คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Nobody
≈≈≈ตื๊ดดดดดดด≈≈≈
จงฮยอนหันไปมองที่มาของเสียงกวนโสตประสาทที่กำลังรบกวนช่วงเวลาแห่งความสุขอันแสนสั้นของเขาด้วยความขุ่นใจ ก่อนจะหันไปมองคนที่ควรจะหยุดการรบกวนนี่เสีย แต่กลับพบยงฮวานั่งกอดอกทำหน้าตึงอยู่ที่โซฟา
“พี่จะรับโทรศัพท์มั๊ย” จงฮยอนถามเสียงเนือย พร้อมๆกับยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัดออกมา ยงฮวาไม่ตอบแต่กลับทำหูทวนลม จงฮยอนหันไปมองโทรศัพท์เคราะห์ร้ายที่กำลังสั่นไปมาอยู่บนโต๊ะหัวเตียงอีกครั้ง “ไม่รับใช่มั๊ย” ยังไม่ทันที่เขาจะฟังคำตอบจากอีกคนเขาก็เอื้อมมือเข้าใกล้โทรศัพท์เคราะห์ร้ายที่ดูเหมือนจะชะตาขาด ยงฮวาตาลุกโพลงถลันเข้าไปคว้าโทรศัพท์มาไว้ในมือได้อย่างหวุดหวิด
“นายจะทำอะไร” ยงฮวาแทบจะแหวใส่น้องชายในทันทีที่มั่นใจว่าโทรศัพท์ปลอดภัยอยู่ในมือของเขาแล้ว
“เห็นไม่สนใจก็จะจัดการให้ไงล่ะ” จงฮยอนลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ
“ไอ้คนไม่มีหัวใจ...” ยงฮวาออกจะงอนน้องชายอยู่บ้าง แต่ไม่ได้มีท่าทีโกรธจริงจัง
“นี่...แล้วถ้าไม่คิดจะรับสายก็กดตัดสายไปเลย เสียงแบบนั้นมันน่ารำคาญ” จงฮยอนพูดก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ยงฮวาเบ้หน้าแล้วก้มมองโทรศัพท์เจ้ากรรมที่ยังร้องเรียกไม่เลิก ก่อนจะกดรับโทรศัพท์ทั้ง ๆ ที่ใจอยากจะกดรับตั้งแต่แรกเสียจนใจแทบขาด....
“อืม....” เขาแกล้งทำเสียงเข้ม หวังข่มขวัญปลายสายให้กลัวเขา แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับกลับมา เขาจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ให้แน่ใจ นี่เล่นตัวมากเกินไปจนปลายทางวางสายไปแล้วใช่ไหม แต่แล้วก็เหมือนคนปลายสายจะเป็นใจ โทรศัพท์ในมือเขาก็เริ่มสั่นอีกครั้ง ยงฮวาพยายามสงบสติอารมณ์ให้ดูนิ่งที่สุดก่อนจะกดรับสายโทรศัพท์
“อืม...”
<พี่ยงฮวา ชั้นมาถึงโอซาก้าแล้วนะคะ> เสียงปลายสายดูสบาย ๆ ไม่ได้มีท่าทีวิตกกังวลกับน้ำเสียงข่มขวัญของเขาแต่อย่างใด
“แล้วไง...” ยงฮวายังทำเป็นนิ่งเฉย
< ชั้นต้องไปทำงานที่อื่นก่อนคะ แล้วดึก ๆ ค่อยเจอกันนะคะ>
“ฮยอนอ่า....” ยงฮวาหลุดฟอร์มออกมาในทันที เมื่อรู้สึกว่าซอฮยอนไม่ได้ยอมตกหลุมพรางของเขาเลย
<มีอะไรเหรอคะ>
“ทำไมไม่สนใจพี่เลย พี่โกรธอยู่นะเนี่ย โกรธอยู่รู้มั๊ย”
<อ่ะ เหรอคะ พี่โกรธเรื่องอะไรคะ> ยงฮวาฟังแล้วหน้าบูด ....ซอฮยอนไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
บรรยากาศในห้องแต่งตัวดูวุ่นวายเพราะใกล้เวลางานเข้ามาทุกทีจงฮยอนกับมินฮยอกยังคงดูสบาย ๆ ปล่อยให้ช่างแต่งหน้าแต่งโน่นเติมนี่ไปตามใจ ในขณะที่ยงฮวากลับดูจู้จี้วุ่นวายกับทีมงานที่กำลังพูดคุยกับเขาอยู่
