ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ในน้ำ มีชีวิต (อัพเดทสถานการณ์น้ำท่วม หมู่บ้านไอ้ปัฐครับ)

    ลำดับตอนที่ #2 : ในน้ำ มีชีวิต ( ข้อความ ที่ ๒)

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 54




    06.00 น.

    วันเดียวกัน

     

    เสียงดังมาจากรถประกาศสถานการณ์น้ำของหมู่บ้าน
    ดังมาจากหน้าหมู่บ้าน

    เพื่อนๆ ข้างบ้านต่างออกไปยืนคุย
    วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ สถานการณ์กันอย่างหวั่นวิตก

    เมื่อชะโงกหน้าออกไปดู
    หนึ่งในกรรมการหมู่บ้านที่สนิทกันก็ ตะโกนบอกขึ้นมาทันทีว่าน้ำมาถึงแล้ว..
    !

     

    น้ำเริ่มปริ่มถนนรอบนอกของหมู่บ้านในขณะที่ในหมู่บ้านยังแห้งสนิท
    ผมลงไปลองเอาไม้เขี่ยๆ ดู ก็ปรากฏว่า น้ำไม่กระดิกตัวเลยสักนิด

    "ตายแล้วมั้ง" ผมคิด

     

    ขณะที่หลายคนหวาดวิตกกังวลและเริ่มอพยพ
    ผมกลับรู้สึกว่าช่าง "
    Over Action" กันจริงเชียว
    ไม่เห็นน้ำมันจะเพิ่มสักเท่าไรเลย

    ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตายอย่างแท้จริง
    หลังจากโผล่หัวออกจากบ้านไปดูสถานการณ์ได้นิดเดียว
    ผมก็วางใจ กลับมาจิบกาแฟ เขียนหนังสืออย่างไม่ทุกข์หนาอาทรร้อนใจอะไร
    ด้วยคิดไม่ทันว่าข้าศึกคราวนี้ มันจะตลบหลังเอาแบบนี้

    หลังจากแล่นเอื่อยๆ เฉื่อยๆ มาสักพัก
    ความเร็วของน้ำก็เพิ่มอย่างน่าครั่นคร้ามหวาดหวั่น

    ในเวลาเพียง แค่ 3 ชั่วโมง
    หลังจากที่ผมออกไปดูสถาณะการณ์ครั้งสุดท้าย
    ตอนนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากพื้นถนน มากกว่า 30 เซนติเมตรแล้ว
    !!  
    บ้าเอ๊ย...

    "มันแกล้งทำเป็นมาอย่างช้าๆ ในตอนแรกนี่หว่า.!" ผมติดกับศัตรูเข้าแล้ว

     

     

    9.06 น.

     

    กองทัพน้ำปีนี้เจ้าเล่ห์ ไม่เลวเลยทีเดียว...

    ไม่ได้ !  ไม่ได้ !!  ต้องบอกให้คนอื่นๆ ได้รู้ ถึงความเจ้าเล่ห์ของมัน .. !!!

    ก่อนจะออกไปดูสถานการณ์อีกที!!  ...ว่าแล้วก็แชร์ลงในเนตสักหน่อย!


    Share...

     

    ------------------------------------------------------

     

    9.13 น.

     

    ถนนหนทางถูกกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ตัดขาดไปหลายช่วง
    ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างลำบากยากยิ่ง
    รถเล็กไม่ควรออกจากฝั่ง เอ๊ย.. ไม่สามารถผ่านได้
    ส่วนรถใหญ่และรถกระบะต้องหยุดพักเป็นช่วงๆ ไป
    ถ้ายังไม่อยากจมน้ำตายอยู่บนถนน
     
    เส้นทางอพยพที่เตรียมไว้ในตอนแรก หายวับจมวูบสู่ก้นท้องน้ำทันที !
    บ้าเอ๊ย..
    คงต้องปักหลักสู้กันจริงๆ แล้วสิทีนี้

     

    ในขณะที่ด้านนอกของหมู่บ้าน เจิ่งนองไปด้วยน้ำแทบจะเต็มทุกพื้นที่

    ถนนที่เห็นหายจมวับไปกับตา

    เมื่อ ลูกคลื่นของน้ำไล่ใกล้เข้ามา ราวกับถนนถูกเตรียมไว้เป็นทางวิ่งของน้ำ

    ราวกับใครแกล้งคว่ำน้ำในกะละมังใบเขื่องเข้าใส่ประสาททรายในกระบะ

    ยังไม่ทันหายตื่นตกใจ เสียงโห่ร้องของกองทัพน้ำ ก็กู่ก้องร้องมาจากทั่วทุกสารทิศ

    ฉับพลัน !!  

    ทุกตรอกซอกซอยที่มีที่แยกย่อยให้ผ่านได้
    น้ำก็ปริ่มทะลักเข้ามาจนเต็มครรลองสายตา
    ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหน ก็มีแต่น้ำ กับ น้ำ

     

    สิ่งไหนขวางทางทำให้วิ่งไม่ได้
    กองทัพน้ำก็พุ่งเข้าชน แล้วกัดเซาะทำลายไม่เลือกหน้า
    กลืนกินทุกสิ่งที่มองเห็นให้จมหายไปในพริบตา

    คลื่นแรงดันน้ำที่มามหาศาลจนคนคิดหน่วยปาสคาลไม่อยากคำนวณนับ

    ขนาดรถบรรทุก กระบะ ขนาดเกือบๆ 2 ตัน ยังโดนแรงน้ำดันเสียแทบพลิกตกถนน

    ผมไม่ประหลาดใจเลยว่า
    ทำไมแท่งคอนกรีตและเหล็ก ซึ่งถูกนำมาเป็นกำแพงกั้น
    จึงถูกถอนรากถอนโคนได้ง่ายดายขนาดนั้น
     
    เมื่อเห็นมวลน้ำนั้นมหาศาลจนลายหูลายตา

    มิน่ากำแพงกั้นน้ำไหนๆ ก็ เอาไม่อยู่ !!

     

    ผมยืนขาสั่นตั้งแต่เห็นคลื่นน้ำวิ่งมาตามท้องถนนแล้ว
    พอมีน้ำทะลักออกมาตามซอกซอยด้านข้างอีก ก็ถึงกับผงะถอยหนี
    ถอยหลังขึ้นไปยืนอยู่บนคอสะพาน ข้ามแม่น้ำเลียบหมู่บ้าน

    น้ำที่วิ่งมาถึงตัวสะพาน
    ไหลลงไปในลำคลอง ตามที่ธรรมชาติกำหนดไว้
    ให้เป็นไปตามธรรมชาติของน้ำที่ต้องไหลลงสู่ที่ต่ำเสมอ
    "ห่างจากจุดที่ผมยืนไม่ถึงวา"

     

    กระแสน้ำทำเอาผมประหวั่นพรั่นพรึง
    แล้วถอยหนี กลับไปตั้งหลักในหมู่บ้าน

    โชคยังดี ตอนนี้ในหมู่บ้านยังแห้งอยู่...

     

    เรื่องระทึกขวัญขนาดนี้ ยังไงก็ต้องแชร์..

     

    09.57 น.

     

    Share...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×