ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [YongSeo Story] Part 1 Unseen Heartstings

    ลำดับตอนที่ #4 : Special part. JongHyo Moment, May be it's love.

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 54


     HyoYeon

    ชั้นนะเหรอ  รักครั้งแรกเมื่อไหร่กันนะ  ตอนเรียนล่ะมั๊ง  แต่แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย  เพราะมันเป็นแค่รักข้างเดียวจริงๆ  ชั้นมีความรู้สึกแบบข้างเดียวค่อนข้างบ่อยและชั้นก็เลือกที่จะไม่เปิดผย  เพราะอะไรงั้นเหรอ  ก็ชั้นไม่กล้าพอไงล่ะ  กลัวที่สุดคือความผิดหวังนี่แหละ

    เผลอคิดถึงเขาอีกแล้วไอดอลรุ่นน้องคนนั้น  แปลกใจจริงๆที่เป็นแบบนี้  ชั้นกับเขาไม่เคยพูดคุยกันเลย  แค่ทักทายกันตามปกติเมื่อพบเจอเท่านั้น  แต่ชั้นกลับเอาแต่คิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา  เพราะอะไรกัน 

    ใช่ค่ะ  ชั้นคิดถึงจงฮยอน  เจ้าของฉายาเบิร์นนิ่งคนนั้น  หยุดคิดถึงเขาไม่ได้จริงๆ ชั้นกลายป็นแฟนคลับของ CNBLUE ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  ติดตามดูเขาอยู่ตลอดเวลา  และแอบมองเขาบ่อยๆเมื่อเราต้องทำงานร่วมกัน  แต่ก็ทำได้แค่นั้นจริงๆ



    JongHyun

    ผมเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ  เอาเวลาว่างมานั่งดูเกิร์ลกรุ๊ป  แอบทำท่าทางพวกนั้น  ผมนี่มันตลกจริงๆเลย  อาจจะเป็นเพราะว่าพี่ยงฮวามีแฟนเป็นสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป  หรือเพราะรายการ We got married. ที่พวกเราสามแสบอยากไปร่วมในรายการกันแน่  ไม่รู้จริงๆครับ

    จองชินคุยโทรศัพท์อีกแล้ว  ตั้งแต่ไปรู้จักกับพี่ๆของซอฮยอนเขาก็เอาแต่โทรคุยกันทุกวัน  ผมนึกสงสัยจริงๆว่าจองชินกับฮโยยอนเดทกันอยู่หรือเปล่า  บอกตรงๆครับ  อิจฉานิดหน่อย  ทั้งพี่ยงฮวาทั้งจองชิน  แล้วไหนจะเจ้ามินฮยอกที่ดิ้นรนจะมีแฟนนั่นอีก  ต่อไปอาจจะเหลือผมเป็นโสดคนเดียวก็เป็นได้  ให้ไปจีบใครก่อนไม่เอาหรอกครับ  ผมพูดไม่เป็นคงไม่มีใครอยากฟัง  กลัวจะอกหักซะมากกว่า

     

    จงฮยอนใช้เวลาว่างนั่งเฝ้าหน้าจอพร้อมกับส่งของกินเข้าปากไปเรื่อยๆ  เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงหน้าดังขึ้น  มันน่ารำคาญจนเขาต้องหยิบมาดู  “ฮโยยอนนู่น่า”  หน้าจอปรากฏชื่อแบบนั้น  นี่มันน่าหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก  เขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ  จงชินวิ่งมาคว้าโทรศัพท์ไปจากมือเขา  จงฮยอนแค่ยักไหล่

    “โทรศัพท์ของผมนะพี่”  จองชินแสดงความเป็นเจ้าของแล้วกดรับโทรศัพท์พร้อมๆกับเดินเลี่ยงไปจากบริเวณนั้น  จงฮยอนยอมรับว่าสงสัยในความสัมพันธ์ของสองคนนี้จริงๆ  ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจองชินจะปลื้มรุ่นพี่คนอื่นอยู่  ตั้งแต่เขาไปถ่าย We got married. กับยงฮวาแล้วได้เจอกับฮโยยอน  สองคนนี้ก็ดูสนิทกันมากจนสังเกตได้  แต่เรื่องแบบนี้ผู้ชายที่ไหนเขาพูดกัน  เขาจึงทำได้แค่เก็บความสงสัยไว้ในใจ  เสียงเจ้ามินฮยอกจอมยุ่งโวกเวกโวยวายมาอีกแล้ว  “พวกนายตลกอะไรกัน”  จงฮยอนเอ่ยขึ้น

    “ก็เจ้าน้องชายของนายนี่สิ  มาเซ้าซี้ถามชั้นเรื่องชินเฮอยู่ได้  อยากรู้ทำไมไม่ไปถามเองก็ไม่รู้”  ยงฮวาบุ้ยปากไปหามินฮยอก

    “ตกหลุมรักอีกแล้วเหรอ  ไอ้เพื่อนยาก”  จงชินเปิดประตูออกจากห้องมาได้ยินเข้าพอดี  พูดขึ้น

    “พี่ชินเฮน่ารักนะ  ใจดีด้วย” มินฮยอกยืนยัน  จงฮยอนแค่นหัวเราะ ตลกในความไร้เดียงสาของน้องชาย

