เอาข่าวในจดหมายนี้มาบอกเธอพี่แทยอนพูดเสริมขึ้น ฉันก้มมองกระดาษในมือก่อนจะคลี่ออกมาอ่านช้าๆ

    “…”

    “…” ฉันเงยหน้าสบตากับพี่สาวก่อนจะถามออกไปอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งอ่านมา

    เรื่องจริงใช่มั๊ยคะ

    จริงแท้แน่นอนจ้ะพี่แทยอนเดินมาตบบ่าฉันเบาๆ 

    ดีใจด้วยนะที่ยงซอบังจะกลับมาเกาหลีซะที

    เตรียมตอบคำถามนักข่าวดีๆก็แล้วกันนะมักเน่พี่ซูยองกับพี่ทิฟฟานี่พูดเสริมก่อนทุกคนจะยิ้มออกมาให้ฉันอย่างอบอุ่น ฉันเงยหน้าสบตากับพี่สาวทั้งสามก่อนจะปล่อยให้น้ำตาใสๆไหลลงมาอาบแก้มช้าๆด้วยหัวใจที่เต็มอิ่มไปด้วยความสุข

     

                อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะมีเทศกาลดนตรี ‘Seoul Music Festival’ ซึ่งมันเป็นวันที่ฉันจะได้คัมแบ๊กสเตจพร้อมกับพี่สาวทั้งแปดคน สำหรับเนื้อความในจดหมายของบริษัทFNCบอกเอาไว้ว่า พี่ยงฮวาเองก็จะได้เดบิวท์ในวันนั้นเหมือนกัน ในจดหมายยังบอกอีกว่าหลังการแสดงของสองวงจบลงจะเปิดแถลงข่าวความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ยงฮวา อีกเพียงเดือนกว่าๆเท่านั้นฉันกับพี่ยงฮวาก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ฉันแทบอดใจรอให้ถึงวันนั้นเร็วๆไม่ได้จริงๆ

     

     

     

     

     

    หนึ่งเดือนผ่านไป

    เทศกาลดนตรี Seoul Music Festival’

    SNSD Comeback Stage & CNBLUE Debut.

     

     

    จองยงฮวา หนึ่งชั่วโมงก่อนขึ้นเวที

               

                ผมกลับมาเกาหลีได้ประมาณอาทิตย์นึงแล้วครับ แม้ว่าผมอยากจะวิ่งกลับไปที่บ้านของผมเป็นที่แรกเมื่อเหยียบแผ่นดินเกาหลีก็เถอะ แต่สิ่งที่ผมทำได้คือต้องมานอนที่บริษัทเพื่อฝึกซ้อมและเตรียมตัวสำหรับการเดบิท์เวทีแรกของเราในเกาหลี ชื่อวงของเราคือ CNBLUE ย่อมาจาก CODE NAME BLUE ซึ่งผมและน้องๆในวงก็จะได้รับฉายาที่เป็นตัวเองไปซึ่งก็คือ B Burning เป็นโค้ดเนมของจงฮยอน L Lovely เป็นโค้ดเนมมินฮยอก ส่วนโค้ดเนม U Untouchable เป็นของจองชินครับ และสุดท้ายสำหรับผมนั้นคำว่า E Emotional เป็นโค้ดเนมของผม คงเพราะว่าผมถนัดในเรื่องการแสดงความรู้สึกล่ะมั้งครับ

     

    จริงๆในประเทศญี่ปุ่นเราได้รับการยอมรับจากคนที่นั่นค่อนข้างมาก แม้ว่าจะเคยถูกตำรวจหิ้วไปนอนในห้องขังตั้งหนึ่งคืนเพราะไม่พกบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตออกมาด้วยเวลามาเล่นดนตรีข้างนอก แต่สุดท้ายพวกเราก็ได้รับการทาบทามให้เข้าไปเล่นในไนต์คลับของที่นั่นเลยนะครับ ประสบการณ์ในญี่ปุ่นเป็นอะไรที่น่าจดจำมากสำหรับผม และหนึ่งในความทรงจำที่ผมจะลืมไม่ได้เมื่ออยู่ที่ญี่ปุ่นก็คือ ซอจูฮยอนยังไงล่ะครับ ผมจะไม่มีวันลืมได้เลยจริงๆว่าเธอเคยตามไปหาผมถึงที่นั่น เธอคือความทรงจำที่มีค่ามากที่สุดสำหรับผม ไม่ใช่เพียงแค่ช่วงที่เราอยู่ญี่ปุ่นกันหรอกนะครับ แต่ผมอยากจะบอกให้เธอได้รู้ว่าช่วงเวลาทุกช่วงในชีวิตของผมตั้งแต่มีเธอเข้ามามันเป็นสิ่งมีค่าที่ผมจะไม่มีวันลืมได้เลยจริงๆ

     

                ในวันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะชึ้นโชว์บนเวทีในฐานะจองยงฮวาลีดเดอร์ของวง และขณะเดียวกันภรรยาแสนสวยของผมก็คัมแบ๊กสเตจวันนี้เช่นเดียวกัน ผมไม่รู้ว่ามันเป็นพรหมลิขิตหรืออย่างไร แต่ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวเมื่อรู้ว่าผมต้องขึ้นแสดงต่อหน้าซอฮยอน จริงอยู่ที่เธอเคยเห็นผมซ้อมกับน้องๆมาบ้างแล้ว แต่ในวันนี้มหกำลังแสดงในอีกมุมมองนึงที่ต่างออกไปนี่ครับ ผมตื่นเต้นจริงๆให้ตายสิ

     

