คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่8
ตอนที่8
ฉันเดินมาไกลแค่ไหนแล้วนะ ? ฉันแทบไม่รู้ตัวเลยจริงๆว่าตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรอยู่ ฉันกำลังจะไปที่ไหน เหมือนเรี่ยวแรงมันหายไปจากร่างกายของฉันอย่างเฉียบพลัน
ซอจูฮยอนที่เคยเข้มแข็งหายไปไหนแล้วนะ? ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้หญิงที่ชื่อปาร์กชินเฮจะเป็นยังไงบ้าง แต่คิดว่าคงถึงโรงพยาบาลแล้วหล่ะมั้ง และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้สามีของฉันจะเป็นห่วงผู้หญิงคนนั้นมากแค่ไหน บางทีตอนนี้เขาอาจจะกำลังกุมมือเธออยู่ข้างเตียงก็เป็นได้
”เฮ้ออออ
” ฉันอดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ถ้าปาร์กชินเฮกลับมาแล้ว พี่ยงฮวาจะยังอยากดูแลฉันอย่างที่พูดไว้รึเปล่านะ หรือเขาต้องการเธอคนนั้นมากกว่าฉันกันแน่ พวกเขารักกันมาก่อน ปาร์กชินเฮอยู่ในหัวใจของพี่ยงฮวามานานกว่าเธอซะอีก ไม่แน่นะ จริงๆแล้วผู้หญิงที่ติดอยู่ในความทรงจำของเขาอาจจะเป็นปาร์กชินเฮไม่ใช่ซอจูฮยอนก็ได้
”เลิกคิดเถอะจูฮยอน
” ฉันได้แต่ปลอบตัวเองเบาๆ แต่ยิ่งเงียบ ยิ่งหยุดคิด น้ำตาก็ยังคงไหลออกมาไม่ยอมหยุดซะที ให้ตายสิ
ฉันเดินเรื่อยเปื่อยมาตามถนน และเมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจเพราะว่าที่ๆฉันอยู่ตอนนี้คือสถานที่เดิมที่ฉันเคยมากับพี่ยงฮวา ‘โซลทาวเวอร์’นั่นเอง ฉันเดินเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบขึ้นไปยังที่ๆฉันกับเขาเคยมาด้วยกัน ลานกว้างๆบนหอคอยที่มีราวทำไว้เป็นที่แขวนแม่กุญแจคู่รักอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว ฉันใช้เวลาไม่นานในการเดินหาแม่กุญแจของฉันกับพี่ยงฮวา ฉันเดินเข้าไปหาแม่กุญแจสีฟ้ากับสีชมพูอ่อนก่อนจะเอื้อมมือออกไปลูบเบาๆบนแม่กุญแจสีฟ้า
”ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนคะพี่ยงฮวา
ทำไมพี่ปล่อยให้ฉันมาคนเดียวในที่ๆเราเคยมาด้วยกันคะ
พี่ไปไหนหรอ
” ฉันได้แต่พูดกับแม่กุญแจของพี่ยงฮวาก่อนน้ำตาใสๆจะไหลออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้าของฉันอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่
”ฮึก
คนใจร้าย
” ฉันสะอื้นเป็นครั้งสุดท้ายของการร้องไห้ครั้งที่เท่าไหร่ก็นับไม่ถ้วนเหมือนกันของวันนี้ ฉันค่อยๆพลิกแม่กุญแจของพี่ยงฮวามาอ่านอีกครั้งราวกับอยากที่จะย้อนความทรงจำกลับไปอยู่ในช่วงที่ยังมีเขามาด้วยกันที่นี่
‘ถึงฮยอน
พี่ตัดสินใจพาเธอมาที่นี่เพราะพี่คิดว่าพี่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับเธอแล้ว หวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป พี่จะดูแลเธอเอง เด็กน้อยของพี่ เรามาพยายามไปด้วยกันเถอะนะ จาก