    “แข่งกับจางกึนซอก  ลีฮงกิ  ไม่น่ากลัวเลยน้องเอ๋ย”  ยงฮวาพูดแล้วตบไหล่มินฮยอกเบาๆ

    “ทีพี่ล่ะ  คู่แข่งพี่ตั้งเยอะพี่ยังเอาชนะได้เลย  ถ้าพี่ช่วยผม  ผมต้องได้เดทกับพี่ชินเฮแน่ๆ นะนะ”  มินฮยอกเกาะแขนยงฮวาทำสายตาเว้าวอน  จงชินดึงมินฮยอกมากอดคอ  แล้วตบไหล่เบาๆ 

    “ชั้นพาไปส่องกระจกมั๊ยว่ะ”  พูดจบทุกคนก็พากันหัวเราะครืน  จงชินพยายามพาให้มินฮยอกเดินตามเขาเข้าไปในห้อง  ระหว่างเดินมินฮยอกบ่นพึมพำคำถามเดิมซ้ำๆไม่หยุด 

    “นี่นายว่าชั้นไม่หล่อเหรอไง” 

    “แค่จะพาไปส่องกระจก”  จงชินบอกแล้วพามินฮยอกเดินแยกจากกลุ่มไป  ยงฮวา  จงฮยอนมองตามคู่เพื่อนซี้เข้าไปในห้องแล้วอดหัวเราะในความตลกของทั้งคู่ไม่ได้  ยงฮวาเดินเลี่ยงเข้าห้องนอนของเขาหลังจากนั้น  พี่ชายของเขาเป็นแบบนี้ทุกวัน  ทำเรื่องเดิมซ้ำๆ โทรหาคนรักของเขาทุกวัน  จงฮยอนแอบคิดว่าถ้าเขามีใครมาให้รักสักคนจะทำตัวเหมือนที่ยงฮวาทำหรือเปล่า  มันออกจะดูพร่ำเพรื่อไปหน่อย  แต่บางทีก็น่าประหลาดและทำให้มีแรงบันดาลใจอย่างไม่น่าเชื่อ  พี่ยงฮวาเปลี่ยนไปในทางที่ดีจริงๆตั้งแต่มีซอฮยอนเข้ามาในชีวิต  แล้วถ้าเป็นเขาล่ะจะเป็นแบบนั้นไหม

     

    ฮโยยอนเดินออกมาจากห้องเพียงเพราะอยากให้ซอฮยอนได้คุยกับยงฮวาได้อย่างสบายใจ  ถึงจะสนิทกันแต่ก็รู้ดีว่าควรจะให้ความเป็นส่วนตัวแก่ซอฮยอนในเรื่องนี้มากที่สุด  รักครั้งแรกของเธอกำลังดำเนินไปอย่างสวยงาม  ซอฮยอนสวยงามและอ่อนหวาน  ทั้งสองคนมาเริ่มใช้ชีวิตตามความฝันตั้งแต่ยังเด็ก  ทำให้เธอขาดหายช่วงชีวิตที่ควรจะมีไปอย่างน่าเสียดาย  รักครั้งแรกของซอฮยอนมาเกิดขึ้นตอนเธอเป็นสาวเต็มวัยแล้ว  การได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ในเวลาอย่างนี้  มันเสี่ยงมากที่จะทำให้เธอมองโลกในมุมกลับทันทีหากมันไม่เป็นไปดั่งใจหวัง  ฮโยยอนอยากจะช่วยให้รักครั้งแรกของซอฮยอนเป็นรักที่สวยงาม  และแอบหวังว่ามันจะเป็นรักเดียวของเธอเหมือนอย่างที่เธอต้องการ  ฮโยยอนถอนหายใจหลังจบความคิดนั้นลง  จริงอย่างที่เขาว่ากัน  เรื่องของคนอื่นเราจะทำได้ดี  แต่เรื่องของตัวเองมักจะไม่ได้เรื่อง  พลางนึกสงสัยว่าเมื่อไหร่กันที่เธอเอาแต่เฝ้ามองจงฮยอนไอดอลรุ่นน้องคนนั้นอยู่ไกลๆ  ฮโยยอนไปเป็นแขกรับเชิญให้กับคู่ยงซอบ่อยครั้งเพียงเพราะหวังว่าจะได้มีโอกาสเจอกับจงฮยอนบ้าง  แต่ก็ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว  กลับกลายเป็นว่าเธอสนิทกับจองชินแทน  มันก็ดีอยู่ที่ได้มีเพื่อนเพิ่มอีกคน  แต่ก็อดหวังไม่ได้ว่าน่าจะเป็นจงฮยอนมากกว่า

     

    เสร็จสิ้นตารางงานของวันนี้  ช่างเป็นวันที่แสนยาวนานอีกวันหนึ่ง  ยงฮวาเอนหลังพิงเบาะรถอย่างสบายใจ  มินฮยอกนอนเหยียดยาวอยู่เบาะด้านหลัง  เหมือนจะหลับสนิทไปนานแล้ว  มินฮยอกหมดคิวถ่ายก่อนเขา  จึงได้มานอนรออย่างสบายใจ  ยงฮวาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับมองดูเวลา  ดึกมากแล้ว  ซอฮยอนจะรอโทรศัพท์จากเขาอยู่หรือปล่าว  ซอฮยอนเป็นคนรักษาคำพูดหากเธอบอกว่าจะรอเธอก็คงรออยู่แม้จะหลับไปพร้อมกับโทรศัพท์ก็ตาม  เขาลังเลว่าจะโทรดีหรือไม่  แต่ก็คิดถึงเธอเหลือเกิน  เหมือนใจจะส่งถึงใจ  หน้าจอโทรศัพท์ของเขาก็ปรากฏคำว่า “ฮยอนบูอิน” ขึ้นมาทันที  ยงฮวาอ้าปาก  ยิ้มกว้างทันที  รีบกดรับสายปลายทาง

