คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [OS] Glad [ByungChan]
สิ่งที่เป็นในตอนนี้...ไม่ใช่ไม่มีความสุข ความสุขนั้นมีอยู่ล้นเหลือเพียงแค่เปิดใจมองและรับมันเท่านั้น ทีนท๊อปกำลังดังขึ้น พวกเขามีงานเพิ่มขึ้น ได้รับความรักจากแฟนๆซึ่งเปรียบเสมือนพลังงานส่วนสำคัญมากยิ่งขึ้น
เพียงแต่สิ่งหนึ่งที่หายไป....คงจะเป็นอีกชิ้นส่วนหนึ่งในหัวใจที่หล่นหาย..
ไม่สิ ถูกบีบให้แหลกคามือ....
แตกสลาย..ทิ้งไว้เพียงเศษเสี้ยวที่ไม่อาจประกอบติดได้ต่างหาก
ไม่ใช่ความผิดของใคร...มันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่ง...ช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่มีค่า ช่วงเวลาแสนสั้นที่เขาเต็มใจจะยอมรับมัน เพียงแต่วันนี้...ช่วงเวลานั้นได้จากเขาไปแล้ว...จากไปแสนไกล...ไกลจนรู้ตัวว่าคงไม่มีทางดึงรั้งกลับมาได้....
หากถามว่าถ้ามีโอกาสอีกสักหนให้ตัดสินใจใหม่...ให้เลือกเส้นทางที่จะเดินอีกครั้ง เขาจะยังเลือกเดินเส้นทางเส้นนี้อยู่อีกไหม...เส้นทางที่แสนมีความสุข แต่เป็นความสุขในช่วงสั้นๆ...ก่อนที่ความสุขนั้นจะหลุดหายไป คล้ายกับหมอกขาวที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันใหม่ พอพระอาทิตย์ขึ้น...ไอเย็นสีขาวที่ปกคลุมก็หายไปคล้ายไม่เคยเกิดขึ้น...อีชานฮีจะตอบอย่างชัดเจนโดยไม่รีรอ...
ถึงจะรู้ว่าปลายทางจะเหลือแค่เขาเพียงลำพัง...
ถึงจะรู้ว่าปลายทางสุดท้ายเขาจะต้องเดินฝ่าไปด้วยตัวคนเดียว...
ถึงจะรู้ว่าปลายทางของถนนเส้นนี้จะดำมืดและเหนื่อยยาก....
เขาก็ขอยืนยันที่จะเลือกเดินบนทางเส้นนี้...
ทางที่อีชานฮีกับอีบยองฮอนเคยเดินด้วยกัน...
ทางที่อีชานฮีกับบยองฮอนเคยฝ่าฟันขวากหนามแหลมคมนั้นด้วยกัน....
ทางที่อีชานฮีเคยเป็นมากกว่าเพื่อนของอีบยองฮอน....
ทาง...ที่อีชานฮี....เป็นได้เพียงแค่...เซ็กส์เฟรนด์...ของอีบยองฮอน
"นีแอลอา...ทำไมนายถึงดื้อแบบนี้เนี่ย บอกให้ไปนอนก็ไปนอนสิ"เสียงทุ้มแสนคุ้นเคยเอ่ยขึ้นดึงความสนใจของเขาให้ละออกจากทีวีและหันไปมองตรงระเบียง...บยองฮอนมักจะชอบนั่งเขียนเพลงอยู่ตรงนั้น ทั้งๆที่ลมก็เย็น เสี่ยงต่อการเป็นหวัดแท้ๆ
แต่เจ้าตัวกลับชอบที่จะนั่งตากลมพร้อมกับบอกด้วยรอยยิ้มแสนสดใสว่า 'ลมพัดดีจะตายไปชานฮี หัวสมองจะได้โปร่ง แถมนั่งตรงนี้ ฉันยังสูบบุหรี่ได้อีกด้วยนะ' ชานฮียังจำได้ดีถึงท่าทางของอีกฝ่ายที่หยิบซองมาร์โบโล่ไลท์สีขาวขลิบทองออกมาอวดเขา และยังจำได้ว่าตัวเขาเองเพียงส่ายหน้าแต่ก็อดจะยิ้มไม่ได้กับสิ่งที่เจ้าตัวภูมิใจจะพรีเซนต์มันแต่เขาไม่เห็นว่าจะน่าภูมิใจตรงไหน จึงเลือกที่จะไปหยิบผ้าห่มและเสื้อคลุมให้เท่านั้น....
