ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ` ( 엑소 Store ) Shot Fiction : Kris x Lay x Luhan

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] ครึ่งเพลง. kris x lay

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ค. 56


    © Tenpoints!





     





               ข้าวต้มในช้อนกลางขนาดพอดีปากยื่นมาจ่อที่หน้าผม ร่างบางของเพื่อนสนิทถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมอ้าปากรับข้าวต้มไปกิน

     

                ไม่กินแล้วจะหายป่ะ

               

                “…”

     

                “ไหนอยากไปเจอมันไง ไม่หายแล้วจะได้ไปเจอป่ะ

     

                ผมนิ่งไปเมื่อลู่หานหยุดพูด ใบหน้าของใครบางคนลอยเข้ามาในหัวอย่างอัตโนมัติ พอคิดถึงหน้าใครคนนั้นขึ้นมาได้ ผมก็รีบยื่นมือไปแย่งถ้วยข้าวต้มมาจากลู่หานที่กำลังทำหน้าบึ้งอยู่ทันที ใบหน้าหวานๆมองมาที่ผมด้วยสายตาละคนกำลังไม่พอใจ ผมเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆให้มันแล้วตักข้าวต้มจืดชืดในถ้วยเข้าปากไปแบบเงียบๆ

     

     

     

                นี่กินเพื่อนายเลยนะเนี่ย...

     

              เปิดทีวีให้หน่อยดิผมวางช้อนแล้วหันไปบอกลู่หานที่กำลังมองมาทางผมอยู่ มันพยักหน้าแล้วเดินไปเปิดทีวีให้ตามที่ผมบอก ก่อนจะยื่นรีโมทมาให้ผม

     

                ว่าละ..

     

                ทันทีที่ได้รีโมทมา ผมก็รียกดหาช่องที่ใครคนนั้นของผมจะไปปรากฏ ผมกดหาอยู่ได้ไม่นาน ใบหน้าหล่อเหลาอันแสนคุ้นเคยก็ปรากฏให้ได้เห็น เมื่อเห็นหน้าของคนที่รักมากที่สุดคนนึง ผมก็เผยยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขมากมายมาจากไหนก็ไม่รู้แฮะ ..

     

              คิดถึง .. อยากเจอจัง

     

              ผมยิ้มให้กับคนในทีวีอยู่แบบนั้น ลู่หานที่มองอยู่ก็เอาแต่ส่ายหัวก่อนจะเดินเอาถ้วยข้าวต้มไปเก็บให้ผม น้ำเสียงอันอบอุ่นของคนในทีวีทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดเปิดเพลงของเขาคลอตามไปเบาๆ

     

                ทำไมถึงได้เอาแต่คิดถึงมันอยู่แบบนั้นนะ..อี้ชิงเสียงงึมงำของลู่หานที่อยู่ไม่ไกลลอยเข้าหูผม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมละสายตาไปจากคนตรงหน้านี้ได้หรอก

     

                อยากบ่นอะไรก็บ่นไปเหอะ

     

     

     

     

     

                เออ เอากล้องวิดีโอมาตั้งให้หน่อยดิ จะอัดไว้ให้คริสดูพอได้ยินประโยคขอร้องผมเท่านั้นล่ะ ลู่หานก็ตีหน้าบึ้งใส่ผมทันที

     

                อี้ชิง มันทิ้ง...

     

                “ตั้งกล้องให้หน่อย...ผมรู้ดีว่าลู่หานจะพูดอะไร แต่ผมไม่อยากได้ยินมัน ผมรับรู้แค่ว่าผมรักเขาก็พอ

     

                ส่วนเขาจะรู้สึกยังไงก็ช่างมันเถอะ .. ไม่สำคัญหรอก

     

     

                ใช้เวลาไม่นาน กล้องตัวเก่งของลู่หานก็มาตั้งอยู่ตรงหน้าผม พร้อมกับกีตาร์คู่ใจของผมที่ลู่หานหยิบมาให้พร้อม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมก็เริ่มร้องเพลงทันที

     

     

     


     

    ( อยากให้เปิดคลอไปด้วย: http://www.youtube.com/watch?v=R-GJqmBkkfI)














     

     

              ..ก็ไม่รู้ความขัดแย้งนี้จะทำอย่างไร

     

              ที่เธอคิดถึงนั้นไม่ใช่ฉัน และรักนั้นก็แทบสลายไปแล้ว

     

              ไม่คุ้นเคยอีกแล้ว แต่ก็ยังจะยื่นมือทั้งสองออกไป..

