คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : Only mine : Four [End]
Only mine : Success
ไอ้บ้าหูกางทำให้ผมนอนไม่หลับ !!!
หลังจากที่ผมปิดประตูและไล่ชานยอลไป หัวใจของผมก็เต้นระเบิดราวกับจะหลุดออกมาให้ได้ เหตุการณ์วันนี้มันทำให้กำแพงที่ผมสร้างขึ้นมีรอยร้าวขนาดใหญ่ มันน่ากลัวจนผมกลัวว่ามันจะพังเสียให้ได้ ชานยอลกำลังทุบกำแพงนั้น หัวใจของผมกำลังจะถูกชานยอลรุกราน
เรื่องที่สระว่ายน้ำวันนี้ผมโกรธตัวเองที่เผลอจูบกับชานยอล ทั้งๆที่คิดไว้แล้วว่าจะไม่อ่อนไหวให้ชานยอลเด็ดขาด แต่ผมกลับทำแบบนั้นลงไปมันน่าโมโหชะมัด และสิ่งที่ทำให้ผมกำลังเป็นบ้าและฟุ้งซ่านอยู่ตอนนี้ก็เพราะประโยคขอเป็นแฟนของหมอนั่นที่วนเวียนอยู่ในหูผม ที่ผมเงียบไม่ตอบตอนที่อยู่บ้านชานยอล ชานยอลไม่ได้คาดคั้นอะไรจากผมแต่ผมสังเกตเห็นว่าสายตาเค้าหลุบต่ำลงเหมือนผิดหวังแต่เขาก็เลือกที่จะยิ้มให้ผมเหมือนเดิม
ผมกำลังคิดอะไรอยู่ ผมกำลังทำอะไรอยู่ ชานยอลเข้ามามีอิทธิพลต่อความคิดผมมากขนาดนี้เลยหรือ? หรือ...ผมเองก็ชอบชานยอลเข้าแล้วเหมือนกัน ?
เช้าวันนี้ชานยอลไม่ได้มารับเหมือนทุกวัน และไม่ได้เข้าไปนั่งเรียนวิชาเลือกกับแบคฮยอน นั่นสร้างความแปลกใจให้แบคฮยอนอย่างมาก ปกติไปไหนมาไหนก็บอกตลอด แต่นี่หายไปเงียบๆ แบบนี้มันจะเกิดเรื่องอะไรกับชานยอลหรือเปล่านะ?
“ได้ข่าวว่ากำลังอ่อยเดือนศิลปกรรมอยู่หรอ?” เสียงที่คุ้นหูแว่วเข้ามาหาแบคฮยอนอีกครั้ง...นีน่า...เมื่อไหร่ผู้หญิงคนนี้จะเลิกตอแยเขาสักที...
“ว่างมากก็พาหมาในปากไปเดินเล่นไป” แบคฮยอนไม่อยากต่อล้อต่อเถียงและเดินหนีอีกครั้ง แต่ก็โดนนีน่ากระชากแขนไว้และกำแน่นจนเล็บยาวจิกเข้าไปในเนื้อจนเลือดซิบ
“อย่ามาอวดดี พวกแรดๆ ยังไงมันก็แรดวันยันค่ำแหละ อย่ามาทำเป็นผู้ดี ฉันรู้ว่าสันดานแกมันเป็นยังไง” นีน่าพูดและจงใจจิกเล็บเข้าไปลึกอีก แต่แบคฮยอนก็ตีสีหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไร
“เลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม จะแรดจะร่านก็ปล่อยฉันไปสิ มันเดือดร้อนเธอมากหรอ ที่ฉันไม่พูด ไม่โต้ตอบ เพราะยังไงเธอก็ผู้หญิงฉันไม่อยากมีเรื่องด้วยให้คนอื่นเขาตราหน้าว่าหน้าตัวเมีย อย่าให้ฉันหมดความอดทนกับเธอ” แบคฮยอนสะบัดออกอย่างแรง และเดินข้ามถนนหนีไป ส่วนนีน่าก็ไม่ยอมลดละเดินตามมาหาเรื่องติดๆ แต่ทว่ากลับมีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงและพุ่งตรงมาที่นีน่าอย่างจัง
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!! / เอี๊ยดดดดดดดดดดดด
นีน่าหลับตาแน่นและคิดว่าตัวเองคงโดนชนไปแล้ว แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองมีเพียงแผลถลอกที่หัวเข่าและแขนและข้างๆร่างเธอ มีร่างของผู้ชายคนนึงที่กำลังปัดเสื้อผ้าและลุกขึ้นยืน บริเวณแขนของเขามีเลือดไหลซิบๆ อยู่เช่นกัน
“กะ....แก...” นีน่าพูดไม่ออกเมื่อรู้ว่าคนที่ช่วยเชาเป็นใคร
“พ่อแม่ไม่สอนเรื่องจราจรบนท้องถนนหรือไง เดี๋ยวก็โดนรถชนตายกันพอดี” เสียงเหวี่ยงๆ ดุนีน่า
“.................”
