ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    P.C.Y.SIXTY1 ❻❶ ♢ chanbaek ft. lumin

    ลำดับตอนที่ #5 : ♦ M i s s i o n :: 04

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 59





    หลังจากประชุมเสร็จลู่หานก็รีบกลับมาที่ห้องเพื่อดูแลมินซอกทันที เค้ารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้อย่างบอกไม่ถูกและสงสารในเวลาเดียวกัน แม้จะเจอคดีประเภทนี้มาเยอะ แต่กับไม่รู้สึกชินสักทีที่เห็นเด็กตัวเล็กถูกทำร้ายขนาดนี้ มือหนาลูบปอยผมของมินซอกอย่างเอ็นดู

     

         "ต่อไปฉันจะดูแลนายเองนะ"

     

     

     

        ติ๊ง!

     

     "เฉินมึงมาพอดี ฝากด้วยนะ!กูขึ้นไปจัดห้องให้มินซอกก่อนเดี๋ยวกูลงมา" เสียงประตูดังขึ้นเฉินเดินหอบแฟ้มเอกสารเข้ามา ลู่หานก็วานให้ช่วยดูแลมินซอกทันที เจ้าตัวพยักหน้ารับเป็นอันเข้าใจ

     

     

     

     

    เด็กหนุ่มตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นตา บนโต๊ะกระจกมียาหลายชนิดทั้งยากินยาทากับข้าวต้มอุ่นๆ ไหนจะกะละมังเล็กๆพร้อมกับผ้าผืนสีขาวบิดหมาดวางไว้อยู่อีก

     

     "อ้าว..ตื่นแล้วหรอ หิวหรือเปล่า? ข้าวต้มน่ะกินได้นะฉันทำเอง" เฉินหันไปเจอก็ทักทายยิ้มให้มินซอกทันที เฉินนั่งเฝ้ามินซอกแทนลู่หานที่ขึ้นไปจัดห้องนอนไว้รอเพื่อจะพาเด็กหนุ่มขึ้นไปนอนให้สบายตัวกว่านี้

     

    เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นมือเล็กทั้งสองข้างบีบกันจนตัวเกร็งสั่นมินซอกนึกหวาดระแวงขึ้นมาที่ไม่ได้กลับบ้าน ป่านนี้พี่ชายของเค้าคงกำลังออกตามหาและถ้าตามเจอละก็ มินซอกต้องโดนลงโทษหนักแน่ๆ

     

     "เป็นอะไรไป..ไม่ต้องกลัวฉันนะ ฉันเป็นเพื่อนกับคนที่พานายมาที่นี่ไง..ลู่หานน่ะ" เฉินเข้าไปปลอบประโลมเด็กหนุ่มที่สั่นเทา เอื้อมมือไปจับมือเล็กทั้งสองแยกออกจากการจิกด้วยเล็บคมๆ

    มินซอกยอมแต่โดยดี เด็กหนุ่มมองตาของพี่ชายตรงหน้าเค้ารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

     

     "พ..พี่ ใจดี" ปากเล็กๆเผยอพูดออกมา มินซอกต้องการความรู้สึกนี้มานานมากแล้วเค้าอยากให้พี่ชายของเค้าอบอุ่นและอ่อนโยนกว่านี้บ้าง

     

     "ฮ่าๆงั้นหรอ..ฉันชื่อเฉินนะ เด็กน้อย" เฉินขำเล็กๆ มินซอกน่าเอ็นดูอย่างที่คิดไว้จริงๆไม่แปลกใจเลยทำไมลู่หานถึงได้สนใจในตัวมินซอกขนาดนี้ คงจะเป็นเพราะเจอความไร้เดียงสาและบริสุทธิ์เล่นงานเข้าแล้วสินะ

     

     

     

     

     "code88เรียกcode7 ไอ้ลู่มึงลงมาให้ไว ก่อนที่กูจะขึ้นไปลากคอมึงลงมา!!!" ไคกำลังฉุนขาดกับข้อมูลในคอมพิวเตอร์คู่ใจตรงหน้า จนพาลใส่ลู่หานที่กำลังจัดห้องอยู่ อารมณ์ของทั้งคู่ก็ร้อนพอกันอยู่ดีๆมาพาลกันแบบนี้ลู่หานก็ลมออกหูรีบจ้ำอ้าวลงมาทันที

     

     

     

      "มึงเป็นเหี้ยไรไอ้ไค!!!" ทันทีที่ประตูเปิดออกลู่หานก็ทำท่าจะพุ่งเข้าใส่ไคแต่ถูกเซฮุนและเทารั้งร่างไว้