ยงนัมพยอน^ ^’
”ยงนัมพยอน
” ฉันยิ้มน้อยๆกับการแทนตัวเองของเขา พี่ยงฮวามักจะลงท้ายด้วยคำว่า สามียง เสมอๆเวลาเขียนอะไรก็ตาม ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อได้อ่านข้อความของเขาแต่ทว่ามันก็เป็นเพียงความสุขชั่วครู่เท่านั้น ประโยคที่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป มันช่างเป็นอะไรที่
ตอกย้ำเหตุการณ์ตอนนี้ได้เป็นอย่างดี
ไหนล่ะคนที่บอกจะอยู่กับฉัน
ก็ไม่มี
ไหนล่ะคนที่จะดูแลฉัน
ก็ไม่มี
ไหนหล่ะยงนัมพยอนของฉัน
ก็ยังคงไม่มีอยู่ดี
”
” ฉันปาดน้ำตาอีกครั้งอย่างโดดเดี่ยวก่อนจะพลิกแม่กุญแจของตัวเองขึ้นมาอ่านบ้าง
‘สวัสดีค่ะพี่ยงฮวา ฉันจูฮยอนนะคะ ฉันตกใจมากที่พี่พาฉันมาที่นี่แต่ขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกดีที่พี่อยู่ตรงนี้กับฉันนะคะ ฉันสัญญาจะรับฟังพี่ทุกอย่าง ฉันจะเข้าใจพี่ทุกอย่าง ฉันจะยอมรับพี่ทุกอย่าง และฉันจะอดทนค่ะ ฉันอยากเป็นคนเดียวที่อ่านใจพี่ออกจัง คึคึคึ~ จากนี้ไปเรามาทำมันไปด้วยกันนะคะ ยงซอไฟท์ติ้ง’
”โอ้
ซอจูฮยอน
เธอทำอะไรลงไปกันนะ” ฉันยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้เพื่อปกปิดเสียงสะอื้นที่กำลังจะตามมาอีกระลอก ฉันสัญญากับตัวเองแล้วแท้ๆว่าจะเข้าใจเขา ฉันสัญญากับเขาแล้วด้วยว่าจะรับฟังเขาทุกอย่าง ฉันจะเข้าใจเขาและยอมรับทุกอย่างที่เขาทำ ฉันจะอดทนเพื่อเขา เพื่อผู้ชายที่ชื่อจองยงฮวา แต่ตอนนี้ฉันทำอะไรลงไป? ฉันไม่แม้แต่จะอยู่เคียงข้างเขาเมื่อเขาเจอปัญหา ฉันไม่รับฟังเหตุผลในสิ่งที่เขาทำ ฉันไม่เชื่อใจเขาได้ยังไง ปาร์กชินเฮมาก่อนฉันก็จริง แต่ยังไงซะเธอก็คืออดีต ฉันต่างหากคือปัจจุบัน ซอจูฮยอนต่างหากที่เป็นปัจจุบันของจองยงฮวา แล้วนี่ฉันเดินหนีพี่ยงฮวามาแบบนั้นได้ยังไงนะ ถ้าเขาไม่ยอมพูดอะไรกับคนรอบข้างล่ะ ถ้าเขาไม่พูด
ความลับของเขาก็จะต้องแตก และมันอาจจะกระทบถึงจิตใจของเขาด้วยก็เป็นได้ โอ้ตาย!! ฉันพลาดไปอีกแล้วจริงๆ นี่ฉันต่างหากที่กำลังเป็นฝ่ายทำร้ายพี่ยงฮวาอยู่ใช่มั๊ย
พี่คะ พี่รอฉันก่อนนะคะ ฉันกำลังจะไปหาพี่แล้ว
”อ๊ะ!...” ฉันปาดน้ำตาอีกครั้งก่อนจะหันหลังกลับเพื่อออกวิ่งไปหาพี่ยงฮวา แต่ทว่าเพียงแค่หันหน้ากลับมาฉันก็ชนเข้าอย่างจังกับแผ่นอกกว้างของคนร่างสูงที่ยืนอยู่ กลิ่นสบู่ที่คุ้นเคยของคนตรงหน้าทำให้ฉันอดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้
”
”
”พี่ยงฮวา
” และเมื่อฉันเงยหน้าขึ้นภาพที่ฉันไม่แน่ใจว่าจะได้เห็นมันก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว
”
” หากแต่เหมือนมีอะไรต่างออกไป พี่ยงฮวายืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนอย่างเคย
