คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : D a nG e r : part 2
Danger part 2
“ยัยซัน ฉันละ นับถือแกจริงๆเลย” เจสสิกา เลขา จำเป็นของซันนี่ วิ่งเข้ามา อย่างตื่นเต้น ทำให้ร่างบางที่กำลังนั่ง ดูเอกสารอยู่ เงยหน้าขึ้นมามอง ด้วยความสงสัย
“พูดเรื่องอะไรน่ะ สิกา”ซันนี่ ถามขึ้น ด้วยดวงตาที่ขำๆ ในอาการเหนื่อยปนตื่นเต้นของเพื่อนสาว
“จำโปรเจกต์ คอนโดที่จะสร้าง ที่ภูเก็ตได้ใหม” เจสสิกา เกริ่นขึ้นมา อยากตื่นเต้น
“โปรเจ็กต์ ของคุณพ่อนะหรอ ทำใมละ มีปัญหาอะไรรึป่าว”หญิงสาวถามขึ้นมา พลางทำหน้าสงสัย เพราะโปรเจ็กต์นี้ พ่อของเธอหรือประธานบริษัทนี้ เป็นคนเสนอขึ้นมาเอง เพราะมันเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพึ่งผ่านการรับรอง ให้ดำเนินการสร้าง ไปได้ไม่นาน เท่าที่เธอจำได้ ตอนนี้กำลังดูสถาปนิก ที่มาดูช่วยดูแลโครงการอยู่
“ไม่มีเลยจ้ะแค่ได้สถาปนิกแล้ว แถม! สถาปนิกคนนี้เค้ามาเสนอด้วยตัวเองเลยนะ” เจสสิกา ยังคงตอบแบบตื่นแต้น แต่ไม่เฉลยซักที ว่ามันเรื่องอะไร
“แล้วไงละ เรื่องปกติ ใครๆ ก็อยากทำงานกับบริษัทฉันทั้งนั้น แกตื่นเต้นอะไร” ซันนี่ตอบพลางขำ กับท่าทีของเพื่อนสาว ที่ดูจะตื่นเต้น กับการที่ได้สถาปนิกคนนี้จนออกอาการเวอร์
มันจะแปลกอะไร ก็แค่สถาปนิก เข้ามา ขอทำงานกับบริษัทของเธอ ในเมื่อ บริษัทคอนโดของเธอ ติดระดับความหรู ที่ 30 ของโลกและ อันดับ 1 ในประเทศ แถมมีหลายแห่ง ทั้งในและต่างประเทศ การที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของบริษัทเธอ มันเป็นอะไรที่ดูดีจะตาย
“รู้ๆ น่า แต่แกไม่อยากรู้หรอ ว่าใครคือสถาปนิกคนนั้น” เจสสิกา พูดพลางยิ้มแก้มปริ
“ ไม่อะ นี่ไม่ใช่โปรเจ็กต์ฉัน มันเป็นของพ่อฉัน ฉันจะอยากรู้ไปทำใม”ซันนี่พูดพลางเปิดเอกสารที่เธอต้องทำต่อ เพราะเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวกับเธอ
“คิม จุนซู” แต่อยู่ๆเจสสิกาก็พูดชื่อนี้ขึ้นมาทำให้เธอเงยหน้า ขึ้นมาด้วยความสงสัย เค้า? เกี่ยวอะไรด้วย
“เค้ามายื่นเรื่องขอเข้ามาเป็นสถานิกดูแลโปรเจกต์นี้เมื่อเช้า ซึ้งทางฝ่ายบริหารก็ตกลงทันที เพราะใครๆก็อยากได้ตัวหมอนี่มาทำงานทั้งนั้น” เจสสิกาพูดพลางเท้าคางมอง ท่าทางของหญิงสาวทันที
“หึ! มาใวกว่าที่ฉันคิดแหะ” หญิงสาวมีท่าทางตกใจเพียงแต่แวบเดียวเท่านั้น ก่อนจะแสะยิ้มออกมา อย่างนึกสนุก