     

              กอดเธอไว้ ..และพยายามดึงเรือที่ออกจากฝั่งกลับมาอย่างช้าๆ

     

     


     

                “เฮ้ย อี้..

     

                “ไม่ต้องพอเห็นว่าผมไอ ลู่หานก็ตั้งท่าจะเดินเข้ามาดูอาการผม แต่ผมก็รีบยกมือห้ามปรามไม่ให้ลู่หานเข้ามา

     

                นี่เป็นวิดีโอที่ผมจะส่งไปให้เขาดู ผมไม่อยากให้เขาเห็นว่าผมอยู่ด้วยตัวเองไม่ได้ ..

     

               


     

                ขอเวลาให้ฉันสักครึ่งเพลงได้หรือเปล่า ..

     

              อย่างน้อยให้ท่วงทำนองนี้ฉุดรั้งปกเสื้อของเธอกลับมา

     

              อดีตที่พบกัน ... เธอไม่อาจรู้สึกถึงได้อีกแล้ว

     

              คนๆนั้นก็คือฉัน คนที่ยังพบเจอได้เสมอ

     

     


     

                อี้ชิง...น้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนล้าและเหนื่อยใจของลู่หานดังขึ้นเบาๆเมื่อเห็นว่าผมเริ่มไอจนมีเลือดออกมา

     

                ...เหมือนที่เคยเป็น

     

     

     


     

                ขอเวลาให้ฉันสักครึ่งเพลงได้หรือเปล่า …

     

              เรื่องราวนี้ยังจะสามารถรับรู้และเข้าใจได้อีกหรือเปล่า

     

              ในเมื่อจากลาไปแบบนี้ และเธอได้เย็นชาไปแล้ว

     

              ค่อยๆสลัดฉันไปเงียบๆ .. เป็นแบบนั้นจริง ฉันก็อาจจะดีขึ้นมาเอง

     

     

     

     

     

                “ลู่หานปิดกล้องให้หน่อย

     

              ผมเริ่มไอหนักขึ้นจนไม่สามารถร้องเพลงต่อไปได้อีก และเรี่ยวแรงของผมก็ค่อยๆเริ่มหายไปทีละนิด จนกระทั่งมือผมร่วงลงจากตัวกีตาร์ไปแบบไม่รู้ตัว ภาพตรงหน้าเริ่มมัวจนมองไม่ชัด เสียงของลู่หานก็อู้อี้จนเกินกว่าจะรู้ได้ว่าลู่หานพูดว่าอะไร สติของผมเริ่มน้อยลงทุกที เช่นเดียวกับลมหายใจของผมตอนนี้ .. ก็ค่อยๆแผ่วลงเรื่อยๆด้วยเช่นกัน

     

                ลู่หาน .. บอกคริสด้วย .. ฝากบอกคริสด้วย... ว่า .. โชคดี

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     






     

     

     

     

     

                “คริส มีของมาส่งน่ะร่างสูงโปร่งโค้งให้กับเมเนเจอร์ของตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินออกไปรับของที่มาส่งด้วยตัวเอง

     

                ซีดีโปรเจกต์แน่ๆ ..อิจฉาพี่จังแฮะ มีโอกาสไม่ได้แฟนคลับทำโปรเจกต์ให้ตลอดเสียงรุ่นน้องในวงทำให้คริสยิ้มออกมากับท่าทางที่ดูเหมือนจะอิจฉาเขาจริงๆ แต่รอยยิ้มที่เผยออกมานั่นกับไม่ใช่อย่างที่ปากพูด คนเป็นพี่อย่างเขาก็เลยได้แต่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

     

                ไม่ใช่ซีดีแต่เป็นเทป .. เออชานยอล พี่ยืมกล้องวิดีโอหน่อยนะ

     

