ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Love Style...รักแบบไหนที่ใช่คุณ (END)

    ลำดับตอนที่ #16 : It's you? : two

    • อัปเดตล่าสุด 20 เม.ย. 57



    It's you? : two

     

     

    “มินซอก เลย์อยู่ไหน !!!!” น้ำเสียงเข้มปนโมโหรุกเข้ามาหาคนตัวเล็กและถามถึงอีกคนอย่างกระวนกระวาย

     

     “วันนี้เลย์ยังไม่มาที่คลับ และคิดว่าคงไม่มา” น้ำเสียงเรียบเฉยและไม่สะทกสะท้านของมินซอกยิ่งทำให้คนใจร้อนหงุดหงิด

     

    “เอาที่อยู่เลย์มา”

     

    “เกรงว่าจะไม่ได้นะคริส..... ถ้านายคิดจะเล่นๆ กับเพื่อนฉัน อาทิตย์เดียวก็เกินพอแล้วนะ”

     

    “ไม่พอ !!!!” คริสตอบทันควัน

     

    “สงสัยเลย์คงเบื่อนายไปแล้วมั้ง เลยทิ้งนายไปแบบนี้...ปล่อยให้เพื่อนฉันไปเจอคนที่ดีกว่านายเถอะคริส ฉันรู้ว่านายต้องการแค่ร่างกายเพื่อนฉัน...ในเมื่อนายได้มันไปแล้ว ก็ปล่อยเพื่อนฉันไปซักที”      มินซอกพูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกไปทำงาน

     

     

              ทิ้งให้คริสยืนนิ่งคิดทบทวนคำพูดของมินซอกเมื่อครู่ เบื่อ คำนี้คริสคุ้นชินกับมันดี แต่ที่ผ่านเค้าเป็นคนมอบความรู้สึกนี้ให้คนอื่น คนน่ารักไม่ว่ากี่คนต่อกี่คนที่เค้าทิ้งไปอย่างไม่ใยดีเพราะเบื่อ เขาไม่เคยรู้เลยว่าการโดนคนอื่นเบื่อ มันจะรู้สึกแย่ขนาดนี้

     

              ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งๆที่คนน่ารักกว่าเลย์ยังมีอีกเยอะ เพียงแค่เสียคนน่ารักไปคนเดียว ทำไมต้องรู้สึกแย่ขนาดนี้ หรือเป็นเพราะเขาเป็นฝ่ายโดนทิ้ง แต่เขาไม่จำเป็นต้องแคร์ก็ได้หนิ แล้วทำไมตัวเองกลับกระวนกระวายจะบ้าตายแบบนี้

     

    “เฮีย เป็นไรวะ หน้าบูดเป็นตูดลิงเลย” เสียงชานยอลเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าวันนี้เจ้ามือเลี้ยงเหล้าอารมณ์บ่จอยเอาซะเลย

     

    “อย่ากวนไอ้ยอล อารมณ์ไม่ดี”

     

    “เรื่องพี่เลย์ใช่มั๊ย?” เฉินเอ่ยอย่างรู้ทัน...ไอ้นี่มันฉลาดไปซะทุกเรื่อเลยรึไงวะ

     

    “เหอะ กูไม่เข้าใจ..กูไม่เข้าใจที่จู่ๆ เขาก็หนีกู แล้วก็ไม่เข้าใจที่กูรู้สึก...เสียใจด้วย...ตอบทีว่ากูเป็นไรวะ” คริสระบายออกมาอย่างไม่ปิดบัง

     

    “เฮียรักเขารึเปล่า?” เฉินถาม

     

    “รักหรอ...? ไม่หรอก บางทีกูอาจจะแค่เสียความรู้สึกที่โดนทิ้งก็ได้”

     

    “งั้นเฮียก็ไม่ต้องคิดมากดิวะ นั่น สาวคนนั้นน่ะ นั่งมองเฮียนานละ น่ารักตรงสเป๊คไม่ใช่หรอ หิ้วดิ..” เฉินพูดพร้อมชี้ไปที่ผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งที่กำลังมองคริสด้วยสายตาหวานหยดย้อย

     

     

     

              คริสกระตุกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับลุกเดินไปหาคนนั้นทันที...ถึงแม้ใจจะยังไม่มีอารมณ์ไปมั่วใคร แต่ก็ดีกว่ามานั่งฟุ้งซ่านเรื่องของเลย์แหละวะ

     

     

