คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คลื่นที่ 2 : First Date (แก้ใหม่จ้า)
ณ เวลาตีสามเศษๆ ตอนนี้แบคฮยอนกำลังนั่งอยู่ในรถเปิดประทุนราคาแพงกับมือกลองปาร์ค ชานยอลซึ่งเป็นโมเม้นท์ที่เด็กน้อยไม่คาดคิดว่าจะมีด้วยซ้ำ
แน่นอน….ชานยอลตามสัญญาที่ว่าจะพาไปเอาเงินค่าอาหารที่ห้องพักในโรงแรมชื่อดังบนเกาะเชจู
แบคฮยอนเองก็พยายามปฏิเสธมือกลองหนุ่มแต่คนหัวรั้นกลับไม่ยอมเลยต้องจำใจตามเขามา
“ไม่ดีหรอกมั้งพี่ มันดึกแล้วนะพี่”
“ไม่ต้องพูดอะไรมาก” นิ้วเรียวแตะลงบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นเล็กน้อย “อยากได้ตังค์ค่าอาหารที่ค้างไว้ไม่ใช่หรอไงหืม”
“แต่พี่มาจ่ายพรุ่งนี้ก็ได้นี่”
“ไม่ได้ พรุ่งนี้พี่กลับแล้ว”
ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงแข็ง ถ้าวันนี้ไม่จ่ายก็ไม่รู้จะได้จ่ายตอนไหนอีกในเมื่อพรุ่งนี้ต้องกลับโซลแล้ว
อุตส่าห์พามาถึงโรงแรมขนาดนี้แล้วจะให้กลับง่ายๆก็ไม่ใช่เรื่อง
“อ้าว แล้วพี่จะทำยังไง”
ชานยอลเหลือบมองร่างอ้อนแอ้น ไม่ยอมปริปากพูดอะไรซักคำแต่กลับใช้ช่วงแขนยาวเอื้อมไปเปิดประตูรถจนคนตัวเล็กห้ามแทบไม่ทัน
แต่มีหรือที่คนตัวสูงจะสนใจหนำซ้ำยังพาเดินเข้ามาในตัวอาคารโรงแรม
“พี่ชาน ปล่อยผมนะครับ !”
ไม่สนใจเสียงร้องห้ามใดๆทั้งสิ้น ร่างโปร่งพาขึ้นบันไดในขณะที่แบคฮยอนยังคงสะบัดมือแกร่งของชานยอลออกแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
ชานยอลเริ่มรำคาญเล็กน้อยที่แบคฮยอนเอาแต่ดิ้นเลยจัดการอุ้มร่างน้อยแบกขึ้นบ่าก่อนจะพาขึ้นห้องทันที
เมื่อชาร์ลลี่พาบริกรคนสวยมาถึงหน้าห้องแล้ว
ชานยอลจัดการหยิบกุญแจห้องในกระเป๋ากางเกงมาไขประตูออกแล้วจัดการปิดล็อกประตูทันทีเมื่อเห็นว่าแบคฮยอนตั้งท่าจะหนี
คนเจ้าเล่ห์จัดการหย่อนกุญแจห้องลงในกางเกงยีนส์ตัวสวย
“ถ้าอยากหนีก็มาเอากุญแจห้องในกางเกงพี่ก็ได้นะน้อง”
“เออพี่ ผมยอมแล้ว ไม่หนีก็ได้”
ใบหน้าหวานแดงซ่านเมื่อเห็นการกระทำที่แสนเจ้าเล่ห์ของมือกลองหนุ่ม
แบคฮยอนเลยจำใจต้องถอยทัพลงไปทันที ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงร่างอ้อนแอ้นตัดสินใจทิ้งตัวนั่งรอชานยอลพลางใช้สายตากวาดมองรอบๆห้องพัก
ห้องพักก็หรูใช่ย่อยจนรู้สึกว่าตัวเองดูจนแล้วจนอีกไปเลย
เหมาะสมกับเป็นโรงแรมหรูชื่อดังในเกาะนี้จริงๆ
“พี่เอามาจ่ายแล้วนะคะน้อง แสนวอนพอดี”
นั่งค้นกระเป๋าตังค์อยู่ตั้งนาน เสี่ยชานก็ยื่นธนบัตรให้บริกรเด็ก
มือสวยรับเงินมาจากมือชาร์ลลี่แล้วจัดการตรวจนับว่าจ่ายครบหรือเปล่า
ขณะที่บริกรวัยสิบแปดยังคงง่วนกับการนับเงิน ชายหนุ่มก็แอบไล่สายตามองคนตัวเล็กในชุดเสื้อเชิ้ตที่หลุดลุ่ยออกจากางเกงเล็กน้อยกับกางเกงยีนส์รัดรูปขาดๆ
เรียวขาขาวที่โผล่จากรอยขาดกางเกงมาพอวับๆแวมๆ ดูแล้วช่างเซ็กซี่เรียกเลือดได้ดีจริงๆ
นึกอยากจะจับฟัดให้จมเตียงให้รู้แล้วรู้รอดไป เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่เปียกเหงื่อลู่ลงมาเล็กน้อยยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนแรงอีกเท่าตัว
“ครบแล้วอ่ะพี่ชานยอล ทีนี้พี่ก็พากลับบ้านไปได้แล้ว”
“พี่ยังพากลับไม่ได้
ยังมีอีกค่านึงที่พี่ยังไม่ได้จ่าย”
“หืม ค่าอะไรอีกครับ ?”