“ลุกได้ไหมล่ะ?” คำถามที่เหมือนว่าเป็นห่วงแต่ยังคงน้ำเสียงเหวี่ยงเหมือนเดิม
“แกช่วยฉันทำไม” นีน่าถามเสียงแผ่ว
“ก็ไม่ได้อยากช่วยหรอกนะ แต่ไม่อยากเห็นสมองเละๆ หรือเครื่องในตับไตไส้พุงของเธอมันกองอยู่บนถนน อุจาดตา..” แบคฮยอนตอบเชิ่ดๆ
“ฉันไม่ขอบใจแกหรอกนะ เพราะฉันเกลียดแก” นีน่าพูดแต่ไม่ได้มองหน้า
“ฉันก็ไม่ได้ขอหนิ และถ้าขืนเธอพูดว่าขอบใจฉัน ฉันจะจับเธอโยนลงน้ำให้หายเสียสติเอง ไม่ต้องห่วง”
แบคฮยอนพูดพร้อมกับเดินไป นีน่าสังเกตเห็นว่าท่าเดินของแบคฮยอนแปลกไป เขาเดินกระเผลกเพราะข้อเท้าอาจจะเจ็บอยู่ ส่วนเธอก็ค่อยๆ ลุกขึ้นโดยมีคนที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วย
“เธอโชคดีนะที่ได้ผู้ชายคนนั้นช่วยไว้ ไม่งั้นรถคันนั้นชนเธอเต็มๆ เลยล่ะ” ชายคนหนึ่งที่เข้ามาพยุงเอ่ยขึ้น
“ใช่ๆ ฉันใจหายมากเลยที่ได้ยินเสียงเบรก ผู้ชายคนนั้นเป็นดีจริงๆ เลยนะ” เสียงสมทบของอีกคนดังขึ้น
“....ใช่....หมอนั่น.....เป็นคนดีจริงๆ” นีน่าพูดเสียงแผ่ว ในใจตอนนี้มันแทบไม่เหลืออคติต่อแบคฮยอนอีกเลย เมื่อเขาผ่านช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเกือบตาย แต่กลับโดนคนที่เกลียดเข้ามาช่วยเหลือ มันทำให้นีน่ามีความรู้สึกแปลกไปต่อแบคฮยอน
“ว่าแต่เขาเป็นเพื่อนเธอหรอ ดูเขาเจ็บด้วยนะ” เสียงชายคนนั้นพูดอีกครั้ง
“เพื่อนหรอ? คงงั้นมั้ง?....หมอนั่นชื่อแบคฮยอน เดือนคณะนิเทศน์” นีน่าพูด เพราะเธอรู้ว่าเรื่องนี้ต้องเป็นที่กล่าวถึงแน่ เพราะเธอเป็นดาวของนิเทศและแบคฮยอนก็เป็นเดือนของคณะ เพียงแต่แบคฮยอนไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในนามของเดือน เพราะข่าวร้ายๆ ที่เธอสร้างขึ้นมันกลบจนหมด
“หมอนั่น หน้าตาดี และนิสัยก็ดีอีกด้วยนะ” นีน่าพูดยิ้มๆ เธอรู้สึกอยากจะไถ่โทษที่ที่ผ่านมาเธอสร้างแต่ข่าวเสียๆ หายๆ ให้แบคฮยอนตลอด ส่วนคำพูดของนีน่าก็ถูกส่งผ่านปากต่อปากไปอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่แบคฮยอนไม่ได้อยู่ฟัง เพราะเขากลับหอเรียบร้อยแล้ว
เบอร์โทรศัพท์แปลกโทรเข้ามาหาขณะที่แบคฮยอนกำลังปฐมพยาบาลตัวเองอยู่หอ บาดแผลเขาไม่ได้มีมากนัก แบคฮยอนจึงไม่อยากไปโรงพยาบาล เขาไม่ค่อยชอบกลิ่นโรงพยาบาลซักเท่าไหร่
“ฮัลโหลครับ?”