                อ้อ! ตอนนี้ผมกำลังเดินไปหาโปรดิวเซอร์เพื่อคุยเรื่องคิวการแสดงพิเศษอยู่น่ะครับ เมื่อผมเดินเข้าไปก็ต้องพบกับประธานบริษัทของผมและประธานบริษัทของซอฮยอน ตัวแทนจากบริษัทนั้นในวันนี้เป็นคุณซีวอนกับคุณคยูฮยอนรุ่นพี่ของซอฮยอนที่ผมเคยเจอเมื่อตอนอยู่ร้านกาแฟครั้งนั้น ผมโค้งให้ทุกคนก่อนจะเดินไปยืนอยู่ข้างๆท่านประธาน

     

    คิดซะว่ามันเป็นของขวัญต้อนรับพวกนายก็แล้วกันนะ ไม่เคยมีศิลปินค่ายไหนที่ได้รับอะไรแบบนี้ทั้งๆที่ยังเป็นแค่เด็กฝึกหัดอยู่หรอกนะยงฮวา ทำมันออกมาให้ดีที่สุดนะเข้าใจมั๊ยท่านประธานพูดกับผมอย่างหนักแน่นก่อนจะเลี่ยงตัวเดินออกไปเพื่อเตรียมงานในส่วนอื่น

    ดีใจล่วงหน้าอย่างไม่เป็นทางการอีกครั้งนะครับคุณยงฮวารุ่นพี่ชเวซีวอนยื่มมือมาตบบ่าผมเบาๆ

    ขอบคุณมากครับที่ให้ความช่วยเหลือ

    แค่ทำมันออกมาให้ดีที่สุดอย่างที่ท่านประธานของนายบอกก็พอ

    ยังไงก็ต้องบอกว่าคุณโชคดีมากจริงๆนะครับ ผมเดบิวท์เป็นศิลปินมานานขนาดนี้ยังไม่เคยได้รับของขวัญที่ยิ่งใหญ่และเป็นเกียรติมากขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆคุณคยูฮยอนที่ยืนอยู่ข้างคุณซีวอนพูดกับผมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

    เดี๋ยวทางเราจะไปเตรียมเรื่องคิวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นอีกนิดหน่อย ยังไงก็ฝากโปรดิวเซอร์ช่วยดูแลเขาด้วยนะครับคุณซีวอนพูดกับผมก่อนจะหันไปโค้งให้โปรดิวเซอร์

    เธอได้อ่านคิวมาบ้างแล้วใช่มั๊ยยงฮวาผมพยักหน้าตอบไปให้โปรดิวเซอร์ก่อนจะขยับตัวไปยืนใกล้ๆเพื่อฟังคิวงานทั้งหมดอีกรอบ

    พอการแสดงของพวกเขาจบลง ก็จะมีช่วงโซโล่เพลงคัมแบ๊กสเตจของโซนยอชิแดซอจูฮยอน พอถึงท่อนที่เราตกลงกันไว้เธอก็เริ่มได้เลย ไฟบนเวทีจะค่อยๆมืดลงอย่างที่ซ้อมมานั่นแหละ หลังจากนั้นไปก็เป็นเวทีพิเศษของนายแล้วนะ ไหวใช่มั๊ยโปรดิวเซอร์หันมาถามผมอย่างเป็นห่วงก่อนจะยื่นมือมาตบบ่าของผม

    ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ ต้องรบกวนทุกคนแล้วล่ะ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับผมโค้งอีกครั้งเป็นคำขอบคุณก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องพักเพื่อเตรียมตัวขึ้นแสดงในเวทีแรกของผม

     

                ผมเดินกลับไปถึงห้องพักก็พบว่าน้องๆคนอื่นกำลังยืนคุยกันอย่างกระวนกระวาย จงฮยอนหันมาเห็นผมคนแรก เขารีบวิ่งไปหยิบช็อกโกแล็ตแท่งมายื่นให้ผมทันที

    พี่กินเข้าไปเยอะๆเลยนะครับ ผมรู้ว่าเวลาพี่ตื่นเต้นน่ะพี่ต้องกินช็อกโกแล็ต

    ขอบใจนะจงฮยอนผมรีบคว้าช็อกโกแล็ตในมืของจงฮยอนมากินทันที เมื่อรสชาติหวานปนขมของช็อกโกแล็ตแตะลิ้น ความตื่นเต้นของผมก็ค่อยๆหายไปทีละนิดๆ

    พี่ฮะ ผมตื่นเต้นจังมินฮยอกพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบในห้อง ผมดื่มน้ำเปล่าตามลงไปอึกหนึ่งก่อนจะเริ่มพูดในสิ่งที่ลีดเดอร์ควรจะพูดก่อนการแสดง

    พวกนายก็รู้ใช่มั๊ยว่านี่เป็นเวทีแรกของเรา ในบ้านเกิดของเราเอง และเป็นเหมือนการเริ่มต้นอย่างจริงๆของซีเอ็นบลู

    “…”

    ฉันอยากจะบอกพวกนายว่า เราผ่านอะไรมาด้วยกันก็มากแล้ว อยู่ที่ญี่ปุ่นเล่นบนเวทีในคลับดังๆก็เคยมาแล้ว จำความรู้สึกตอนขึ้นเวทีครั้งแรกในคลับนั่นมาใช้ที่นี่ แต่พวกนายจะต้องบวกสมาธิและความตั้งใจลงไปให้มากเป็นเท่าตัว เพราะแม้เราจะเล่นด้วยความรู้สึกที่เกิดบนเวทีนั้น แต่ในเวทีนี้มันสำคัญและยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก พวกนายต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อที่ว่าจะได้ไม่มานั่งเสียใจทีหลังเมื่อเราลงจากเวทีแล้ว

    “…”

    ซีเอ็นบลูจะได้รับการยอมรับรึเปล่าขึ้นอยู่ที่ใจของพวกเราแล้วนะผมพูดอย่างหนักแน่นก่อนจะยื่นมือออกไป ทุกคนมองหน้าผมก่อนจะวางมือลงมาบนมือของผมช้าๆ

