คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่10
ตอนที่10
หลังจากเหตุการณ์เมื่อวานที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเกิดขึ้นกับฉันและพี่ยงฮวา เช้าวันนี้ที่ฉันลืมตาตื่นขึ้นมามันช่างเป็นเช้าที่แสนจะไม่น่าตื่นสำหรับฉันเลยจริงๆ ฉันขยับตัวไปมาเล็กน้อยก่อนจะพบว่ามือของฉันถูกเกาะกุมไว้ด้วยฝ่ามืออุ่นของใครบางคนที่ตอนนี้ยังคงนอนพิงข้างเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ฉันเคลื่อนตัวไปนอนจ้องหน้าพี่ยงฮวาตอนหลับอย่างหลงใหล ฉันเองก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าชอบมองเขาตอนหลับตั้งแต่ตอนไหน
ราวกับว่าพี่ยงฮวาจะสัมผัสได้ว่ามีคนมาจ้องหน้าเขาอยู่ จู่ๆเขาก็ลืมตาขึ้นมาแล้วล็อกคอฉันให้เข้าไปใกล้เขากว่าเคย ในตอนเช้าๆแบบนี้เขาคงไม่คิดจะทำอะไรแบบนั้นหรอกใช่มั๊ย โธ่
ฉันยังไม่แปรงฟันเลยนะให้ตายสิ > <
ในขณะที่ฉันหลับตาพี่ยงฮวาก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะขยี้ผมฉันให้ยุ่งมากขึ้นไปอีกแล้วลุกขึ้นดึงมือฉันให้เดินตามเขาออกไปข้างนอก พี่ยงฮวาส่งฉันเข้าห้องน้ำด้วยการจูงมือไม่ยอมปล่อยสักที
“พี่จะเข้ามาอาบกับฉันเลยมั๊ยล่ะคะ” ฉันโพล่งถามออกไปแบบนั้นเนื่องด้วยว่าไม่ทันคิด แต่เมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้าทำท่าจะก้าวเข้ามาด้วยจริงๆนั้นฉันก็แทบจะผลักเขาออกไปไม่ทัน
“คนบ้า! อย่าแกล้งฉันแบบนี้อีกนะคะพี่” ฉันได้แต่ยืนพิงประตูด้วยหัวใจที่เต้นรัวก่อนจะตะโกนบอกเขาออกไปผ่านบานประตูห้องน้ำ
“
” ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากจองยงฮวาที่ท่านเรียก -____-
“พี่คะ ยังอยู่ข้างหน้ารึเปล่า?” ฉันถามออกไปเมื่อไม่เห็นว่าจะมีปฏิกิริยาอะไรจากเขา
“
” ฉันอดที่จะเป็นห่วงเขาไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่รู้ตัวว่าตัวเองกลับมาพูดไม่ได้แม้แต่กับฉันอีกครั้ง(และครั้งนี้ฉันอ่านใจเขาไม่ออกอีกด้วย ให้ตาย
) ถ้าได้โอกาสพี่ยงฮวาจะเงียบยิ่งกว่าเดิม แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกดีที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของเขาก็คือ มือของเขาจะไม่ปล่อยออกจากมือของฉันเลยถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นอย่างฉันต้องเข้าห้องน้ำอะไรทำนองนั้น มันเป็นเหมือนการทำสัญญาของเขาให้ฉันมั่นใจว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยมือจากฉัน และท้ายที่สุดเขาจะเลือกฉัน เหมือนอย่างที่เขาเลือกฉันในครั้งนี้
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นฉันยอมรับว่ามันบั่นทอนจิตใจของฉันมากทีเดียว ฉันอยากจะโทรหาใครสักคน คนที่ฉันสามารถระบายทุกอย่างให้เขาฟังได้ ระหว่างที่ฉันรองน้ำลงในอ่างอาบน้ำอยู่นั้น ชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาบนหัวของฉันก็คือ พี่ยุนอา! ใช่แล้ว ฉันโทรไปหาพี่ยุนอาดีกว่า
“
”
ตรู๊ดดดด
‘สวัสดีค่ะ’ ระหว่างถือสายอยู่นั้นไม่นานก็มีเสียงดังตอบกลับมา
“ฮะ ฮัลโหลค่ะ
นั่นใช่พี่ยุนอารึเปล่าคะ”
‘ไม่ใช่ค่ะ
ว่าแต่ นั่นซอฮยอนใช่มั๊ย!’ ปลายสายถามกลับมาอย่างตกใจ ฟังจากลักษณะน้ำเสียงและการพูดแล้วน่าจะเป็นพี่ฮโยยอนสินะ
“ใช่ค่ะพี่นี่ฉันเองซอฮยอน”
‘เธอเป็นไงบ้าง แล้วโทรหายุนอามีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า เธอบอกพี่ได้นะซอจู
’
“ฉันสบายดีค่ะ แค่จะโทรมาถามข่าวพี่ๆจากพี่ยุนอาเฉยๆน่ะค่ะ”
‘อย่างนั้นหรอกเหรอ เธอสบายดีก็ดีแล้วนะซอฮยอน แต่ตอนนี้ยุนอาน่ะ
’ เสียงพี่ฮโยยอนเงียบลงไปก่อนจะเริ่มพูดต่อ
‘ยุนอา
เข้าโรงพยาบาลน่ะซอฮยอน คือเมื่อคืนพวกพี่ๆน่ะพายุนอาไปเที่ยวที่ผับแล้วยัยนั่นดันไปสั่งเครื่องดื่มที่แรงที่สุด แล้วผลที่ได้ก็คือเมาไม่ได้สตินอนอยู่โรงพยาบาลน่ะ’ เสียงของพี่ฮโยยอนดูไม่ดีแล้ว พี่ยุนอาที่ไม่เคยเที่ยวผับไม่เคยดื่มเหล้า เมื่อเจอเครื่องดื่มที่แรงที่สุดจะเป็นยังไงนะ