ใบหน้าน่ารักที่ตีหน้ามึนยิ่งทำให้ชานยอลอยากฟัดมากขึ้น
ร่างสูงค่อยๆเดินหน้ามาหาจนแบคฮยอนต้องถอยหลังจนหลังติดหัวเตียง
หางตาขวากระตุกขึ้นมาทันที เริ่มรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ที่ดูไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่ แขนแกร่งเท้าผนังกักกันไปให้ปลาน้อยว่ายน้ำหนีไปไหนพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ธรรมดาราคาถูกที่เจ้าตัวใช้ประจำแต่ฉลามหนุ่มกลับคิดว่ามันหอมกว่ากลิ่นน้ำหอมราคาแพงเป็นไหนๆ
ปลาตัวเล็กสั่นทันทีเมื่อรู้ว่ากำลังถูกปลาฉลามกลืนกินลงท้อง
จุ้บ !
ริมฝีปากร้ายสัมผัสกับแก้มนิ่มจนเกิดเสียงดังจุ้บก่อนจะไล้มาที่มุมปากเล็กจนถึงตรงกลางริมฝีปากบางแล้วกดลงไปบนอวัยวะเดียวกันจนแนบแน่น
“บังเอิญว่าเป็นคนใจดี พี่เลยแถมทิปให้ด้วยนะคะ”
“ไหนล่ะครับทิปของพี่
เอาเงินมาให้ผมสิ”
โอ๊ยยยยยยยยยยย อีเด็กง่าว
พี่ชานล่ะอยากจะกระโดดน้ำทะเลให้ตายๆไปให้หมดเรื่องหมดราว นี่ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่กันแน่
ทิปก็จ่ายไปให้แล้วไง จูบไงจูบ !!
“นี่ไม่รู้จริงๆหรอว่าพี่จ่ายให้ไปแล้ว
?”
“หืม จ่ายแล้วหรอ ?”
“จูบเมื่อกี้นี้ไงครับ” ใบหน้าระบายยิ้มกว้างจนเกิดรอยบุ๋มข้างแก้มทั้งสองข้าง
ในขณะเดียวกัน ใบหน้าคนน่ารักก็เห่อแดงและร้อนผ่าวขึ้นมาอีกระลอก
ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งเขาจะได้รับจูบจากศิลปินในดวงใจ
แบคฮยอนไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ยิ้มเขิน
แกล้งเสมองไปทางอื่นจนกระทั่งไปสะดุดตากับกีต้าร์โปร่งราคาแพงของมือกลองหนุ่มที่วางพิงผนังห้องอยู่เลยเดินไปหยิบมันมาดีดเล่นโดยไม่ขออนุญาต
แต่ชานยอลก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้คนตัวเล็กทำตามใจตัวเอง
“พี่รู้ป่ะว่าผมชอบวงพี่มาตั้งแต่ตอนอยู่ม.ต้นนู่นแหน่ะ”
“งั้นหรอ
แล้วน้องชอบใครมากที่สุดในวง” ชานยอลถาม ในใจของชายหนุ่มแอบคิดไว้ว่าบริกรตัวน้อยต้องชอบเขามากที่สุดแน่ๆเลย
ขนาดมีคนทำโพลมาถามว่าชอบใครมากที่สุดในวง ไม่ว่าจะกี่สิบโพลทุกคนต่างลงความเห็นว่าเป็นปาร์ค
ชานยอล ยังไงก็ต้องเป็นเขาแน่ๆ
“ผมชอบพี่จงอินน่ะ”
แป่วววววว หน้าแตกเลยครับ
กวาดเศษหน้าแทบไม่ทันเลยทีเดียว
“เอ้อพี่ชานยอล
มีเพลงนึงของวงพี่ที่ผมว่ามันเล่นยากมากเลยง่ะ ผมฝึกเล่นนานมากกว่าจะเล่นได้
พี่เป็นคนแรกเลยนะที่ได้ฟังผมเล่นสดๆ”