    ซีเอ็นบลูไฟท์ติ้ง!!!!” พวกเราร้องตะโกนชื่อวงเสียงดังเพื่อสร้างขวัญกำลังใจก่อนจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อเดินขึ้นเวที

     

    ระวังหัวใจไว้ดีๆนะครับ พวกเรากำลังจะไปขโมยหัวใจของคุณแล้ว 

     

     

     

     

    ซอจูฮยอน ก่อนขึ้นเวทีหนึ่งชั่วโมง

     

    นั่งยิ้มตามตาไม่กระพริบเลยนะมักเน่~” เมื่อการแสดงของพี่ยงฮวาจบลงพี่สาวทุกคนก็พร้อมใจกันหันมาแซวฉันอย่างพร้อมเรียง

    พวกเธอก็ไปแซวน้องอย่างนั้น น้องไม่ได้มองตาไม่กระพริบนะ น้องลืมหายใจไปเลยล่ะ ฮ่าๆ

    “>////<” ฉันปล่อยให้พี่สาวแซวฉันกันอย่างสนุกสนาน เพราะสิ่งที่ทุกคนพูดล้วนแต่เป็นความจริงทั้งนั้น

     

                ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้กลับมาใส่ชุดที่เข้าคอนเซ็ปการคัมแบ๊ก มันเป็นเหมือนกับสิ่งย้ำเตือนให้ฉันรู้ว่าฉันคือโซนยอชิแดจริงๆ และขณะที่ฉันกับพี่ๆคนอื่นมานั่งที่โต๊ะของโซนยอชิแดที่ถูกจัดไว้อยู่ทางข้างซ้ายของเวทีแล้วนั้น ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนร่วมวงการคนเก่าๆต่างก็เข้ามาทักทายและร่วมแสดงความยินดีกับฉันกันอย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งชื่อวงดนตรีที่ไม่คุ้นกูดังขึ้นมาเรียกความสนใจให้ฉันหันกลับไปมอง พี่ยุนอาเอียงตัวมากระซิบบอกเบาๆว่านั่นคือวงของพี่ยงฮวา เพียงแค่ได้ยินคำบอกเล่านั้นหัวใจของฉันก็เริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่งทันที สายตาของฉันโฟกัสไปบนเวทีอย่างรวดเร็ว การแสดงของพี่ยงฮวากำลังเริ่มขึ้น!

     

                น้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์จังหวะหนักๆของดนตรีที่ไม่ค่อยได้ฟังบ่อยเท่าไหร่และนักร้องที่คุ้นตา ครั้งแรกที่เห็นพี่ยงฮวาบนเวทีฉันแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เลยทีเดียว แต่ก็ทำได้ก็เพียงแค่ให้มันคลอไปมาอยู่ในดวงตาเท่านั้น ฉันห้ามไม่ให้ตัวเองกรี๊ดออกมาได้จนจบการแสดง แม้ว่าในหัวใจจะส่งเสียงตะโกนชื่อของพี่ยงฮวาออกไปดังแค่ไหน สิ่งที่ไอดอลคนนึงทำได้ในตอนนี้ก็คือนั่งนิ่งๆต่อไปเท่านั้น ตลอดการแสดงฉันไม่อาจละสายตาไปจากพี่ยงฮวาได้จริงๆ ฉันจำได้ว่าเมื่อครั้งที่ฉันไปหาเขาที่ญี่ปุ่นเขายังดูร่าเริงสดใสเป็นพี่ยงฮวาของฉันคนเดิม แต่ในวันนี้ด้วยภาพลักษณ์ที่ต่างออกไปบวกกับการที่ฉันไม่ได้เจอหน้าเขานานเกือบเดือนทำให้การกลับมาปรากฏตัวบนเวทีของพี่ยงฮวาในครั้งนี้ทำให้ฉันประหลาดใจและดีใจปนเปกันไปหมด

     

                เมื่อการแสดงอีกสองสามชุดผ่านไปฉันกับพี่สาวก็ต้องลงไปหลังเวทีเพื่อเตรียมตัวขึ้นโชว์คัมแบ๊กสเตจของเรา ฉันหวังให้พี่ยงฮวายังไม่ไปไหนไกลจากหลังเวทีมากนัก เวลานี้ถ้าฉันได้กุมมือเขาเอาไว้แล้วให้เขาให้กำลังใจฉันสักนิดคงจะดีไม่น้อย ฉันสูดหายใจเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะเดินไปรวมกับพี่สาวคนอื่นๆ

    เวลาของเรามาถึงแล้วนะ ทุกคนต่างเฝ้ารอให้เราได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้งและตอนนี้เราก็กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งจนได้ หลังจากวันนี้ไปเราจะไม่มีวันแยกจากกันอีกเข้าใจใช่มั๊ย เพราะฉะนั้นมาร่วมกันทำวันนี้ของพวกเราให้เป็นวันดีที่น่าจดจำกันเถอะ

    “…”

    พวกเราคือโซนยอชิแด!!! ไฟท์ติ้ง!!!” หลังจากพี่แทยอนทำหน้าที่เรียกขวัญและกำลังใจให้แก่พวกเราแล้วนั้น พี่ๆทุกคนก็ทยอยมากอดฉันทีละคนด้วยอ้อมกอดแสนอบอุ่น และทุกคนได้ส่งมอบความรักที่บริสุทธิ์มาให้กำลังใจฉันผ่านอ้อมกอดเหล่านั้น ฉันปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าหัวใจของฉันเหมือนมีน้ำทิพย์มาชุบชีวิตให้มันมีพลังขึ้นมาอีกครั้ง

     

                ฉันกำลังจะกลับไปเป็นในสิ่งที่สร้างมาเพื่อให้ฉันเป็น ฉันคือโซนยอชิแดซอจูฮยอน!

