เอ๊ะ!ยังไง? คิดandมิกส์ แบบมีสาระ ให้จนได้เรื่อง~ - นิยาย เอ๊ะ!ยังไง? คิดandมิกส์ แบบมีสาระ ให้จนได้เรื่อง~ : Dek-D.com - Writer
×

    เอ๊ะ!ยังไง? คิดandมิกส์ แบบมีสาระ ให้จนได้เรื่อง~

    ใครจะเข้าใจได้ละว่า'สมอง'อันน้อยๆของเราแต่ละคนนั้น มันซับซ้อนซะขนาดไหน?,,,คิดอย่างบ้าๆบอๆ แต่มีสาระ และรู้จักคิด มิกส์ให้มันเปรเปลี่ยนจาก'เรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย'

    ผู้เข้าชมรวม

    583

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    583

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  25 ส.ค. 52 / 20:02 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เอ๊ะ!ยังไง? คิดandมิกส์ แบบมีสาระ ให้จนได้เรื่อง~

    ขอต้อนรับคุณเข้าสู่
    ''ความคิดที่มีแต่คิดๆ และมิกส์ๆ ให้จนได้เรื่อง''


    ขอบคุณธีมสวยๆ จากMiny Ann  มากคะ

    Hello~  ^^ ขอแนะนำตัวเอง เจ้าของบทความนี้กันก่อนเนอะ
    ชื่อเล่น : เมจัง [เรียกเมย์สั้นๆก็ได้นะคะ]
    อายุ : 16 ปี
    การเรียน : เรียนอยู่สายวิทย์-คณิต ห้องศักยภาพ4/4
    ok :) รู้จักกันคร่าวๆ ก็โอๆ กันแล้วเนอะ,,

    >>ในบทความนี้ อาจมีคำไม่สุภาพนิดนึง เพื่อให้ได้อารมณ์ในการอ่านอ่านะ^^'
    ยังไงก็ขอ อภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ



    หลายคนคงแอบงงๆเล็กน้อย@_@#))ว่า
    บทความ
    นี้ มันคืออะไร?  ชื่อก็แปลกๆ บ้าๆบอๆ หรือเปล่า 5 5+


                นั่นสิ ตัวเมเองก็ยังงงๆ สงสัย Brain ของเม คงคิดเท่าไหร่ ก็คิดไม่ออก
    ว่าจะสื่ออะไรดี = =' เอาเป็นว่า Brain ของเมไม่ค่อยจะแล่นสักเท่าไหร่ละมั้ง ฮ่าๆ

    เลยคิดได้แค่นี้ว่า "เอ๊ะ!ยังไง? คิดandมิกส์ แบบมีสาระ ให้จนได้เรื่อง~"

    แล้วมันคืออะไร จะสื่ออะไร ??
               บทความนี้ คงเป็นบทความที่เรียกว่า ออกแนวสไตล์ๆแปลกๆ
    เขียนโดยความคิดของเมเอง ซึ่งใจความสำคัญของบทความนี้
    คงไม่พ้นเรื่องคิดๆๆ คิดให้แปลกๆ และมิกส์ๆๆ มิกส์กันให้ได้เรื่อง
    พูดแบบนี้คงอาจจะงงๆ กันเล็กน้อยหรือไม่ก็งงจนบานเบอะ!! - -*
    งั้นยกตัวอย่าง แซมเปิ้ลง่ายๆกันดู ^^


    sample ที่1
    เช่น  โอ้วพระเจ้า~ >_____<วันนี้เราเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่องความตึงผิว
    งงๆ มึนๆ สงสัยว่าทำไมต้องเรียน เรียนไปเพื่อ??
    แต่สุดท้ายก็ต้องเรียนไป ถ้าไม่เรียนก็ไม่ได้เกรด = ='
    'นักเรียนนนน'
    ความตึงผิว คือ บลาๆ~ สูตรของมันเขียนแบบนี้ ........
    พอเลิกเรียนปุ๊บ ก็คาบพักกลางวันพอดี ^^
    ไอเรื่องความตึงผิว อะไรๆลืมหมด = =' 55 +


    กลางวันซื้อน้ำมาแก้วนึง
    เราลองมาคิด และ มิกส์กันดีกว่า
    V
    v
    อ๊ากๆๆ(ร้องซ่ะเว่อร์= =') น้ำๆๆๆๆๆๆๆ
    น้ำ เอ๊ะ!! น้ำมีความตึงผิวเปล่าหว๊าาา???
    เฮ้ยยO_o)) ลองนึกดิ๊ ,,
    เอ...วันนี้เราเรียนเรื่องความตึงผิวมาใช่ป่ะ  แล้วมันคืออะไรหว๊าา???? = ='
    อ้อ ความตึงผิวก็คือ อัตราส่วนระหว่างแรงดึงผิวของของเหลว
    กับความยาวของเส้นของของเหลวที่ขาดมีค่าคงตัวนี่เอง
    เฮ้ยย!!!~ชั้นจำได้ >__________<กรี๊ชชชช
    แล้วสูตรมันก็คือ  ก็คือ,,
     แกรมม่า เท่ากับ F ส่วน L นี่เอง