“แล้วตอนนี้พี่ยุนอาเป็นไงบ้างคะ เธอรักษาตัวอยู่ที่ไหน”
‘ไม่มีใครรู้ว่ายุนอาอยู่โรงพยาบาลไหน คยูฮยอนเป็นคนพายุนอาออกไปจากผับ และไม่มีใครติดต่อเขาได้เลยสักคน ที่รู้ว่ายุนอาอยู่โรงพยาบาลก็เพราะคยูฮยอนส่งข้อความมาบอกซีวอนก่อนจะปิดเครื่องไปน่ะ’ พี่คยูฮยอนเป็นคนพาพี่ยุนอาออกมาจากผับอย่างนั้นหรอเนี่ย ระหว่างสองคนนี้ต้องมีอะไรกันแน่ๆฉันมั่นใจ
“พี่ฮโยยอนคะ ฉันถามอะไรสักอย่างสิคะ”
‘ได้สิซอจู
’
“พี่คยูฮยอนกับพี่ยุนอาเป็นอะไรกันหรอคะ” ระหว่างที่ถามคำถามออกไป ภาพแม่กุญแจสองดอกคล้องเกี่ยวกันที่ถูกเขียนชื่อ อิมยุนอากับโจวคยูฮยอนเอาไว้ก็ลอยเข้ามาในหัวของฉันทันที
‘อ้าว ยังไม่มีใครบอกเธอหรอกเหรอ.. อืม ก็ไม่แปลกหรอกที่เธอไม่รู้ เรื่องนี้พวกพี่ก็เพิ่งจะมารู้กันเมื่อไม่นานมานี่เอง’
“เรื่องอะไรคะ”
‘เรื่องที่ว่าคยูฮยอนกับยุนอาเคยคบกันก่อนที่ทั้งคู่จะเดบิวท์น่ะ’
“
!!!”
ราวกับสรรพสิ่งเงียบหายไป รอบตัวฉันเหมือนโลกหยุดหมุน ในที่สุดความจริงก็กระจ่าง และจากคำพูดของพี่ฮโยยอนนั่นเองทำให้ฉันเริ่มประมวลความคิดย้อนกลับไปสมัยที่ฉันยังคงเป็นโซนยอชิแดอยู่ พี่ยุนอาเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าที่เธอมาเดบิวท์เพราะเธอต้องการอยู่ใกล้ๆกับคนที่เธอรัก เพราะเขาทำให้เธอหลงใหลในเสียงดนตรี เธอรักเขาไม่น้อยไปกว่าที่รักการร้องเพลง แต่เพราะถ้าเธอไม่ได้มายืนอย่จุดๆนี้ เธอจะไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้ วันที่เธอได้เดบิวท์เป็นโซนยอชิแดนั้น คืนนั้นทั้งคืนพี่ยุนอาเอาแต่นอนร้องไห้ ฉันยังจำได้ดีว่าในคืนนั้นฉันเดินเข้าไปกอดพี่ยุนอาเบาๆ ก่อนเธอจะค่อยๆพูดผ่านเสียงสะอื้นนั่นมาว่า เธอทำได้แล้ว เธอสามารถยืนอยู่เคียงข้างเขาได้แล้ว เธออยู่ใกล้เขามากขึ้นไปอีกแล้ว พี่ยุนอาเอาแต่พร่ำพูดถึงเรื่องนี้เป็นร้อยๆรอบจนเผลอหลับไป
ฉันเองก็ไม่ได้เอะใจ ไม่นึกว่าจะเป็นพี่คยูฮยอนนั่นเองที่เป็นคนที่พี่ยุนอาพูดถึง แม้เราจะอยู่ในบริษัทเดียวกัน ออกงานด้วยกันบ่อยครั้งก็ตาม แต่ด้วยสถานภาพที่เป็นมักเน่ของวงทั้งสองวง ฉันจึงมักถูกจับคู่กับพี่คยูฮยอนบ่อยๆ ฉันเองก็ไม่ได้สงสัยเลยว่าทุกครั้งที่เราได้เจอกับสมาชิกซูเปอร์จูเนียร์ ไม่ว่าจะเป็นหลังเวที ห้องซ้อม หรือที่บริษัทก็ตาม พี่ยุนอาจะเป็นคนที่อยู่ใกล้ๆกับพวกเขามากที่สุด ยิ่งนึกย้อนไปก็ยิ่งทำให้ซอจูฮยอนมั่นใจว่า ที่ผ่านมาเธอตาถั่วมากแค่ไหน เคยมีครั้งหนึ่งที่พวกเธอกำลังจะขึ้นไปซ้อมที่ห้องซ้อมประจำที่ชั้น14 แต่จู่ๆพี่ยุนอาก็วิ่งมาบอกว่าแม่บ้านมาทำความสะอาด ให้ไปใช้อีกห้องที่ชั้น15แทน เมื่อพวกเราเข้าไปซ้อมก็พบว่าซูเปอร์จูเนียร์เองกำลังฝึกซ้อมท่าเต้นอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม และเนื่องจากประตูตรงกันและมันดันเป็นประตูกระจก ถ้ามองผ่านดีๆก็จะสามารถมองเห็นพี่คยูฮยอนได้จากห้องซ้อมห้องนี้ ซึ่งเราองนี้ฉันรู้มาทีหลังว่าแม่บ้านไม่ได้ไปทำความสะอาดชั้น14 แต่ไปทำความสะอาดชั้น12-13 แทน
ยิ่งนึกย้อนมากเท่าไหร่ซอฮยอนก็ยิ่งสงสารยุนอา เพราะพี่คยูฮยอนเองไม่เคยจะเหลียวมองพี่ยุนอาแม้สักครั้งที่ยื่นอยู่บนเวทีเดียวกัน ประโยคที่ฉันจำได้ว่าได้ยินพี่คยูฮยอนคุยกับพี่ยุนอาก็คือ ‘สวัสดีค่ะรุ่นพี่’ ‘สวัสดียุนอา’ ‘น้ำมั๊ยคะ’ ‘ขอบใจ’ ‘ยินดีด้วยนะคะ’ ‘เช่นกันนะ’ เท่านี้เองแหละมั้งที่พี่คยูฮยอนพูดกับพี่ยุนอาน่ะ
‘ซอจูๆๆ เธอยังอยู่ในสายรึเปล่าน่ะ’ เสียงของพี่ฮโยยอนดังขึ้นมาเรียกสติของฉัน
“ค่ะพี่ อยู่ค่ะ”
‘เธอโอเคนะซอฮยอน’ พี่ฮโยยอนถามฉันออกมาอย่างเป็นห่วง
“ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ แค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย พี่คะถ้าได้ข่าวพี่ยุนอา ช่วยรีบติดต่อฉันด้วยนะคะ”
‘ได้ๆ ไว้ฉันจะรีบโทรหาเธอนะ ระหว่างนี้ก็ทำใจให้สบายล่ะ อ้อ!ฝากสวัสดีคุณยงฮวาด้วยนะซอฮยอน’ พี่ฮโยยอนวางสายไปแล้ว แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่คือว่าพี่คยูฮยอนพาพี่ยุนอาไปที่ไหน..
