ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {exo} Chan's ♡ Chanbaek

    ลำดับตอนที่ #1 : คลื่นที่ 1 : ชานสโนว่า (แก้ใหม่จ้า)

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 58






                Bugatti Veyron 16.4 Grand Sport Vitesse Bianco สี Light Blue สุดแปลกตาและราคาแพงแล่นมาบนถนนตลอดสายจนกระทั่งมาหยุดอยู่ในหน้าผับแห่งหนึ่งบนเกาะเชจู

     

    ขายาวภายใต้กางเกงสกินนี่สีดำก้าวลงมาจากรถราคาแพง มือหนาประดับแหวนเกลี้ยงสแตนเลสที่นิ้วชี้กระชับเสื้อคลุมสูทสีขาวเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมเล็กน้อย เจ้าของร่างสูงไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ ปาร์ค ชานยอลหรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในนามมือกลองสุดเท่แห่งวงร็อกที่ดังที่สุดในพ..นี้ วง Exosphere  

     

    วงเราเป็นวงที่ชอบทำอะไรหลุดโลก แปลกกว่าคนอื่นเหมือนกับชั้นบรรยากาศเอ็กโซ เอ็กโซ เอ็กโซ เอ็กโซ (เดี๋ยวๆๆๆ) ที่มาของชื่อวงคือมันมาจากชื่อชั้นบรรยากาศหนึ่งชื่อว่าเอ็กโซสเฟียร์ซึ่งมีคุณสมบัติคืออยู่ชั้นบนสุดและเป็นชั้นที่อะตอมหรือโมเลกุลของอากาศมีแนวโน้มจะหลุดหนีไปสู่อวกาศ น่อววววว มาเป็นทฤษฎีเลย เห็นดูเหมือนคนหน้าโง่ ตอนม.ห้าเกรดสี่วิชาดาราศาสตร์นะเหวยไม่อยากจะพูด (เกรดสี่ลบอีกสี่จ้า ไม่เคยส่งการบ้านซักครั้ง โดดแม่งทุกคาบ)

     

    วงเอ็กโซสเฟียร์มีสมาชิกทั้งหมด 4 คนถ้วน นักร้องนำคือลู่หาน ผู้ดีชาวจีนจากเมืองปักกิ่งอันไกลโพ้นจากแผ่นดินเมืองจีน มือเบสก็ไอ้จงอิน หรือคิม จงอิน หนุ่มผิวคล้ำสุดเท่ โซโล่เบสทีสาวกรี้ดเป็นแถว (คนข้างๆเหยียบตีนเลยกรี้ด) มือกีต้าร์นั้นคือเซฮุน หรือ โอ เซฮุน น้องเล็กสุดของวง มีจุดเด่นคือตัวสูงเหมือนเสาไฟฟ้า เหมือนมากจนไอ้ด่างแถวบ้านเกือบยกขาฉี่ใส่คิดว่าเป็นเสาไฟฟ้า สุดท้ายก็อย่างที่รู้กัน มือกลองคือปาร์ค ชานยอลหรือชานยอล หนุ่มชาวเกาหลี เจ้าของฉายา ชาร์ลลี่ เรียกสั้นๆก็ชาน ถ้าเรียกยาวๆก็ชานลั้นลาหลั่นล้า ชาลาล่าอินเดอะมอร์นิ่ง (ถุ้ยยย) พูดเลยว่าชานยอลหน้าตาดีที่สุดในวงและยังเป็นหน้าตาของวงอีก (มีใครอยากให้มึงเป็นบ้าง ถามพวกกูก่อนมั้ยยังไง : Members said)

     

    เนื่องจากวันนี้เสร็จงานแฟนไซน์ไปหนึ่งงานแล้วอีกทั้งยังมีเวลาว่างเยอะเหลือเฟือเลยตัดสินใจพากันมาเที่ยวในผับดังในเกาะเชจูถึงแม้ว่าผู้จัดการสุดเฮี้ยบอย่างคิม จุนมยอนจะห้ามไว้แต่มีหรือที่จะฟัง หึ ไม่มีใครอยากจะเอาแต่นอนอืดเป็นศพอยู่ที่โรงแรมหรอกน่า