     

     "เห้ย!ไอ้ลู่ใจเย็น/ไอ้ไคมึงหุบปากซะอย่ากัดกันดิวะ!!" เทากับเซฮุนเข้ามารั้งลู่หานไว้พร้อมกับหันไปปรามไคที่พูดจิกลู่หานไม่เลิก

     

     "มึงแหกตาดูเองเถอะไอ้ลู่!" ไคพูดด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด

     

    ลู่หานจะสะบัดเพื่อนทั้งสองจากร่างก้าวเท้าเดินมาที่หน้าคอมก่อนจะไล่อ่านข้อมูลตรงหน้าอย่างตั้งใจ

     

     "มึงพาใครมามึงรู้ตัวหรือเปล่า เด็กนั่นเป็นน้องชายของไอ้มินโฮ และอีกอย่างนะคนที่ปล่อยไวรัสใส่ฐานข้อมูลของกูเมื่อวานก็คือไอ้เวรมินโฮนี่แหละ! มันเป็นคนของไอ้ฮีชอลไปแล้ว

    ทีนี้มึงรู้แล้วสินะว่าควรจะส่งเด็กนั่นกลับไปก่อนที่ข้อมูลในองค์กรจะรั่วไหล มึงคงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น..?"

     

    ไคร่ายยาวอย่างอดไม่ได้ มินซอกตอนนี้เป็นบุคคลอันตรายขององค์กรโดยสมบูรณ์เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนอันตรายอย่างมินโฮ เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือไคก็มีมินโฮนี่แหละ มันใช้ความสามารถที่มีไปในทางที่ผิดซึ่งต่างจากไค มินโฮเรียนรุ่นเดียวมากับทั้งเจ็ดคน แต่กับแตกต่างจากคนอื่นเพราะมินโฮหลงผิดไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมาเฟียค้ายาและพี้ยาจนเสียผู้เสียคนจึงต้องแยกตัวออกไปกลุ่มนี้

     

     และดูเหมือนจะบังเอิญเหลือเกินที่มินโฮเป็นทั้งพี่ชายของมินซอก พยานในคดีฆ่าข่มขื่นนักเรียนมัธยมที่องค์กรกำลังตามอยู่และเป็นทั้งมือขวาของไอ้โรคจิตคิมฮีชอล

     

     "กูมั่นใจว่ามินซอกไม่เหมือนไอ้มินโฮแน่! และอีกอย่างน้องอยู่ที่นี่ในฐานะพยาน มึงคิดว่าเด็กตัวแค่นั้นจะมีปัญญามาเจาะข้อมูลอะไรได้เหมือนมึงหรือไง แค่เดิน..ยังลำบากเลยด้วยซ้ำ มึงไม่เห็นสภาพของน้องเค้าหรือไง!!!!"

     

     ลู่หานก็ฉุนขาดไม่น้อยไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องจะกลับตาลปัตรแบบนี้แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องยอมรับความจริง ถึงมินซอกจะเป็นน้องชายของมินโฮแต่ตัวเค้าเองมั่นใจว่ามินซอกไม่ได้เป็นแบบมินโฮแน่ๆ สภาพร่างกายบอบช้ำขนาดนี้ไอ้ไคยังจะคิดสารเลวแบบนั้นอีก ลำพังเด็กตัวแค่นี้จะไปทำอะไรได้

    ไคไม่เคยคิดทวนให้ดีมีแต่ใช้อารมณ์ตัดสินเสมอ จนลืมนึกถึงความน่าจะเป็นและไม่มีการวิเคราะห์ให้ดีก่อนพูด

     

     ทุกคนในห้องเงียบกันหมด จริงอย่างที่ลู่หานพูดทุกคนลืมนึกถึงความเป็นจริงตอนนี้

     

     "การระแวงระวังเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วสำหรับคนทำอาชีพนี้ แต่มึงไม่ควรไปใส่ความทั้งที่ยังไม่มีมูลความจริงใดๆเลย มึงทำงานตรงนี้น่าจะรู้ดีนะไอ้ไค.."

