คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [OS] With You [ByungChan]
ดวงตาเรียวจับจ้องไปยังคนตัวบางที่ตลอดทางจากสนามบิน บนรถตู้มาจนถึงตอนนี้ที่ยังไม่พูดไม่จากับใคร กลับถึงหอพักก็รีบสะพายกระเป๋า หยิบของออกจากรถและเดินเข้าห้องปิดประตูเสียงดัง พาลเอาคนมองถอนหายใจกับภาพที่เห็นก่อนจะกวาดมองบุคคลรอบกาย...ทุกคนพากันส่ายหน้าก่อนจะหามุมสำหรับผ่อนคลาย ไม่มีใครรู้ว่าอีชานฮีเป็นอะไรถึงเงียบและดูโมโหแบบนั้น การซ้อมในช่วงนี้ที่หนักหนารวมถึงยังรับงานไม่หยุด ทำให้ทุกคนพากันอ่อนล้ารวมถึงบางครั้งก็หงุดหงิดง่าย..แต่เดี๋ยวก็คงจะหาย
มินซูวางกระเป๋าและของต่างๆจากแฟนคลับลงใกล้ๆโซฟาก่อนจะล้มตัวลงนอนทันที นีแอลเดินเข้าไปเก็บของในห้องและไม่รู้จะออกมาอีกไหม ชางฮยอนและจงฮยอนนั่งดูของที่แฟนคลับให้อยู่ด้วยกันบนพื้นกลางห้องและไม่วายหยิบถุงของลีดเดอร์ที่นอนหลับไม่รู้เรื่องมาด้วย เห็นอะไรน่ากินก็แอบขโมยมาก่อนจะพากันเห็นดีเห็นงามว่าคราวหน้าควรไปซื้อมากินบ้าง...อีบยองฮอนยิ้มบางๆกับภาพน้องทั้งสองคน เห็นทีเขาเองก็สมควรเก็บของและตามเข้าไปดูคนตัวบาง ผมบลอนด์ขาวที่หายเงียบเข้าไปในห้องบ้างสักที
อีชานฮีกำลังโมโห....โมโหและอารมณ์เสีย..ไม่หรอกการทำงานหนักหรือตารางซ้อมพวกนั้นเขาชินเสียแล้ว มากกว่า3ปีแล้วตั้งแต่เป็นเด็กฝึกที่ต้องซ้อมอย่างหนักเพื่อจะมีวันนี้ ความเหนื่อยยากเหล่านั้นเขายังจำได้ดีและสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะต้องไม่หยุดแค่นี้ ต้องทำให้ดีกว่านี้เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อสมาชิกในวง...และแน่นอนเพื่อแองเจิ้ล..แฟนคลับที่คอยรัก ให้กำลังใจกันมาโดยตลอด แม้วันนี้จะเกิดเรื่องที่ไม่ค่อยดีขึ้นบ้าง...เรื่องที่ทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีแบบนี้
มือบางจับเส้นผมด้านหน้าขึ้นปัดไปด้านข้างก่อนจะเข้าใกล้กระจกเพื่อมองให้ชัด...ความจริงไม่ต้องเข้าใกล้ก็คงเห็น...รอยแดงที่เริ่มบวมเพราะการโดนของแข็งบางอย่างกระแทก...ไม่หรอก เขาจะไม่โทษแฟนคลับ มันไม่ใช่ความผิดของแฟนคลับไปเสียทั้งหมด เขาเป็นศิลปิน เขาเข้าใจในข้อนั้นดี ใครๆก็อยากเข้าใกล้คนที่ตัวเองชอบ อยากเห็นชัดๆ เตรียมของมาก็อยากให้ แต่พอเข้าไม่ถึงจึงโยนมาแบบนั้น...และคงเป็นดวงของเขาที่ดันโดนสันกล่องเข้าเต็มๆแถวๆปลายคิ้ว ความรู้สึกแรกคือชา..เขายิ้มน้อยๆรับของชิ้นนั้นปิดซ่อนความเจ็บที่เริ่มออกฤทธิ์ คว้าแว่นตาดำที่สอดอยู่แถวคอเสื้อออกมาใส่เพื่อปิดบังดวงตาที่แสดงอารมณ์ออกมา..และเพราะความเจ็บ เพราะอะไรหลายๆอย่างทำให้เขาเลือกที่จะไม่พูดคุยกับใคร เดินให้เร็วยิ่งขึ้นก่อนจะขึ้นรถตู้และหันหน้าออกนอกหน้าต่างแสร้งทำว่าหลับ...
