(SF) Promise to come back สัญญาว่าจะกลับมา..(LUMIN ft.EXO) - (SF) Promise to come back สัญญาว่าจะกลับมา..(LUMIN ft.EXO) นิยาย (SF) Promise to come back สัญญาว่าจะกลับมา..(LUMIN ft.EXO) : Dek-D.com - Writer

    (SF) Promise to come back สัญญาว่าจะกลับมา..(LUMIN ft.EXO)

    "พวกนายจะร้องเพลงLuckyโดยที่ไม่มีฉันงั้นหรอ" บุคคลปริศนาที่มาเยือนกลางคอนเสิร์ตของพวกเรา เค้าเป็นใครกัน!

    ผู้เข้าชมรวม

    1,356

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    1.35K

    ความคิดเห็น


    29

    คนติดตาม


    51
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 มี.ค. 58 / 18:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น





    PROMISto come back
    10 + 2 = 12 



    E X O





    WE ARE ONE


     

     




     

    140705 บทสัมภาษณ์จากHAPPY CAMP

     

    พี่น้องคืออะไร?

    เทา : พี่น้อง ในคำๆนี้มีความหมายมากเลยครับ

    แบคฮยอน : พวกเขาเหมือนการเป็นของน้ำ ถ้าไม่มีEXO ผมก็คงอยู่ไม่ได้

    เซฮุน : ฮยองเป็นสิ่งที่ผมต้องการและจำเป็นกับผมมากๆครับ

    ลู่หาน : เป็นคนสำคัญที่สุดนอกจากครอบครัว

    อี้ชิง : พี่น้องก็คือ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ผ่านความยากลำบากไปด้วยกันได้ และคนที่ช่วยเหลือกันในยามวิกฤติ ก็คือพี่น้อง

     

    ช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุด..

    ชานยอล : ช่วงเวลาที่ซาบซึ้งที่สุดคือตอนที่EXOอยู่ด้วยกันและได้รับรางวัลใหญ่เป็นครั้งแรก

    ลู่หาน : ตอนที่ได้รับรางวัลใหญ่ วินาทีที่ประกาศว่าคนที่ได้รางวัลคือEXO ในสมองตอนนั้นมันโล่งไปหมดเลยครับ น้ำตาก็แทบจะไหลออกมาอยู่แล้ว แต่ก็กลั้นไว้ ไม่ให้มันไหลลงมาแมนๆครับ

     

    มีพี่น้องที่อยู่เคียงข้างกัน เดินบนเส้นทางเพื่อรับรางวัล ก็ไม่มีวันโดดเดี่ยว

     

    เซฮุน : เพราะว่าในEXOตอนนี้มี11คน ก็จะมีปาร์ตี้วันเกิดทั้งหมด11ครั้งไม่ขาดไปสักคนเดียว เราจะจัดมันด้วยกัน

    แบคฮยอน : แต่ไหนแต่ไรไม่เคยลืมที่จะจัดวันเกิดให้กันเสมอ

    ลู่หาน : ตอนที่ถึงวันเกิดของเมมเบอร์ทุกคน พวกเค้าจะไปซื้อเค้กมาไว้ล่วงหน้า เสร็จแล้วก็แอบไว้ พอผ่านเที่ยงคืนไป ก็จะฉลองวันเกิกให้เขา

    เฉิน : ตอนที่เตรียมปาร์ตี้วันเกิดให้ผม ตอนนั้นซาบซึ้งใจที่สุดเลยครับ

    ลู่หาน : มีความรู้สึกที่อยากจะร้องไห้ด้วยครับ

     

    เค้กที่กินด้วยกันในวันเหล่านั้น หวานที่สุดในความทรงจำเสมอ

    คำอธิษฐานเหล่านั้น จะทำให้กลับมาเป็นเหมือนก่อนได้ไหม

     

    เกี่ยวกับการเริ่มต้นใหม่ของ11คน

    เลย์ : ช่วงนี้เราผ่านเรื่องที่ไม่ค่อยดีมา และเรื่องในครั้งนี้ จริงๆแล้วสำหรับพวกเราทุกคนมีผลกระทบอย่างมาก

    เทา : คนที่ไปคนนั้นเป็นเมมเบอร์ของEXO-M

    ลู่หาน : ผลกระทบแน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้วครับแต่ว่า..จะพูดยังไงดีล่ะ..

    ซูโฮ : ตอนนั้นเป็นช่วงก่อนคอนเสิร์ต เราซ้อมกันเยอะมากแล้วก็มีตารางเยอะมาก

    เทา : ตอนหลังจากที่ผมเข้าไปในห้องซ้อม ทุกคนเหงื่อออกกันเยอะมาก แต่บนใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้ม

    ซ้อมเต้นกันอย่างเข้มแข็งในทุกๆท่า เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมรู้ดีว่าในใจทุกคนเหนื่อยมาก ไม่มีความสุขแล้วก็รู้สึกไม่ดี

     

    เคยพูดไว้ว่าจะอยู่ด้วยกัน ทำไมปล่อยมือกันแล้วล่ะ?

     

    เทา : เพราะไม่มีทางที่จะหวนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว พวกเราก็เลยยิ่งหมดหวัง ยอมแพ้ไม่ได้

    ซูโฮ : ยิ่งเราเหนื่อย ก็ยิ่งเพิ่มพลังให้แก่กันและกัน

    ลู่หาน : ตราบใดที่ทุกคนเข้มแข็ง ก็น่าจะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้

    เทา : ผมอยากจะขอบคุณพวกเขาจริงๆที่ยังอยู่กับEXOยังอยู่เคียงข้างผมเสมอ ....ครับ ผมอยากขอบคุณพวกเค้าที่ไม่ออกจากวงไปไหน

     

    ขอบคุณพวกนายที่ยังอยู่ตรงนี้...

     

    ซิ่วหมิน : ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตอะไรจะเกิดขึ้น

    ไค : ในอนาคตตอนที่แก่แล้ว อาจจะเต้นไม่ได้แล้ว ร้องเพลงไม่ได้แล้ว

    ความดังก็อาจจะลดลงแล้ว แต่ผมก็หวังว่าจะเป็นเมมเบอร์ของEXOไปจนตอนสุดท้าย

    ซูโฮ : ถึงแฟนๆทุกคนที่ติดตามพวกเรามาตลอด ถึงจะเหลือแฟนคลับแค่คนเดียว พวกเราก็ยังจะแสดงอยู่บนเวทีต่อไป

    เลย์ : ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ด้วยกัน ทุกอย่างก็เป็นไปได้ ความเป็นพี่น้องจะคงอยู่ตลอดไป

    ซิ่วหมิน : พี่น้อง!

    เฉิน : EXO

    ลู่หาน : พี่น้องEXO

    ชานยอล,แบคฮยอน เซฮุน : ซารังฮาจา

    ซูโฮ : WE ARE ONE!EXOซารังฮาจา

    เทา : รักพวกนายตลอดไป ฉันรักนาย

     

    EXO อยู่ด้วยกันตลอดไป

     

    ขอบคุณซับไทยจากบ้านSALYNNAIN










    언제나 자리에 기다려준

    เมื่อไหร่ คุณที่รอผม อยู่ในที่แห่งนั้น
    팔로 감싸안아준 고마운

    คุณ โอบกอดผม และขอบคุณ

    절대로 잊지않을거야

    ผมจะไม่มีวันลืมเลย

    행복하게 만들어줄거야

    สร้างความสุขขึ้นมา

    하나란 말처럼

    ให้เหมือนกับ We Are One





    ********
    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      Promise to come back

       



      นิ้วเรียวยาวกระแทกคีย์บอร์ดและเคาะโต๊ะสลับกันอย่างใช้ความคิด ดวงตากวางมองภาพที่ปรากฎอยู่ในdesktopของตนอย่างชั่งใจก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับไปหาเพื่อนสนิทที่นั่งเช็คตารางงานอยู่ด้านหลัง

       

       

          "มีงานอะไรสำคัญมั้ย?"