กีต้าร์โปร่งตัวใหญ่ที่สมาชิกในวงรวมเงินกันซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีก่อนถูกคนตัวเล็กดีดบรรเลงเป็นทำนองเพลงเพลงหนึ่งของวงเอ็กโซสเฟียร์พร้อมกับร้องเพลงคลอตามทำนอง
เสียงใสๆทำให้คนฟังรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด
แต่ท่วงทำนองต้องชะงักทันทีเมื่อคนเอาแต่ใจดึงเอวบางเข้าหาตัวจนแผ่นหลังเล็กแนบอยู่บนอกแกร่ง
มือที่เคยจับแต่ไม้กลองเปลี่ยนมาทาบบนนิ้วเรียวที่กำลังกดคอร์ดแล้วจับเปลี่ยนตามใจตัวเอง
ส่วนอีกข้างก็จับมือบางดีดกีต้าร์โปร่งราคาแพงขึ้นลงไปมา
เสียงทุ้มต่ำเปล่งออกมาเป็นเพลงพร้อมกับเสียงใสๆ
“ท่อนนี้น้องจับผิดคอร์ด
มันต้องจับคอร์ดนี้ต่างหากล่ะ”
“พี่รู้ได้ไงครับ พี่เป็นมือกลองไม่ใช่หรือไงหืม
?”
“ทำไมพี่จะไม่รู้
พี่เป็นคนแต่งเองและแกะคอร์ดเองนะ”
“โอ้โห พี่ชานยอลเก่งจังเลย
เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่ก็เล่นกีต้าร์เก่งเหมือนกัน คิดว่าเล่นเป็นแต่กลองซะอีก”
ใบหน้าหวานยิ้มตาหยีจนตาเป็นสระอิ
พี่ชานยอลนี่เก่งรอบด้านจริงๆเนอะแต่ยกเว้นเสียแต่เรื่องเรียนที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ในรายการดังว่าติดศูนย์
ติดร. เกือบทุกวิชายกเว้นวิชาดนตรีกับวิชาเพศศึกษา
“พี่เพิ่งเล่นตอนอยู่ม.4เอง ตอนเป็นเด็กฝึกฝึกโครตหนักมากอยู่หลายปีจนกลายเป็นวงเอ็กโซสเฟียร์ที่รวมผู้ชายหล่อๆระดับที่ว่านัมจูฮยอกชิดซ้าย
คิมซูฮยอนชิดขวา ชานยอลวงเอ็กโซแหวกทางให้”
“แบคเริ่มง่วงแล้วอ่ะ” สรรพนามที่เคยใช้กับแม่อยู่บ่อยครั้งถูกเอ่ยออกมา
ตาหวานเริ่มปรือปรอย มือเล็กยกขึ้นขยี้ตาตัวเองก่อนจะหาวปากกว้างแบบไม่แคร์ภาพลักษณ์
แบคฮยอนจึงถือวิสาสะขอซบอกแกร่งแล้วผล็อยหลับไป พาตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทรา
ตอนแรกว่าจะกลับบ้านแล้วแต่มันดึกเกินไปเลยนอนที่นี่ซักคืนหนึ่งเนี่ยแหละ คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
พี่ชานยอลดูใจดีจะตายไป
“อ่าว หลับก่อนเฉยเลย” ใบหน้าหล่อส่ายน้อยๆ หน่วยตาคมมองเด็กน้อยในอ้อมอกด้วยความเอ็นดู
แต่ถึงอย่างนั้นชานยอลไม่ได้ขัดใจอะไร คนตัวสูงลุกขึ้นนั่งแล้วช้อนคอคนตัวเล็กขึ้นมาก่อนจะวางร่างลงเตียงอย่างแผ่วเบาแล้วจัดการห่มผ้าให้คนที่หลับอยู่
เสียงลมหายใจดังฟี้บ่งบอกว่าคงหลับสนิทแล้วเลยขอตัวออกไปหาเพื่อนๆในวงที่อยู่ห้องตรงข้าม
“อ้าวไอ้ชาน กลับดึกจัง
ไม่กลับเช้าเลยล่ะสัด” จงอินเอ่ยถามทันทีที่เพื่อนของเขาเดินเข้ามาในห้อง