    “อะ...อืม คริส..เบาๆ” คริสพาหญิงสาวมาที่มุมอับแถวๆห้องน้ำ และไม่รอช้าที่จะบดจูบหญิงสาวอย่างรุนแรง และมือหนาก็ขย้ำไปตามสัดส่วนร่างกายของหญิงสาวเต็มแรง อาจจะเป็นเพราะหงุดหงิดอยู่ คริสจึงเผลอทำออกไปโดยไม่รู้ตัว

     

     

              เลิฟซีนวาบหวามไม่ได้เป็นที่เตะตาผู้คนนัก อาจจะเป็นเรื่องปกติไปเลยด้วยซ้ำเพราะคนในคลับรู้ดีว่ามุมแถวนี้มีไว้ทำอะไร และก็ใช่ว่าที่ตรงนั้นมีคู่ของคริสคนเดียวเสียเมื่อไหร่

     

     

    “อ๊ะ...พี่จงฮุนครับ..อืม” เสียงครางหวานหูที่คริสคุ้นเคยดังขึ้นห่างจากเขาไม่ไกลนัก

     

    “เลย์....น่ารักที่สุดเลย” เพียงแค่ชื่อที่ถูกเอ่ยออกมาก็ทำให้คริสมีสติกลับมาและผละออกจากหญิงสาวทันที

     

              คริสผละออกมาและมองหาต้นเสียงสนทนาเมื่อครู่ แล้วก็ต้องพบว่าคนที่เขาตามหาและทำให้เค้าหงุดหงิดทั้งวันกำลังจูบอย่างดูดดื่มกับผู้ชายแปลกหน้าอีกคน....

             

     

              เลย์ผงะออกจากจงฮุน หนุ่มหล่อหน้าใสมือกีต้าร์ของวงดนตรีที่เล่นประจำคลับ เมื่อเห็นว่ามีสายตาโหดคู่หนึ่งมองมาที่เขาอยู่ แต่ก็ไม่ได้เดินหนีออกไปไหน และเมื่อรู้ว่าคริสกำลังมองตัวเองอยู่ เลย์จึงแกล้งยื่นหน้าเข้าไปจูบจงฮุนอีกรอบ

     

              คริสอึ้งกับภาพตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปห้ามแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าในใจเข้าอยากจะเดินไปกระทืบหน้าหล่อๆของไอ้ผู้ชายคนนั้นก็ตาม แต่เขาก็ยังมีสติพอที่จะควบคุมตัวเองได้....ได้ ในเมื่ออยากเล่นสงครามกับฉัน..คริสจัดให้

     

     

              คริสหันกลับมาสนใจผู้หญิงตรงหน้าและบดจูบผู้หญิงตรงหน้ารุนแรงกว่าเดิมจนเธอร้องครางออกมา ส่วนเลย์ก็มองภาพนั้นอย่างเจ็บปวดแต่ก็ไม่ได้ลดละ ต่างคนต่างจูบคนตรงหน้าประชดกันและกันอยู่แบบนั้น จนกระทั่งมือหนาของจงฮุนเลื่อนจากเอวคอดไปที่สะโพกของเลย์ตามสัญชาตญาณ

     

    “แม่งเอ๊ย !!!!” คริสสบถออกมา ทำให้หญิงสาวที่กำลังเคลิบเคลิ้มตกใจและงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น ตัวเองทำอะไรผิดไปหรือเปล่า

     

    “เป็นอะไรคะ” คริสไม่ตอบแล้วเดินผละออกจากผู้หญิงคนนั้น เดินมาที่คู่ของเลย์ทันที

     

     

     

    “โทษนะ บทเลิฟซีนของพวกนายขัดจังหวะฉันว่ะ” คริสเดินเข้าไปกระชากมือจงฮุนออกจากสะโพกของเลย์ สร้างความงุนงงให้เลย์กับจงฮุนอีกรอบ

     

    “งั้นไปต่อที่ห้องผมก็ได้ครับ” เลย์เอ่ยเชิญชวนด้วยน้ำเสียงหวาน ทำเอาความอดทนคริสขาดสะบั้นลงทันที

     

     

    ....เสียงหวานๆ นั่น ของกู...ห้ามใช้กับคนอื่น !!!!