     

     

    ซอจูฮยอนโซโล่

    by : จองยงฮวา

     

                ตอนนี้ผมกลับมาอยู่หลังเวทีอีกครั้งแล้วครับ สาวๆโซนยอชิแดที่ร้องจบท่อนของตัวเองแล้วเริ่มทยอยลงมาจากเวทีอย่างรวดเร็วเหลือก็เพียงแต่มักเน่ของวงที่ยังคงยืนอยู่ข้างบนเพื่อร้องในท่อนโซโล่ของตัวเอง สาวๆแต่ละคนให้กำลังใจผมอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบวิ่งไปเพื่อเตรียมทำภารกิจต่อไป ฝ่ายเวทีก็รีบยกอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในในเวทีต่อไปขึ้นไปช้าๆ สต๊าฟสองคนยืนประจำที่อยู่หลังม่านที่คั่นเอาไว้ระหว่างเวทีสำหรับการแสดงกับเวทีสำหรับเตรียมฉาก ผมล้วงมือเข้าไปสัมผัสบางอย่างช้าๆ เมื่อนิ้วของผมสัมผัสถึงสิ่งๆนั้นหัวใจของผมก็เริ่มสงบลง ไฟข้างเวทีค่อยๆมืดลงเป็นการให้สัญญาณพร้อมๆกับเนื้อเพลงท่อนที่โปรดิวเซอร์บอกค่อยๆถูกขับกล่อมออกมาช้าๆ

               

                ร่างสูงเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างแผ่วเบาก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ข้างกายของหญิงสาวร่างบางที่ยังคงไม่รู้เรื่องว่าคิวการแสดงได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว ไฟค่อยๆดับลงช้าๆเหมือนที่ซอฮยอนซ้อมมา ไฟทุกดวงบนเวทีจะมืดลงสนิทจนกระทั่งเมื่อสปอร์ตไลท์ตัวใหญ่ส่องตรงมาที่เธอ เธอค่อยเริ่มร้องเพลงท่อนต่อไป หญิงสาวผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อเรียกสมาธิให้ตัวเองและในใจก็นับเวลารอให้สปอร์ตไลท์ฉายมาที่เธอเพื่อที่จะได้ร้องเพลงท่อนต่อไป หากแต่มันกลับไม่เป็นเช่นที่เธอซ้อมมา! เสียงนุ่มๆที่คุ้นหูดังขึ้นช้าๆในบทเพลงรักซึ้งๆ ซอฮยอนตกใจมากจนหัวใจแทบหยุดเต้น เธอกำลังจะวิ่งลงจากเวทีเพื่อไปถามคิวงานจากสต๊าฟแต่ทว่าแสงสปอร์ตไลท์ก็ฉายขึ้นมาซะก่อน เมื่อแสงไฟที่สุกสว่างส่องตรงมาที่ๆเธอยืนอยู่นั่นเองร่างบางจึงได้พบว่าบัดนี้มีคนอีกคนยืนอยู่เคียงข้างเธอซะแล้ว

     

                ยงฮวาค่อยๆร้องเพลงที่เขาเตรียมมาไปเรื่อยๆ ในตอนนี้สายตาคมของเขาจับจ้องไปที่ผู้หญิงตรงหน้าเท่านั้น เขาค่อยๆมองไปทีละส่วนชนในหน้าของเธอ ไล่มาตั้งแต่เรือนผมสวยที่วันนี้ถูกทำเป็นทรงให้เข้าคอนเซ็ปอัลบั้ม มาจนถุงเปลือกตาที่มีแพขนจาหนาเรียงตัวอยู่ เขามองไปเรื่อยๆผ่านจมูกโด่งรั้นไปจนถึงพวงแก้มขาวเนียนและเรียวปากอวบอิ่มได้รูป ยงฮวาค่อยๆเดินเข้าไปหาซอฮยอนช้าๆ ร่างบางมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ไม่ได้ก้าวหนีเขาไปไหน ยงฮวาร้องมาจนถึงท่อนสำคัญ ร่างสูงย่อตัวลงไปด้วยเข่าหนึ่งข้างอย่างเตรียมพร้อมก่อนเสียงนุ่มจะค่อยๆร้องเพลงท่อนสำคัญออกมา

               

    “…”

    แต่งงานกันนะซอฮยอน…” จองยงฮวาเอ่ยกับหญิงสาวตรงหน้าช้าๆก่อนฝ่ามือของเขาจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบตลับกำมะหยี่สีแดงออกมา เขาเปิดมันออกช้าๆเพื่อให้หญิงสาวได้เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

    “…!!” ซอฮยอนที่ได้เห็นแหวนเพชรสองวงส่องประกายอยู่ในนั้นก็ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเพื่อป้องกันการกรีดร้องออกไปทันที

    ได้มั๊ยครับ คุณจะแต่งงานกับผมได้มั๊ยครับซอจูฮยอน…” ยงฮวายังคงย้ำคำถามเดิมออกไป เขาจะพูดจนกว่าซอฮยอนจะตอบตกลง ในเวลานี้เขาลืมมันไปหมดแล้วล่ะให้กำหนดเวลาที่บอกเอาไว้ว่าเขามีเวลาบนเวทีเท่าไหร่น่ะ ยงฮวารู้เพียงแต่ว่าเขาจะคุกเข่าอยู่อย่างนี้แลละพูดประโยคนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าผู้หญิงตรงหน้าจะตอบตกลง ต่อให้นานแค่ไหนเขาก็จะทำ

    พี่ยงฮวาเล่นอะไรคะ…”

    พี่ไม่ได้เล่นนะ พี่กำลังขอเธอแต่งงานจริงๆ แต่งงานกับพี่นะฮยอน

    “…”