    ลู่หานจบประโยคนั้นทิ้งท้ายไว้ให้คิดก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของไคทันที

     

     

     

     

     

    P.C.Y.SIXTY1

     

     

     

     

    ลู่หานกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองเค้าเห็นมินซอกกับเฉินนั่งคุยกันอยู่ ร่างสูงยืนมองผ่านห้องกระจกใสเด็กที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูอย่างมินซอกน่ะหรอจะเป็นอย่างที่ไคว่า เค้าไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด

     

     "อ่า..นั่นไงมาพอดีเลย เดี๋ยวพี่ลู่หานจะพานายไปอาบน้ำนะ เดี๋ยวพี่ต้องทำงานแล้ว"

     

     "ยังเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ลู่หานถาม

     

    "ไม่แล้วฮ่ะ.." มินซอกส่ายหน้าไปมาก้มหน้าหลุบตาลงต่ำ เค้าไม่ได้กลัวแต่เวลาสบตาคู่นั้นแล้วมันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้

     

     "ไปกับฉัน..ไปอาบน้ำกันจะได้พักผ่อน" ลู่หานยื่นมือให้แต่มินซอกก็ไม่จับ เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหลบพี่ชายก่อนจะเดินออกไปทันที

     

     

     

     

         Floor L-77

     

     ลู่หานพามินซอกขึ้นที่ห้องนอนเพื่อจะได้อาบน้ำและตัวเองก็จะได้อาบน้ำเกือบจะเช้าแล้วแต่องค์กรยังคงวุ่นวายกับคดีต่างๆ ลู่หานมีเวลาพักผ่อนน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีด้วยซ้ำ วันนี้ก็โอกาสพักยาวๆเลยก็แล้วกัน

     

      "ฉันจะอาบน้ำให้ แขนของนายคงไม่มีแรงถูสบู่หรอกจริงไหม?" ลู่หานว่า

     

    พี่ชายถอดเสื้อนักเรียนเปรอะเลือดและปลดตะขอกางเกงและส่วนอื่นออกจนหมด มินซอกอายจนร้อนผ่าวไปทั้งหน้า จริงอย่างที่ลู่หานว่าแขนของเค้าที่เจ็บอยู่คงจะทำอะไรเองได้ลำบาก ตอนนี้ทำได้แค่เอามือเล็กปิดส่วนอ่อนไหวไว้เท่านั้น

     

     "ไม่ต้องอายหรอก เดี๋ยวนายก็ได้เห็นของฉันเพราะเราจะอาบน้ำด้วยกัน"


       "อ๊ะ..แสบ..เจ็บฮึก.."

     

    เด็กหนุ่มกลั้นน้ำตาเอาไว้เพราะบาดแผลที่มีเกิดอาการแสบเพราะโดนทั้งน้ำทั้งสบู่ ลู่หานพยายามอาบน้ำให้มินซอกอย่างมือที่สุดเพื่อไม่ร่างกายที่บอบช้ำเจ็บไปมากกว่านี้

     

     "พี่ขอโทษ..ทนอีกหน่อยนะ" ลู่หานกอดเด็กหนุ่มให้ซบหัวลงที่แผงอกกว้าง มองร่างบางด้วยความสงสารจับใจ คิดก็ยิ่งแค้นไอ้มินโฮที่มันทำกับน้องชายของตัวเองได้ขนาดนี้ จิตใจของมันไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานที่ไม่มีสำนึกของความเป็นมนุษย์เลยสักนิด

     

     

     

     






     

    หลังจากอาบน้ำเสร็จลู่หานก็พามินซอกมาแต่งตัวเนื่องจากว่ามินซอกตัวเล็กมาก กางเกงนอนของลู่หานก็ตัวใหญ่ไม่สามารถใส่ได้ ลู่หานจึงหาเสื้อเชิร์ตให้ใส่แทนไปก่อน มันก็ดูคล้ายกับชุดนอนที่เด็กผู้หญิงชอบใส่กันนั่นแหละ

     

     

       "ต่อไปนี้มินซอกจะต้องอยู่กับพี่ เชื่อฟังพี่เข้าใจใช่ไหม"

     

            มินซอกพยักหน้า

     

       "มีอะไรต้องบอกพี่ ห้ามโกหกและถ้าพี่ถามอะไรต้องพูดความจริงเข้าใจไหมครับ"

     

      "มินซอกจะเชื่อพี่ลู่หาน" เด็กหนุ่มว่านอนสอนง่ายมันทำให้ลู่หานรู้สึกอยากจะดูแลขึ้นไปอีก ความไร้เดียงสาของมินซอกดูยังไงก็ไม่มีพิษภัยอะไรกับใครแน่นอน

     

      "ดีมาก..เอาล่ะพี่อยากรู้ว่าวันนั้นที่มินซอกเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดบอกพี่ได้ไหม ว่าใครเป็นคนข่มขื่นอึนนา"