“เค้ามาหาแก ขนาดนี้แล้ว แกจะเอายังไงต่อหรอ” สิกา ถามเพื่อนสาวอย่างสงสัย ยัยนี่เดาอะไรยากจริงๆ
“แกคิดว่า?~ ฉันควร ดูแล โปรเจ็กต์นี้เองดีใหม” ซันนี่ตอบกลับมาด้วยแววตา เรียบนิ่งแต่น้าเสียงของเธอนั้น เต็มไปด้วยความสนุก
“สิกา โทรหาพ่อให้ฉันทีนะ ที่เหลือ ฉันจัดการเอง อ้อ ขอบใจ สำหรับ ข่าวดี!” ซันนี่ ไม่รอให้เจสสิกา ได้ออกความเห็นอะ เธอบอกสิ่งที่เจสสิกาต้องทำทันที ซึ่งเจสสิกาก็ จัดการทำให้ทันที ไม่นาน พ่อของเธอก็รับสาย
“พ่อค่ะ ซันเองค่ะ” หญิงสาวกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ ทันทีหลังจากที่เพื่อนสาว ต่อสายให้ และเพื่อนสาวคนนั้น ก็นั่งลุ่นตัวโก่งอยู่ข้างๆนั่นเอง
‘ว่าไงลูก ซัน มีไรถึงต่อสายมาหาพ่อ นั่นแนะ! จะขอโดดงานไปกับสิกาอีกละสิ’ เสียงที่อบอุ่นของบิดา ผ่านมาทางสายโทรศัพท์อย่างจะรู้ทันลูกสาว
“วันนี้ซันไม่โดดค่ะ วันใหนโดดจะโทรไปบอกใหม่นะค่ะ” หญิงสาวพูดอย่างขำๆ กับบิดา
‘งั้นมีอะไร ละ ถึงโทรรีบโทรมาหาพ่อแบบนี้’ บิดา ตอบกลับมาด้วยเสียงที่สงสัยในตัวบุตรสาว
“ก็เพราะโปรเจกต์ ใหม่ ที่ภูเก็ตของพ่อไงค่ะ พอดีซันเห็นว่ามันน่าสนใจดี”หญิงสาวตอบบิดา
‘ทำใมพึ่งจะมาสนใจละ พ่อ ดำเนิน งานไปตั้งนาน ไม่เห็นลูกซันสนใจ’ ชายหนุ่มตอบมาอย่างสงสัย ในตัวลูกสาว
“ก็ซันเพิ่งได้เห็นสถานที่ไงค่ะ มันสวยมาก จนซันจะอยากรับโปรเจ็กต์นี้มาดูแลเอง พ่อจะอนุญาติซันใหมค่ะ”หญิงสาว โกหกคำโต ทุกวันนี้ที่เธอมาทำงาน เพราะแค่แก้ว่าง แถมช่วยแบ่งเบาคุณพ่อเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมีโปรเจ็กต์เป็นของตัวเองให้ยุ่งยากด้วยซ้ำ
‘พูดจริงหรอลูก งั้นก็ดีสิ ซันจะได้มีงานทำเป็นชิ้นเป็นอัน’ บิดาตอบพลางหัวเราะ แม้จะงง ในตัวลุกสาว แต่ก็เห็ยด้วยที่เธออยากลองทำงาน
“งั้นพ่อโอนงาน มาให้ซันนะค่ะ” หญิงสาวพูดเสียงอ้อนใส่บิดา
‘เดี๋ยวพ่อ จะติดต่อกลับพร้อมโอนงานไปให้ลูกอีกทีนะ พ่อใว้ใจลูกนะซัน’ ชายหนุ่มพูดเสียงหนักแน่น กับลูกสาว เพื่อให้เธอตระหนักว่าเค้าคาดหวังกับโปรเจ็กต์นี้แค่ใน
“ok ค่ะพ่อ ซันสัญญา ว่าจะทำให้ดีเลย ^^” หญิงสาวตอบพร้อมกับยิ้ม ให้เพื่อนสาว ที่ยิ้มยินดีอยู่เช่นกัน ก่อนที่จะบอกลาบิดา แล้ววางสาย