       

      "ถึงมีมึงก็บอกให้กูcancelอยู่ดี"

       

         "รู้ก็ดี..จัดการให้กูด้วย"

       

       "กูเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ไม่เอา first classไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกไปแบบคนธรรมดา  อ่อ!เกือบลืม..นี่บัตรคอนฯส่วนเรื่องรัศมีการมองเห็นมินซอกอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับดวงของมึงแล้วล่ะ.." เหล่าเกาว่าก่อนจะยื่นบัตรคอนฯให้ลู่หาน

       

        "กูมั่นใจว่ามินซอกจะต้องมองเห็นกูแน่ๆ"

       

       

       ร่างสูงพูดขึ้นด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ทำไมเค้าจะไม่รู่ว่าคนตัวเล็กชอบไปเดินเล่นฝั่งไหนโซนไหน ลู่หานยักไหล่อย่างไม่ยีหระก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่เอี่ยมมากดโทรออกเบอร์ที่เพื่อนสนิทเชื้อชาติเดียวกัน

       

        (ไงลู่หานมีอะไรหรือเปล่า..) ดูเหมือนปลายสายจะดูยุ่งๆแต่เอาเถอะ ขอเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

       

        "นายจะไปหรือเปล่า พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วนะ" ลู่หานเอ่ยถามสั้นๆเพราะปลายสายก็รู้ดีว่าเค้าหมายถึงที่ไหน

       

       (ฉันหรอ..ไม่รู้สิฉันคงไม่กล้าไปสู้หน้าเด็กพวกนั้นหรอก นายก็รู้ดีว่าเพราะอะไร...) อี้ฝานพูดแค่นั้นเป็นอันเข้าใจไม่จำเป็นต่อความให้ยาวไปมากกว่านี้

       

        จะกล้าไปสู้หน้าหรอ..ทั้งๆที่ฉันเดินออกมาตอนที่พวกเรากำลังจะก้าวไปสู่ความฝันด้วยกัน ฉันทิ้งให้พวกนายต้องเหนื่อยปรับเปลี่ยนผังและซ้อมกันอย่างหนักเพื่อทดแทนในส่วนของฉัน แล้วอย่างนี้ยังจะให้ฉันไปอีกหรอ? แม้ว่าฉันจะคิดถึงคนๆนึงมากก็ตาม

       

        "แล้วไม่คิดถึงอี้ชิงหรือไง..." คำถามของลู่หานเหมือนฟ้าฟาดตรงกลางใจของคริส เค้ารู้ดีว่าคริสก็ไม่ต่างอะไรจากเค้าที่คิดถึงมินซอกอยู่ตลอดเวลา

       

       "นายไม่อยากเห็นลักยิ้มสวยๆของอี้ชิงแล้วหรอ ถ้าเป็นฉันน่ะฉันจะไม่ลังเลแบบนาย ฉันจะไปหาคนที่ฉันรัก.."

       

       (อืม..ไว้ฉันจะลองคิดดู ขอเคลียร์คิวก่อน.)

       

       

         แกร็ก..

       

       หลังจากวางสายจากอี้ฟาน ลู่หานก็จัดการเก็บกระเป๋าและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นเล็กๆน้อยๆเพื่อสะดวกในการเดินทาง

       

        ฉันคิดถึงนายนะมินซอก...

       

       ความคิดถึงของลู่หานมันมีขีดจำกัดจริงๆเค้าตกลงกับมินซอกไว้ว่าในช่วงนี้จะไม้โทรไปรบกวนเวลาซ้อมและกำชับให้คนตัวเล็กพักผ่อนเยอะๆแต่มันก็ทนไม่ได้อยู่ดี ฉันรอถึงพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว..

       

          "เปลี่ยนไฟลท์! กูจะไปคืนนี้"

       

         ฉันเชื่อว่านายก็อยากเจอฉันเหมือนกัน...

       

        ร่างสูงสั่งเพื่อนสนิทที่ทำหน้าที่เสมือนเมเนเจอร์ส่วนตัวให้จัดการเตรียมตั๋วเครื่องบินที่มีจุดหมายคือ กรุงโซล โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

      เพื่อนของเค้ายังรู้ใจเสมอว่าเพื่อนตัวดีของเค้าจะเดินทางไปที่นั่นด้วยจุดประสงค์อะไร

       

       

        พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายของคอนเสิร์ต ลู่หานทนดูต่อไปไม่ได้แล้วต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ร่างสูงนั่งดูแฟนแคมทำตัวเป็นแฟนคลับนั่งสังเกตและจับผิดศิลปินอยู่หน้าdesktop เห็นมินซอกกับเจ้าคยองซูสบตากันแล้วนายก็เขินเนี่ยนะ!...หึ้ย..นายจงใจทำให้ฉันหึงชัดๆ เปาจื้อ!

       

       


       

       
       

      Promise to come back



       

       

       

       

       

       

        ร่างสูงเดินทอดน่องออกมาจากgateหลังจากเครื่องแลนดิ้งที่สนามบินอินชอน ที่เค้าคุ้นเคยเป็นอย่างดีเมื่อคราวที่อยู่กับพี่ๆน้องๆทั้งสิบสองคน

      ดวงตากวางมองทอดไปรอบๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่ว่าจะดึกแค่ไหน จะต้องมีแฟนคลับมาออกันจนแน่นสนามบินในมือจะมีจดหมาย ถุงของขวัญ ตุ๊กตาน่ารักๆและเสียงตะโกนเรียกโอปป้าอยู่ไม่ไกล บางคนชูกล้องถ่ายรูปค้างไว้ตลอดเวลา บางคนชูป้ายไฟ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่พวกเธอนำมาคอยซัพพอร์ตพวกเรา

      บางคนพยายามจะยื่นของขวัญให้แต่ก็ต้องโดนการ์ดกันออกไป บางคนถึงกับหกล้มบาดเจ็บ บางคนร้องไห้...แต่พวกเธอก็อดทนเพื่อที่จะได้เจอพวกเรา ในนามEXO-L กลุ่มแฟนคลับที่รักพวกเรามากกว่าความปลอดภัยของตัวเอง

       

       ลู่หานไม่มั่นใจนักว่าการพรางตัวให้ดูกลมกลืนกับคนอื่นจะได้ผลหรือเปล่าแต่ก็ต้องมีคนที่จำเค้าได้อยู่ดี

       

       ลู่หานรีบเดินไปที่ประตูทางออกอย่างเงียบๆและพยายามไม่ให้เป็นที่สังเกตและถูกจับตามอง

       

       "โล่งแหะ.." ร่างสูงพึมพำเมื่อรู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก ไม่ต้องถูกเบียดแบบเมื่อก่อนแต่เค้ากลับไม่ชินกับมันเสียเลย

       

       

        การมาของลู่หานครั้งนี้เป็นความลับสุดยอดที่ถูกปกปิดได้ด้วยอำนาจเงินหยวนที่เค้ามีจัดการมันซะก็สิ้นเรื่อง

       

       ร่างสูงมาถึงโรงแรมด้วยการนั่งแท็กซี่ โรงแรมที่ลู่หานเข้าพักเป็นโรงแรมเล็กๆไม่ใช่โรงแรมห้าดาวหรูหรา ห้องพักถูกจองด้วยชื่อของเพื่อนสนิทอีกคนของเค้า จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับการเข้าพักในครั้งนี้

       

      ลู่หานต้องการใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา

      ไม่ใช่ไอดอลหรือนักแสดงที่ชื่อลู่หาน

      ตอนนี้เค้าคือลู่หาน ที่กำลังจะผันตัวเองไปเป็นแฟนคลับของEXO

       

      ลู่หานชายหนุ่มที่มาเกาหลีเพื่อจะมาดูคอนเสิร์ตของศิลปินโปรดของตัวเอง

      เค้าเป็นแฟนคลับตัวยงของเอ็กโซเชียวนะ

      และแน่นอนว่าเค้าเมนซิ่วหมิน ลู่หานกำลังจะทำตัวเป็นซาแซงแฟนด้วยการโทรก่อกวนหนึ่งในสมาชิกวงเอ็กโซ

       

        (ฉันซ้อมอยู่ มีอะไรหรือเปล่า..)