“พี่ยงฮวาคะ
” หลังจากฉันใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานเกินไป เพราะคิดต่อยอดจากสิ่งที่พี่ฮโยยอนพูดยาวเกินไปหน่อยเลยทำให้วันนี้ฉันอาบน้ำช้ามากถึงมากที่สุด ฉันเดินออกมามองหาบุรุษร่างสูงเจ้าของตำแหน่งสามีของฉัน แต่มองยังไงก็หาไม่เจอ นี่เขาไปอยู่ที่ไหนนะ
“พี่คะ ว้ายยย!” ขณะที่ฉันเดินไปที่ครัวนั้นเองจู่ๆพี่ยงฮวาก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ อุ้มฉันขึ้นไว้ในลำแขนแข็งแรงก่อนจะพาฉันไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว แล้วยกจานอาหารมาเสิร์ฟทันที เมนูวันนี้คือข้าวหน้าเนื้อ! นี่เขาทำมันเองอย่างนั้นหรอเนี่ย
“พี่อย่าเล่นแบบนี้อีกนะคะ ฉันตกใจจริงๆนะ” ตกใจน่ะก็ตกใจอยู่หรอกนะคะ แต่ใจเต้นเพราะสัมผัสจากเขาต่างหากที่ทำให้ฉันไม่อยากให้เขาทำแบบนี้อีก
“
” พี่ยงฮวาไม่พูดอะไรอีกแต่กลับมีรอยยิ้ทเล็กๆผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา แค่เห็นเขายิ้มออกฉันก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้จริงๆ -////-
“พี่คะ วันนี้ฉันอยากไปสวนสนุก เราไปเที่ยวสวนสนุกกันเถอะนะ”
“
” พี่ยงฮวาเงยหน้าขึ้นมามองฉัน สายยตาคู่สวยของเขาราวกับจะสื่ออะไรบางอย่าง ฉันพยายามใช้ความรู้สึกมองเข้าไปในดวงตาของเขาเหมือนอย่างที่เคยทำ หากแต่ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม ฉันไม่สามารถอ่านใจเขาได้อีกต่อไปแล้ว
“พี่ไม่ตอบแสดงว่าตกลงนะ ^ ^” ฉันตัดสินใจตอบเองเออเองแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวหน้าเนื้อที่พี่ยงฮวาทำเองอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่ซอฮยอนไม่ทันได้สังเกต ใบหน้าที่เคยเปื้อนรอยยิ้มของยงฮวาเมื่อกี้นี้ กำลังเปลี่ยนไป ความเศร้าและความกังวลเข้ามาแทนที่ ตอนนี้เธอไม่รู้เลยจริงๆว่าเขารู้สึกยังไง อึดอัดแค่ไหนที่ไม่สามารถพูดกับเธอ ทั้งๆที่เธอก็นั่งอยู่ตรงหน้าแท้ๆ เขากำลังเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรเพื่อเธอได้แม้แต่น้อย เขากำลังโกรธตัวเอง และทันใดนั้นน้ำใสๆก็ค่อยๆปริ่มในดวงตาสีดำ เขาปาดมันช้าๆก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่ให้เธอมองเห็นใบหน้า เขาจะแสดงความอ่อนแอให้เธอเห็นไม่ได้ จะให้เธอมาเป็นห่วงเขาไม่ได้
“ว้าววว~ นี่ฉันไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้วนะคะพี่” ซอฮยอนพูดอย่างร่าเริงก่อนจะคล้องเข้าที่แขนของยงฮวาอย่างไม่เขินอายอย่างที่เคยเป็น
“เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีคะ” ซอฮยอนหันหน้ามาถามความคิดจากเขา แต่ร่างสูงก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร ที่ยงฮวาทำก็เพียงแค่ยักไหล่คล้ายจะบอกเธอว่าตามใจเธอเลย
“ฉันว่าเราไปดูที่คาดผมกันดีกว่าเนอะ มาที่สวนสนุกจะไม่ซื้อที่คาดผมได้ไง” ซอฮยอนพูดอย่างร่าเริงก่อนเดินนำยงฮวาไปยังร้านขายของเล่นต่างๆ เธอหยิบหูกระต่ายสีดำขึ้นมาใส่ให้เขา ยงฮวามองตัวเองในกระจกแล้วก็อดขำไม่ได้ เขาจึงหยิบหูกระต่ายสีขาวชมพูให้ซอฮยอนเป็นการแลกเปลี่ยน