     

    ลู่หานยิงคำถามแรกใส่ปฏิกิริยาตอบโต้บ่งบอกได้ชัดเลยว่ามินซอกเห็นคนร้ายจริงๆเพราะดูลนลานและไม่อยู่นิ่งเฉยมือทั้งสองบีบแน่น ก้มหน้าหลุบตามองต่ำไม่ยอมสบตาลู่หานเลยด้วยซ้ำ

     

       "..มินซอก..ม..ไม่กล้าบอก"

     

     "ฟังพี่นะ..อยู่กับพี่ไม่มีใครมาทำอะไรมินซอกได้ บอกพี่มาพี่จะได้จับมันเข้าคุกไง"

     

    ลู่หานพยายามเกลี่ยกล่อมให้เด็กหนุ่มยอมปริปากพูดออกมา ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมินซอกหากเมื่อใดที่มินซอกพูดชื่อของฆาตกรออกมา คดีนี้ก็จะจบลงทันที

     

    มินซอกลนลานคว้ามือหนาของพี่ชายมาจับแน่นราวกับขอร้อง ลู่หานพยักหน้าก่อนจะดึงตัวเข้ามากอดปลอบขวัญ

     

    เด็กหนุ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ลู่หานฟัง ด้วยความรอบคอบลู่หานก็ไม่ลืมที่จะหยิบเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาบันทึกหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะสาวไปถึงตัวคนร้าย

     

      "อึนนาเป็นเพื่อนร่วมห้องของมินซอกเราจะเดินกลับด้วยเพราะกลับทางเดียวกัน แต่วันนั้นอึนนาหายไป มินซอกคิดว่าอึนนาคงไปหาผู้ชายคนนั้นที่อึนนาบอกว่าเป็นแฟนของเธอ มินซอกรอจนค่ำเลยตัดสินใจกลับก่อน

    มินซอกกำลังจะเดินกลับบ้าน พอเดินมาถึงด้านข้างโรงเรียนมันเป็นป่ารกๆมีตึกร้างที่สร้างไม่เสร็จอยู่หลังนึง มินซอกได้ยินเสียงผู้หญิงร้องครางร้องเจ็บขอให้ช่วยอยู่ในตึกนั้น มินซอกกำลังจะเดินเข้าดูก็ต้องชะงักฝีเท้าไว้เพราะมีอีกเสียงนึงที่มินซอกคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี..."

     

     

     'อึนนา..ไหนเธอบอกว่ารักพี่ เธอจะยอมพี่ทุกอย่างไม่ใช่หรอ..หื้ม'

     

    น้ำเสียงที่ฟังดูข่มขวัญจนเด็กสาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว ร่างกายที่เปลือยเปล่านอนขดอยู่ที่พื้น หลังจากที่ถูกกระทำชำเรามาไม่ต่ำกว่าสิบคน นี่ถือเป็นการถูกรุมโทรมเลยก็ว่าได้

     

     'ออกไปให้ห่างๆฉันไอ้คนสารเลว..ฮึก..มินซอกต้องรู้เรื่องนี้แน่!!!'

     

    เด็กสาวตะโกนใส่หน้าก่อนจะถูกร่างสูงใหญ่ย่างสามขุมเข้ามาให้มือบีบแก้มทั้งสองจนปวดกราม ก่อนจะลงโทษด้วยการเอามีดมากรีดลงที่ใบหน้าสวยจนเลือดซิบ

     

     'น้องชายของฉันมันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก..อย่าฝันเฟื่องไปหน่อยเลยเด็กดี เดี๋ยวจะทำให้เธอไปสบายเองนะ..หึหึหึ'

     

     ฟังไม่ผิดหรอกแฟนหนุ่มที่ว่าก็คือมินโฮ พี่ชายของมินซอกนั่นเอง

     

     '..ฮึก..ไม่นะพี่มินโฮ อย่าฆ่าอึนนานะ อึนนารักพี่มินโฮคนเดียว เรื่องของเราอึนนาจะไม่บอกใคร สัญญา สัญญาเลย..นะ..'

     

    เด็กสาวกลัวจนประสาทเสียมินโฮใช้ลิ้นเลียคมมีดจนเลือดออกพอให้รู้ว่าความคมของมีดแต่แตะเบาๆก็ได้เลือดแล้วถ้ามันทิ่มแทงเข้าไปในชั้นผิวหนังแต่ดันให้ลึกลงไปเรื่อยๆจะทรมานขนาดไหน

     

     'พี่เชื่อ..ว่าอึนนาจะไม่บอกใคร เพราะคนตายมันพูดไม่ได้อยู่แล้วนิจริงไหม..?'