"อ้าวววว ก็เข้าไปนอนด้วยกันสิ นี่ก็ดึกมากแล้ว เพลงหน่ะไว้เขียนพรุ่งนี้ก็ได้ไม่ใช่หรอ"เสียงใสของเจ้าเด็กผมสีม่วงอมชมพูที่พึ่งไปทำมาทำให้เขาหลุดจากภวังค์ก่อนจะหันหน้ากลับมามองจอสี่เหลี่ยมด้านหน้าอีกครั้ง..ก็หวังว่าสองคนนั้นจะไม่สังเกตว่าเมื่อกี้เขามองอยู่หรอกนะ
'เป็นคู่ที่น่ารัก'...นั่นคือคำนิยามที่เขามอบให้แก่คนสองคนนั้น หนึ่งคือเพื่อน...สนิท ที่แม้เขาจะไม่สนิทใจต่ออีกฝ่ายก็ตาม และอีกหนึ่งคือน้องผู้ซึ่งเป็นเมนวอยซ์ของวง น้องที่มีปากบวมเจ่อเป็นเอกลักษณ์ น้อง...ที่ได้รับ ความรัก จาก....เพื่อนสนิทของเขาไป น้อง..ที่เป็น...คนสำคัญ...ของเพื่อนสนิทของเขา....
"นี่ ชานฮี...ถ้าฉันขอมีอะไรกับนาย นายจะรังเกียจฉันรึเปล่า"
บทสนทนาที่ไร้ที่มาที่ไปยังคงติดค้างอยู่ในหัวไม่เคยจางหาย...แม้จะจำไม่ได้ทั้งหมด...แต่ข้อความที่เขาคิดว่าสำคัญนั้นยังจำได้ไม่มีลืม..ตอนนั้นจำได้ว่าเขาตกใจมากแค่ไหน ดวงตาที่โตอยู่แล้วคงเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ แต่อะไรก็คงไม่เท่าหัวใจที่เต้นรัวอยู่ในอก...เต้นแรงจนเขาปวดหน้าอก...เต้นแรงเสียจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน....
"ถามอะไรแปลกๆ...นี่เป็นไข้รึเปล่าเนี่ย"ชานฮีหัวเราะแห้งๆและพยายามเอามืออังหน้าผากของคนข้างกาย บยองฮอนคงล้อเล่น...จะตื่นเต้น ตกใจกระโตกกระตากไปทำไมกัน
"ไม่ได้ล้อเล่น...ไม่ได้เป็นไข้ด้วย พูดจริงๆ
.......
....
ถ้าฉันขอมีอะไรกับนาย แต่ไม่ได้คบกับนาย....
.......
..........
.....
เราจะยังเป็นเพื่อนร่วมวงที่ดี เราจะเซอร์วิสแฟนๆด้วยกันเหมือนเคย...
.....
...
..
.
และเรื่องนี้จะไม่มีใครรู้แม้แต่คนในวง...
...
....
......
นายจะโอเครึเปล่า...."
ไม่ใช่แค่น้ำเสียงที่จริงจัง หากแต่ใบหน้านั้นต่างหากที่ทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริง..บยองฮอนจะทำแบบนั้นจริงๆตามที่พูด...