    “ฮ-ยอน”  ซอฮยอนฟังแล้วขำ

    “ย๊-งงง”  เธอตอบกลับมา  ยงฮวาหน้าบาน

    “พี่กำลังจะโทรไปหา  เธอก็โทรมาพอดีเลย”

    “อ๋อ...พอดีชั้นกำลังจะเข้านอนค่ะ  คิดว่าพี่อาจจะเลิกงานดึกเลยโทรมาก่อน”  ซอฮยอนตรงไปตรงมาเสมอ  ยงฮวาพยักหน้าเข้าใจราวกับว่าอยู่ต่อหน้าเธอ  “พี่ค่ะ  ชั้นคิดว่าชั้นลืมถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาวันนี้ไว้ในรถพี่ค่ะ”  ยงฮวารีบมองหาทันที  ก็พบถุงกระดาษวางอยู่ที่พื้นตรงหน้าเขา

    “อ๋อ  พี่เห็นแล้ว  ให้พี่เอาไปให้เดี๋ยวนี้มั๊ย”

    “ไม่เป็นไรค่ะ  นี่ก็ดึกมากแล้วพี่ต้องพักผ่อนนะค่ะ  ไว้วันหลังก็ได้ค่ะ”

    “แต่เธอจะไปญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ  ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่  พรุ่งนี้พี่ก็มีถ่ายละครแต่เช้าด้วยสิ  ทำไงดีๆ”

    “เอาไว้กับพี่ก่อนก็ได้ค่ะ” 

    “ไม่อ่ะ  เธอต้องใส่ชุดนี้ไปญี่ปุ่น”  ยงฮวาหัวเราะเจ้าเล่ห์  “พี่ต้องได้เห็นรูปที่สนามบิน”  ยงฮวาเอาแต่ใจ

    “อะไรเนี่ย  พี่เป็นแบบนี้อีกแล้ว” ซอฮยอนตัดพ้อ

    “นี่เด็กน้อย  พี่ยังไม่ได้จัดการเรื่องวันนี้เลยนะ  คิดจะขัดขืนคำสั่งอีกหรือไง”  ยงฮวาทำท่าเข้ม

    “ชั้นทำอะไรผิดเหรอค่ะ”  ซอฮยอนพาซื่อ

    “เด็กน้อย  ถ้าอยู่ใกล้ๆจะตีซะให้ตายเลย  ทำเป็นจำไม่ได้เหรอ”  ซอฮยอนฟังแล้วนิ่งคิด  พลันก็หน้าแดงขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงที่เธอจู่โจมเขาเมื่อเช้า

    “ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”  เธอพยายามกลบเกลื่อน

    “เจอกันคราวหน้าพี่จะเอาคืน” ยงฮวาแกล้งเย้า  ซอฮยอนใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อได้ฟัง

    “ไม่เอา  ไม่พูดกะพี่แล้วชั้นจะไปนอนล่ะ” ซอฮยอนตัดบทด้วยความเขินอาย

    “เดี๋ยวสิ  มาสัญญากับพี่ก่อนว่าจะสวมชุดใหม่ตอนไปญี่ปุ่นคราวหน้า”  ยงฮวากึ่งออกคำสั่งกึ่งขอร้อง

    “ชั้นก็ทำแบบนั้นตลอดนี่ค่ะ”  ซอฮยอนอายที่จะตอบตรงๆ

    “เดี๋ยวพี่จะหาทางเอาชุดใหม่ไปให้  และที่สำคัญจำไว้นะว่าพี่จะเอาคืน  ระวังตัวให้ดีล่ะ”  ยงฮวาเจ้าเล่ห์  ซอฮยอนอดหมั่นไส้เขาไม่ได้

    “ค่ะ  ชั้นจะคอยดู”  ทั้งคู่เถียงกันไปมาเรื่องใครจะวางสายก่อนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตกลงได้ว่าจะวางสายพร้อมกัน  หลังวางสายยงฮวากอดโทรศัพท์ไว้แนบอก  มีความสุขอย่างเหลือล้น 

     

    เช้าวันใหม่สามแสบมารวมพลอยู่ที่ห้องนั่งเล่น  พูดคุยเรื่องตลกแซวกันไปมาอย่างที่เคยทำทุกวัน  ยงฮวาออกจะงงๆที่เห็นสามแสบตื่นแต่เช้า  จงฮยอนก็อาจจะใช่แต่ไอ้สองมักเน่นี่สิ  มันดูแปลกๆ

    “อะไรทำให้พวกนายตื่นแต่เช้าได้เนี่ย”  ยงฮวาแปลกใจ

    “ผมก็ต้องไปถ่ายละครกับพี่ไง  วันนี้คงไม่คิดจะทิ้งผมไปอีกนะ”  มินฮยอกพูดจบก็เข้าไปเกาะแขนยงฮวาไว้  ยงฮวาได้แต่ยิ้มให้กับความเป็นเด็กของมินฮยอก

    “ผมมีงานน่ะ  ไปถ่ายแถวๆหอพักของซอฮยอนด้วยนะ”  จงฮยอนบอก  ยงฮวาตาวาวนึกหาทางที่จะเอาของไปส่งให้ซอฮยอนออกทันที  รีบเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อไปเอาถุงช้อปปิ้งมาให้จงฮยอน  มินฮยอกเกาหัวแกรกๆ  สงสัยว่าพี่ชายจะทำอะไร  ยงฮวากลับมาพร้อมถุงในมือ

