คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่4
ตอนที่ 4
หลังจากที่จูฮยอนกับพี่จงฮยอนออกไปซื้อของข้างนอก ผมก็พยุงมินฮยอกที่ดูเหมือนจะมีไข้กลับมาพักที่ห้องของพวกเรา และมีพี่ยงฮวาเดินตามมาติดๆพร้อมอ่างน้ำกับผ้าขนหนูในมือ เราสามคนเดินกลับมายังห้องอย่างเงียบๆ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูดอะไรออกมา ให้ตายสิ! พอพูดถึงพี่ยงฮวาแล้วผมก็อดประหลาดใจไม่ได้ พี่เขาพูดประโยคยาวๆแบบนั้นออกมาได้เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นซอจูฮยอนอย่างนั้นเหรอ? เพียงแค่คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือซอจูฮยอนงั้นจริงๆสินะ? แต่ทำไมกับคนในครอบครัวอย่างคุณลุงคุณป้าและก็มินฮยอก พี่เขากลับไม่เคยพูดอะไรด้วยเลย แม้กระทั่งกับพี่จงฮยอนแล้วก็ผมเองที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ฟอร์มวงมหาวิทยาลัย พี่เขาก็ไม่เคยพูดอะไรออกมาให้ได้ยินเลยสักครั้ง
ให้ผมสารภาพความจริงอะไรมั๊ยครับ -____- ) ตอนแรกที่คุณป้าแม่ของพี่ยงฮวามาบอกให้เตรียมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวนั้น ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าสาวจะเป็นผู้หญิงที่ผมไม่รู้จักมาก่อน ผมเคยคิดว่าถ้าจะมีใครสักคนมาช่วยเยียวยาพี่ยงฮวาได้ก็น่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้นซะมากกว่า ก็เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พี่ยงฮวาพามาแนะนำกับพวกผมนี่นา แต่ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะจบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ตอนประมาณปี3 ผมจำได้ว่าพี่ยงฮวาพาผู้หญิงคนนั้นมาที่ห้องซ้อมของพวกเราก่อนจะแนะนำว่าเธอชื่อ ‘ปาร์คชินเฮ’ เป็นเพื่อนสนิทของพี่เขา และเย็นวันนั้นพวกเราก็มีปาร์ตี้ต้อนรับพี่ชินเฮกันที่ห้องซ้อม พอตกดึก พี่ยงฮวาก็แยกตัวเธอออกมาจากพวกผม แล้วสารภาพรักกับเธอ ดูเหมือนว่าเธอเองก็จะมีใจให้พี่ยงฮวาอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ได้ตกลงปลงใจกันในทันที ก็ถือว่ากำลังดูใจกันอยู่ ผมคิดว่าพี่ชินเฮนี่แหละที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ของพวกเรา แต่ทว่าจู่ๆ ในเช้าวันนึง ผมก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังลั่นห้องพัก เสียงของพี่ยงฮวาดังมากจนปลุกผมที่นอนอยู่ในห้องกับมินฮยอกให้ตื่นขึ้นมาได้เลยล่ะ ผมงัวเงียออกมาจากห้องนอนแต่ก็ยังพอจับใจความได้ว่าพี่ยงฮวาทะเลาะกับพี่ชินเฮแน่ๆ และภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือพี่ยงฮวาวิ่งหุนหันออกไปจากห้องพักอย่างรวดเร็ว ผมก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะคิดว่าคงแค่ทะเลาะกันก็เท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากเช้าวันนั้นที่พี่ยงฮวาวิ่งออกไป ตกเย็นมาผมจะได้รับรู้ข่าวว่ารถพี่เขาคว่ำ!
