ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Love Style...รักแบบไหนที่ใช่คุณ (END)

    ลำดับตอนที่ #9 : Miracle at night : Last night (End)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.57K
      8
      20 เม.ย. 57


    Last night

     





     

    "ต่างหูอันนี้....ผมขอได้ไหม?"

     

     

    ร่างเล็กพูดพร้อมกับคลอเคลียที่ใบหูอีกคนเบาๆ เรียกขนอ่อนของเฉินได้เป็นอย่างดี

     

    “แค่นี้หรอครับ ผมนึกว่าคุณจะขอมากกว่านี้ซะอีก”


    “ผมต้องการแค่นี้แหละ คุณให้ผมได้ไหม” มินซอกอ้อน


    “อืม...ให้ดีไหมน้า ต่างหูอันนี้เพื่อนรักผมซื้อให้ในวันเกิดซะด้วยสิ” เฉินแกล้งทำสีหน้าลำบากใจเพื่อแกล้งคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตัก


    “งั้นผมจะยอมเล่นกับคุณไปจนกว่าคุณจะเบื่อผมเลย” มินซอกยื่นข้อเสนอ


    “มันสำคัญมากขนาดนั้นเลยหรอครับ” เฉินสงสัย....ทำไมคนตัวเล็กต้องยอมทำเพื่อต่างหูธรรมดาอันนี้อันเดียวด้วย


    “เพราะมันเป็นของที่อยู่ติดตัวคุณไง มันเลยสำคัญสำหรับผม” มินซอกจ้องอีกคนและทำเสียงอ่อน เพื่ออ้อนอย่างเอาใจ และไม่ให้เฉินสงสัยไปมากกว่านี้

     

    “งั้น...ผมจะให้คุณ”


    ^_^


    “แต่.....ไม่ใช่ตอนนี้”
    คำพูดที่ถูกเว้นวรรคไปทำเอามินซอกเริ่มหมั่นไส้ในความเจ้าเล่ห์ของเฉิน...ไม่รู้ว่าจะให้ทำอะไรเพื่อแลกกับมันอีกล่ะเนี่ย


     L 


    “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ..ผมแค่หมายถึง ผมจะให้คุณแน่นอน แต่ผมขอมีเงื่อนไขกับคุณซักนิดหน่อยไม่ได้หรอครับ” เฉินง้อเมื่อเห็นอีกคนก้มหน้างอน


    “แล้วเงื่อนไขของคุณคืออะไร?”

     

     




    “คืนนี้...ผมขออยู่กับคุณแบบนี้....ที่ห้องคุณได้มั๊ย?”

     

     

     

              กว่าจะตกลงกันได้และง้องอนกันเสร็จก็ปาไปเกือบบ่าย มินซอกขอตัวไปทำธุระ ซึ่งเฉินเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ก็มีง้องแง้งนิดหน่อย เพราะไม่อยากให้มินซอกไปคนเดียว แต่ก็ได้เหตุผลที่ฟังแล้วต้องยิ้มเมื่อคนตัวเล็กบอกเขาว่า


     

    “อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ค่ำแล้ว เดี๋ยวคืนนี้ยังไงก็ต้องเจอกันอีก ผมอยากเตรียมตัวเซอร์ไพรซ์ให้คุณพอใจในตัวผมไง”


     

              ด้วยเหตุนี้เฉินจึงยอมปล่อยให้มินซอกไป ส่วนตัวเองก็จะได้มีเวลาทำงานที่ค้างด้วย เพราะพรุ่งนี้ก็วันจันทร์แล้ว การบ้านยังไม่แตะซักวิชา (เพราะมัวแต่กกตัวเล็กนั่นแหละ) แต่ก็นะ ระดับเฉินแล้ว การบ้านแปดวิชาใช้เวลาทำแค่สองชั่วโมงแค่นั้นแหละ ...ไม่อยากจะคุย

     

                                                                   หลังจากที่เฉินเริ่มทำงานเสร็จก็เหลือบมองนาฬิกาที่บ่งบอกว่าตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้วและยิ้มแป้นออกมา
    เมื่อนึกถึงเซอร์ไพรซ์ที่ต้องเจอคืนนี้ แค่ปกตินี่ก็แทบจะระเบิดตายด้วยความน่ารักแล้ว แต่นี่ตัวเล็กยังทำให้เขาลุ้นไปด้วย มันยิ่งเพิ่มความน่าตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ ร่างสูงนั่งยิ้มกับความคิดลามกตัวเอง แล้วจึงลากสังขารไปเข้าห้องน้ำและจัดการอาบน้ำแต่งตัวซะหอมฟุ้งเลยทีเดียว

     

    ....อยากจะไปเซอร์ไพรซ์ตัวเล็กบ้าง ไปก่อนเวลานัดดีกว่า คิดถึงจะบ้าแล้วเนี่ย >.<

     

     

              ..ให้ตายเหอะ เจอมากี่คนกี่คนก็ไม่เคยรู้สึกเหมือนคนนี้เลย รู้สึกว่าผูกพัน อยากสานสัมพันธ์ที่ไม่ใช่แบบคืนเดียว หรือสัมพันธ์แค่ร่างกายเหมือนคนอื่นๆ แต่ตัวเล็กคนนี้ ทำให้อยากสานสัมพันธ์แบบยั่งยืนกับเขาจริงๆ แต่ติดตรงที่ว่า ตัวเล็กจะรู้สึกเหมือนที่เขารู้สึกไหม หรือแค่แกล้งเอาใจให้รักหลง และสุดท้ายเมื่อเจอคนที่ดีกว่าตัวเล็กก็จะจากเขาไป....แต่ฝันไปเถอะ คนอย่างเฉิน เมื่อเจออะไรที่ถูกใจแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ยุ่งกับของรักของหวงของเขาไม่ได้ทั้งนั้น !!!

