คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : Only mine : Three
“จะจับมือฉันไปอีกนานไหม?” แบคฮยอนกระตุกมืออีกคนเมื่อเห็นว่าชานยอลลากเขาออกมาไกลจากร้านนั่นแล้ว แต่ชานยอลกลับจับมือเขาหน้าตาเฉยไม่ยอมปล่อย
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า ฉันไม่เหนื่อย” ชานยอลพูดหน้าตาเฉยและกระชับมือแน่นกว่าเดิม
“ฉันไม่ได้กลัวนายเหนื่อยซักหน่อย ปล่อยเลยนะ !”
“นี่อย่าโวยวายนะ เดี๋ยวคนทั้งห้างได้มองนายเป็นตาเดียวอ่ะ ไม่อายรึไง?”
“ฮึ่ย” แบคฮยอนได้แต่กัดฟันกรอด จะกระชากมือกลับก็ทำไม่ได้ เพราะมือใหญ่ๆ ของชานยอลจับไว้แน่นเหมือนกลัวว่าเค้าจะหนีหายหรือไงก็ไม่รู้
ชานยอลลากแบคฮยอนไปซื้อสีสำหรับย้อมผม เมื่อเข้ามาในร้านชานยอลก็ให้แบคฮยอนเป็นคนเลือกสี
“ทำไมต้องให้ฉันเลือก นายอยากทำสีอะไรก็เลือกเอาสิ”
“ฉันอยากให้นายทำให้อ่ะ นายจะได้มีส่วนร่วมในร่างกายฉันไง” ชานยอลยื่นหน้าเข้ามายิ้มใกล้ๆ อย่างทะเล้น ทำให้แบคฮยอนหลบหน้าหนี
“เขินอ่ะดิ” ชานยอลแซว
“หุบปากไปเลย” แบคฮยอนปัด และเดินไปหยิบสีย้อมผมมายื่นให้ชานยอล
“สีดำ?” ชานยอลมองสีย้อมและมองหน้าแบคฮยอนสลับกัน
“ก็นายให้ฉันเลือก” แบคฮยอนยักคิ้ว ที่จริงก็อยากจะเลือกสีสว่างๆ สวยๆ ให้อยู่หรอกนะ แต่เป็นเพราะอยากแกล้งไอ้โย่งตรงหน้าเลยแกล้งหยิบสีดำสนิทมา อยากจะรู้ว่าชานยอลจะยอมย้อมสีดำไหม?
“สีดำก็สีดำวะ” ชานยอลพึมพำและเดินไปจ่ายเงิน
“เฮ้ยๆๆ นายจะเอาสีดำจริงๆ หรอ” แบคฮยอนวิ่งตามมาห้าม
“ก็นายเลือกแล้วหนิ”
ชานยอลจ่ายเงินและพาอีกคนทานข้าว หลังจากเสร็จสรรพก็พาแบคฮยอนไปบ้านของเขา ซึ่งแบคฮยอนมีหรือจะยอม แต่ชานยอลก็ยกเหตุผลนั่นนี่มาอ้าง ‘ถ้าฉันจะเอานายนะ ฉันไม่พามาบ้านหรอก จับปล้ำแม่มในรถนี่นานละ’ จนสุดท้ายแบคฮยอนก็ยอม ยังไงซะเขาก็เชื่อว่าเขาสามารถเอาตัวรอดจากชานยอลได้ และเมื่อมาถึงบ้านชานยอลบรรยากาศมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด อีกทั้งยังมีแม่บ้านตั้งสี่ห้าคนกำลังทำนู่นทำนี่อยู่ทั่วบ้าน
ชานยอลพาแบคฮยอนมาที่สระว่ายน้ำ เพราะอากาศดี และเตรียมของมาให้อีกคนสำหรับทำสีผม