ใช่เลย
พี่ยงฮวาเกิดอุบัติเหตุเพราะขับรถเร็วเกินกำหนดและบังเอิญว่ารถเลนส์ตรงข้ามที่วิ่งสวนกันอยู่คนขับเกิดหลับในขับข้ามเลนส์มาเจอกับรถของพี่ยงฮวาพอดี ทั้งสองคันจึงประสานงากันอย่างเต็มแรง แทบจะเรียกได้ว่าพี่ยงฮวาเป็นปาฏิหาริย์ก็ได้ที่สามารถฟื้นกลับขึ้นมามีชีวิตต่อไปได้อย่างคนปกติ
ในวันที่คุณป้ามาบอกว่าจะให้พี่ยงฮวาแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งนั้น ผมคิดไว้เลยว่าพี่ชินเฮนั่นแหละคือเจ้าสาว แต่พอคุณป้าเอารูปมาให้ดูผมก็แปลกใจมากทีเดียวที่เธอคนนั้นไม่ใช่พี่ชินเฮ พี่จงฮยอนเองก็ตกใจไม่ต่างจากผม จะมีก็แต่มินฮยอกที่ดูไม่ตกใจอะไร จนมินฮยอกได้อธิบายให้ฟังว่าเธอคนนี้มีความสำคัญกับพี่ยงฮวามากแค่ไหน และมีความผูกพันยังไงกับพี่ยงฮวา ตอนแรกๆที่ฟังมินฮยอกพูดผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อ ผู้ชายร็อคๆอย่างพี่ยงฮวาน่ะเหรอจะมานั่งเขียนไดอารี่ถึงผู้หญิงที่พบเจอกันในฝัน? ไม่มีทางเลยหล่ะ ผมยังคงปักใจว่าวิธีที่คุณป้าเสนอให้มีใครสักคนมาดูแลพี่ยงฮวายังไงก็ต้องเป็นพี่ชินเฮแน่นอน ผมไม่เชื่อหรอกว่าเธอคนนั้นจะมาทำให้พี่ชายของผมกลับมาพูดได้อีกครั้ง พี่จงฮยอนเองก็คิดเหมือนกันกับผม เราเคยคิดจะค้านคุณป้าเรื่องเธอคนนั้นแล้วแนะนำให้เป็นพี่ชินเฮแทน แต่พวกเราเองก็ไม่รู้จะตามหาพี่ชินเฮได้ที่ไหน เพราะนับจากวันนั้นเธอก็ขาดการติดต่อกับพวกเราไปเลย
และพอผมมานั่งคิดดูแล้วนั้น ผมมองเธอคนนี้ผิดไปจริงๆ ในตอนนี้เพียงแค่เธอแต่งงานกับพี่ยงฮวาได้ไม่เท่าไหร่ ด้วยความสำคัญของเธอที่มีผลต่อจิตใจของพี่ยงฮวาได้ผลักดันให้พี่ยงฮวายอมพูดออกมาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ และกล้าที่จะหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ผมเชื่อแล้วว่าเธอมีความสำคัญต่อพี่ยงฮวาจริงๆ
’ซอจูฮยอน’
”พี่ครับ ผมถามจริงๆนะพี่แกล้งอำพวกเราป่ะเนี่ย” ระหว่างที่อยู่กับพี่ยงฮวาเพียงสองคนผมก็เปิดปากถามออกไปในสิ่งที่สงสัยทันที
”
”
”พี่
ไม่มีใครแล้วนอกจากผม มินฮยอกก็ไข้ขึ้นหลับไปแล้ว ตอนนี้พี่บอกผมได้นะถ้าพี่มีเหตุผลอะไรที่ไม่ยอมพูดออกมาต่อหน้าคนเยอะๆน่ะ”
”
”
”ใจร้ายชะมัดเลย พี่จะเก็บไว้พูดกับพี่สะใภ้คนเดียวล่ะสิ อะไรว้าาาา~”
”
” และแม้ว่าผมจะพยายามชวนคคุยเท่าไหร่ พี่ยงฮวาก็ยังคงนิ่งเงียบเหมือนเคย
”มินฮยอกดีใจมากแค่ไหนที่ได้ยินพี่พูดอีกครั้ง พี่ยังไม่เห็นอีกหรอ?”
