คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ตอนที่21(THE END)
ตอนที่21
ตอนนี้ฉันกลับมาอยู่ที่เกาหลีเพื่อเตรียมตัวคัมแบ๊กในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี่แล้ว ทุกคนต่างเป็นห่วงฉันกันให้วุ่น โดยเฉพาะเด็กสาวคนหนึ่งที่เป็นห่วงฉันมากกว่าใครเพื่อน
เบซูซี่
“กลับมาแล้ว
” ฉันเปิดประตูเข้าห้องไป และเมื่อเห็นซูซี่กำลังนั่งเหม่ออยู่ที่โซฟาก็เลยพูดแสดงตัวว่าฉันกำลังจะเข้าไปในห้อง
“พี่ซอฮยอน!!!” ซูซี่วิ่งเข้ามาก่อนจะดึงฉันเข้าไปกอด
“ฉันขอโทษนะคะที่คิดไม่ดีกับพี่แบบนั้น แต่ฉันแค่
” ซูซี่บอกฉันอย่างรู้สึกผิด ฉันยิ้มบางๆกับตัวเองก่อนจะกอดตอบหญิงสาวรุ่นน้องไป
“ไม่เป็นไรหรอกนะ เธอมีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้นเพราะพี่เองก็ทำมากเกินไปจริงๆ”
“แต่ตอนที่พี่ยุนอาบอกว่าพี่ไปญี่ปุ่นเพื่อไปหาพี่ยงฮวาน่ะ ฉันตกใจมากจริงๆนะคะ ฉันกลัวว่าเพราะฉันพูดแรงเกินไปพี่เลยรู้สึกแย่ ขอโทษนะคะพี่”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ว่าแต่ว่างอยู่รึเปล่าซูซี่” ฉันผละตัวออกมา ก่อนจะเห็นว่าดวงตาสวยๆของซูซี่มีน้ำใสๆคลออยู่เต็มหน่วย
“ฉันว่างแบบไม่เคยว่างมากขนาดนี้มาก่อนเลยล่ะค่ะ”
“งั้นทำอาหารให้พี่หน่อยสิ พี่คิดถึงฝีมือเธอจะแย่แล้วเนี่ย” ฉันบอกอย่างจริงใจก่อนจะยิ้มหวานให้เธอไป ซูซี่พยักหน้ารัวก่อนจะรีบวิ่งไปเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารให้ฉัน
ฉันกับซูซี่กลับมาซี้ปึ้กกันเหมือนเดิมแล้ว ช่วงนี้ฉันต้องเข้าบริษัททุกวันเพื่อเริ่มเตรียมตัวสำหรับซิงเกิ้ลใหม่ที่จะลังจะคัมแบ๊ก ซูซี่เองก็มีเรียนหนักขึ้น เราเลยไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันบ่อยๆเหมือนเดิม แต่เวลาไหนที่เธอว่างฉันก็จะพาซูซี่ไปที่บริษัทด้วย ฉันยอมรับเลยว่าฉันแทบลืมการร้องเพลงและการเต้นบนเวทีไปหมดแล้ว ฉันจะต้องนับหนึ่งใหม่ และฉันจะต้องพยายามให้มากกว่าพี่สาวคนอื่นเป็นเท่าตัว ช่วงนี้ฉันเลยหมกมุ่นอยู่กับตัวเองมากกว่าจะมีเวลาไปทำอะไรอย่างอื่น
วันหนึ่งที่ฉันกำลังซ้อมเต้นอยู่ที่ห้องซ้อมของบริษัท พี่ซูยองก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาฉันในห้อง ตามมาด้วยพี่แทยอนกับพี่ทิฟฟานี่ที่วิ่งตามเข้ามาด้วยอาการเหนื่อยหอบไม่แพ้กัน
“ซอจูฮยอน!!!!”
“มีอะไรคะพี่ซูยอง นั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนค่อยพูดก็ได้ค่ะ” ฉันเดินเข้าไปก่อนจะประคองพี่สาวตัวสูงไปนั่งพัก
“เธอรู้เรื่องยงซอบังรึยัง” ชื่อของอีกคนที่ฉันเฝ้าคิดถึงหลุดออกมาจากปากของพี่ซูยองนั้นเรียกความสนใจให้หัวใจของฉันเต้นรัวได้อย่างรวดเร็ว
“เธอก็รู้เรื่องแล้วหรอซูยอง” พี่แทยอนเอ่ยถามพี่ซูยองขึ้น
“เมื่อกี้ฉันกำลังเดินเข้าบริษัท ฉันเดินสวนกับประธานบริษัทFNCน่ะ ฉันได้ยินพี่อีทึกพูดกับทางนั้นเรื่องการเดบิวท์ของยงซอบังแล้วก็พูดเรื่องความสัมพันธ์กับเธอด้วย”
“อะไรนะคะ? เรื่องความสัมพันธ์ของพี่ยงฮวากับฉันหรอคะ” ฉันตกใจมากจริงๆตอนที่ได้ยินพี่ซูยองพูดออกมาอย่างนั้น ไหนทางนั้นบอกว่าความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ยงฮวาไม่มีผลต่อการเดบิวท์ยังไงล่ะ
“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกซอจู~ อ่านนี่ดูสิ” พี่ทิฟฟานี่พูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันแล้วยื่นเอกสารแผ่นหนึ่งให้ฉัน
“พี่ชินดงเรียกพี่ไปหาเพื่อให้เอาข่าวในจดหมายนี้มาบอกเธอ” พี่แทยอนพูดเสริมขึ้น ฉันก้มมองกระดาษในมือก่อนจะคลี่ออกมาอ่านช้าๆ
“
”
“
” ฉันเงยหน้าสบตากับพี่สาวก่อนจะถามออกไปอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งอ่านมา
“เรื่องจริงใช่มั๊ยคะ”
“จริงแท้แน่นอนจ้ะ” พี่แทยอนเดินมาตบบ่าฉันเบาๆ
“ดีใจด้วยนะที่ยงซอบังจะกลับมาเกาหลีซะที”
“เตรียมตอบคำถามนักข่าวดีๆก็แล้วกันนะมักเน่” พี่ซูยองกับพี่ทิฟฟานี่พูดเสริมก่อนทุกคนจะยิ้มออกมาให้ฉันอย่างอบอุ่น ฉันเงยหน้าสบตากับพี่สาวทั้งสามก่อนจะปล่อยให้น้ำตาใสๆไหลลงมาอาบแก้มช้าๆด้วยหัวใจที่เต็มอิ่มไปด้วยความสุข
อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าจะมีเทศกาลดนตรี ‘Seoul Music Festival’ ซึ่งมันเป็นวันที่ฉันจะได้คัมแบ๊กสเตจพร้อมกับพี่สาวทั้งแปดคน สำหรับเนื้อความในจดหมายของบริษัทFNCบอกเอาไว้ว่า พี่ยงฮวาเองก็จะได้เดบิวท์ในวันนั้นเหมือนกัน ในจดหมายยังบอกอีกว่าหลังการแสดงของสองวงจบลงจะเปิดแถลงข่าวความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ยงฮวา อีกเพียงเดือนกว่าๆเท่านั้นฉันกับพี่ยงฮวาก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ฉันแทบอดใจรอให้ถึงวันนั้นเร็วๆไม่ได้จริงๆ
หนึ่งเดือนผ่านไป
เทศกาลดนตรี ‘
SNSD Comeback Stage & CNBLUE Debut.