ทั้งคู่เลือกที่คาดผมให้กันแล้วก่อนจะเดินไปตระเวนเล่นเครื่องเล่นต่างๆอย่างสนุกสนาน ผู้คนมากมายต่างงุนงงกับท่าทางของทั้งคู่ที่ซอฮยอนเอาแต่พูดๆอยู่ฝ่ายเดียว แต่นั่นก็ไม่ทำให้ซอฮยอนเขินอายหรืออย่างใด แม้ว่าเดินๆไปสักพักยงฮวาจะเริ่มสัมผัสได้ถึงสายตาที่พวกเขามองมาที่ซอฮยอนอย่างแปลกๆ ยงฮวาจึงพยายามสะบัดมือของซอฮยอนให้หลุดจากแขนของเขาบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ซอฮยอนก็ยังไม่ลดละกับการคล้องแขนเขา เธอไม่เข้าใจว่าที่เขาทำแบบนั้นมันเป็นเพราะอะไร เมื่อเธอได้คล้องแขนเขาอีกครั้งเธอจึงกอดแขนของเขาอย่างแน่นและยังเอาแก้มของเธอไปพิงแนบไว้กับไหล่ของเขาเพื่อป้องกันการถูกขับไล่(?)ออกจากลำแขนของคนร่างสูงอีกครั้ง
“พี่จะแกะมือฉันออกทำไมคะ พี่อายหรอที่เดินกับฉันน่ะ
” ระหว่างที่ทั้งสองคนเดินเล่นไปเรื่อยๆในสวนสนุก ไม่มีใครพูดอะไรมาตลอดทางจนในที่สุดซอฮยอนก็เป็นคนเปิดปากพูดออกมาเองด้วยความอึดอัด
“
” แต่เธอก็คงลืมไปว่าตอนนี้ผู้ชายคนข้างๆนั้นไม่สามารถพูดอะไรกับเธอได้อีกแล้ว
“พี่คิดอะไรอยู่ ทำไมไม่บอกฉันบ้าง
” เธอตัดพ้อออกมาทั้งๆที่ไม่ยอมมองหน้าเขา และมือเล็กๆของเธอก็กอดแขนของเขาแน่นยิ่งขึ้นไปอีกราวกับว่าถ้าเธอเผลอปล่อยแขนเขาไป เขาคนนี้จะต้องหายไปอย่างแน่นอน
“
” ยงฮวาหันหน้ามมองหญิงสาวข้างกายที่ตอนนี้เอนหัวมาพิงไว้กับไหล่เขา แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นสีหน้าของเธอแต่เธอต้องกำลังรู้สึกแย่อยู่แน่ๆ
“
” และทันใดนั้น ร่างสูงก็หยุดเดินก่อนจะปลดแขนของซอฮยอนออกช้าๆ เธอส่ายหน้าอย่างแรงก่อนจะรีบคว้าแขนของเขามากอดไว้แนบแก้มอีกครั้ง หากแต่ยงฮวากลับยิ้มขำๆกับท่าทางของเธอแล้วเขาก็ดันเธอออกมา ก่อนจะลูบไปบนเรือนผมสวยงามของคนตรงหน้าแล้วบรรจงจูบไปอย่างแผ่วเบาที่หน้าผากมนของซอฮยอน หญิงสาวตรงหน้าที่ก่อนหน้านั้นยังดิ้นไม่ยอมปล่อยมือจากแขนของเขา แต่ในตอนนี้เธอกลับไม่มีแรงแม้จะพยุงให้แขนของตัวเองเอื้อมไปจับแขนของเขาเลยเสียด้วยซ้ำ
“
” ยงฮวายิ้มน้อยๆกับตัวเอง ก่อนจะย่อตัวลงตรงหน้าซอฮยอนที่ยังยืนค้างอยู่กับที่
“คะ?” เมื่อตั้งสติได้ ซอฮยอนก็สงสัยกับการกระทำของผู้ชายตรงหน้ามากขึ้นไปอีก
“
” ยงฮวาชี้ไปที่หลังของตัวเองแล้วส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ซอฮยอน
“ให้ฉันขึ้นหลังพี่หรอคะ ขึ้นทำไมคะพี่”
“
” ยงฮวาเห็นหญิงสาวไม่ยอมขึ้นมาสักทีก็ทำท่าจะเข้าไปอุ้มเธอแทน นั่นจึงทำให้ซอฮยอนยอมขึ้นขี่หลังของเขาอย่างไม่เต็มใจนัก
“
”
“
”
ในตอนนี้ซอฮยอนขึ้นไปอยู่บนหลังของยงฮวาแล้ว ทั้งสองคนไม่มีใครพูดอะไรอีกเลยตลอดการเดินทางไปจนทั่วสวนสนุก แขนเล็กของซอฮยอนกอดเข้าที่ลำคอแข็งแรงของยงฮวาก่อนหญิงสาวจะซบหน้าลงบนแผ่นไหล่ของเขาช้าๆแล้วยิ้มกว้างอยู่กับตัวเองคนเดียวอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่าชายผู้ที่แบกเธออยู่นั้น ก็กำลังยิ้มอยู่กับตัวเองเหมือนกัน J
“
” เมื่อพี่ยงฮวาให้ฉันขี่หลัง ตอนแรกนั้นฉันตกใจมาก แต่ก็ยอมขึ้นอยู่ดี ความรู้สึกในตอนนั้นเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับฉันมากๆ หัวใจของฉันที่เคยเต้นแรงเวลาที่พี่เขาอยู่ใกล้ๆ หากแต่ครั้งนี้มันเปลี่ยนไป มันเต้นแรงเหมือนครั้งก่อนๆน่ะใช่อยู่
แต่มันให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป ไม่เหมือนกับที่เต้นกับคิมแจฮัน ไม่เหมือนกับที่เต้นกับใครทั้งนั้น
ไม่สิ!มันเหมือนกับว่า ความรู้สึกในการเต้นของหัวใจนี้เคยเต้นมาแล้ว ฉันสัมผัสได้ ฉันจำจังหวะการเต้นและความรู้สึกนี้ได้ มันเคยเกิดขึ้นเมื่อตอนที่พี่ยงฮวาทำแผลให้ฉันด้วยปาสเตอร์ยาในวัยเด็กนั่นไง! ว่าแต่
ความรู้สึกที่ว่านี่มันคืออะไรกันหล่ะ ?