”
”
”มินฮยอกน่ะ
พูดกับผมทุกคืนก่อนนอนเลยนะครับ ว่าพี่ต้องพูดได้อีกครั้ง”
”
”
”ตั้งแต่งานแต่งงานตอนนั้น มินฮยอกเป็นห่วงพี่มากเพราะกลัวพี่จะพูดออกมาไม่ได้ แต่พอพี่ยอมพูดออกมาหมอนั่นแทบกรี๊ดเลยล่ะฮะ”
”
”
”ฮ่าๆ ตลกดีเนอะ พวกผมขอร้องให้พี่พูดแทบตาย พี่กลับไม่ยอมพูดอะไรเลย แต่กับพี่สะใภ้แค่ยืนจ้องหน้าพี่เฉยๆพี่ก็พูดกับเธอซะยืดยาว ผมน้อยใจนะเนี่ยยย~”
”
”
”เฮ้ออ มันเหนื่อยจริงๆนะครับพี่พูดคนเดียวเนี่ย -___-” เมื่อเห็นว่าความพยายามเป็นผล ผมเลยหยุดพูดแล้วหันไปเช็ดตัวให้มินฮยอกแทน แล้วก็ภาวนาให้มินฮยอกตื่นขึ้นมาหรือไม่ก็พี่สะใภ้กับพี่จงฮยอนรีบๆกลับมาซะที การพูดคนเดียวเนี่ยมันเหนื่อยกว่าที่คุณคิดกันอีกนะครับ TT^TT
”กลับมาแล้ววว เฮ้!จองชินมารับของหน่อยสิ” ในที่สุดเสียงสวรรค์ของพี่จงฮยอนก็เข้ามาช่วยชีวิตไม่ให้ผมอึดอัดใจมากไปกว่านี้
”พี่ครับ!!! ผมรอพี่กลับมานานแค่ไหนรู้มั๊ยเนี่ย!”
”อะไรกัน ว่าแต่มินฮยอกเป็นไงบ้างน่ะ” พี่จงฮยอนยื่นถุงของต่างๆมาให้ผมก่อนเดินไปดูมินฮยอกในห้องนอน
”นายคงเหนื่อยมากสินะจองชินชินกู~” ซอจูฮยอนเดินเข้ามาหาผมพลางยิ้มหวานส่งมาให้
”ไม่เหนื่อยหรอก แต่อึดอัดนิดหน่อยน่ะ”
”อึดอัดอะไรหรอ หรือนนายอึดอัดฉันงั้นเหรอ”
”ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกจูฮยอน แค่การพูดคนเดียวมันค่อนข้างยังไม่ชินสำหรับฉันน่ะ” ผมตอบเธอผ่านๆก่อนจะหันไปเรียงข้าวของขึ้นตู้เย็น
”แล้วเธอจะทำอะไรให้พวกเรากินดีหล่ะเย็นนี้”
”อืม
ว่าจะทำหมูย่างน่ะ โอเคมั๊ย”
”แจ๋วไปเลย!!! เดี๋ยวฉันออกมาช่วยนะ ขอเข้าไปดูมินฮยอกหน่อยละกัน เธอจะเข้าไปดูด้วยกันมั๊ย”
”อ้อ!ก็ดีเหมือนกัน” ตอนนี้ผมรู้สึกดีกับพี่สะใภ้คนนี้มากๆเลยล่ะ เธอมีนิสัยที่ต่างจากพี่ชินเฮเรียกได้ว่าเกือบคนละขั้วเลยทีเดียว พี่ชินเฮดูจะเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง ภายนอกดูเข้มแข็งแต่ข้างในก็ยังคือผู้หญิงอ่อนหวานอยู่วันยันค่ำ แต่เธอคนนี้ต่างออกไป จูฮยอนดูเหมือนกับเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ยังไม่รู้จักโลกกว้างมากนัก ทั้งๆที่เธอก็เกิดปีเดียวกับผม แต่ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นพี่ชายของเธอยังไงอย่างนั้นเลยหล่ะ ให้พูดจริงๆอีกอย่างนะครับ ผมก็ยังอดสงสัยไม่ได้อยู่ดีว่าทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่ยงฮวาตั้งแต่เด็กๆ พอจู่ๆได้กลับมาแต่งงานกัน ทำไมเธอดูมีความสุขที่ได้อยู่กับพี่ยงฮวาจังนะ เธอเองก็ไม่น่าจะมีความรู้สึกอะไรต่อพี่ยงฮวาเร็วขนาดนั้นนี่นา ที่เธอกำลังทำอยู่มันจะเป็นเพราะความรู้สึกจริงๆของเธอที่มีต่อพี่ยงฮวา หรือเป็นเพียงเพราะการแสดงที่จำเป็นต้องมารับบทกันแน่
หลังจากที่ฉันกับพี่จงฮยอนซื้อของกลับมาที่หอพักแล้วนั้น สีหน้าของจองชินชินกูตอนวิ่งออกมารับของที่ประตูมันทำให้ฉันอดขำไม่ได้เลยหล่ะ ดูเหมือนว่าตอนที่เราไม่อยู่จองชินคงได้พูดคนเดียวจนอึดอัดใจแน่เลย หลังจากเก็บของแล้วฉันก็เข้าไปดูอาการมินฮยอก ดูเหมือนว่าจะมีไข้นิดหน่อยนะเนี่ย แสดงว่าเขาต้องยังช็อกมากๆแน่เลยที่พี่ยงฮวาพูดออกมาได้เป็นประโยคขนาดนั้น
”พี่สะใภ้~ จะทำอะไรให้ผมกินดีครับ” หลังจากดูอาการของมินฮยอกเสร็จแล้วฉันก็ออกมาเตรียมทำอาหารเย็นสำหรับเรา5คน (อ้อ! หมายถึงถ้ามินฮยอกฟื้นขึ้นมากินทันน่ะนะ - - )
”หมูย่างไง นายยุ่งอะไรอยู่รึเปล่า”
”ไม่นี่ ฉันจะมาช่วยเธอทำนี่แหละ”
”ดีเลย งั้นนายหั่นหมูแล้วเอาไปย่างเลยนะ อย่าใส่น้ำมันมากนักหล่ะ แล้วถ้าจะย่างรอบถัดไปก็เช็ดน้ำมันออกก่อนด้วย” ฉันหันไปสั่งงานกับจองชินให้หั่นหมูไว้ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่ยงฮวาที่ยังคงนั่งอยู่ข้างเตียงมินฮยอก
”พี่หิวรึยังคะ”
”
”
”วันนี้ฉันจะทำหมูย่างนะ รอกินได้เลย^ ^” ฉันส่งยิ้มให้พี่ยงฮวาก่อนจะเดินออกมาที่ครัว เพื่อเตรียมอาหารต่อไป
”
” แต่จู่ๆพี่ยงฮวาก็เอื้อมมือมาดึงมือของฉันเอาไว้ ทำเอาพี่จงฮยอนที่นั่งอยู่บนเตียงจองชินรีบวิ่งออกไปนอกห้องทันที >///<
”มีอะไรคะพี่?”
”
”
”
” นี่มันอะไรกันนะสายตาแบบนี้
?
”
”
”พี่
ตั้งใจจะถามว่าฉันเหนื่อยมั๊ยใช่รึเปล่าคะ?” ฉันลองถามออกไปในสิ่งที่สมองประมวลผลได้ ไม่รู้เหมือนกันทำไมฉันคิดจะพูดอย่างนั้นออกไป แต่ความรู้สึกมันบอกฉันว่าพี่ยงฮวากำลังถามฉันอย่างนั้นแน่ๆ
”
” พี่ยงฮวาดูจะตกใจเล็กน้อยที่ฉันถามออกไปอย่างนั้น แต่พี่เขาก็พยักหน้าน้อยๆเป็นสัญญาณว่าฉันเข้าใจถูกแล้ว
”ไม่เหนื่อยหรอกค่ะงานแค่นี้สบายมาก พี่นั่นแหละเหนื่อยรึเปล่าต้องเฝ้าไข้มินฮยอกตั้งนานแน่ะ”
”
