คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ในน้ำ มีชีวิต ( ข้อความ ที่ ๒)
06.00 น.
วันเดียวกัน
เสียงดังมาจากรถประกาศสถานการณ์น้ำของหมู่บ้าน
ดังมาจากหน้าหมู่บ้าน
เพื่อนๆ ข้างบ้านต่างออกไปยืนคุย
วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ สถานการณ์กันอย่างหวั่นวิตก
เมื่อชะโงกหน้าออกไปดู
หนึ่งในกรรมการหมู่บ้านที่สนิทกันก็ ตะโกนบอกขึ้นมาทันทีว่าน้ำมาถึงแล้ว..!
น้ำเริ่มปริ่มถนนรอบนอกของหมู่บ้านในขณะที่ในหมู่บ้านยังแห้งสนิท
ผมลงไปลองเอาไม้เขี่ยๆ ดู ก็ปรากฏว่า น้ำไม่กระดิกตัวเลยสักนิด
"ตายแล้วมั้ง" ผมคิด
ขณะที่หลายคนหวาดวิตกกังวลและเริ่มอพยพ
ผมกลับรู้สึกว่าช่าง " Over Action" กันจริงเชียว
ไม่เห็นน้ำมันจะเพิ่มสักเท่าไรเลย
ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตายอย่างแท้จริง
หลังจากโผล่หัวออกจากบ้านไปดูสถานการณ์ได้นิดเดียว
ผมก็วางใจ กลับมาจิบกาแฟ เขียนหนังสืออย่างไม่ทุกข์หนาอาทรร้อนใจอะไร
ด้วยคิดไม่ทันว่าข้าศึกคราวนี้ มันจะตลบหลังเอาแบบนี้
หลังจากแล่นเอื่อยๆ เฉื่อยๆ มาสักพัก
ความเร็วของน้ำก็เพิ่มอย่างน่าครั่นคร้ามหวาดหวั่น
ในเวลาเพียง แค่ 3 ชั่วโมง
หลังจากที่ผมออกไปดูสถาณะการณ์ครั้งสุดท้าย
ตอนนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากพื้นถนน มากกว่า 30 เซนติเมตรแล้ว!!
บ้าเอ๊ย...
"มันแกล้งทำเป็นมาอย่างช้าๆ ในตอนแรกนี่หว่า.!" ผมติดกับศัตรูเข้าแล้ว
9.06 น.
กองทัพน้ำปีนี้เจ้าเล่ห์ ไม่เลวเลยทีเดียว...
ไม่ได้ ! ไม่ได้ !! ต้องบอกให้คนอื่นๆ ได้รู้ ถึงความเจ้าเล่ห์ของมัน .. !!!
ก่อนจะออกไปดูสถานการณ์อีกที!! ...ว่าแล้วก็แชร์ลงในเนตสักหน่อย!
Share...
------------------------------------------------------
9.13 น.
ถนนหนทางถูกกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ตัดขาดไปหลายช่วง
ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างลำบากยากยิ่ง
รถเล็กไม่ควรออกจากฝั่ง เอ๊ย.. ไม่สามารถผ่านได้
ส่วนรถใหญ่และรถกระบะต้องหยุดพักเป็นช่วงๆ ไป
ถ้ายังไม่อยากจมน้ำตายอยู่บนถนน
เส้นทางอพยพที่เตรียมไว้ในตอนแรก หายวับจมวูบสู่ก้นท้องน้ำทันที !
บ้าเอ๊ย..
คงต้องปักหลักสู้กันจริงๆ แล้วสิทีนี้
ในขณะที่ด้านนอกของหมู่บ้าน เจิ่งนองไปด้วยน้ำแทบจะเต็มทุกพื้นที่
ถนนที่เห็นหายจมวับไปกับตา
เมื่อ ลูกคลื่นของน้ำไล่ใกล้เข้ามา ราวกับถนนถูกเตรียมไว้เป็นทางวิ่งของน้ำ
ราวกับใครแกล้งคว่ำน้ำในกะละมังใบเขื่องเข้าใส่ประสาททรายในกระบะ
ยังไม่ทันหายตื่นตกใจ เสียงโห่ร้องของกองทัพน้ำ ก็กู่ก้องร้องมาจากทั่วทุกสารทิศ
ฉับพลัน !!
ทุกตรอกซอกซอยที่มีที่แยกย่อยให้ผ่านได้
น้ำก็ปริ่มทะลักเข้ามาจนเต็มครรลองสายตา
ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหน ก็มีแต่น้ำ กับ น้ำ
สิ่งไหนขวางทางทำให้วิ่งไม่ได้
กองทัพน้ำก็พุ่งเข้าชน แล้วกัดเซาะทำลายไม่เลือกหน้า
กลืนกินทุกสิ่งที่มองเห็นให้จมหายไปในพริบตา
คลื่นแรงดันน้ำที่มามหาศาลจนคนคิดหน่วยปาสคาลไม่อยากคำนวณนับ
ขนาดรถบรรทุก กระบะ ขนาดเกือบๆ 2 ตัน ยังโดนแรงน้ำดันเสียแทบพลิกตกถนน
ผมไม่ประหลาดใจเลยว่า
ทำไมแท่งคอนกรีตและเหล็ก ซึ่งถูกนำมาเป็นกำแพงกั้น
จึงถูกถอนรากถอนโคนได้ง่ายดายขนาดนั้น
เมื่อเห็นมวลน้ำนั้นมหาศาลจนลายหูลายตา
มิน่ากำแพงกั้นน้ำไหนๆ ก็ เอาไม่อยู่ !!
ผมยืนขาสั่นตั้งแต่เห็นคลื่นน้ำวิ่งมาตามท้องถนนแล้ว
พอมีน้ำทะลักออกมาตามซอกซอยด้านข้างอีก ก็ถึงกับผงะถอยหนี
ถอยหลังขึ้นไปยืนอยู่บนคอสะพาน ข้ามแม่น้ำเลียบหมู่บ้าน
น้ำที่วิ่งมาถึงตัวสะพาน
ไหลลงไปในลำคลอง ตามที่ธรรมชาติกำหนดไว้
ให้เป็นไปตามธรรมชาติของน้ำที่ต้องไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ
"ห่างจากจุดที่ผมยืนไม่ถึงวา"
กระแสน้ำทำเอาผมประหวั่นพรั่นพรึง
แล้วถอยหนี กลับไปตั้งหลักในหมู่บ้าน
โชคยังดี ตอนนี้ในหมู่บ้านยังแห้งอยู่...
เรื่องระทึกขวัญขนาดนี้ ยังไงก็ต้องแชร์..
09.57 น.
Share...
ความคิดเห็น