“แกก็เข้าใจพูดนะ ว่า อยากทำเพราะสถานที่” เจสสิกา พูดพลางขำในตัวเพื่อนสาว เพราะซันนี่ ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำว่าสถานที่เป็นยังไง อย่างที่รู้ๆกันอยู่ยัยซันมาทำงานเพราะพ่อขอร้อง ไม่งั้นคงไม่มาทำหรอกยัยนี่ ขี้เกียจจะตายไป แล้วก็ประจวบเหมาะลูกนักการเมืองอย่างเธอว่างพอดี เลย เข้ามาทำเป็นเพื่อน เพื่อนคนนี้ในฐานะเลขา
“ซันนี่ เลขา ตัวแสบของเธอ ไปใหน อ้าว มาทำอะไรในนี้ครับ คุณเจส” อยู่ๆ ประตูห้องทำงานของซันนี่ก็ถูกเปิดขึ้นมา พร้อมกับชายหนุ่มที่น่ารักราวกับเจ้าชาย เดินเข้า แล้วพูดถามหาเลขาของคู่หมั้น ก่อนจะเห็นว่าเธอนั่งอยู่ในห้อง ของคู่หมั้นของเค้านั้นเอง ใช่ นิชคุณ เป็นคู่หมั้น ของซันนี่
“ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน นายแส่อะไรด้วยเนี่ย” เจสสิกา ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับนิชคุณ ตอบกลับไปทันที ‘เลขาตัวแสบ’ หึ! นี่เค้าสนิท กับเธอขนาดเรียกได้แบบนี้เลยหรอ
“ผมจะไม่ ‘แส่’ เลย ถ้าคนที่คุณคุยด้วยไม่ใช่คู่หมั้นผม” นิชคุณตอบกลับทันที ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ต่างกับหญิงสาว ที่โกรธ จนตัวสั่น
“ถามยัยซันซักคำใหม ว่าเค้าอยากหมั้นกับนายรึป่าว ปัญาญาอ่อนแบบนี้อะนะ จะมาหมั้นกลับเพื่อนฉัน” เจสตอบกลับด้วยสายตาตำหนิชายหนุ่ม
“นี่คุณ ว่าผมปัญญาอ่อนหรอ” ชายหนุ่มเริ่มโมโห
“ทั้งอ่อน ทั้งนิ่ม เลยละ ผู้ชายบ้าอะไร ชอบคิดไปเอง ถามหน่อยยัยซันเคยพูดใหม ‘ฉันดีใจ ที่ได้หมั้นกับคุณค่ะ’หึ! พนัน ได้แลยว่ายัยนั่นไม่เคยพูด แล้วนายยังกล้า มาตื้อยัยซันอีก อ่อนสุดแล้วนี่!” เจสสิกากับนิชคุณ ไม่ชอบหน้ากันเท่าใหร่ เนื่องจากซันนี่ โดนบังคับให้หมั้นกับนิชคุณ โดยที่เธอไม่เต็มใจเลย แต่ที่ซันนี่ตอบตกลงเพราะเธอเจ็บใจผู้ชายคนนั้นต่างหาก หมอนี่ชอบทำเป็นได้ใจ คิดว่าซันนี่ รักตัวเอง แถมทำให้ซันนี่รำคาญอีก
“แล้วเธอแส่อะไรด้วย” ชายหนุ่มตอบคำตอบเดียวกับหญิงสาวในตอนแรก
“ฉันจะไม่’แส่’เลย ถ้าคนที่นายหมั้นไม่ใช่เพื่อนฉัน! ได้แวลาอาหารเที่ยงแล้ว ซันเลิกหัวเราะแล้วไปกินข้าวเถอะ”เจสตอบกลับในประโยคคล้ายๆกันกับ นิชคุณ ในตอนแรก ก่อนจะหันไปหาซันนี่ที่นั่งหัวเราะในความติ๊งต๊องของทั้งคู่อยู่ ซึ่งซันนี่ก็หยุดหัวราะแล้วพยักหน้า
“ไปนะค่ะ คุณนิชคุณ!!” เจสสิกาพูด ก่อนจะเหยีบเท้านิชคุณ แล้วเดินออกไป ส่วนชายหนุ่มที่โดนเหยียบนั้นพูดอะไรไม่ออกเพราะเจ็บ มากกกก
“นี่เธอ! โอ๊ย!” นิชคุณ ได้แต่ทำหน้าเจ็บปวด