” แล้วเขาก็ส่ายหัวเป็นคำตอบว่าไม่เหนื่อยสินะ ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกว่าเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับเราเยอะจังเลยนะ ^ ^
”งั้นพี่ดูมินฮยอกไปก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันออกไปช่วยจองชินกับพี่จงฮยอนเตรียมอาหารเย็นดีกว่า” ฉันบีบมือพี่ยงฮวาเบาๆก่อนจะเดินออกมานอกห้องของมินฮยอก ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าทำไมถึงสื่อสารกับพี่ยงฮวารู้เรื่องนะทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยคุยกันด้วยสายตารู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
”พี่สะใภ้คร้าบบบ ทำอะไรกับพี่ยงฮวาในห้องตั้งนานสองนานน่ะฮะ ผมเขินนะ -////-” และทันที่ที่ฉันเดินกลับมาที่ครัว พี่จงฮยอนก็อดที่จะแซวฉันไม่ได้จริงๆ
”ไม่ได้ทำอะไรนี่คะ พี่จงฮยอนนั่นแหละรีบออกมาทำไม จริงๆนั่งอยู่ด้วยกันก็ได้นะคะฉันแค่คุยกับพี่ยงฮวาเฉยๆ” ฉันบอกปัดอย่างเขินๆก่อนจะเดินไปล้างผักที่ล้างค้างไว้
”ถ้าผมนั่งดูอยู่ได้โดยไม่อิจฉาก็ถือว่าผมเก่งมากแล้วล่ะครับพี่สะใภ้ ฮ่าๆ”
”พี่ก็ไปแซวพี่สะใภ้ขนาดนั้น ต่อไปเธอจะกล้าเข้าใกล้พี่ยงฮวามั๊ยเนี่ย ระวังเถอะพี่ยงฮวาจะมาโกรธพี่เอานะ” จองชินชินกูก็พูดขึ้นโต้ตอบกับพี่จงฮยอนแทนฉันที่ตอนนี้อุณหภูมิในตัวพุ่งสูงปรี๊ดซะแล้ว ชายหนุ่มพวกนี้ไม่คิดว่าฉันจะเขินเป็นบ้างหรือไงนะ -////-
หลังจากที่เราสี่คนนั่งกินหมูย่างกันเสร็จแล้ว จองชินก็บอกว่าให้กลับไปพักที่ห้องของเราเลย เดี๋ยวทางนี้พวกเขาจัดการกันเอง อาหารมื้อเย็นวันนี้ดูเงียบลงไปถนัดตาเพราะมินฮยอกที่ดูท่าว่าคงจะช็อกยังไม่หายไม่สามารถมาร่วมวงกับเราได้น่ะสิ ฉันควรจะพามินฮยอกไปหาหมอดีมั๊ยนะ? แต่จองชินก็บอกว่าเดี๋ยวเขาดูแลมินฮยอกเอง อ้อ! พวกเขาเป็นรูมเมทกันนี่นา งั้นคงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วล่ะมั้ง ฉันดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนจะขอตัวกลับไปพักที่ห้องของฉันกับพี่ยงฮวา เราเดินออกจากห้องของสามคนนั้นเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรจนมาถึงหน้าห้อง จู่ๆพี่ยงฮวาก็รั้งมือฉันเอาไว้ ก่อนย่อตัวลงแล้วชี้ไปที่หลังของเขาแทน นี่อย่าบอกนะว่าพี่เขาจะแบกฉันเข้าห้องอย่างที่คู่แต่งงานเขาทำกันตอนย้ายเข้าบ้านใหม่น่ะ O___o!!