                “อ่า ครับๆ อยู่ในกระเป๋าน่ะหยิบเอาเลย เดี๋ยวผมไปเอาของกับแบคฮยอนก่อนนะว่าเสร็จชานยอลก็เดินตามแบคฮยอนออกไปข้างนอกห้อง

     

     

     

                ตอนนี้ทั้งห้องเหลือแต่เขา พี่เมเนเจอร์และสไตล์ลิสต์ก็ออกไปเตรียมงานข้างนอกกันหมด ไม่ก็ไปอยู่กันอีกห้อง สมาชิกที่เหลือในวงก็ไปเตรียมตัวกันข้างนอกด้วยเหมือนกัน

     

    คริสจัดการเปิดเทปที่ได้มา พอเปิดวิดีโอขึ้นมา .. ข้างในนั้นกลับไม่ใช่โปรเจกต์ที่แฟนคลับทำให้อย่างที่ชานยอลคาด แต่มันเป็นวิดีโอที่แฟนหรือคนรักของเขาทำให้ต่างหาก

     

     

     

     

    “..ที่เธอคิดถึงนั้นไม่ใช่ฉัน และรักนั้นก็แทบสลายไปแล้ว

     

              ไม่คุ้นเคยอีกแล้ว แต่ก็ยังจะยื่นมือทั้งสองออกไป..”

     

     

                อี้ชิง…” คริสเอ่ยชื่อคนรักออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ดวงตาคมคู่สวยเริ่มมีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมา

     

     

                ..กอดเธอไว้ ..และพยายามดึงเรือที่ออกจากฝั่งกลับมาอย่างช้าๆ..

     

               

                อี้ชิงคริสยังคงเอ่ยเรียกชื่อของจางอี้ชิงซ้ำไปซ้ำมา ยิ่งเห็นว่าคนในวิดีโอดูอาการไม่ดี เขาก็ยิ่งเป็นกังวล

     

     

     

    “..ขอเวลาให้ฉันสักครึ่งเพลงได้หรือเปล่า ..

     

              อย่างน้อยให้ท่วงทำนองนี้ฉุดรั้งปกเสื้อของเธอกลับมา..”

     

     

     

                เป็นไงพี่ โปรเจกต์... อ้าวชานยอลที่เปิดประตูเข้ามาในห้องขมวดคิ้วลงเมื่อเห็นว่าคริสมีท่าทางแปลกๆ

     

                น้องชายคนสนิทเดินเข้าไปใกล้แล้วชะเง้อดูภาพในกล้องอย่างสงสัย ก่อนจะร้องอ๋อออกมาเมื่อเห็นคนภาพ

     

     

    “..อดีตที่พบกัน ... เธอไม่อาจรู้สึกถึงได้อีกแล้ว

     

              คนๆนั้นก็คือฉัน คนที่ยังพบเจอได้เสมอ..”

     

               

                “คนนี้เป็นแฟนคลับพี่หนิ ..ผมเห็นแฟนคลับคนอื่นๆของพี่เขาพูดถึงอยู่...

               

                “…”

     

                “เหมือนจะพึ่งเสียไปเมื่อสองวันที่แล้วนี้เอง

               

                ว่าไงนะ

     

     

     

                ดูเหมือนเขาจะป่วยน่ะ นี่คงเป็นวิดีโอสุดท้ายที่เขาทำให้พี่.. ผมว่าจะชวน...

     

                “…”

                “พี่คริส..

     

     

     

     

     

                “..ขอเวลาให้ฉันสักครึ่งเพลงได้หรือเปล่า …

     

              เรื่องราวนี้ยังจะสามารถรับรู้และเข้าใจได้อีกหรือเปล่า

     

              ในเมื่อจากลาไปแบบนี้ และเธอได้เย็นชาไปแล้ว

     

              ค่อยๆสลัดฉันไปเงียบๆ .. เป็นแบบนั้นจริง ฉันก็อาจจะดีขึ้นมาเอง..

     

     

     

     

     

     

                ภาพในอดีตย้อนเข้ามาในหัวเขาเป็นฉากๆราวกับละครที่เคยดู

     

     

     

     

     

                ตอนที่เขาทิ้งจางอี้ชิงมา ..เพื่อทำตามความฝันของตัวเอง

                ตอนที่อี้ชิงกอดเขาไว้แล้วขอร้องว่าอย่าไป ...