     

      ฉึก!!! ฉึก!!! ฉึก!!!

     

     กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ม่ายยยยยย!!!!!!

     

     มินซอกที่แอบดูอยู่ก็รับยกมือขึ้นมาปิดปากแน่นเพื่อกลั้นดสียงจากความตกใจ มินโฮกำลังกระหน่ำแทงเข้าที่ร่างของอึนนา ร่างของเด็กสาวดิ้นพล่านด้วยความทรมานเลือดไหลไปตามพื้นจำนวนมาก อึนนาตาเหลือกตาค้างแดดิ้นราวกับปลาขาดน้ำ ก่อนจะขาดใจไปอึนนาเหลือบเห็นมินซอกที่แอบดูอยู่ จึงพยายามพูดให้เพื่อนรักของเธอพอจะอ่านปากได้

     

       'ช่วย..ฉัน..'

     

    มินซอกรีบหลบเมื่อมินโฮหันมองตามสายตาของอึนนา ถ้าถูกจับได้ละก็มินโฮไม่เอามินซอกไว้แน่เด็กหนุ่มวิ่งหนีสุดชีวิตออกมาจากตึกร้างนั่น

    แต่โชคกลับไม่เข้าข้างประจวบเหมาะเมื่อพวกเด็กแว๊นลูกสมุนของมินโฮดันขับรถสวนเข้ามาด้วยความเร็ว มินซอกได้แต่ภาวนาว่าพวกนั้นจะไม่เห็นเค้าและไปบอกมินโฮหรอกนะ

     

       "ไอ้ระยำเอ้ย!!!!"

    ลู่หานสบถหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด มินโฮนี่มันจิตใจต่ำทรามจริงๆฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ไหนจะหลอกใช้เค้าให้มาคอยบำเรอตัวเองอีก จะมีใครเลวได้เท่ามินโฮอีก

     

        "ฮึก..ฮือ..พี่จะจับพี่มินโฮเข้าคุกไหม.."

     

     "กฎหมายก็ต้องเป็นไปตามที่ถูกกำหนดไว้ คนทำผิดต้องได้รับการลงโทษอย่างสาสม มินซอกต้องเชื่อพี่นะ..พี่ชายของมินซอกใจร้ายเกินไป ถ้าไม่ทำตั้งแต่ตอนนี้ ก็จะต้องมีอีกหลายๆคนที่เป็นเหยื่อและต้องตาย มินซอกไม่สงสารคนพวกนั้นหรอ..?"

     

     เด็กหนุ่มคิดตามแต่ก็อดห่วงพี่ชายของตัวเองไม่ได้ แต่สิ่งที่ลู่หานพูดก็ถูกต้องทั้งหมด

    นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นทีไรมินซอกก็หวาดผวาขึ้นมาทันที จริงอย่างที่ลู่หานว่ามินโฮก็ไม่ต่างอะไรกับฆาตกรเลือดเย็น

     

       "ไม่ต้องคิดแล้วนะ..เรามานอนกันดีกว่า"

     

    มินซอกพยักหน้ารับก่อนจะให้ลู่หานอุ้มขึ้นไปวางบนเตียง

     

      "เชื่อใจพี่ไหม..พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่ชายของมินซอกเจ็บตัวโอเคไหม?"

     

     "จริงนะ..แค่จับเข้าคุกก็พอห้ามทำร้ายพี่มินโฮนะ"

     

        "ครับพี่สัญญา..นอนซะนะเด็กดี"

     


     

     

    P.C.Y.SIXTY1

     


     

     

     "เฉินเบาะแสทั้งหมดอยู่ในเครื่องบันทึกเสียงนี่ กูฝากมึงจัดการด้วย เดี๋ยวกูจะไปคุยกับไอ้หัวหน้าองค์กรสักหน่อย" ลู่หานว่า ก่อนจะตรงไปที่ห้องทำงานของชานยอลทันที

     

     

     ประตูของห้องทำงานถูกเปิดออก แขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาขัดจังหวะของชานยอลที่กำลังนั่งสอนการบ้านให้แบคฮยอนอยู่ที่โต๊ะทำงาน

     