”พี่คะฉันเพิ่งกินอิ่ม พี่แบกฉันไม่ไหวหรอกน่า”
”
” แต่คนร่างสูงก็ยังคงนั่งยองๆอยู่กับพื้นไม่เปลี่ยนแปลง
”โธ่! แค่เราไขกุญแจเข้าไปแล้วเดินอีกเพียงก้าวเดียวก็เข้าห้องแล้วนะคะ พี่ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้” ฉันเขินน่ะค่ะ ไม่ใช่อะไรหรอก ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยขี่หลังผู้ชายคนไหนนอกจากคุณพ่อของฉันเลยนะคะพี่ TT^TT ซฮจูฮยอนจะเลือดสูบฉีดตายก็งานนี้แหละ
”
”
”พี่คะ ไว้วันหลังนะ
ว้ายยย!” แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าคนที่ไม่ยอมพูดอะไรจะทนไม่ไหว เพราะจู่ๆคนร่างสูงก็ลุกขึ้นมาแล้วช้อนร่างบางของคนตรงหน้าเอาไว้แนบอก ก่อนพยักพเยิดให้เธอเปิดประตูห้อง แล้วอุ้มเธอไปวางไว้บนปลายเตียงอย่างแผ่วเบา โดยหารู้ไม่ว่า หญิงสาวในอ้อมกอดตอนนี้เกร็งตัวจนแทบจะกลายเป็นหินไปซะแล้ว >///<
”พี่คะ อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ -///-” ปากก็ดุไปอย่างนั้นแหละ ในใจก็เต้นตุ้บๆไม่หยุดซะที
”
”
”
”
”
” และทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบก่อนคนร่างสูงจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูกับเสื้อคลุมอาบน้ำมาวางไว้บนตักของซอฮยอน เป็นการบอกให้เธอเข้าไปอาบน้ำก่อนเขา เธอจึงได้แต่ซุกหน้าลงกับผ้าขนหนูสีขาวที่เขาส่งมาให้เพื่อซ่อนความเขินอายก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อไปทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย
”ฉันรองน้ำอุ่นไว้ให้แล้วนะคะ พี่เข้าไปอาบได้เลยค่ะเดี๋ยวฉันจะไปจัดที่นอนให้” ซอฮยอนที่อาบน้ำเสร็จแล้วรีบออกมา เดินไปหาเขาคนนั้น คนที่ทิ้งให้เธอใจเต้นไม่เป็นส่ำ แล้วตอนนี้เขาก็มานั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาอย่างสบายใจเฉิบ เธอรีบพูดกับเขาโดยที่ดวงตากลมโตคู่สวยก็ไม่ได้มองไปที่คนฟังแม้แต่น้อย ก่อนเธอจะรีบเดินหลบสายตาของเขาเข้าไปในห้องนอนแทน นั่นทำให้ซอฮยอนไม่ได้เห็นแววตาที่แสนจะเอ็นดูปนขบขันกับท่าทางของเธอที่ส่งมาจากยงฮวา แต่ขณะเดียวกัน ยิ่งเมื่อเธอได้เข้ามาอยู่ในห้องนอนที่มีเตียงขนาดใหญ่เพียงเตียงเดียววางอยู่กลางห้อง ยิ่งทำให้หญิงสาวความคิดฟุ้งซ่านไปใหญ่
”คนบ้า
” ซอฮยอนบ่นพึมพำกับตัวเองน้อยๆก่อนเดินไปหยิบผ้าห่มผืนใหญ่สีขาวสะอาดตาออกมาจากถุงแล้วบรรจงจัดที่นอนให้เรียบร้อย
คืนแรกของการแต่งงาน มันจะเป็นยังไงนะ ?
เธอนั่งรอเขาอยู่นานสองนานภายในห้องกว้างขวาง แต่เขาก็ไม่เข้ามาในห้องสักที ไอ้ครั้นจะให้คนอย่างซอจูฮยอนเดินออกไปแล้วบอกว่า ‘พี่คะมานอนกันเถอะ’ เธอก็พูดไม่ได้หรอกนะ -////- แต่สุดท้ายเธอก็ต้องเดินออกไปดูเขาอยู่ดี ทว่าภาพที่เห็นนั่นยิ่งทำให้เธอช็อกยิ่งกว่า ก็คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ ตอนนี้กำลังนอนหลับตาพริ้มสบายบนโซฟาน่ะสิ ร่างสูงเหยียดขายาวไปจนเกือบสุดโซฟาสีดำที่วางเด่นอยู่กลางห้องรับแขก ลำแขนแกร่งก็ถูกรองไว้ใต้ศีรษะ อีกทั้งใบหน้าคมคายที่ยิ่งดูมีเสน่ห์ยามเมื่อต้องกับแสงจันทร์ที่ส่องลอดผ้าม่านเข้ามา ภาพตรงหน้าเรียกให้เธอเดินเข้าไปหาเขาช้าๆ ฝ่ามือเล็กเอื้อมออกไปสัมผัสกลุ่มผมนุ่มสีน้ำตาลอย่างเบามือ นิ้วเรียวของเธอค่อยๆไล่ไปตามส่วนต่างๆบนใบหน้าอย่างแผ่วเบา แต่เมื่อนิ้วเรียวทาบทับลงไปบนจมูกโด่งของคนตรงหน้า จู่ๆเจ้าของใบหน้านั้นก็ลืมตาขึ้นมาก่อนจะดึงเธอให้ล้มทับลงไปบนตัวเขาแทน ลำแขนแกร่งที่เคยใช้หนุนหัวตอนนี้ถูกเปลี่ยนหน้าที่มากอดรัดร่างบางเอาไว้ให้แนบตัวแทนซะแล้ว
”
”
”พะ พี่ยงฮวา
” ในตอนนี้ฉันไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้มากนักเพราะเหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ฉันหัวใจแทบหลุดออกมานอกอกน่ะสิ!