จองยงฮวา หนึ่งชั่วโมงก่อนขึ้นเวที
ผมกลับมาเกาหลีได้ประมาณอาทิตย์นึงแล้วครับ แม้ว่าผมอยากจะวิ่งกลับไปที่บ้านของผมเป็นที่แรกเมื่อเหยียบแผ่นดินเกาหลีก็เถอะ แต่สิ่งที่ผมทำได้คือต้องมานอนที่บริษัทเพื่อฝึกซ้อมและเตรียมตัวสำหรับการเดบิท์เวทีแรกของเราในเกาหลี ชื่อวงของเราคือ CNBLUE ย่อมาจาก CODE NAME BLUE ซึ่งผมและน้องๆในวงก็จะได้รับฉายาที่เป็นตัวเองไปซึ่งก็คือ B Burning เป็นโค้ดเนมของจงฮยอน L Lovely เป็นโค้ดเนมมินฮยอก ส่วนโค้ดเนม U Untouchable เป็นของจองชินครับ และสุดท้ายสำหรับผมนั้นคำว่า E Emotional เป็นโค้ดเนมของผม คงเพราะว่าผมถนัดในเรื่องการแสดงความรู้สึกล่ะมั้งครับ
จริงๆในประเทศญี่ปุ่นเราได้รับการยอมรับจากคนที่นั่นค่อนข้างมาก แม้ว่าจะเคยถูกตำรวจหิ้วไปนอนในห้องขังตั้งหนึ่งคืนเพราะไม่พกบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตออกมาด้วยเวลามาเล่นดนตรีข้างนอก แต่สุดท้ายพวกเราก็ได้รับการทาบทามให้เข้าไปเล่นในไนต์คลับของที่นั่นเลยนะครับ ประสบการณ์ในญี่ปุ่นเป็นอะไรที่น่าจดจำมากสำหรับผม และหนึ่งในความทรงจำที่ผมจะลืมไม่ได้เมื่ออยู่ที่ญี่ปุ่นก็คือ ซอจูฮยอนยังไงล่ะครับ ผมจะไม่มีวันลืมได้เลยจริงๆว่าเธอเคยตามไปหาผมถึงที่นั่น เธอคือความทรงจำที่มีค่ามากที่สุดสำหรับผม ไม่ใช่เพียงแค่ช่วงที่เราอยู่ญี่ปุ่นกันหรอกนะครับ แต่ผมอยากจะบอกให้เธอได้รู้ว่าช่วงเวลาทุกช่วงในชีวิตของผมตั้งแต่มีเธอเข้ามามันเป็นสิ่งมีค่าที่ผมจะไม่มีวันลืมได้เลยจริงๆ
ในวันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะชึ้นโชว์บนเวทีในฐานะจองยงฮวาลีดเดอร์ของวง และขณะเดียวกันภรรยาแสนสวยของผมก็คัมแบ๊กสเตจวันนี้เช่นเดียวกัน ผมไม่รู้ว่ามันเป็นพรหมลิขิตหรืออย่างไร แต่ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวเมื่อรู้ว่าผมต้องขึ้นแสดงต่อหน้าซอฮยอน จริงอยู่ที่เธอเคยเห็นผมซ้อมกับน้องๆมาบ้างแล้ว แต่ในวันนี้มหกำลังแสดงในอีกมุมมองนึงที่ต่างออกไปนี่ครับ ผมตื่นเต้นจริงๆให้ตายสิ
อ้อ! ตอนนี้ผมกำลังเดินไปหาโปรดิวเซอร์เพื่อคุยเรื่องคิวการแสดงพิเศษอยู่น่ะครับ เมื่อผมเดินเข้าไปก็ต้องพบกับประธานบริษัทของผมและประธานบริษัทของซอฮยอน ตัวแทนจากบริษัทนั้นในวันนี้เป็นคุณซีวอนกับคุณคยูฮยอนรุ่นพี่ของซอฮยอนที่ผมเคยเจอเมื่อตอนอยู่ร้านกาแฟครั้งนั้น ผมโค้งให้ทุกคนก่อนจะเดินไปยืนอยู่ข้างๆท่านประธาน
“คิดซะว่ามันเป็นของขวัญต้อนรับพวกนายก็แล้วกันนะ ไม่เคยมีศิลปินค่ายไหนที่ได้รับอะไรแบบนี้ทั้งๆที่ยังเป็นแค่เด็กฝึกหัดอยู่หรอกนะยงฮวา ทำมันออกมาให้ดีที่สุดนะเข้าใจมั๊ย” ท่านประธานพูดกับผมอย่างหนักแน่นก่อนจะเลี่ยงตัวเดินออกไปเพื่อเตรียมงานในส่วนอื่น
“ดีใจล่วงหน้าอย่างไม่เป็นทางการอีกครั้งนะครับคุณยงฮวา” รุ่นพี่ชเวซีวอนยื่มมือมาตบบ่าผมเบาๆ
“ขอบคุณมากครับที่ให้ความช่วยเหลือ”
“แค่ทำมันออกมาให้ดีที่สุดอย่างที่ท่านประธานของนายบอกก็พอ”
“ยังไงก็ต้องบอกว่าคุณโชคดีมากจริงๆนะครับ ผมเดบิวท์เป็นศิลปินมานานขนาดนี้ยังไม่เคยได้รับของขวัญที่ยิ่งใหญ่และเป็นเกียรติมากขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ” คุณคยูฮยอนที่ยืนอยู่ข้างคุณซีวอนพูดกับผมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เดี๋ยวทางเราจะไปเตรียมเรื่องคิวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นอีกนิดหน่อย ยังไงก็ฝากโปรดิวเซอร์ช่วยดูแลเขาด้วยนะครับ” คุณซีวอนพูดกับผมก่อนจะหันไปโค้งให้โปรดิวเซอร์
“เธอได้อ่านคิวมาบ้างแล้วใช่มั๊ยยงฮวา” ผมพยักหน้าตอบไปให้โปรดิวเซอร์ก่อนจะขยับตัวไปยืนใกล้ๆเพื่อฟังคิวงานทั้งหมดอีกรอบ