“นายก็น่าจะทำที่ร้าน มาลำบากฉันทำไมก็ไม่รู้ บ้านก็ออกจะใหญ่โต เสียเงินย้อมผมนี่แพงมากสำหรับนายรึไงกัน” แบคฮยอนพูดไป ทำไป ทำให้ชานยอลอมยิ้ม ถึงปากจะบ่นแต่มือก็ยังทำ
“ฉันก็แค่อยากทำอะไรร่วมกับนายบ้างอ่ะ ไม่ได้ปล้ำ ทำสีผมก็ยังดี” ชานยอลพูดอย่างทะเล้น
“นายนี่มันหน้าด้านจริงๆ จะให้บอกกี่ครั้งว่าฉันจะไม่มีวันยอมนายเด็ดขาด ห๊ะ?” แบคฮยอนดีดหูอีกคนเพราะหมั่นเขี้ยว
“แล้วนายจะให้ฉันบอกอีกกี่ครั้งว่าฉันจะเอานายให้ได้อ่ะ” ชานยอลยอกย้อน
“เหอะ....งั้นทำให้ได้นะจ๊ะที่รัก ฉันรอครางจะแย่แล้วเนี่ย..แอวะ!!” แบคฮยอนแสร้งทำล้อเลียนและลงมือย้อมผมให้ชานยอล ส่วนชานยอลก็อมยิ้ม ก็ไม่รู้สินะ รู้สึกว่ามือเรียวเล็กนั่นกำลังย้อมผมให้เขา มันก็รู้สึกมีความสุขไปอีกอย่าง แบคฮยอนเองก็ถามนู่นถามนี่เขาตลอดเพื่อทำลายความเงียบ
....ทำสีผมครั้งไหน ไม่เคยจะยิ้มเหมือนคนบ้าแบบนี้เลยกู นี่แค่ย้อมผมมันมีความสุขถึงขนาดกูยิ้มไม่หุบเลยหรอวะ....หรือเป็นเพราะว่าคนที่ย้อมคือนาย ไอ้ตัวแสบ
“เสร็จแล้ว” แบคฮยอนถอดถุงมือและเก็บของ
“ต้องเอาไว้นานแค่ไหน”
“ข้างกล่องบอกว่าประมาณหนึ่งชั่วโมง”
“หาอะไรทำขณะรอกันมะ?” ชานยอลพูดพร้อมทำสายตาแพรวพราว
“ทำไปคนเดียวเถอะ จะกลับแล้ว” แบคฮยอนพูดพร้อมกับสะพายกระเป๋าคู่ใจจะเดินออกไป
“เฮ้ยๆๆๆ ได้ไงล่ะ นายต้องอยู่ดูผลงานนายก่อนดิ เผื่อไม่สวยนายต้องรับผิดชอบ”
“นั่นมันเรื่องของฉันหรือไงเนี่ย”
“ใช่ เรื่องของนายเต็มๆ เลย”
ชานยอลหาเรื่องรั้งอีกคนให้อยู่ และไปเอาแนวข้อสอบมาให้แบคฮยอนและติวให้เท่าที่จำได้ ที่จริงเขาก็ไม่ได้เก่งหรอก แต่ที่เรียนมามันก็พอจะเข้าหัวบ้างแหละ ทั้งคู่นั่งติวไป ชานยอลก็แกล้งกวนแบคฮยอนไปเรื่อยๆ จนเกือบชั่วโมงชานยอลจึงไปสระผม
“แบคฮยอนนายทำหูฉันดำ” ชานยอลเดินจับหูเข้ามาหาแบคฮยอนที่นั่งอ่านหนังสือรอที่ห้องนั่งเล่น
แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมองสีผมอีกคนทีเปลี่ยนเป็นดำสนิทเรียบร้อยแล้ว...ทั้งที่คิดว่ามันอาจจะไม่เข้ากับชานยอล แต่พอทำแล้วมันกลับทำให้ชานยอลดูดีขึ้นเยอะเลย ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสีผมหรือหนังหน้า แต่รวมๆ แล้วก็ยอมรับก็ได้ว่ามันหล่อ >//////<
“ก็นายดิ้น” แบคฮยอนเถียง
“รับผิดชอบเลย”
“จะให้ทำยังไงล่ะ”
“ให้เลียออกดีไหม?”