”
” หากแต่ไม่มีปฏิกิริยาจากคนตรงหน้า เขาที่ยังคงจ้องเข้ามาในดวงตาของฉันยังไง ในตอนนี้ฉันที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาก็ยังคงถูกจ้องอยู่เช่นนั้น -///-
”
”
”
” จากที่ไม่มีใครพูดอะไร ราวกับมีสิ่งหนึ่งแว้บเข้ามาให้หัวของฉัน
พี่เขาถามว่าฉันออกมาทำอะไรอยู่ตรงนี้งั้นหรอ ? นี่ฉันไม่ได้เพ้อไปเองหรอกใช่มั๊ย เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพี่ยงฮวากำลังถามประโยคนั้นกับฉันอยู่ได้ล่ะ?
”
” ลำแขนแกร่งกระชับมากยิ่งขึ้นเมื่อคนร่างบางในอ้อมกอดยังไม่มีทีท่าจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ
”
”
”พี่จะถามว่าฉันออกมาทำอะไรตรงนี้ใช่มั๊ยคะ ?”
”
” ร่างสูงเบิกตากว้างเล็กน้อยเพราะไม่เชื่อว่าเธอจะสามารถเข้าใจในสิ่งที่เขาพยายามบอกเธอได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
”ฉันแค่ออกมาดูว่าพี่ทำไมไม่เข้าไปนอนในห้องน่ะค่ะ”
”
”
”แล้วพอฉันออกมาก็เห็นพี่หลับอยู่ แล้ว
เอ่อ
คือว่า แล้ว
” ให้ตายจะบอกพี่ยงฮวายังไงดีหล่ะ ‘เพราะฉันออกมาก็เห็นว่าพี่หล่อมากเวลานอนหลับ ฉันเลยอดที่จะจ้องหน้าพี่ไม่ได้’ ให้บอกเขาอย่างนั้นหรอ
ไม่ดีมั้งจูฮยอน T^T
”
”
”ฉันเห็นยุงมันเกาะที่จมูกพี่ฉันเลยอยากจะปัดมันออกให้เท่านั้นเองค่ะ (.__. )///” พูดเองก็อายตัวเองแฮะ นั่นมันเป็นการแก้ตัวที่ฟังดูแย่ที่สุดเลยล่ะจูฮยอน T^T
”
” ตอนนี้คนตรงหน้าจึงเปลี่ยนอิริยาบถจากนอนราบบนโซฟาก็ลุกขึ้นมานั่งแทน แต่แขนแข็งแรงของเขาที่โอบกอดคนตัวเล็กเอาไว้ก็ยังไม่ปล่อยสักที ตอนนี้จึงเป็นว่าเธอนั่งอยู่บนตักเขาไปซะแล้ว!