    “ฝากไปให้ซอฮยอนหน่อยสิ  เดี๋ยวชั้นจะโทรไปบอกไว้  พอนายไปถึงนายค่อยโทรหาซอฮยอนอีกที”  ยงฮวาส่งถุงให้จงฮยอนรับไป  จงฮยอนคือบุคคลที่ยงฮวาคิดว่าเขาน่าจะเชื่อใจได้มากที่สุดคนหนึ่ง  หลายต่อหลายครั้งที่จงฮยอนให้ความช่วยเหลือเขาอย่างที่เขาเองไม่อยากจะเชื่อ  ทั้งๆที่ยงฮวาเป็นลูกคนเล็กแต่เขากลับรู้สึกว่าจงฮยอนเป็นน้องชายของเขาจริงๆ

    “พี่ไปซื้อมาตอนไหนเนี่ย  มีเวลาด้วยเหรอ”  จองชินแซว

    “แกยังไม่รู้ล่ะสิ  ว่าพี่ยงฮวาแอบไปเดทมา  แล้วยังไปพูดในงานแถลงข่าวเมื่อวานด้วย  โห...พี่เท่ค่อดๆอ่ะ”  มินฮยอกบรรยายแล้วยกนิ้วหัวแม่มือให้ยงฮวาเป็นการชื่นชม

    “จิงดิ่พี่  โห...จองยงฮวาไม่แคร์สื่ออีกแล้ว”  จองชินแกล้งเย้า

    “เออๆ  พอเหอะ  จะไปได้ยังเดี๋ยวสาย”  ยงฮวาตัดบทด้วยความเขินอาย  แล้วหันไปถามมินฮยอก  เขาพยักหน้างึกๆ  ก่อนจะออกไปยงฮวาก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับซอฮยอนขึ้นมา  จึงหันกลับมาพูดกับจงฮยอนอีกครั้ง

    “นี่จงฮยอน  ซอฮยอนเขาถามชั้นว่านายรู้มั๊ยว่าพี่ๆของเขาเป็นบ๊อยซ์” 

    “ห๊า...”  จงฮยอนฟังแล้วงง  นี่คือเรื่องเล่าหรือคำถามกันแน่  ยงฮวาโบกมือปัดว่าไม่มีอะไรแล้วเดินออกไปพร้อมมินฮยอก  “นายเข้าใจมั๊ย”  จงฮยอนหันไปถามจองชิน  คำตอบที่ได้รับกลับมาคือการส่ายหน้า

     

    “พี่ค่ะ!!!!!  ซอฮยอนร้องเรียกฮโยยอนเสียงดัง  หลังจากวางสายจากยงฮวาธอก็คิดแผนการที่จะช่วยพี่สาวคนนี้ออกทันที  ฮโยยอนออกจะตกใจที่ซอฮยอนดูจะตื่นเต้นกว่าปกติ

    “มีอะไร  ใครทำอะไร”  ฮโยยอนรีบถาม  ซอฮยอนส่ายหน้า แล้วจูงมือเธอให้เดินตามมา

    “เรามามาร์คหน้ากันมั๊ยค่ะ  ทำเล็บ  หมักผม  อะไรอีกดีนะ” ซอฮยอนพูดขึ้น  ฮโยยอนรีบแกะมือของซอฮยอนออกจากข้อมือเธอ

    “เดี๋ยวนะ  เป็นอะไรมั๊ย  ยงซอบังนอกใจเหรอไง”  ซอฮยอนฟังแล้วส่ายหน้า 

    “ก็อยากทำสวยไง  เดี๋ยวชั้นจะทำให้พี่”  ซอฮยอนพูดแล้วข่มให้ฮโยยอนนั่งลงกับเตียงนอน  แล้วรีบไปเตรียมอุปกรณ์

    ในที่สุดฮโยยอนก็กลายเป็นตุ๊กตาให้ซอฮยอนจับทำโน่นทำนี่  ใบหน้าของเธอมีมาร์กพอกอยู่  ตอนนี้ซอฮยอนกำลังจับเธอทาเล็บโดยที่ไม่ถามว่าเธอต้องการสีอะไร  ซอฮยอนบรรจงทาเล็บให้กับพี่สาวคนสวยด้วยสีฟ้าอ่อนๆ ตัดปลายเล็บด้วยสีชมพูหวาน

    “เสร็จแล้ว”  ซอฮยอนพูดขึ้นเมื่อสำลีก้อนสุดท้ายที่เธอใช้เช็ดหน้าให้กับพี่สาวถูกทิ้งลงในถังขยะ  “พี่หน้าใสมากเลย  แล้วก็ดูสดใสด้วย  ดีจริง”  ซอฮยอนลิงโลดเป็นเด็กๆ  “เล็บก็สวย  สีนี่ของพี่ยงฮวา  ส่วนนี่ของชั้น”  ซอฮยอนอธิบายพร้อมกับชี้ไปทีละสี  ดูเธอมีความสุขที่ได้พูดถึงยงฮวา  ซอฮยอนหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าใกล้เวลาที่เธอคาดไว้แล้ว  จึงรีบเอามาร์คมาพอกหน้าตัวเอง  ฮโยยอนสงสัยในพฤติกรรมแปลกๆของน้องสาว  แต่ก็แสดงว่าจะช่วยทำให้เธอ  ซอฮยอนปฏิเสธบอกว่าอยากทำเอง  พลันเสียงโทรศัพท์ของซอฮยอนก็ดังขึ้น  ฮโยยอนได้ยินเพียงแค่เสียงเออออเท่านั้น  ทันทีที่วางสายไปซอฮยอนก็หันมาอ้อนฮโยยอนทันที