     

    ....................................................................................................................................................................................

            เฉินเดินขึ้นมาบนห้องที่เขาจำได้แม่นด้วยอารมณ์ที่ดี๊ด๊าเหมือนสาวแรกแย้มที่กำลังมีความรัก .... ก็นะ ช่วงนี้มันอินเลิฟจริงๆ นั่นแหละ แต่ยังไม่ทันได้เอื้อมมือไปกดออดที่ประตู เฉินก็ได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากในห้องของตัวเล็ก จะไม่เป็นอะไรหรอกถ้าในนั้นไม่มีเสียงผู้ชายอยู่ด้วย !!!

     

                    ยังดีที่มีเสียงอีกคนหนึ่งดังขึ้นมาในบทสนทนาด้วย ทำให้เฉินชะงัก และอดไม่ได้ที่จะเอาหูแนบกับประตูเพื่อแอบฟัง ไม่ได้อยากจะเสียมารยาทนะ แค่อยากรู้ว่าในห้องตัวเล็กเกิดอะไรขึ้น เพราะบทสนทนามันดูซีเรียสอยู่พอสมควร

     

    “นายไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นเลยนะมินซอก !!

    “ก็มันเป็นทางเดียวที่ฉันจะได้สิ่งนั้นมาจากเขา นายคิดว่าฉันมีตัวเลือกมากนักหรอ ?”

     

    .....ดูเหมือนบทสนทนาของคนรักที่กำลังเถียงกันยังไงยังงั้น ตอนนี้อารมณ์โกรธของเฉินเริ่มผุดขึ้นมาแล้วล่ะ ใจอยากจะเข้าไปกระชากไอ้ผู้ชายคนนั้นออกมาเคลียร์ให้รู้เรื่อง

     

    “อัลล์ นายเป็นอะไรของนาย ห๊ะ !!

    “ฉันก็แค่เป็นห่วงนาย ไม่ได้รึไง ?!!!

    “อัลล์ใจเย็นๆสิ” เสียงเด็กผู้หญิงร้องห้าม เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ตรงหน้าเริ่มรุนแรงขึ้น

     

     

    ในห้องเต็มไปด้วยความเงียบ คนที่อยู่หน้าห้องก็เงียบ ในใจอยากจะรู้แทบตายว่ามันเกิดอะไรขึ้น เสียงผู้ชาย กับเสียงเด็กนั่น เป็นใครกัน แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับมินซอก โดยเฉพาะไอ้ผู้ชายที่หลังจากฟังบทสนทนาก็พอเดาได้ว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างกับมินซอกแน่

     

    “นายเป็นเพื่อนและพี่ที่ดีของฉัน นายเป็นคนช่วยชีวิตฉัน...ทำให้ฉันได้ลืมตามาดูโลกอีกครั้ง...เพราะฉะนั้น...”

    “ฉันชอบนาย....มินซอก”

     

    สิ้นประโยคสุดท้าย ในห้องก็เต็มไปด้วยความเงียบ คนที่ถูกเอ่ยถึงในบทสนทนารู้สึกช็อคที่คนสนิทของเขามาบอกรักกันตรงๆ แบบนี้ แต่ที่ช็อคไม่แพ้กันคือคนที่ถือช่อดอกไม้อยู่หน้าห้องต่างหาก

     

    “ฉัน.......” มินซอกก้มหน้าเงียบ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรให้คลายความอึดอัด หลังจากที่มินซอกกลับมา อัลล์กับอลิสก็ซักถามเขาว่าหายไปไหนมาหนึ่งวันเต็มๆ มินซอกเห็นว่าทั้งคู่คือเพื่อนสนิท จึงเล่าทั้งหมดให้ฟังว่าเขาไปอยู่กับเฉินมา และนั่นแหละเป็นตัวจุดชนวนความโมโหของอัลล์...ใช่ อัลล์ชอบเขา และเพิ่งสารภาพรักกับเขาเมื่อกี๊นี่ไง

     

    แต่ทำไม มินซอกกลับไม่ได้รู้สึกร้อนๆ ในร่างกายเหมือนกับตอนที่เฉินบอกว่าเขาน่ารัก และบอกว่าหลงเขา ...นี่ผมคงไม่ได้เกิดความรู้สึกบางอย่างที่เรียกว่า รัก กับมนุษย์หรอกใช่มั๊ย?......มันเป็นไปไม่ได้หรอก

     

    “ตอนนี้นายเป็นพวกเราแล้ว ฉันเป็นคนเปลี่ยนนาย นายต้องชอบฉันสิ” อัลล์พูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนเมื่อเห็นแววตาสั่นไหวของมินซอก....อัลล์รักมินซอกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ และเหตุผลหนึ่งที่อัลล์ยอมเปลี่ยนมินซอกก็เพื่อหวังว่าเมื่อเจอทับทิมสีรุ้งแล้ว พวกเขาจะได้กลับไปยังโลกที่พวกเขาจากมาและอยู่ด้วยกัน

     

    “นายเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน....” มินซอกเอ่ยเสียงแห้ง

    “........”