“คุณแบคฮยอนใช่มั๊ยคะ?”
“ครับ?”
“คือป้าเป็นแม่บ้านที่บ้านคุณชานยอลนะคะ ตอนนี้คุณชานยอลป่วย เขาละเมอเป็นชื่อคุณไม่หยุดเลยค่ะ คุณแบคฮยนสะดวกที่จะมาเยี่ยมคุณหนูของป้าไหมคะ” เสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล ทำให้แบคฮยอนรู้สึกเป็นห่วงอีกคน แสดงว่าที่วันนี้ไม่มาป้วนเปี้ยนเพราะว่าป่วยสินะ ก็แหงสิ เมื่อวานปากซีดขนาดนั้น ไล่ให้ขึ้นจากน้ำก็ไม่ขึ้น ป่วยจนได้ ..
“ครับ เดี๋ยวผมไปครับ” แบคฮยอนรับปาก อย่างน้อยเขาก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ชานยอลป่วยล่ะมั้ง
“เดี๋ยวป้าให้คนไปรับนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปเอง ขอบคุณครับ” แบคฮยอนกดวางสายและเก็บกล่องยา พร้อมกับเดินทางไปหาชานยอลที่บ้านทันที
เมื่อแบคฮยอนมาถึงป้ายุนอีก็พาแบคฮยอนมาหาชานยอลที่ห้องนอน ร่างสูงที่ยังอยู่ในชุดนอน หน้าซีด นอนหลับตาแน่น
“คุณหนูแกพูดแต่ชื่อแบคฮยอนไม่ยอมหยุดเลยค่ะ ป้าเลยค้นเบอร์คุณแบคฮยอนจากมือถือคุณชานยอลเพื่อโทรเรียกนี่แหละค่ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ” ป้าพูดพร้อมกับเดินไป ปล่อยให้ชานยอลได้อยู่กับแบคฮยอนตามลำพัง
“แบคฮยอน.....นั่นนายจริงๆ ใช่มั๊ย?” เสียงแผ่วของชานยอลเรียกเมื่อป้าเดินออกไป และพยายามปรือตาขึ้นมองอีกคน
“ป่าว นายกำลังฝัน?”
“งั้นหรอ ถ้าฉันปล้ำนายในฝัน นายคงไม่โกรธฉันใช่ไหม”
“หื่นไม่รู้เวล่ำเวลาเลยนะนายเนี่ย ลุกให้ขึ้นก่อนดีไหม?” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูฝืนเล็กจุ่มน้ำที่ป้ายุนอีเตรียมมาให้เพื่อเช็ดตัวอีกคน
“ขอโทษนะ” เสียงแผ่วพูดพร้อมกับจ้องอีกคน
“เรื่อง?”
“ฉันไม่ได้ไปรับนาย ไม่ได้ไปกินข้าวกับนาย ไม่ได้ไปนั่งเรียนกับนายด้วย” แบคฮยอนสะดุดในคำพูดของชานยอล ถึงแม้ว่าเขาจะป่วยอยู่ แต่ชานยอลก็ยังคิดถึงเขาอยู่ตลอด
“หยุดพูดได้แล้ว นายพักผ่อนเถอะ” แบคฮยอนพูดพร้อมกับเลื่อนผ้าไปเช็ดที่แก้มอีกคน และโดนชานยอลคว้ามือไว้
“ไม่เอา ไม่อยากนอน เดี่ยวตื่นมาไม่เจอนาย” ชานยอลจับมือแบคฮยอนมาแนบแก้มตนเอง
“อย่างอแง นายนี่เวลาป่วยชอบอ้อนหรือไงห๊ะ?”
“ฉันอยากทำกับนายเท่านั้นแหละ” แบคฮยอนรู้ว่าชานยอลไม่ได้พูดโกหกหรือเสแสร้งใส่เขา เพราะไม่งั้นคงไม่ลำบากป้ายุนอีโทรไปตามเขาหรอก ชานยอลคงเป็นเอามากจริงๆ
“กินยาหรือยัง?” แบคฮยอนพูดเปลี่ยนเรื่อง เพราะสายตาชานยอลและแก้มร้อนๆ ของชานยอลกำลังทำให้หน้าเขาร้อนไปด้วยเพราะเขิน...จ้องกันขนาดนี้ก็เข้าสิงฉันเลยเถอะ
“นายชอบเปลี่ยนเรื่องทุกครั้งที่ฉันอยากจะมีโมเมนต์ที่หวานๆ กับนาย...” สายตาชานยอลตัดพ้ออย่างน้อยใจ
“.........”