ชานยอลถอดเสื้อคลุมสูทเหวี่ยงออกไปกองบนโซฟาแล้วทิ้งตัวนอนยิ้มอยู่คนเดียวจนสมาชิกในวงเริ่มเอะใจ
“กูกลับมานานแล้วแต่พอดีนอนคุยกับน้องแบคคนที่เป็นเด็กเสิร์ฟโต๊ะเราก่อนน่ะ”
คนตัวโตไหวไหล่เล็กน้อย
“เอ้า น้องเค้าชื่อแบคหรอ แล้วมึงพาน้องมาที่ห้องหรอ”
จงอินชะงักทันทีก่อนจะหันไปถามชานยอลที่กำลังนั่งยิ้มอยู่คนเดียว
“ใช่ น้องเค้าชื่อแบคอ่ะ และกูก็พาน้องเค้ามาเอาเงินค่าอาหารที่ค้างไว้
น้องเค้าเพิ่งหลับไปเมื่อกี้นี้เอง” ชานยอลยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ
“เออ กูก็เพิ่งรู้ว่าน้องเค้าชอบวงเราตั้งแต่เพิ่งเดบิวต์แถมยังเคยโดดเรียนไปดูคอนเสิร์ตเราด้วย”
“ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีแฟนคลับหน้าตาน่ารักแบบนี้”
จงอินยิ้มเมื่อนึกถึงคนตัวเล็กจิ้มลิ้ม
“แต่น้องเค้าดันชอบมึงน่ะสิไอ้จงอิน
ห่า คิดว่าจะชอบกูซะอีก”
“ก็เกิดมาหล่อ ช่วยไม่ได้
กูหล่อขนาดไหนถึงมีแฟนบอยน่ารักจิ้มลิ้มแบบน้องแบคก็ดูเอาเอง” จงอินหยักไหล่อย่างไหวๆ คนหล่อยักคิ้วให้อย่างผู้มีชัยชนะ
“แต่น้องเค้าเป็นของกู”
คนหล่อยักคิ้วหลิ่วตาให้อย่างเหนือกว่า ชานยอลประกาศกร้าวถึงความเป็นเจ้าของที่ตนยัดเยียดให้น้องบริกรคนสวยจนเพื่อนในวงต่างพากันอึ้งกิมกี่เป็นแถบๆ
“เค้า-เป็น-ของ-กู”
จงนับจำนวนการเบ้ปากของเพื่อนๆในวงตั้งแต่ต้นเรื่อง
(100 คะแนน)
“เอ้อ น้องแบคยังหัดเล่นเพลงของวงเราด้วยนะ
น้องเค้าเล่นกีต้าร์ให้กูฟังด้วย
มีตอนนึงที่น้องจับผิดคอร์ดกูเลยถือโอกาสจับมือน้องเลื่อนคอร์ดแถมยื่นหน้าเข้าไปใกล้
กลิ่นสบู่นี่ห๊อมหอม ลำคอขาวมากจนกูอยากฟัดแต่ต้องห้ามใจไว้ เอ้อๆ
นี่ได้จุ้บแก้มจุ้บปากด้วย นุ่มนิ่มชิบหายเลยว่ะ สุโค่ย”
จงนับว่าสมาชิกในวงกลอกตาเป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี้ทั้งหมดกี่รอบ
(100 คะแนน)
“หน้าม่อ !”
ทุกคนต่างตะโกนด่าไอ้ชานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายจนคนโดนด่าต้องยกมือขึ้นมาปิดหูกางๆ
คอหดย่นเล็กน้อยเพราะเสียงที่ดังจนหูแทบแตก
“พวกมึงด่ากูหน้าอื่นไม่ได้หรอ
หน้าไหหน้าจานหน้าชามหน้าช้อนหน้าเหี้ยอะไรพวกมึงก็ด่าสิ
ด่าว่าหน้าม่อเป็นอยู่คำเดียวแงะ กูเบื่อหม้อแล้ว”
มีหรือที่ชาร์ลลี่จะสะทกสะท้าน ทำไม่สนใจหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาเล่นแก้เบื่อ
เซฮุนส่ายหน้าอย่างเอือมระอาก่อนจะเดินมาตบบ่าพี่ชายเบาๆ
“พี่ชาน ฟังผมนะ
พี่คิดยังไงกับน้องเค้า ?”