“ยัยเจส ชอบใส่รองเท้าส้นแหลมนะค่ะ คุณคงจะเจ็บมากสินะ” ซันนี่ที่ปั้นหน้าเป็นปกติถามขึ้น หลังจากขำในสีหน้าอันเจ็บปวดของเค้า
“ครับ เจ็บ” นิชคุณ ทำเสียงอ้อนหญิงสาว หญิงสาวที่ถูกอ้อนนั้น ก็ยิ้ม ให้เค้า ก่อนจะพูดว่า
“อย่าลืมทำแผลนะค่ะ ฉันไปกินข้าวก่อนละ”ซันนี่พูดพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วกุญแจรถ เดินออกไป โดยทิ้งให้ชายหนุ่มยืนเจ็บเท้าอยู่คนเดียว
“ฉันละไม่เข้าใจเลยว่าแกหมั้นกับคนแบบนั้นลงได้ยังไง ฮะ! ซัน” เจสสิกา ยังคงบ่นถึงนิชคุณคู่หมั่นหนุ่มของเพื่อนสาว ที่ ทำให้เธออารมณ์ เสียอยู่ขณะนี้
“ซันเป็นคนหมั้นนี่ ไม่ใช่ แกเลิกบ่นเถอะนะ สิก้า สั่งอาหารเถอะ นางินั่งอยู่” ยูริพูดอย่างระอา ในตัวเพื่อนสาว ที่บ่นเรื่องคู่หมั้นของซันนี่ตั้งแต่เข้ามาในร้านอาหาร อีกอย่างมาโมโหต่อหน้าเด็กด้วย เดี๋ยวเด็กจะนำเป็นแบบอย่าง ‘คิม นางิ’ บุตรสาวบุญธรรมของแทยอน เธอเจอเด็กคนนี้เมื่อ 5 ปีก่อน เธอเลี้ยงเด็กคนนี้ราวกับเป็นลูกแท้ๆ นางิ มีแม่ทั้งสี่ คน โดยที่สามสาวที่เหลือบอกว่า เด็กคนนี้ไม่มีพ่อ แต่เธอจะได้เปรียบเพราะมีแม่ตั้งสี่คน แทยอน จะทำหน้าที่แทนมารดาที่เสียไปของเธอ ที่ไม่มีโอกาสได้ดูแลเธอ เธอจะดูแลนางิในฐานะ ‘แม่’ และจะไม่มีวันเป็นอะไรให้นางิต้องเจ็บปวดอีก
“แกลองเป็นฉันใหมยัยลิง โดนกระเทยกวน Teen อะ” เจสสิกาตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ พลางลูบหัวนางิ ส่งสายตาบอกว่า ไม่ต้องกลัวน้า
“นิชคุณเค้าเป็นกระเทยหรอเจส นางิจะทานอะไรลูก” แทยอนถามพลาง เปิดดูเมนูอาหารแล้วส่งให้ นางิ
“ตุ้งติ่ง ขนาดนั้น ไม่กระเทยก็เก้งหละ” เจสสิกา พูดอย่างมั่นใจ แล้วเปิดดูเมนูอาหารเช่นกัน
“บ้าหรอเจส! เค้าเป็นคู่หมั้นฉันน่ะ ไปแช่งเค้าแบบนี้ฉันเสียหายแน่ๆ” ซันนี่พูดขึ้นอย่างขำ แล้วหันไปสั่งอาหาร
“แกถอนหมั้นเถอะซัน - - ฉันก็คงรับไม่ได้ถ้าแต่งงานไปแล้วแกกลายเป็นเจ้าบ่าว” เจสสิกา พูดพลางทำหน้าสยองสุดขีด เรียกเสียงหัวเราะจากยูริและแทยอน
“แกจะให้ฉันเดินไปบอกนิชคุณ ว่า ฉันขอถอนหมั้นค่ะ! คุณเป็นตุ๊ด แบบนี้นะหรอ เค้าได้ด่าฉันพอดีนะสิ ของแบบนี้มันต้องมีหลักฐานนะเจส” ซันนี่พูดพลางขำกับท่าทีเพื่อนสาวที่มีท่าทางสะอิดสะเอียนคู่หมั้นของเธออย่างเห็นได้ชัด
“นั่นสิ แกจะไปใส่ร้ายเค้าเฉยๆไม่ได้นะเดี๋ยวเค้าเอาไปฟ้องพ่อยัยซันขึ้นมาทำไงละ” แทยอนพูดขึ้นอย่างเห็นด้วยกับซันนี่