“พี่คะปล่อยฉันลงตรงนี้เถอะ” ฉันบอกพี่ยงฮวาอู้อี้ผ่านแผ่นหลังของเขา หากแต่เขาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินเลย ร่างสูงยังคงจังหวะของการเดินต่อไปอย่างสม่ำเสมอ ก็ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แต่นี่เรากำลังจะเข้าเขตของส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้าแล้วน่ะสิ ถ้าคนอื่นเห็นพี่ยงฮวาแบกฉันอย่างนี้ ฉันก็เขินแย่น่ะสิ -///-
“พะ พี่คะ! ปล่อยเถอะค่ะ” ไม่ทันแล้วล่ะ ตอนนี้สายตาของคนรอบข้างเริ่มจับจ้องที่ฉันกับพี่ยงฮวาอย่างไม่มีปกปิด ก็ตอนนี้พี่เขากำลังแบกฉันขึ้นบันไดเลื่อนน่ะสิ TT^TT
“
” แต่พอเราขึ้นไปถึงบันไดเลื่อนขั้นสุดท้ายพี่ยงฮวาก็ยอมปล่อยฉันลงโดยไม่พูดอะไร
“
” แต่พี่เขากลับทำท่าบิดขี้เกียจอย่างกับคนแก่ที่ปวดหลังอย่างนั้นแหละ
“นี่ฉันหนักมากขนาดนั้นเลยหรือไงคะพี่!” คนบ้า!ถ้าเมื่อยหลังแล้วทำไมไม่ปล่อยกันลงให้เร็วกว่านี้เล่า -////-
“
” แต่พี่ยงฮวากลับส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ฉันแทนคำตอบ
“พี่คะ ปวดมากรึเปล่า” ฉันเดินเข้าไปหาเขาก้อนจะกดไปบนช่วงไหล่และแผ่นหลังของเขาเบาๆ
“
” พี่ยงฮวาไม่พูดอะไรแต่กลับเอื้อมมือมาจับมือของฉันแล้วเริ่มออกเดินทันที
“
” จับมือเดินในห้างอย่างนั้นหรอ >///< นี่มันคือสิ่งที่สาวๆต่างก็ใฝ่ฝันว่าจะทำกับคนรักของตัวเองทั้งนั้นนั่นแหละ โอยย หัวใจของฉัน ทำไมวันนี้มันถึงเต้นแรงกว่าทุกครั้งนะให้ตายสิ!
“
” พี่ยงฮวาจูงมือเดินนำฉันไปเรื่อยๆก่อนเราจะเข้าสู่โซนร้านหนังสือ นี่พี่เขารู้ได้ไงนะว่าฉันชอบอ่านหนังสือ
“พี่จะซื้อหนังสืออะไรหรอคะ *0*” แม้ว่าฉันจะถามออกไปอย่างนั้นว่าพี่เขาอยากได้หนังสืออะไรก็เถอะ ใจจริงก็คือถ้าพี่เขาไม่ว่าอะไรฉันจะขอไปเดินดูหนังสือที่ฉันชอบสักหน่อยน่ะ
“
” พี่ยงฮวายักเลิกคิ้วน้อยๆแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรอยู่ดี ฉันจังดึงมือพี่เขาไปยังโซนหนังสือที่ฉันชอบอ่าน
“งั้นไปดูหนังสือที่ฉันชอบกันนะคะ > <”
“
”
“นี่ไงคะโซนที่ฉันชอบที่สุด” เมื่อฉันหันหน้าไปมองก็พบว่าพี่ยงฮวากำลังมองป้ายบอกชื่อโซนหนังสือนี้อย่างตกใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นเป็นสองเท่าก่อนปากของเขาจะค่อยๆเคลื่อนที่ ออกจากกันทีละนิดๆ
“คิกๆ พี่ทำไมทำหน้าแบบนั้นหล่ะคะ ไม่ชอบอะไรแบบนี้หรอ”
“
” พี่ยงฮวารีบส่ายหน้าอย่างกับเด็กๆถูกบังคับให้กินยาขมๆอย่างนั้นแหละ
“งั้นฉันจะแนะนำให้พี่อ่านสักเล่มก็แล้วกันนะคะ อ๊ะ!” เมื่อฉันเสนอว่าจะแนะนำหนังสือให้เขาอ่านสักเล่นเขาก็กระตุกข้อมือฉันอย่างแรงก่อนจะลากให้ฉันเดินไปทางอื่นทันที ไม่ยอมหรอก! มาถึงร้านทั้งทีฉันต้องแนะนำให้เขาอ่านหนังสือพวกนี้สักเล่มให้ได้!
“ไม่เอา~ ฉันไม่อยากไปหมวดอื่นนะคะ อยู่ดูนี่แหละน้า~” ฉันหันไปทำหน้าอ้อนพี่เขาก่อนจะหันมาเลือกหนังสือให้เขาต่ออย่างมีความสุข
“
”
“พี่ต้องเล่มนี้เลยค่ะ !”
