ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Attack on Levi

    ลำดับตอนที่ #6 : วันที่5

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 56


    (วันที่5)

     

     ที่แท้ไม่ใช่แค่เขา ทุกคนต่างก็ไม่ทราบว่าเจ้าสาวเป็นใคร ที่ต่างไปหน่อยคือเขายังไม่ได้ดูบัตรเชิญนั่นดีๆในขณะที่ใครต่อใครต่างพากันวิเคราะห์เนื้อหากันไปหมดแล้ว

     

    ตอนนี้เลยมีแต่หัวข้อที่กำลังถกเถียงกันอย่างบ้าคลั่งว่า  เจ้าสาวคือใคร

     

    เขาหันไปเห็นมิคาสะที่กำลังถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มคนโดยบังเอิญ “ไม่ใช่เธอหรอกเรอะ แล้วมันใครล่ะ เราคิดว่าคนที่เอเลนขอแต่งงานคือเธอซะอีก”

     

    โอ้ ถ้าเทียบกับเพื่อนสมัยเด็กแล้ว ดูท่าคู่หมั้นของมันคงจะมีเสน่ห์มากแน่ๆ

     

    “ฉันก็ไม่รู้” มิคาสะส่ายหน้า “เอเลนปกป้องเธอมาก  ไม่อยากให้เธอถูกรบกวน”

     

    “ฟังแล้วดูลึกลับแต่ก็โรแมนติกดีจัง อยากรู้แล้วสิว่าเจ้าสาวเป็นใคร ฉันว่าเจ้าบ่าวต้องมีความสุขสุดๆเลยใช่มั๊ยล่ะ”

     

    “น่าจะไม่นะ เอเลนก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ดูเหมือนจะไปทำให้เธอโกรธก็เลยออกไปง้อเธออยู่น่ะ”

     

    ไอ้เด็กเลือดร้อนอย่างเจ้านั่นก็ยังรู้จักเอาอกเอาใจ ช่างเป็นเจ้าบ่าวที่น่าประทับใจเสียจริงๆ

     

    เจ้าสาวถึงกับแง่งอนกันได้ แบบนี้ความรู้สึกของทั้งคู่คงยิ่งแนบแน่น  เขากำลังหงุดหงิด…ไม่เกี่ยวกับงานแต่งนะ เขาก็แค่ แค่คิดว่ามันน่าหงุดหงิดก็เท่านั้น

     

    ดูท่าจะต้องอ่านบัตรเชิญนั่นซะหน่อย เขาจึงพลิกก้นสัมภาระขึ้นโดยที่ไม่ได้ใช้แรงอะไรมากมาย

     

    เขาหยิบการ์ดเชิญสีฟ้าออกมา คำว่าWeddingนั้นไม่เพียงแต่สีไม่ซีดจาง แต่มันยังทิ่มแทงตาเขายิ่งนัก

     

    เขาพลิกบัตรเชิญ ตัวอักษรคุ้นตาผ่านเข้ามาในหัว ตัวหนังสือของมันดูงี่เง่าไม่ได้เรื่องเหมือนเจ้าตัวเป๊ะ

     

    “มีความยินดีขอเรียนเชิญท่านและครอบครัว….”  ครอบครัวเรอะ เขาจะไปหาครอบครัวที่ไหนไปร่วมงานแต่งล่ะ

     

    สแกนบัตรเชิญไปรอบหนึ่ง นอกจากวันเวลาแล้วก็ไม่มีข้อมูลอะไรซักอย่าง หรือว่าจะเป็นไอ้คำว่าเยเกอร์ (Jeagers) ที่พอจะทำให้เขาเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องปิดบังตัวเจ้าสาวเอาไว้

     

    ครอบครัวเยเกอร์…หมายความว่าพวกนั้นกลายเป็นครอบครัวเดียวกันเรียบร้อยแล้วสินะ  แล้วก็มี…มีลูกด้วยกัน เจ้าสาวน่าจะท้องก่อนแต่ง เธอคงต้องการปกป้องเอาไว้

     

    ไม่มีอะไรจะดีไปนี้แล้ว ผู้ชายสองคนไม่ว่าจะทำยังไงก็มีลูกไม่ได้

     

    บางที…เด็กคนนั้นอาจจะเกิดมาจากความประมาท  เขาไม่ได้อยากให้เจ้านั่นปัดความรับผิดชอบหรอกนะ เขารู้มันเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ถึงมันจะไม่รับผิดชอบเขา แต่ก็นั่นล่ะ เขาไม่ได้อยากให้มันมารับผิดชอบซะหน่อย

     

    เดาว่าเด็กคนนั้นน่าจะเป็นผลผลิตที่เกิดจากความเมาของมัน จากนั้นไม่รู้จะทำยังไงก็เลยต้องแสดงความรับผิดชอบ แล้วยังกลัวเขาจะต่อว่าเพราะงั้นเลยไม่กล้ามาปรึกษา

     

    ทั้งที่เขาสามารถให้คำปรึกษากับมันได้อยู่แล้ว เขาจะบอกด้วยว่ามันต้องเป็นคนรับผิดชอบลูกในท้องของผู้หญิงคนนั้น ถ้าหากว่ามันกำลังกลุ้มใจ ก็แสดงว่าบัตรเชิญนี้กำลังบอกเป็นนัยให้เขาไปหามันรึเปล่า

     

    ไม่ เขาคิดมากไปแล้ว อย่าลืมสิว่าเจ้านั่นถึงกับไปง้อคู่หมั้น แสดงว่าเด็กคนนั้นต้องเป็นผลผลิตจากความรักอยู่แล้ว

     

    ผลผลิตจากความรัก ช่างเป็นคำที่ทำให้เขารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลยจริงๆ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×