    “ฉันไม่มีหัวใจ หัวใจฉันไม่มีจังหวะ เพราะฉะนั้น ฉันรักใครไม่ได้หรอก”

    “...หึ นายรู้อะไรมั๊ยมินซอก เผ่าเราไม่ได้รักกันด้วยอัตราการเต้นของหัวใจ แต่พวกเรารักกันเพราะความรู้สึกต่างหากล่ะ”

    “.......”

    “ที่นายไม่เกิดความรู้สึกกับฉัน เพราะนายมอบความรู้สึกนั้นให้ไอ้มนุษย์คนนั้นไปแล้วใช่ไหม !!!!!

    “...........”

    “นายรู้ไหมว่าฉันจะบ้าตายแค่ไหนที่ต้องปล่อยนายไปหามัน และไปตามทับทิมสีรุ้งเพียงลำพัง”

    “อัลล์....”

    “นายรู้ไหมว่าฉันแทบความคุมตัวเองไม่ได้เมื่อรู้ว่านายมีอะไรกับมันครั้งแรก”

    “.......”

    “และตอนนี้นายกำลังบอกฉันว่านายกำลังจะทำแบบนั้นกับมันอีกครั้ง นายจะให้ฉันทำยังไงมินซอก !!!!

    “ใจเย็นได้ไหมอัลล์ นายลืมไปแล้วหรือไงว่าจุดมุ่งหมายสูงสุดของเราคืออะไร และเรากำลังจะได้มันมา ต่อให้มินซอกนอนกับมนุษย์นั่นอีกกี่ครั้ง สุดท้ายเมื่อเราได้มันมาครอง มินซอกก็ต้องกลับไปโลกของเรา...สุดท้ายมินซอกก็เป็นของนาย คิดดูสิ” เสียงเด็กผู้หญิงร่ายยาวเพื่อให้อีกคนใจเย็น

    “แต่ฉันขยะแขยงความรู้สึกที่มินซอกมีให้มัน แทนที่จะเป็นของฉัน !! อัลล์มองมินซอกที่ยังก้มหน้าเงียบ

    “มินซอก นายควรจะพูดอะไรบ้างนะ”

    “ฉัน.....ยังไงฉันก็จะกลับไปกลับพวกนายอยู่แล้ว ทุกสิ่งที่ฉันทำก็เพื่อสิ่งที่นายต้องการไม่ใช่หรอ แล้วนายคิดว่ามันจะมีประโยชน์อะไรถ้าฉันจะรู้สึกกับคนคนนั้น เพราะสุดท้ายฉันก็ต้องโยนมันทิ้ง...”

    “.......”

    “ฉันน่ะ อาจจะยังไม่รู้สึกกับนายก็จริง แต่เมื่อเรากลับไปโลกของเราแล้ว ฉันก็จะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ไม่ใช่หรอ .... ฉันจะลืมเขา....และมีแต่นาย...” มินซอกพยายามพูดไม่ให้เสียงสั่น

     

     

    เหมือนยิ่งพูด คำพูดเหล่านั้นมันกลับมาทิ่มแทงตัวเองจนมินซอกรู้สึกกระอักกระอ่วนทั่วทั้งตัว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เพียงแค่นึกว่ายังไงก็ต้องจากกันกลับเฉิน มันก็เกิดความรู้สึกเสียใจขึ้นมา ทั้งๆที่ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง....

     

    “เข้าใจแล้ว......” อัลล์พูดด้วยน้ำเสียงขุ่นพร้อมกับหายตัวไป

     

    “มินซอก นาย.....”

    “คืนนี้สองทุ่ม เขาจะมาหาฉัน...คืนนี้จะเป็น คืนสุดท้ายที่เราจะเจอกัน และหลังจากนั้นฉันจะไปกับเธอ” มินซอกพูดและฝืนยิ้มออกมาให้ปกติที่สุด

     

    อลิสพยักหน้า และไม่อยากถามอะไรไปมากกว่านี้ ส่วนพี่ชายฝาแฝดก็ปล่อยไปสงบสติอารมณ์ซักพัก เดี๋ยวก็กลับมาเองแหละ

     

     

    บทสนทนาในห้องสงบลง แต่จิตใจคนที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องนี่สิ กำลังจะแตกร้าวออกเป็นเสี่ยงๆ อยากจะก้าวขาออกไปให้พ้นแต่มันกลับไม่มีแรงอะไรเลย เพราะวันนี้เขาช็อคหลายเรื่องมากจริงๆ

     

    เรื่องแรก....มินซอกไม่ได้เป็นมนุษย์ เรื่องระหว่างมินซอกกับเฉินในคืนแรกแว๊บเข้ามาในหัว ตอนที่ร่างเล็กพยายามจะดูดเลือดเขาแต่เหมือนมีบางอย่างผิดพลาดทำให้มันเหมือนเป็นการยั่วอารมณ์เขามากกว่า แต่ตอนนี้เฉินเข้าใจแล้วว่ามินซอกไม่ได้เป็นมนุษย์ธรรมดาจริง ๆ ..เพียงแค่คิดเท่านั้น น้ำตาลูกผู้ชายมันก็หยดลงมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