“มันน่ารำคาญมากเลยหรอ?”
สายตาชานยอลหลุบต่ำ พร้อมกับคลายมือแบคฮยอนออก แสดงออกถึงความน้อยใจ ปกติชานยอลก็ไม่อยากแสดงอารมณ์แบบนี้ออกมาให้อีกคนลำบากใจหรอก แต่อาจจะเป็นเพราะร่างกายอ่อนแอเลยพาลเอาหัวใจอ่อนแอไปด้วย ...แบคฮยอนรู้สึกไม่ดีไปด้วยเพราะจริงๆ แล้วเขาไม่ได้รำคาญชานยอลเลยซักนิด
“ฉันเขินต่างหากล่ะ...ไอ้โย่ง” แบคฮยอนพูดพร้อมกับดึงหูอีกคน ส่วนชานยอลที่ได้ฟังก็ยิ้มออกทันที
“^+++++++++++^”
“อารมณ์เปลี่ยนเร็วไปนะ” แบคฮยอนหมั่นไส้ที่เมื่อกี๊เพิ่งทำเหมือนงอนเขาแต่ตอนนี้กลับยิ้มโชว์ฟันซะหมดปาก
“แล้วเมื่อไหร่นายจะตอบคำถามฉันซักทีล่ะ”
“คำถามอะไร?” แบคฮยอนทำเป็นไม่รู้เรื่องแต่จริงๆ แล้วเขารู้ดีว่าเรื่องอะไร เพียงแต่อยากให้ชานยอลพูดซ้ำอีกครั้ง
“เมื่อไหร่จะยอมเล่นหนังโป๊กับฉันไง โอ๊ย !!” ยังไม่ทันไรแบคฮยอนก็ฟาดไปที่หน้าท้องชานยอลแรงๆ ข้อหาพูดจาเข้าเรื่องลามกอีกแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นน่า....เป็นแฟนกับฉัน...ได้ไหม?” ชานยอลพูดยิ้มๆ
“ก็ได้” แบคฮยอนรับคำเชิ่ดๆ แต่ก็แอบยิ้มไม่ให้ชานยอลเห็น ส่วนชานยอลที่ได้ยินก็คว้าต้วอีกคนเข้าไปกอดแน่นทันที
“อ๊ะ....” แต่เป็นเพราะกอดแน่นไปหน่อย มันเลยไปกระทบแผลที่แบคฮยอนได้มา
“เป็นไรอ่ะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก อุบัติเหตุนิดหน่อย”
“ไหนดูซิ....นี่ฉันไม่ได้ดูแลนายวันเดียวก็มีอุบัติเหตุเลยหรอ....” ชานยอลพูดพร้อมกับจะถกเสื้อดูแผลอีกคน
“ไม่มีอะไรหรอกน่า” แบคฮยอนพยายามขัดขืน
“อย่าดื้อสิ นายเป็นแฟนฉันแล้วนะ ฉันคงบ้ามากถ้าแฟนฉันกำลังเจ็บแล้วฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลย” สายตาจริงจังของชานยอลทำให้แบคฮยอนต้องยอมเปิดแผลให้อีกคนดู แต่ว่าเพราะเขาใส่เชิ้ตสีขาวแขนยาวมา แผลมันก็อยู่ที่ต้นแขนซะด้วย แบคฮยอนจึงนั่งหันหลังให้อีกคนและถอดเสื้อออกให้เห็นต้นแขนที่เต็มไปด้วยรอยเล็บจิกจนเป็นแผล และอีกข้างก็เป็นรอยถลอกหน่อยๆ ตอนโดนรถเฉี่ยวที่หน้าคณะ
“จะยั่วฉันหรอ ฉันของขึ้นง่ายนะ”
“ก็เพราะนายเป็นแบบนี้แหละ ฉันเลยไม่อยากให้ดู” แบคฮยอนดุพร้อมกับถกเสื้อขึ้นตามเดิม มันก็ไม่ได้น่าอายมากหรอก เพราะข้างในแบคฮยอนมีเสื้อกล้ามสีขาวซับในอยู่
“ฉันล้อเล่น เจ็บมากไหม?” ชานยอลจับเสื้ออีกคนไว้ และเอื้อมมือไปแตะที่รอบแผลเบาๆ
“..ไม่...เป็นไร ..>////////<….อ๊ะ ทะ ทำอะไร” แบคฮยอนสะดุ้งโหยงเมื่อปากร้อนๆ กำลังไล้จูบไปที่รอยแดงต้นแขนเขาอย่างอ่อนโยน