"........."คงจะมีเพียงคนบ้าหรือคนโง่เท่านั้นที่ตอบตกลง....และอีชานฮีก็คือคนโง่คนนั้น
เขาไม่ได้ตอบรับคำพูดนั้น แต่พยักหน้ารับเบาๆ เพียงแค่นั้น ริมฝีปากอุ่นก็เข้ามาทาบทับแลกเปลี่ยนความหอมหวาน คล้ายเป็นสิ่งเสพติดที่ทำให้เขามัวเมา ก่อนจะตามมาด้วยมือร้อนที่ปะป่ายไปทั่วร่างกาย ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เสื้อผ้าหลุดออกจากร่างกาย ในตอนนั้นเขารับรู้เพียงแค่ดวงหน้าคมกับดวงตาเรียวที่มองสบมา...ดวงตาเรียวสีดำคล้ายหลุมมืด..ทำให้เขาต้องมนต์สะกด และร่างกายที่โถมเข้ามาทาบทับ ริมฝีปากอุ่นเลื่อนจากริมฝีปากของเขาเป็นแก้มทั้งสองข้าง...ลำคอก่อนจะประทับมันลงบนทุกส่วนของร่างกาย คล้ายตีตราจอง..ไม่มีส่วนใดในร่างกายของอีชานฮีที่อีบยองฮอนไม่สัมผัส และขณะที่กำลังลุ่มหลงมั่วเมาก็คล้ายมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย คล้ายได้ยินเสียงอีกฝ่ายหอบหายใจถี่ประชิดริมหูก่อนจะเรียกชื่อเขาด้วยเสียงอันสั่นพร่า เขารู้สึกได้ถึงพายุค่อยๆก่อตัวขึ้น ก่อนจะโหมกระหน่ำ บิดวนเป็นเกลียวก่อนจะพัดพาร่างของเขาลอยไปไกลแสนไกลและถูกดูดกลับมาที่เดิมด้วยเสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยและรสจูบแสนหวานที่มอบให้
เขาไม่เคยถามอีกฝ่ายว่าทำไมถึงต้องเป็นเขา...ไม่เคยถามว่าทำไมถึงกล้ามาพูดเรื่องแบบนี้ด้วย....ไม่เคยตั้งข้อกังขาว่าความสัมพันธ์แบบนี้จะก่อให้เกิดความยุ่งยากอะไรในตอนหลังไหม....ไม่คิดแม้แต่จะถามหรือตั้งข้อสงสัย....
เพราะอีชานฮีคนโง่...หลงรักอีบยองฮอนมานานแล้ว....รัก...โง่งม...คล้ายคนที่กำลังจะจมน้ำและเชือกฟางเส้นนี้ก็ลอยมา...เขาจึงไม่ลังเลที่จะคว้ามันไว้..โดยไม่ได้คิดเลยว่า....แค่ฟางเส้นเดียวจะประครองร่างของเขาไปได้ไกลแค่ไหน..จะพาเขาถึงฝั่งได้หรือไม่....จนสุดท้ายต้องมานอนแผ่คล้ายจะจมน้ำอีกครั้งด้วยการมองดูคนที่โยนเชือกฟางเส้นนั้นมาให้ ไม่คิดจะดึงเขาเข้าฝั่ง กลับผูกฟางเส้นนั้นไว้กับขอนไม้อันเดียวเท่านั้น..ถ้าอยากมีชีวิตรอด...เขาจะต้องช่วยตัวเอง...ตะเกียดตะกายพาตัวเองเข้าฝั่งไปให้ได้....ต้องช่วยตัวเอง...