     

     

    “โอ๊ย ปล่อย เจ็บนะ !!!” เลย์ตะโกนและพยายามขัดขืนอีกคนที่ลากเขาออกมาจากมุมนั้นโดยไม่ฟังเสียงร้องห้ามของหญิงสาวเลยซักนิด ส่วนจงฮุนก็โดนคริสต่อยไปหมัดนึงเพื่อระบายอารมณ์ ทั้งๆเจ้าตัวไม่ได้ทำอะไรผิด

     

    “หนีฉันมาทำไม”

    “ไม่ได้หนี !

    “จงใจปั่นหัวฉันเล่นรึไงเลย์ !!

    “ผมไม่ปั่นหัวคุณ.....ก็แค่รู้สึก เบื่อ...ก็แค่นั้น” เลย์ตอบด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย สิ่งที่เขาทุ่มเทตลอดทั้งอาทิตย์มันได้ผลเกินกว่าที่คิดซะอีก

    “ไม่ได้ !! นายไม่มีสิทธิ์เบื่อฉัน !!” คริสตวาดออกมาเพราะโมโห

    “ทำไมจะไม่ได้ !!! ทีคุณยังเบื่อได้ ทำไมผมจะเบื่อบ้างไม่ได้”

    “ทำไม? ฉันไปทำอะไรให้นายไม่พอใจ บอกฉันสิ” คริสกำข้อมืออีกคนแน่น

    “คุณไม่ได้ทำ แต่แค่ผมเห็นหน้าคุณ ผมก็เบื่อ เข้าใจมั๊ย?”

    “.....” คริสอึ้ง เกิดมายังไม่เคยทำท่าทางรังเกียจใส่เข้าแบบนี้มาก่อน อีกทั้งการถูกคนอื่นเบื่อ เป็นสิ่งที่คริสไม่คุ้นเลยจริง ๆ

     

    “ปล่อย !!” เลย์พยายามสะบัดมือออก

    “จะกลับไปหามันงั้นหรอ?”

    “ใช่ !!!

    “บอกฉันทีเลย์ ฉันมีอะไรที่สู้มันไม่ได้ !!

    “ทุกอย่างแหละ !!!” เลย์ตะคอกกลับ

    “โธ่โว้ย !!!!” คริสสบถอย่างหัวเสียแต่ก็ไม่ได้ปล่อยมือเลย์แต่อย่างใด

     

     

    “ขอโทษนะ คุณกลับไปเถอะ ผมชอบนักดนตรี ผมชอบคนอ่อนโยน ไม่ชอบผู้ชายกระด้าง เห็นร่างกายคนอื่นเป็นแค่ของเล่นอย่างคุณ”

     

              น้ำเสียงเย็นชาของเลย์ทำให้คริสแทบหมดแรง ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการโดนปฏิเสธอย่างเย็นชามันเจ็บปวดมากขนาดนี้  เลย์สะบัดมือจนหลุดและเดินหนีไปโดยไม่หันกลับมามองคริสอีกเลย

     

     

              เข้าใจไหม...เข้าใจรึยัง รู้สึกยังไงบ้างคริส ความเจ็บปวดจากการโดนเมินอย่างไม่ใยดี นายสัมผัสได้ไหม !!! ....แล้วทำไม ทำไมผมต้องเสียใจด้วย เมื่อไหร่ความรู้สึกแบบนี้ เมื่อไหร่จะหายไปจากผมซักที...เมื่อไหร่ผมจะสำนึกซักทีว่า ผมเกลียดคุณ

     

    .......................................................................................

     


    ผม....กำลังจะบ้าตาย

     

     

              ผมคิดว่าตัวเองคงบ้าไปแล้ว มันไม่สมเป็นคริสเอาซะเลย ตั้งแต่วันนั้นที่เลย์เดินหนีผม ผมไม่กล้าแม้แต่จะรั้งเขาไว้ ทั้งๆที่ผมอยากจะทำแบบนั้น แต่หากท่าทางรังเกียจของเลย์ที่แสดงต่อผม มันทำให้ผมไม่กล้าเลยจริงๆ ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเลย์ถึงมีอิทธิพลต่อความรู้สึกผมมากขนาดนั้น และยังเป็นครั้งแรกในหลายๆ อย่างในชีวิตผมด้วย

     

              คนแรก ที่ผมนอนด้วยเป็นอาทิตย์

              คนแรก ที่ผมขอเบอร์ (ส่วนเบอร์อื่นๆ ในมือถือผมล้วนแล้วแต่มีคนยัดเยียดให้ทั้งนั้น)

              คนแรก ที่ทำให้ผมมีความสุขจนจะบ้าตาย

              คนแรก ที่ทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง

              และเป็นคนแรก....ที่ทำให้ผมรู้จักคำว่า เสียใจกับความรัก

     