     "ไงเพื่อน..กูว่าเก้าอี้ในห้องมึงก็ไม่ได้มีตัวเดียวนะ ทำไมต้องนั่งตักกันด้วยก็แต่ทำการบ้าน"

     

       "มีเรื่องอะไรก็รีบๆพูดมา"

     

         ชานยอลตัดบทด้วยความรำคาญที่ถูกลู่หานจิกกัดเบาๆไปหลายประโยค

     

    "กูได้เบาะแสจากมินซอกแล้ว คาดว่าคดีฆ่าข่มขื่นจะจบเร็วๆนี้แต่ถ้าเราจับคนร้ายคนนี้ได้ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะมันมีผลกับคดีของไอ้ฮีชอลอะไรนั่นด้วย"

     

        "มึงหมายความว่ายังไง?"

     

     "คนที่ฆ่าข่มขื่นเด็กผู้หญิงคนนั้น คือ ไอ้มินโฮ มันเป็นคนปล่อยไวรัสใส่ฐานข้อมูลของไอ้ไคเมื่อวานนี้.."

     

    ชานยอลกัดฟันกรอดไอ้สารเลวนี่เองที่ทำเรื่องทั้งหมดให้มันยุ่งยากไปหมดจนองค์กรของเค้าทำงานกันวุ่นวาย มินโฮคิดจะเล่นสงครามประสาทกับพวกเค้างั้นหรอ? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก หึหึ

     

         "เตรียมประชุมเลย เดี๋ยวกูจะลงไปเดี๋ยวนี้"
     

    "ส่วนนาย..รออยู่ฉันอยู่ที่นี่ ห้ามลงไปเพ่นพ่านเข้าใจใช่มั้ย?"

     

    ชานยอลสั่งแบคฮยอนให้รออยู่ในห้องเพราะรู้ดีว่าถ้าแบคฮยอนแสดงสีหน้าเป็นห่วงขนาดนี้ต้องตามลงไปแน่ๆ เค้าไม่อยากให้แบคฮยอนมารับเรื่องราวพวกนี้สักเท่าไหร่ สำหรับชานยอลแล้วแบคฮยอนยังคงเป็นแค่เด็กไร้เดียงสาคนนึงเท่านั้น

     

    เอาจริงๆก็ชานยอลก็แค่ห่วงแบคฮยอนเท่านั้นแหละ

     

     

     

    ห้องประชุมใหญ่ขององค์กร

     

     ภายในห้องมีภาพที่ฉายขึ้นบนจอโปรเทคเตอร์แผ่หราให้เห็นข้อมูลต่างๆของ'คิมมินโฮ'พี่ชายของมินซอก คนร้ายที่เป็นพิษเป็นภัยร้ายแรงกับองค์กรมากที่สุดในตอนนี้

     

     

     "คราวนี้มึงยังจะบอกให้ปล่อยมินซอกไปอีกหรือเปล่า" ลู่หานพูดขึ้นหลังจากอธิบายข้อมูลให้คนในเข้าใจ ก่อนจะพูดเหน็บแนมใครบางคนที่เคยโวยวายว่ามินซอกเป็นสปายหรือสายสืบบ้าบออะไรนั่น

     

     "พอจะมีหลักฐานหนาแน่นกว่านี้ที่พอจะช่วยให้จับมันให้ง่ายขึ้นมั้ยวะ ข้อมูลแค่นี้กูมองไม่เห็นทางเลยด้วยซ้ำ"

     

    คำพูดของไคทำให้เฉินไม่พอใจเล็กน้อย เค้ากำลังจะหยิบเครื่องบันทึกเสียงของลู่หานขึ้นมาแต่ก็ถูกสายตาของลู่หานห้ามไว้ซะก่อน

     

     "...ไคมึงกำลังดูถูกองค์กรอยู่นะ มึงไม่ต้องห่วง กูขอเวลาให้ทีมหน่วยข่าวกรองสองอาทิตย์รับรองว่ากูหาหลักฐานมาให้มึงได้แน่ๆ" ลู่หานพูดขึ้นก่อนจะรวบแฟ้มเอกสารมาถือไว้ในมือและหันไปพยักหน้าให้เฉินเป็นอันรู้กันว่าการประชุมมันจบลงแล้ว

     

     "แล้วกูจะคอยดู อย่าดีแต่ปากแล้วกัน" ไคว่า

     