       

       "บนเวทีที่ไม่มีฉัน..นายคิดถึงฉันหรือเปล่า"

       

        (คิดถึงสิ...ทำไมถามแบบนี้ล่ะ..)

       

       "นายเคยอยากจะร้องไห้หรือเปล่า เวลาร้องเพลงLuckyโดยที่ไม่มีฉัน..."

       

        (ฉันร้องไห้ไม่ได้หรอก...ถึงอยากจะร้องก็ตาม)

       

       "ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้นายร้องเพลงนั้นโดยที่ไม่มีฉันอีกแล้ว.....ฉันคิดถึงนายนะเปาจื้อ"

       

        (หมายความว่ายังไง ลู่หานเดี๋ยว..! อย่าวางสายใส่ฉันนะ ย่าาาห์!!!)

       

       

        ตู๊ดดดด....ตู๊ดดดด...

       

       

       มินซอกยังคงงงกับสิ่งที่ลู่หานบอกเค้าคงไม่ทำอะไรบ้าๆแบบนั้นหรอกนะ! ได้แต่สงสัยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เวลานี้เค้าควรจะใส่ใจเรื่องซ้อมเพราะยังไงคอนฯก็สำคัญกว่า

       

         ฉันคิดถึงนายนะเปาจื้อ

       

       "ฉันก็คิดถึงลู่เก่อ..." คนตัวเล็กพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะรีบถูกเจ้าตัวแสบมาสะกิดให้ตกใจ

       

        "ฮยองงงง!!!"

       

       "โอ๊ะ! ฉันตกใจหมดเลย เล่นอะไรเป็นเด็กไปได้นะเทา" มินซอกหันไปปรามน้องที่เค้ามาขัดจังหวะที่เค้ากำลังนึกถึงกำลังใจดีๆจากอีกคน

       

        "ฮันแน่~ ลู่หานฮยองโทรมาแน่ๆเลยยิ้มแบบนี้"

       

       "อย่าพูดสิ หยุดพูดนะ!" มินซอกที่เขินอายอยู่เสมอไม่ว่าจะถูกแซวเรื่องอะไร ถึงกับเดินหนีน้องชายตัวแสบไปเสียดื้อๆแก้มเนียนขาวแดงระเรื่อขึ้นเมื่อถูกเทาจับไต๋ได้

       

          เจ้านี่จะรู้มากเกินไปแล้วนะ ไอ้แสบ!

       

       

       ทั้งสิบคนร่วมกันซ้อมอย่างหนักเพราะเวลาก็ใกล้เข้ามาทุกที่แล้ว ตอนนี้หน้าฮอลล์คงจะมีแฟนคลับมารอกันอยู่ก่อนแล้วแน่ๆนับถือใจของพวกเธอจริงๆ มันแสดงให้เห็นว่ารักพวกเรามากขนาดนี้

       

       

       อีกด้านของซาแซงแฟนที่บินตรงจากปักกิ่งก็จัดการติดต่อใช้เส้นสายด้วยอำนาจมืดจัดการให้ได้เข้าไปในคอนฯอย่างปลอดภัยและไม่ให้ใครจำได้

       

       การปลอมตัวเป็นผู้หญิงมันยากกว่าที่ลู่หานคิดไว้ซะอีก นึกว่าจะทำได้ง่ายๆเหมือนในละครแค่ใส่วิกแต่งหน้าเท่านั้นคนก็จำไม่ได้แต่นี่มันชีวิตจริง

       ลู่หานมองอุปกรณ์พรางตัวในกระเป๋าเดินทางที่เหล่าเกาเป็นคนจัดการเปลี่ยนให้อย่างหนักใจ เค้าเกลียดการถูกล้อว่าสวยเหมือนผู้หญิงที่สุด

      เค้าคือซังนัมจาเลยนะ แต่ถ้าเข้าคอนในร่างของลู่หานแค่เห็นออกจากโรงแรมก็มีคนจำได้แล้ว

      ถ้าไม่ใช่เพราะมินซอก ลู่หานจะไม่ยอมใส่วิกบ้าๆนี่กับเสื้อผ้าผู้หญิงพวกนี้แน่

       














       

       

       

       15 March 2015

       

       ลู่หานตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ หรือจริงๆเค้าแทบจะไม่ได้นอนเพราะมัวแต่คิดมากเรื่องวิกผมบ้าๆนั่นทั้งคืน

       

       "ถ้าไม่ใช่เพราะเปาจื้อละก็ ซังนัมจาอย่างฉันไม่มีวันทำเรื่องบ้าๆแบบนี้แน่!"

       

       หลังจากอาบน้ำเสร็จลู่หานก็ออกมานั่งทำใจอยู่นานสองนานก่อนจะหยิบวิกผมทุเรศๆนั่นมาใส่

      มิน่าแฟนคลับถึงชอบเอารูปเค้าไปeditเป็นสาววัยใสบ้างล่ะ สาวเซ็กซี่บ้างล่ะ

       เงาสะท้อนในกระจกมันบ่งบอกว่าลู่หานดูสวยจริงๆหากเป็นผู้หญิง

       

       "ให้ตายเถอะตลกเป็นบ้า" ลู่หานแค่นหัวเราะก่อนจะจัดวิกให้เข้าที่และหยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้มาสวมใส่

       

       

       ประตูลิฟท์ถูกเปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาวที่เดินเก้ๆกังๆอย่างไม่คุ้นชินกับลุคใหม่ของตัวเอง ใบหน้าหวานที่มีแว่นตากรอบหนาปิดบังพรางใบหน้าเอาไว้กับวิกผมเห่ยๆและเสื้อผ้าผู้หญิงที่ใส่แล้วดูตลกพิลึก

       

        "ฉันกลับไปเป็นลู่หานคนเดิมได้มั้ยเนี่ย" ร่างสูงบ่นกับตัวเองเค้ารับสภาพตัวเองตอนนี้ไม่ได้ หากคราวนั้นเค้าถูกเชื้อเชิญไปเต้นเพลงsomethingแบบที่ซูโฮทำละก็ เค้าต้องบ้าตายแน่ๆ

       

       ลู่หานโบกแท็กซี่หน้าโรงแรมเพื่อไปที่สถานที่จัดคอนเสิร์ต ร่างสูงก้าวขาลงจากรถแท็กซี่ด้วยความประหม่า เค้ากลัวว่าคนจะจับได้เพราะตัวเค้าเองนี่แหละที่ไม่ทำความคุ้นชินกับวิกผมนั่นและฝืนฉีกยิ้มกว้างๆเข้าไว้
       

       ตอนนี้มีแฟนคลับจำนวนมากที่มาต่อแถวซื้อfan goodลู่หานเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าบรรยากาศข้างนอกเป็นเช่นไร เพราะถ้าตอนนี้เค้ายังเป็นลู่หานแห่งEXOเค้าก็คงกำลังซ้อมอยู่ข้างในไม่ได้ออกมาเดินเบียดกับแฟนคลับแบบนี้แน่

       

        "นี่ฉันต้องไปต่อแถวซื้อแท่งไฟหรือเปล่าเนี่ย.." แค่เห็นแถวที่ยาวไปจนสุดลูกหูลูกตาลู่หานก็ท้อเสียแล้ว ไม่มีก็คงไม่เป็นไรมั้ง...เสี่ยงต่อการถูกจับได้อีกด้วย

       