“แกไปหาหลักฐานมาให้ยัยซันสิเจส ยัยซันจะได้หาเรื่องถอนหมั้นได้” ต่อด้วยยูริ นึกขำกับความคิดของเจสสิกา นิชคุณ เป็นผู้ชายแท้ เธอดูก็รู้ ก็ยัยเจสนี่อคติกับผู้ชายน่ารักนัก ก็หาเรื่องให้อยู่ใกล้ซะเลย ให้ประสาทเสียกันไปข้างนึง
“เรื่องอะไรละ แค่คิดว่าต้องเข้าใกล้ ก็ขยะแขยงแล้ว” เจสพูดพลางทำสีหน้าประกอบ
“แล้วแกอยากให้ฉันมีสามีเป็น ตุ๊ด หรอเจส แกไม่รักฉันแล้วใช่ใหม?” ซันนี่ทำหน้าอ้อนเจสสิกา นี่จะมัดมือชกรึไงฮะซันนี่! เจสสิกาคิด อย่างโมโห
“ก็ได้ ฉันนี่แหละจะพิสูจน์เอง แกจะได้มีสามี ไม่ใช่ภรรยา” เจสสิการับคำเพื่อนๆหน้ามู่ ไม่น่าหาเรื่องเลยเรา สาวๆคนอื่นก็พากันหัวเราะ และสำหรับซันนี่นั้น การที่มีเจสสิกา มาพานิชคุณนั้นออกไปเป็นเรื่องดี เพราะถ้าจุนซูรู้ว่าเธอมีคู่หมั้น เค้าอาจจะถอยห่างเธอไป ทำให้เธอไม่ได้แก้แค้นเค้าอย่างที่เธอต้องการ แถมยังได้พิสูจน์ด้วยว่าคู่หมั้นตัวเอง เป็นอย่างที่เจสบอกรึป่าว คิคิ
“ทำคนอื่นเดือดร้อนยังหัวเราะออกอีกหรอ คิมแทยอน!!!” เสียงผู้ชาย ที่ฟังเหมือนกำลังโกรธ ดังขึ้นข้างหลังของแทยอนทำให้สาวๆที่กำลังหัวเราะอยู่กันถึงกับเงียบและหันไปมองกันทันที
“อ้าว! ว่าไง จางอูยอง”แทยอนทักทายชายหนุ่มด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ชายหนุ่มรู้ดี ว่ามันเป็นการยิ้มเยาะมากกว่า!
“เธอเอาข่าวฉันกับฮารา ลงหนังสือพิมพ์ คุณรู้ใหมว่าเธอเดือดร้อนแค่ใหน แล้วคุณยังทำให้ทิฟโกรธผม!!! คุณทำแบบนี้ได้ยังไง” ชายหนุ่มตะโกนใส่หน้าหญิงสาวอย่างโมโห ทำให้คนทั้งร้านหันมามองโต๊ะของสาวๆเป็นตาเดียวต่างกับสาวๆ ที่แทนจะตกใจและรีบแก้ไขสถานะการณ์ แต่สาวๆทั้งสามพร้อมใจกันนั่นดูเพื่อนสนิทและผู้ชายคนนั้น พร้อมกับรอยยิ้มราวกับว่ามันเป็นหนังสดหรือละครให้พวกเธอดูระหว่างทานอาหาร ส่วนนางินั้น มีคุณแม่ซันนี่จับไปนั่งตักและปิดหูเอาใว้
“ฉันบอกคุณแล้วว่าฉันจะทำโทษฐานที่คุณกล้าเอาฉันไปเปรียบกับยัย’สวะ’นั่น”หญิงสาวตอบด้วยเสียงที่ท้าทายปนด้วยความสะใจอย่างเหลือล้น ที่สามารถทำให้คนตรงหน้าเดือดร้อนได้ขนาดนี้
“คุณต่างหากที่’สวะ’ ทำให้คนเค้าเดือดร้อนไม่พอยังทำให้ผมกับทิฟทะเลาะกัน แถมยังไม่มีสามัญสำนึก”ชายหนุ่มตอบกลับหญิงสาวด้วยเสียงที่โมโหหนัก
“นี่คุณ!! จะบอกอะไรให้นะ คุณและยัยนางเอกสาวมันมั่วเอง ฉันแค่ทำให้ประชาชนเค้าตาสว่างเลิกมองเห็นหมาเป็นนางฟ้า! ส่วนเรื่องของคุณกับนางลูกเมียน้อยนั่น ฮึ ใหนคุณบอกว่าเชื่อใจหนักเชื่อใจหนาไงทำใมละ!แค่นี้หงอแล้วหรอ” หญิงสาวตอบกลับอย่างเหนือกว่า แหงสิ เธอไม่ได้รับความเดือดร้อนด้วยนี่นา