     

    กูไม่น่าขัดคำสั่งพี่จุนเค้าเลยว่ะ รู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ เป็นเพราะมึงคนเดียวเลยเนี่ย

     

    ไม่ต้องทำมาพูดดี พอกูชวนคนในวงมา มึงดิ่งมาหากูคนแรกเลย

     

    เข้ากันไปเหอะมึง จะยืนให้ลมพัดหัวล้านมึงอยู่นานมั้ย ไม่เย็นหนังหัวบ้างหรือไงจงอินว่าพลางหยิบแว่นกันแดดราคาแพงสีชาที่เหน็บอยู่ตรงคอเสื้อขึ้นมาใส่ปกปิดใบหน้าที่แท้จริง เกรงว่าจะมีแฟนคลับมาเที่ยวแล้วเห็นพวกเขาจะแตกตื่นเอา อุตส่าห์แอบมากับไอ้ชานกันแบบเงียบๆ

     

    ทิ้งให้ชานยอลยืนกัดฟันกรอด ขยับปากด่าไอ้ดำเบาๆหลังจากร่างโปร่งเดินนำหน้าไปก่อนหน้านั้นแล้ว ยอมไม่ได้ ไม่ได้หัวล้านเว้ยกูแค่โกนหัวตรงกลางเป็นรูปโลโก้วงเฉยๆ (ความจริงคือหัวล้านนั่นแหละ)

     

    ไอ้เชี่ยดำ

     

     

     

    แบคฮยอน มีลูกค้ามาอีกแล้ว ไปเคลียร์โต๊ะตรงนู้นด้วย

     

                เจ้าของชื่อในชุดบริกรสะดุ้งทันทีที่ถูกเรียกจึงรีบกุลีกุจอวิ่งไปทำความสะอาดโต๊ะแล้วเก็บจานอาหารที่เกลื่อนกลาดให้เรียบร้อย

     

                แบคฮยอน หรือบยอน แบคฮยอนเป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลบยอน ครอบครัวของเขามีเพียงแค่แม่ พี่สาว 2 คนพี่ชายอีก 1 คนรวมตัวเขาอีกด้วยไปคนนึง ชื่อของพี่สาวคือพี่โซยูและพี่ดาซม ส่วนพี่ชายก็ชื่อพี่แจบอม พี่โซยูเป็นพี่สาวคนโต เธอเพิ่งเรียนจบคณะวิทยาศาสตร์จากมหาลัยชื่อดังในโซล ถึงแม้จะเรียนจบมาได้หนึ่งปีแล้วก็ยังหางานทำไม่ได้เสียที อาจเป็นเพราะพิษเศรษฐกิจในช่วงนี้ที่ทำให้เกิดคนว่างงานเพิ่มขึ้นซึ่งพี่สาวของแบคฮยอนก็เป็นหนึ่งในนั้น คนที่สองคือพี่แจบอม คนนี้กำลังเรียนปีสุดท้ายในมหาลัยแถวในเมืองหลวงใกล้จบแล้วเลยไม่ได้มีโอกาสได้เจอกันมากซักเท่าไหร่ คนที่สามก็คือพี่ดาซม เป็นเฟรชชี่มหาลัยชื่อดังในโซลแถมยังพ่วงตำแหน่งดาวคณะมาด้วยเลยไม่ได้มีเวลาช่วยบ่อยนัก ส่วนตัวเองกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 ในโรงเรียนมัธยมชื่อดังในเมืองเล็กๆ อีกแค่ไม่กี่เดือนก็ต้องสอบเข้ามหาลัยแล้ว

     