              ตลกมั๊ย? ผมว่ามันน่าขำสิ้นดี ยิ่งตลกไปกว่านั้นคือ ตอนนี้ผมมานั่งทำบ้าอะไรที่ห้องนี้ถึงสามวันสามคืน ห้องที่เรามานอนด้วยกันตลอดอาทิตย์ ห้องที่เรามีความสุขร่วมกัน ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงตั้งแต่เลย์ทิ้งไป ผมรู้แค่ไม่มีที่ไหนน่านอนเท่าที่นี่อีกแล้ว หรืออีกอย่างหนึ่งคือ ผมได้แต่คิดไปเองว่า เขาอาจจะกลับมาหาผม

     

              เฮียรักเขาไหม?’ คำถามไอ้เฉินมันวนเวียนอยู่ในหูผมตลอด ผมไม่รู้หรอกว่ารักมันเป็นยังไง หน้าตายังไง เพราะผมไม่เคยคิดจะรักใครหรือคบใครไปตลอดชีวิต สำหรับผมแล้ว การได้นอนกับคนสวย หน้าตาดี น่ารัก นั่นก็คือความสุขของผม แต่ถ้าให้คบกันแล้วต้อง จงรักภักดีกับคนคนเดียว มันไม่ใช่สไตล์ผมหรอก

     

              แต่...ตอนนี้ ผมกำลังคิดว่า ถ้าคนที่ผมจะรักเดียวใจเดียวกับเขา และเขาคนนั้นก็คือเลย์....ผมยอมว่ะ เพราะฉะนั้น ผมถึงทนไม่ได้ที่เห็นไอ้หล่อนั่นจับก้นเลย์ ผมทนไม่ได้ที่เห็นเขาจูบคนอื่น และผม...กำลังจะบ้าตาย ถ้าไม่มีเขามาทำตัวน่ารักๆ กับผมทุกคืนเหมือนวันก่อนๆ

     

              แบบนี้...มันเรียกความรักได้ไหม?

     

              ผมนั่งจ้องซิมการ์ดที่เขาทิ้งไว้ ที่เขาทำแบบนี้เป็นเพราะต้องการตัดขาดจากผมใช่ไหม เบอร์โทรศัพท์เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงระหว่างความสัมพันธ์ของเรา แต่ตอนนี้มันโดนคนน่ารักคนนั้นตัดขาดไปอย่างไม่ใยดี.....ผม.....ผมจะต้องไปตามเขากลับมา !!!!

     

     

     

    มินซอก ฉันขอร้องล่ะ ขอที่อยู่เลย์ให้ฉันเถอะ หรือมหาลัยที่เลย์เรียนก็ได้” คริสตามมาเว้าวอนมินซอกถึงหลังเวที เมื่อเห็นว่าวันนี้เลย์ก็ไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามาที่คลับ

     

    แล้วทำไมฉันต้องให้” มินซอกถามลองเชิง จริงๆเขาก็พอจะดูออกว่าคริสคงแคร์เลย์มากจริงๆ ดูได้จากใต้ตาที่บวมและดำคล้ำคล้ายคนอดนอน ไหนจะหน้าตาซีดโทรมนั่นอีก ไม่สมเป็นคริสเลยจริงๆ

     

    ฉัน....ฉันอยากปรับความเข้าใจกับเลย์” คริสพูดตาละห้อย

     

    ก็ได้ แต่ฉันไม่แน่ใจนะว่าเลย์จะอยากคุยกับนายหรือเปล่า” มินซอกพูดพร้อมกับเขียนที่อยู่หอพักเลย์ให้อีกคน ส่วนคริสหลังจากที่ได้ที่อยู่ ก็ไม่รอช้ารีบบึ่งรถออกไปตามทางที่มินซอกเขียนให้ทันที

     

     

              ออดดดดดดดดดดดด....