     

    เรื่องที่สอง....มินซอกเกิดความรู้สึกกับเขา และเขาเองก็เกิดความรู้สึกกับมินซอกเหมือนกัน แต่มินซอกพูดออกมาว่า “จะต้องโยนมันทิ้ง” นั่นสร้างความไม่พอใจให้เฉินอย่างมาก

    และเรื่องที่สาม...ไอ้เสียงผู้ชายที่ชื่ออัลล์อะไรนั่นมันชอบมินซอกของเขา และจะพามินซอกกลับไปที่ไหนซักที่ ที่เฉินไม่สามารถไปหามินซอกได้

     

    .....นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ !!!!!!!!!!!!

     

     

    แต่ทว่าหลังจากที่ทราบความจริง ใช่ว่าความรู้สึกที่ผูกพันจะหายไป แทนที่จะกลับกลายเป็นความกลัวเมื่อรู้ว่ามินซอกไม่ใช่คนธรรมดา แต่ทุกอย่างกลับเหมือนเดิม เฉินยังรักมินซอกเหมือนเดิม และที่เพิ่มเติมคือ

    อย่าคิดว่าฉันจะยอมปล่อยนายไปง่ายๆเลยนะ ไม่มีทาง !!!!’

     

    ร่างบางเคยขอต่างหูอันนี้จากเขาสินะ มันอาจจะเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการอยู่ก็ได้ เฉินมีมันครอบครองอยู่ เขาอยู่เหนือกว่าเห็นๆ และคงไม่แปลกถ้าเขาจะใช้มันเป็นเครื่องต่อรองเพื่อรั้งมินซอกไว้

     

    ออดดดดดดดดดดดดดด !!

     

    “อ๊ะ ทำไมคุณมาเร็วจัง ^_^ รอยยิ้มหวานๆ ที่ส่งมาทักทายไม่ได้ทำให้คนที่กำลังหงุดหงิดอยู่หน้าห้องยิ้มตามได้

    “เป็นอะไรรึเปล่าครับ หน้ามุ่ยมาเชียว” มินซอกพยายามเอาอกเอาใจ

    “ไปตามมันมา” เฉินพูดเสียงแข็งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นั่นทำเอาร่างเล็กเล็กถึงกับผงะกับท่าทีที่เปลี่ยนไป

    “อะ..อะไรครับ?”

    “ชู้ของนายน่ะ ไปเรียกมันมา” เฉินพูดแต่สายตาไม่ได้มองหน้ามินซอก ส่วนมินซอกเองก็ตกใจ ไม่รู้ว่าอีกคนไปได้ยินอะไรมาถึงมีอารมณ์แบบนี้ หรือว่า.....

     

    “เรื่องที่นายคุยกันเมื่อกี๊ มันแล่นเข้าในหูฉันหมดแล้ว” เฉินเอ่ยเสียงเรียบ นั่นยิ่งทำให้มินซอกยิ่งช็อคไปกว่าเดิม

     

    “คุณ....รู้แล้วหรอ?” 

               เฉินไม่ปริปากพูดอะไรทั้งสิ้น สายตาเขายังคงมองตรงไปข้างหน้า ไม่ได้มองหน้าตัวเล็กเลยซักนิด นั่นยิ่งทำให้ความรู้สึกบางอย่างของมินซอกผุดขึ้นมา....มันคือความกลัว...

     

    “นายรู้อะไรบ้าง” มินซอกใช้น้ำเสียงปกติถามอีกคน

     

    “หลายอย่างเลยแหละ...นายไม่ใช่มนุษย์ นายต้องการต่างหูของฉันเพื่อพาไอ้ชู้นั่นไปในที่ที่ฉันไปหานายไม่ได้ และนาย...บอกว่าจะทิ้งความรู้สึกทั้งหมดที่นายรู้สึกกับฉัน....นอกจากนี้ยังมีอะไรที่ฉันต้องรู้อีกไหม” เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดโดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่บอกว่ามินซอกกำลังจะทิ้งความรู้สึกนั้นไป

     

    “หึ นายยังไม่รู้อีกอย่างหนึ่ง .....ฉันกินเลือดเป็นอาหาร” มินซอกพยายามพูดเพื่อให้อีกคนหวาดกลัวและตัดใจได้ง่ายขึ้น

     

    “แล้วไงมินซอก...ถ้าฉันบอกนายว่าฉันยินดีให้นายกินเลือดฉัน นายจะอยู่กับฉันไหม” สายตาที่แข็งกร้าวเปลี่ยนเป็นเชิงอ้อนวอนของเฉินทำให้มินซอกต้องหันหน้าหนี เพราะกำลังจะควบคุมความรู้สึกไม่ได้

     

     

    .....ไม่ได้นะมินซอก เรื่องระหว่างนายกับเฉินมันเป็นไปไม่ได้...อย่ารู้สึกแบบนั้น ....