"ชานฮี...."เสียงทุ้มที่ดังขึ้นพร้อมเสียงประตูห้องที่เปิดออกทำเอาคนที่ตกอยู่ในภวังค์สะดุ้ง ปัดผมให้เข้าที่ก่อนจะหันไปหา
"มีอะไรหรอบยองฮอน"เสียงหวานตอบรับ ยิ้มน้อยๆและเดินมาใกล้คู่สนทนามากขึ้น บุคคลมาใหม่จ้องหน้าเขานิ่งก่อนจะรวบตัวเข้าไปกอดไว้เสียแน่น
"อื้อ...เป็นอะไร...กอดซะแน่นเชียว"แม้จะรู้สึกอึดอัดแต่ชานฮีเลือกที่จะกอดตอบ ลูบแผ่นหลังของอีกฝ่ายเบาๆ "จะ..."
"เจ็บมากไหม..."ก่อนที่จะทันได้พูดอะไรต่อเสียงทุ้มที่เอ่ยขัดกลับทำให้คนในอ้อมกอดนิ่งไปชั่วขณะ...
"..........."
"เจ็บมากรึเปล่าชานฮี...."เพียงเท่านี้ ความเข้มแข็งที่เคยคิดว่ามีกลับหดหาย ความเจ็บที่คิดว่าแค่นี้เองกลับแสบเท่าทวีคูณ ภาพที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นเพราะเจ้าตัวก็โดนรุมอยู่เหมือนกันกลับอยู่ในสายตาอีกฝ่าย
เพียงแค่คิดว่าอีบยองฮอนเป็นห่วงมากแค่ไหน...
เพียงแค่คิดว่าอีชานฮีไม่เคยอยู่นอกสายตาของอีบยองฮอน.....
เพียงแค่คิดว่าอีบยองฮอนใส่ใจมากเพียงไร....
ทำนบน้ำตาที่เคยคิดว่าจะไม่มีทางไหลออกมาแน่ๆกลับพังทลายคล้ายเขื่อนแตก อีชานฮีไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย เพียงแค่กอดอีบยองฮอนให้แน่นขึ้น ส่ายหน้าเบาๆและซุกใบหน้าลงกับไหล่แกร่ง...ไหล่ของบยองฮอนอาจไม่ได้กว้างหรือใหญ่เหมือนผู้ชายคนอื่น แต่ไหล่นั้นช่างแข็งแกร่งและคอยเป็นที่พักพิงให้ชานฮีเสมอมา ไม่ว่าจะสุข จะทุกข์ จะเหนื่อยยาก...ไหล่นี้มีไว้ให้เขาได้แอบอิงอยู่เสมอ
"ขอโทษนะ...."อ้อมกอดที่โอบรัดยิ่งแน่นขึ้น มืออุ่นที่ลูบหลังไปมาเปลี่ยนมาลูบผมคล้ายปลอบประโลม แต่ใจความที่พูดทำให้คนฟังรู้สึกฉงน
"ขอโทษทำไม..."เสียงหวานสั่นเครือเอ่ยถามออกไป
"ขอโทษที่แม้แต่คำพูดสักคำก็ไม่ได้พูดทั้งๆที่ควรพูด ควรทำให้นายรู้สึกดีขึ้นตั้งแต่ตอนอยู่บนรถ ขอโทษที่ทำได้แค่ยืนมองตอนของกล่องนั้นกระแทกลงใบหน้าของนาย...ขอโทษ..ที่ปกป้องอีชานฮีไม่ได้..."