        "อึดอัดชะมัด!" ลู่หานอึดอัดเพราะเค้าใส่เสื้อผ้าอยู่ข้างในอีกชุดนึง ด้วยความที่ลู่หานเป็นชอบแต่งตัวสบายๆเสื้อยืดกางเกงขาสั้นการแต่งตัวแบบนี้จึงทำให้อึดอัดเป็นธรรมดา

       

       

        ถึงเวลาที่ได้เข้ามาในฮอลล์สักทีสินะร่างสูงมองไปรอบๆจนแถวจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หากวันนั้นเค้าไม่ได้ตัดสินใจที่จะเดินออกมา ในวันนี้เค้าก็คงได้ยืนอยู่บนเวทีนั้นเช่นกัน แต่ตอนนี้เค้ากลับทำได้แค้เป็นแฟนคลับที่นั่งอยู่ในโซนของตัวเองและมองดูเมมเบอร์ทั้งสิบแสดงอยู่บนเวทีอย่างสง่างาม

       

        การแสดงเริ่มต้นด้วยการเปิดOpening VCR เกี่ยวกับแสดงพลังของเมมเบอร์เริ่มที่พลังแห่งของแบคฮยอนที่มอบแสงสว่างแก่ดาวฤกษ์ที่มืดมนเมื่อครู่จนเผยให้เห็นผู้ควบคุมแรงสั่นสะเทือนอย่างดีโอที่ทำให้พื้นเกิดแผ่นดินไหว จนผงธุลีลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศ พลังวายุลมของเซฮุนก็พัดหล่อหลอมให้กลายเป็นรูบิคหกเหลี่ยมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของEXO ก่อนจะพลังลมที่แรงดั่งพายุจะพัดให้รูบิคนั้นลอยออกไปไกลก็ได้พลังของเทาหยุดเวลาไว้เสียก่อน รูบิคที่ดูอ่อนแอเกินไปจึงต้องใช้พลังนกฟินิกซ์เพลิงของชานยอลปะทุขึ้นช่วยหลอมให้กลายเป็นโลหะที่แข็งแกร่ง และการหล่อหลอมต้องเป็นไปตามขั้นตอนโดยใช้พลังแห่งธาตุน้ำของซูโฮซัดสาดใส่เพื่อให้เกิดการแข็งตัว ท้องฟ้าที่แปรปรวนจนเปลี่ยนสีมีพลังแห่งสายฟ้ามาฟาดใส่จนรูบิคที่ยังไม่สมบูรณ์ดีนั้นผิดรูป ไอความร้อนจากเพลิงไฟและสายฟ้าฟาดนั่นยากแกการเยียวยารักษาให้คงเดิม จึงต้องใช้พลังของซิ่วหมินมาทำให้รูบิคหกเหลี่ยมนั้นถูกแช่แข็งจนเย็นยะเยือกและดับความร้อนให้ทุเลาลง ก่อนจะได้พลังเยียวยารักษาของเลย์มาทำให้รูบิคกลับมาอยู่ในสภาพเดิมและแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม จากนั้นจึงส่งต่อให้ผู้มีพลังเทเลพอร์ตอย่างจงอิน เพื่อใช่เป็นการเบิกทางให้ทุกคนได้ลงจากEXO PLANETเพื่อมาสร้างความสุขให้เหล่าEXO-L

       หากพวกเรายังอยู่กับครบพลังของคริสก็คงจะเท่ที่สุด และในระหว่างที่ดูลู่หานก็เผลอแสดงพลังของตัวเองออกมาอยากลืมตัว...

       

        "พวกนายพัฒนากันเยอะขึ้นจริงๆ" ลู่หานพูดขึ้นกับตัวเองเพียงแผ่วเบาเค้าดีใจที่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้และมองดูเมมเบอร์ทั้งสิบคนที่เค้ารักทำได้ดีขนาดนี้

       

      การแสดงเริ่มต้นด้วยเพลงOverdose เวอร์ชั่นRemix ทุกคนยังเต้นได้แข็งแรงและพร้อมเพรียงกันเสมอ ลู่หานที่นั่งดูอยู่ก็อยากจะลุกมาเต้นซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย โดยเฉพาะท่าประจำที่เค้าชอบทำคือเอามาไขว้กันเป็นหัวใจ

        การแสดงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆลู่หานร้องตามได้ทุกเพลงอย่างลืมตัว พลางหลับตานึกภาพว่าเค้ายืนอยู่เวทีนั้นข้างๆกันกับคนรู้ใจ

       

           คิมมินซอก

       

          ปฏิเสธไม่ได้เลยเพลงใหม่ของพวกเค้าเป็นเพลงที่ดีที่สุด เพราะที่สุดแม้ลู่หานจะนึกเสียดายที่ไม่ได้อยู่ร้องเพลงให้ด้วยกัน ซ้อมเต้นท่าใหม่ด้วยแต่เค้าก็ไม่เสียใจ เพราะเมมเบอร์ทั้งสิบคนไม่ได้ทำให้เค้าผิดหวัง พวกเค้าทำได้ดีเสมอแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับลู่หานไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่าการได้มองเห็นความสำเร็จของพวกเค้า

       

        แค่นั้นก็พอแล้วจริงๆ...

       

       การแสดงของพวกเค้ายังดำเนินมาจนถึงVCR my turn to cry  ร่างสูงถึงกับยิ้มออกมาโดยไม่รู้ เจ้าเด็กพวกนั้นยังขี้เล่นเหมือนเดิมเลยนะแต่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษก็คงจะเป็นคนที่ใช่ชุดพ่อครัวขี้เล่นคนนั้น ทีตอนฉันอยู่นายยังไม่เคยทำแซนวิชให้ฉันกินเลยนะ ใจร้ายจริงๆเลย มินซอก!

       

       นายนี่น่ารักไม่เปลี่ยนจริงๆฉันไม่แปลกใจเลยทำไมแฟนคลับถึงได้หลงรักนาย ขนาดฉันเองยังทนไม่ไหวเลย

       

        หลังจากVCRจบก็เป็นเพลงThe Starลู่หานเผลอลุกขึ้นยืนอย่างลืมตัว ได้ยินแล้วมันก็อดนึกถึงไม่ได้แต่ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาSoloเพลงนี้นี่นา แต่ตอนนั้นฉันทุ่มกันการซ้อมมากเลยนะ ยิ่งตอนที่เปิดเสื้อนี่เขินสุดๆเลยล่ะ

       

        ลู่หานยังดูการแสดงต่อมาเรื่อยๆเค้ายังร้องตามได้ทุกเพลงเหมือนเดิม จนมาถึงVCRก่อนการแสดงเพลงPeter Panยังยิ่งทำให้ลู่หานรู้สึกหงุดหงิด มินซอก..นายไปจิ้มแก้มซูโฮแล้วแกล้งหลับต่อแบบนั้นได้ยังไง นาย..จะน่ารักเกินไปแล้วนะ ขนาดแก้มฉันนายยังไม่เคยจิ้มเลย

       

        ลู่หานคนนี้กำลังหึง..

       

       แล้วหมวกสีแดงนั่นคิดว่าใส่แล้วพวกนายน่ารักหรือไงเล่าถ้าฉันได้ใส่บ้างละก็ ฉันน่ารักมากกว่าพวกนายแน่ๆ

       

       ลู่หานคนนี้กำลังพาลและหลงตัวเอง...

       

       เวลาของลู่หานใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสินะหลังจากจบเพลงXOXOก็จะเป็นเพลงLucky ทำไมผมถึงรู้น่ะหรอ..

       

       ก็ใช้เส้นสายและอำนาจเงินหยวนที่ผมมีล่วงรู้คิวการแสดงทั้งหมดน่ะสิและสิ่งที่ผมต้องการอีกอย่างคือไมโครโฟนประจำตัวของผมที่ท้ายด้ามมีสีม่วงหลังจากที่เพลงนี้จบสต๊าฟก็จะนำมาให้ผมและทุกอย่างก็จะ....