                ส่วนงานบริกรในผับ โด คยองซูเป็นคนแนะนำให้เขามาทำเองเพื่อหารายได้เสริมช่วยครอบครัวแต่เรื่องนี้แบคฮยอนไม่ได้บอกแม่ให้รู้เพราะกลัวว่าจะโดนด่า มีแต่พี่ๆของเขาเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ทุกๆวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดแบคฮยอนมักโกหกแม่เสมอว่าขอไปนอนค้างบ้านเพื่อน แต่ถึงอย่างนั้นแม่ก็ดูไม่ได้ติดใจซักเท่าไหร่เพราะเธอเชื่อว่าแบคฮยอนไม่ทำตัวออกนอกลู่นอกทางแน่นอน

     

    อ้าวไอ้แบค ! มึงจะนั่งบื้อทำเขืออะไร ไปเคลียร์โต๊ะอีกตัวด้วย มีมาอีก 2 คนแล้ว

     

    ฮะ ยังมีอีกหรอ !?”

     

    คนตัวน้อยร้องเสียงหลงในขณะที่ตัวเองยังนั่งทรุดลงกับพื้น เอามือเกาะขาเก้าอี้พร้อมหอบแฮ่กด้วยความเหนื่อย เพิ่งเช็ดอีกโต๊ะเสร็จไปเมื่อกี้มีลูกค้ามาอีกแล้วหรอ แต่ในเมื่อเขาบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำตาม

     

    เหมือนโชคเข้าข้าง โต๊ะของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งว่างทันทีเมื่อพวกเขาเดินออกไปเพราะดูท่าคงรออาหารนานมากแล้วแต่ก็ไม่สนใจอะไร วันนี้เป็นช่วงวันหยุดคนก็เยอะ อาหารก็ทำได้ช้ากว่าปกติ เป็นธรรมดาที่มักจะมีลูกค้าเดินออกไปก่อนจะได้อาหารทุกครั้ง นักท่องเที่ยวหนุ่มสองคนจึงนั่งลงทันที เด็กนั่งดริ๊งค์ผู้หญิงนับสิบคนเหมือนรู้หน้าที่ตัวเองจึงรีบวิ่งมาหาชานยอลและจงอินทันทีเพียงแค่กระดิกนิ้วชี้ แบคฮยอนที่ยังคงหอบแฮ่กประคองร่างตัวเองเดินมารับออเดอร์ที่โต๊ะ มือเรียวสวยจัดการแจกเมนูอาหารให้ลูกค้าทันทีพร้อมตั้งท่ารอจดรายการอาหาร

     

    เมื่อเงยขึ้นมองแขกผู้มาเยือน ดวงตาเรียวรีเบิกโพลงทันที มือที่ถือปากกาน้ำเงินสั่นไปหมด….นี่มันวงเอ็กโซสเฟียร์ วงที่ดังที่สุดในพ..นี้นี่นา ชัดเลย คนผิวคล้ำๆในชุดแจ็กเก็ตหนังสีดำกับกางเกงยีนส์สีซีดขาดๆก็พี่จงอิน ส่วนอีกคนนี่ยิ่งกว่า

               

                ร่างสูงในชุดเสื้อกล้ามสีดำมีเสื้อสูทสีขาวคลุมทับ ผมสีดำสนิทรับกับโครงหน้าเรียว แว่นตากันแดดราคาแพงปกปิดดวงตากลมโตดำขลับเหมือนลูกแก้ว สันจมูกโด่งเหมือนยัดเสาไฟฟ้าเข้าไปไล่มาจนถึงริมฝีปากได้รูปสีชมพู ใต้ท้องแขนมีรอยสักอยู่ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของมือกลองสุดหล่อ กางเกงสกินนี่สีดำรัดรูป แอบเห็นแวบหนึ่งที่ลิ้นสากเลียริมฝีปากแห้งผากด้วยความเคยชิน

               

                ก็ไม่ได้สนใจวงนี้อะไรมากนักหรอก จริงๆนะ ติ่งวงนี้มาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ม.ต้น อัลบั้มซื้อมาเก็บสะสมทุกอัลบั้ม โปสเตอร์ก็ติดเต็มห้องจนโดนแม่ด่า บางครั้งพวกพี่มาเล่นคอนเสิร์ตที่ เขาก็มักโดดเรียนไปดูทุกครั้งจนเกือบโดนพี่โซยูตามไปดึงหูถึงในคอนเสิร์ต เคยแอบแม่และพี่โซยูไปติ่งวงเอ็กโซสเฟียร์ที่โซลกับพี่ดาซมด้วยแต่ไม่เคยได้เข้าไปชิดขอบเวทีบ้างเลยเพราะแฟนคลับหนาแน่นมาก