     

     

    “ต่างหูเนี่ยถ้านายอยากได้ก็เอาไป แต่ฉันขออย่างเดียว.....อยู่กับฉันได้ไหม”

     

              มินซอกไม่พูดแต่เดินเข้ามาหาเฉินที่โซฟาและนั่งลงข้างๆ พร้อมทั้งกุมมือเฉินให้วางทาบลงที่หน้าอกด้านซ้ายตัวเอง

     

    “ได้ยินอะไรไหม...นายสัมผัสถึงอะไรได้บ้าง...หึ..ไม่ได้ยินใช่มั๊ย เข้าใจรึยัง...หัวใจฉันมันไม่เต้น ฉันอยู่คนละโลกกับนาย เพราะฉะนั้น...”

     

    “ใครสนกันเล่า หัวใจนายมันจะเต้นหรือไม่เต้นก็ช่างมันสิ แต่หัวใจฉันมันเต้น และเต้นแรงด้วยเวลาที่อยู่กับนาย...ฉันรักนายนะมินซอก นายทำฉันแทบบ้าทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกัน มันอาจจะเป็นแค่เวลาสั้นๆ แต่ฉัน...กลับรู้สึกรักนายมากจริงๆ...ฉันถึงยอมให้นายไปจากฉันไม่ได้ไงเล่า !!!

     

    “เฉิน....”

    “นายมันแย่มากรู้ตัวไหม....ถ้าจะทำกับฉันแบบนี้ แล้วมาทำให้รักทำไมวะ !!!

    “ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องได้ขนาดนี้....แต่ยังก็เถอะ เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ไม่มีใครที่อยู่กับอาหารของตัวเองได้หรอก”

     

    “นายไม่กลัวพวกเราเลยรึไง” เสียงอลิสที่มาพร้อมกับการปรากฏตัวที่ทำให้เฉินแทบช็อค

    “พวกนายเห็นฉันเป็นอาหารสินะ เอาสิ เอาเลย ถ้ามันเป็นฝีมือของนายฉันก็ยอม ... มินซอก” ความรู้สึกของเฉินตอนนี้มันเลยความกลัวมาแล้ว เขารู้ตัวดีว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร แต่แค่คิดว่ามินซอกจะจากเขาไป มันยอมไม่ได้จริงๆ...ถ้าจะต้องตาย ก็เอาสิ !!

     

    “ดีเหมือนกันวันนี้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาล่าเหยื่อ” เสียงอัลล์ที่โผล่มาอีกคน

    “นายสินะ ชู้ของเมียฉัน” เฉินมองผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ โดยไม่เกรงเลยว่าเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แต่อัลล์เป็นปีศาจ

    “หยุดพล่ามได้ละ เอาทับทิมสีรุ้งมา แล้วใสหัวไปซะถ้าไม่อยากตาย !!

    “แกหมายถึงต่างหูนี่น่ะหรอ ได้...อยากได้ ฉันก็จะให้...แต่ฉันมีข้อแลกเปลี่ยน”

    “อะไรของแกอีกวะ”

    “มินซอกต้องอยู่กับฉัน !!!

    “มึง...!!!!

     

    อัลล์เตรียมพร้อมที่จะกระโจนใส่เฉินเต็มที่ เพราะไม่ชอบหน้าแต่ไหนแต่ไรแล้ว และตอนนี้ก็มากร่างใส่เขา พูดเหมือนว่ามินซอกเป็นของตัวเองทั้งตัวและความรู้สึก แบบนี้มันน่าต่อยไหมล่ะ ...รู้ไหมว่าหมัดนึงของผมมันทำให้มนุษย์ธรรมดาสลบไปหลายวันเลยนะเผลอๆ อาจจะตายไปเลยก็ได้ !!

     

    “หยุดนะ!!!!! มินซอกร้องห้ามเมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ตรงหน้าเริ่มรุนแรงขึ้น และต้นเหตุก็คือตัวเอง

     

    “เฉิน เอาต่างหูนั่นมา แล้วก็กลับไปซะ....ส่วนอัลล์ ฉันจะไปกับนาย เพราะฉะนั้น ปล่อยเขาไป” มินซอกเอ่ยโดยที่ไม่มองหน้าเฉิน

     

    “นายเลือกมัน....นายไม่ได้เลือกฉัน...ใช่ไหมมินซอก” เฉินเอ่ยเหมือนคนกำลังจะหมดแรง ประโยคไล่ของมินซอกทำเอาเรี่ยวแรงและความกล้าเขาหายหมด...เพราะสุดท้าย คนที่มินซอกเลือกก็ไม่ใช่เขา

     

    “ก็ได้ ...ในเมื่อความพยายามของฉันมันไร้ค่า ฉันก็ไม่รู้จะพยายามไปทำไม...” เฉินพูดพร้อมกับถอดต่างหูให้กับอลิส เพราะมินซอกไม่ยอมหันมามองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ....