    “พี่ค่ะ  พี่ออกไปเอาของให้ชั้นหน่อยสิค่ะ”

    “หือ...” ฮโยยอนแปลกใจ  ซอฮยอนขี้เกรงใจและไม่กล้าจะไหว้วานใคร  แต่ทำไมวันนี้ถึงได้ทำ  “ของอะไร  เหรอ”

    “ชั้นลืมของไว้บนรถพี่ยงฮวาค่ะ  พี่เขาเลยเอามาให้”  ซอฮยอนไม่อยากจะอธิบายกลัวแผนที่วางไว้จะแตก

    “ไม่ไปหายงซอบังเองเหรอ”  ฮโยยอนยังสงสัย

    “พี่ยงฮวาไม่ได้มาค่ะ  ฝากคนอื่นมาให้  แล้วอีกอย่างพี่ก็ดูสิค่ะ  หน้าชั้นเป็นแบบนี้ออกไปข้างนอกได้ไง”  ซอฮยอนชี้ใส่หน้าที่เต็มไปด้วยมาร์กของเธอ  ฮโยยอนเห็นด้วยพยักหน้างึกๆ  “นะค่ะพี่  ชั้นนัดไว้ที่คาเฟ่ประจำของเราค่ะ  พี่เดินไปนิดเดียวเอง”  ซอฮยอนอ้อนวอน  ฮโยยอนไม่ได้นึกสงสัยจึงตอบตกลง  หลังจากที่พี่สาวพ้นประตูห้องไปซอฮยอนยิ้มให้กับแผนการของตัวเองอยู่คนเดียว “พี่คงไม่โกรธชั้นนะ”

    รายการถ่ายทำเสร็จแล้วทีมงานกำลังเก็บของอย่างขะมักขเม้น  จงฮยอนปลีกตัวไปนั่งอยู่ที่มุมด้านที่ไกลจากสายตาผู้คน  ในมือถือแก้วเครื่องดื่มของโปรดของเขาอยู่ด้วยความสบายใจ  การได้เจอกับซอฮยอนก็เหมือนได้มาเจอน้องสาวคนหนึ่ง  หลายต่อหลายครั้งที่เขาต้องมาทำหน้าที่แทนยงฮวา  จนตัวเขาเองสนิทกับซอฮยอนไปโดยปริยาย 

    ฮโยยอนเกๆกังๆเดินเข้ามาในคาเฟ่  ทีมงานยกกล่องของผ่านเธอไปเหมือนไม่ทันได้สังเกตว่าเธอกำลังเดินเข้ามาในร้าน  ฮโยยอนนึกสงสัยว่าเธอจะรู้ได้ยังไงว่ายงฮวาฝากของมากับทีมงานคนไหน  พลางกวาดสายตาไปทั่วร้าน  จนไปสบตากับจงฮยอนอย่างไม่ทันตั้งตัว  ราวกับถูกแช่แข็ง  ขาของเธอก้าวไม่ออก  ทำไมต้องมาเจอกับเขาในสภาพนี้  ใบหน้าไร้เมคอัพ  สวมเสื้อตัวโคร่งไหนจะกางเกงวอร์มนี่อีก  ฮโยยอนอยากจะบ้าตายเสียให้ได้  จะเดินหนีไปก็ไม่ทันแล้ว  เขาเห็นเธอแล้วจะทำยังไงดี  จงฮยอนลุกขึ้นโค้งให้เธอเป็นการทักทาย  บังคับให้เธอต้องเดินเข้าไปหาเขา

    “คุณมาถ่ายรายการที่นี่”  ฮโยยอนทักทายด้วยคำถาม  พยายามหลบตาจงฮยอน  จงฮยอนมองเธออย่างงงๆ

    “อ๋อ ครับ” จงฮยอนตอบแค่นั้น  พลางผายมือเป็นการเชื้อเชิญให้เธอนั่งด้วยกัน  “นั่งด้วยกันสิครับ”  ฮโยยอนโบกมือปฏิเสธ  จงฮยอนสังเกตเห็นเธอทาเล็บสีฟ้า  ผู้หญิงคนนี้คิดยังไงที่ทาเล็บสีฟ้า  เขาสงสัยในใจ

    “ฉันมาทำธุระให้ซอฮยอนน่ะค่ะ  เดี๋ยวก็จะไปแล้ว”

    “อ๋อ  มาเอาของแทนซอฮยอนเหรอครับ  พี่ยงฮวาฝากมากับผมครับ  นั่งก่อนสิครับ” จงฮยอนเชื้อเชิญอีกครั้ง  ฮโยยอนได้พยักหน้างึกๆ แล้วนั่งลง  “ดื่มอะไรดีครับ” 

    “เอ่อ  โกโก้ร้อนค-ค-ค่ะ”  ฮโยยอนดูประหม่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่เธอชอบ  จงฮยอนหันไปสั่งเครื่องดื่มให้กับเธอทันที  ทั้งคู่เงียบไปพักใหญ่  เธอยังไม่ได้แตะถ้วยเครื่องดื่มตรงหน้า  แต่กลับมองโน่นมองนี่เหมือนจะหาอะไรบ้างอย่าง  จงฮยอนอดที่จะสงสัยไม่ได้จึงถามขึ้น

    “หาอะไรเหรอครับ”