“น่าโมโหชะมัด” ชานยอลพึมพำกับตัวเอง เมื่อเห็นรอยแดงๆนี่บนร่างกายของแบคฮยอน แทบอยากจะฆ่าคนที่มันทำซะจริง
“นะ..นี่...ออกไปได้แล้ว” แบคฮยอนห้ามเมื่อปากร้อนนั่นกำลังไล้ขึ้นมาที่ซอกคอของเขา มันกำลังทำให้แบคฮยอนเคลิ้มจนร่างกายมันระทวยไปหมดแล้ว
“อีกนิดนึง...นะ” ชานยอลอ้อนและสุดท้ายก็เลื่อนขึ้นมาที่แก้มใสและต่อด้วยริมฝีปาก ส่วนตอนนี้ก็ไม่มีเหตุผลที่แบคฮยอนจะขัดขืนแล้ว เพราะชานยอลได้ทำลายกำแพงที่เขาสร้างไว้ มันพังทลายหมดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าต่อไปนี้จะรับมือกับความหื่นของชานยอลยังไง แต่ที่ผ่านมาแบคฮยอนรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองชอบสัมผัสของชานยอลมากขนาดไหน ที่พยายามไม่หวั่นไหว เพราะกลัวว่าจะพาลเสียตัวให้ชานยอลเข้าจริงๆ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เขาก็คงไม่ต่างจากพวกขายตัวเหมือนที่นีน่าพูด
สองร่างที่กำลังบดจูบกันอย่างนุ่มนวลบนเตียงขนาดใหญ่ คำว่านิดนึงของชานยอลมันทำเอาซะแบคฮยอนหมดแรงเพียงแค่จูบ ร่างแบคฮยอนก็อ่อนระทวยไปแล้ว สัมผัสจากชานยอล อันตรายมากจริงๆ
“บ้าชิบ !!!” ชานยอลสบถออกมา พร้อมกับผละออก นี่เป็นอีกครั้งที่เขาหัวเสีย
“อะ...อะไร” แบคฮยอนงง หรือว่าเมื่อกี๊เขาทำอะไรผิดไปหรือ
“มากกว่านี้ไม่ได้....เดี๋ยวนายติดหวัด” ชานยอลพูดพร้อมกับหน้าแดง ทั้งที่ๆ ร่างกายตอนนี้เขาพร้อมแล้วแต่เพราะกลัวว่าตัวเองจะพาแบคฮยอนป่วยไปด้วย เลยจำใจต้องหยุดไว้
“อะ...อืม” แบคฮยอนก้มหน้าเขิน ที่จริงแบคฮยอนก็ไม่ได้ตั้งใจจะขัดขืนหรอก แต่หยุดไว้แค่นี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเขากำลังจะหัวใจวายอยู่แล้ว
“ซัมเมอร์ไปทะเลกันนะ” ชานยอลเอ่ยทำลายความเงียบ
“ที่ไหน?”
“ประเทศไทย....ภูเก็ต...ไปนะ” ชานยอลอ้อนอีกคน
แบคฮยอนทำสีหน้าลำบากใจ เพราะรู้ตัวดีว่าไปภูเก็ตกับชานยอลสองคน เขาไม่รอดแน่ ....แต่เขากับชานยอลก็เป็นแฟนกันแล้วหนิ มันคงไม่น่าเกลียดอะไรหรอกมั้ง อีกอย่างถ้าเกิดว่าเขาลำบากใจ แบคฮยอนก็มั่นใจว่าชานยอลจะไม่ทำ
“ก็ได้” แบคฮยอนรับปากยิ้มๆ
“แบคฮยอน...”
“ ? ”
“เราเป็นแฟนกันแล้วจริงๆ ใช่ป่ะ?”
“ฝันมั้ง?”
“ต่อไปนี้ฉันมีสิทธิ์หวงเวลานายยิ้มให้คนอื่น มีสิทธิ์ดูแลนายได้เต็มที่ ฉันมีสิทธิ์....เล่นหนังโป๊กับนายใช่ป่ะ”
“มันจะโรแมนติกกว่านี้ถ้าไม่มีอันสุดท้าย -_-”
“นั่นจุดพีคเลยล่ะ...ฉันจะบอกให้นายเตรียมตัวก็ได้นะ...” ชานยอลรั้งอีกคนเข้ามากอด
“ฉัน-เซ็กส์-จัด” ชานยอลแกล้งพูดกระซิบให้อีกคนขนลุก
“ฉันเลิกกับนายตอนนี้ทันไหม?”