“O___o!!!”
“ ‘ไม่มีใครเกิดมาเพื่อคุณ’ มันดีจริงๆนะคะพี่> < ”
“O___O!!!”
“อ๊ะ เล่มนี้ก็น่าสนุกเหมือนกันค่ะ ‘อย่าเรียนรู้ที่จะอยู่เพื่อความสุขของคนอื่น ขั้นแรกจงอยู่เพื่อความสุขของตนเอง’” ฉันหยิบหนังสือใส่มือให้พี่ยงฮวาอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่ได้มองเลยว่าตอนนี้เขามีสีหน้ายังไง
“เดี๋ยสนะคะพี่ขอฉันเสิร์ชดูอีกนิดหน่อยนะว่ามันอยู่ตรงไหน” ฉันเดินไปหาข้อมูลของหนังสือเล่มต่อไปที่จะแนะนำพี่ยงฮวาที่หน้าคอมพิวเตอร์ที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ หากตว่าพี่ยงฮวากลับคว้าข้อมือของฉันก่อนจะพาฉันเดินออกจากโซนหนังสือประสบความสำเร็จด้วยตนเองที่ฉันชอบทันที
“พี่จะพาฉันไปไหนเนี่ย ฉันยังเลือกหนังสือให้พี่ไม่หมดเลยนะคะ” เมื่อพี่ยงฮวาปล่อบข้อมือของฉันและฉันก็ได้เห็นหน้าเขาเต็มๆตาสักที ฮ่าๆตอนนี้หน้าตาของพี่ยงฮวาป่วยสุดๆเลยล่ะ เขาต้องรู้สึกอึดอัดมากแน่ๆเลยที่ต้องอยู่ในโซนหนังสือแบบนั้น
“พี่ไม่ชอบหนังสือพวกนี้หรอคะ” ฉันทำเป็นเดินเข้าไปจับหนังสือที่ยื่นใส่มือเขาก่อนจะทำหน้าตาละห้อยเหมือนรู้สึกเสียใจ ทั้งๆที่ความจริงข้างในฉันนั้นหัวเราะกับท่าทางของเขาอย่างบ้าคลั่งไปแล้ว 5555
“
” พี่ยงฮวาตกใจกับการกระทำของฉันเล็กน้อย ก่อนพี่เขาจะถอนหายใจพรืดยาวออกมา แล้วส่ายหน้าช้าๆ
“ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่ต้องลากฉันออกมาด้วยล่ะคะ”
“
” เขาทำหน้าตาบอกไม่ถูกว่าควรจะสื่อสารอย่างไรให้ฉันเข้าใจ ยิ่งเห็นเขาทำหน้าเหวอหวาอย่างนั้น ซอจูฮยอนก็อดที่จะสงสาร(ปนขบขัน)ไม่ได้
“พี่คะ ฉันล้อเล่นน่า คิกๆ > <”
“
” เมื่อพี่ยงฮวารู้ว่าถูกแกล้ง เขาก็พองลมเข้าแก้มเหมือนเด็กๆอย่างที่เคยทำก่อนจะเดินหนีฉันไปทันที
“พี่คะ~ ~ ~” ฉันวิ่งตามเขาไปจนทันก่อนจะกอดแขนเขาอีกครั้ง
“พี่จะพาฉันไปไหนต่อคะ” ฉันเอียงคอถามทันทีที่เกาะแขนเขาได้ พี่ยงฮวาสบตาฉันเล็กน้อยก่อนจะพาฉันเดินไปยังล็อกหนังสืออีกโซน ที่ถูกจัดไว้ตรงข้ามกับโซนที่ฉันชอบอ่านเลยหล่ะ มันต้องเป็นหนังสือที่ฉันไม่เคยอ่านแน่ๆ =___=
“
” เขาเดินมองหนังสือตามชั้นอยู่สักพักก่อนจะหยิบออกมาให้ฉันเล่มหนึ่ง
“เอ๋? ‘การปฏิบัติตัวต่อคนรักและการออกเดทในช่วงวัยรุ่น’ พี่จะให้ฉันอ่านหนังสือแบบนี้จริงหรอคะ”
“
” พี่ยงฮวาพยักหน้าอย่างมั่นใจ ก่อนเขาจะเดินหยิบเล่มที่สอง สสาม สี่และห้าออกมาเรื่อยๆ โดยทั้งหมดนั้นก็หนีไม่พ้นเรื่องความรักเลยหล่ะ เธอตายแน่ซอจูฮยอน T____T
“’ดูแลความรักอย่างไรให้ยืนยาว’ ‘มีความรักในวัยเรียนไม่ใช่เรื่องผิด’ ‘วิธีครองชีวิตคู่ให้ยืนยาว’ ‘การแสดงออกต่อคนรัก’
= = ” ฉันอ่านทวนชื่อหนังสือแต่ละเล่มก่อนจะมองไปที่คนเลือกอย่างเหลือเชื่อ
“พี่จะให้ฉันอ่านหรังสือแบบนี้จริงหรอคะ”
“
” พี่ยงฮวาพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันแล้วชี้ไปที่หนังสือทั้งหมดก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว อ๋ออ!พี่เขาคงอยากให้ฉันเลือกสินะ ว่าแต่
ไม่มีช้อยท์ข้อที่ว่า ไม่เลือก บ้างหรอ ฉันไม่เคยอ่านหนังสือแบบนี้เลยตริงๆนะ T^T
“พี่คะ
ฉันไม่แกล้งพี่แล้วก็ได้น่า ฉันไม่เคยอ่านอะไรพวกนี้จริงๆนะคะ” แต่คนร่างสูงตรงหน้าก็ยังคงชูสองนิ้วให้ฉันอยู่ดี
“TT^TT” ฉันส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือไปหักนิ้วพี่เขาลงให้เหลือแค่นิ้วเดียว
“