“แอวะ เอาน้ำสบู่ล้างก็ออกแล้วเถอะ....เสร็จแล้วฉันกลับล่ะ” แบคฮยอนเดินออกไปริมสระเพื่อไปเอากระเป๋า
ชานยอลเดินตามเพื่อจะหาทางรั้ง ก็ไม่รู้หรอกจะรั้งทำไม แต่ความรู้สึกคือยังไม่อยากให้กลับ อยากให้แบคฮยอนอยู่ด้วย เพราะทุกครั้งที่เขาอยู่กับแบคฮยอนเขายิ้มและหัวเราะบ่อย อีกทั้งยังชอบอมยิ้มแบบคนบ้าอยู่เรื่อยๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นด้วย
ตู้มมมมมมมมม
“แบคฮยอน !!!!” ชานยอลกระโดดตามลงไปทันที เขาเข้ามาขวางแบคฮยอน แบคฮยอนจึงเลี่ยงไปอีกทางซึ่งมันก็ติดริมขอบสระพอดี จึงลื่นตกลงไป ชานยอลตกใจมาก
“นี่ ปล่อย ฉันว่ายน้ำเป็นน่า” แบคฮยอนพยายามดันแผงออกอีกคนให้ห่างเมื่อชานยอลดึงร่างตัวเองเข้าไปกอดแน่น
“ขอโทษ” สายตาสำนึกผิดของชานยอลที่ไม่เคยแสดงออกมา ทำให้แบคฮยอนอึ้ง
ทั้งคู่จ้องตากันอยู่แบบนั้นกลางสระ แบคฮยอนกำลังสับสนกับหัวใจที่มันกำลังเต้นแรงเพราะผู้ชายร่างสูงนี้ ใบหน้าหล่อเหล่าที่สมกับเป็นเดือนคณะบวกกับผมสีดำที่ทำให้ชานยอลดูเรียบร้อยขึ้นแต่ก็ยังหล่อ พร้อมกับสายตาที่แบคฮยอนเองก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นการเสแสร้งหรือจริงใจ...แต่ถึงกระนั้น หัวใจของเขาก็กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ
“หัวใจนายเต้นแรงจัง” ชานยอลพูดออกมายิ้มๆ เป็นเพราะร่างกายของทั้งสองแนบแน่นกัน ทุกส่วนของร่างกายเรียกได้ว่าแทบจะสัมผัสกันทุกส่วน ชานยอลอุ้มให้แบคอยอนอยู่เหนือกว่า ทำให้บริเวณหน้าอกแบคฮยอนอยู่แถวๆ หน้าชานยอลพอดีจึงได้ยินเสียงหัวใจชัดเจน
“ปล่อยได้แล้ว >////<” แบคฮยอนหลบหน้าเขิน นั่นยิ่งทำให้ชานยอลยิ้ม แต่ก็ไม่ยอมปล่อยและกอดไว้แบบนั้น
“ใจอ่อนซักทีสิ ฉันไม่เคยจีบใครนานเท่านายเลยนะ” น้ำเสียงที่คล้ายว่าขี้เล่นแต่สายตากับแสดงออกถึงความจริงใจที่มีให้
“ใจอ่อนให้นายลากฉันขึ้นเตียงน่ะสิ ไม่มีทางหรอก” แบคฮยอนตอบเชิดๆ
“ยังจำจุดมุ่งหมายฉันได้แม่นเลยสินะ”
“แน่นอน !!”
“ถ้าฉันบอกว่าฉันมีจุดมุ่งหมายใหม่ นายจะเชื่อป่ะ?”
“ฉันคิดว่าฉันไม่จำเป็นต้องรู้”
“จำเป็นสิ....เพราะมันเกี่ยวกับนาย”
“หืม ไม่พ้นเรื่องบนเตียงอีกล่ะสิ คราวนี้จินตนาการอะไรไว้อีกล่ะ”
“ป่าว....อยากเป็นแฟนนายว่ะ ฉันจะไม่บอกว่าอยากดูแลนาย เพราะปกติฉันก็ทำอยู่ แต่ฉันอยากทำแบบนี้กับนายไปเรื่อยๆ ทุกวัน และอยากให้นายมองเห็นความจริงใจของฉันบ้าง.....จุดมุ่งหมายนี่ ฉันเปลี่ยนมันตอนที่เห็นนายร้องไห้ที่หลังตึกศิลกำ...”