“เราต้องโชว์ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ซาวด์เช็คเองเหรอครับ” ยงฮวาดูจริงจังเป็นคนละคนกับไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ จงฮยอนใช้หางตามองปฏิกิริยาของหัวหน้าวงที่ตอนนี้ดูจะไม่สบอารมณ์นัก “ผมไม่คิดว่าเราควรจะทำแบบนั้น” เสียงยงฮวาดังฟังชัดเสียจนมินฮยอกต้องหันไปมอง
“พวกเราซาวด์เช็คเองทุกครั้ง ผมไม่มั่นใจเวลาที่คนอื่นมาทำเรื่องแบบนี้ให้” จงฮยอนพรวดพราดออกมาจากมือช่างแต่งหน้าแล้วตรงเข้าร่วมวงสนทนากับลีดเดอร์ในทันที
“เราไม่มีเวลามากพอ อยากให้พวกคุณเข้าใจครับ ต้องขอโทษเป็นอย่างมาก” เสียงทีมงานที่ออกจะเกรงใจ และรับรู้ได้ในท่าทีจริงจังของนักดนตรีที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาทั้งสองคน
“พรุ่งนี้เราจะได้ทำทั้งหมดเองใช่มั๊ยครับ” มินฮยอกเข้ามาร่วมวงพยายามจะผ่อนคลายบรรยากาศตึงเครียดอันเกิดจากท่าทางของพี่ชายทั้งสองคน ยงฮวายกแขนสองข้างขึ้นเท้าเอวหันหน้าหนีไปทางอื่น ในขณะที่จงฮยอนกอดอกมองคนตรงหน้า
“ครับ เราจะเพิ่มเวลาในส่วนนี้เข้าไป ผมต้องขอโทษจริง ๆ นะครับ”
“งั้นวันนี้ก็คิดซะว่าซ้อมใหญ่ล่ะกัน พรุ่งนี้ค่อยเอาจริงล่ะกัน” มินฮยอกพูดพร้อม ๆ กับกอดคอพี่ชายทั้งสองคน หวังจะช่วยให้ผ่อนคลาย “ตามนี้ล่ะกันครับ ขอบคุณนะครับ” เขาหันไปพูดกับทีมงานก่อนจะโค้งคำนับให้กับทีมงานคนนั้น แล้วปล่อยให้เขาจากไป พร้อม ๆ กับจองชินที่เดินสวนเข้ามา แล้วก็ต้องแปลกใจกับท่าทางของพี่ชายใหญ่สองคนที่ดูจะไม่สบอารมณ์นัก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” เขาถามกับมินฮยอกตรง ๆ
“เราต้องโชว์วันนี้ โดยที่เขาไม่มีเวลาให้เราซาวด์เช็คน่ะ” มินฮยอกอธิบายจริงจัง
“ห๊ะ...” จองชินแทบจะไม่อยากเชื่อ “ฉันจำครั้งสุดท้ายที่เล่นโดยให้คนอื่นตั้งเครื่องให้ได้ วุ่นวายเป็นบ้า” จองชินเองก็ดูจะไม่พอใจ
“ก็ต้องเล่นนั่นแหละ ไปแก้ปัญหาบนเวทีเอาล่ะกัน” ยงฮวาพูดก่อนจะเดินกลับไปที่หน้ากระจกเพื่อให้ช่างแต่งหน้าแต่งตัวให้เขาอีกครั้ง นี่ดูเหมือนจะเป็นทางเดียวที่ทุกคนจะทำได้ในเวลานี้
เสียงปรบมือ เสียงกรีดร้องมาพร้อม ๆ กับแสงแฟลชที่วูบวาบไปมา คนดังแต่ละคนต่างทยอยกันออกไปโชว์ตัว และทักทายแฟนคลับพร้อมกับให้สื่อมวลชนมากมายได้จับจ้องและกดชัตเตอร์กันจนมือเป็นระวิง ทั้งสี่หนุ่มยืนต่อแถวอยู่หลังไอดอลหญิงชื่อดังร่วมชาติ ที่คุ้นหน้าค่าตากันเป็นอย่างดี หลังจากทักทายกันตามมารยาทแล้วต่างก็พุ่งความสนใจไปกับตารางเวลาของตัวเอง มินฮยอกเองก็ดูไม่ได้สนใจต่อสิ่งแวดล้อมมากไปกว่าแถวข้างหน้าที่กำลังเคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ หากไม่มีใครบางคนที่ดูจะเร่งร้อนมาเข้าแถวจนชนเข้ากับเขาอย่างเต็มแรง ก่อนที่เขาจะทันได้รับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเขาก็พบว่าเจ้าของร่างบางที่ชนเขานั้นกำลังค้อมศรีษะขอโทษเขาเป็นการใหญ่
“ขอโทษคะ ขอโทษจริง ๆ ฉันรีบไปหน่อย” เธอทั้งขอโทษ และโค้งศรีษะให้เขาซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่คุณไม่เป็นอะไรใช่มั๊ย”