     

    รอเดี๋ยวครับ !!” เสียงขานรับจากในห้องสร้างรอยยิ้มให้แก่คริส เขาแทบอยากจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เพราะเขาจำได้ดีว่าเสียงของคนข้างในเป็นใคร

     

    อ๊ะ...มาทำไม” หลังจากที่เลย์เปิดประตูออกมาก็ต้องตกใจที่เห็นสภาพของอีกคน แต่ก็ตีสีหน้าเรียบและทักทายดั่งคนแปลกหน้า

     

    ขอเข้าไปได้ไหม?” น้ำเสียงเว้าวอนของคริส ทำให้เลย์แปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ยอมลดความโกรธลงไปเท่าไหร่

     

    ไม่ได้ !!” เลย์ปฏิเสธเสียงแข็ง

    พี่...อยากจะคุยด้วย” 

    แต่ผมไม่มี กลับไปเถอะ” เลยทำท่าจะปิดประตูใส่ แต่คริสใช้แรงดึงไว้ก่อน

    นะ....คุยกันหน่อยได้ไหม” คริสอ้อน

    งั้นก็ว่ามาตรงนี้แหละ” เลย์จ้องหน้าเป็นเชิงว่ามีอะไรก็พูดมา

    .

    .

    .

    .

    "ถ้าไม่มีก็กลับไป" เลย์เห็นว่าอีกคนเงียบไป เลยเอ่ยตัดบท

     

    "กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม" น้ำเสียงที่แปลกไปของคริสทำให้เลย์ชะงัก

     

    "เหมือนเดิม...อะไรที่เหมือนเดิม" เลย์ตีสีหน้าเรียบถามกลับ ทั้งๆที่ในใจกำลังเต้นโครมคราม ที่ถ้าบรรยากาศเงียบกว่านี้อีกหน่อย มีหวังคริสต้องได้ยินเสียงหัวใจของเขาแน่ๆ

     

    "กลับมาเป็นเลย์ที่น่ารักของพี่ได้ไหม" สิ้นสุดคำพูดคริส เลย์ก็ปิดประตูใส่หน้าอีกคนทันที ไม่ใช่ว่าโกรธ แต่ตอนนี้เขากำลังจะทนไม่ไหว ไอ้หัวใจนี่ก็เต้นเอาๆ ไม่รู้จักเหนื่อย แล้วใบหน้าเขาตอนนี้ มันก็กลั้นยิ้มไว้ไม่ได้เเล้ว

     

             

              ไม่ว่าคริสจะต้องการเขาไปเพื่ออะไร อาจจะเพียงแค่ร่างกาย แต่คำพูดของคริสเมื่อครู่ มันมีผลต่อความรู้สึกเลย์มากจริงๆ ....แต่ ถ้าเขากลับไปง่ายๆ แผนที่วางไว้มันก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เลย์จึงส่องช่องตาแมวจากในห้อง พบว่าคริสยังยืนอยู่หน้าห้อง เลย์จึงเปิดประตูออกมา ตีสีหน้าเรียบอีกครั้ง...

     

     

    "ผมจะไม่กลับไป....จนกว่าคุณจะไปตัดสัมพันธ์กับทุกคนที่คุณเคยมีความสัมพันธ์ด้วย รวมทั้งไปขอโทษทุกคนที่คุณทำให้เขาเสียใจ....ทำได้ไหม" เงื่อนไขของเลย์ทำเอาคริสตาโต...ถามว่ายากไหม บอกได้เลยว่ายากมาก เพราะเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามีใครบ้าง และตอนนี้แต่ละคนไปอยู่ไหนบ้างก็ไม่รู้....

     

     

              หลังจากที่เลย์ยื่นคำขาด...คุณคิดว่าผู้ชายหล่อๆ สุดเพอร์เฟ็คอย่างคริสคนนี้จะทำตามข้อเสนอนั่นเพื่อผู้ชายหน้าสวยคนเดียวไหม?.....ใช่ ผมทำ !! อย่าถามว่าทำไม เพราะผมก็ไม่รู้ เพียงแค่เขาบอกว่าเขาจะกลับมา ผมก็เป็นไอ้บ้าที่เขาบอกให้ทำอะไรก็ทำ มันดูไม่เหมือนคริสเลยใช่มั๊ย? แต่นั่นแหละ คือผมในตอนนี้ล่ะ ผมกำลังติดต่อผู้หญิงและผู้ชายทุกคนผมจำได้ เพื่อจะไปขอโทษเขาตามที่เลย์บอก แต่มันก็ไม่ครบหรอก เพราะบางคนเราขาดการติดต่อไปนานแล้ว และผมก็จำไม่ได้ด้วย..