แบคฮยอนมองอีกคนด้วยสายตาที่อ่อนลง นี่เป็นคำสารภาพรักของชานยอลหรอ แต่จะว่าไปที่ผ่านมา ชานยอลก็ดูแลแบคฮยอนจริงๆ มากินข้าวด้วย แอบไปนั่งเรียนเป็นเพื่อนก็บ่อย และเอาใจเขาทุกอย่าง ถ้าตัดเรื่องบ้ากามของชานยอลออก ก็นับได้ว่าหมอนี่ก็ไม่ใช่คนเลวอะไรเลย
“ฉัน....ฉันคิดว่าฉันชอบนายจริงๆ เข้าแล้วล่ะ แบคฮยอน” ชานยอลพูดเสียงแผ่ว พร้อมกับก้มจูบที่หน้าอกอีกคนที่กระดุมเสื้อมันหลุดไปสองเม็ดเผยให้เห็นหน้าอกขาวเนียน ก็ไม่รู้ว่าจูบทำไม รู้แค่มันอยู่ตรงหน้าและมันก็เร้าใจเหลือเกิน แต่ไม่ได้คิดที่จะล่วงเกินไปมากกว่านี้ แค่จูบเบาๆ และผละออกมา แปลกที่แบคฮยอนไม่ได้ดิ้นหรือขัดขืน
“นี่เป็นแผนของนายใช่มั๊ย?” ถึงแม้คำพูดอาจจะดูเหวี่ยงๆ แต่น้ำเสียงกับอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่มีแล้ว....ไม่มีแผนอะไรเลย.....จริงๆ” ชานยอลพูดไปตามความจริง
ก็ยอมรับและว่าแรกๆ เข้าหาเพราะว่าอยากซั่ม ที่ตามจีบตามดูแลเพราะความหวังสูงสุดคือตัวแบคฮยอน และนานๆ เข้ามันก็เปลี่ยนไป การดูแลแบคฮยอนทุกวันมันเป็นเหมือนกิจวัตรที่ชานยอลต้องทำ วันไหนที่ไม่ได้เจอก็หงุดหงิด เห็นแบคฮยอนไปทำงานที่คลับและยิ้มให้คนอื่นก็รู้สึกไม่พอใจแต่ไม่มีสิทธิ์ทำอะไร จนวันนี้ความต้องการแค่ร่างกายแบบนั้นมันหายไปแล้ว สิ่งที่ต้องการมากกว่าคือ อยู่กับแบคฮยอน และให้แบคฮยอนยอมรับตนเอง อยากมีสิทธิ์ในตัวแบคฮยอนมากกว่านี้
“นายทำให้ฉันเปลี่ยนไป ทำให้ฉันทำอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคยทำ ทั้งที่บางอย่างฉันก็ไม่เคยทำกับพ่อแม่ด้วยซ้ำ...นายทำให้ฉันขาดนายไม่ได้ แบคฮยอน...” ชานยอลก้มหน้าซุกกับอกแบคฮยอน
“ขึ้นจากสระเถอะ นายปากซีดแล้วนะ” แบคฮยอนบอกอีกคนเสียงอ่อน เมื่อสังเกตเห็นว่าปากชานยอลเริ่มซีดแล้วจริงๆ ก็พวกเขาเล่นอยู่ในน้ำนี่กี่นาทีแล้วก็ไม่รู้
“ไม่เอา....รับปากก่อนสิ จะเป็นแฟนกับฉันไหม” ชานยอลงอแงเหมือนเด็กและไม่ยอมปล่อยแบคฮยอน
“อย่างี่เง่าชานยอล ขึ้นจากน้ำก่อน นายจะไม่สบายนะ” แบคฮยอนพยายามเกลี้ยกล่อม
“ตอบฉันหน่อยสิ” เสียงอ้อนวอนของชานยอลกำลังทำให้แบคฮยอนปั่นป่วน ไม่เข้าใจเลยว่าชานยอลเป็นอะไรไป ถึงได้ทำตัวแปลกๆ รวมทั้งตัวเขาเองก็แปลกด้วยที่ยอมให้ชานยอลกอดและสัมผัสอยู่แบบนี้โดยที่ไม่คิดจะขัดขืนเลยซักนิด