”พี่ปล่อยฉันก่อนเถอะค่ะ อยู่แบบนี้มันอึดอัดนะ แหะๆ
” โอยยยย หัวใจของลูกจะระเบิดแล้วค่ะพระผู้เป็นเจ้า > <
”
” แต่คนที่เป็นฝ่ายได้เปรียบกลับดูไม่สะทกสะท้าน เพราะจู่ๆแทนที่เขาจะปลดพันธนาการจากเธอ เขากลับแกล้งหยอกคนตรงหน้าด้วยการเอาคางไปเกยไว้บนไหล่ของเธอแทน
”พี่ยงฮวา!!” ยิ่งเห็นคนตัวเล็กในอ้อมกอดดิ้นหยุกหยิกมากเท่าไหร่ จองยงฮวาก็ยิ่งได้ใจ เขาแกล้งประทับริมฝีปากลงไปเบาๆบริเวณต้นคอด้านหลังของเธออย่างแผ่วเบาหากแต่เป็นสัมผัสที่หนักแน่น
”
” และมันได้ผล!! เพราะตอนนี้คนตัวเล็กเรียกได้ว่าแน่นิ่งอยู่ในอ้อมกอดของเขาไปซะแล้ว
”หึ
หึ
.” คนร่างสูงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจที่เห็นคนตรงหน้านิ่งไป เขาค่อยๆคลายอ้อมกอดคนตัวเล็กออกก่อนจะเปลี่ยนไปช้อนร่างบางเข้าสู่อ้อมแขน เมื่อไม่เห็นร่างบางพูดอะไรเป็นการขัดขืน เขาก็เดินตรงไปห้องนอนทันทีโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าคนในแขนตอนนี้หน้าแดงมากขนาดไหน
”
”
”
” ยงฮวาอุ้มคนตัวเล็กที่ตอนนี้เขาคิดว่าเธอคงกลายเป็นก้อนหินไปแล้ววางลงที่ปลายเตียงสีขาวสะอาดอย่างเบามือ ราวกับว่าเธอคือแจกันล้ำค่าที่หากวางแรงมากกว่านี้คงจะได้แตกหักชำรุดไปก็ไม่ปาน ร่างสูงค่อยๆย่อตัวคุกเข่าลงตรงหน้าหญิงสาวที่ยังคงทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆอย่างไม่ปกปิด
”
” ฝ่ามือหนาเอื้อมออกไปสัมผัสเบาๆที่ฝ่ามือเล็กของหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะเอามาวางทาบบนหน้าอกข้างซ้ายของตนเองเพื่อให้เธอได้รับรู้บางสิ่งบางอย่างที่มันแทบหลุดออกมาอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว
”
”
”
” ร่างสูงส่งสายตาเป็นการสื่อสารอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นจุมพิตเบาๆบนหน้าผากมนของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของเขา ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอนด้วยรอยยิ้มที่แสนจะมีความสุข ทิ้งในคนอีกคนในห้อง นั่งใจเต้นกับสิ่งที่เขาสื่อสารอยู่คนเดียว
‘พี่รู้ว่าเธอยังไม่พร้อม’
พี่ว่าฉันยังไม่พร้อมในเรื่องนั้น? อย่างนั้นหรอฮะ!!!
จองยงฮวา!!!พี่นี่มันหลงตัวเองชัดๆเลย :P
"-------------------------------------------------------------
Talk with writer :
ช่วงนี้ไรท์เตอร์อารมณ์ดี อิอิ > <
เห็นคอมเมนท์แล้วมีกำลังใจ เห็นคนแอดแฟบเพิ่มแล้วหัวใจมันเต้นไม่หยุด
อยากอัพให้ทุกวันเลยจริงๆนะ TT^TT
แต่ไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ฟีลกำลังมา ก็เลยจะอัพถี่ๆหน่อย แต่อย่าเพิ่งได้ใจไปนะรีดเดอร์
เพราะในอนาคตไรท์เตอร์จะหาเรื่องอู้อย่างแน่นอน 555555
ก็ส่งไปเลยยงซอหวานๆก่อนนอน(สองทุ่มครึ่งนี่นะ - -?)
ไม่รู้หล่ะ ไรท์เตอร์กะจะอัพแล้วก็ไปนอนเลยเพราะวันนี้ร่างกายเหนื่อยมากกก
ยังไงก็หวังว่าจะพึงพอใจกับนิทานก่อนนอนเรื่องนี้นะคะ
เจอกันตอนหน้าในเร็ววัน จุ๊บๆ เลิฟยู มายด์รีดเดอร์ <3
ปล.แอบมีโมเมนต์ ‘จองชินมินฮยอก’ บ้างก็อย่าถือสาหวานเลย
ก็แค่ความสุขเล็กๆที่ได้แอบรักคู่นี้ อร๊างงง >w<
ปล2.กลิ่นดราม่าจากบุคคลที่สามเริ่มมาแล้ว
ฮัดช่า! เรื่องรักแปดเศร้านี่หวานถนัดนักแล 5555
ไอแอมพีเอสสึ
ความคิดเห็น