    รู้สึกว่าในคาบอาจานจะบอกว่าน้ำก็มีแกรมม่านะ
    (ทีนี้เมื่อเรารู้ว่าความตึงผิวก็คือแกรมม่านะ เราก็นำคำมามิกส์กัน เรียกให้ดูเวริค เพอเฟคขึ้น55 +
    แต่มันดูดีจริงๆนะเมว่า ^^ มันดูดีมีระดับอ่า เมชอบสรรหาคำมามิกส์มาเรียกแทนกัน อิอิ
    มันอยู่ที่ความGetของแต่ละคนด้วยน๊ะ!!* อย่าเอามามั่วปนกันจนเราไม่รู้เรื่องหล่ะ ฮ่าๆ)



    เห็นม๊าา,,,แค่นี้ก็เวริคแล้วอ่ะ หัดคิด ตั้งคำถาม หาคำตอบ
    ใครเรียนแล้วจำไม่ได้ก็ไปเปิดสมุด หาหนังสือ ศึกษาดูว่า
    มันคืออะไรๆๆ สูตรแบบนี้ๆๆๆๆน่ะ!!




    "ทำไมไม่ทำให้สิ่งที่เราเรียนมา มีส่วนไปแจม ไปคิด ไปมิกส์ กับกระทำต่างๆใช้ชีวิตประจำวันหล่ะ?"
    (เออ.. นั่นดิว่ะ เราก็เรียนๆแล้วก็เรียนๆจนเป็นชีวิตประจำอันแสนจะน่าเบื่อ:(
    แต่ทำไม เราไม่นำการเรียนที่เราเรียนพวกนี้ มามิกส์ๆๆๆ>________________<
    กับการกระทำต่างๆที่เราทำกันทุกวันๆ และทุกเวลา แล้วคิดๆๆ คิดจนได้เรื่อง ว่าอ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง
    เช่น ทานข้าวก็ท่องสูตร
    เข้าห้องน้ำก็นึกภาพระบบขับถ่าย เห็นเด็กๆวิ่งรอบสนามก็นึกถึงการทำงานของกล้ามเนื้อ
    และตั้งคำถามในใจว่า 'เราวิ่งได้ไงหว๊าา?? กล้ามเนื้อขาทำไมมันทำให้เราวิ่งได้ว่ะ'
    เท่านั้นแหละ ก็ระดมสมองย้อนนึกสิ่งที่เรียนในวิชาชีวะเรื่องการทำงานของกล้ามเนื้อเลย55 +)


    บางคนอ่านแล้วนึกใจว่า ถ้าให้ทำแบบนั้นมีหวัง บ้าตาย สมองรวน ปวดหัว โอยๆๆ>_____<
    อะไรต่อมิอะไร สับสน มึนงง บลาๆ~ 



    มันแล้วแต่คนเนอะ บางคนขี้เกียจคิด บางคนคิดว่ามันน่าเบื่อ เดี๋ยวเครียด
    แล้วคุณจะไปคิดมากทำไม คิดให้มันสนุกๆเซ่่,,, คิดให้ฮาๆ คิดให้มันน่าสงสัย
    คุณคิดว่างั้นมั้ยหล่ะ???

             
    สมองคนเรา ก็มีเหมือนกัน ต่างกันก็แค่การพัฒนา พันธุกรรม อะไรต่อมิอะไร~
    แต่เราทุกคน ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาสมองของเราให้ แหล่ม แจ่มขึ้นกว่าเดิม มิใช่หรอ??? ^^
    เมแค่เขียนให้แนวคิดเท่านั้น ใครจะนำไปใช้ก็ไม่ว่าอะไร :)
    คิดเยอะๆ แต่อย่าคิดมาก  ก่อนคิดดูอารมณ์ของคุณก่อน



    (ใครจะบ้ามานั่งคิดการทำงานของกล้ามเนื้อ เวลาเราโกรธ
    ว่าเฮ้ยยยO_O))!!* ทำไมเวลาโกรธ หน้ามันเป็นแบบนี้หว๊าาา กล้ามเนื้อที่ใบหน้าเราทำงานไงว่ะ
    เวลาโกรธหน้าชั้นถึงเป็นแบบนี้,,,,)


    ใครคิดแบบนี้ได้ก็น่าแปลกใจ  เพื่อนมันคงสงสัยว่า เอ๊ะ!! ไอนี่จะโกรธหรือจะอะไรกันกันแน่เนี่ยยย
    ไอฟรายยยนี่หนิ  ปญอ.  กุงงก็มุงจริงๆ !!~ (น่าน โดนเพื่อนว่าอีก -*-)



               อย่างที่บอกคุณนั่นแหละ ว่าคิดให้รู้จักคิด ดูอารมณ์
    เห็นอะไร ก็หัดลองคิด คิดแล้วตั้งคำถาม และนำสิ่งที่เราเรียนมามิกส์กัน ให้ได้เรื่อง
    พอได้เรื่องแล้ว ก็จะได้ คำตอบของคำถามนั้นออกมา

    กว่าจะได้คำตอบมา ก็ทำให้สมองเราคิด นึกสิ่งที่เคยเรียนออกมา,,
    ซึ่งมันทำให้เราจำได้นานขึ้นไปอีก
    ได้รู้ว่า เออ~สิ่งที่ชั้นเรียนไป ชั้นเก็ทแล้ว ชั้นจำได้



    เพียงแค่คุณรู้จักคิด รู้จักมิกส์ ให้จนได้เรื่อง
    แค่นี้การจดจำเนื้อหาสิ่งที่คุณเรียนมา ก็ชิวๆแล้ว ^^



    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น