“ฉัน.....ฉัน......” แบคฮยอนหลบหน้าอีกคนเพราะไม่รู้จะให้คำตอบแบบไหน เป็นแฟนกันก็ต้องรักกันจริงไหม? แต่นี่เขายังไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าชอบชานยอลจริงหรือเปล่า เขาชอบที่ชานยอลดูแลเขา ตามใจเขา แต่ก็ไม่ชอบที่ชานยอลชอบพูดว่าจะกดเขาให้ได้ ความสัมพันธ์ครึ่งๆ กลางๆ ที่แบคฮยอนไม่เข้าใจว่ามันคือความจริงใจหรือแค่แกล้งหลอกให้เขาตายใจ
ชานยอลกอดอีกคนให้แน่นกว่าเดิม คล้ายกับกำลังอ้อนวอน แบคฮยอนจึงหันมาสบตา ชานยอลพอดี สายตาที่ต้องการสื่อความจริงใจของชานยอลทำให้แบคฮยอนเหมือนหลุดเข้าในภวังค์ ใบหน้าของชานยอลเลื่อนเข้ามาใกล้หน้าเขาเรื่อยๆ ทั้งที่ในใจบอกให้หลบ แต่แบคฮยอนกับนิ่งเฉยและเผชิญหน้ากับชานยอลอยู่แบบนั้น จนริมฝีปากของชานยอลได้ครอบครองริมฝีปากของเขาได้สำเร็จ
ใจอยากจะดันออก แต่ร่างกายมันกับไม่ทำตาม อีกทั้งยังตอบรับสัมผัสที่ชานยอลมอบให้อีกต่างหาก ลิ้นหนาที่สอดแทรกเข้ามาในปากเล็กกำลังดูดดึงความหวานเหมือนที่หวังมานาน และสิ่งที่ทำให้ชานยอลจะบ้าตายขึ้นอีกคือ มือเรียวที่เกาะไหล่เขาแน่นเมื่อก่อนหน้านี้ กำลังเลื่อนมากอดคอเขาและขยุ้มผมตรงท้ายทอยแน่น เพื่อระบายความรู้สึก
“อะ...อื้อ...อื้ม...พอแล้ว...อ๊ะ” แบคฮยอนพยายามผละออกเพราะหายใจไม่ออก จูบชานยอลมันทำให้เขาแทบไม่มีเรี่ยวแรงอยู่แล้ว แต่ชานยอลผละออกเพียงครู่และจู่โจมเขาต่ออีกครั้ง
“ตายแน่แบคฮยอน...” เสียงหอบหายใจคล้ายกับเพิ่งวิ่งมาราธอน ชานยอลยอมผละออกทั้งๆ ที่อยากจะต่อ แต่กลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหว และมันจะมากไปกว่านี้ และถ้าเป็นแบบนั้น แบคฮยอนต้องคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันเพื่อเรื่องบนเตียงเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้ว มันไม่ใช่
“ถ้าฉันได้นอนกับนายจริงๆ ฉันคงมีความสุขตายแน่ๆ..” แบคฮยอนหน้าแดงทันทีที่ได้ฟัง และทุบไปที่ไหล่อีกคนแก้เขิน ชานยอลจึงกอดแบคฮยอนแน่น
“ฉัน....ฉันจะทำให้นายมั่นใจว่าฉันชอบนายจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องกามๆ” ชานยอลพูดอย่างหนักแน่น
“..>///////<...” แบคฮยอนพยายามซ่อนหน้าเพื่อไม่ให้ชานยอลได้ใจที่รู้ว่าเขาเขิน แต่หน้าอกของเขาที่มันเลื่อนมาที่แผงอกชานยอลทำให้ชานยอลได้รับสัมผัสอัตราการเต้นของหัวใจเขาอย่างจัง....แต่แบคฮยอนเองก็ได้รับสัมผัสอัตราการเต้นของหัวใจชานยอลเช่นกัน
....หัวใจหมอนี่...เต้นแรงไม่เราเลยแฮะ มันแรงจนแทบจะทะลักออกมาอยู่แล้ว....
“ได้ยินใช่ไหม?..”ชานยอลเอ่นอย่างนุ่มนวล
“......”
“หัวใจของฉัน...มันจะบ้าตายอยู่แล้วนายรู้ใช่ไหม”
“.....”
“มันไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครเลย นอกจากนาย....แบคฮยอน”
“คุณชานยอลคะ โทรศะ....อะ...เอ่อ ขอโทษค่ะ” เสียงเด็กรับใช้ในบ้านเดินเข้ามาเห็นชานยอลกับแบคฮยอนที่กำลังกอดกันอยู่ในสระน้ำ
“มีอะไร” แบคฮยอนรีบผละออกและขึ้นสระ ส่วนชานยอลก็สะบัดหัวอย่างหงุดหงิด และถามเด็กรับใช้ออกไป
“คุณผู้หญิงโทรมาค่ะ” เด็กรับใช้ยื่นโทรศัพท์ให้อีกคนดู
“บอกแม่ว่าเดี๋ยวฉันโทรกลับ”
“ค่ะ” เด็กรับใช้รับคำและเดินออกไปจากที่นั้น
แบคฮยอนปีนขึ้นมาขอบสระ และเตรียมเก็บข้าวของกลับ เพราะขลุกอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว จนตอนนี้ตะวันจะตกดินแล้ว
“ไปไหน ?” ชานยอลถาม
“กลับหอสิ ถามได้”
“จะไปสภาพนี้หรอก?” ชานยอลมองอีกคนที่ตอนนี้เปียกไปทั้งตัว กระดุมเสื้อสองเม็ดบนที่หลุดก็ยังไม่ใส่ เสื้อนักศึกษาสีขาวที่มันเปียกและแนบเนื้อจนเห็นทะลุเข้าไปข้างใน สายานเลยว่าถ้ายอมให้แบคฮยอนกลับชุดนี้ เขาจะฆ่าตัวตาย
ส่วนแบคฮยอนที่มองสภาพตัวเองก็คิดว่าเขาคงออกไปสภาพนี้ไม่ไหวเหมือนกัน
“ไปอาบน้ำก่อน” ชานยอลปีนตามขึ้นมาและลากแบคฮยอนขึ้นไปบนห้อง แบคฮยอนร้องเสียงหลงเมื่ออีกคนลากเข้าห้องนอน เมื่อกี๊เพิ่งจะเผลอใจอ่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะลากขึ้นเตียงได้เลยนะ...แต่แบคฮยอนก็อึ้งเมื่อชานยาอลหาเสื้อผ้าให้เขาใส่ และตัวเองก็ถือเสื้อผ้าอีกชุดเดินไปอาบห้องอื่นแทน
“จะไปไหน?”
“ไปอาบห้องแม่ หรือนายอยากจะอาบกับฉัน?”
“ต่อให้ฉันเป็นบ้าฉันก็จะไม่คิดแบบนั้น” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับเสื้อผ้าที่ชานยอลหาให้
ส่วนชานยอลก็ไปอาบห้องพ่อกับแม่แทน เสร็จแล้วก็มานั่งรอแบคฮยอนที่ห้องตัวเอง หลังจากโทรหาแม่เสร็จก็นอนกดโทรศัพท์เล่นรออีกคนบนเตียง จนได้ยินเสียงเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ
“นายอาบชะ.....ช้า....” ชานยอลเหลือบมองอีกคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำและหันหน้ากับไปมองเต็มๆ ตาอีกครั้ง เสื้อเชิ้ตสีชมพูตัวใหญ่ที่เขาไม่เคยคิดจะใส่เพราะไม่ชอบสี (ไอ้เฉินมันให้เป็นของขวัญวันเกิด....มันแกล้งชานยอลเพราะชานยอลเคยซื้อ กกน. สีแดงให้เป็นของขวัญวันเกิดมันเหมือนกัน)
กับกางเกงขาสั้นเลยเข่าขึ้นมานิดนึง ก็ไม่เห็นรู้สึกว่าตัวเองดูดีเวลาใส่เลยนะ แต่ทำไมพอชุดนี้มันไปอยู่ที่แบคฮยอนมันดูน่ารักน่าฟัดไปซะหมดจริงๆ
“กางเกงมันหลวม ขอเข็มขัดหน่อย” แบคฮยอนพูดพร้อมกับจับหัวกางเกงแน่น
“หลวมได้ไงเนี่ย ฉันนึกว่ามันจะคับซะอีก”
“ฉันไม่ได้อ้วนนะ !!”