“พอการแสดงของพวกเขาจบลง ก็จะมีช่วงโซโล่เพลงคัมแบ๊กสเตจของโซนยอชิแดซอจูฮยอน พอถึงท่อนที่เราตกลงกันไว้เธอก็เริ่มได้เลย ไฟบนเวทีจะค่อยๆมืดลงอย่างที่ซ้อมมานั่นแหละ หลังจากนั้นไปก็เป็นเวทีพิเศษของนายแล้วนะ ไหวใช่มั๊ย” โปรดิวเซอร์หันมาถามผมอย่างเป็นห่วงก่อนจะยื่นมือมาตบบ่าของผม
“ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ ต้องรบกวนทุกคนแล้วล่ะ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับ” ผมโค้งอีกครั้งเป็นคำขอบคุณก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องพักเพื่อเตรียมตัวขึ้นแสดงในเวทีแรกของผม
ผมเดินกลับไปถึงห้องพักก็พบว่าน้องๆคนอื่นกำลังยืนคุยกันอย่างกระวนกระวาย จงฮยอนหันมาเห็นผมคนแรก เขารีบวิ่งไปหยิบช็อกโกแล็ตแท่งมายื่นให้ผมทันที
“พี่กินเข้าไปเยอะๆเลยนะครับ ผมรู้ว่าเวลาพี่ตื่นเต้นน่ะพี่ต้องกินช็อกโกแล็ต”
“ขอบใจนะจงฮยอน” ผมรีบคว้าช็อกโกแล็ตในมืของจงฮยอนมากินทันที เมื่อรสชาติหวานปนขมของช็อกโกแล็ตแตะลิ้น ความตื่นเต้นของผมก็ค่อยๆหายไปทีละนิดๆ
“พี่ฮะ ผมตื่นเต้นจัง” มินฮยอกพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบในห้อง ผมดื่มน้ำเปล่าตามลงไปอึกหนึ่งก่อนจะเริ่มพูดในสิ่งที่ลีดเดอร์ควรจะพูดก่อนการแสดง
“พวกนายก็รู้ใช่มั๊ยว่านี่เป็นเวทีแรกของเรา ในบ้านเกิดของเราเอง และเป็นเหมือนการเริ่มต้นอย่างจริงๆของซีเอ็นบลู”
“
”
“ฉันอยากจะบอกพวกนายว่า เราผ่านอะไรมาด้วยกันก็มากแล้ว อยู่ที่ญี่ปุ่นเล่นบนเวทีในคลับดังๆก็เคยมาแล้ว จำความรู้สึกตอนขึ้นเวทีครั้งแรกในคลับนั่นมาใช้ที่นี่ แต่พวกนายจะต้องบวกสมาธิและความตั้งใจลงไปให้มากเป็นเท่าตัว เพราะแม้เราจะเล่นด้วยความรู้สึกที่เกิดบนเวทีนั้น แต่ในเวทีนี้มันสำคัญและยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก พวกนายต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อที่ว่าจะได้ไม่มานั่งเสียใจทีหลังเมื่อเราลงจากเวทีแล้ว”
“
”
“ซีเอ็นบลูจะได้รับการยอมรับรึเปล่าขึ้นอยู่ที่ใจของพวกเราแล้วนะ” ผมพูดอย่างหนักแน่นก่อนจะยื่นมือออกไป ทุกคนมองหน้าผมก่อนจะวางมือลงมาบนมือของผมช้าๆ
“ซีเอ็นบลูไฟท์ติ้ง!!!!” พวกเราร้องตะโกนชื่อวงเสียงดังเพื่อสร้างขวัญกำลังใจก่อนจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อเดินขึ้นเวที
ระวังหัวใจไว้ดีๆนะครับ พวกเรากำลังจะไปขโมยหัวใจของคุณแล้ว
ซอจูฮยอน ก่อนขึ้นเวทีหนึ่งชั่วโมง
“นั่งยิ้มตามตาไม่กระพริบเลยนะมักเน่~” เมื่อการแสดงของพี่ยงฮวาจบลงพี่สาวทุกคนก็พร้อมใจกันหันมาแซวฉันอย่างพร้อมเรียง
“พวกเธอก็ไปแซวน้องอย่างนั้น น้องไม่ได้มองตาไม่กระพริบนะ น้องลืมหายใจไปเลยล่ะ ฮ่าๆ”
“>////<” ฉันปล่อยให้พี่สาวแซวฉันกันอย่างสนุกสนาน เพราะสิ่งที่ทุกคนพูดล้วนแต่เป็นความจริงทั้งนั้น
ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้กลับมาใส่ชุดที่เข้าคอนเซ็ปการคัมแบ๊ก มันเป็นเหมือนกับสิ่งย้ำเตือนให้ฉันรู้ว่าฉันคือโซนยอชิแดจริงๆ และขณะที่ฉันกับพี่ๆคนอื่นมานั่งที่โต๊ะของโซนยอชิแดที่ถูกจัดไว้อยู่ทางข้างซ้ายของเวทีแล้วนั้น ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนร่วมวงการคนเก่าๆต่างก็เข้ามาทักทายและร่วมแสดงความยินดีกับฉันกันอย่างไม่ขาดสาย จนกระทั่งชื่อวงดนตรีที่ไม่คุ้นกูดังขึ้นมาเรียกความสนใจให้ฉันหันกลับไปมอง พี่ยุนอาเอียงตัวมากระซิบบอกเบาๆว่านั่นคือวงของพี่ยงฮวา เพียงแค่ได้ยินคำบอกเล่านั้นหัวใจของฉันก็เริ่มเต้นอย่างบ้าคลั่งทันที สายตาของฉันโฟกัสไปบนเวทีอย่างรวดเร็ว การแสดงของพี่ยงฮวากำลังเริ่มขึ้น!