เพียงเท่านี้ก็มากพอ...เพียงแค่มีใครสักคนที่รักและเป็นห่วงเขาจากใจจริง เพียงแค่มีใครสักคนที่คอยดูแลและห่วงใย คอยปลอบโยนในยามที่เหงา คอยทำให้สงบในเวลาที่ร้อนใจ...เพียงแค่ใครสักคน...และตอนนี้เขาเจอแล้ว คนๆนั้นก็คือคนที่กอดเขาไว้แนบอกในตอนนี้...คนที่แสนดี...อีบยองฮอน...
"จะบ้ารึไงเล่า...พูดจาเป็นละครน้ำเน่า ฉันก็ผู้ชายนะ จะมาปกป้องอะไรเกินหน้าเกินตา มันไม่ได้เจ็บขนาดนั้นสักหน่อย ไกลหัวใจตั้งเยอะ"แต่จะให้บอกความรู้สึกในใจออกไปทั้งหมด..เจ้าของเรือนผมสีสว่างคงทำไม่ได้ เขาไม่ใช่คนอ่อนหวานที่จะพูดคำแบบนั้น ไม่เก่งที่จะแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆแบบคนตรงหน้า
"แต่ก็กอดฉันแน่น ร้องไห้ตาแดงเลยนะ"รอยยิ้มพรายขึ้นเต็มสองแก้มของผู้พูดเมื่อเห็นใบหน้าของคนในอ้อมกอด ค่อยๆใช้นิ้วมือเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากหางตาก่อนจะบีบจมูกรั้นเบาๆอย่างที่เขาชอบทำ
"ฮื้ออออ"ตอนนี้คนตกเป็นรองเพียงแค่ส่งเสียงขัดใจในลำคอ ทุบกำปั้นลงบนหลังของคนขี้แกล้งและซุกใบหน้าลงบนไหล่อีกฝ่ายเท่านั้น
เสียงหัวเราะดังขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสู้ไม่ได้ ก่อนความเงียบจะเข้าปกคลุม มันไม่ได้เป็นความเงียบที่น่าอึดอัด แต่เป็นความเงียบเพื่อให้คนสองคนได้คุยและเข้าใจกันและกันผ่านความเงียบนั้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้นผิดแผกไปจากเดิม คนสองคนยังคงยืนด้วยกันกลางห้อง ยืนกอดกันและโยกไปมาเบาๆคล้ายปลอบประโลมซึ่งกันและกัน
"ขอบคุณนะบยองฮอน...ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่คอยอยู่เคียงข้าง ขอบคุณที่คอยปลอบ ขอบคุณที่อยู่ด้วยกัน...ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่าง"บางทีชานฮีเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องขอบคุณคนตรงหน้ามากแค่ไหนถึงจะเพียงพอ แต่เขาก็เชื่อว่าบยองฮอนจะรับรู้มันได้ แม้ชานฮีจะไม่ใช่คนหวานๆ ขี้อ้อนเหมือนคนอื่น หนำซ้ำกลับขี้เหวี่ยง ขี้หงุดหงิด เอาใจไม่ค่อยเก่งเหมือนคนอื่น แต่เมื่อไหร่ที่เขาพูดหรือเขาทำ นั่นก็ออกมาจากหัวใจของเขาจริงๆ
"เฮ้อออออ....ขาดคำว่าอะไรไปอีกหน้อออ...ขอบคุณแล้วน่าจะมีคำไหนต้องพูดอีกนะ"คนพูดทำท่าคิด คิ้วเลิกขึ้นข้างหนึ่งก่อนรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะปรากฏขึ้น..ใครว่าๆอีชานฮีหวานไม่เป็นอยู่คนเดียว ก็พอจะเข้าโหมดหวานทีไร คนช่างขัดก็กวนประสาทแบบนี้ทุกที บางทีบยองฮอนกับชานฮีคงไม่เหมาะกับอะไรที่หวานมากจนเกินไปเหมือนคู่ของพี่มินซูกับเจ้านีแอลหรือเจ้ามักเน่จงฮยอนกับเจ้าตัวแสบชางฮยอนล่ะมั้ง...