”พี่คะ ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่คะ” ฉันไม่สนหรอกว่าตอนนี้เขาจะเป็นห่วงเธอคนนั้นมากแค่ไหน เพราะตอนนี้ความเป็นห่วงที่ฉันมีต่อผู้ชายคนนี้มันกำลังลบล้างความโกรธ ความน้อยใจ ความสับสนและอีกหลากหลายความรู้สึกที่ปนเปอยู่ในใจให้ออกไปทีละนิด
ทีละนิด
และยิ่งฉันได้เห็นเขามายืนหายใจหนักๆรดใบหน้าฉันอยู่ตรงนี้ยิ่งทำให้หัวใจที่เหมือนหยุดเต้นให้กลับมาสูบฉีดเลือดอีกครั้ง ใช่แล้ว
ซอจูฮยอนใจอ่อนอีกแล้ว เฮ้อออ J
”
”
”พี่โอเครึเปล่าคะ เธอเป็นยังไงบ้างคะ” ฉันเอื้อมมือออกไปสัมผัสเบาๆที่แก้มของเขา
”
” แต่ก่อนที่ฉันจะทันตั้งตัว พี่ยงฮวาก็รวบตัวฉันเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว อ้อมกอดที่อบอุ่น อ้อมแขนที่แข็งแรงและกลิ่นกายที่โหยหายยามเหนื่อยล้า
ตอนนี้ฉันกำลังครอบครองมันอยู่
”
” ฉันยิ้มน้อยๆอยู่ภายใต้อ้อมกอดที่อบอุ่นนั้นก่อนจะกอดตอบพี่ยงฮวาและปล่อยให้เสื้อของพี่ยงฮวาซับน้ำตาให้ฉันช้าๆ
”
” ไม่มีใครพูดอะไร มีเพียงพี่ยงฮวาที่กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นกว่าเดิมก่อนฉันจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสหนักๆจากริมฝีปากนุ่มของเขาที่ประทับลงบนเรือนผมของฉัน
”พี่คะ
พี่จะไม่เล่าให้ฉันฟังหน่อยหรอว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ฉันเอ่ยถามเสียงอู้อี้ออกไป นี่พี่ยงฮวากอดฉันนานไปแล้วนะ
-///-
”
” แต่พี่ยงฮวาก็ยังคงเงียบ
”พี่ยงฮวา
” ฉันตัดสินใจดันตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของเขาทีละนิดๆ เมื่อพี่ยงฮวาเห็นน้ำตาของฉัน ท่ามกลางความเงียบของเราพี่ยงฮวาก็เอื้อมมือออกมาปาดน้ำตาออกให้ฉันอย่างแผ่วเบาก่อนจะเลื่อนตัวฉันให้เข้าไปใกล้แล้วประทับรอยจูบเบาๆบนหน้าผากของฉัน จูบเบาๆแต่ทำให้ฉันรู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั่วร่าง หัวใจที่เหมือนได้กลับมาเต้นอีกครั้งยิ่งเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม
”เธอเป็นยังไงบ้างคะ” ฉันเอ่ยถามขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนความเขินที่มันแทบล้นทะลักอยู่ข้างใน
”
” พี่ยงฮวาไม่ตอบแต่กลับยืนเงียบจ้องมาที่ฉันอย่างเดียว
”พี่เป็นอะไรรึเปล่าคะ ทำไมไม่พูดกับฉันล่ะคะพี่
หืม?” ฉันเขย่าแขนของเขาเบาๆแล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นพี่ยงฮวาหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขาก่อนจะกางมันออกให้ฉันดู
”พี่เอากระดาษนี่มาทำอะไรน่ะคะ” ฉันเอียงคอถามเขาอย่างสงสัยก่อนเอื้อมมือไปดึงกระดานมาดู
”
”
”นะ นี่มันอะไรกันคะ
พี่ล้อฉันเล่นหรอ?” ฉันตกใจมากจริงๆเมื่อได้เห็นข้อความบนกระดาษแผ่นนั้น พี่ยงฮวากำลังกลับไปเป็นแบบเดิมอีกครั้งอย่างนั้นหรอ?