"อ๊ะ...."เพราะรู้สึกถึงน้ำหนักของบางอย่างที่กดทับลงบนตัก ถึงรู้สึกตัว.....วันนี้เขาเหม่อบ่อยเกินไปแล้ว
"ขอยืมตักหน่อยนะ"คนที่เขาคิดว่าควรจะนั่งอยู่ด้านนอกระเบียงกลับมาอยู่ตรงนี้..แล้วคนอื่นล่ะ!! หันซ้ายแลขวา ชานฮีก็พบแต่ความว่างเปล่า ไฟหลายดวงถูกปิดไปแล้ว เหลือเพียงแถวๆจุดที่เขานั่งเท่านั้น
"เข้านอนไปหมดแล้วล่ะ...นี่อินกับหนังจนไม่รู้เรื่องหรือคิดอะไรอยู่เนี่ย"เป็นคนนอนหนุนตักที่ตอบคำถามนั้น บยองฮอนนอนหงายมองหน้าของอีกฝ่ายที่ก้มลงมา
"รู้คำตอบอยู่แล้วจะถามทำไมกัน..."แค่มองจากสายตาก็พอเดาได้ว่าอีกฝ่ายรู้แต่ถามไปอย่างนั้นเอง เขาจึงเลือกที่จะถามกลับเสียเลย
"หึหึ...ก็จะดูว่าชานฮีโกหกรึเปล่า"มือเรียวเอื้อมมาบีบจมูกเขาเบาๆก่อนจะหัวเราะน้อยๆเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ถูกกล่าวหา...ริมฝีปากเบะน้อยๆอย่างไม่พอใจ
"แล้วกับนีแอลเป็นไงมั่ง"เขาจับมืออีกฝ่ายออกจากจมูก แต่ก็โดนจับคืนแถมยังเอาไปกุมและวางไว้บนหน้าอกเสียอย่างนั้น...อีบยองฮอนหลับตาพริ้มทำท่าคิด ผมสีแดงเพลิงที่พึ่งไปทำมาสยายอยู่บนตักตัดกับกางเกงสีดำที่เขาใส่อยู่
"ก็ดี...ทำไมชานฮีชอบถามแต่กับนีแอลเป็นไงบ้าง นายไม่เห็นเคยถามเลยว่าฉันเป็นยังไง เหนื่อยไหม สบายดีไหม"คำตอบแสนสั้นแต่คำถามที่มาหลังจากประโยคนั้นต่างหากที่ทำให้เขาต้องคิดหาคำตอบอีกครั้ง
"........"
"............."
"...ก็เพราะรู้ว่านายต้องมีความสุขแน่ๆถ้าความรักไปได้สวย ถึงถามว่ากับนีแอลเป็นไงบ้างไง...ฉันดีใจกับบยองฮอนจริงๆนะที่ได้คบกับนีแอล"ความเงียบที่โรยตัวหายไปพร้อมกับคำตอบของเขา...เขาคงไม่รีบตอบหากอีกฝ่ายไม่ลืมตาขึ้นมามองสบตาเขม็งขนาดนั้น
"ถึงนีแอลจะน่ารักยังไง...แต่ก็ไม่เท่าชานฮีหรอก"เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาก่อนพวกเขาจะหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน...คนหนึ่งอาจหัวเราะจากใจจริง..แต่อีกคนเพียงแค่หัวเราะกลบเกลื่อนไปอย่างนั้นเอง หัวเราะกลบเกลื่อนที่ตนเองทำได้เพียงเท่านี้
"เรื่องระหว่างเรา...จบกันเท่านี้นะชานฮี"
คล้ายโลกทั้งโลกหยุดหมุน คล้ายนาฬิกาตายที่เข็มวินาทีไม่ขยับ คล้ายหัวใจหยุดเต้นก่อนจะเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งและค่อยๆแผ่วเบาลงจนเหมือนจะหยุดเต้นไปเสียอย่างนั้น
"อะ...อืม"ไม่หรอก..อีชานฮีจะไม่ถามคำว่าทำไม จะไม่ถามคำนั้นออกไปเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาแคร์ จะไม่ถามเพื่อให้ตัวเองดูน่าสมเพชไปมากกว่านี้
"ไม่ถามหรอว่าทำไม"กลับเป็นบยองฮอนเองที่ถามคำถามนั้นออกมา
"ก็ไม่รู้จะถามไปทำไมนี่ ในเมื่อความสัมพันธ์ของเราก็ไม่ได้มีอะไรตายตัวแน่ชัดอยู่แล้ว จบวันไหนๆก็เหมือนกัน...อีกอย่างถ้านายอยากบอกก็คงบอกเองนั่นแหละ"หากบยองฮอนสังเกตสักนิดคงรู้ว่าชานฮีพูดรัวและเร็วกว่าปกติมากแค่ไหน..เพราะมันเป็นคำโป้ปดที่เขาฝึกซ้อมกับตัวเองทุกวันหากเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น เพราะรู้ว่ามันไม่ยั่งยืน เพราะรู้ว่าสักวันมันต้องจบในรูปแบบนี้...แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่ง..เขาก็ยังเคยได้รับความอบอุ่นจากอ้อมแขนนั้น...เคยได้รับ..เศษเสี้ยวของความรักจากอีกฝ่าย..และหากมองดีๆคงจะเห็นฝ่ามือบางที่จิกผ้าห่มไว้เสียแน่นจนมันยับยู่ยี่ไปหมด...