น้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์
จังหวะหนักๆของดนตรีที่ไม่ค่อยได้ฟังบ่อยเท่าไหร่
และนักร้องที่คุ้นตา ครั้งแรกที่เห็นพี่ยงฮวาบนเวทีฉันแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เลยทีเดียว แต่ก็ทำได้ก็เพียงแค่ให้มันคลอไปมาอยู่ในดวงตาเท่านั้น ฉันห้ามไม่ให้ตัวเองกรี๊ดออกมาได้จนจบการแสดง แม้ว่าในหัวใจจะส่งเสียงตะโกนชื่อของพี่ยงฮวาออกไปดังแค่ไหน สิ่งที่ไอดอลคนนึงทำได้ในตอนนี้ก็คือนั่งนิ่งๆต่อไปเท่านั้น ตลอดการแสดงฉันไม่อาจละสายตาไปจากพี่ยงฮวาได้จริงๆ ฉันจำได้ว่าเมื่อครั้งที่ฉันไปหาเขาที่ญี่ปุ่นเขายังดูร่าเริงสดใสเป็นพี่ยงฮวาของฉันคนเดิม แต่ในวันนี้ด้วยภาพลักษณ์ที่ต่างออกไปบวกกับการที่ฉันไม่ได้เจอหน้าเขานานเกือบเดือนทำให้การกลับมาปรากฏตัวบนเวทีของพี่ยงฮวาในครั้งนี้ทำให้ฉันประหลาดใจและดีใจปนเปกันไปหมด
เมื่อการแสดงอีกสองสามชุดผ่านไปฉันกับพี่สาวก็ต้องลงไปหลังเวทีเพื่อเตรียมตัวขึ้นโชว์คัมแบ๊กสเตจของเรา ฉันหวังให้พี่ยงฮวายังไม่ไปไหนไกลจากหลังเวทีมากนัก เวลานี้ถ้าฉันได้กุมมือเขาเอาไว้แล้วให้เขาให้กำลังใจฉันสักนิดคงจะดีไม่น้อย ฉันสูดหายใจเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะเดินไปรวมกับพี่สาวคนอื่นๆ
“เวลาของเรามาถึงแล้วนะ ทุกคนต่างเฝ้ารอให้เราได้มาอยู่ด้วยกันอีกครั้งและตอนนี้เราก็กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งจนได้ หลังจากวันนี้ไปเราจะไม่มีวันแยกจากกันอีกเข้าใจใช่มั๊ย เพราะฉะนั้นมาร่วมกันทำวันนี้ของพวกเราให้เป็นวันดีที่น่าจดจำกันเถอะ”
“
”
“พวกเราคือโซนยอชิแด!!! ไฟท์ติ้ง!!!” หลังจากพี่แทยอนทำหน้าที่เรียกขวัญและกำลังใจให้แก่พวกเราแล้วนั้น พี่ๆทุกคนก็ทยอยมากอดฉันทีละคนด้วยอ้อมกอดแสนอบอุ่น และทุกคนได้ส่งมอบความรักที่บริสุทธิ์มาให้กำลังใจฉันผ่านอ้อมกอดเหล่านั้น ฉันปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าหัวใจของฉันเหมือนมีน้ำทิพย์มาชุบชีวิตให้มันมีพลังขึ้นมาอีกครั้ง
ฉันกำลังจะกลับไปเป็นในสิ่งที่สร้างมาเพื่อให้ฉันเป็น ฉันคือโซนยอชิแดซอจูฮยอน!
ซอจูฮยอนโซโล่
by : จองยงฮวา
ตอนนี้ผมกลับมาอยู่หลังเวทีอีกครั้งแล้วครับ สาวๆโซนยอชิแดที่ร้องจบท่อนของตัวเองแล้วเริ่มทยอยลงมาจากเวทีอย่างรวดเร็วเหลือก็เพียงแต่มักเน่ของวงที่ยังคงยืนอยู่ข้างบนเพื่อร้องในท่อนโซโล่ของตัวเอง สาวๆแต่ละคนให้กำลังใจผมอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบวิ่งไปเพื่อเตรียมทำภารกิจต่อไป ฝ่ายเวทีก็รีบยกอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในในเวทีต่อไปขึ้นไปช้าๆ สต๊าฟสองคนยืนประจำที่อยู่หลังม่านที่คั่นเอาไว้ระหว่างเวทีสำหรับการแสดงกับเวทีสำหรับเตรียมฉาก ผมล้วงมือเข้าไปสัมผัสบางอย่างช้าๆ เมื่อนิ้วของผมสัมผัสถึงสิ่งๆนั้นหัวใจของผมก็เริ่มสงบลง ไฟข้างเวทีค่อยๆมืดลงเป็นการให้สัญญาณพร้อมๆกับเนื้อเพลงท่อนที่โปรดิวเซอร์บอกค่อยๆถูกขับกล่อมออกมาช้าๆ
ร่างสูงเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างแผ่วเบาก่อนจะไปหยุดยืนอยู่ข้างกายของหญิงสาวร่างบางที่ยังคงไม่รู้เรื่องว่าคิวการแสดงได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว ไฟค่อยๆดับลงช้าๆเหมือนที่ซอฮยอนซ้อมมา ไฟทุกดวงบนเวทีจะมืดลงสนิทจนกระทั่งเมื่อสปอร์ตไลท์ตัวใหญ่ส่องตรงมาที่เธอ เธอค่อยเริ่มร้องเพลงท่อนต่อไป หญิงสาวผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อเรียกสมาธิให้ตัวเองและในใจก็นับเวลารอให้สปอร์ตไลท์ฉายมาที่เธอเพื่อที่จะได้ร้องเพลงท่อนต่อไป หากแต่มันกลับไม่เป็นเช่นที่เธอซ้อมมา! เสียงนุ่มๆที่คุ้นหูดังขึ้นช้าๆในบทเพลงรักซึ้งๆ ซอฮยอนตกใจมากจนหัวใจแทบหยุดเต้น เธอกำลังจะวิ่งลงจากเวทีเพื่อไปถามคิวงานจากสต๊าฟแต่ทว่าแสงสปอร์ตไลท์ก็ฉายขึ้นมาซะก่อน เมื่อแสงไฟที่สุกสว่างส่องตรงมาที่ๆเธอยืนอยู่นั่นเองร่างบางจึงได้พบว่าบัดนี้มีคนอีกคนยืนอยู่เคียงข้างเธอซะแล้ว