“ไม่ทันแล้ว นายไม่มีสิทธิ์เลิกกับฉันตั้งแต่ที่นายตกลงคบกับฉันละ” ชานยอลพูดยิ้มๆ ตอนนี้คนป่วยอย่างเขามีความสุขสุดๆ ไปเลย
“นายก็ไม่มีสิทธิ์เลิกกับฉันตั้งแต่นายขอฉันเป็นแฟนแล้วเหมือนกัน” แบคฮยอนตลอบกลับอย่างยิ้มๆ ตอนนี้แบคฮยอนแสดงความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อชานยอลจริงๆ
“อย่าทำตัวน่ารักดิ เดี๋ยวทนไม่ไหวจับปล้ำทั้งที่ป่วยแบบนี้แหละ” ชานยอลหมั่วเขี้ยวจึงกดจมูกลงบนแก้มอีกคนแรงๆ
“รีบหายดิ ฉันรอให้นายปล้ำอยู่เนี่ย” แบคฮยอนแกล้งอีกคนเพราะรู้ว่าชานยอลคงจะไม่ทำอะไรตัวเองทั้งๆที่ยังป่วยแบบนี้แน่
“ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะ” ชานยอลมองอีกคนด้วยสายตาขุ่น ...พอรู้ว่าเขาทำไม่ได้ไอ้ตัวแสบนี่ก็แกล้งเขาใหญ่เลย
“ที่รัก...ฉันรอนายอยู่นะ..” แบคฮยอนแกล้งไล้มือไปตาคอเสื้ออีกคน พร้อมกับกระซิบด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่ ส่วนชานยอลก็ได้แต่หลับตานั่งแข็งทื่อ นึกโกรธตัวเองที่ป่วยวันนี้และโกรธที่แบคฮยอนมายอมเขาวันนี้ซะด้วย
...แล้วก็นะ ถ้าไอ้ตัวแสบไม่หยุดแกล้งผม เดี๋ยวได้ซั่มกันจนได้แหละ คอยดูดิ...มันน่ากดให้ตายคาเตียงจริงๆ
“ฉันหายเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้นายลืมไปเลยว่าดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์มันเป็นยังไง” ชานยอลพูดพร้อมทำสายตาแพรวพราว
“ไอ้บ้า” แบคอยอนกระเด้งตัวออกจากตักชานยอลทันที กลัวว่าอีกคนจะทำจริงๆ น่ะสิ ...
“อ้าว ไม่ยั่วแล้วหรอ...น่าจะต่อซักหน่อยนะ กำลังเคลิ้มเลย” ชานยอลพูดพร้อมกับหัวเราะร่า
“ดูท่าทางนายดีขึ้นแล้วหนิ ฉันกลับล่ะ” แบคฮยอนกำลังจะลงจากเตียงแต่โดนชานยอลห้ามไว้
“ได้ไงล่ะ ฉันยังไม่หายซักหน่อย..แค่กๆๆ...” ชานยอลแกล้งไอจนน่าหมั่นไส้สำหรับแบคฮยอนเค้ารู้ว่าชานยอลแกล้งทำ
“อย่ามาเสแสร้ง”
“ใจร้ายว่ะ แฟนป่วยทั้งคน ไม่คิดจะดูแลเลยใช่มั๊ย?”