     

    ไม่เอานะ ห้ามดีใจ ห้ามตื่นเต้น ห้ามพุ่งเข้าไปหา ห้ามไม่ทันแล้วมั้งสาสสสสสสส

     

    รีบสวมวิญญาณนักกีฬาวิ่งเปี้ยวที่หนึ่งของสีตอนสมัยอยู่อนุบาลหมาบีเกิล แบคฮยอนลากรองเท้าผ้าใบสีขาวไปหาชานยอลและจงอินอย่างไวด้วยความเร็วสูง คนตัวเล็กก้มโค้งลงเล็กน้อยเป็นการทักทายแล้วยืนยิ้มแฉ่งให้ไอดอลชื่อดัง

     

    ท่าทางมือกลองหนุ่มคงถูกใจคนตรงหน้าไม่ใช่น้อย เหมือนเด็กผู้หญิงไม่มีผิดเพี้ยน ทั้งตัวเล็กอ้อนแอ้นเกินจะเป็นเด็กผู้ชายและใบหน้าแสนจิ้มลิ้มน่าหยิกนั้นอีก เด็ดกว่านั้นคือกางเกงยีนส์สีดำตัวเล็กแบบขาดๆ เผยให้เห็นขาขาวโผล่วับๆแวมๆจากใต้รอยขาดนั้น อดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเองด้วยความหื่นกระหาย คำว่าคุกเริ่มดังขึ้นในหัวเพื่อเตือนใจตัวเอง

     

    ไม่เอาน่าชานยอล น้องยังเด็กอยู่….รอน้องโตกว่านี้หน่อย ใจเยดๆนะ

     

    เหมือนน้ำหนักความคิดอกุศลในตอนนี้จะหนักกว่า ชาร์ลลี่คนหื่นแกล้งมือไม้อ่อนทำเมนูอาหารตกพื้นแล้วขอให้บริกรหนุ่มน้อยก้มเก็บขึ้นมาให้

     

    โอ๊ะ ! น้องครับ เก็บเมนูให้พี่หน่อยสิจ้ะ

     

    เอ่อ….ได้ครับๆ

     

    ทันทีที่ร่างบางก้มลงเก็บเมนูอาหารให้พี่ชานสุดหล่อ ด้วยความที่ชายเสื้อสั้นเต่อทำให้เวลาก้มลงชายเสื้อเลิกขึ้นจนเผยให้เห็นสะโพกขาวอวบล่อตา คอเสื้อที่หย่อนคล้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วงทำให้ชายหนุ่มเห็นแผ่นอกขาวบางและติ่งเนื้อยอดอกสีชมพูภายใต้เสื้อขาวบาง ถ้าไม่ติดว่าตรงนี้มีคนเยอะจะจับกระชากเสื้อออกแล้วจับกระแทกให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

     

    เด็กคนนี้ไม่เบาเลยนะเนี่ย พี่ขอเก็บเข้าฮาเร็มพี่ชานไว้ซักคนคงไม่เป็นไร

     

    พวกพี่ใช่นักร้องวง-- อุ้ปส์ !”

     

    คนตัวเล็กยังไม่ทันพูดอะไร มือหนาของชานยอลก็ปิดปากเล็กทันที ดวงตาเรียวรีเบิกโพลงเล็กน้อยก่อนจะหลุบตามองมือหนาแล้วช้อนขึ้นมองชานยอลอย่างไม่เข้าใจ ชานยอลไม่พูดอะไรแต่ส่งสายตาดุประมาณว่า อย่าพูดมาก ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

     