       

       เสียงเพลงLuckyดังขึ้นเมมเบอร์ทั้งสิบคนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังฉากกั้นบางๆที่สามารถมองเห็นเป็นเงาได้เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับได้อย่างล้นหลาม

       

        "ย่าาาห์" ลู่หานตะโกนขึ้นอย่างลืมตัว

      มินซอก!นายกล้าถอดเสื้อต่อคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันงั้นหรอ ให้ตายเถอะ!ฉันรอไม่ไหวแล้วนะ

       

         ลู่หานคนนี้กำลังหวง...

       

       หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเหล่าเมมเบอร์ก็วิ่งออกมาร้องเพลงLuckyกันต่อด้วยชุดที่มีสายเอี๊ยมคาดกับเสื้อสีชมพูสดใส แต่จู่ๆเสียงดนตรีก็เงียบไปพร้อมกับไฟที่ดับลงทั้งฮอลล์ เมมเบอร์ทุกคนถึงกับงงไปตามๆกันเพราะตามคิวแล้วไม่ได้บอกว่าจะมีการดับไฟลงแบบนี้

       

       แสงสปอร์ตไลท์สว่างจ้าส่องไปที่โซนของแฟนคลับจนเผยให้เห็นบุคคลปริศนาที่ยืนอยู่โดยมีสต๊าฟกำลังเซตไมค์ให้อยู่ตรงนั้น

       

        นี่มันอะไรกัน...

       

       "พวกนายจะร้องเพลงLuckyโดยที่ไม่มีฉันงั้นหรอ"  

       

      ลู่หานถอดวิกผมและเสื้อผ้าสำหรับการปลอมตัวออกและเปลี่ยนเป็นชุดที่ใช้สำหรับการแสดงเป็นชุดเสื้อสีชมพูเหมือนกับของเมมเบอร์คนอื่นๆ

       

        ใช่แล้วล่ะ...บุคคลปริศนาคนนั้นคือ ลู่หาน

       

       เมมเบอร์ทุกคนต่างตกใจและแปลกใจในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นอย่างนั้นก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ไม่คิดว่าลู่หานจะทำอะไรแบบนี้ ทุกคนกำลังร้องไห้เพราะความดีใจที่ฮยองของพวกเค้ากลับมา แม้แต่แฟนคลับเองก็ยังร้องไห้ไปด้วย

      แต่ที่ลู่หานสนใจเป็นพิเศษคือปฏิกิริยาของคนๆนึง ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้เค้าผิดหวัง

       

        มินซอกกำลังร้องไห้...

       

        ลู่หานเดินตรงไปยังstageพร้อมกับเสียงตะโกนร้องเรียกชื่อของเค้าและเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งฮอลล์

       

       "ลู่หาน!"

       

       "ลู่หาน!"

       

       "ลู่หาน!"

       

       กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

       

       เมมเบอร์ทั้งสิบคนมาต้อนรับลู่หานขึ้นไปบนstageด้วยกัน เสียงเอฟเฟคและดนตรีเพลงLuckyดังขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ทั้งสิบเอ็ดคนบนเวทีร่วมกันร้องต่อในท่อนที่ร้องค้างกันอยู่เมื่อครู่

       

        So lucky have you ~

      (โชคดีจริงๆที่ผมมีคุณอยู่)

       

      ร่างสูงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของบุคคลที่เป็นแรงบรรดาลใจที่ทำให้เค้ากล้าที่จะกลับมายืนตรงนี้อีกครั้ง

       

        คิมมินซอก

       

       ก่อนจะร้องท่อนที่ตัวเองคุ้นเคยกับคนตรงหน้า..

       

       So lucky to be your love~ i am umm..

      (โชคดีจริงๆที่ได้เป็นที่รักของคุณ ผมโชคดีจริงๆ)

       

       เพียงแค่นั้นมินซอกก็สวมกอดลู่หานด้วยความคิดถึงทั้งหมดที่มี ลู่หานก็กอดมินซอกเช่นกัน

       

         เค้าคิดถึงคนๆนี้สุดหัวใจ

       

       "ฉันบอกแล้วไง..ว่าจะไม่ได้นายร้องเพลงนี้โดยที่ไม่มีฉันอีกแล้ว"

       

      ลู่หานพูดขึ้นพร้อมกับใช้นี้วเรียวเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มขาวใสของคนตัวเล็ก

       

        "ฮึก..ขอบคุณนะลู่หาน ขอบคุณจริงๆ"

       

       เป็นการเซอร์ไพรส์ที่มีค่าที่สุดในโลก มินซอกคิดอย่างนั้น..

       

        "ฉันจะไม่ทิ้งนายไปไหนอีกแล้วนะ" ลู่หานพูดขึ้นนพร้อมกับจับมือของมินซอกขึ้นมาประทับจูบเบาๆที่หลังมือนั่น

       

       กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!

       

      เสียงกรี๊ดดังขึ้นอีกระลอกพร้อมกับเสียงแซวเสียงโหของเจ้าพวกเด็กแสบ

       

       ย่าาาห์! ฮยองจะกล้าเกินไปแล้วนะ

       

       โห อะไรเนี่ยยแบบนี้พวกผมอิจฉานะ

       

       

       มินซอกที่ถูกแซวก็เขินจนทำอะไรไม่ถูกได้ก็แต่ก้มหน้า ลู่หานจับมือของมินซอกเอาไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเค้าจะอยู่ข้างๆแบบนี้ไม่ไปไหน

       

        ตอนนี้การแสดงบนเวทีพิเศษขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัวตอนนี้บนเวทีมีเมมเบอร์ทั้งสิบเอ็ดคนร่วมร้องเพลงLuckyด้วยกันจนจบ และพวกเค้าก็วิ่งหยอกล้อกันเหมือนที่เคยทำอย่างสนุกสนาน

       

       "ดีโอ..ตอนฉันไม่อยู่นายกล้ามาสบตามินซอกของฉันงั้นหรอ!" ได้ทีก็เอาใหญ่ลู่หานตั้งใจไว้ว่าจะคิดบัญชีกับเจ้าพวกดื้อที่มารุงรังมินซอกของเค้า

       

       "เปล่านะฮยองง~~ ผมเปล่า" ลู่หานวิ่งไล่ดีโอไปมา อยากจะกระโดดเตะก้นเจ้าเพนกวินซะให้เข็ด

       

       "เฉิน..!! หลังฉากบ้าๆนั้นนายทำอะไรมินซอกของฉันห๊าาา!"

       

       "ก็ฮยองไม่อยู่ ผมก็ดูแลให้ไง~~" แม้แต่เฉินก็ยังไม่รอดแล้วจงอินจะรอดหรอ บอกเลยว่าไม่รอดแน่ๆเจ้านั่นกวนประสาทสุดๆไปเลย

       

      ลู่หานตามคิดบัญชีด้วยการไล่เตะก้นน้องๆอย่างสนุกสนานพร้อมกับร้องเพลงและเต้นไปด้วยกันเหมือนเดิมที่เคยทำ ลู่หานรู้สึกมีความสุขที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้อีกครั้ง แต่เค้าไม่ได้หวังกับคำว่าไอดอลอีกแล้ว อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้เค้าก็คงจะไม่มาเป็นนักร้อง แต่เค้ากลับรู้สึกผิดที่พูดออกไปแบบนั้นเมื่อได้มาเห็นทุกอย่างในวันนี้ แฟนคลับที่อดทนเพื่อพวกเค้า และเมมเบอร์ที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา หากวันนั้นลู่หานไม่ได้เป็นนักร้องเค้าก็ไม่ได้รู้จักกับมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่และมีค่าในวันนี้ และยิ่งไปกว่านั้นทำให้ได้เจอกับ คิมมินซอก

       

        คนที่เค้ารัก

       

       แต่การเซอร์ไพรส์ยังไม่จบลงแค่นี้หรอกนะ..

       

       

        เมมเบอร์ทั้งสิบคนแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เพลงใหม่ลู่หานก็สามารถร้องตามได้แม้กระทั่งท่าเต้นใหม่ๆลู่หานก็สามารถเต้นได้อีกด้วย แน่นอนว่าลู่หานก็แอบแกะท่าเต้นและฟังเนื้อเพลงจากแฟนแคมต่างๆจนเค้าสามารถร้องตามได้

       

       ลู่หานเดินเข้าไปหาอี้ชิงน้องชายที่ซื่อสัตย์กับเค้ามาเสมอ ทั้งคู่สวมกอดกันอย่างรักใคร่ อี้ชิงร้องไห้อีกครั้งเมื่อลู่หานมาอยู่ตรงหน้า ในใจลึกๆอยากจะถามถึงคนๆนั้น เค้าไม่คิดจะกลับมาบ้างเลยหรือ

       

        "เค้ามาไม่ได้ใช่มั้ยฮยอง.."

       

        ลู่หานมองแววตาของอี้ชิงก็รู้ว่าน้องรู้สึกเช่นไร

      ถึงได้แต่งเพลงนั้นขึ้นมา

       

        Promise (คำสัญญา)

       

       เค้ายังจำได้ดีว่าเหตุการณ์ในวันนั้นสร้างเจ็บปวดให้พวกเราขนาดไหน ไม่ใช่แค่พวกเราแต่แฟนคลับทุกคนก็ต้องผิดหวังไปด้วย ลู่หานนึกถึงบทสัมภาษณ์ของรายการHappy Campเมื่อปีที่แล้ว เค้าจำได้ดีว่าเค้าพูดอะไรไว้บ้าง เค้าสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเอ็กโซไปไหน ทุกคนเปรียบเสมือนครอบครัว เหมือนพี่น้อง

      ในวันนั้นเทาร้องไห้ อี้ชิงก็ร้องไห้ทุกคนแม้แต่ตัวเค้าเองก็เกือบจะร้องไห้เหมือนกัน

      ทุกคำพูดของทุกคนออกมาจากใจ ตอนนั้นพวกเรายังอ่อนแอกันมากตั้งแต่ที่อี้ฝานไม่อยู่ แต่กว่าทุกคนจะกลับมาเข้มแข็งได้เหมือนเดิมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

       

       ลู่หานรู่สึกผิดที่ตัวเองทำตามสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้เค้ามีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้นและเมมเบอร์ทุกคนก็เข้าใจ รับฟังและอยู่ข้างๆเค้ามาเสมอ โดยเฉพาะมินซอกที่คอยให้กำลังใจเค้าอยู่ตลอด...

       

       เมื่อดนตรีเพลงPromiseดังขึ้นเมมเบอร์ทั้งสิบเอ็ดคนก็ร่วมกันร้องทั้งน้ำตา...เนื้อเพลงมันบ่งบอกถึงความตั้งใจของผู้แต่งราวกับจะสื่อถึงใครบางคนเป็นนัยๆอีกด้วย

       ลู่หานร้องเพลงนี้ได้เช่นกันจากการฟังแฟนแคมเค้าพยายามซ้อมร้องอย่างหนักเพื่อที่จะร้องเพลงนี้กับพี่น้องของเค้า

       

      가끔 눈을 감고 너의 생각에 빠져

      ในบางครั้งที่ฉันหลับตาลงแล้วคิดถึงเธอ

      네가 나의 모습을 상상하곤 했어

      เธอมักจะปรากฏในจินตนาการเสมอ

      서투른 모습도 좋아해준 너였지만

      ผมที่แสดงแต่เรื่องร้ายๆ ให้คุณ

      과분한 사랑을 받아도 되겠니

      ผมไม่สมควรได้รับความรักจากคุณ

       

       

      언제나 자리에 기다려준

      เมื่อไหร่ คุณที่รอผม อยู่ในที่แห่งนั้น

      팔로 감싸안아준 고마운

      คุณ โอบกอดผม และขอบคุณ

      절대로 잊지않을거야

      ผมจะไม่มีวันลืมเลย

      행복하게 만들어줄거야

      สร้างความสุขขึ้นมา

      하나란 말처럼

      ให้เหมือนกับ We Are One

       

       

       

      시간이 지나도 말하지 못하고

      ผมไม่อาจพูดออกมาได้ หลังจากนี้

      속으로 삼키는

      คำพูดที่ผมซ่อนไว้ในใจ

      미안하다고 사랑한다고

      ผมเสียใจ ผมรักคุณ

      지금처럼 믿어달라고

      ศรัทธา ให้เหมือนกับตอนนี้

      안아줄게 잡아줄게

      จับทั้งสองมือ และโอบกอดคุณไว้

      맘을 표현해 수있다면

      ถ้าหากผมแสดงความรู้สึก

      모든걸 바칠게

      ทั้งหมดให้คุณเห็น

       

       

      지켜주고싶어 항상

      ผมอยากปกป้องคุณเสมอ

       

       

       

      좋아질거라 잊혀질거라 하는 위로조차도

      จดจำเรื่องดีๆ และลืมเรื่องร้ายๆ     

      너를 달래 수가 없기에 나는 불안해

      ผมกังวล เพราะไม่สามารถปกป้องคุณได้

      떠나지 말라 붙잡고 싶어

      ผมอยากฉุดรั้งคุณไว้เพื่อไม่ให้คุณหายไป

      이미 어긴 약속 때문에 믿을 수가 없다는 알아

      ผมสัญญา ถึงแม้รู้ว่า คุณไม่สามารถเชื่อผมได้แล้ว

      하지만 평생 곁에서 살아 쉬고 싶어

      แต่ผม อยากจะใช้ชีวิตเพื่อหายใจอยู่ข้างๆ คุณ

      처음처럼 행복하길 빌어

      มีความสุขให้เหมือนกับตอนแรก

      고마워 미안해 사랑해

      ผมขอบคุณ ผมเสียใจ  ผมรักคุณ

      네게 모든걸 줘도 모자랄 사랑아 평생 지켜줄게

      ผมจะใช้ทั้งชีวิตเพื่อปกป้องความรักนี้ คุณคือทั้งหมดของชีวิตผม

      yeah 나만 따라오면

      Yeah แค่ตามผมมา

       

       

       

       

      언제나 자리에 기다려

      คุณรอผมในที่แห่งนั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่

      똑바로 ~ 고마운

      คุณก็ยังขอบคุณผมอยู่อย่างนั้น

       

       

       

      절대로 잊지 않을거야

      ผมจะไม่มีวันลืมเลย

      행복하게 만들어줄거야

      ผมจะสร้างความสุข

      하나란 말처럼

      เหมือนกับ We Are One ที่ผมเคยพูดกับคุณ

       

       

      힘들고 지쳐도 마음이 다쳐도

      ทิ้งเรื่องราวร้ายๆ ทั้งที่เกิดในใจ

      다시 무대 위로

      ผมจะยืนอยู่บนเวทีอย่างสง่างามอีกครั้ง

      다시 한번 힘을 내볼게

      ให้กำลังใจผมอีกสักครั้ง แค่อีกครั้งเดียว

      기다려준 너를 위해서

      รอคอย สิ่งที่ผมทำเพื่อคุณ

      안아줄게 잡아줄게

      ผมจะกอดคุณและจับมือคุณเอาไว้

      맘을 표현해 있다면

      ผมจะแสดงความรู้สึกทั้งหมดให้คุณ

      모든걸 바칠게

      ทั้งหมดที่ผมมี

       

       

       

       

      좋았었던 날들

      เรื่องดีๆของผมทั้งหมด

      너와 함께했던 생일날의 무대

      จะแบ่งปันความสุขนั้นให้คุณ ในเวทีวันเกิดของผม

       

      ดนตรีที่ไพเราะและทุกท่วงทำนองและน้ำเสียงของทุกคนที่ร้องอย่างตั้งใจมันช่างมีความหมายเหลือเกิน...