ยงฮวาค่อยๆร้องเพลงที่เขาเตรียมมาไปเรื่อยๆ ในตอนนี้สายตาคมของเขาจับจ้องไปที่ผู้หญิงตรงหน้าเท่านั้น เขาค่อยๆมองไปทีละส่วนชนในหน้าของเธอ ไล่มาตั้งแต่เรือนผมสวยที่วันนี้ถูกทำเป็นทรงให้เข้าคอนเซ็ปอัลบั้ม มาจนถุงเปลือกตาที่มีแพขนจาหนาเรียงตัวอยู่ เขามองไปเรื่อยๆผ่านจมูกโด่งรั้นไปจนถึงพวงแก้มขาวเนียนและเรียวปากอวบอิ่มได้รูป ยงฮวาค่อยๆเดินเข้าไปหาซอฮยอนช้าๆ ร่างบางมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ไม่ได้ก้าวหนีเขาไปไหน ยงฮวาร้องมาจนถึงท่อนสำคัญ ร่างสูงย่อตัวลงไปด้วยเข่าหนึ่งข้างอย่างเตรียมพร้อมก่อนเสียงนุ่มจะค่อยๆร้องเพลงท่อนสำคัญออกมา
“
”
“แต่งงานกันนะซอฮยอน
” จองยงฮวาเอ่ยกับหญิงสาวตรงหน้าช้าๆก่อนฝ่ามือของเขาจะล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบตลับกำมะหยี่สีแดงออกมา เขาเปิดมันออกช้าๆเพื่อให้หญิงสาวได้เห็นว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
“
!!” ซอฮยอนที่ได้เห็นแหวนเพชรสองวงส่องประกายอยู่ในนั้นก็ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเพื่อป้องกันการกรีดร้องออกไปทันที
“ได้มั๊ยครับ คุณจะแต่งงานกับผมได้มั๊ยครับซอจูฮยอน
” ยงฮวายังคงย้ำคำถามเดิมออกไป เขาจะพูดจนกว่าซอฮยอนจะตอบตกลง ในเวลานี้เขาลืมมันไปหมดแล้วล่ะให้กำหนดเวลาที่บอกเอาไว้ว่าเขามีเวลาบนเวทีเท่าไหร่น่ะ ยงฮวารู้เพียงแต่ว่าเขาจะคุกเข่าอยู่อย่างนี้แลละพูดประโยคนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าผู้หญิงตรงหน้าจะตอบตกลง ต่อให้นานแค่ไหนเขาก็จะทำ
“พี่ยงฮวาเล่นอะไรคะ
”
“พี่ไม่ได้เล่นนะ พี่กำลังขอเธอแต่งงานจริงๆ แต่งงานกับพี่นะฮยอน”
“
”
“
” ผมและเธอจ้องตากันไปมาเพื่อค้นหาความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ในดวงจาของอีกฝ่าย แต่ซอฮยอนก็ต้องละสายตาออกไปซะก่อน ร่างบางถอนหายใจช้าๆอย่างคิดไม่ตก คงเป็นเพราะสิ่งที่เธอพบบเจอในดวงจาของผมมันมีแต่คำว่าความจริงก็เป็นได้
“แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย! แต่งเลย!” เสียงเชียร์โห่ร้องเริ่มดังขึ้นมาจากบรรดาพี่สาวโซนยอชิแดของซอฮยอน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเชียร์จากบรรดาน้องชายของผม แม้ว่าคนอีกหลายพันคนจะยังงงกับการกระทำของผม แต่กลุ่มคนใกล้ตัวที่รู้เรื่องราวล่วงหน้าต่างพากันส่งเสียงเชียร์เราไม่ขาดสาย ซอฮยอนเริ่มมองไปรอบๆอย่างตกใจก่อนแก้มขาวเนียนของเธอจะขึ้นสีชมพูระเรื่อช้าๆ
“เชื่อพี่ได้รึยังฮยอน
พี่กำลังขอเธอแต่งงานจริงๆนะ”
“
”
“แต่งงานกับผมนะครับซอฮยอน” เธอลังเลใจไม่น้อยผมสังเกตได้ ซอฮยอนมองเข้ามาในตาของผมอีกครั้ง
“นี่เป็นเรื่องจริงใช่มั๊ยคะพี่ยงฮวา” เสียงหวานเอ่ยถามผมแผ่วเบา
“จริงกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับผม” ผมเอ่ยย้ำอย่างหนักแน่นเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เธอ
“งั้น
ช่วยพูดมันอีกครั้งจะได้มั๊ยคะ” ซอฮยอนบอกออกมาอย่างเอียงอายก่อนร่างบางจะก้มหน้างุดลงไปมองที่ปลายเท้าของตัวเอง ตอนนี้รอบกายของเราไม่มีเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย หรือเป็นเพราะหัวใจของผมมันเต้นแรงจนเสียงหัวใจมันกลบทุกเสียงรอบตัวไปเลยก็ว่าได้ล่ะครับ
“แต่งงานกับพี่นะฮยอน
”
“
”
“
”
“ไม่แต่ง
”
“
!!!”