ก็รู้อยู่หรอกว่าเสแสร้งแต่ก็ยอมโง่เชื่อเค้าหน่อยล่ะกันอุตส่าแกล้งไอซะขนาดนั้น แถมออเซาะเก่งเป็นเริศ....เหอะ แฟนใครก็ไม่รู้
วันนั้นทั้งวันแบคฮยอนก็ขลุกอยู่ที่บ้านชานยอล ก็โดนลวนลามเยอะเหมือนกัน เอะอะจับ จูบลูบคลำตลอด แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ เพราะชานยอลไม่กล้าทำอะไรมากเกินกว่านั้น กลัวว่าแบคฮยอนจะป่วยไปด้วย...แต่สุดท้ายหลังจากนั้นสองวัน แบคฮยอนก็ติดหวัดจนได้ เป็นคราวของชานยอลที่ต้องมานอนเฝ้าไอ้ตัวแสบที่ห้อง โชคดีที่เป็นช่วงสอบ แบคฮยอนไม่มีสอบ ส่วนชานยอลมีสอบอาทิตย์หน้า
“ชานยอล ฉันอยากออกไปข้างนอกแล้วอ่ะ เบื่อ” แบคอยอนลุกจากเตียงเดินมาหาอีกคนที่นั่งดูบอลอยู่โซฟา
“นายยังตัวร้อนอยู่นะ หายดีแล้วค่อยไป” ชานยอลเอื้อมมือมาจับที่หน้าผากอีกคนเห็นว่าตัวยังรุมๆ อยู่เลยไม่อยากให้ออกไปไหน
“ฉันนอนมาทั้งวันแล้วอ่ะ....” แบคฮยอนเอาหัวทุยๆมาซบไหล่อีกคนอ้อนๆ
“งั้นมานี่มา” ชานยอลเอี้ยวตัวไปยกอีกคนไหม้มานั่งตักและพิงหัวกับหน้าอกของตัวเอง
“วันนี้อยากทำอะไร” ชานยอลถามอย่างเอาใจ
“อยากออกไปข้างนอก”
“แต่ฝนกำลังจะตกนะ....หายดีแล้วค่อยไป ฉันจะพานายไปทุกที่เลย” ชานยอลพูดเหมือนกำลังล่อเด็กน้อยที่กำลังงอแง
“อืม” แบคฮยอนรับคำสั้นๆ และทิ้งน้ำหนักพิงไปด้านหลังที่มีแผลออกของชานยอลรองรับอยู่
“ไปสูดอากาศที่ระเบียงหน่อยไหม?” แบคฮยอนพยักหน้าชานยอลจึงอุ้มอีกคนไปที่เก้าอี้แปลที่ระเบียงโดยไม่ลืมหยิบผ้าห่มออกมาด้วย
อากาศเหมือนฝนกำลังจะตกและดวงอาทิตย์กำลังจะลับของฟ้า ชานยอลพาแบคฮยอนออกมานอนเล่นข้างนอกเพราะแบคฮยอนบอกว่าเบื่อที่จะนอนในห้อง แต่แปลมันมีแค่อันเดียวนี่สิ ชานยอลเลยต้องลงไปนอนก่อนและให้แบคฮยอนนอนทับบนตัวเขาอีกที...
“อีกคนป่วย อีกคนหาย อีกคนหายอีกคนป่วย สลับกันไปแบบนี้เมื่อไหร่เราจะได้เล่นหนังโป๊กันซักทีล่ะ” ชานยอลหยอกอีกคนที่นอนหลับตาพริ้มคล้ายกำลังเคลิ้ม
“ก็ซัมเมอร์นี้นายวางแผนไว้แล้วไม่หรือไง” แบคฮยอนตอบกลับมาทำเอาชานยอลยิ้ม ที่จริงก็ไม่ได้มีแผนจะอะไรหรอก แค่อยากไปเที่ยวกับแบคฮยอนอย่างมีช่วงเวลาที่โรแมนติกเหมือนคู่รักคู่อื่นๆ บ้าง ส่วนเรื่องบนเตียง ถ้าได้ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ไม่ได้ก็ช่างสิ ยังไงแบคฮยอนก็หนีเขาไม่พ้นอยู่แล้ว
“งั้นก็รีบๆ หายนะ จะเตรียมตัวออนท๊อปให้ฉันด้วย” ชานยอลแซว
“สมองนายมันก็มีแต่เรื่องแบบนี้น่ะสิ” ถึงแม้ตาจะปิดแต่ปากเรียวเล็กก็ยังบ่นให้อีกคน
“น่าภูมิใจออก ที่ฉันตายด้านกับคนอื่นแล้วมาหื่นกับนายอ่ะ”
“ไอ้บ้ากาม” แบคฮยอนด่าเสียงแผ่ว
“นอนเถอะ เดี๋ยวถ้านายหลับฉันจะโยนนายลงทางระเบียงเอง ฮ่าๆๆ โอ๊ย” แบคฮยอนเอื้อมมือมาดึงหูชานยอล
“อยากได้แฟนใหม่ใช่ไหม” แบคฮยอนดุ
“ฮ่าๆๆ ไม่เอาอ่ะ ดุๆ แบบนี้หายาก...จีบนานด้วยกว่าจะได้ ทิ้งไม่ลงว่ะ” ชานยอลพูดพร้อมกับจูบไปที่เรือนผมอีกคน
ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้ง แต่ใบหน้าทั้งสองเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ขอบคุณบรรยากาศที่ทำให้ชานยอลกับแบคฮยอนได้มีโมเม้นต์โรแมนติกกับชาวบ้านเขาบ้าง ปกติก็กัดกันตลอด ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย แต่หัวใจของทั้งคู่ก็แข็งแรงและอบอุ่นเต็มไปด้วยความรัก ก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะหวานซึ้งแบบนี้ไปนานแค่ไหน มีเพียงสิ่งเดียวที่ชานยอลมั่นใจคือแบคฮยอนคือคนที่เขาจะหยุดด้วยจริงๆ และไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร เพียงแค่เขามั่นใจในตัวแบคฮยอนและแบคฮยอนมั่นใจในตัวเขา พวกเขาก็จะก้าวข้ามอุปสรรคนั้นไปได้
“แบค....แบค....ไอ้แบค !!!” ลูน่าตะโกนเสียงดังเมื่อเรียกเท่าไหร่เพื่อนรักก็ไม่ยอมหันมา มันแต่นั่งเหม่ออะไรก็ไม่รู้
“ตะโกนทำไมวะ หูจะแตก”
“ฉันเรียกแกเป็นชาติละ...เป็นไรวะ ดูเหม่อๆ”
“ช่วงนี้นีน่าแปลกไปว่ะ ยัยนั่นไม่หาเรื่องฉันเหมือนแต่ก่อน แล้วก็เวลาไปไหนมาไหน ทุกคนชอบมองฉันแปลกๆ”
“แกยังไม่รู้หรอกว่าเขารือกันทั่วมหาลัยว่าเดือนนิเทศช่วยดาวนิเทศจากอุบัติเหตุ เห็นเขาว่ากันว่าดาวเป็นคนพูดเองเลยนะว่าเดือนเป็นคนดีมากๆ” ดีโอพูดเสริม
“ยัยนีน่าเนี่ยนะ ชมฉัน...สติยังดีอยู่ป่าววะ” แบคฮยอนไม่อยากจะเชื่อ
“มันก็ดีแล้วแหละน่า ฉันว่าแกน่ะคิดเรื่องที่แกจะไปทะเลในไม่กี่วันนี้ดีกว่าไหม ฉันว่างานนี้ได้มีปรากฏการณ์เดือนกินเดือนแหงๆ” ลู่น่าพูดยิ้มๆ
“หยุดพูดเลยนะ” แบคฮยอนแกล้งดุแก้เขิน
“อิจฉาแกว่ะ มีคนหล่อมาตามดูแล เอาใจสุดๆ จะเขี่ยทิ้งเมื่อไหร่แกบอกฉันนะ เดี๋ยวฉันจะจีบ” ลูน่าแซว
“ไม่ต้องมาแซวแกก็มีไอ้นักดนตรีคนนั้นแล้วหนิ” แบคฮยอนแซวคืนทำให้ลูน่าเงียบเขิน
หลังจากที่ทุกอย่างเริ่มดีขึ้น แบคฮยอนเริ่มถูกมองมากขึ้น เพราะเรื่องดีๆ ของแบคฮยอนทำให้ทุกคนให้ความสนใจและลืมเรื่องไม่ดีหรือข่าวมั่วๆพวกนั้นไปจนหมด เพราะแบคฮยอนทำให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ อาจจะเป็นเพราะท่าทางเชิ่ดๆ เลยทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดว่าแบคฮยอนหยิ่ง แต่จริงๆแล้วแบคฮยอนอัธยาศัยดีมาก และเมื่อได้คุยด้วยแล้วยิ่งหลงรักผู้ชายคนนี้เข้าไปใหญ่
แต่มันคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับชานยอลซักเท่าไหร่ เพราะต้องคอยตั้งท่าขู่ทุกคนที่เข้าใกล้แบคฮยอน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนลองดีเข้ามาจีบแบคฮยอนทั้งๆที่รู้ว่ามีหมาทั้งท่ากัดอยู่แล้ว แต่ก็ยังดีที่แบคฮยอนเองไม่เล่นด้วยและปฏิเสธทุกคนที่เข้ามาจีบ ต่อให้หล่อ ให้รวยกว่าชานยอลเขาก็ไม่เอาหรอก และทุกคนที่แบคฮยอนปฏิเสธไปก็ด้วยประโยคที่ว่า
“ขอโทษนะครับ แต่ผมมีแฟนแล้วครับ”
ความคิดเห็น