    “…” ผมและเธอจ้องตากันไปมาเพื่อค้นหาความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ในดวงจาของอีกฝ่าย แต่ซอฮยอนก็ต้องละสายตาออกไปซะก่อน ร่างบางถอนหายใจช้าๆอย่างคิดไม่ตก คงเป็นเพราะสิ่งที่เธอพบบเจอในดวงจาของผมมันมีแต่คำว่าความจริงก็เป็นได้

    แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย!” เสียงเชียร์โห่ร้องเริ่มดังขึ้นมาจากบรรดาพี่สาวโซนยอชิแดของซอฮยอน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเชียร์จากบรรดาน้องชายของผม แม้ว่าคนอีกหลายพันคนจะยังงงกับการกระทำของผม แต่กลุ่มคนใกล้ตัวที่รู้เรื่องราวล่วงหน้าต่างพากันส่งเสียงเชียร์เราไม่ขาดสาย ซอฮยอนเริ่มมองไปรอบๆอย่างตกใจก่อนแก้มขาวเนียนของเธอจะขึ้นสีชมพูระเรื่อช้าๆ

    เชื่อพี่ได้รึยังฮยอนพี่กำลังขอเธอแต่งงานจริงๆนะ

    “…”

    แต่งงานกับผมนะครับซอฮยอนเธอลังเลใจไม่น้อยผมสังเกตได้ ซอฮยอนมองเข้ามาในตาของผมอีกครั้ง

    นี่เป็นเรื่องจริงใช่มั๊ยคะพี่ยงฮวาเสียงหวานเอ่ยถามผมแผ่วเบา

    จริงกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับผมผมเอ่ยย้ำอย่างหนักแน่นเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เธอ

    งั้นช่วยพูดมันอีกครั้งจะได้มั๊ยคะซอฮยอนบอกออกมาอย่างเอียงอายก่อนร่างบางจะก้มหน้างุดลงไปมองที่ปลายเท้าของตัวเอง ตอนนี้รอบกายของเราไม่มีเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย หรือเป็นเพราะหัวใจของผมมันเต้นแรงจนเสียงหัวใจมันกลบทุกเสียงรอบตัวไปเลยก็ว่าได้ล่ะครับ

    แต่งงานกับพี่นะฮยอน…”

    “…”

    “…”

    ไม่แต่ง…”

    “…!!!”

    ไม่แต่ง...ได้ยังไงล่ะคะ ก็พี่ขอฉันทั้งทีนี่เนอะเธอตอบผมอย่างยียวนก่อนจะเฉลยคำตอบที่แท้จริงออกมา วินาทีที่ได้ยินคำตอบนั้นของซอฮยอน หัวใจของผมที่บีบตัวไม่เป็นจังหวะและความหนักอึ้งทุกอย่างที่ผมแบกเอาไว้เหมือนได้รับการปลดปล่อย ผมบรรจงสวมแหวนวงใหม่ลงไปบนนิ้วเรียวของเธอช้าๆ เธอเองก็ใส่แหวนกลับให้ผมด้วยเหมือนกัน แสงไฟเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งพร้อมกับผ้าม่านสีแดงที่ถูกเปิดออกเผยให้เห็นเวทีพิเศษที่ผมเตรียมเอาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

     

                ผมจูงมือซอฮยอนเดินไปหยุดอยู่หน้าแท่นพิธีที่มีบาทหลวงคนหนึ่งยืนยิ้มรอเราอยู่ สองข้างบนเวทีกลายเป็นพื้นที่ของบรรดาพี่สาวโซนยอชิแด รุ่นพี่ทงบังชินกิ รุ่นพี่ซูเปอร์จูเนียร์และน้องๆในวงของผม และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือท่านประธานบริษัทของเราสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆบาทหลวง ผมโค้งหัวให้ท่านประธานของผมช้าๆแทนคำขอบคุณ ก่อนจะหันไปโค้งขอบคุณให้แก่รุ่นพี่อีทึกที่ยืนอยู่ข้างๆกัน

     

    เชื่อใจพี่นะฮยอน…” ผมดึงมือร่างบางที่ยังงงงวยกับเหตุการณ์ตรงหน้ามห้มาคล้องไว้ที่แขนของผม ก่อนเราสองคนจะเดินเข้าไปหยุดอยู่หน้าแท่นพิธีและบาทหลวงก็เริ่มพูดประโยคเดิมที่เราคุ้นเคย ประโยคที่เราสองคนเคยตอบมาแล้วเมื่อครั้งนั้นที่เราแต่งงานกัน

     

    จองยงฮวาลูกจะยอมรับผู้หญิงคนนี้ ซอจูฮยอนเป็นภรรยาเพื่ออยู่เคียงคู่ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ในทุกช่วงเวลาของลูกหรือไม่…”

    “…” ผมหันไปมองมินฮยอกนิดหน่อย เขาส่งกว้างยิ้มมาให้ผม ผมยิ้มตอบเขากลับไปก่อนจะหันไปสบตากับบาทหลวงตรงหน้า ถ้าคุณยังจำได้ว่า ในครั้งก่อนผมสบตากับมินฮยอกเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้เขาเงียบและนั่งลง เพราะในตอนนั้นมินฮยอกกลัวว่าผมยังพูดไม่ได้เขาเลยยืนขึ้นเพื่อจะบอกเรื่องนี้กับบาทหลวง แต่ผมก็ส่งสายตาเป็นสัญญาณให้เขานั่งลงเสียก่อน เพราะผมมีความรู้สึกว่าผมจะต้องพูดมันได้แน่ และในครั้งนั้นผมก็พูดมันออกมาได้จริงๆ…!