“หึ! ทิฟกับผมจะไม่ทะเลาะกันเลย ถ้าไม่ได้พี่สาวปากสวะ คอยยุแยงน่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับ ด้วยคำพูดที่ทำให้หญิงสาวอยากจะหยิบนํ้าสาดหน้า ผู้ชายคนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
“ฮึ! ถ้าเชื่อใจกันจริงๆ ต่อให้ฉันพานังลูกเมียน้อยไปนั่งดูนายสืบพันธุ์กับยัยฮารา นังนั่นก็จะไม่โกรธนายสิแต่นี่อะไร แค่ยุนิดๆหน่อยๆ ก็เชื่อแล้ว ! นายควรจะถามตัวเองได้แล้วนะ ว่ายัยนั่นเชื่อใจนายจริงๆรึป่าว” แทยอนตะโกนกลับอย่างโมโห และแน่นอน คำพูดของเธอทำให้สติคนตรงหน้าขาดทันที เค้ากระชากหญิงสาว ให้ลุกขึ้นมาประจันหน้ากับเค้าพร้อมกับบีบข้อแขนแรงๆ ทำให้เธอร้องด้วยความเจ็บปวด
“นี่ลุง อย่าทำอะไรแม่หนูเลยนะค่ะ” นางิที่นั่งบนตักของซันนี่รีบกระโดดลงไปดึงมืออีกข้างของชายหนุ่มเพื่อให้เค้าปล่อยแม่ของเธอ
“แม่??”ชายหนุ่มทวนคำของเด็กสาวอย่างงงๆก่อนจะหันไปมองหญิงสาวที่เค้าจับอยู่ซึ่งเธอก็ส่งสายตาเป็นห่วงไปให้เด็กคนนี้
“นางิ ไปหาแม่ซันนี่ก่อน แม่กำลังทำธุระอยู่ลูก”หญิงสาวพูดพลางกระชากแขนออกจากชายหนุ่ม ที่กำลัง งง อยู่ แล้วเดินไปหาเด็ก
“แม่แขนแดงไปหมดเลย เจ็บใหมค่ะ”แต่เด็กสาวไม่ได้กลับไปหาซันนี่ตามคำสั่งของแทยอน ทันทีที่แทยอนมาถึงเด็กน้อยก็รีบดึงแขนที่ถูกบีบของคุณแม่ มาแล้วเป่าให้ทันที
“ไม่ลูก ไปนั่งกับแม่ซันนี่ก่อนน้า”แทยอนลูบหัวเกสาวอย่างเอ็นดู ซึ่งจางอูยองที่ดูเหตุการณ์อยู่ถึงกับอึ้งไปทันที หญิงสาวที่มีท่าทีผยองเมื่อกี๋กลับดูอ่อนโยนและน่ารักขึ้นมา รอยยิ้มที่เธอส่งให้เด็กคนนั้นเป็นรอยยิ้มที่เค้าไม่เคยเห็นซักครั้ง คิมแทยอน รักใครเป็นด้วยหรอ? คำถามนี้ผุดขึ้นมาให้หัวเค้าทันที
“นางิมาหา แม่ซันเร็ว”เสียงของซันนี่ ปลุกอูยองให้ตื่นจากภวังค์ นี่เค้าเป็นอะไรไป ธอทำให้เค้าทะเลาะกับผู้หญิงที่เค้ารักที่สุดรองจากแม่เชียวนะ
“ค้าแม่ซันนี่” นางิ วิ่งไปหาซันนี่ อย่างว่าง่ายซึ่งซันนี่ ก็ยิ้มรับเด็กน้อยด้วยสีหน้าน่ารัก ก่อนที่เจสสิกา จะพานางิไปที่ห้องเสื้อของแทยอนซึ้งอยู่ตรงข้ามร้านอาหาร นี้ เพื่อไม่ให้ นางิ เห็นผู้ใหญ่ทะเลาะกันอี
“เด็กคนนี้เป็นลูกใครกันแน่”อูยองถามแทยอนออกไป เพราะเด็กคนนี้เรียกพวกเธอทุกคนว่าแม่ !