“คิดว่าชอบละมั้ง ไม่รู้สิ
เห็นครั้งแรกก็ชอบ ก็อยากจะได้เป็นแฟน” ชาร์ลลี่ตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก
ร่างโปร่งยังจดจ่ออยู่กับเกมในจอสี่เหลี่ยม
“พี่ชอบน้องเค้าอย่างไง พี่บอกมาซิ”
“น้องเค้าน่ารักดี
ตัวเล็กๆขาวๆหน้าตาจิ้มลิ้มแถมถูกสเปคกูดี ดีกว่าพวกผู้หญิงที่เคยเดินผ่านเข้ามา
ถึงแม้น้องจะดูซื่อบื้อไปบางที”
ปาร์ค ชานยอลหวนคิดไปถึงเรื่องที่ตนเองหอมแก้มและจูบคนน่ารัก
ตอนที่เขาทำนั้นก็แค่อยากแกล้งให้เขินเล่นๆแต่ทว่าก้อนเนื้อด้านซ้ายเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ….มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ได้มีมานานมากแล้วตั้งแต่
Puppy Love ครั้งแรก ชานยอลรู้ถูกชะตากับบริกรตัวน้อยตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกอย่างบอกไม่ถูก
คล้ายกับว่ามี Passion บางอย่างดึงดูดเขา
ตั้งแต่ได้คุยกับน้อง หัวใจก็พองโตเหมือนบอลลูน
รอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์นั้นช่างตราตรึงใจพ่อมือกลองหนุ่ม ทำอะไรก็นึกถึงน้องตลอด
มันเกิดอะไรกับหัวใจ ควบคุมอะไรไม่ได้ซักอย่างงงง
--- Mr.Charlie ‘s Feeling
“แล้วพี่คิดจริงจังกับน้องแบคหรือเปล่า
?”
“….”
ชานยอลถึงกับนิ่งไปกับคำถาม
คำถามที่ว่าจริงจังหรือเปล่าดูเป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดสำหรับชายหนุ่มรองมาจากคำถามที่ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร
เขาเองไม่รู้จะตอบอย่างไรเหมือนกันเพราะเขาไม่เคยจริงจังกับใครซักทีตั้งแต่มีแฟนคนแรก
กับน้องบริกรคนนั้นเองเขาก็อยากจะจริงจังแต่ตัวเองก็ไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะจริงจังได้อย่างที่ปากว่าหรือเปล่า
แต่ที่เขารู้อย่างเดียวคือแค่เจอครั้งแรก
ชานยอลก็เริ่มตกหลุมรักที่คนตัวเล็กสร้างไว้จนปีนกลับขึ้นข้างบนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“ถ้าพี่จริงจัง ผมอยากบอกว่าอยากให้พี่เลิกนิสัยเจ้าชู้ประตูดิน
ถ้าน้องเค้าเกิดรักพี่มากแล้วเสียใจขึ้นมา คนที่น่าสงสารสุดคือน้องเค้านะพี่”
“คิดดีๆนะเว้ยชานยอล
มึงทำแฟนคนก่อนๆเค้าเสียใจมากี่คนแล้วเคยนับบ้างหรือเปล่า” ลู่หานเอ่ยแทรกขึ้นมาอีกคน
คำพูดของทั้งสองคนทำเอาปาร์ค
ชานยอลหน้าชาไปชั่วขณะ….จริงอย่างที่สองคนว่า
เขาทำให้แฟนคนก่อนๆเสียใจเพราะเขาจนนับครั้งไม่ถ้วน
บรรดาแฟนเก่าของเขาล้วนตีจากเขาไปด้วยเหตุผลเดียวกันคือความเจ้าชู้ของตัวเขาเอง ปาร์ค
ชานยอลฉุกคิดขึ้นมาว่าคงถึงเวลาที่เขาต้องพิจารณาตัวเองใหม่และปรับปรุงตัวเอง
คำพูดของปาร์ค ชานยอลเหมือนหยุดเวลาของทุกคนไว้หมด
บรรยากาศเงียบโรยตัวทันที
ทุกคนต่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนเจ้าชู้ประตูดินอย่างชานยอลจะคิดรักใครจริงจังเหมือนคนอื่นๆเป็นด้วย
“ถ้าเกิดกูบอกว่าจะเลิกทำตัวเจ้าชู้เพื่อน้องแบคแล้วจะลองมุ่งหน้าจีบล่ะ?”