    ผมรับครับคำตอบที่ผมเฝ้าฝันว่าสักวันจะได้พูดอีกครั้งในงานแต่งงานของผมกับซอฮยอนถูกเอื้อนเอ่ยออกมาแล้ว คำๆนี้ผมได้ใส่ทุกความรู้สึกลงไปเพื่อบอกให้ซอฮยอนรู้ว่าผมรอคอยเวลานี้มานานแค่ไหน เพื่อบอกให้เธอรู้ว่าผมปรารถนาที่จะพูดคำนี้ด้วยความรู้สึกที่ว่าผมอยากแต่งงานกับเธอจริงๆไม่ใช่เพราะต่างคนต่างก็ถูกขอร้องให้มาแต่งงานกันแบบครั้งที่แล้ว

     

    หวังว่าเธอจะสัมผัสถึงมันได้นะซอจูฮยอน

     

     

    แล้วลูกหล่ะซอฮยอน ลูกจะยอมรับผู้ชายคนนี้ จองยงฮวาเป็นสามีเพื่ออยู่เคียงคู่ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ในทุกช่วงเวลาของลูกหรือไม่…”

    เอ่อ…”

    “…”

    “…” ซอฮยอนหันมาสบตาผมช้าๆ ผมจึงบีบมือของเธอเบาๆแทนคำพูดที่อยากจะพูด เธอค่อยๆยิ้มออกมาช้าๆก่อนจะหันไปมองหน้าบาทหลวงผู้ทำพิธี

    ฉันรับค่ะ

    และบัดนี้ พ่อขอประกาศว่าเจ้าทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว ขอให้เคียงคู่กันไปตราบจนเจ้าจะตายจากกัน หากมีอะไรก็ขอให้ช่วยเหลือกัน พระเจ้าจะคอยเฝ้าดูความรักของลูกเสมอ

     

                เมื่อบาทหลวงกล่าวจบเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นมากึกก้องกว่าครั้งแรก สาวๆโซนยอชิแดเดินเข้ามาโปรยดอกไม้ให้แก่พวกเรา ผมหันไปสบตาซอฮยอนก่อนจะค่อยๆดึงร่างบางเข้ามาจุมพิตเบาๆที่หน้าผากนวล แม้ว่าผมอยากจะสัมผัสริมฝีปากได้รูปนั้นมากเท่าไหร่แต่การห้ามใจเป็นสิ่งที่ผมควรทำเพื่อที่ซอฮยอนจะได้ไม่ถูกมองเสียๆหายๆ หลังจากผมถอนจุมพิตที่แนบแน่นนั่นออกจากหน้าผากของเธอ ซอฮยอนก็น้ำตาไหลลงมาช้าๆ ผมหัวเราะให้กับความอดทนขั้นสุดยอดของเธอเบาๆ เธอคงจะกลั้นมันเอาไว้นานพอสมควรเลยสินะเด็กน้อย... ผมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกเป็นห่วงที่มีอยู่เต็มหัวใจ ตอนนี้ประธานบริษัททั้งสองท่านขึ้นไปยืนบนแท่นแทนที่บาทหลวงเพื่อดำเนินการขั้นต่อไปแล้ว

     

    สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านและเหล่าชนที่อยู่ในงานโซลมิวสิคเฟสติวัลครั้งนี้ ผมคือประธานบริษัทFNCต้นสังกัดของนักร้องนำจองยงฮวาแห่งวงซีเอ็นบลู หรือจะเรียกว่าเจ้าบ่าวของงานก็ได้ครับ

    ส่วนผมคือปาร์กจองซู เป็นตัวแทนจากวี เอนเตอร์เทนเมนท์ ต้นสังกัดใหม่ของวงโซนยอชิแดครับ

    ในวันนี้ทางเราสองบริษัทได้ลงความเห็นกันเอาไว้เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ซึ่งเรามีความเห็นตรงกันคือต้องจัดงานแถลงข่าวขึ้นมา แท้จริงแล้วคนสองคนนี้ได้แต่งงานกันอยู่ก่อนแล้วเมื่อครั้งที่ฝ่ายเจ้าสาวยังไม่ได้คัมแบ๊กเป็นโซนยอชิแด แต่เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นและเพื่อให้อิสรภาพในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ผมจึงได้จัดให้มีเวทีพิเศษนี้ขึ้นเพื่อแถลงข่าวครับ

    “…” ท่านประธานของผมยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆเพื่อชี้แจงที่มาของเวทีพิเศษในครั้งนี้

    ผมเป็นคนเสนอเองว่าถ้าเราจะจัดเป็นอีเว้นท์เล็กๆจะได้ไหม ซึ่งทางบริษัทฝ่ายเจ้าสาวก็เห็นด้วยและตกลง ผมจึงได้มาเสนอวิธีแถลงข่าวนี้ให่แก่ฝ่ายเจ้าบ่าวเพื่อเตรียมเซอร์ไพรส์เจ้าสาว และผลของมันก็ออกมาน่าพึงพอใจมากทีเดียว ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะให้ความรักและการสนับสนุนพวกเขาทั้งสองคนตลอดไปนะครับ อย่าตัดสินผลงานของศิลปินเพียงเพราะเขามีคนที่เขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมีพวกคุณมาสนบสนุนก็ได้ ไม่จริงเลยครับสำหรับประเด็นนี้ ผมอยากจะให้มองคนทั้งสองเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งและผู้หญิงคนหนึ่งที่มาแต่งงานกันและต่างคนต่างก็มีอาชีพเป็นของตัวเอง

    “…”

    อย่าได้กีดกันความรักที่บริสุทธิ์นี้เลยนะครับ และโปรดช่วยให้ความรักแก่คนทั้งสองไปนานๆนะครับเมื่อท่านประธานของผมพูดจบ เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องสนับสนุนเราสองคนก็ค่อยๆดังขึ้นมาอีกครั้ง

     