     ลู่หานชะงักฝีเท้าไว้เมื่อคำพูดของไคไม่เข้าหูเอาซะเลย ดวงตากวางหันกลับมามองค้อนเพื่อนร่วมงานจอมปากเสียก่อนจะเดินออกไปเฉยๆไม่ได้ตอบโต้อะไร สิ่งที่สำคัญมากกว่าที่จะไปเถียงกับไคคือการหาข้อมูลเพื่อจบคดีนี้ต่างหาก

     

     "ว่าจะได้พักสักหน่อย สุดท้ายก็ไม่ได้นอนจนได้สินะลู่หาน" เฉินพูดขี้นเพราะรู้จักนิสัยของลู่หานดี วันนี้ลู่หานก็คงไม่ยอมนอนและคงจะนั่งหาข้อมูลไปเรื่อยๆจนเช้าอีกรอบแน่ๆ

     

     "นายก็เห็นว่าไอ้ไคมันกำลังดูถูกงานของเราอยู่และฉันยอมไม่ได้ที่จะให้เด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างมินซอกต้องมาถูกมันใส่ความแบบนี้"

     

     "แล้วทำไมนายถึงห้ามไม่ให้ฉันเปิดเครื่องบันทึกเสียงนั่นล่ะ"

     

    "เก็บไว้ในวันที่เรามีหลักฐานทุกอย่างพร้อม ให้ไอ้ไคมันได้สำนึกบ้างว่าไม่ได้มีมันที่เก่งอยู่คนเดียว เอาล่ะ...ฉันขอตัวขึ้นไปพักดีกว่า นายก็ควรพักนะเฉิน บ่ายสี่โมงฉันจะลงมาแล้วกัน"








    P.C.Y.SIXTY1

     




     

    หลังจากที่เหนื่อยล้ากับพฤติกรรมของแต่ละคนในองค์กรที่เคยรู้อะไรเอาเสียเลย อย่างไอ้ไคอย่างดีแค่...ปากดี ไม่ก็ใจร้อน ส่วนไอ้ชาน...ก็ดีแต่เผด็จการสินะ ลู่หานสลัดเรื่องปวดหัวออกจากสมอง และพยายามหาอะไรผ่อนคลายขึ้น เค้ารีบขึ้นมาที่ห้องพักของตัวเอง เค้าเป็นห่วงกลัวว่ามินซอกจะไม่คุ้นกับที่นี่และจะนอนไม่หลับ แต่ด้วยความอ่อนเพลียทำให้มินซอกหลับพริ้มไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

    ดวงตากวางมองดูหนุ่มน้อยไม่วางตา แปลกมากที่มินซิอกทำให้เค้ารู้ลึกโล่งใจและสบายใจเวลาที่ได้เห็นใบหน้าไร้เดียงสาเช่นนี้

    มือหนาลูบปอยผมของเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู มินซอกครางอือด้วยความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก อาจเป็นเพราะเค้าไม่เคยได้รับความอบอุ่นและความอ่อนโยนแบบนี้ ลู่หานได้แต่หวังว่ามินซอกจะฝันดีกว่าทุกคืนที่ผ่านมา ร่างสูงปิดโคมไฟที่หัวเตียงก่อนจะเลือกไปนอนที่โซฟาประจำตัวที่เค้าใช้นอนเป็นประจำ

     

     "ราตรีสวัสดิ์นะเด็กน้อย"

     

    ไม่ต้องห่วงนะ...ต่อไปนี้จะไม่มีใครมาทำร้ายนายได้อีกแล้ว ฉันสัญญา...

     

     

     

     

     

     

     

    ส่วนชานยอลเองก็รีบกลับขึ้นไปบนห้องของตัวเองทันทีหลังจากที่ประชุมเสร็จ เพราะเค้ากับแบคฮยอนทำการบ้านค้างไว้อยู่

     

    ชานยอลใส่รหัสเพื่อประตูห้อง ก่อนจะเปิดเข้าไปอย่างไม่รีบร้อนเท่าไร 

    แปลกมากที่ไฟในห้องปิดจนมืดไปหมด ชานยอลฉงนใจว่าแบคฮยอนคิดจะเล่นอะไรแผลงๆกับเค้าอีกสินะ

     

     "แบคฮยอน...รอฉันอยู่หรือเปล่า?"

     

        ".................."  ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆจากแบคฮยอน

     

    "นี่!...แบคฮยอนฉันไม่มีเวลามาเล่นกับนายหรอกนะออกมาได้แล้ว..."

     

        "..................." 

