ตอนที่ 9 : Chapter 9
Chapter 9
ฉันทำงานในวันถัดมาด้วยสภาพจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่
ฉันมองไปทางอาจารย์ลู่หานเป็นระยะ
อดคิดไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าอาจารย์ลู่หานกับอาจารย์อี้ฝานเป็นแวมไพร์
อาจารย์ทั้งสองคนดูปกติ แล้วฉันก็ทำงานกับอาจารย์ทั้งสองคนมาตั้งนาน ฉันอยู่ใกล้แวมไพร์มาตลอดเลยหรอเนี่ย
ทำไมฉันต้องระแวงขนาดนี้ ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว ไม่เห็นต้องกลัว
ไม่มีอะไรน่ากลัวสักหน่อย
ฉันต้องไม่ระแวงอาจารย์สิ ฉันก็แค่ต้องทำงานเหมือนเดิม ทำตัวให้ปกติ ต้องไม่คิดมาก
“คิดอะไรอยู่ครับ?” เสียงอาจารย์ลู่หานดังขึ้นตรงหน้า ฉันเงยหน้ามองเจ้าของเสียง
อาจารย์ลู่หานมายืนตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“เปล่าค่ะ” ฉันตอบเสียงดัง ฉันจะเสียงดังทำไมกันเนี่ย
อาจารย์ลู่หานอมยิ้ม
“ไม่ต้องกลัวครับ ไม่มีอะไรน่ากลัว ผมก็เป็นลู่หานคนเดิมนั่นล่ะครับ”
ฉันยิ้ม มันคงดูกระอักกระอ่วนมากเลย ฉันได้ยินอาจารย์ลู่หานหัวเราะเบาๆ ด้วย
“ขอตัวก่อนนะครับ”
อาจารย์ลู่หานโค้งตัวให้ฉันก่อนเดินออกไปจากห้องทำงาน
ฉันมองตามจนลับสายตา
ถึงเวลาพักกลางวัน ฉันก็อดคิดถึงเรื่องแวมไพร์ไม่ได้อยู่ดี ฉันนั่งกินข้าวกับหลินหยูเหมือนเดิม มองหลินหยูที่กำลังเล่าเรื่องแฟนให้ฟังแล้วก็ได้รู้สึกคันยุบยิบแถวปาก ฉันอยากเล่าเรื่องทั้งหมดที่เจอให้หลินหยูฟัง แต่เรื่องแวมไพร์ หลินหยูจะเชื่อเหรอ? ไม่แน่หลินหยูจะหาว่าฉันอ่านนิยายเยอะไป
ฉันตักข้าวเข้าปาก พลันหางตาสะดุดเข้ากับกลุ่มนักเรียนที่เพิ่งมาถึงตรงโต๊ะข้างๆ
หวังจวิ้นข่าย
ฉันพยายามไม่มองหวังจวิ้นข่าย แต่ก็อดเหลือบมองไม่ได้
ฉันเผลอลูบต้นคอตัวเอง
หวังจวิ้นข่ายอาจจะลืมไปแล้วว่าเกือบจะดูดเลือดฉัน
แต่ก็ดีแล้วละ ฉันเองก็กลัวหวังจวิ้นข่ายในตอนนั้นมากจริงๆ นั่นแหละ อย่าพูดถึงอีกดีกว่า
หวังจวิ้นข่ายในตอนนี้ดูปกติเหมือนตอนที่ฉันเจอวันแรก เหมือนอาจารย์ลู่หานกับอาจารย์อี้ฝานด้วย
ไม่เห็นมีอะไรที่บ่งบอกได้เลยว่าเป็นแวมไพร์
แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างแปลกไปนะ
ดูซึมไปหรือเปล่า?
ฉันเห็นอี้หยางเซียนซีนั่งตรงข้ามหวังจวิ้นข่าย
อี้หยางเซียนซีดูปกติมาก เมื่อคืนก็ตกใจอยู่ข้างฉันนี่ไม่ใช่เหรอ ทำไมปรับตัวได้เร็วขนาดนี้
“แล้วจะทำยังไงต่อ?” อี้หยางเซียนซีเป็นคนพูด
หวังจวิ้นข่ายส่ายหน้า
“ถ้าผมถึงเวลานั้นบ้างจะเป็นยังไงนะ” อันนี้เสียงหม่าเจียฉี ฉันจำได้ หม่าเจียฉี
เดี๋ยวก่อนนะ?
หม่าเจียฉีก็ต้องมีช่วงเวลาแบบนั้นเหรอ? หมายความว่ายังไง?
“น่ากลัวอ่า ผมขอข้ามช่วงนั้นไปได้มั้ย” ซ่งย่าเซวียนพูด
ซ่งย่าเซวียนก็รู้เรื่องแวมไพร์หรอ?
“แต่ได้ยินเขาพูดกันว่า ถ้าผ่านมันไปแล้วก็ไม่มีอะไรยากแล้วนะ” อันนี้เป็นเสียงของหลิวเย่าเหวิน
ฉันชะเง้อรอบโรงอาหารเผื่อว่าจะมีเพื่อนในกลุ่มของเด็กกลุ่มนี้จะมาสมทบ แต่เหมือนจะไม่มี
นี่คือกลุ่มแวมไพร์อย่างนั้นเหรอ?
ไม่ใช่สิ ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะนั้นมีที่ไม่ใช่แวมไพร์กี่คน?
“หวังหยวนรู้เรื่องนั้นหรือยัง?” เซียนซีถาม
“ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าอาจารย์ลู่หานกับอาจารย์อี้ฝานน่าจะอธิบายให้ฟังแล้ว”
เหมือนคำว่าแวมไพร์จะเป็นคำต้องห้ามของเด็กๆ กลุ่มนี้
“ยากกว่าตอนจีบอีกอ่า” ย่าเซวียนโอด ส่งสายตาเห็นใจไปให้จวิ้นข่าย
พูดไปแล้ว เหมือนได้ยินว่าหลิวเย่าเหวินฝากให้จวิ้นข่ายช่วยจีบย่าเซวียนใช่มั้ย? มาตอนนี้ก็นั่งอยู่ด้วยกันแล้ว
“ยังจีบไม่ติดเลย ไปกัดคอเขาแล้ว” เซียนซีหัวเราะเบาๆ
หวังจวิ้นข่ายถอนหายใจ
ดูเหมือนปัญหาจะใหญ่กว่าเดิม
โจทย์ยากขึ้นหรือเปล่านะ หวังจวิ้นข่าย
To Be Continued...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