                ผมหันไปสบตาซอฮยอนช้าๆ เธอเองก็กำลังมองมาที่ผมเหมือนกัน เรามองตากันอยู่อย่างนั้นดยไม่สนใจเลยว่ารอบตัวของเราตอนนี้จะมีคนอีกกี่คนรายล้อมเราอยู่ ในช่วงเวลานั้นสิ่งที่ผมสัมผัสได้มีเพียงแค่ ซอจูฮยอน ผู้หญิงที่เป็นคนกอบกุมหัวใจของผมเอาไว้ ผู้หญิงที่เป็นเหมือนครึ่งชีวิตที่หายไปของผม ผู้หญิงที่เป็นภรรยาของผมและเธอยังเป็นผู้หญิงที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผมจะสามารถรักใครสักคนได้มากขนาดนี้ ถ้าผมต้องละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมละก็ ซอฮยอนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเลือกจะปล่อยมือ

     

    เราแต่งงานกันอีกรอบแล้วนะคะพี่ยงฮวา…” เธอพูดขึ้นมาเบาๆให้พอได้ยินกันสองคน

    แต่ถึงเราจะแต่งงานกันครั้งที่สอง ไม่ดีหรือไงที่ต่างคนก็ยังมีเจ้าบ่าวเจ้าสาวคนเดิมน่ะ หืออ~” เธอก้มหน้าทันทีเมื่อผมพูดประโยคนั้นออกไป ฝ่ามือเล็กที่ถูกผมกอบกุมเอาไว้บีบมือผมเบาๆ ผมบีบมือตอบเธอกลับไป ซอฮยอนพูดขึ้นมาอีกครั้งโดยที่ไม่มองหน้าผม

    ฉันไม่คิดว่าพี่จะทำเพื่อฉันขนาดนี้เลย

    เงยหน้ามามองพี่ก่อนน่าฮยอน~ พี่อยากเห็นหน้าเธอเวลาเธอเขินนะรู้มั๊ย

    อะไรกันคะพี่!” เธอหันมาฟาดแขนผมเบาๆ

    พี่รักเธอนะซอฮยอน

    “…” จังหวะที่เธอหันหน้ากลับมาผมเลยเอ่ยคำบางคำออกไปเพื่อย้ำให้เธอรู้ในสิ่งที่ผมรู้สึกกับเธอ

    พี่รักเธอ

    ฉันก็รักพี่เหมือนกันค่ะเธอตอบผมกลับมาอย่างหนักแน่นเช่นเดียวกัน เรายิ้มกว้างให้กันอย่างมีความสุข

    ถ้าชีวิตของเราเป็นนิยายสักเรื่อง และเราเริ่มต้นกันมาอย่างสวยหรู พี่ว่าตอนจบของเราจะเป็นยังไงคะเสียงหวานเอ่ยถามออกมา อืมคำถามของเธอทำไมถึงได้ดูใสซื่อและบริสุทธิ์ขนาดนี้นะ เด็กน้อยฮยอนของผมน่ารักจัง >////<

    พี่ว่าเราจะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งมั๊ยคะยงงง~” เธอยังคงถามต่อไปและจบคำถามลงด้วยชื่อเล่นของผมที่เธอตั้งให้ ผมอดที่จะยิ้มออกมาอีกรอบไม่ได้จริงๆ ทำไมเธอถึงน่ารักขนาดนี้นะจูฮยอน ผมหันไปมองหน้าหญิงสาวข้างกายตรงๆก่อนจะตอบคำถามที่เธอสงสัย

    ตอนจบของเราน่ะมันไม่มีหรอกนะ

    หืมม?

    เรื่องของเราจะไม่มีคำว่าตอนจบเพราะพี่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับเธอได้ทุกเมื่อ

    “…”

    ถ้าเราคิดว่าเราใกล้จะถึงจุดอิ่มตัวแล้วหล่ะก็ พี่จะเป็นคนถอยหลังออกมาเพื่อขอเธอเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเอง บางทีเธออาจจะไม่รู้พี่น่ะสามารถตกหลุมรักเธอได้ใหม่เป็นร้อยๆครั้งเลยนะรู้มั๊ยซอฮยอน…” ผมตอบคำถามคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมี ผมพูดออกไปในสิ่งที่หัวใจของผมคิด ผมจะไม่มีวันทำให้เรื่องของผมกับเธอต้องมีคำว่าตอนจบอย่างแน่นอน ผมสัญญา

    พี่รู้อะไรมั๊ยคะ ยงงง~”

    “…”

    ฉันเองก็พร้อมจะตกหลุมรักพี่ใหม่ได้เป็นพันๆครั้งเลยเหมือนกัน

    “…”

    แค่บอกเอาไว้เผื่อพี่อาจจะไม่เคยรู้ฉันน่ะรักพี่มากกว่าที่พี่รักฉันอีกนะซอฮยอนพูดกับผมด้วยน้ำเสียงมั่นใจกว่าทุกครั้งที่ผมเคยฟัง เธอยิ้มกวนๆส่งมาให้ผมก่อนจะพูดต่อไปอย่างมีความสุข

    “…”

    เรื่องของเรามันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเองค่ะ J”  

     

     

     

     

     

     

    Just say yes…….Now,Ending  














    "-----------------------------------------------------------------------

    Talk with writer :

     

     

     

    ในที่สุดตอนนี้ก็มาถึงสินะคะ

    หวานตรวจทุกอย่าง เกลาตอนจบเสร็จ ณ  เวลา 03:38 . 22 January 2012

    ขอบคุณทุกความรู้สึกดีๆที่มีให้กันมาอย่างสม่ำเสมอนะคะ

    สำหรับใครที่เพิ่งติดตามได้ไม่นานหวานก็ต้องขอบคุณอยู่ดี

    ที่อย่างน้อยคุณก็เลือกจะคลิกเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้

    ไม่รู้สิคะ ตอนเขียนตอนนี้หวานแก้ประมาณห้าครั้งได้อ่ะ

    แต่งยังไงก็ไม่โดนใจซักที ลบๆแก้ๆอยู่นั่นแหละเลยมาอัพช้า

     