     

             

              คุณรู้ไหมว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของผมเต็มไปด้วยรอยฝ่ามือที่นับไม่ถ้วน แต่ผมก็ยังยิ้มได้ เพียงแค่คิดว่าถ้ามันแลกกับการที่เลย์จะกลับมาหาผม ที่จริงแล้วมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นด้วย ไม่รู้สิ มันรู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องคอยสับรางกลัวว่าคิวจะชนกันในแต่ละวัน แล้วก็...ไม่รู้สิ ผมรู้สึกว่าตัวเองโอเค และรู้สึกดีมากกว่าที่มีเลย์เพียงคนเดียว

     

     

              ออดดดดดดดดดดดดดดด...

     

     

              ผมกลับมาที่ห้องเลย์อีกครั้งหลังจากที่วันนั้นเลย์ยื่นข้อเสนอให้ผม ผมจึงใช้เวลาทั้งอาทิตย์เพื่อตามหาคนที่ผมเคยมีสัมพันธ์ด้วย และทำตามที่เลย์บอก แล้วตอนนี้ ผมก็คิดว่ามันน่าจะโอเคบ้างแล้ว

     

    "พี่ทำตามที่เลย์บอกแล้วนะ" ผมยิ้มแป้นหลังจากที่เลย์เดินมาเปิดประตูให้

     

    "โกหก" คนสวยตอกกลับอย่างเย็นชา...โกหกหรอ ผมไม่ได้โกหกนะ ผมทำไปแล้วจริงๆ

     

    "พี่ไม่ได้โกหกนะ รอยพวกนี้มันยืนยันไม่ได้เลยหรอ" ผมชี้ไปที่แก้มตัวเอง เพราะผมมั่นใจว่ารอยมันยังอยู่

     

    "ยังมีอีกคนนึง ที่คุณยังไม่ได้ขอโทษเขา" ผมงงมากจริงๆ นะ ก็จริงที่ผมจำได้ไม่หมด 

     

    "งั้นเลย์บอกพี่สิ พี่จะไปขอโทษเขา"

     

    "ก็ยืนอยู่ตรงหน้าคุณนี่ไง" 

     

    O.O

     

     

    "คุณจำเด็กผู้ชายที่เอาช็อกโกแลตไปให้คุณที่โรงยิมเมื่อหกปีที่แล้วได้ไหม?" หกปีที่แล้ว โห...ตั้งแต่ผมยังไม่ย้ายมาเรียนที่เกาหลีเลยนะ...แต่จะว่าไปแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีอยู่คนนึง...

     

              ผมก็จำไม่ค่อยได้หรอก เพราะเมื่อก่อนมีคนชอบเอาของมาให้ผมอยู่บ่อยๆ แทบทุกวัน แต่เหมือนมีอยู่วันหนึ่งที่มีเด็กผู้ชายใส่แว่นหนาเตอะที่ดูยังไงก็ไม่เข้าตาผมเอาซะเลย วันนั้น หมอนั่นเอาช็อกโกแลตมาให้ผม แต่ผมก็ปฏิเสธไปอย่างใจร้าย อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นผมทำไปโดยไม่คิด ทั้งๆที่ผมชอบช็อกโกแลตนะ แต่เพราะคนเอามาให้ไม่น่าดึงดูดใจ ผมเลยปฏิเสธไป ดูใจร้ายใช่มั๊ย แต่นั่นแหละ นิสัยผม ผมชอบคนที่หน้าตาหนิ ผมชอบมองของสวยๆงามๆ และมันก็กลายเป็นสันดานผมที่แก้ไม่หาย...แต่...อย่าบอกนะว่าเด็กแว่นคนนั้นคือคนสวยที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้

     

    "เด็กคนนั้น...คือเลย์หรอ?" เสียงผมสั่นอย่างห้ามไม่ได้ ความรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง ในอดีตมันทำให้ผมรู้สึกเสียใจมากจริงๆ

     

    "ใช่...ผมเอง" เลย์ก้มหน้าไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผม

     

    "พี่...ขอโทษนะ" ผมเสียใจมากจริงๆ

     

    "พี่ไม่รู้หรอกว่าผมต้องขังตัวเองไว้ในห้องน้ำเกือบชั่วโมงเพื่อนั่งร้องไห้ ไม่ให้ใครเห็น ผมต้องโดนคนในโรงยิมหัวเราะเยาะ มันน่าสมเพชแค่ไหน...พี่ไม่เข้าใจหรอก" ตอนนี้น้ำเสียงเลย์สั่นๆ ..อย่าร้องไห้นะ ผมไม่อยากเห็นน้ำตาเขา ไม่งั้น มันอาจจะต้องติดตาผมไปจนตายแน่ๆ 

     

    "ขอโทษ...ยกโทษให้พี่ได้ไหมครับ" ผมคุกเข่าและจับมืออีกคนแน่น และตอนนี้น้ำตาเม็ดเล็กๆ ก็ไหลลงมาผ่านแก้มสวยนั่นเรียบร้อยแล้ว

     

    "ฮึก...พี่ใจร้าย.." 