6 เดือนผ่านไป
ตลอดระยะเวลา 6 เดือนหลังจากที่เขาได้พบรักแรกกับแบคฮยอน
ชานยอลก็แวะเวียนมาหาคนตัวเล็กตลอดเวลาและวันหยุดตอนดึกๆบางทีก็แอบมาหาน้องที่ผับ
วันไหนที่เขาไม่มีงานมากก็พักอยู่ที่เชจูนานหน่อยถึงขั้นซื้อคอนโดอยู่
เกือบทุกเช้าที่แบคฮยอนต้องไปโรงเรียน เจ้าเด็กน้อยก็จะเดินมารอชานยอลขับรถของจุนมยอนมารับทุกครั้ง
ส่วนชานยอลก็เป็นสารถีขับรถไปส่งบ่อยๆแต่ก็ต้องลำบากใส่แว่นกันแดดปิดบังใบหน้าแท้จริง
ไม่งั้นได้เป็นข่าวแน่
ชานยอลพยายามเก็บแต้มแข่งกับไอ้พวกเด็กนักเรียนที่ชอบมาขายขนมจีบแบคฮยอนตลอดเวลา
แต่ดูท่าทางคนตัวสูงจะชนะเด็กพวกนั้นไปอย่างใสสะอาดเพราะแบคฮยอนตัดสินใจตกลงคบกับมือกลองสุดหล่อประจำวงเอ็กโซสเฟียร์กันแบบลับๆโดยคนที่รู้คือบรรดาพี่ๆของแบคฮยอนที่เข้าตัวสั่งให้เก็บเป็นความลับ
แม้กระทั่งแม่ก็ห้ามรู้เด็ดขาดและสมาชิกในวงที่รู้ๆกันอยู่แล้วรวมถึงพี่จุนมยอนที่เก็บเรื่องนี้เงียบเป็นความลับเช่นกัน
“พี่ชาน แบคก็เรียนจบแล้ว
เหลือแต่รอเข้ามหา’ลัย”
“แล้วเราจะเข้ามหา’ลัยอะไรล่ะหืม ?”
“ไปเรียนในกรุงโซลนั้นแหละ
ที่เชจูมีมหา’ลัยน้อยอยู่”
“แล้วสอบไปยังอ่ะ ?”
“สอบไปแล้ว
แต่มันใกล้ประกาศผลอีกแค่ 2 นาทีเอง” แอบเห็นแฟนตัวน้อยเบ้ปากเล็กน้อย
ในใจนึกเอ็ดแฟนว่าไม่คิดจะติดตามข่าวสารพวกนี้บ้างหรือไงนะ แบคฮยอนยืมโทรศัพท์ราคาแพงของแฟนหนุ่มมากดเข้า
Safari แล้วคีย์ชื่อเว็บไซต์มหา’ลัย “ตื่นเต้นจัง”
ใจดวงน้อยเต้นแรงเนื่องจากความตื่นเต้นแล่นพล่านทั่วเส้นเลือด
มือที่ถือโทรศัพท์สั่นเทาไปหมดเพราะหน้าเว็บที่กำลังโหลดผลประกาศ
“พี่ชาน !! แบคสอบติดแล้ว
!!”
“ไหนๆ คณะอะไรคะ ?” ชานยอลถามพลางชะโงกเข้ามาดูจอโทรศัพท์
“ติดคณะอักษร !! ทีนี้แบคก็ได้เข้าไปเรียนในโซลแล้วนะสิ” แฟนตัวน้อยดีใจจนเนื้อเต้น
ทำเอาคนตัวสูงถึงกับหลุดขำในความน่ารัก “ทีนี้แบคก็จะได้อยู่กับพี่ชานแล้ว
!” แขนเล็กโอบรอบกอดคอแกร่งเอาไว้
“คราวนี้พี่มีรางวัลให้”
“อ้ะ….”