”พี่คะ แม้แต่กับฉันพี่ก็พูดไม่ได้หรอคะ!!!”
”
” เขาไม่แม้แต่จะขยับปาก เส้นเสียงตรงลำคอของเขาก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น
”พี่
” ฉันเอื้อมมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเขาเบาๆ ก่อนจะพยายามอ่านความคิดของเขาจากแววตาเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาก็คือ
ความว่างเปล่า
”
” พี่ยงฮวาเอื้อมมือของเขามาวางทับบนมือของฉันอย่างแผ่วเบาก่อนจะบีบมันช้าๆ แล้วน้ำตาใสๆก็ค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาสีดำคู่สวยที่เคยเต็มไปด้วยแววตาขี้เล่น แต่ตอนนี้เขากำลังร้องไห้อยู่กับฝ่ามือของฉันอย่างเงียบๆ
”
”
”ร้องมันออกมาเลยค่ะ ฉันจะเช็ดน้ำตาของพี่เอง” ฉันพูดอย่างจริงใจก่อนจะค่อยๆลูบน้ำตาออกจากใบหน้าของพี่ยงฮวาช้าๆทีละนิด
ทีละนิด
โรงพยาบาลโซล
”ผมมาหาคนไข้ชื่อปาร์กชินเฮที่เกิดอุบัติเหตุฮะ” น้ำเสียงนุ่มๆเอ่ยบอกกับพยาบาลที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์
”รอสักครู่นะคะ
” ระหว่างที่รอพยาบาลที่อยู่เคาท์เตอร์ก้มหน้าคีย์ข้อมูลชื่อปาร์กชินเฮอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มินฮยอกก็เดินไปหาหญิงสาวร่างบางที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่อย่างไม่ร้อนเนื้อร้อนใจ
”นี่เธอ หัดมีความรู้สึกบ้างสิ มาเยี่ยมคนเจ็บที่เกิดอุบัติเหตุนะ ไม่ใช่มารอกินกาแฟซะหน่อย - -”
”ย่าห์!!! แล้วฉันรู้จักยัยคนนั้นมั๊ย? ก็ไม่ แล้วทำไมฉันต้องห่วงคนที่ฉันไม่รู้จักด้วยหล่ะ” ซูซี่เถียงกลับมินฮยอกอย่างขัดใจ
”นี่ๆๆๆ พวกนายเกรงใจคนอื่นบ้างสิ ขนาดโรงพยาบาลยังจะมาทะเลาะกันอยู่ได้นะ” แล้วจองชินก็เดินเข้ามาห้ามทัพได้ทันพอดีเป็นจังหวะที่พยาบาลคนนั้นบอกข้อมูลเกี่ยวกับปาร์กชินเฮ
”ตอนนี้คนไข้ยังอยู่ในห้องผ่าตัดอยู่นะคะ คงอีกสักพักกว่าจะออกมาได้ ยังไงไปนั่งรอกันก่อนนะคะ”
”เอ่อ
ห้องผ่าตัดนั่นไปทางไหนหรอครับ” จองชินจึงทำหน้าที่ถามข้อมูลแทนมินฮยอกที่ตอนนี้ยืนเถียงกับซูซี่เรื่องลำดับความอาวุโสอยู่
”ขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นสามค่ะ เลี้ยวขวาจะเจอทันทีค่ะ”
”ขอบคุณมากนะครับ” จองชินโค้งหัวให้พยาบาลคนนั้นก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟท์โดยไม่รอสองคนนั้นที่ยังคงยืนเถียงกันอยู่อย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้างและสถานที่ แต่มินฮยอกหันมาเจอเขากำลังเดินเข้าลิฟท์พอดีมินฮยอกจึงรีบวิ่งมาที่ลิฟท์ทันที โดยไม่วายหันไปแลบลิ้นให้ซูซี่อย่างสนุกสนาน
”แบร่~ ยัยหัวขโมยรามยอน ฉันไปก่อนดีกว่าเบื่อผู้หญิงพูดมาก”
”นี่นาย!กดลิฟท์ให้ฉันด้วยสิยะ ไอ้ตีบนี่!!” ซูซี่วิ่งตามไปที่ลิฟท์อย่างเร็วแต่ก็ยังช้ากว่ามินฮยอกที่ขายาวกว่าอยู่ดี ในขณะที่เธอกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในลิฟท์ในชั่วอึดใจสุดท้ายนั้นจงฮยอนที่เดินมาจากข้างหลังก็เอื้อมมือมาคว้ามือของเธอเอาไว้ก่อนจะดึงเธอออกมาจากลิฟท์ที่กำลังจะปิดนั้นทันที
”ระวังสิซูซี่! ค่อยไปรอบหน้าก็ได้หรอก” จงฮยอนดุสาวน้อยไม่รู้จักความคนนี้ก่อนจะเดินไปกดลิฟท์อีกตัวโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ เบซูซี่กำลังใช้มือข้างที่ถูกเขาสัมผัสขึ้นมาแนบแก้มอย่างตื่นเต้น แต่ระหว่างที่ทั้งสองยืนรอลิฟท์อยู่เงียบๆนั้น ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออก จงฮยอนก็เห็นมินฮยอกยืนกดเปิดลิฟท์ไว้รออยู่ในนั้นซะแล้ว
”เฮ้! มินฮยอก นายไม่ได้ขึ้นไปกับจองชินหรอกเหรอ” จงฮยอนเอ่ยถามหนุ่มรุ่นน้องอย่างสงสัย ก็เขาเห็นมินฮยอกเข้าลิฟท์ไปกับจองชินนี่นาอีกทั้งยังไม่เปิดลิฟท์ไว้รอซูซี่อีกด้วย แล้วทำไมจู่ๆถึงมาโผล่ที่ลิฟท์อีกตัวได้ล่ะเนี่ย = =
”ผมลงมารับพี่นั่นแหละ เข้ามาเร็วๆเถอะฮะ” ในฮยอกเร่งจงฮยอนแต่สายตากลับส่งไปหาผู้หญิงอีกคนที่ยังไม่เดินเข้ามาในลิฟท์สักที
”นี่ยัยเบ~ เธอจะเข้ามาหรือไม่เข้าฮะ!”
”ไอ้ตีบ! นายเป็นใครมาเรียกฉันว่าเบฮะ!!!”