    “เอ่อ  กล้องค่ะ  ชั้นกำลังสงสัยว่ามีกล้องซ่อนอยู่หรือปล่าว” ฮโยยอนพูดกลั้วหัวเราะ  ตลกในความคิดของตนเอง  จงฮยอนหลุดขำออกมา  “เราดูเหมือนถ่ายรายการกันอยู่เลย  คุณว่าไหม”  ฮโยยอนดูจริงจัง

    “รายการอะไร” จงฮยอนตามน้ำไป  ฮโยยอนยิ้มอายๆให้กับความคิดของตัวเอง

    We got married.  พูดจบจงฮยอนถึงกับหลุดก๊ากออกมา  ผู้หญิงคนนี้ตลกจริง  “มันไม่เหมือนเหรอ  ชั้นรู้สึกเหมือนถูกหลอกให้มาทำมิชชั่นอะไรแบบนั้นเลย”  ฮโยยอนอายแต่ก็พยายามอธิบาย  จงฮยอนโบกมือปฏิเสธทั้งๆที่ยังหัวเราะอยู่

    “ไม่หรอกครับ  ผมไม่ได้รับการติดต่ออะไรแบบนั้น”

    “แต่คุณแต่งตัวดีจัง”  ฮโยยอนยังสงสัย

    “ผมมาถ่ายรายการที่นี่ครับ  แต่ถ่ายเสร็จแล้ว” จงฮยอนอธิบาย  ฮโยยอนพยักหน้าเข้าใจ

    “ชั้นคงดูแย่มากเลยวันนี้  ชั้นไม่รู้ว่าจะมาเจอคุณก็เลยไม่ได้เปลี่ยนชุดก่อนออกมา”  ฮโยยอนพยายามผ่อนคลาย

    “ไม่ครับ  คุณดูดี”  จงฮยอนไม่ได้แม่แต้จะคิดด้วยซ้ำว่าเธอดูดีหรือไม่  “ผมน่าจะชวนจองชินมาด้วย”  จงฮยอนพูดขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย

    “ห่ะ  เขาอยากเจอชั้นเหรอค่ะ”

    “ผมคิดว่าคุณสองคนน่าจะอยากเจอกัน”  อธิบายอย่างระมัดระวัง

    “เขาไม่อยากเจอชั้นหรอกค่ะ”  ฮโยยอนพูดแล้วพยักหน้ายืนยันคำพูดของเธอ  จงฮยอนยิ่งสงสัย

    “คุณไม่......” เขาเหมือนจะถามแล้วก็หยุดไป  เมื่อคิดได้ว่าไม่ควรจะถาม

    “เดทกัน???  ฮโยยอนต่อให้เขา  จงฮยอนพยักหน้าเองอัตโนมัติป็นการตอบรับคำถามนั้น “ชั้นนึกว่าพวกคุณจะรู้ซะอีก  จองชินเขาชอบคนอื่นต่างหากล่ะ  ชั้นก็แค่ที่ปรึกษาเท่านั้นแหละ”  ฮโยยอนดูผ่อนคลายมากขึ้น

    “อ๋อ  อย่างนี้นี่เอง”  จงฮยอนพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดื่ม  นี่มันน่าอายจริงๆที่ดูเหมือนเขามาเซ้าซี้ถามอะไรก็ไม่รู้อยู่กับฮโยยอน

    “ชั้นชอบเพลงใหม่ของพวกคุณนะค่ะ” ฮโยยอนพยายามหาเรื่องคุย  จงฮยอนยิ้ม  พลันนึกถึงสิ่งที่ยงฮวาพูดกับเขาเมื่อเช้า  รู้มั๊ยว่าพี่ๆของซอฮยอนเป็นบ๊อยซ์  เหมือนเขาจะไขปัญหาออกแล้วว่ายงฮวาหมายถึงอะไร  เธอเป็นแฟนเพลงของพวกเขานี่เอง

    “ถ้ารู้ว่าจะได้เจอคุณชั้นจะเอาซีดีมาให้เซ็นต์”  ฮโยยอนพูดต่อ  จงฮยอนพยักหน้ายิ้มอีกครั้ง

    “คราวหน้าก็ได้ครับ  เราคงเจอกันอีก”

    “ชั้นเห็นคุณตามรายการบ่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เห็นชั้น”  ฮโยยอนตัดพ้อเขาไปอย่างไม่ตั้งใจ  เธอยังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี ที่งาน Pyeongchang winter Olympic ยงฮวามารอดูซอฮยอนตั้งแต่เพลงแรกที่ขึ้นแสดง  ฮโยยอนแทบจะเต้นไม่ถูกเมื่อหันไปพบว่าจงฮยอนก็ยืนอยู่ตรงนั้น  และมองตรงมาที่เวทีตลอด  คล้ายกับว่าจ้องมองที่เธออยู่ตลอดเวลา  จนกระทั่งต้องเดินสวนกันขึ้นเวทีเขาแค่โค้งคำนับเป็นการทักทายไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม  เขาคงแค่ดูโชว์ก็เท่านั้น  ฮโยยอนบอกตัวเองในตอนนั้น