     

    "อย่าร้องไห้เลยนะ พี่ขอโทษ ยอมแล้วครับ ยอมทุกอย่างเลย อย่าร้องไหนะ" ผมพยายามเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาอีกคน

     

              ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เลย์ใจอ่อนกับผมบ้างรึยัง แต่ตอนนี้คนสวยให้ผมเข้าห้องแล้ว ผมนั่งปลอบใจซักพักจนเลย์หยุดร้องไห้แล้วก็หลับไปซะดื้อๆ ผมเลยต้องอุ้มให้มานอนบนเตียงนี่แหละ ใบหน้าสวยหลับตาพริ้ม แก้มขาวๆ ริมฝีปากชมพู นั่น ทำเอาผมแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ซะด้วยสิ สัญชาตญาณผมมันยิ่งเร็วต่อเรื่องพวกนี้ซะด้วย...แต่ถ้าผมทำอะไรไปตอนนี้ มีหวังเลย์ได้โกรธผมไปอีกแน่ๆ ...เพราะฉะนั้น ผมเลยต้องย้ายตัวเองไปนั่งดูทีวีนอนกห้องนอนแทนไง..

     

     

              แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเลย์คือคนคนเดียวกันกับเด็กคนนั้นจริงๆ แต่ผมไม่อยากคิดถึงอดีตนั่นแล้ว เพราะมันทำให้ผมรู้สึกผิดมากจริงๆ ผมไม่อยากทำให้ใครเสียใจแบบเลย์อีกแล้วแหละ...บางทีผมอาจจะต้องควบคุมสันดานแย่ๆ ของตัวเองบ้างแล้วแหละ...

     

     

    ...........................................................................................................................................................

     

     

              เลย์ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอน และคิดทบทวนเรื่องรวาทั้งหมดที่เกิดขึ้น เขาคงไม่ได้ฝันหรอกใช่มั๊ย คริสมาหาเขาจริงๆ ใช่มั๊ย เขาบอกว่าเขาทำตามข้อเสนอนั่นแล้ว และใบหน้าหล่อๆนั่นก็ถูกแต่งแต้มด้วยรอยฝ่ามือจนบวมแดง และเขากลับคริสก็คุยกัยเรื่องเมื่อหกปีก่อน....มันคือความจริงใช่มั๊ย?

     

     

     

              และสิ่งที่ตอกย้ำว่าเลย์ไม่ได้ฝันคือร่างสูงที่นอนอยู่โซฟานั่นไง เลย์เดินมาหาอีกคนที่กำลังนอนหลับอยู่หน้าทีวี รอยยิ้มที่มันผุดออกมาโดยไม่รู้ตัวของเลย์ กำลังบ่งบอกว่าตอนนี้เขากำลังมีความสุขเล็กๆ เพราะเขาไม่คิดว่า คริสจะทำตามที่บอกจริงๆ และที่คริสยอมทำเพื่อเขาขนาดนี้ เป็นเพราะเขามีความสำคัญสำหรับคริสแล้วใช่มั๊ย?

     

    "คริส...." เลย์เรียกอีกคนให้ตื่น เพราะตอนนี้จะเย็นแล้ว นอนตอนพระอาทิตย์ตกดิน เดี๋ยวจะไม่สบายเอา

     

    "อืม" คริสขานรับและลืมตาขึ้น

     

    "ลุกสิ จะทำแผลให้" เลย์พูดพร้อมกับเดินไปเอากล่องยา ส่วนคริสก็แทบจะกระเด้งตัวลุกขึ้นทันทีหลังจากที่เลย์บอกว่าจะทำแผลให้

     

     

    "ไม่ได้ไปมีเรื่องกับนักเลง แล้วมาแอบอ้างว่าไปขอโทษแฟนเก่ามาหรอกนะ?" เลย์พูดขณะที่มือยังทายาบริเวณแก้มและมุมปากอีกคน

     

    "อย่ามองกันในแง่ร้ายแบบนั้นสิ" คริสเอ่ยงอนๆ

     

    "แล้วเคยมีด้านดีให้มองมั๊ยล่ะ" เลย์เถียงคืน

     