     

    แบคฮยอนก็ยังไม่ยอมออกมาอยู่ดี สงสัยชานยอลต้องใช้ไม้ตายที่จะทำให้แบคฮยอนยอมออกมา และชานยอลเชื่อว่ามันได้ผลแน่นอน

     

     "น้องบยอนครับ...พี่ชานไม่เล่นแล้วนะ ออกมาเถอะ ไม่อยากกอดพี่ชานคนนี้แล้วหรอ..หื้ม.."

     

    ถือว่าได้ผลที่แบคฮยอนยอมออกมาจากหลังผ้าม่านสีกรมท่าภายในห้องที่มืดมนของชายหนุ่มผู้เคร่งขรึมอย่างชานยอล แต่ที่แปลกคือแบคฮยอนไม่พูดหรือตอบอะไรเค้าค่อยเดินออกมาแต่ตรงเข้าหามาชานยอลอย่างเนิบช้าราวกับหุ่นยนต์ที่ถูกไขลานเอาไว้ ชานยอลยืนมองเด็กหนุ่มที่เข้าหาท่ามกลางความมืดอย่างฉงนใจ แบคฮยอนชอบเล่นอะไรแผลงๆอยู่เรื่อยเลยสินะ

     

     "คราวนี้จะแกล้งอะไรฉันอีกล่ะ เลิกเล่นเป็นเด็กๆได้แล้วนะแบค..ฮะ...ย..อน"

     

    ตุบ!!!

     

    โอ้ย!!!!

     

     ไม่ทันที่ชานยอลจะได้ตั้งหลักก็ถูกแบคฮยอนกระโดดเข้าใส่จนล้มลงทั้งคู่ 

     

     "ฮ่าๆๆๆๆๆๆฮ่าๆๆๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะของแบคฮยอนดังขึ้นทั้งๆที่เมื่อครู่ เค้ายังทำหน้านิ่งแววตาดูเกรี้ยวกราดยังไงชอบกล

     

     "เล่นบ้าอะไรของนาย! ลุกออกจากตัวฉันเดี๋ยวนี้ แล้วไปเปิดไฟ!" ร่างสูงสั่งด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแต่คิดหรอจะแบคฮยอนจะกลัว?

     

     "ขออยู่แบบนี้อีกแปปนึงนะฮ่ะ...พี่ชาน"

    ไม่รู้แบคฮยอนเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้อ้อนขนาดนี้ เด็กนี่ชอบทำตัวให้ตัวเองไม่ปลอดภัยอยู่เรื่อย นายคิดว่าฉันเป็นพระอิฐพระปูนหรือยังไงกัน คนอย่างฉันน่ะ เห็นเย็นชาแบบนี้ฉัน รับสัมผัสไว้กว่าที่คิดนะ

     

    นายมันไม่เปลี่ยนจริงๆ....


      "เป็นอะไรไป...

    เสียงที่อ่อนลงของชานยอลกระซิบถามแบคฮยอนที่ไม่ยอมลุกจากตัวเค้าเลย แถมยังกอดแน่นกว่าเดิมอีกด้วย

    "ก็เมื่อกี้...มีเบอร์แปลกๆโทรมาด้วยมันบอกว่า...."

    "ว่าไงนะ? ใคร? มันเป็นใคร นายเที่ยวแจกเบอร์โทรศัพท์ไปทั่วตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันบอกแล้วไงว่าที่นี่ห้ามคนนอกใช้โทรศัพท์ ถ้าจำเป็นจริงๆให้มาบอกฉัน !!!!"

     

    ไม่แปลกหรอกที่ชานยอลจะร้อนใจที่ได้ยินแบบนี้ เพราะมันเป็นกฎขององค์กรอยู่ที่ห้ามคนนอกเข้ามาด้านในถ้าไม่จำเป็น และที่สำคัญห้ามพกอาวุธและเครื่องสื่อสารเข้ามา

       "เค้าบอกว่าเค้าชื่อ...คิม ฮี ชอล"  

    แบคฮยอนเองก็เคยได้ยินชื่อนี้จากคุณแม่จุนมยอนอยู่บ่อยๆ  แบคฮยอนรู้แค่ว่า คิมฮีชอล เป็นเพื่อนสนิททางธุรกิจของคุณแม่ก็เท่านั้น

     

     เมื่อได้ยินชื่อนี้ ชานยอลก็ผลักแบคฮยอนออกจากตัวทันที...ก่อนจะลุกขึ้นกำมือแน่นด้วยความโกรธ!!!!

    " ไอ้สารเลวฮีชอล แกกำลังจะล้วงคองูเห่าอย่างนั้นหรอ"

        แล้วเจอกัน!!!!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×