” พี่ยงฮวาทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่ก่อนจะยิ้มให้ฉันอย่างมีเลศนัยแล้วเอื้อมมือมาดึงหนังสือที่ฉันแนะนำให้เขาออกไปหนึ่งเล่ม
“พี่ทำอะไรคะนั่น! อย่าบอกนะว่าถ้าฉันเลือกแค่เล่มเดียว พี่ก็จะอ่านเล่มเดียวน่ะ”
“^____^” และครั้งนี้พ่อหนุ่มที่เคยหน้าบูดหน้ายึ้งก็ยิ้มร่าเหมือนเด็กๆได้หยุดเรียนภาคฤดูร้อนยังไงอย่างนั้นเลย
“แสดงว่า ถ้าฉันไม่เลือกสักเล่ม พี่ก็จะไมม่อ่านหนังสือที่ฉันเลือกให้เหมือนกัน อย่างนั้นสินะคะ - -” ฉันเริ่มเข้าใจแผนการของเขาแล้วหล่ะ เฮ้ออ~ แต่หนังสือที่ฉันแนะนำให้พี่ยงฮวาน่ะสนุกจริงๆนะ
“โอเคค่ะๆ ฉันยอมก็ได้ แต่แค่สองเล่มนะตกลงมั๊ยคะ” ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะหลับตาเลือกหนังสือในมือเขามาสองเล่ม
“ได้แล้วค่ะ งั้นเราไปจ่ายตังค์กันเลยเถอะ เดี๋ยวอยู่นานกว่านี้ฉันว่าเราต้องได้หนังสือกันตชคนละสิบเล่มแน่เลย” ฉันถือหนังสือทั้งหมดเดินไปจ่ายตังค์รอพี่ยงฮวาที่เอาหนังสือไปเก็บที่เคาท์เตอร์ ระหว่างที่กำลังต่อแถวคิดเงินอยู่นั้นลำแขนหนักๆก็พาดลงมาบนไหล่ของฉันอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะมีหัวหนักๆของใครก็ไม่รู้มาวางไว้บนไหล่อีกข้าง เมื่อฉันหันหน้าไปดูก็พบว่า พี่ยงฮวานั่นเองที่กำลังเอาคางมาเกยไว้บนไหล่ของฉันอยู่
“พี่คะ
>///<” ลมหายใจหนักๆของเขากำลังรินรดอยู่ข้างแก้มของฉัน นั่นยิ่งทำให้หัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะมากกว่าเดิม
“ถอยออกไปเถอะค่ะ ฉันจะหยิบเงินในกระเป๋ามันไม่สะดวกนะคะ” ฉันพยายามคุมน้ำเสียงให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะนิ่งได้ แต่ดูเหมือนว่าจังหวะหัวใจที่เต้นแรงของฉันจะไปรบกวรการสั่นสะเทอนของเส้นเสียงให้มันสั่นรัวมากกว่าปกติซะแล้วสิ > <
“
” พี่ยงฮวายังคงอยู่ท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมื่อพนักงานเรียกเช็คบิล เขาก็ยื่นเงินสดออกไปจ่ายทันทีด้วยมือข้างที่พาดไหล่ฉันอยู่ ก่อนเขาจะใช้มือที่ว่างอีกข้างรับถุงหนังสือนั้นไปหิ้วไว้ แล้วก็ล็อกคอฉันเดินออกจากร้านหนังสืออย่างรวดเร็ว
“พี่คะเราแวะหาอะไรทานกันหน่อยดีมั๊ย” เมื่อเราเดินผ่านร้านสปาเกตตี้ร้านหนึ่งท้องของฉันก็แอบร้องขึ้นมา > <
“
” พี่ยงฮวาดูจะเห็นด้วยกับความคิดนี้ เราสองคนจึงเดินเข้าไปในร้านสปาเกตตี้นี้อย่างรวดเร็ว
“พี่จะกินอะไรดีคะ” ฉันชะเง้อมองพี่เขาเป้นระยะๆว่าพี่เขาจะกินอะไร แล้วเขาก็ชี้เมนูที่ฉันเองก็คิดไว้เหมือนกัน แอบเขินจังแฮะ >___<
“อืม
เอาสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าซีฟู้ดสองที่ค่ะ” ฉันหันไปสั่งสปาเก็ตตี้ก่อนจะหันมามองผู้ชายตรงหน้าที่กำลังเปิดดูหนังสือสองเล่มที่ฉันซื้อให้อย่างสีหน้าไม่ค่อยดี
“
” แล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาหนึ่งทีก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋าของเขา
“พี่ไม่ชอบมันจริงๆสินะคะ ฮะๆ” ฉันชักจะรู้สึกผิดจริงๆแล้วสิที่ฝืนใจเขาแบบนั้น
“
” แต่ทว่าพี่ยงฮวากลับยื่นมือมาเขกหัวฉันหนึ่งทีแล้วหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาเขียนบางอย่างลงไป
“
”
“เขียนอะไรหรอคะ” ฉันยื่นตัวไปแอบมองแต่พี่ยงฮวาก็เอื้มมือมาปิดไว้ด้วยในขณะที่กำลังเขียน
“
” เมื่อเขียนเสร็จพี่เขาก็ยื่นกระดาษมาให้ฉันอ่าน
“ ‘เมื่อตอนกลางวันขอโทษที่สะบัดมือเธอออกนะ พี่แค่ไม่อยากให้คนมองเธอว่าบ้าพูดกับตัวเองน่ะ พี่น่ะแคร์เธอมากนะฮยอน อย่าคิดมากอีกเลย พี่ชอบทุกอย่างที่เธอทำนะ จาก