“ก็ตอนที่ฉันกอดนายในสระ พุงนายทิ่มหน้าอกฉันเต็มๆ เลย ฮ่าๆๆๆๆ” ชานยอลแซวอีกคนและเดินไปหยิบเข็มขัดมาให้
“ไอ้บ้า ไม่ใช่ซักหน่อย !!” แบคฮยอนด่ากลับแก้อาย...ไม่ใช่พุงซักหน่อย แบคฮยอนยืนหันหลังให้ชานยอลและเปิดเสื้อเช็คว่าตัวเองพุงใหญ่จริงๆ หรือเปล่า ส่วนชานยอลก็กลั้นหัวเราะอีกคนจนแทบดิ้น
พอจับๆ ดู มันก็สัมผัสได้จริงๆ นั่นแหละ ก็จริงที่เขาไม่ได้หุ่มดีมีซิกแพ็คอะไรนั่น ยอมรับก็ได้ว่าอวบนิดนึง แต่พุงนี่มันก็ไม่ได้ใหญ่จนน่าเกลียดซักหน่อย
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” สุดท้ายชานยอลก็กลั้นหัวเราะไม่ไหว ทำให้แบคฮยอนหันขวับมาหา
“หัวเราอะไรไอ้โย่ง”
“หัวเราะคนอ้วน ฮ่าๆๆๆ” ชานยอลแกล้งแบคฮยอน แบคฮยอนจึงเดินเข้ามาจะตีอีกคน แต่ชานยอลก็หลบทันพร้อมกับดึงอีกคนเข้ามานั่งตักที่เตียง
“ฉันไม่ได้อ้วนนะ !! >.< ”
“โอเคๆๆ ไม่อ้วนๆๆ ...สงสัยนายท้อง....โอ๋ๆๆ ลูกพ่อ” ชานยอลเอามือและหัวซุกไปบริเวณท้องของอีกคนเหมือนกับว่าจะฟังเสียงเด็กดิ้น แบคฮยอนเลยดึงหูอีกคนแรงๆ เพราะหมั่นเขี้ยว
“ไอ้บ้า ฉันท้องได้ที่ไหนล่ะ เลิกเล่นเลยนะ” แบคฮยอนพยายามดิ้นหนีแต่ก็โดนชานยอลรั้งเอวไว้และซุกหน้าเข้ากับท้องอีกคน
“ครีมอาบน้ำกลิ่นนี้ฉันใช้ทุกวัน เพิ่งรู้ว่ามันหอมแบบนี้นี่เอง” ชานยอลพูดพร้อมกับสูดดมหายใจเข้าแรงๆ
“หยุดลวนลามซักที วันนี้นายเยอะไปแล้วนะ” แบคฮยอนพูดพร้อมกับดึงหูอีกคนอย่างที่ชอบทำ
“โอ๊ย..ดึงจนหูฉันกางหมดแล้วเนี่ย รับผิดชอบเลยนะ”
“นายหูกางตั้งนานแล้วเถอะ”
“มันกางขึ้นเพราะนายนั่นแหละดึงบ่อย”
“แล้วไง?”
“รับผิดชอบด้วยการเป็นแฟนฉันเลย...จะยอมให้ดึงเล่นทุกวัน”
แบคฮยอนแลบลิ้นล้อเลียนและไม่ตอบคำถาม พร้อมกับดันอีกคนให้ลุกขึ้น ส่วนชานยอลที่เห็นอีกคนไม่ตอบก็ไม่อยากคาดคั้น
“ไปกินข้าวกันเถอะ” ชานยอลดึงมืออีกคนให้ลุกตามแต่แบคฮยอนขัดขืน
“ไม่กิน นายกินเถอะ” เมื่อกี๊เพิ่งบอกว่าเขาอ้วน ยังชวนกินข้าวอีก
“ฮ่าๆๆๆ อย่าบอกนะว่าคิดมากที่ฉันแซวว่าอ้วน” ชานยอลหัวเราะอย่างรู้ทัน
“ไม่ใช่ !!! ฉันไม่อยากกินต่างหาก”
“กินเหอะน่า ไปกินเป็นเพื่อนฉันหน่อย นะ..” ชานยอลอ้อน
“ด่าว่าฉันอ้วน ยังชวนฉันกินอีกนะ”
“ไหนบอกไม่คิดไง ฮ่าๆๆ มาเถอะ ไปกินข้าวกัน”
“........” แบคฮยอนนิ่ง
“ไม่ไปจับปล้ำนะ”
“กล้าหรอ?”
“กล้าแต่ไม่ทำ จบป่ะ..ไปเถอะ เร็ว ฉันหิวแล้ว เดี่ยวได้กินนายแทนข้าวจริงๆ ซะนี่”
“.......”