”ฉันหรอ? ก็คังมินฮยอกไง ทีนี้เธอจะเข้ามาในลิฟท์ได้รึยังมิทราบคุณเบซูซี่” มินฮยอกยื่นหน้าออกไปหาซูซี่ที่ยืนเอามือแนบแก้มอยู่นอกลิฟท์อย่างจงใจยั่วให้โกรธด้วยการทำหน้าทำตาใส่เธอด้วย
”ซูซี่ รีบเข้ามาเถอะ เราจะได้รีบขึ้นไปดูอาการเพื่อนพี่ไงครับ” จงฮยอนที่เห็นมินฮยอกเอาแต่แหย่ซูซี่ก็ตัดสินใจพูดขึ้นมาให้เรื่องจบไปเร็วๆ ตอนนี้เขาเป็นห่วงปาร์กชินเฮจะแย่อยู่แล้ว
”ฉันเข้าไปเพราะพี่จงฮยอนหรอกนะ :P” ซูซี่หันมาแลบลิ้นให้มินฮยอกหนึ่งทีก่อนจะเดินเข้ามาในลิฟท์ทั้งๆที่มือก็ยังคงแนบอยู่ที่แก้มอย่างนั้นนั่นแหละ
”จองชินหมออกมารึยังน่ะ” จงฮยอนเป็นคนแรกที่วิ่งไปถึงหน้าห้องฉุกเฉินก่อนใครเพื่อน เพราะอะไรน่ะหรอ เพราะตอนนี้เบซูซี่ (ที่ยังคงเอามือที่จงฮยอนจับไปแนบแก้ม= =) กำลังเดินเถียงกันกับคังมินฮยอกมาตลอดทางเดินของโรงพยาบาลน่ะสิ
”ยังไม่ได้ข่าวอะไรเลย ว่าแต่พี่เถอะไปที่สถานีตำรวจมาเป็นไงบ้าง” จองชินเอ่ยถามจงฮยอนอย่างเป็นห่วงทางของพี่ยงฮวามากกว่า
”ทางนั้นบอกว่าจับคนชนได้แล้วเป็นรถคนเมาน่ะ พี่ยงฮวาไม่ได้เป็นคนชน เขาไม่มีความผิดอะไร”
”พี่ว่าพี่สะใภ้จะรู้มั๊ยว่าเธอเป็นใคร” จองชินเอ่ยถามออกมาอย่างกังวลใจ
”เอาจริงๆพี่ไม่อยากให้จูฮยอนรู้ ถ้าเธอไม่ถามก็คงดีไป
แต่ถ้าเธอถามเราก็คงต้องบอก” จงฮยอนบอกออกมาอย่างเหนื่อยใจกับเหตุการณ์ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นแสนกะทันหัน วินาทีที่เขาได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ไม่คุ้นแล้วเขาก็รับรู้ว่าพี่ยงฮวาขับรถชนคนเข้าเขากับจองชินก็รีบมาที่ที่เกิดเหตุทันทีและให้มินฮยอกกับซูซี่มาดูอาการของผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลก่อนเพื่อที่พวกเขาจะได้เคลียร์คดีทางนั้นให้ลงตัวก่อน
เมื่อไปถึงเขาพบเพียงแค่รถของพี่ยงฮวาแต่ไม่พบคนขับรถและไม่พบแม้แต่พี่สะใภ้จูฮยอน คนในเหตุการณ์บอกว่ารถโรงพยาบาลโซลเพิ่งมารับตัวผู้บาดเจ็บไปเมื่อกี้นี้เอง ส่วนเจ้าของรถหายไปไหนพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน และก็มีคุณป้าคนหนึ่งที่มุงดูเหตุการณ์อยู่เดินเข้ามายื่นจดหมายมาให้เขาก่อนนายตำรวจจะเข้ามาดูพื้นที่ เนื้อความในจดหมายคือสิ่งที่พี่ยงฮวาฝากไว้ให้เขา พี่ยงฮวาบอกว่าคนที่ได้รับอุบัติเหตุคือปาร์กชินเฮ เขาทำอะไรไม่ถูกทั้งอยากจะอยู่ดูชินเฮที่บาดเจ็บไม่ได้สติแต่ซอฮยอนก็สำคัญ เนื้อความคร่าวๆคือพี่ยงฮวาตัดสินใจส่งชินเฮขึ้นรถพยาบาลให้เรียบร้อยแล้วขอให้คนแถวนั้นโทรหาผม จากนั้นเขาก็เขียนจดหมายฉบับนี้ฝากไว้กับป้าคนนั้นแล้วออกวิ่งตามหาพี่สะใภ้จูฮยอน เขาขอโทษที่ก่อเรื่องแต่เขาไม่สามารถปล่อยให้พี่สะใภ้หายไปจากเขาได้จริงๆ เมื่อผมอ่านเนื้อความในจดหมายผมก็รับรู้ได้เลยว่า หัวใจของพี่ยงฮวาเปลี่ยนไปแล้ว
และเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงอีกต่างหาก
ผมตัดสินใจไปเคลียร์กับตำรวจเรื่องนี้เองแล้วให้จองชินขับรถของพี่ยงฮวาออกจากถนนไปสมทบกับมิยฮยอกเพื่อดูอาการชินเฮที่โรงพยาบาลแทนแล้วผมจะตามไปทีหลัง หลังจากตกลงเรื่องต่างๆเรียบร้อยผมก็รับดูแลอาการบาดเจ็บของปาร์กชินเฮเอง เพราะถ้ารอให้คนขับคนนั้นหายเมาคงยาก ผมบอกเพื่อนของชินเฮที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นว่าผมจะรับผิดชอบเอง เธอก็ตอบตกลงด้วยดีเพราะว่าผมกับเธอก็พอจะคุ้นเคยหน้ากันมาบ้างเมื่อตอนที่พี่ยงฮวายังมีความผูกพันกับชินเฮอยู่ เมื่อเรื่องทุกอย่างเคลียร์เสร็จผมก็รีบมาที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการของชินเฮทันที
อย่างน้อยก็ขอให้เธอปลอดภัย อย่างน้อยหลังจากหายไปนานนับ4ปี
ก็ขอให้ได้กล่าวทักทายกันบ้างเถอะนะ ปาร์กชินเฮ
”ตอนนี้พี่ยงฮวากับพี่สะใภ้ไปไหนกันนะ” จองชินพูดขึ้นมาอย่างสงสัย
”ไม่รู้สิ
” เหมือนจะไม่รู้ แต่จงฮยอนกลับคิดว่าเขารู้ เขาคิดว่าพี่สะใภ้ของเขาต้องรู้เรื่องที่ว่าคนได้รับอุบัติเหตุคือปาร์กชินเฮแล้วแน่ๆ แต่จูฮยอนไม่น่าจะรู้ว่าชินเฮเคยมีความหลังอะไรกับพี่ยงฮวามาก่อนนี่นา หรือพี่ยงฮวาเผลอแสดงอาการออกมาว่าเป็นห่วงชินเฮโดยไม่สนใจพี่สะใภ้ที่กำลังเสียขวัญ? พี่สะใภ้ก็เลยปะติดปะต่อเรื่องได้เอง? แล้วก็เลยเกิดการเข้าใจผิดกัน? และพี่ยงฮวาก็เลือกที่จะตามไปง้อพี่สะใภ้โดยไม่สนใจว่าผู้หญิงที่ชื่อปาร์กชินเฮจะเป็นยังไงบ้าง? เรื่องมันจะเป็นอย่างไหนแน่นะ
แต่ไม่ว่าเรื่องนี้ความจริงจะเป็นอย่างไรนั้น มีอยู่อย่างหนึ่งที่อีจงฮยอนมั่นใจ นั่นก็คือ
คนที่สำคัญสำหรับพี่ยงฮวาไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อปาร์กชินเฮอีกแล้ว หากแต่เป็นเธอคนนั้นต่างหาก
ซอจูฮยอน เธอคนนี้แหละที่เข้ามาลบล้างคนที่ชื่อปาร์กชินเฮให้ออกไปจากใจพี่ยงฮวา เขามั่นใจ!!!