“ไม่แต่ง...ได้ยังไงล่ะคะ ก็พี่ขอฉันทั้งทีนี่เนอะ” เธอตอบผมอย่างยียวนก่อนจะเฉลยคำตอบที่แท้จริงออกมา วินาทีที่ได้ยินคำตอบนั้นของซอฮยอน หัวใจของผมที่บีบตัวไม่เป็นจังหวะและความหนักอึ้งทุกอย่างที่ผมแบกเอาไว้เหมือนได้รับการปลดปล่อย ผมบรรจงสวมแหวนวงใหม่ลงไปบนนิ้วเรียวของเธอช้าๆ เธอเองก็ใส่แหวนกลับให้ผมด้วยเหมือนกัน แสงไฟเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งพร้อมกับผ้าม่านสีแดงที่ถูกเปิดออกเผยให้เห็นเวทีพิเศษที่ผมเตรียมเอาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ผมจูงมือซอฮยอนเดินไปหยุดอยู่หน้าแท่นพิธีที่มีบาทหลวงคนหนึ่งยืนยิ้มรอเราอยู่ สองข้างบนเวทีกลายเป็นพื้นที่ของบรรดาพี่สาวโซนยอชิแด รุ่นพี่ทงบังชินกิ รุ่นพี่ซูเปอร์จูเนียร์และน้องๆในวงของผม และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือท่านประธานบริษัทของเราสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆบาทหลวง ผมโค้งหัวให้ท่านประธานของผมช้าๆแทนคำขอบคุณ ก่อนจะหันไปโค้งขอบคุณให้แก่รุ่นพี่อีทึกที่ยืนอยู่ข้างๆกัน
“เชื่อใจพี่นะฮยอน
” ผมดึงมือร่างบางที่ยังงงงวยกับเหตุการณ์ตรงหน้ามห้มาคล้องไว้ที่แขนของผม ก่อนเราสองคนจะเดินเข้าไปหยุดอยู่หน้าแท่นพิธีและบาทหลวงก็เริ่มพูดประโยคเดิมที่เราคุ้นเคย ประโยคที่เราสองคนเคยตอบมาแล้วเมื่อครั้งนั้นที่เราแต่งงานกัน
“จองยงฮวา
ลูกจะยอมรับผู้หญิงคนนี้ ซอจูฮยอนเป็นภรรยาเพื่ออยู่เคียงคู่ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ในทุกช่วงเวลาของลูกหรือไม่
”
“
” ผมหันไปมองมินฮยอกนิดหน่อย เขาส่งกว้างยิ้มมาให้ผม ผมยิ้มตอบเขากลับไปก่อนจะหันไปสบตากับบาทหลวงตรงหน้า ถ้าคุณยังจำได้ว่า ในครั้งก่อนผมสบตากับมินฮยอกเพื่อเป็นสัญญาณบอกให้เขาเงียบและนั่งลง เพราะในตอนนั้นมินฮยอกกลัวว่าผมยังพูดไม่ได้เขาเลยยืนขึ้นเพื่อจะบอกเรื่องนี้กับบาทหลวง แต่ผมก็ส่งสายตาเป็นสัญญาณให้เขานั่งลงเสียก่อน เพราะผมมีความรู้สึกว่าผมจะต้องพูดมันได้แน่ และในครั้งนั้นผมก็พูดมันออกมาได้จริงๆ
!
“ผม
รับครับ” คำตอบที่ผมเฝ้าฝันว่าสักวันจะได้พูดอีกครั้งในงานแต่งงานของผมกับซอฮยอนถูกเอื้อนเอ่ยออกมาแล้ว คำๆนี้ผมได้ใส่ทุกความรู้สึกลงไปเพื่อบอกให้ซอฮยอนรู้ว่าผมรอคอยเวลานี้มานานแค่ไหน เพื่อบอกให้เธอรู้ว่าผมปรารถนาที่จะพูดคำนี้ด้วยความรู้สึกที่ว่าผมอยากแต่งงานกับเธอจริงๆไม่ใช่เพราะต่างคนต่างก็ถูกขอร้องให้มาแต่งงานกันแบบครั้งที่แล้ว
หวังว่าเธอจะสัมผัสถึงมันได้นะซอจูฮยอน
“แล้วลูกหล่ะซอฮยอน ลูกจะยอมรับผู้ชายคนนี้ จองยงฮวาเป็นสามีเพื่ออยู่เคียงคู่ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ในทุกช่วงเวลาของลูกหรือไม่
”
“เอ่อ
”
“
”
“
” ซอฮยอนหันมาสบตาผมช้าๆ ผมจึงบีบมือของเธอเบาๆแทนคำพูดที่อยากจะพูด เธอค่อยๆยิ้มออกมาช้าๆก่อนจะหันไปมองหน้าบาทหลวงผู้ทำพิธี
“ฉันรับค่ะ”
“และบัดนี้ พ่อขอประกาศว่าเจ้าทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากันแล้ว ขอให้เคียงคู่กันไปตราบจนเจ้าจะตายจากกัน หากมีอะไรก็ขอให้ช่วยเหลือกัน พระเจ้าจะคอยเฝ้าดูความรักของลูกเสมอ”
เมื่อบาทหลวงกล่าวจบเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นมากึกก้องกว่าครั้งแรก สาวๆโซนยอชิแดเดินเข้ามาโปรยดอกไม้ให้แก่พวกเรา ผมหันไปสบตาซอฮยอนก่อนจะค่อยๆดึงร่างบางเข้ามาจุมพิตเบาๆที่หน้าผากนวล แม้ว่าผมอยากจะสัมผัสริมฝีปากได้รูปนั้นมากเท่าไหร่แต่การห้ามใจเป็นสิ่งที่ผมควรทำเพื่อที่ซอฮยอนจะได้ไม่ถูกมองเสียๆหายๆ หลังจากผมถอนจุมพิตที่แนบแน่นนั่นออกจากหน้าผากของเธอ ซอฮยอนก็น้ำตาไหลลงมาช้าๆ ผมหัวเราะให้กับความอดทนขั้นสุดยอดของเธอเบาๆ เธอคงจะกลั้นมันเอาไว้นานพอสมควรเลยสินะเด็กน้อย... ผมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบาด้วยความรู้สึกเป็นห่วงที่มีอยู่เต็มหัวใจ ตอนนี้ประธานบริษัททั้งสองท่านขึ้นไปยืนบนแท่นแทนที่บาทหลวงเพื่อดำเนินการขั้นต่อไปแล้ว
“สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านและเหล่าชนที่อยู่ในงานโซลมิวสิคเฟสติวัลครั้งนี้ ผมคือประธานบริษัทFNCต้นสังกัดของนักร้องนำจองยงฮวาแห่งวงซีเอ็นบลู หรือจะเรียกว่าเจ้าบ่าวของงานก็ได้ครับ”
“ส่วนผมคือปาร์กจองซู เป็นตัวแทนจากวี เอนเตอร์เทนเมนท์ ต้นสังกัดใหม่ของวงโซนยอชิแดครับ”
“ในวันนี้ทางเราสองบริษัทได้ลงความเห็นกันเอาไว้เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ซึ่งเรามีความเห็นตรงกันคือต้องจัดงานแถลงข่าวขึ้นมา แท้จริงแล้วคนสองคนนี้ได้แต่งงานกันอยู่ก่อนแล้วเมื่อครั้งที่ฝ่ายเจ้าสาวยังไม่ได้คัมแบ๊กเป็นโซนยอชิแด แต่เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นและเพื่อให้อิสรภาพในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ผมจึงได้จัดให้มีเวทีพิเศษนี้ขึ้นเพื่อแถลงข่าวครับ”
“
” ท่านประธานของผมยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆเพื่อชี้แจงที่มาของเวทีพิเศษในครั้งนี้
“ผมเป็นคนเสนอเองว่าถ้าเราจะจัดเป็นอีเว้นท์เล็กๆจะได้ไหม ซึ่งทางบริษัทฝ่ายเจ้าสาวก็เห็นด้วยและตกลง ผมจึงได้มาเสนอวิธีแถลงข่าวนี้ให่แก่ฝ่ายเจ้าบ่าวเพื่อเตรียมเซอร์ไพรส์เจ้าสาว และผลของมันก็ออกมาน่าพึงพอใจมากทีเดียว ผมหวังว่าพวกคุณทุกคนจะให้ความรักและการสนับสนุนพวกเขาทั้งสองคนตลอดไปนะครับ อย่าตัดสินผลงานของศิลปินเพียงเพราะเขามีคนที่เขาพร้อมจะอยู่เคียงข้างอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมีพวกคุณมาสนบสนุนก็ได้ ไม่จริงเลยครับสำหรับประเด็นนี้ ผมอยากจะให้มองคนทั้งสองเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งและผู้หญิงคนหนึ่งที่มาแต่งงานกันและต่างคนต่างก็มีอาชีพเป็นของตัวเอง”
“
”
“อย่าได้กีดกันความรักที่บริสุทธิ์นี้เลยนะครับ และโปรดช่วยให้ความรักแก่คนทั้งสองไปนานๆนะครับ” เมื่อท่านประธานของผมพูดจบ เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องสนับสนุนเราสองคนก็ค่อยๆดังขึ้นมาอีกครั้ง
ผมหันไปสบตาซอฮยอนช้าๆ เธอเองก็กำลังมองมาที่ผมเหมือนกัน เรามองตากันอยู่อย่างนั้นดยไม่สนใจเลยว่ารอบตัวของเราตอนนี้จะมีคนอีกกี่คนรายล้อมเราอยู่ ในช่วงเวลานั้นสิ่งที่ผมสัมผัสได้มีเพียงแค่ ซอจูฮยอน ผู้หญิงที่เป็นคนกอบกุมหัวใจของผมเอาไว้ ผู้หญิงที่เป็นเหมือนครึ่งชีวิตที่หายไปของผม ผู้หญิงที่เป็นภรรยาของผม
และเธอยังเป็นผู้หญิงที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผมจะสามารถรักใครสักคนได้มากขนาดนี้ ถ้าผมต้องละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมละก็ ซอฮยอนจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมเลือกจะปล่อยมือ
“เราแต่งงานกันอีกรอบแล้วนะคะพี่ยงฮวา
” เธอพูดขึ้นมาเบาๆให้พอได้ยินกันสองคน
“แต่ถึงเราจะแต่งงานกันครั้งที่สอง ไม่ดีหรือไงที่ต่างคนก็ยังมีเจ้าบ่าวเจ้าสาวคนเดิมน่ะ หืออ~” เธอก้มหน้าทันทีเมื่อผมพูดประโยคนั้นออกไป ฝ่ามือเล็กที่ถูกผมกอบกุมเอาไว้บีบมือผมเบาๆ ผมบีบมือตอบเธอกลับไป ซอฮยอนพูดขึ้นมาอีกครั้งโดยที่ไม่มองหน้าผม
“ฉันไม่คิดว่าพี่จะทำเพื่อฉันขนาดนี้เลย”
“เงยหน้ามามองพี่ก่อนน่าฮยอน~ พี่อยากเห็นหน้าเธอเวลาเธอเขินนะรู้มั๊ย”
“อะไรกันคะพี่!” เธอหันมาฟาดแขนผมเบาๆ
“พี่รักเธอนะซอฮยอน”
“
” จังหวะที่เธอหันหน้ากลับมาผมเลยเอ่ยคำบางคำออกไปเพื่อย้ำให้เธอรู้ในสิ่งที่ผมรู้สึกกับเธอ
“พี่รักเธอ”
“ฉันก็รักพี่เหมือนกันค่ะ” เธอตอบผมกลับมาอย่างหนักแน่นเช่นเดียวกัน เรายิ้มกว้างให้กันอย่างมีความสุข
“ถ้าชีวิตของเราเป็นนิยายสักเรื่อง และเราเริ่มต้นกันมาอย่างสวยหรู พี่ว่าตอนจบของเราจะเป็นยังไงคะ” เสียงหวานเอ่ยถามออกมา อืม
คำถามของเธอทำไมถึงได้ดูใสซื่อและบริสุทธิ์ขนาดนี้นะ เด็กน้อยฮยอนของผมน่ารักจัง >////<
“พี่ว่าเราจะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งมั๊ยคะ
ยงงง~” เธอยังคงถามต่อไปและจบคำถามลงด้วยชื่อเล่นของผมที่เธอตั้งให้ ผมอดที่จะยิ้มออกมาอีกรอบไม่ได้จริงๆ ทำไมเธอถึงน่ารักขนาดนี้นะจูฮยอน ผมหันไปมองหน้าหญิงสาวข้างกายตรงๆก่อนจะตอบคำถามที่เธอสงสัย
“ตอนจบของเราน่ะ
มันไม่มีหรอกนะ”
“หืมม?”