    หรืออู้ไม่อยากมาอัพเพราะไม่อยากให้จบก็ไม่รู้เหมือนกัน 5555555555

     

    สำหรับใครที่บอกว่าสามารถยืดเรื่องได้ออกไปอีกเยอะ

    หวานเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ แต่พลอตของเรื่องนี้ที่หวานวางไว้จบเพียงแค่นี้จริงๆ

    ในกระดาษที่ร่างหวานเขียนไปแค่17ตอนเอง รวมพาร์ทสเปเชียลพี่ยงแล้วด้วยนะใน17ตอนน่ะ

    ก็ไม่รู้ทำไมถึงไหลลื่นมาได้ไกลถึง21ตอน บวกตอนสเปเชี่ยลอีก4ตอน

    ที่คุณติดค้างในใจอาจจะเป็นเพราะในตอนที่20หวานถ่ายทอดเรื่องราวออกมาไม่ได้ฟีลละมั้งคะ

    คงเป็นเพราะหวานใจร้อนรีบตัดตอนจบแบบรวบรัดเกินไปสินะ

    หลายๆคนเลยคิดว่ามันไม่น่าจะจบแบบนี้



    แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่อยากบอกไว้ก็คือ

    เนื่องด้วยเหตุผลสำคัญเลยคือ หวานขึ้นม6แล้วค่ะ ปีนี้หวานต้องเอนท์แล้ว

    หวานคงจะต้องเอาเวลาที่เคยทุ่มเทให้ฟิคเรื่องนี้ไปทุ่มเทให้ตัวเองบ้างแล้วล่ะค่ะ

    ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้หวานถึงกำหนดตอนจบของเรื่องนี้ลงในตอนที่21

    แต่อย่างที่บอก หวานร่างพลอตเอาไว้แค่นี้จริงๆค่ะ

    ใครที่คิดว่าหวานด้นสดแต่งๆเรื่อยๆแบบไม่มีทิศทางก็คิดใหม่เลยนะคะ

    ฟิคเรื่องนี้หวานวางโครงไว้นานมากจริงๆกว่าจะเขียนได้แต่ละตอน

    เวลาที่หวานเหนื่อยหวานก็จะเปิดดูวีก๊อทแมรี่ของพี่ยงกับน้องซอ

    เปิดดูรูป เปิดดูโมเม้นต์ของสองคนนี้ ไม่น่าเชื่อจริงๆว่ามันจะทำให้หวานมีกำลังใจขึ้นมาได้

    ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนมากนะคะที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้

    แค่คนสองคน แค่ฟิคเรื่องเดียวก็ทำให้เราได้มารู้จักกันเนอะ^^



    ก็ต้องขอโทษมาจริงๆนะคะถ้าทำให้ผิดหวังกับตอนจบถ้าไม่ถูกใจใคร

    แต่คุณอ่านดูดีๆนะคะ ประโยคสุดท้ายที่น้องซอพูดคืออะไร
    เปิดใจของคุณให้กว้างแล้วค่อยๆคิด
    หวานมีของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้ทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ
    เพียงแต่ว่า หวานจะพร้อมมอบมันให้แก่พวกคุณตอนไหนก็อีกเรื่องนึงเท่านั้นเอง
    อดทนกันหน่อยนะคะ ในอนาคตถ้าอะไรๆลงตัวหวานอาจจะมี
    Just restart! มาฝากก็ได้นะ

    (แอบวางโครงไว้แล้วแหละนิดนึง ฮี่ๆ >w<) 




    ถ้ามีโอกาสหน้าหวานว่าเราจะต้องได้เจอกันอีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ

    รักและสนับสนุนซีเอ็นบลูกับโซนยอชิแดไปนานๆนะคะ

     

    อ้อ! จะรักหวานบ้างสักนิดก็ไม่ว่าหรอกนะ คึคึ~

    หวานรักคุณมากนะคะรีดเดอร์

    ขอบคุณสำหรับ 856comments 54Favorites

    และโหวตมากถึง 80%


    ด้วยรักอย่างหมดหัวใจ จุ๊บๆ -3-

    ไอแอมพีเอสสึ

     

    ปล.รายละเอียดรวมเล่ม(คร่าวๆ)จิ้มไปตอนต่อไปเลยค่ะ


    ----------------------------------

    ชี้แจงเพิ่มเติมค่ะ
    (ตอนแรกเอาไปตอบในคอมเม้น เเต่กลัวคนอื่นไม่เห็น ขอย้ายมาในนี้ละกันนะคะ)


    จริงๆแล้วหวานอยากเก็บคู่อื่นๆไว้ไปแต่งเป็นเรื่องใหม่อีกเรื่องนึงน่ะค่ะ
    แต่ในเมื่อเวลามันไม่อำนวย แต่ทุกคนก็คงอยากรู้ตอนจบสินะ

    เอาอย่างนี้ละกันเนอะ เดี๋ยวหวานจะแต่งของ
    -จองชิน ยุนอา 
    -มินฮยอก ซูจี
    -จงฮยอน ยูอี 
    สามคู่นี้จะเขียนให้จบประมาณคู่ละ10ตอนละกันนะคะ 
    จะไม่ร่นเนื้อหาให้สั้นจนอ่านแล้วเสียอารมณ์
    แต่จะพยายามเอาฉากสำคัญมาปะติดปะต่อกันให้ได้มากที่สุดละกันเนอะ

    อดใจรอกันก่อนนะคะ ช่วงนี้หวานเริ่มเตรียมตัวเเล้วค่ะ แล้วก็ต้องเตรียมรวมเล่มด้วย
    แต่จะกลั่นกรองออกมาให้ดีที่สุดนะคะ 

    ไม่แน่ถ้าหวานแต่งสามคู่นี้ทันรวมเล่ม จะเพิ่มเข้าไปให้เป็นตอนพิเศษในเล่มละกันนะคะ

    ไอแอมพีเอสสึ :)


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×