    เดือนนี้ที่ผับเรามีโปรโมชั่นพิเศษ เปิดไวน์ 1 ขวดฟรีอีก 1 ขวดก่อนสี่ทุ่ม ไม่ทราบว่าพวกพี่สนใจกันมั้ยครับ ?” น้ำเสียงของแบคฮยอนเริ่มแผ่วลงกว่าเมื่อกี้ พยายามเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่ยอมแสดงออกมา

     

    ไม่สนใจ

     

    เป็นเสียงทุ้มของมือกลองแห่งวงนั่นเองที่เอ่ยขึ้นมา สายตาคมภายใต้แว่นตาราคาแพงแอบเห็นน้องบริกรเหวอไปนิดนึงก่อนจะกลับเข้าสู่โหมดปกติพร้อมพยักหน้าตอบรับเป็นเชิงว่ารู้แล้วก็ต้องเหวออีกรอบเพราะประโยคถัดมา

     

    น้องน่าสนใจกว่าโปรโมชั่นพิเศษที่ว่าอีก

     

    จงอินรู้ดีว่าถ้าไอ้ชานพูดจาแบบนี้แสดงว่ากำลังจ้องจะงาบน้องเค้าแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ สายตาเจ้าเล่ห์แพรวพราวมีลูกเล่นบวกกับคำพูดสื่อไปในทางที่หื่นกามรวมถึงลิ้นร้ายที่ชอบเลียทั่วริมฝีปากหนาเวลาเจออะไรที่ถูกใจนั่นอีกยิ่งทำให้รัศมีความอันตรายของปาร์ค ชานยอลแผ่กระจายทั่วตัว

     

    เพราะเป็นคนหล่อบวกกับปากหวานแบบนี้เนี่ยแหละ บรรดาผู้หญิงในฮาเร็มถึงได้หลงเสน่ห์ชาร์ลลี่คนหล่อจนหัวปักหัวปำ ในขณะเดียวกันก็พากันทอดทิ้งชาร์ลลี่แล้วตีจากไปหลายต่อหลายคนเพราะทนความเจ้าชู้ไม่ได้ ทั้งน่าเศร้าและน่าสมน้ำหน้าในเวลาเดียวกัน

     

    อะแฮ่ม จงอินแกล้งกระแอมไอ ชานยอลจึงเหล่มองจงอินเล็กน้อยพร้อมกระทุ้งศอกเข้าที่หน้าท้องจนชายหนุ่มกุมท้องร้องโอดโอย

     

    แล้วพวกพี่จะกินอะไรดีครับ ?”

     

    เอิ่ม….พี่ก็ไม่รู้จะกินอะไรอ่ะน้อง เอาเป็นว่าพี่เหมาเมนูแนะนำหมดนี่เลยแล้วกันชานยอลตอบ นิ้วยาววนชี้ที่รูปอาหารทั้งหมดที่มีในเมนูแนะนำ ไม่รู้จะกินอะไรเหมือนกันว่ะ เอาพวกเมนูแนะนำแล้วกัน ขึ้นว่าแนะนำแสดงว่าต้องอร่อย สมองอันชาญฉลาด(แต่เรื่องโง่ๆ)ของพี่ชานคิดอย่างนี้

     

    จ่ายไหวหรอวะ รวมๆกันก็หลายวอนเลยนะเว้ยจงอินหันมากระซิบถามหลังจากที่น้องคนนั้นเดินออกไปลับตาแล้ว

     

    ไหวดีวะ มีบัตรเครดิตซะอย่าง เดี๋ยวเสี่ยชานจัดให้ยักคิ้วข้างเดียวพลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยเพื่อความเท่ (ความจริงคือเป็นสันนิบาต)

     

    ลืมไปแล้วหรือไงว่าบัตรเครดิตของมึงโดนพี่จุนมยอนเค้ายึดไปแล้วไม่ใช่หรอ เงินมึงก็เพิ่งจ่ายเป็นทิปให้พวกเด็กนั่งดริ๊งค์เมื่อกี้ สมองมีแต่เรื่องโง่เง่าเต่าตุ่น

     