“เรื่องของเราจะไม่มีคำว่าตอนจบเพราะพี่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับเธอได้ทุกเมื่อ”
“
”
“ถ้าเราคิดว่าเราใกล้จะถึงจุดอิ่มตัวแล้วหล่ะก็ พี่จะเป็นคนถอยหลังออกมาเพื่อขอเธอเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเอง บางทีเธออาจจะไม่รู้
พี่น่ะสามารถตกหลุมรักเธอได้ใหม่เป็นร้อยๆครั้งเลยนะรู้มั๊ยซอฮยอน
” ผมตอบคำถามคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมี ผมพูดออกไปในสิ่งที่หัวใจของผมคิด ผมจะไม่มีวันทำให้เรื่องของผมกับเธอต้องมีคำว่าตอนจบอย่างแน่นอน ผมสัญญา
“พี่รู้อะไรมั๊ยคะ ยงงง~”
“
”
“ฉันเองก็พร้อมจะตกหลุมรักพี่ใหม่ได้เป็นพันๆครั้งเลยเหมือนกัน”
“
”
“แค่บอกเอาไว้เผื่อพี่อาจจะไม่เคยรู้
ฉันน่ะรักพี่มากกว่าที่พี่รักฉันอีกนะ” ซอฮยอนพูดกับผมด้วยน้ำเสียงมั่นใจกว่าทุกครั้งที่ผมเคยฟัง เธอยิ้มกวนๆส่งมาให้ผมก่อนจะพูดต่อไปอย่างมีความสุข
“
”
“เรื่องของเรามันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเองค่ะ J”
Just say yes
.Now,Ending
"-----------------------------------------------------------------------
Talk with writer :
ในที่สุดตอนนี้ก็มาถึงสินะคะ
หวานตรวจทุกอย่าง เกลาตอนจบเสร็จ ณ เวลา 03:38 น. 22 January 2012
ขอบคุณทุกความรู้สึกดีๆที่มีให้กันมาอย่างสม่ำเสมอนะคะ
สำหรับใครที่เพิ่งติดตามได้ไม่นานหวานก็ต้องขอบคุณอยู่ดี
ที่อย่างน้อยคุณก็เลือกจะคลิกเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้
ไม่รู้สิคะ ตอนเขียนตอนนี้หวานแก้ประมาณห้าครั้งได้อ่ะ
แต่งยังไงก็ไม่โดนใจซักที ลบๆแก้ๆอยู่นั่นแหละเลยมาอัพช้า
หรืออู้ไม่อยากมาอัพเพราะไม่อยากให้จบก็ไม่รู้เหมือนกัน 5555555555
สำหรับใครที่บอกว่าสามารถยืดเรื่องได้ออกไปอีกเยอะ
หวานเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ แต่พลอตของเรื่องนี้ที่หวานวางไว้จบเพียงแค่นี้จริงๆ
ในกระดาษที่ร่างหวานเขียนไปแค่17ตอนเอง รวมพาร์ทสเปเชียลพี่ยงแล้วด้วยนะใน17ตอนน่ะ
ก็ไม่รู้ทำไมถึงไหลลื่นมาได้ไกลถึง21ตอน บวกตอนสเปเชี่ยลอีก4ตอน
ที่คุณติดค้างในใจอาจจะเป็นเพราะในตอนที่20หวานถ่ายทอดเรื่องราวออกมาไม่ได้ฟีลละมั้งคะ
คงเป็นเพราะหวานใจร้อนรีบตัดตอนจบแบบรวบรัดเกินไปสินะ
หลายๆคนเลยคิดว่ามันไม่น่าจะจบแบบนี้
แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่อยากบอกไว้ก็คือ
เนื่องด้วยเหตุผลสำคัญเลยคือ หวานขึ้นม6แล้วค่ะ ปีนี้หวานต้องเอนท์แล้ว
หวานคงจะต้องเอาเวลาที่เคยทุ่มเทให้ฟิคเรื่องนี้ไปทุ่มเทให้ตัวเองบ้างแล้วล่ะค่ะ
ไม่ใช่เพราะเหตุผลนี้หวานถึงกำหนดตอนจบของเรื่องนี้ลงในตอนที่21
แต่อย่างที่บอก หวานร่างพลอตเอาไว้แค่นี้จริงๆค่ะ
ใครที่คิดว่าหวานด้นสดแต่งๆเรื่อยๆแบบไม่มีทิศทางก็คิดใหม่เลยนะคะ
ฟิคเรื่องนี้หวานวางโครงไว้นานมากจริงๆกว่าจะเขียนได้แต่ละตอน
เวลาที่หวานเหนื่อยหวานก็จะเปิดดูวีก๊อทแมรี่ของพี่ยงกับน้องซอ
เปิดดูรูป เปิดดูโมเม้นต์ของสองคนนี้ ไม่น่าเชื่อจริงๆว่ามันจะทำให้หวานมีกำลังใจขึ้นมาได้
ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนมากนะคะที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้
แค่คนสองคน แค่ฟิคเรื่องเดียวก็ทำให้เราได้มารู้จักกันเนอะ^^
เปิดใจของคุณให้กว้างแล้วค่อยๆคิด
หวานมีของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้ทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ
เพียงแต่ว่า หวานจะพร้อมมอบมันให้แก่พวกคุณตอนไหนก็อีกเรื่องนึงเท่านั้นเอง
อดทนกันหน่อยนะคะ ในอนาคตถ้าอะไรๆลงตัวหวานอาจจะมี
Just restart! มาฝากก็ได้นะ
(แอบวางโครงไว้แล้วแหละนิดนึง ฮี่ๆ >w<)
ถ้ามีโอกาสหน้าหวานว่าเราจะต้องได้เจอกันอีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ
รักและสนับสนุนซีเอ็นบลูกับโซนยอชิแดไปนานๆนะคะ
อ้อ! จะรักหวานบ้างสักนิดก็ไม่ว่าหรอกนะ คึคึ~
หวานรักคุณมากนะคะรีดเดอร์
ขอบคุณสำหรับ 856comments 54Favorites
และโหวตมากถึง 80%
ไอแอมพีเอสสึ
ปล.รายละเอียดรวมเล่ม(คร่าวๆ)จิ้มไปตอนต่อไปเลยค่ะ
----------------------------------
ชี้แจงเพิ่มเติมค่ะ
(ตอนแรกเอาไปตอบในคอมเม้น เเต่กลัวคนอื่นไม่เห็น ขอย้ายมาในนี้ละกันนะคะ)
จริงๆแล้วหวานอยากเก็บคู่อื่นๆไว้ไปแต่งเป็นเรื่องใหม่อีกเรื่องนึงน่ะค่ะ
แต่ในเมื่อเวลามันไม่อำนวย แต่ทุกคนก็คงอยากรู้ตอนจบสินะ
เอาอย่างนี้ละกันเนอะ เดี๋ยวหวานจะแต่งของ
-จองชิน ยุนอา
-มินฮยอก ซูจี
-จงฮยอน ยูอี
สามคู่นี้จะเขียนให้จบประมาณคู่ละ10ตอนละกันนะคะ
จะไม่ร่นเนื้อหาให้สั้นจนอ่านแล้วเสียอารมณ์
แต่จะพยายามเอาฉากสำคัญมาปะติดปะต่อกันให้ได้มากที่สุดละกันเนอะ
อดใจรอกันก่อนนะคะ ช่วงนี้หวานเริ่มเตรียมตัวเเล้วค่ะ แล้วก็ต้องเตรียมรวมเล่มด้วย
แต่จะกลั่นกรองออกมาให้ดีที่สุดนะคะ
ไม่แน่ถ้าหวานแต่งสามคู่นี้ทันรวมเล่ม จะเพิ่มเข้าไปให้เป็นตอนพิเศษในเล่มละกันนะคะ
ไอแอมพีเอสสึ :)
ความคิดเห็น