    "ที่จริงก็ไม่มี...แต่ต่อไปนี้อาจจะมี" คริสยิ้ม

     

    "อย่าดีแต่พูดแล้วกัน" เลย์เก็บของเข้ากล่องปฐมพยาบาล และกำลังจะเอาไปเก็บแต่โดนคริสดึงมือไว้

     

     

     

    "คืนนี้นอนด้วยได้ไหม?" คริสพูดขอด้วยสายตาอ้อนวอน

     

    "^__________^  ...... ไม่ได้ !!!!!" เลย์แกล้งยิ้มหวานให้อีกคนยิ้มตาแล้วปฏิเสธไป ทำเอาคริสหน้างอ

     

    "ยังไม่หายโกรธอีกหรอ?"

     

    "................" เลย์เงียบ

     

     

    "เป็นแฟนกันนะ" คริสพูดประโยคที่ไม่เคยพูดกับใครมาก่อน บอกแล้วว่าเลย์เป็นคนแรกในหลายๆเรื่องของคริส ส่วยเลย์ที่ได้ฟังประโยคนั้นก็แทบไม่เชื่อหูตัวเอง

     

    "................"

     

    "อย่าเงียบสิ....พูดจริงๆนะ....เป็นแฟนกันเถอะ"

     

    "ไม่เป็นหรอก" เลย์ปฏิเสธ นั่นยิ่งทำให้คริสหน้างอเข้าไปใหญ่ .... บอกให้ทำอะไรก็ทำแล้ว ยังมีอะไรที่คนสวยไม่พอใจในตัวเขาอีกล่ะเนี่ย

     

    L

     

    "ไม่ต้องมาทำหน้างอเลย"

     

    "แล้วพี่สมควรยิ้มหรอ?" คริสประชด

     

    "ที่ไม่เป็นน่ะ เพราะตอนนี้ผมยังไม่ไว้ใจคุณ...มันจะมั่นใจได้ยังไงว่าทั้งหมดที่คุณทำคุณทำเพื่อผมจริงๆ แล้วถ้าหากว่าผมใจอ่อนกับคุณไปแล้ว ผมจะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่เบื่อผมและทิ้งผมไปเหมือนคนก่อนๆ ...."

     

    "............." คริสคิดตาคำพูดเลย์ มันก็จริงเหมือนที่เลย์บอกนั่นแหละ คนอย่างเขาจะมารักเดียวใจเดียว มันคงไม่น่าเชื่อเท่าไหร่

     

    "ถ้าชอบผมจริงๆ....ก็ทำให้ผมมั่นใจสิ"

     

     

              เลย์พูดยิ้มๆ ทำให้คริสเริ่มมีหวังขึ้นมาบ้าง...ผมจะบอกความลับของคนเจ้าชู้นะครับ..ถ้าหากว่าคนพวกนี้มีความรักขึ้นมาจริงๆ มันจะรักเดียวใจเดียวกับคนคนนั้นมากๆ คนเจ้าชู้เวลารักมันรักจริง ไม่ว่าคนคนนั้นจะขออะไร อยากได้อะไร มันยอมถวายให้หมดตัวเลยจริงๆ ....ไม่ต้องดูตัวอย่างไกล ไอ้ไคกับไอ้เฉินนั่นไง มันทำมาแล้ว..

     

     

              และในเมื่อไอ้ไคกับไอ้เฉินยังเจอรักแท้ได้...แล้วทำไมคริสจะทำบ้างไม่ได้ จริงมั๊ย? ในเมื่อตอนนี้เลย์เข้ามาอยู่ในความรู้สึกของผมแล้ว ในเมื่อผมมั่นใจแล้วว่าถ้าเป็นคนนี้ไม่ว่าอะไรผมก็ยอม...เพราะฉะนั้น การทำให้เค้าไว้ใจและเชื่อใจผม..ทำไมผมจะไม่ได้....

     






    จงฮุน
     


    "ผมแค่จะมาเข้าห้องน้ำ แต่ก็โดนผู้ชายหน้าสวยที่ชื่อเลย์ ลากเข้าไปจูบ ใครจะบ้าปฏิเสธจริงมั๊ย?
    ....ที่จริงเราทำงานที่คลับด้วยกันมาซักพักแล้วล่ะ แล้วก็นะผมจะบอกความลับอย่างหนึ่ง

    ...'ผมแอบมองเขามานานแล้วเหมือนกัน'...... "



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×