“เรื่องของพวกเรา นายอย่ามายุ่ง!” หลังจากที่เห็นเจสสิกาพานางิเข้าห้องเสื้อของเธอไปอย่างปลอดภัย เธอก็หันกลับมามีเรื่องกับชายหนุ่มตรงหน้าต่อ
“ทีเรื่องของฉัน เธอยังเข้ามายุ่งได้เลย ฮึ! น่าสนุกแล้วสิ ฉันจะรู้ให้ได้ว่าเด็กคนนั้นเป็นไคร ถ้าเธอคิดทำลายคนที่ฉันรัก ก็เตรียมตัวเห็นฉันทำลายคนที่เธอรักได้เลย!” จางอูยอง ประกาศกร้าว ก่อนจะเดินออกไปจากร้าน แทยอน ซันนี่ ยูริ ที่ได้ยิน คำพูดของชายหนุ่ม รีบวิ่งตามออกไปทันที
“นี่นายจะบ้าหรอ นางิยังเด็กนะ กับเด็กนายยังไม่เว้นเลยหรอ”ซันนี่ พูดออกไปพลางดึงตัวอูยองเอาใว้
“จะเด็กจะผู้ใหญ่ ฉันไม่สนถ้าเป็นคนที่ยัยขยะนั่นรัก ! ฉันก็พร้อมที่จะทำลายได้เสมอ” อูยองหันมาตวาดซันนี่
“ทุเรศ!! หน้าตัวเมียมา กับเด็กนายยังคิดจะทำลาย ถ้านางิเป็นอะไรขึ้นมา นายเตรียมตัวจัดงานศพของนังลูกเมียน้อยได้เลย!!”แทยอนเองก็ประกร้าวออกมา ทั้งแทยอนและอูยอง ต่างจ้องหน้ากันไม่วางตา ตอนนี้ทั้งสองได้ประกาศตัวเป็นศัตรูกันอย่างเต็มตัวแล้ว
“เรื่องของแทยอน ไม่เกี่ยวกับฉัน ซันนี่หรือเจสสิกา แต่ถ้านายคิดจะดึงนางิลูกพวกเราเข้ามาเกี่ยวด้วย เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องของพวกเราทันที จำใว้!!” ยูริพูดใส้หน้าชายหนุ่มขึ้นมา
“แล้วถ้านางิ เป็นอะไรไป อย่าว่า แต่คู่หมั้นสุดรักสุดหวงของนาย ทุกอย่างที่นายรักมันจะพินาศ!!! ด้วยมือของพวกเรานี่แหละ” คราวนี้เป็นซันนี่ที่พูดขึ้นมาอย่างโมโหผู้ชายตรงหน้า ที่จะทำร้ายลูกของเธอ
“ทุกอย่างที่เกียวกับนางิ ฉันและเพื่อนๆมีส่วนรับผิดชอบเท่ากัน ถ้านายยังอยากให้เรื่องนี้มีแค่ฉัน นาย และก็นังลูกเมียน้อย ละก็อย่าลากลูกพวกเรามาเกี่ยว จำใว้!!” แทยอนประกาศอีกครั้ง ก่อนจะเดินสาวนำทั้งสองสาวข้ามฝั่งเพื่อไปห้องเสื้อของเธอเอง ถึงเธอจะพูดแบบนั้นออกไป แต่เธอก็อดเป็นห่วงนางิไม่ได้อยู่ดี เธอมั่นใจ ถ้าเมื่อใหร่ที่เธอทำอันตรายนังลูกเมียน้อยมากเกินไป จาง อูยอง ต้องทำอะไรนางิ เป็นแน่ ซึ่งเธอไม่มีทางยอม!!!!
100 % แล้วค่ะ ><
ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็ต้องมีจุดอ่อน ทั้งนั้น ใช่ใหม นางิ เป็นจุดอ่อน เพียวสิ่งเดียวของแทยอน
สุดท้าย เม๊น + โหวต ให้ด้วยค่ะ มันจะเป็นกำลังใจให้ แต่งต่อน่ะ ^^
แก้คำผิดแล้วค่ะ
ความคิดเห็น