    “ไม่ใช่นะครับ  จะบอกว่ายังไงดีล่ะ  ผมก็ติดตามงานของคุณครับ”  จงฮยอนรีบปฏิเสธทันที วันนั้นที่งาน Pyeongchang winter Olympic  ยงฮวาชวนน้องให้ไปดู SNSD ขึ้นโชว์ด้วยกันพยายามทำเหมือนไปเตรียมตัวรอขึ้นเวทีเพื่อไมให้เป็นจุดสนใจ  ณ ตอนนั้นเองเขาถึงได้รู้สึกว่าฮโยยอนดูน่าสนใจ  กว่าจะรู้ตัวอีกทีเขาก็เอาแต่มองเธอ  ทึ่งที่เธอเต้นได้เก่งมาก  เธอโดดเด่นในแบบของเธอ  เขาเผลอหลงใหลไปกับท่าทางที่สง่างามนั่น  พลางคิดในใจว่าเธอทำแบบนั้นได้ยังไงกัน  ทำไมเขาถึงไม่เคยสังเกตเห็นเธอมาก่อนหน้านี้   เมื่อการแสดงจบลงทั้งสองวงต้องเดินสวนกันเพื่อที่จะไปแสดงโชว์ของเขา  จงฮยอนกลับรู้สึกอายเกินกว่าจะที่จะมองหน้าเธอ  เขาทำได้เพียงแค่โค้งคำนับทักทายเท่านั้น ตั้งแต่วันนั้นเขาก็รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นจองชินคุยโทรศัพท์  ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าทำไม

    ผู้จัดการของจงฮยอนเดินเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อนที่ทั้งคู่จะได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น  ฮโยยอนลุกขึ้นโค้งคำนับเป็นการทักทายเขา  เขายิ้มให้เธอแล้วหันไปพูดกับจงฮยอน “เรามีตารางงานต่อนะ”  จงฮยอนพยักหน้ารับ  แต่ฮโยยอนกลับรู้สึกใจหายเมื่อได้ยิน  ถึงจะประหม่าที่ได้เจอกันแบบไม่คาดฝัน  แต่เธอก็ต้องยอมรับว่าเธอมีความสุขจริงๆที่ได้พูดคุยกับเขา  อยากยืดเวลาออกไปอีกสักหน่อย

    “พี่ไปรอที่รถก่อนนะครับ  เดี๋ยวผมตามไป”  หลังคำพูดของเขาผู้จัดการก็ตบไหล่จงฮยอนเบา  หันมาลาฮโยยอนแล้วออกไป  ฮโยยอนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ  ควรจะบอกลาเขาหรือปล่าว  แต่ใจก็ไม่อยากทำเลย

     “หออยู่ไกลจากที่นี่มั๊ยครับ”  จงฮยอนถามขึ้น

    “ไม่ค่ะ  เดินไปนิดเดียว”

    “เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่หอ”  จงฮยอนเสนอออกไป  ทั้งๆที่ยังแปลกใจกับสิ่งที่ตัวเองพยายามทำอยู่

    “ไม่เป็นไรค่ะ  แค่นี้เองชั้นไปได้  คุณรีบไปทำงานเถอะ”  ฮโยยอนรีบปฏิเสธเพราะเกรงว่าจะเป็นภาระให้กับเขา  แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเพราะอะไรเขาถึงเสนอตัวจะเดินไปส่งเธอ

    “ผมพอมีเวลา  เดี๋ยวไปส่งคุณก่อนดีกว่า  ปล่อยให้คุณเดินกลับคนเดียวคงไม่ดี  ถ้าระหว่างทางเจอแฟนบอยจะทำยังไงล่ะครับ”  จงฮยอนดูเป็นคนช่างพูดขึ้นมาทั้งๆที่ไม่เคยเป็น  ฮโยยอนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอดีใจมากที่เขายื่นข้อเสนอแบบนั้นให้  นี่ไม่ใช่หรอกเหรอโอกาสที่เธอรออยู่  ทำไมถึงได้มาถึงอย่างไม่ตั้งตัวแบบนี้นะ

     

    ระหว่างทางจงฮยอนไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินไปข้างๆฮโยยอน  ฮโยยอนแอบมองเขา  แล้วเปรียบเทียบกับส่วนสูงของตัวเอง  เขาสูงมากเหมือนจะสูงกว่าจองชินแต่ไม่สินะก็จองชินสูงที่สุดในวงนี่  ยิ่งได้เห็นเขาใกล้ๆแบบนี้ยิ่งรู้สึกว่าเขาดูดีจริงๆ  แล้วใบหน้าที่ดูเหมือนจะยิ้มอยู่ตลอดเวลานั่นล่ะ  ช่างน่ามองเสียจริง  อยากให้ทางกลับหอไกลกว่านี้อีกสักหน่อย

    “นี่แหละค่ะหอพักของเรา”  ฮโยยอนพาเขามาหยุดยืนที่หน้าหอพักของเธอ  จงฮยอนพยักหน้า  ที่จริงเขารู้มาก่อนหน้านี้แล้ว  เคยมารับมาส่งซอฮยอนแทนยงฮวาอยู่บ่อยครั้ง 

    “ครับ  ผมจะจำไว้”  พูดพลางส่งถุงเสื้อผ้าที่ยงฮวาฝากมาให้ซอฮยอนให้เธอ  ฮโยยอนรับถุงไปถือไว้

    “ขอบคุณนะค่ะที่อุตส่าห์มาส่ง”  ฮโยยอนดูใจหาย

    “ยินดีครับ”  ฮโยยอนโบกมือลาให้เขาแล้วเดินเข้าไปในตึก  จงฮยอนเผลอทำแบบเดียวกันโดยไม่รู้ตัว  ยืนมองจนเธอเดินหายเข้าไป

     