"หึ...ไม่พูดหรอก แบร่!!"ดวงหน้าหวานที่เมื่อกี้ยังมีเค้าความเศร้าอยู่แปรเปลี่ยนเป็นสดใสก่อนจะแลบลิ้นใส่อีกฝ่าย...ดวงตาที่เต็มไปด้วยประกายแบบนี้ รอยยิ้มที่แสนสดใสแบบนี้สิถึงจะสมเป็นอีชานฮี
.....
...
.
"นี่...แล้วนายเจ็บรึเปล่า...."ก็เพราะเห็นอยู่เหมือนกันตอนที่บยองฮอนโดนชนหรือตอนที่โดนเล็บข่วน ชานฮีจับแขนของอีกฝ่ายที่กอดตนเองอยู่ออกก่อนจะมามองดู
"ไม่หรอก...นิดเดียว"แม้จะพูดแบบนั้น แต่หลักฐานที่แขนไม่ได้บอกแบบนั้นสักนิด แขนขาวมีรอยแดงพาดผ่านอยู่หลายรอย...คงพลาดโดน...เพราะอีบยองฮอนใจดีและเซอร์วิสแฟนคลับเสมอ...อย่างน้อยก็มากกว่าที่ชานฮีทำ จึงไม่แปลกที่แม้จะโดนอะไรแบบนี้แต่ใบหน้านั้นยังคงเปื้อนด้วยรอยยิ้มพยายามจะรับของและเทคแคร์แฟนคลับให้ได้ทุกคน..
เขาเองก็อยากทำได้บ้าง แต่เพราะอีชานฮีคืออีชานฮี เขาทำได้เท่านี้ ไม่ใช่ไม่รัก เขาระลึกอยู่เสมอว่าถ้าไม่มีแองเจิ้ลก็จะไม่มีทีนท๊อปในวันนี้ เพียงแต่เขาแสดงออกไม่เป็นและค่อนข้างขี้หงุดหงิด บางครั้งบางทีที่หน้าดูเหวี่ยงหวังว่าแองเจิ้ลจะเข้าใจว่านั่นคือใบหน้าปกติของเขา
"ทำแผลหน่อยเถอะ จะได้หายเร็วๆ"แม้มันจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรแค่รอยข่วนแต่เขาก็อยากจะให้มันหายเร็วที่สุด
"ไม่ต้องหรอก..ถ้าจะทำให้ฉันทำให้นายเถอะ ไหน ขอดูหน่อยสิ"คำพูดที่ทำราวกับเขาเป็นเด็กๆ ทำให้ชานฮีเบ้ปาก ซึ่งนั่นเรียกเสียงหัวเราะจากคนพูดได้อีกครั้ง บยองฮอนค่อยๆจับผมสีบลอนด์ขาวของอีกฝ่ายและยกออกให้พ้นดวงหน้าขาวจึงมองเห็นรอยแดงที่บวมขึ้นมา...แม้จะไม่มากแต่ก็สังเกตได้..คงเจ็บไม่น้อยเลยทีเดียว
"เพี้ยง!!! หาย...ฉันใช้เวทมนตร์ช่วยแล้ว นายจะไม่เจ็บอีกต่อไป"
"ย้าาาา...อีบยองฮอน อยากตายมากรึไง ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะที่นายจะมาหลอกด้วยเรื่องอะไรแบบนี้หน่ะ"อดไม่ได้ที่จะต่อยแขนคนกวนประสาทที่บัดนี้หัวเราะร่วนที่เห็นเขาโมโห
"โตแล้วต้องไม่ขี้แยนะ เมื่อกี้คนโตแล้วที่ไหนกอดฉันแน่นแล้วร้องไห้จ้าเป็นเด็กๆเลย"
หลังจากคำพูดนั้นก็มีเพียงเสียงขอโทษและบอกให้หยุดออกจากปากของอีบยองฮอนเท่านั้น ท่าทางคงจะได้ใช้กล่องยาจริงๆ แต่ไม่ใช่แผลอะไรหรอก คงเป็นแผลที่โดนชานฮีจัดการนี่แหละ ใครกันบอกว่าอีบยองฮอนชอบต่อยตีน้องๆแรงๆ ลองมาเจออีชานฮีหน่อยเถอะ จะรู้เลยว่าที่เรียกว่าแรงและความเจ็บจริงๆเป็นยังไง