อีจงฮยอนมั่นใจว่าซอจูฮยอนจะเป็นคนที่เข้ามาแทนที่ปาร์กชินเฮได้แน่ เพราะเมื่อก่อนตอนที่พวกเขายังสนิทกับชินเฮอยู่นั้น เพียงแค่ชินเฮโดนมดกัด พี่ยงฮวาก็แทบจะเอายาฆ่ามดมาพ่นรอบห้องพักเลยทีเดียว โดยเขาไม่สนใจด้วยว่าพวกเขาอีกสามคนกำลังจะเป็นลมเพราะกลิ่นยาฆ่ามดที่โคตรเหม็น = = แต่กับเหตุการณ์ครั้งนี้ พี่ยงฮวาเลือกจะตามจูฮยอนไป โดยไม่สนใจว่าปาร์กชินเฮจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่เขามั่นใจว่า หัวใจของจองยงฮวาเปลี่ยนไปแล้ว
แต่ขณะเดียวกัน ซอจูฮยอนก็มั่นใจเหมือนกันว่าปาร์กชินเฮคือคนที่ยังคงอยู่ในใจของยงฮวาตลอดเวลา เพราะการที่เห็นปาร์กชินเฮได้รับอุบัติเหตุต่อหน้า พี่ยงฮวาก็ถึงกับช็อกและนิ่งไป และนั่นก็ทำให้เขาไม่สามารถพูดได้แม้แต่กับเธอด้วยซ้ำไป แต่ต่อไปนี้เธอจะไม่แสดงอาการอะไรให้เขาต้องเป็นห่วงเธออีกแล้ว ถ้าจองยงฮวาอยากจะดูแลปาร์กชินเฮเธอจะพาไป ถ้าจองยงฮวาอยากพูดกับปาร์กชินเฮ เธอจะช่วยเขาอย่างสุดความสามารถ เธอจะไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าตัวเธอต้องรู้สึกยังไงหรือใครจะคิดยังไง เพราะเธอรู้เพียงแค่เธอไม่อยากเห็นน้ำตาของจองยงฮวาอีกแม้แต่ครั้งเดียว
"-------------------------------------------------------------
Talk with writer :
เป็นไงล่ะ!!!!!!!
หวานบอกแล้วว่าดราม่าไม่นานหรอก (เพราะมันจะมาเป็นระยะๆ 55555)
สุดท้ายพี่ยงของเราก็เลือกน้องซอจนได้
แต่ที่ตามมาก็คือการกลับไปพูดไม่ได้อีกครั้ง
ตอนต่อไปคู่นี้คงยังหวานมากไม่ได้เพราะมีบุคคลที่สามเพิ่มเข้ามา
แต่ก็ไม่ดราม่าหนักเพราะพี่ยงพิสูจน์ได้แล้วว่าเขาลือกซอฮยอนไม่ใช่ชินเฮ คึคึคึ~
แต่จงฮยอนกับน้องซอของเราก็กำลังตีความหมายความรู้สึกของพี่ยงผิดไป
เอ๊ะ! แล้วใครกันนะที่จะรู้ใจพี่ยงของเราจริงๆ
คึคึคึคึคึ~ พรุ่งนี้กีฬาสีเริ่มวันแรกเอาใจช่วยสีแดงของหวานด้วยนะคะ
แล้วเจอกันในเร็ววัน รักพวกคุณมาก
ปล.ใครที่ข้องใจอะไรหวานจะไปตอบคำถามในคอมเม้นท์นะคะ
ไม่อยากเปิดตอนใหม่มาแทรกระหว่างเนื้อเรื่อง มันไม่สวย
ถ้าใครอยากรู้อะไรโพสไว้ถามได้นะคะ หวานจะตอบแต่คำถามผ่านๆนะคะ
อันไหนที่เป็นคำถามที่เป็นปมของเรื่อง ขออนุญาตไม่ตอบเพื่อความสนุกในการลุ้นจ้า :)
ไอแอมพีเอสสึ
ความคิดเห็น