     

    “ไปได้แล้ว...” เสียงไล่ของมินซอกดังขึ้นอีกครั้ง แต่ถ้าเฉินหูไม่ฝาด น้ำเสียงนั้นมันดูสั่นๆ คล้ายคนกำลังจะร้องไห้เลย...แต่ไม่หรอก ในเมื่อมินซอกเลือกอัลล์ แล้วทำไมมินซอกต้องร้องไห้ด้วย คนที่ต้องร้องคือเขาไม่ใช่หรอ

     

    “เลิกไล่ฉันซักที ฉันไม่ไปหรอก...นายจะฆ่า จะกินเลือดกินเนื้อของฉันก็กินเลย ยังไงฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น”

    เฉินสวมกอดอีกคนจากด้านหลังและกระชับแน่นกลัวว่ามินซอกจะหายไปจริงๆ จากที่คิดว่าจะเดินออกไปได้ง่ายๆ แต่เปล่าเลย เท้ามันก้าวไปไม่ได้ เพราะหัวใจมันสั่งให้อยู่ตรงนี้

     

    “อย่าทำแบบนี้...อย่าทำแบบนี้เฉิน...ฮึก”  น้ำตาเม็ดน้อยไหลลงมาที่สัมผัสกับมือของเฉิน ทุกคนอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอลิสและอัลล์

     

    “เป็นไปไม่ได้...” เสียงอลิสเอ่ยขึ้น

    “อะไร...?” เฉินงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และท่าทีของอัลล์กับอลิสที่ดูอึ้งเหมือนกับเห็นผีแบบนั้น

     

    “มินซอก นายมีน้ำตา !!! อลิสเอ่ยออกมาอย่างตกใจ

     “มันแปลกหรอ? ” มินซอกพูดพลางปาดน้ำตาเบาๆ

     

    “เผ่าของเรา...ไม่เคยร้องไห้....แสดงว่า....ไม่นะ...มันเกิดขึ้นจริงๆ หรอ” อลิสยังคงงงและไม่เข้าใจว่ามันจะเกิดขึ้นจริง

    “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ยัยตัวเล็ก” เฉินเอ่ยถามอย่างกระวนกระวาย เพราะดูอลิสจะรู้อะไรมากทีเดียว ส่วนอัลล์ก็ยังคงอึ้งกับเหตุการณ์ตรงหน้า

     

              อลิสเดินมาและวางมือบนหน้าอกของมินซอก แล้วก็ต้องผงะออกอย่างรวดเร็ว

     

    “มินซอก หัวใจนาย....กำลังเต้น !!!

    “ก็ไหนนายบอกว่า...”

    “ใช่นายเป็นพวกเราแล้ว แต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง...หรืออาจจะเป็นเพราะว่า ความรู้สึกของนายที่มีต่อผู้ชายคนนี้มันมากมายจนทำให้นายกลายเป็นแบบนี้....มินซอก นายกำลังเจอเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเผ่าเรา...นายกำลังจะกลับไปเป็นมนุษย์” อลิสร่ายยาว มินซอกที่ได้ฟังถึงกับตาโต...เขากำลังจะเป็นคนปกติจริงๆหรอ?

    “ไม่ได้หรอก...ฉันไม่ยอม ฉันจะเปลี่ยนมินซอกอีกครั้ง” อัลล์พูดพร้อมเดินเข้ามาหาแต่โดนมืออลิสห้ามไว้

    “นายก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อัลล์ เพราะความรู้สึกของมินซอก...มันลบไม่ได้” อลิสเตือนสติ

    “โถ่โว้ย !!! อัลล์อารมณ์เสียมาก ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะเป็นแบบนี้ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เขายอมล่าเหยื่อมาให้มินซอกตั้งแต่แรกก็ดี ไม่ยอมปล่อยให้มินซอกมาเจอเฉินแน่นอน

     

    “รีบไปเถอะอัลล์ เราได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ได้เวลากลับไปโลกของเราซักที”

    “ฉันจะเอามินซอกไปด้วย” ประกาศกร้าวของอัลล์ทำให้เฉินยิ่งกอดมินซอกแน่น คล้ายว่าจะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด

    “อย่างี่เง่าอัลล์ คนที่มินซอกรู้สึกด้วย คือเฉิน ไม่ใช่นาย” อลิสเอ่ยเสียงเรียบ

     

              อัลล์ออกไปที่ระเบียงอย่างหงุดหงิด ส่วนอลิสก็เดินมาหาเฉินและมินซอกเพื่อบอกลา ได้เวลาที่เขาต้องไปแล้วจริงๆ และแน่นอนว่าไม่มีวันที่พวกเขาจะพบกันอีกแน่นอน

     

    “ฉันขอโทษนะ แต่ก่อนไป ฉันต้องกินเลือดนาย เพื่อให้นายจำฉันไม่ได้” อลิสพูด

    “แต่ฉันอยากเก็บเธอไว้ในความทรงจำนะ” มินซอกพูดพร้อมกับคุกเข่าให้อยู่ในระดับเดียวกับอลิส

    “ไม่จำเป็นหรอก...กลับไปใช้ชีวิตมนุษย์ของนายอย่างที่ควรจะเป็นเถอะ” อลิสพูดพร้อมกับโน้มหน้ามาที่คอของมินซอก ซึ่งมินซอกเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร และหมดสติไปในที่สุด

    “ส่วนนาย...นายเจ๋งนะที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ประหลาดนี้ได้...สัญญานะว่าจะดูแลเพื่อนฉัน และห้ามทำเขาเสียใจเด็ดขาด ไม่งั้นฉันจะพามินซอกไปอยู่ในที่ที่นายหาเขาไม่เจอ” อลิสหันมาพูดกับเฉิน

    “เธอกลับไปโลกของเธอเถอะ เพราะไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นแน่ๆ ”เฉินเอ่ยอย่างมั่นใจ....ทำไงได้ก็รักไปแล้วนี่นา คนนี้ยอมเลยจริงๆ

     

              อลิสยิ้มและเดินมาหาอัลล์ที่ระเบียงเพื่อจะกลับไปยังโลกของเขา

    “ไอ้ไม่หล่อ ถ้าแกทำมินซอกเสียใจเมื่อไหร่ ฉันจะตามมาฉีกเนื้อแกแล้วเอาไปให้อีกายักษ์ที่โลกของฉันกินให้ไม่เหลือซาก !!!!