    JongHyun

    ผมมีความสุขครับ  วันนี้ยิ้มเยอะมากครับ  SNSD ฮโยยอนเหรอ  เธอน่ารักครับ  ระหว่างทางที่กลับมาหอผมนึกไปถึงเรื่องที่เธอกลัวว่าจะมีการซ่อนกล้อง  แล้วคิดว่าเรากำลังถ่าย We go married. กันอยู่  มันตลกครับ  เธอตรงไปตรงมาแล้วก็ตลกดี  เรื่องเล็บสีฟ้านั้นก็น่ารักดี  เธอคงเป็นบ๊อยซ์ล่ะมั๊งถึงได้ทาเล็บสีฟ้าของวงผมกับชมพูสีของวงเธอ  นี่ผมไม่ได้กำลังเข้าข้างตัวเองใช่มั๊ยเนี่ย  แล้วในที่สุดก็ได้รู้ว่าจองชินไม่ได้กำลังเดทกับฮโยยอน  ฮ่า ฮ่า ฮ่า  มีความสุขครับ  ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าทำไม  เพลงใหม่เพลงไหนกันที่เธอชอบ  แต่ไม่เป็นไรหรอกครับเจอกันคราวหน้าผมจะเอาซีดีที่มีลายเซ็นต์ของผมไปให้เธอแล้วจะถามเธอเรื่องนี้ครับ  เธอต้องชอบเพลงที่ผมแต่งแน่ๆ  เรื่องที่เธอคล้ายๆจะต่อว่าที่ผมไม่เคยสนใจเธอมาก่อน  จะอธิบายยังไงล่ะครับ  ว่าผมเป็นพวกชอบดู Live Show ของเกิร์ลกรุ๊ปไปแล้ว  มันออกจะน่าอายไปหน่อย  ภาพลักษณ์ของผมน่ะ Burning นะครับ  ไม่ใช่ Lovely  บอกใครเรื่องนั้นไม่ได้หรอก  ทำไมถึงเสนอตัวเดินไปส่งเธองั้นเหรอ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไม่รู้สิครับ  แค่อยากคุยกับเธอต่ออีกหน่อยมั๊งครับ  แต่ก็ทำได้แค่เดินไปเรื่อยๆแค่นั้นเอง    โอ้......ผมเป็นอะไรไปเนี่ย  ผมคิดว่าผมรู้แล้วล่ะถ้ามีโอกาสผมอยากร่วมรายการ We got married กับใคร  ผมเข้าใจพี่ยงฮวาแล้วล่ะ


    HyoYeon

    แผนของซอฮยอนหรือเปล่า  ชั้นสงสัยจริงๆค่ะ  น่าจะบอกล่วงหน้าสักหน่อยชั้นจะได้เตรียมตัวให้ดีกว่านี้  สวมชุดวอร์มไปเจอเขาแบบนั้นมันน่าอายจริงๆ  ชั้นน่าจะสวยกว่านี้ใช่มั๊ยค่ะ  จงฮยอนเหรอ...เขายิ้มสวยมาก  ทำเอาเพ้อไปเลยค่ะ  ให้นั่งมองทั้งวันยังได้เลยนะ  ชั้นก็ขำตัวเองค่ะ  พูดไปได้ไงว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่  เขาจะหาว่าชั้นไม่ปกติหรือเปล่า  แถมยังเผลอบอกความฝันไปอีก  อยากเข้าร่วมรายการ We got married. กับเขา ฮ่า ฮ่า ฮ่า  เพ้อมากค่ะ  เรื่องจองชิน  อ่า....แย่จัง  คงต้องบอกจองชินแล้วล่ะว่าชั้นไม่อยากเป็นที่ปรึกษาให้เขาแล้ว  แปลกใจมากเลยที่เขาอยากรู้เรื่องนี้  ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลย  เพลงโปรดเหรอ...อืม...ทุกเพลงที่เขาร้องนั่นแหละค่ะ  ชอบหมดเลย  ได้ยินเหมือนกันมั๊ยค่ะ  เขาติดตามงานของชั้น อิอิอิ  ขอให้จริงเถอะ  หวังว่าคงไม่พูดตามมารยาทหรอกนะ  ระหว่างทางตอนกลับเหรอค่ะ  น่าอายจังถ้าชั้นจะบอกว่าอยากให้หอชั้นอยู่ไกลสักญี่ปุ่นเลยค่ะ  ฮ่า ฮ่า ฮ่า  พอได้เดินข้างๆเขาแบบนี้เหมือนเรามาเดทกันเลย  ชั้นตัวเล็กนิดเดียวเองเกือบไม่ถึงไหล่ของเขาด้วยซ้ำ  เขาสูงมากแล้วก็เท่ห์ด้วย  แถมอมยิ้มตลอดเลย  โอ๊ย...อยากจะบ้าตายมาก  อยากให้ยงฮวาฝากของมาให้ซอฮยอนบ่อยๆค่ะ

     









    Special part. แถมค่ะ  ที่เหลือไปจิ้นต่อเอง  ไรเตอร์ไม่ไหวจะเคลียร์ 555  แอบมีพี่ยงหยอดน้องซอนิดหน่อยพอเป็นน้ำจิ้ม  แล้วรอติดตามเรื่องใหม่นะค่ะ  แอบยั่วน้ำลายไว้สักหน่อย  ไรเตอร์ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นพาร์ทนะค่ะ  แต่ละพาร์ทอาจจะเกี่ยวข้องกัน  แต่ไม่ต่อเนื่องกัน  พยายามจะเรียงลำดับวันเวลาให้ถูกต้องแต่ถ้าผิดพลาดก็ขออภัยค่ะ  อ่านสนุกๆล่ะกันค่ะ  จองชินชอบใคร?  เดี๋ยวได้รู้ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×