"ชานฮีของฉันน่ารักจริงๆแหละ..."รอยยิ้มผุดขึ้นบนแก้มทั้งสองข้างของคนพูดก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงและกอดชานฮีไว้เสียแน่น เอาคางเกยบนไหล่ของอีกฝ่ายก่อนจะโยกตัวไปมา... "ฉันคบกับนีแอลหน่ะ...ก็เลยไม่อยากให้มีปัญหา...ความลับของเราก็ยังคงอยู่ ไม่มีใครรู้..มีแค่ฉันกับนายที่รู้..."เสียงทุ้มที่พูดข้างๆหูคล้ายกับเอามีดนับพันเล่มมาปักลงตรงกลางดวงใจ...
คนที่ไม่ใช่...ต่อให้ทำอย่างไร....ก็ไม่ใช่อยู่ดี....
"อื้ม...ดีใจด้วยนะที่นายรักกับนีแอล..ดีใจด้วยที่ได้คบกัน..."เขาพยายามบังคับเสียงตัวเองให้ไม่สั่น พยายามรวมรวมแรงทั้งหมดที่มียกมือขึ้นโอบกอดอีกฝ่ายกลับ และพยายามที่สุด...ให้น้ำตาไม่ไหลออกมา...อย่างน้อยก็ตอนที่บยองฮอนยังอยู่ตรงนี้....
"ดูแลน้องดีๆ รักกันนานๆล่ะ...ฉันดีใจด้วยจริงๆ"นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เขาพูดส่งท้ายก่อนอีกฝ่ายจะออกจากห้องไป...แว่วเสียงประตูปิด น้ำตาก็ไหลลงมาคล้ายเคลื่อนแตก #เคลื่อน? ...เขาไม่ได้ร้องไห้สะอื้นฮักหรือเสียงดังโยเย...ไม่มีเสียงใดๆนอกจากน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่หยุดกับเขาที่นั่งซุกหน้าลงกับหัวเข่าโดยมีผ้านวมผืนหนาเป็นที่รองรับน้ำตา....
"บยองฮอน...บยองฮอนนา..."เสียงหวานลองเรียกคนบนตักที่กุมมือของเขาและหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...ขาเป็นตะคริวยังไม่เท่าไหร่ แต่เขากลัวอีกฝ่ายจะป่วยเพราะอากาศเย็นเสียมากกว่า ไม่ได้ทำตัวเป็นคนดีอะไรมากมายแต่เพราะตารางงานก็เยอะอยู่แล้ว ถ้าป่วยไปอีกจะยิ่งแย่..
เมื่อเรียกแล้วไม่มีเสียงตอบรับ คนตัวบางจึงหัวเราะน้อยๆ ส่ายหัวกับกริยาของคนขี้เซา เขาค่อยๆขยับขาของตนออก แต่พอจะเอามือออกเท่านั้นแหละ คนที่นอนหลับอยู่กลับยิ่งกุมมือเขาเสียแน่น ทำเอาต้องตกใจพร้อมกับยิ้มออกมา ไม่รู้จะเอาอารมณ์ไหนดีในเมื่อมันประดังปนเปกันเข้ามาแบบนี้...ชานฮีจึงเลือกที่จะนั่งลงบนพื้นและมองคนที่นอนอยู่...เกลี่ยเส้นผมสีแดงที่มาปรกใบหน้าใสของอีกฝ่ายออกเบาๆเพราะไม่อยากให้ตื่นขึ้น...อย่างน้อยก็แค่เวลานี้ ให้เขาได้ดึง ได้รั้งและยืดช่วงเวลานี้ออกไปให้นานกว่านี้อีกหน่อย...