       

      너의 한마디가 나의 힘이 됐던 (고마워)

      คุณเป็นกำลังใจให้ผมได้ (ขอบคุณ)

       

       เสียงดนตรีก็เงียบอีกครั้ง มินซอกถึงกับหันมองค้อนลู่หาน

       

        "นายเล่นพิเรนท์อะไรอีกเนี่ยลู่หาน"

       

         "ไม่ใช่ฉันนะเปาจื้อ!"

       

       ไม่ใช่ลู่หาน...แม้แต่ตัวเค้าเองก็ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เค้าไม่ได้สั่งอะไรกับสต๊าฟแล้วนิ เกิดอะไรขึ้น..

       

        ประตูทางเข้าออกฮอลล์ถูกเปิดออกท่ามกลางความมืดภายในโดมก็มีแสงสว่างจากด้านนอกส่องสะท้อนเข้ามา

       

         อีกหนึ่งบุคคลปริศนาผู้มาเยือน...

       

      ..Woo I can hear you voice


      ..Woo I can hear you in my mind

       

         เสียงเพลงThere is a place ดังขึ้นด้วยการร้องสดแบบไม่มีดนตรีของบุคคลปริศนา

       

        ใช่...เค้ามาที่นี่ คริสหรืออู๋อี้ฝานเค้ามาแล้ว

       

       คริสเดินตรงไปยังstageท่ามกลางความอึ้งของเหล่าเมมเบอร์ แฟนคลับที่เห็นภาพตรงหน้าพวกเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าคริสจะมายืนอยู่ตรงนี้ เสียงกรี๊ดดังระงมขึ้นเมื่อคริสเดินตรงเข้าไปหาอี้ชิงที่ยืนนิ่งอึ้งอยู่

       

       เป๊าะ!

       

      คริสดีดนิ้วเพียงครั้งเดียวเสียงดนตรีเพลงPromiseก็ดังขึ้นอีกครั้ง...

       

      약속할게 ~

      ผมจะสัญญา

      약속해줘 ~

      สัญญากับผมนะ

       

      คริสยกไมโครโฟนขึ้นมาร้องต่อจากท่อนที่หยุดไปเมื่อครู่

       

      많이도 아파했을 너의 맘을 내가 안아줄거야

      ผมจะโอบกอดหัวใจที่เจ็บปวดของคุณเอาไว้

      หลังท่อนนั้นจบคริสก็สวมกอดอี้ชิงทันทีทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาจนกลั้นไม่อยู่ อี้ชิงร้องไห้หนักมากกว่าทุกครั้ง เมื่อเห็นอย่างนั้นเมมเบอร์ทั้งสิบคนก็เข้าไปสวมกอดคริสและอี้ชิงให้แน่นขึ้น

       

        ตอนนี้บนเวทีคอนเสิร์ตEXOlu'Xionแห่งนี้มีเมมเบอร์ทั้งหมด 12คน และพวกเค้ากำลังกอดกัน...

       


       

       เหล่าEXO-Lทั้งหลายตอนนี้ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ พวกเธอทั้งกรี๊ดทั้งร้องไห้ปะปนกันไป เหล่าEXO-Lร่วมกันโบกแท่งไฟให้ทั่วทั้งฮอลล์กลายเป็นSilver Oceanและตะโกนคำว่าWe Are Oneดังระงมไปทั่ว

       

        เมมเบอร์ทั้งสิบสองคนร่วมกันร้องเพลงPromiseต่อพร้อมทั้งยืนเรียงหน้ากระดานและจับมือกันไว้แน่น...

       

      시간이 지나도 말하지 못하고 속으로 삭히는
      ผมไม่สามารถพูดออกมาได้แล้ว หลังจากนี้ คำพูดดีๆที่อยู่ในใจ
      미안하다고 사랑한다고
      ผมเสียใจ ผมรักคุณ
      지금처럼 믿어달라고
      ศรัทธาให้เหมือนกับตอนนี้
      안아줄게 잡아줄게
      โอบกอดคุณ และจับมือคุณไว้
      영원히 함께 있다면
      จะเป็นแบบนี้ตลอดไป
      모든걸 바칠게
      คุณคือทั้งหมดของชีวิตผม

       

        หลังจากเพลงจบทุกคนก็โค้งขอบคุณแฟนคลับตรงหน้า ก่อนที่ทั้งสิบสองคนจะตะโกนคำว่าWE ARE ONE! เหมือนอย่างที่เคยทำอย่างพร้อมเพรียง

       

       คงจะเป็นภาพที่แฟนคลับEXO-Lจำได้ไม่มีวันลืมเลือน ความฝันของพวกเธอที่จะได้เห็นทั้งสิบสองคนกลับมายืนบนเวทีเดียวกันอีกครั้งมันเกิดขึ้นแล้ว

       

       VCRระหว่างการฝึกซ้อมถูกย้ายมาเปิดหลังจากจบเพลงPromiseแล้ว การแสดงอื่นๆก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนมาถึงช่วงสุดท้ายที่พิเศษและมีค่าที่สุดเพื่อมอบให้เป็นของขวัญแด่EXO-L

       

        ดนตรีเพลงThere is a place ดังขึ้น..

      คริสและอี้ชิงร้องเพลงนี้ด้วยกัน และเมมเบอร์คนอื่นๆก็ออกแบบท่าเต้นกันสดๆบนเวที เพื่อให้เข้ากับทำนองเพลงแน่นอนว่าไม่มีใครทำได้แบบนี้หากไม่ใช่พวกเค้าเหล่านี้

       

           EXO

       

        ลู่หานมองดูคริสและอี้ชิงได้อยู่ด้วยกันอีกเค้าก็ยกนิ้วให้คริสทันที ไม่คิดว่าคริสจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ นึกว่าจะมีแต่เค้าที่บ้าบิ่นกล้าทำอยู่คนเดียวแต่มันก็คงจะเป็นเพราะความรักที่คริสมีต่ออี้ชิงนั่นแหละ

       

        เหมือนอย่างที่เค้าให้มินซอกยังไงล่ะ...

       

       ลู่หานจับมือมินซอกให้แน่นขึ้น มือหนาเอื้อมไปเช็ดเหงื่อให้คนตัวเล็กอย่างเอ็นดู

       

        "เวลาอยู่บนเวทีที่ไม่มีนาย ฉันเหงามากเลยรู้มั้ย.." มินซอกพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองหน้าลู่หาน คนที่เค้าคิดถึงมากที่สุด

       

       "ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ไปไหนอีกแล้ว..ฉันสัญญา" ลู่หานกุมมือทั้งสองข้างของมินซอกขึ้นมาแนบอก

       

        "เชื่อใจฉันมั้ย..."

       

       มินซอกหากแต่พยักหน้าว่าเค้ารับรู้

       

        "ฉันมีของขวัญจะให้นายด้วยนะเปาจื้อ.."

       

       ลู่หานหันหน้าไปส่งสัญญาณให้สต๊าฟเป็นเชิงรู้กันหลังจากเพลงของคริสจบ ดนตรีเพลงOur Tomorrow ของลู่หานก็ดังขึ้น...

       

        VCRของลู่หมินฉายขึ้นพร้อมๆกับลู่หานที่ร้องเพลงนั้น...ให้มินซอก

       

       

      เดินไปถึงปลายทางด้วยตัวคนเดียว

      ไม่ทันระวังแล้วก็ย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

      ในโลกใบใหม่นี้

      ในตอนนี้ผมได้พบว่า

      เวลาเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน

       

      จนกระทั่งได้มีคนคนนึงเข้ามา

      สามารถเข้าใจในความรู้สึกของผมได้

      ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่จำเป็นต้องถาม

      ก็เข้าใจในทุกๆเรื่องได้

      เหมือนกับทุกช่วงเวลาที่เป็นนิรันดร์

       

      เมื่อถึงท่อนนี้ลู่หานหยุดร้องไปดื้อๆก่อนจะเดินไปจับมือเล็กของมินซอกก่อนจะพูดในสิ่งที่เค้าตั้งใจเอาไว้..