ยังไม่ทันได้ถามอะไร
ริมฝีปากร้อนแรงก็ลงมาประกบกับอวัยวะเดียวกันเสียแล้ว ดวงตาเรียวรีเบิกโพลงเมื่อถูกลิ้นสากรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตหวงห้าม
มือเรียวสวยจิกลงบนไหล่กว้างแน่นจนเนื้อแทบติดเล็บ ใบหน้าหล่อจับโครงหน้าสวยเอียง 45 องศาพร้อมใช้มือกดท้ายทอยเพื่อให้จูบแนบแน่นขึ้น
จากสัมผัสแผ่วเบาบนเตียงในครั้งนั้นสู่จูบอันร้อนแรงภายในรถออดี้สีขาวราคาแพงใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืน
ดวงตาเรียวรีปรือมองแฟนหนุ่มจอมขี้เล่นอย่างหวานฉ่ำ
ดวงตาคู่สวยเองก็จ้องมองประสานกับคนตัวเล็กเช่นกันก่อนบทรักอันเร่าร้อนจะจบด้วยการที่ริมฝีปากหนาผละออกมาแล้วใช้ลิ้นใหญ่ตวัดเลียคราบน้ำใสข้างมุมปากอย่างเซ็กซี่
“อย่าลืมโทรบอกพี่ๆด้วยนะว่าวันนี้แบคจะไปข้างนอกกับพี่”
“พี่จะพาแบคได้ไหนหรอ ?”
“คืนนี้พี่จะพาไป Outdoor นอกสถานที่ท่ามกลางหมู่ดาว
สนใจมั้ยคะคนสวย ?”
รถออดี้สีขาวที่ยืมจุนมยอนมาขับแล่นออกมาที่ริมทะเลแล้วถูกจอดไว้ที่ริมหาด ชานยอลเปิดประตูหลังพร้อมหยิบผ้าปูผืนเล็กมาปูบนกระโปรงรถพร้อมจัดวางหมอนลายริลัคคุมะสองใบอย่างที่เขาและแฟนเด็กชอบ ช่วงขายาวปีนขึ้นไปนั่งบนกระโปรงรถก่อนจะดึงมือคนตัวเล็ก คอยประคองเวลาแฟนตัวน้อยปีนขึ้นมา
“คืนนี้ดาวสวยเหมือนกัน พี่ว่ามั้ย
?”
“สวยเหมือนคนข้างพี่น่ะค่ะ”
“ปากหวานจังนะแหม่ ดูนู่นสิ กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย”
นิ้วเรียวชี้กลุ่มดาวนับร้อยดวงที่ลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน
ลมทะเลที่พัดมาพอเย็นคลอกับเสียงคลื่นกระทบฝั่งทำให้บรรยากาศการดูดาวของพวกเขาดูโรแมนติก
“แคสสิโอเปียเป็นชื่อแฟนคลับวง TVXQ
ไม่ใช่หรอ ?”
บางทีก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแฟนแบคฮยอนมันโง่จริงหรือมันแกล้งโง่กันแน่
เริ่มจะแยกไม่ออกจริงๆ =_=
“คือชื่อแฟนคลับของเค้ามันมาจากชื่อดาวดวงนี้ไง
ดาวแคสสิโอเปียอ่ะ”
“แล้วรู้ได้ไงว่าดาวรูปแคสสิโอเปีย
?” ชานยอลเลิกคิ้วถาม
“ก็เห็นดาวห้าดวงตรงนั้นมั้ย
พอลากต่อกันมันก็จะเป็นรูปตัว W หรือว่าพี่ไม่เคยเรียน?”
