คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : วันที่5
(วันที่5)
ที่แท้ไม่ใช่แค่เขา ทุกคนต่างก็ไม่ทราบว่าเจ้าสาวเป็นใคร ที่ต่างไปหน่อยคือเขายังไม่ได้ดูบัตรเชิญนั่นดีๆในขณะที่ใครต่อใครต่างพากันวิเคราะห์เนื้อหากันไปหมดแล้ว
ตอนนี้เลยมีแต่หัวข้อที่กำลังถกเถียงกันอย่างบ้าคลั่งว่า เจ้าสาวคือใคร
เขาหันไปเห็นมิคาสะที่กำลังถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มคนโดยบังเอิญ “ไม่ใช่เธอหรอกเรอะ แล้วมันใครล่ะ เราคิดว่าคนที่เอเลนขอแต่งงานคือเธอซะอีก”
โอ้ ถ้าเทียบกับเพื่อนสมัยเด็กแล้ว ดูท่าคู่หมั้นของมันคงจะมีเสน่ห์มากแน่ๆ
“ฉันก็ไม่รู้” มิคาสะส่ายหน้า “เอเลนปกป้องเธอมาก ไม่อยากให้เธอถูกรบกวน”
“ฟังแล้วดูลึกลับแต่ก็โรแมนติกดีจัง อยากรู้แล้วสิว่าเจ้าสาวเป็นใคร ฉันว่าเจ้าบ่าวต้องมีความสุขสุดๆเลยใช่มั๊ยล่ะ”
“น่าจะไม่นะ เอเลนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ดูเหมือนจะไปทำให้เธอโกรธก็เลยออกไปง้อเธออยู่น่ะ”
ไอ้เด็กเลือดร้อนอย่างเจ้านั่นก็ยังรู้จักเอาอกเอาใจ ช่างเป็นเจ้าบ่าวที่น่าประทับใจเสียจริงๆ
เจ้าสาวถึงกับแง่งอนกันได้ แบบนี้ความรู้สึกของทั้งคู่คงยิ่งแนบแน่น เขากำลังหงุดหงิด…ไม่เกี่ยวกับงานแต่งนะ เขาก็แค่ แค่คิดว่ามันน่าหงุดหงิดก็เท่านั้น
ดูท่าจะต้องอ่านบัตรเชิญนั่นซะหน่อย เขาจึงพลิกก้นสัมภาระขึ้นโดยที่ไม่ได้ใช้แรงอะไรมากมาย
เขาหยิบการ์ดเชิญสีฟ้าออกมา คำว่าWeddingนั้นไม่เพียงแต่สีไม่ซีดจาง แต่มันยังทิ่มแทงตาเขายิ่งนัก
เขาพลิกบัตรเชิญ ตัวอักษรคุ้นตาผ่านเข้ามาในหัว ตัวหนังสือของมันดูงี่เง่าไม่ได้เรื่องเหมือนเจ้าตัวเป๊ะ
“มีความยินดีขอเรียนเชิญท่านและครอบครัว….” ครอบครัวเรอะ เขาจะไปหาครอบครัวที่ไหนไปร่วมงานแต่งล่ะ
สแกนบัตรเชิญไปรอบหนึ่ง นอกจากวันเวลาแล้วก็ไม่มีข้อมูลอะไรซักอย่าง หรือว่าจะเป็นไอ้คำว่าเยเกอร์ (Jeagers) ที่พอจะทำให้เขาเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องปิดบังตัวเจ้าสาวเอาไว้
ครอบครัวเยเกอร์…หมายความว่าพวกนั้นกลายเป็นครอบครัวเดียวกันเรียบร้อยแล้วสินะ แล้วก็มี…มีลูกด้วยกัน เจ้าสาวน่าจะท้องก่อนแต่ง เธอคงต้องการปกป้องเอาไว้
ไม่มีอะไรจะดีไปนี้แล้ว ผู้ชายสองคนไม่ว่าจะทำยังไงก็มีลูกไม่ได้
บางที…เด็กคนนั้นอาจจะเกิดมาจากความประมาท เขาไม่ได้อยากให้เจ้านั่นปัดความรับผิดชอบหรอกนะ เขารู้มันเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ถึงมันจะไม่รับผิดชอบเขา แต่ก็นั่นล่ะ เขาไม่ได้อยากให้มันมารับผิดชอบซะหน่อย
เดาว่าเด็กคนนั้นน่าจะเป็นผลผลิตที่เกิดจากความเมาของมัน จากนั้นไม่รู้จะทำยังไงก็เลยต้องแสดงความรับผิดชอบ แล้วยังกลัวเขาจะต่อว่าเพราะงั้นเลยไม่กล้ามาปรึกษา
ทั้งที่เขาสามารถให้คำปรึกษากับมันได้อยู่แล้ว เขาจะบอกด้วยว่ามันต้องเป็นคนรับผิดชอบลูกในท้องของผู้หญิงคนนั้น ถ้าหากว่ามันกำลังกลุ้มใจ ก็แสดงว่าบัตรเชิญนี้กำลังบอกเป็นนัยให้เขาไปหามันรึเปล่า
ไม่ เขาคิดมากไปแล้ว อย่าลืมสิว่าเจ้านั่นถึงกับไปง้อคู่หมั้น แสดงว่าเด็กคนนั้นต้องเป็นผลผลิตจากความรักอยู่แล้ว
ผลผลิตจากความรัก ช่างเป็นคำที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลยจริงๆ
ความคิดเห็น