     

                    อัลล์พูดทิ้งท้ายก่อนจะหายตัวไปพร้อมอลิส ดวงจันทร์ที่เคยมืดมิดมีแสงสว่างของพระจันทร์เต็มดวงสะท้อนเข้ามา

     

    “ฝันไปเถอะ ฉันน่ะ ถ้าได้รักแล้ว ไม่ปล่อยไปง่ายๆหรอก ใจทั้งใจของฉัน ทุ่มให้ผู้ชายคนนี้ตั้งแต่คืนแรกแล้วเว้ย” เฉินพูดไล่หลังตามไป และยิ้มที่เหตุการณ์มันจบแบบนี้

     

              เฉินจัดการอุ้มร่างที่ไร้สติไปที่เตียงและนอนกอดร่างนั้นจนเช้า ความรู้สึกตอนนี้มันเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข ไม่คิดเลยว่าตัวเองต้องมาเจอเหตุการณ์อะไรแบบนี้ ไม่รู้ว่าถ้ามินซอกตื่นขึ้นมาจะจำอะไรได้บ้างไหม แล้วถ้าเขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง..มินซอกจะเชื่อหรือเปล่านะ

     

     

              ร่างเล็กค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็พบว่ามีท่อนแขนชองใครบางคนพาดเอวเขาอยู่ ...มือใครวะ ????

     

    “นี่แน่ะ!!!!”  มินซอกค่อยๆ จับมือนั้นออกแล้วใช้เท้าน้อยๆ ถีบอีกคนจนกลิ้งตกเตียง

    “โอ๊ย อะไรเนี่ย ??” อีกคนตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด

    “นายเป็นใคร มาอยู่ห้องฉันได้ยังไงห๊า !!! มินซอกโวยวาย

    “นี่นายจำฉันไม่ได้หรอ” เฉินชี้นิ้วมาที่ตัวเอง ...อย่าบอกนะว่ายัยเด็กนั่นลบความทรงจำของมินซอกไปจนหมด

    “.......” มินซอกนั่งเงียบและทบทวนเหตุการณ์ในสมองอีกครั้ง แต่คิดอะไรไม่ออกเลย รู้แค่กำลังจะกลับหอหลังจากที่ทำงานที่ผับเสร็จ และหลังจากนั้น...มันเกิดอะไรขึ้น...

     

              แต่มีอย่างนึงที่มินซอกสัมผัสได้คือ ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเขา อีกทั้งยังทำให้เขาใจสั่นแปลกๆ ด้วย ...อะไรกันเนี่ย

     

    “งั้น ต้องทบทวนความจำกันหน่อยแล้วมั้ง” เฉินพูดพร้อมกับกระโจนเข้าหาอีกคนบนเตียง.....ไอ้ที่บอกว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเขาน่ะ ถอนคำพูดตอนนี้ทันไหม??

    “จะ..จะทำอะไรน่ะ”

    “ตอนนายเขินน่ารักมากเลยนะ ยิ่งตอนที่มีเลือดฝาดขึ้นแบบนี้มันยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลยล่ะ”

    “อย่าพูดเหมือนรู้จักผมดีไปหน่อยเลย”

    “ไม่หน่อยนะ เยอะเลยล่ะ รู้มากกว่าที่คุณรู้ด้วย”

    “คุณต้องการอะไร?”

     

     

     

    “คบกันนะ ^_^

     

    O_O !!!!!

     

     

    “กำลังเขินผมใช่มั๊ยล่ะ”

    “......”

    “ใจเต้นแรงเลยล่ะสิ.”

    “......”

    “กำลังสับสนว่าทำไมถึงปฏิเสธผมไม่ได้ใช่มั๊ย?”

    “.......”

    “รู้สึกอบอุ่นแปลกๆ ใช่ไหมล่ะ”

    ^______________^

     

     

                    บ้าไปแล้ว ผู้ชายคนนี้มาสิงร่างเขารึไงนะ ทำไมถึงได้รู้ไปซะทุกอย่าง แม้กระทั่งความรู้สึกของมินซอกในตอนนี้

     

    “ถ้าในความรู้สึกของคุณมันตอบว่าผมใช่สำหรับคุณ ก็ตกลงสิครับ”

    “แต่ว่า....เราเพิ่งรู้จักกัน”

    “ใครบอกล่ะ.....เรารู้จักกันอย่างลึกซึ้งแล้วต่างหาก ^_^

     

     

              ท่ามกลางแสง สี และดนตรีมันส์ ผู้คนกำลังขยับร่างกายไปตามเสียงดนตรีอย่างเมามันส์ ดีเจหน้าใสกลับมาประจำการ ณ ที่เดิม

     

    “น้องคลับ พี่ของเบสแรงๆ หน่อยได้มั๊ย” ชายวัยรุ่นที่แต่งตัวดูดีกำลังกระซิบข้างๆ หูดีเจหน้าใส เพราะเสียงดนตรีมันดังเกินไป ทำให้มินซอกต้องยื่นหน้าออกมาหา

    “พี่ว่า.....”