ความรู้สึกตอนนี้เขาควรจะบอกว่าอะไรดีนะ..มีความสุขหรอ ใช่ ก็มีความสุข แต่เป็นความสุขที่รู้สึกผิดกับน้องอีกคนที่ไม่เคยรู้เรื่อง เพราะสิ่งที่เขาทำ บางทีบยองฮอนอาจจะบริสุทธิ์ใจ..แต่อีชานฮีไม่บริสุทธิ์ใจ เขายังรักคนๆนี้เท่าเดิม ไม่แน่อาจจะมากกว่าเดิม แต่ไม่ลดลงเลยสักนิด อันนี้เขามั่นใจ...ทุกข์หรอ เศร้าหรอ...ก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ เขาไม่ได้เศร้าขนาดนั่งร้องไห้เป็นวันๆเหมือนช่วงแรกที่อยู่คนเดียวเกือบจะไม่ได้ ไม่ได้ทุกข์จนกินข้าวไม่ลง ไม่ดูแลรักษาตัวเอง...
มันอาจจะเป็นคำว่า...ทรมาน...มากกว่า..ทรมานที่ต้องเก็บคำว่ารักเอาไว้...บอกออกไปไม่ได้ พูดออกไปไม่ได้...ทรมานที่ต้องอยู่ใกล้กันแบบนี้ คุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ปวดหนึบในอกไปหมด....ทรมานที่ต้องมองคนที่ตนเองรักดูแลคนอื่นที่ไม่ใช่ตน ทั้งๆที่ช่วงเวลาหนึ่งเขาเองก็เคยได้รับสิ่งเหล่านั้นมาก่อน...ทรมานที่ต้องทำตัวยินยอม เอ่ยบอกกับอีกฝ่ายว่ายินดีที่ความรักครั้งนี้ไปได้สวยงามดั่งที่อีกฝ่ายตั้งใจไว้...ทรมานที่ต้องรับรู้และทำใจว่าเมื่อเวลาผันผ่าน บยองฮอนจะค่อยๆลืมความรัก..ความผูกพันและความสัมพันธ์ที่มีให้กับอีชานฮี....ลืมความรัก...หรืออย่างน้อยก็ความสัมพันธ์ของเราสองคน.....และทรมานที่สุดที่ต้องรับรู้ว่าตนเองไม่ใช่คนสำคัญหรือคนที่อีกฝ่ายต้องการมากที่สุดอีกต่อไป....
"บยองฮอนนา....บยองฮอนี่....ฮอนนี่....รัก....รักมากจริงๆนะ....รักเหมือนที่เคยรัก...รักเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยมั้ง...ขอบคุณนะที่ครั้งหนึ่งเคยเดินร่วมทางกัน ที่ครั้งหนึ่งนายเคยทำให้ฉันรู้และเข้าใจว่าการได้รับความรักและการดูแลมันดีและสวยงามขนาดไหน....ฉันมีความสุขจริงๆในทุกๆวันที่มีนาย....นี่ รู้ไว้นะว่า...
.......
.....
...
.
อีชานฮีรักอีบยองฮอนเหลือเกิน"
TBC
Talk: ฟิกเรื่องนี้มีภาคต่อนะคะ เป็นตอนฝั่งของบยองฮอน แต่จะเก็บไว้เฉพาะในเล่มเท่านั้น #ขายตรงรัวๆ
หากมีใครสนใจที่จะสั่งจองรูปเล่ม คลิกดูรายละเอียดได้ในEntryที่แล้ว หรือ Click!!!!
ความคิดเห็น