    เอ้าหรอเสี่ยชานเกาหัวแกรกๆ เออว่ะ ชิบหายละ ลืมบัตรเอทีเอ็มอยู่ที่โรงแรม เงินสำรองก็อยู่ที่ห้อง โอ๊ยกูชานยอลกุมขมับทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองดันลืมของสำคัญไว้ ชีวิตกูมันจะยุ่งยากอะไรขนาดนี้ โอยยยย อยากผูกคอตายใต้ต้นถั่วงอกโว้ยยยยยย

     

     

     

    หลังจากที่สองหนุ่มวงเอ็กโซสเฟียร์พากันสวาปามอาหารกับไวน์ราคาแพงที่โครตนุ่มลิ้นกันอยู่ซักพักใหญ่จนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่เศษติดจาน พูดเลยว่าอาหารอร่อยถูกใจมาก อารมณ์เหมือนกำลังนั่งกินอยู่ในภัตตาคารหรูที่ใช้วัตถุดิบราคาแพงกว่าค่าตัวพวกเขามาทำ รสชาติไม่ได้ต่างกันมากเลยซักนิด อาหารก็อร่อย บรรยากาศก็ดี คนเสิร์ฟก็น่ารักน่าฟัด แบบนี้พี่ชานช๊อบชอบ อิอิ ( ิ)

     

    น้องครับ เก็บตังค์ด้วยครับจงอินกวักมือเรียกเด็กชายตัวขาวที่ยืนคุยกับบาร์เทนเดอร์ที่เคาน์เตอร์ ร่างบางได้ยินคนเรียกจึงรีบเดินอาดๆเข้ามาหา

     

    เอ่อ ทั้งหมดแล้วก็…..เด็กน้อยยกนิ้วสิบนิ้วขึ้นมา ทำท่านับนิ้วคิดเงิน

     

    ดวงตาคมเพ่งมองเด็กน้อยที่ยืนนับนิ้วเป็นเด็กอนุบาลหัดบวกเลข น้องคิดนานเกินไปแล้วมั้งจ้ะ พี่นี่ตั้งตารอฟังราคาอยู่นะจ้ะ พี่จ่ายชาตินี้นะจ้ะไม่ใช่จ่ายชาติหน้าจ้ะ คิดนานจังค่ะคนสวย เครื่องคิดเลขมั้ยสัด

     

    100,000 วอนพอดีเลยพี่

     

    ฮะ !!?” ถึงกับเข่าทรุดอย่างรุนแรง โอ้โห้ เยอะขนาดนี้กูจ่ายชาติหน้าเลยดีมั้ยจ้ะ เงินก็มีติดมาแค่ 500 วอนขาดตัวเอง โฮรรรรร

     

    ชานเหมือนคนไม่มีกำลังและหมดแรง จะเดินจะลุกจะเดินไป ชานเหมือนคนกำลังจะตายที่ขาดอากาศจะหายใจ --- Mr.Charlie’s Feeling

     

    เอ่อ งานนี้มึงจ่ายเลยนะกูไม่ขอข้องเกี่ยว บอกเองนะว่าเป็นเสี่ยชาน เอ้อ รู้สึกไม่สบายตัวแปลกๆแฮะ ถ้าอยากนั่งต่อก็นั่งไปคนเดียวก่อน กูขอตัวกลับก่อนนะ บาย วันนี้กูกลับแท็กซี่นะเว้ยจงอินรีบโบกมือลาทันที ปล่อยให้เสี่ยชานผู้ใจปล้ำเผชิญหน้ากับค่าอาหารเหยียบแสนวอนต่อไปคนเดียว

     

    เฮ้ยมึง ทิ้งกูได้ไงวะ

     

    เออ แค่เนี้ยช่วยเพื่อนหน่อยไม่ได้แงะ หล่กทง ไอ้เพื่อนทรยศ ทิ้งเพื่อนได้ลงคอ ฮื่ออออออออ

     

    ชานก็จะเอาแต่ Cry Cry Cry  Cry Cry Cry ในตอนที่บิลมา เหม่อมองดูเป๋าร้องไห้ --- Mr.Charlie’s Feeling

     