    “โทษนะครับ กรุณาอย่าเข้ามาใกล้เมียผม ผมหวงครับ” เสียงบุคคลที่สามเอ่ยขัดขึ้นมา ก่อนที่ชายคนนั้นจำยิ้มเจื่อนๆ และเดินออกไป

    “จงแด ฉันทำงานอยู่นะ”

    “ไม่ต้องทำแล้ว กลับ!!

    “ไม่ได้ ยังไม่หมดคิวของฉัน”

    “งั้นผมจะยืนรอตรงนี้” เฉินพูดพร้อมกับยืนพิงกำแพงข้างๆ มินซอก

    “ไว้ใจกันบ้างสิ” มินซอกเอ่ยด้วยน้ำเสียงงอนๆ

    “แน่นอนว่าไว้ใจอยู่แล้ว แต่ดูสายตาที่พวกมันมองสิ อยากเดินไปควักลูกแม่ม”

    “จงแด !! มินซอกส่ายหน้าให้กับความขี้หึงของแฟนตัวเอง

    “ไม่ต้องทำแล้ว กลับ!!!

    “ถ้าไม่ทำแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าห้อง ค่าเทอมเล่า” มินซอกยิ้อและพยายามใช้เหตุผล

    “ก็บอกให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันแต่แรกไงเล่า”

    “จงแด..”

    “ก็ได้ งั้นยอมให้ทำก็ได้ แต่ถ้าเห็นไอ้หน้าไหนมาเกาะแกะ ผมไม่รับประกันความปลอดภัยของมันนะครับ ^_^

     

     

                    เฉินพูดพร้อมกับเดินไป มินซอกจำต้องเดินตามไปง้อและเปลี่ยนคิวกับดีเจอีกคนที่ทำงานด้วยกัน ก็ทำไงได้ล่ะ เขาทำงานที่นี่มาสามเดือน ทุกคืนก็โดนคนมาเกาะแกะประจำแหละ แต่มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากมายและอีกอย่างมินซอกก็ไม่ได้คิดจะเล่นด้วยอยู่แล้ว

     

    “โอเคๆ ฉันยอมไปอยู่กับนายก็ได้”

     

              ใช่...ที่เฉินเอาเรื่องนี้มาอ้างจริงๆ แล้วแค่อยากให้แฟนที่น่ารักย้ายไปอยู่ด้วยกันต่างหาก เพราะมินซอกไม่ยอม เฉินถึงได้หงุดหงิดและพาลเรื่องงานของเขานี่ไง

     

              ตั้งแต่วันนั้น ความรู้สึกของมินซอกก็ค่อยๆ ทำให้เขาจำเรื่องราวขึ้นมาได้บ้าง แต่เขาจำอลิสกับอัลล์ไม่ได้ รู้เพียงแค่ว่าตัวเองกับเฉินมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกันแล้ว นั่นจึงทำให้มินซอกตอบตกลงที่จะคบกับเฉิน ส่วนผู้ชายใจร้อนที่หวงเมียยิ่งกว่าอะไรก็ออดอ้อนทุกวิถีทางให้มินซอกมาอยู่ด้วย แต่มินซอกปฏิเสธ เพราะ...

     

    “ถ้าเมียไม่มาอยู่ด้วย แล้วเค้าจะนอนกอดใครล่ะ เค้าต้องขาดใจตายแน่เลย....”

    เพราะเฉินพร้อมที่จะหื่นใส่เข้าตลอดเวลาไง

     

                    แต่ก็นะ สุดท้ายก็ต้องยอมอยู่ดี อยากจะจำได้จริงๆเลยว่าตัวเองไปทำอะไรไว้ แล้วทำไมถึงยอมนอนกับเฉินง่ายๆ แบบนั้น แต่พอถามเฉินทีไรก็ได้ ก็เอาแต่บอกว่าถ้าอยากรู้ต้องลองทำเหมือนตอนนั้น ซึ่งฝันไปเถอะ ผมไม่ยอมง่ายๆ เหมือนเดิมอีกแล้ว ถึงความรู้สึกผมมันจะบอกว่า.....ผมรักเขา...ก็เถอะ !!!

     

     

    ปล. จากเฉิน

     

              การมีแฟนน่ารักมันถือเป็นเรื่องดีใช่ไหมล่ะ แต่คุณรู้มั๊ยว่ามันเหนื่อยแค่ไหนที่ต้องตามไปตัดหนวดปลาหมึกที่มันคอยมาเกาะแกะแฟนผมอยู่ได้ นี่คือเหตุผลที่ผมอยากให้เขามาอยู่ด้วยไง จะได้ดูแลได้เต็มที่ ไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจเขานะ เพราะยังไงซะผมก็มั่นใจว่าความรู้สึก รัก ของเขามันเป็นของผมคนเดียว และผมเองก็เหมือนกัน  แต่ผมเกลียดไอ้พวกหนวดปลาหมึกมากกว่า ....ก็อย่างที่บอกว่าคนมันหวง มันรักมาก หลงมาก ใครหน้าไหนก็ห้ามแตะ โอเคมั๊ย !!!!!!

     

     

     

                


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×