“ต่อให้นายอ้วนเป็นหมูร้อยกิโล.....ฉันก็ชอบนะ....เพราะฉันชอบนายที่นายเป็นแบคฮยอน” ชานยอลคุกเข่าลงข้างเตียงหน้าแบคฮยอนและยิ้มจนเห็นฟังครบสามสิบสองซี่
“พูดมาก...ไปกินข้าวได้แล้ว >/////<” แบคฮยอนพูดพร้อมเดินนำหน้าลงมา ทำให้ชานยอลอมยิ้มเดินตามหลังมา
ผมบ้าอย่างสมบูรณ์แบบไปแล้ว บ้าเพราะรักไอ้ตัวแสบนั่นแหละ เกิดมายังไม่เคยพาใครเข้าบ้านเลยนะ ไม่เคยอดทนใครได้มากเท่ากับคนคนนี้เลย ส่วนไอ้ที่ชวนลงมากินข้าวน่ะ เพราะกลัวว่ากลิ่นหอมๆ จากแบคฮยอนจะทำให้ผมขาดสติและปล้ำเขาจริงๆ ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังได้เล่นหนังโป๊กันจริงๆล่ะ
หลังจากกินข้าวเสร็จแบคฮยอนก็บอกให้ชานยอลไปส่งหอ ที่จริงก็อยากจะรั้งไว้แหละ แต่ชานยอลก็ไม่มั่นใจตัวเองเหมือนกันว่าถ้าแบคฮยอนนอนที่บ้านเขาจริงๆ เขาจะอดใจไม่ทำอะไรได้จริงๆ หรอ
“นอนหลับฝันดี...ฝันถึงเค้าด้วยนะเมียจ๋า” ชานยอลพูดเมื่อเดินมาส่งอีกคนถึงหน้าห้อง
“ใครเมียนาย พูดดีๆ เดี่ยวโดน” แบคฮยอนดุ
“ก็ซ้อมไว้ไง เวลาใช้จริงนายจะได้ไม่เขิน”
“ไม่ต้อง”
“ฮ่าๆๆ...เวลาเมียงอน หน้าโครตอีโรติกเลยอ่ะ”
“กลับบ้านไปได้แล้ว” แบคฮยอนตอบปัดๆ
“ครับ ผมเป็นสามีที่ว่านอนสอนง่าย เมียบอกให้กลับก็กลับครับ ไปล่ะนะ” ชานยอลพูดแต่ก็ไม่ได้เดินออกไปตามที่พูด
“ก็ไปซักทีสิ”
“ก็เข้าห้องไปสิ ปิดประตูดีๆ ด้วย หน้าต่างล็อกให้หมด ถ้านายเผลอฉันจะปีนมาข่มขืนนาย” ชานยอลแกล้งหื่นใส่ แต่จริงๆ แล้วเป็นห่วงแบคฮยอนมากกว่า
“ฉันอยู่ชั้นห้า ปีนขึ้นมาได้ก็เชิญ”
“อย่าท้านะ ถ้าฉันปีนขึ้นมาได้ นายออนท๊อปป่ะล่ะ”
“รีบกลับไปเลยชานยอล” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเดินเข้าห้องและปิดประตู เมื่อได้ยินเสียงล็อกกลอน ชานยอลจึงเดินออกมา
แค่นี้ก็ยิ้ม แค่นี้ก็มีความสุข...ปกติมีหรือคนอย่างปาร์คชานยอลจะปล่อยให้เป้าหมายลอยหน้าลอยตาอยู่แบบนี้เป็นเดือนๆ หรืออาจจะเป็นเพราะแบคฮยอนไม่เหมือนคนอื่น เพราะได้มายาก ชานยอลจึงรู้สึกว่าแบคฮยอนมีค่ากว่าทุกคนที่เขาเคยยุ่งด้วย และรู้สึกว่าอยากถนอมแบคฮยอนไว้ ตั้งแต่ยุ่งกับแบคฮยอนชานยอลก็แทบไม่เที่ยวอีกเลย แต่ก็มีบ้างที่พวกเฮียคริสชวนไปปาร์ตี้ ก็ไปบ้างแต่ก็รีบไปรีบกลับ เพียงเพราะแบคฮยอนบอกว่าไม่อยากให้ขับรถตอนกลางคืน
เขากลายเป็นคนว่านอนสอนง่ายเพียงแค่แบคฮยอนบอก เขาก็พร้อมจะทำตาม ทีแรกก็แค่แกล้งยอมเพราะมีความคาดหวัง แต่พอนานๆ เข้ามันก็กลายเป็นความเคยชิน จนยอมแบคฮยอนไปแล้วจริงๆ ณ จุดๆ นี้ถามว่าอิจฉาแก๊งเพื่อนมั๊ย ที่ไม่ว่าเจอกันเมื่อไหร่ก็คุยแต่เรื่องเมียพวกมัน แต่ชานยอลกลับนั่งเงียบ ถ้าเป็นตอนนั้นคงอิจฉานะ แต่ตอนนี้บอกเลยว่าไม่ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้แบคฮยอนตามที่หวัง แต่เป็นแบบนี้ แค่เล็กๆ น้อย เพียงแค่มาจากแบคฮยอน ชานยอลก็มีความสุขเหมือนกัน
ชานยอล : ผมดำแล้วครับ ว่าที่เมียย้อมให้ หล่อใช่ป่ะ?
ความคิดเห็น