“ก็ไม่รู้นี่ถึงถาม”
“ดาวแคสสิโอเปียมันมีตำนานของมันอยู่นะ
พี่อยากฟังหรือเปล่า ?” แบคฮยอนหันไปถาม
แฟนหนุ่มที่ยังคงจดจ้องมองดวงดาวอยู่ก็พยักหน้าเป็นเชิงตอบว่าอยากฟัง
“แคสซิโอเปียเป็นนางพรายสมุทรหนึ่งในห้าสิบตนของเทพนิยายกรีกปรัมปรา
เธอถูกขนานนามว่า จิตวิญญาณลูกสาวแห่งมหาสมุทร ความสวยของเธอเป็นที่เลื่องลือมาก เย็นวันหนึ่งเซเฟอุส
กษัตริย์แห่งเอธิโอเปีย มาพบเธอเข้าที่ริมหาด จึงตกหลุมรักกับนางและขอแต่งงานด้วย
ให้กำเนิดลูกสาวหนึ่งคนชื่อว่า แอนโดรเมดา”
“อื้ม แล้วไงต่อล่ะ”
“หลังจาก สมรสกับกษัตริย์เซเฟอุสแล้ว
แคสซิโอเปียได้โอ้อวดว่าตนเองและลูกสาวนั้นมีความสวยมากกว่านางพรายสมุทร
ทั้งหมดไม่ว่าตนใดก็ตามทำให้เทพแห่งเนปจูน ผู้ดูแลมหาสมุทรโพไซดอนโกรธมากจึงสร้างคลื่นยักษ์หวังถล่มเมืองเอธิโอเปียแต่แคสซิโอเปียได้ใช้พลังปกป้องเมืองไว้ได้
โพไซดอนจึงส่งปิศาจแห่งท้องทะเลซีทุสหวังจะทำลายเมืองเอธิโอเปีย และฆ่านางซะ
ร้อนใจไปถึงเซเฟอุส จึงต้องไปปรึกษาผู้รู้ ออราเคิลแห่งแอมมอน ได้ข้อสรุปว่า
มีทางเดียวที่จะหยุดเจ้าซีทุสนี้ได้นั้น ต้องนำธิดาแอนโดรเมดามาสังเวยชีวิตกลางทะเลให้แก่ซีทุส
ซึ่งเซเฟอุสก็ต้องจำใจยอมทำตาม”
“น่าสนุกดีเหมือนกัน มีต่ออีกป่ะคะ”
“ยังไม่จบแค่นั้นนะพี่ชานยอล เมื่อนำแอนโดรเมดามาบูชายันต์กลางทะเลหมายให้ปิศาจร้ายฆ่า
ได้มีบุตรชายแห่งมหาเทพซุสผ่านมานามว่า เพอเซอุส
มาช่วยแอนโดรเมดาไว้โดยนำหัวของนางเมดูซ่าหันไปหาปีศาจทำให้ปีศาจกลายเป็นหิน มหาเทพซุสจึงลงโทษให้แคสซิโอเปียขึ้นไปห้อยหัวบนท้องฟ้ากับบัลลังก์ของตน
แต่แล้วมหาเทพก็หลงเสนห์ของแคสซิโอเปีย
ทำให้เทพีอะโฟรดิเต้ให้ข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับแคสซิโอเปียคือจะช่วยชีวิตไว้แลกกับสูตรความงาม
แคสซิโอเปียตกลงจึงรอดตายแล้วยังได้เป็นเทพีแคสซิโอเปียอีกด้วย
และในตอนท้ายเทพีอะโฟรดิเต้และเทพีแคสซิโอเปียก็เป็นเพื่อนรักกันเสมอมา
และมักจะท่องเที่ยวไปบนมหาสมุทรเพื่อเยี่ยมเยียนลูกสาวและอาณาจักรอันแท้จริง จบแค่นี้แหละ”
“แฟนใครก็ไม่รู้เก่งจังเลย”
นิ้วเรียวยาวประดับแหวนเกลี้ยงสแตนเลสยื่นมาเขี่ยพวงแก้มเบาๆหยอกล้อคนน่ารัก
แบคฮยอนเลยหันหน้าเข้าหามือกลองหนุ่มแล้วเอาปลายจมูกรั้นถูไปมากับปลายจมูกโด่งอย่างขี้เล่น
“แถมยังน่ารักอีกด้วย” ชานยอลส่งนิ้วมาบีบปลายจมูกรั้นเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว
คนตัวเล็กที่โดนบีบจมูกหัวเราะเอิ้กอ้ากด้วยความชอบใจ
“น้องแบค พี่อะไรจะถาม”
“ว่ามาสิ”
“ถ้าเรียนจบที่นี่แล้วย้ายไปอยู่คอนโดกับพี่ที่โซลได้มั้ย
?”
TBC
อุ้ยตายว้ายกรี้ดนกหวีดสามร้อยดอก
พี่ชานยอลไฟแรงจริงๆค่ะท่าน
โมเม้นท์ดูดาวแบบนี้สนองนี้ดตัวเองล้วนๆ
อยากมีแบบนี้มั่ง -//- แต่ตอนนี้ดูมึนๆแปลกๆเนอะ ว่าป่ะ
อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์หรือสกรีมแท็กฟิคเป็นกำลังใจด้วยจ้า
เอ็นจอยรีดสะดิ้งเด้อ
ด้วยรักและขอบคุณ :D
ป.ล. ขอบคุณข้อมูลตำนานดาวแคสสิโอเปียด้วยนะคะ
http://www.dek-d.com/board/view/1386508/
ปูเป้ ศัตรูของวิชาสายวิทย์
#Chanfacepot
ความคิดเห็น