ยงนัมพยอน J’ อะไรกันเนี่ยคะพี่ -////-” สิ่งที่เขาเขียนมันทำให้หัวใจที่เพิ่งจะสงบลงไปไม่นานกลับมาเต้นอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
“
” เมื่อมองไปยังเจ้าของจดหมายฉันก็พบเพียงแค่รอยยิ้มกว้างที่ระบายอยู่บนใบหน้าของเขา
“พี่นี่จะแกล้งฉันให้ได้จริงๆเลยสินะคะ -///-” ฉันพูดออกไปทั้งๆที่ไม่ได้มองหน้าเขา ฉันรีบพับกระดาษทิชชูที่เขาเขียนให้ใส่ในกระเป๋าเพื่อซ่อนความเขินอายจากการต้องเงยหน้าไปสบตากับผู้ชายตรงหน้า นี่จะหมายฉบับที่สองแล้วที่เขาเขียนให้ฉันแล้วลงท้ายว่า ยงนัมพยอน > <
หลังจากเราจัดการกับสปาเกตตี้เสร็จแล้วก็ออกจากร้านนั้นทันที เราสองคนเดินไปดูของใช้ในบ้านเรื่อยเปื่อย ก่อนจะได้ที่แขวนแปรงสีฟันคู่กับชุดนอนคู่รักที่ขายเป็นคู่กันอยู่กลับมาบ้านด้วย ของพี่ยงฮวาเป็นที่แขวนแปรงสีฟันรูปเป็ดสีเหลืองกับชุดนอนสีฟ้า ส่วนของฉันเป็นที่แขวนแปรงสีฟันรูปทามามะกับชุดนอนสีชมพู แค่คิดภาพพี่ยงฮวาใส่ชุดนอนสีหวานแหววแบบนี้แล้วก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ก็ลุคของเขามันหนุ่มร็อคไม่ยอมพูดนี่นา จะให้มาใส่ชุดนอนสีหวานแบบนี้งั้นหรอ ฮ่าๆ ขอฉันขำรอเลยได้ไหมนะ 55555
“
” ตอนนี้เราเดินออกมาจากห้างแล้ว ฉันคิดไม่ออกว่าจะไปไหนดี เหมือนพี่ยงฮวาเองก็ไม่รู้ว่าเราจะไปไหนกันดี ระหว่างทางการเดินกลับบ้านของเราก็เลยเงียบไปโดยปริยาย แต่ฉันว่าเราเงียบแบบนี้มันก็ดีกว่าพูดคุยกันแล้วจบด้วยการไม่ลงรอยกันอีกนะ สำหรับฉัน ซอจูฮยอนคนธรรมดาคนนี้ แค่ได้มีใครสักคนเดินเคียงข้างกันกลับบ้าน มองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าด้วยกันแบบนี้ จับมือกันไว้ไม่ปล่อยให้อีกคนต้องเดียวดายแบบนี้ แม้เราจะไม่สามารถพูดคุยกันได้สักคำ แต่แค่คนข้างๆฉันที่กำลังจับมือฉันอยู่นี่ไม่ทิ้งกันไปที่ไหนก็ดีมากเกินที่ฉันต้องการแล้วหล่ะ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่ที่เลือกฉัน ฉันรู้ดีค่ะว่าพี่ยังเป็นห่วงเธออยู่
แม้ว่าเธอจะทำให้พี่รู้สึกใจเต้นหรืออุบัติเหตุที่เกิดกับเธอในครั้งนี้
มันทำให้พี่กลับไปพูดไม่ได้อีกครั้ง มันกระทบจิตใจพี่มากฉันรู้ค่ะ
แต่แค่พี่เลือกฉัน ฉันก็รู้สึกขอบคุณพี่มากจริงๆนะคะ
สามียงของฉัน J
"-------------------------------------------------------------
Talk with writer :
เป็นไงบ้างงงง ยงซอจัดเต็มมั๊ยล่ะ ไม่มีคู่อื่นมาแทรกเลยเถอะ > <
พอดีพี่เอาแผ่นยงซอกลับมาคืน เลยได้โอกาสเปิดดูอีกครั้ง
เพื่อเรียกฟีลในตอนนั้นมา ฉากที่ทั้งคู่ไปซื้อหนังสือให้กันน่ะค่ะ
แต่ฉากไปเที่ยวสวนสนุกเขียนยังไงก็ดูไม่สนุก
หวานเลยบรรยายรวมๆเอานะคะ ^ ^
ในตอนนี้เอาหวานเบาๆไปก่อนนะคะ
เป็นการปูทางรอความหวานที่กำลังจะจัดเต็มกว่านี้ไงคะ อ๋ายยย~
ไม่อยากบอกเลย พลอตที่เขียนร่างไว้ในสมุดน่ะหวานจนหวานยังเขินเองจริงๆนะ ฮี่ๆ >///<
สำหรับปมคยูฮยอนกับจองชิน มีคนเดาถูกด้วยล่ะว่าปมๆนั้นคืออะไร J
ที่หวานบอกได้ก็คงมีแค่ ‘โปรดติดตามตอนต่อไป’ นะคะ
ปล.คำติชมของคุณ ไม่ว่ามันจะคือคำติ หรือ คำชม
มันคือกำลังใจและแรงผลักดันของหวานนะคะ
หากรู้สึกว่าฟิคเริ่มกร่อยๆไม่สนุก เสนอได้น้า~
จะพยายามปรับปรุงงานให้ดีที่สุดเพื่อทุกคนที่รักยงซอนะคะ
เจอกันตอนหน้าเน้อออ
หนาวแล้วนะคะ ดูแลตัวเองกันมากกว่าเดิมด้วยล่ะรีดเดอร์
ไอแอมพีเอสสึ
ความคิดเห็น