    บริกรตัวน้อยที่ยืนมองคนตัวสูงที่กำลังตะโกนด่าตามหลังจงอินอยู่ก็ได้แต่ยิ้มแหยพลางเกาหัวแกรกๆ สรุปที่มานั่งกินคือไม่มีเงินจ่ายใช่มั้ยวะ กูอยากจะบ้าตายยยย

     

    เอ่อน้องคะ เงินพี่จ่ายให้เด็กดริ๊งค์ไปหมดแล้ว เงินสำรองก็อยู่ที่ห้องพัก เดี๋ยวพี่ค่อยจ่ายได้มั้ยคะ ?” ริมฝีปากหนาเม้มแน่นก่อนจะตัดสินใจสารภาพออกไปตามตรง ส่วนเด็กเสิร์ฟตัวเล็กที่ได้ยินดังนั้นก็เกิดอาการไม่พอใจ ตั้งท่าจะโวยวายใส่แต่จิตใต้สำนึกบอกให้เย็นไว้ จะโวยวายต่อหน้าลูกค้าไม่ได้ ลูกค้าคือพระเจ้า ท่องไว้ๆ


    อ้าวเฮ้ย ออกมาข้างนอกทั้งทีทำไมพี่ไม่หัดเอาเงินสำรองเผื่อเวลาฉุกเฉินติดตัวมาบ้างเล่า !?” คนตัวเล็กเริ่มเหวี่ยงเล็กน้อยที่ลูกค้าของเขาไม่มีเงินจ่าย ส่วนชานยอลมองหน้าคนตัวเล็กอย่างเลิ่กลั่ก อ้าว ตอนแรกยังพูดจากันดีๆอยู่เลย พอบอกไม่มีเงินเท่านั้นแหละเหวี่ยงฟาดงวงฟาดงาใส่พี่ชานเฉยเลย คนหล่องง

     

    โอเค….น้องอยากได้เงินค่าอาหารมากนักใช่แมะ ?” ชานยอลสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะหันไปถามบริกรเด็กที่ยืนหน้าตึงอยู่ จ้องจะเอาเงินค่าอาหารลูกเดียว ก็บอกแล้วว่ากูไม่มีตังค์มึงก็ยังจะเอาอีก อีเด็กผี

     

    ใช่พี่ จ่ายค่าอาหารผมมาเลยแบคฮยอนตอบพลางแบมือขอเงินจากคนตรงหน้า

     

    เรื่องมาก ก็บอกแล้วยังไม่มีตังค์

     

    แล้วพี่จะรับผิดชอบค่าอาหารยังไง ?”

     

    ชานยอลนั่งใช้ความคิดอยู่ตั้งนานสองนานจนกระทั่งไอเดียหนึ่งที่เขาคิดว่ามันดูเข้าท่าที่สุดก็ผุดขึ้นมาในหัว

     

    งั้นเดี๋ยวคืนนี้พี่พาไปเอาเงินค่าอาหารถึงห้องพักเลย โอเคมั้ยคะ ?”


    TBC

    เรามาแก้บทนำใหม่เป็นบางส่วนแต่ไปๆมาๆก็เหมือนแก้หมดแหละ เพราะรู้สึกไม่สบายใจที่มันไปดูเหมือนอีกฟิคหนึ่ง ต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอยอมรับผิดแต่โดยดี *ก้มโค้งคำนับ* ที่หายไปนานไม่ใช่อะไร การบ้านเยอะ จะเจียดเวลามาลงฟิคก็ไม่ได้ แฟลชไดร์ที่มีไฟล์ฟิคก็เพิ่งมาเพราะอาจารย์เอาไปตรวจงาน ;___;

    อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์หรือสกรีมแท็กฟิคเป็นกำลังใจด้วยจ้า

    เอ็นจอยรีดสะดิ้งเด้อ

    ด้วยรักและขอบคุณ :D


    ปล. ใครแปลชื่อแท็กได้นี่ขอตบมือให้เลย (เห็นสกิลอิ้งอย่างนี้ เกรดสี่อังกฤษนะคะบอกเลย ถถถถถ)


    #chanfacepot

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×