                ตอนที่เขาทะเลาะกับอี้ชิง และเดินจากอี้ชิงมาในที่สุด …

                ตอนที่เขากลายมาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในตอนนี้
     

               



     

       และตอนนี้ที่เขาได้รู้เหตุผลที่ตอนนั้นอี้ชิงยื้อเขาเอาไว้แล้ว ..

             

     

     

                ทุกๆครั้งที่จางอี้ชิงไอ มันเหมือนมีมีดกรีดลงมาที่ใจของเขา แต่พอได้ยินประโยคที่ชานยอลพึ่งบอกเขามา มันกลับเหมือนมีมีดนับพันเล่มทิ่มมาที่ใจของเขา เหมือนมีของหนักๆฟาดลงที่หน้าของเขา .. ก่อนที่น้ำตาของคนที่ชื่อได้ว่าเข้มแข็งที่สุดในวงค่อยๆไหลออกมาในที่สุด

     

                พี่คริส.. ไม่เป็นไรนะ ผมรู้พี่เสียใจเดี๋ยวเราไปงานเขากันไหมล่ะ ผมพอรู้อยู่ว่าเขาจัดงานกันที่ไหนชานยอลตบไหล่ให้กำลังใจพี่ชายร่วมวงตัวเอง พร้อมกับปลอบใจไปด้วย

     

                เขาจัดงานกันที่ไหน

                “เลิกงานแล้วเดี๋ยวผมพาไป

                “ไม่! พาพี่ไปตอนนี้เลย

                “แต่พี่เขาจะว่า..

                “เร็วสิ

               

     

     

                “…”

                “…”

                “ก็ได้ครับ

     

     

     

     

     

     

                หลังจากใช้เวลาราวๆครึ่งชั่วโมงคริสก็มาถึงที่หมาย แต่ภายในสถานที่จัดงานกลับไม่มีใครอยู่เลย จะมีก็เพียงแต่ร่างเล็กของใครบางคนกำลังยืนสั่นอยู่คนเดียว

     

     

     

                “อี้ชิง............................................................ร่างสูงทรุดลงตรงหน้าหลุมศพของคนรักทันที น้ำตาที่พึ่งหยุดไหลไปไหลออกมาอีกครั้งหนึ่ง

     

                คริส..ลู่หานหันมามองเพื่อนเก่าด้วยท่าทางตกใจอยู่ไม่น้อย

     

     

     

                “ทำไมไม่บอกกูวะ ..ทำไมไม่บอกว่าอี้ชิงไม่สบายคริสร้องไห้ออกมาอย่างหนัก อย่างไม่กลัวว่าใครจะมาเห็น

     

     

     

                มันบอกว่ามึงเลือกแล้ว มันก็เลยอยากให้มึงเดินไปให้ถึงจุดหมายของมึง ..มันก็เลยไม่ให้กูบอกมึง

     

                “…” คริสไม่ได้พูดหรือตอบอะไรออกไปอีก มีเพียงเสียงสะอื้นของร่างสูงที่เป็นหัวหน้าวงของไอดอลกรุ๊ปชื่อดังเท่านั้นที่ดังอยู่

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     







     

                ..ขอเวลาให้ฉันสักครึ่งเพลงได้หรือเปล่า..

     

     

              จางอี้ชิง... กลับมาร้องนี้ให้เต็มเพลงได้ไหม .. ได้ไหม ... นะครับ – คริส












    ไม่รู้มีอะไรผิดพลาดเปล่านะ
    คือทีแรกเห็นแต่ชื่อเพลง พอฟังแล้วพลอตก็บังเกิด
    กลับมาอ่านเนื้อแล้วยิ่งใช่ก็เลยเอามาแต่ง แต่มันดูเร่งๆหน่อยภาษาขี้เหร่ดี ฮ่าๆๆ
    ว่างๆจะรีไรท์ให้ภาษาสวยกว่านี้ละกัน ...ขอบคุณทุกคอมเม้นท์และทุกๆคนที่อ่าน / แว้บมาอิดิทนิดนึง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×