หลังเผลอหลับกันไปทั้งคู่ ชานฮีเป็นคนที่รู้สึกตัวขึ้นก่อนจึงนอนมองใบหน้าของอีกฝ่าย...คนอะไรหน้าก็จืด ทั้ๆที่ดวงตาก็ออกจากคมสวยแม้จะเล็กไปหน่อยก็เถอะ จมูกก็โด่งเป็นสันได้รูป ริมฝีปากนี่อีก....คนมองยิ้มกับความคิดนั้นของตัวเอง
"รักนะบยองฮอนนี่..." เสียงหวานใสเอ่ยขึ้นก่อนจะก้มลงหอมแก้มคนนอนหลับเบาๆ
"เหหหห"คล้ายฟังไม่ชัด เสียงทุ้มจึงหลุดออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้คนพูดตาโต..ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
"พาโบ..บยองฮอนพาโบ...ไม่ได้ยินก็ไม่ต้องรู้หรอก ไม่พูดแล้ว"ถ้ามองไม่ผิด คล้ายเห็นใบหน้าของคนพูดถูกฉาบทับไปด้วยสีชมพูอ่อนๆ
"ชานฮียา....บอกให้ฟังอีกครั้งนะ..."ก็เพราะน้อยครั้งเหลือเกินที่จะได้ยิน จึงอยากได้ยินอีกครั้ง ความจริงอยากได้ยินบ่อยๆด้วยซ้ำแต่เขาก็เข้าใจอีกฝ่ายดีว่าเป็นคนอย่างไร
"........"
"............"
"...ชา.."
"รัก...ได้ยินยัง ชัดไหม..รัก"หลังจบคำพูดนั้น คนตัวบางก็ลุกขึ้นเตรียมจะเดินหนีทันที แต่อีกคนกลับไวกว่าคว้าเอวไว้ก่อนจะสอดแขนทั้งสองข้างโอบอีกคนไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง จนตอนนี้กลายเป็นใบหน้าของบยองฮอนอยู่แถวลาดไหล่ของชานฮี
"ชัด...ชัดเลย...รักนะชานฮียา..."เสียงทุ้มตอบกลับ..คล้ายได้ยินเสียงตอบรับดังเบาๆ...แต่เท่านี้ก็พอแล้ว ในเมื่อเขาก็พึ่งได้ยินเจ้าตัวบอกรักไปนี่หน่า
"แล้ววันหลังก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ได้แผลมาหมดหล่อจะทิ้งให้ดู"จู่ๆคนที่นั่งหันหลังให้ก็เอ่ยก่อนใบหน้าเนียนจะหันมามองน้อยๆ
"อ้าว สรุปฉันหล่อหรอเนี่ย..."รู้หรอกว่าชานฮีเป็นห่วงแต่มันอดไม่ได้ที่จะแกล้งนี่..เวลาชานฮีโมโหน่ารักจะตาย
"พูดชมไปงั้นแหละคนหลงตัวเอง.."ชานฮีเอ่ยตอบและแลบลิ้นใส่อีกฝ่าย
"ฮ่ะๆๆ รับทราบครับผม วันหลังจะดูแลตัวเองอย่างดีเลย ชานฮีเองก็เหมือนกันรู้ไหม...เจ็บบอกบ้างก็ได้ว่าเจ็บ มีอะไรก็คุยกัน ไม่งั้นเราจะมีกันและกันทำไมจริงไหม"เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มนิ่มของคนในอ้อมกอด...เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่ากลิ่นแบบนี้เรียกว่าอะไร มันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายกลิ่นนม กลิ่นของอีชานฮีที่มีเฉพาะอีชานฮีที่มี
บางทีอีบยองฮอนอาจจะเสพติดอีชานฮีจริงๆก็ได้...
END
Talk: เรื่องสั้นเรื่องนี้อยู่ในรวมเล่ม ใครสนใจ http://secretlegacy.blog.fc2.com/blog-entry-44.html
ความคิดเห็น