       

         "ฉันรักนาย.."

       

        มินซอกอึ้งกับสิ่งที่ลู่หานพูดแม้มันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินแต่ตอนนี้เค้ายืนท่ามกลางคนนับหมื่นที่จะเป็นพยาน..

       

        ลู่หานยังคงร้องเพลงของเค้าต่อไป..

       

      ผมมองไปที่เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนัก

      อยากจะขอให้มีเวลามากกว่านี้

      วันพรุ่งนี้ของเรา

      ผมคอยเฝ้าถามว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่

      ในปัจจุบันคิดว่ายังคงพอมีเวลา

      ที่อาจจะทำให้คำสัญญาของเราเป็นจริงได้

       

       

       

      จนกระทั่งได้มีคนคนนึงเข้ามา

      สามารถเข้าใจในความรู้สึกของผมได้

      ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่จำเป็นต้องถาม

      ก็เข้าใจในทุกๆเรื่องได้

      เหมือนกับทุกช่วงเวลาที่เป็นนิรันดร์

       

       

      ผมมองไปที่เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนัก

      อยากจะขอให้มีเวลามากกว่านี้

      วันพรุ่งนี้ของเรา

      ผมคอยเฝ้าถามว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่

      ในปัจจุบันคิดว่ายังคงพอมีเวลา

      ที่อาจจะทำให้คำสัญญาของเราเป็นจริงได้

       

       

      ที่จริงเคยมีคนพูดไว้ว่า

      สามารถที่จะย้อนเวลากลับไปได้

      จากที่มีความฝันนึงได้บอกกับผม

      ความรักมันไม่เคยแน่นอน ซึ่งนั่นทำให้ผมได้กล้าหาญ

       

       

       

      ผมมองไปที่เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากนัก

      อยากจะขอให้มีเวลามากกว่านี้

      วันพรุ่งนี้ของเรา

      ผมคอยเฝ้าถามว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่

      ในปัจจุบันคิดว่ายังคงพอมีเวลา

      ที่อาจจะทำให้คำสัญญาของเราเป็นจริงได้

       

       

      ให้เก็บความทรงจำนี้ไว้ตลอดไป

       

        หลังจากร้องเพลงจบลู่หานก็คุกเข่าลงตรงหน้ามินซอกอย่างไม่อายสายตาผู้ใด

       

        "ลู่หานนี่ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะ นายจะทำอะไร!"  มินซอกว่าปรามลู่หาน

       

       "นายจำได้มั้ยที่ฉันให้สัมภาษณ์ว่าอีกสองปี ฉันอาจจะไม่ทำงานในวงการแล้ว ป๊ากับม๊าของฉันท่านอยากอุ้มหลานเพราะงั้นก็ต้องแต่งงาน"

       

        "นะ..นายกำลังจะบอกอะไร.." มินซอกเสียงสั่นกลัวเหลือเกินกับสิ่งที่จะได้ยิน

       

       "ที่ฉันบอกว่าจะแต่งงานมันคือเรื่องจริง......เพราะงั้นแต่งงานกับฉันนะ มินซอก.."

       

      กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!

       

        คำพูดของลู่หานสร้างเสียงกรี๊ดขึ้นอีกครั้งแฟนคลับตะโกนร้องบอกให้มินซอกตกลงกับลู่หาน

      ลูกโป่งสีขาวนับพันลูกลอยลงมาจากด้านบน คงจะไม่พ้นอำนาจเงินหยวนที่จัดการอีกสินะ

       

        "ว่าไงล่ะ...นายจะไม่ทำตามที่แฟนคลับบอกหรอมินซอก"

       

       ไหนจะเจ้าพวกเด็กแสบที่เชียร์อยู่อีกฝั่ง ทุกคนดีใจที่ฮยองทั้งสองจะได้ลงเอยกันเสียที เพราะตั้งแต่ลู่หานไม่อยู่มินซอกก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำตัวร่าเริงกลบเกลื่อนว่าไม่เป็นไร และไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวกับงานมาร่วมกัน ทั้งๆที่เค้าคิดถึงลู่หานมากแค่ไหน เค้าก็ไม่เคยแสดงออกว่าอ่อนแอ ไม่เคยร้องไห้ เพราะเค้าเป็นพี่ใหญ่ของน้องๆเค้าจะอ่อนแอไม่ได้

       

        "ลู่เก่อ...คนบ้า!ถ้านายทิ้งฉันอีก นายตายแน่!"

       

          วู้วววว~ ยินดีด้วยนะฮยองงทั้งสองคน

       

        "งั้นเรามารำลึกความหลังกันหน่อยมั้ยเจ้าสาวของฉัน?"

       

        "หื้ม..?"

       

       ดนตรีเพลงGeeดังขึ้น คราวนี้มินซอกไม่ต้องทำอะไรแค่ยืนเฉยๆก็พอ..

       

        ลู่หานประทับจูบบนริมฝีปากอวบอิ่มสีเชอร์รี่ของคนตัวเล็กด้วยความคิดถึงและโหยหา

       

       ท่ามกลางเสียงกรี๊ดของแฟนคลับก็ไม่อาจทำให้เค้าทั้งคู่ผละออกจากกัน มินซอกเหมือนคนหูดับ เค้าได้ยินเสียงแต่เสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงจนแทบจะคลั่ง

       

          ลู่หาน...ฉันรักนาย

















      ___________________________________________________________________________________________
      SF เรื่องนี้เป็นการแต่งสนองความต้องการของตัวเอง คือเราอยากแต่งให้เนื้อเรื่องออกมาแบบนี้นานแล้ว คิดพล็อตไว้นานแล้วไม่มีโอกาสได้แต่ง

      และมันก็ประจวบเหมาะมากที่ตอนนี้มีคอนเสิร์ตEXOluXion #2 ของEXO คือตรงกับพล็อตที่เราคิดไว้โดยประมาณ เราเลยตัดสินใจแต่งขึ้นมา
       
       ต้องขอโทษถ้าเนื้อเรื่องไปบั่นทอนจิตใจของใครนะคะ เราแต่งออกมาจากใจจริงๆแต่งเพื่อEXOและEXO-Lทุกคน
       
       ตอนแรกคิดว่าจะง่ายแต่พอเอาเข้าจริงๆยากพอสมควรเลยเพราะแต่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ หากเราอธิบายตรงไหนผิดพลาดไป ขอโทษจริงๆค่ะเราพยายามอธิบายออกมาให้อ่านเข้าใจง่ายที่สุดแล้ว เราอธิบายจากการดูVCRประกอบ ถ้าอ่านแล้วงงๆต้องขอโทษด้วยนะคะเราไม่ค่อยสันทัดในการอธิบายเท่าไหร่
      เราไม่ได้ต้องแต่งให้ออกมาดราม่านะคะ เราแต่งอิงคู่ชิปด้วยซึ่งจะเน้นลู่หมินเป็นหลัก 
       
       
      สุดท้ายขอบคุณเนื้อเพลง
      Promise / Our Tormorrow / There's a place / Lucky
      จากSiam zoneค่ะ
       

      เราหวังว่าEXO-Lทุกคนคงคิดเหมือนเราที่อยากให้ทั้ง12คนกลับมายืนบนเวทีเดียวกันอีกครั้ง 
       
       
      คอมเม้นท์จะเป็นกำลังใจสำหรับเราค่ะ
      สกรีมให้EXO #คำสัญญาของEXO 
      สกรีมให้ลู่หมิน #สัญญาของลู่หมิน
       
      ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ 
      alwayssupportEXO
      alwayssupportLUMIN
       
      WE ARE ONE ! EXO 사랑하자
       

       

       

       • Never change Together • 
       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×