“ฉันไม่เป็นไรคะ ขอโทษจริง ๆ คะ” เธอยังพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ในขณะที่คนอื่น ๆ เริ่มจับจ้องมายังคนทั้งคู่ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
“คุณกำลังจะทำให้ผมกลายเป็นคนไม่ดีนะครับ” มินฮยอกพูดพร้อม ๆ กับหลบสายตาจากคนอื่น เธอคนนั้นจึงได้เริ่มมองไปรอบ ๆ บ้าง ก็ได้พบกับสายตาอยากรู้อยากเห็นที่ต่างพากันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอโค้งให้เขาอีกครั้ง
“ขอโทษจริง ๆ นะคะ” ก่อนจะเดินจากไป มินฮยอกเผลอมองตามเธอไปโดยไม่รู้ตัว.... จู่ ๆ ก็รู้สึกสมองว่างเปล่าไร้ความคิด
“มีอะไรเหรอ..” เสียงจองชินสะกิดให้เขากลับมาสู่ห้วงเวลาเดิมอีกครั้ง
“อ๋อ...ไม่มีอะไร” มินฮยอกตอบคำถาม ก่อนจะลืมอุบัติเหตุนั้นไป
บรรยากาศพรมแดงผ่านไปด้วยความราบรื่น..... ก่อนที่เหล่าไอดอลชื่อดังจะพากันแยกย้ายเข้าห้องพักเพื่อเตรียมทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป CNBLUE ทั้งสี่คนพูดคุยกันด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น เสียงหัวเราะสนุกสนานพูดคุยแซวเล่นกันไปมา ก่อนที่สายตาจองชินจะหยุดที่ทีมงานที่กำลังเดินสวนมาโดยมี MC ของงานเดินตามมา เขาปล่อยให้คนอื่น ๆ เดินนำไป แล้วหยุดยืนมองสาวสวยที่คล้ายจะซ่อนตัวอยู่ด้านหลังทีมงาน ด้วยสีหน้าเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉยจนเกือบจะโกรธ เขาคว้าข้อมือของเธอไว้ให้เธอหยุดยืนอยู่ข้างเขา ไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ
“ขอเวลาสักครู่นะครับ” จองชินหันไปพูดกับทีมงานเป็นการขออนุญาต ทีมงานจึงจำต้องแยกไปทิ้งให้ทั้งสองคนยืนเพียงลำพัง
“พี่ต้องไปทำงานนะ” กยูริพูดใบหน้ายิ้มแย้ม คล้ายจะยังไม่รับรู้อารมณ์ของคนข้างกาย จองชินไม่พูดอะไรแต่กลับถอดเสื้อนอกที่สวมอยู่คลุมให้เธอ
“ผมจะพาพี่ไปเปลี่ยนชุด” เขาพูดทั้ง ๆ ที่ยังไม่มองหน้าเธอ กยูริมองหน้าแล้วถอนหายใจออกมา
“นี่ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาล้อเล่นนะ” จองชินฟังแล้วหันมองจ้องหน้าเธอแววตาแข็งกร้าวก่อนจะใช้กำลังลากเธอให้เดินตามเขา
“นี่มันอะไรเนี่ย” กยูริร้องถามเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจฟัง เธอจำต้องรีบก้าวเท้าให้ทันเขาพร้อมกับต้องคอยพะวงกับกระโปรงยาวรุ่มร่ามที่อาจจะพาให้เธอเสียหลักล้มลงได้ทุกเมื่อ จองชินมาหยุดที่หน้าห้องแต่งตัวของ KARA เขาดูฉุนเฉียวมากเสียจนกยูริเองก็ยังแปลกใจ
“พี่จะเข้าไปเปลี่ยนเอง หรือจะให้ผมพาเข้าไป” น้ำเสียงเขาดูจริงจัง และเหมือนว่าพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
“ทำไมพี่จะต้องเปลี่ยนชุด” กยูริพยายามสงบสติอารมณ์เพราะไม่อยากจะให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตไปกว่านี้ จู่ ๆ จองชินก็จ้องหน้าเธอก่อนจะเลื่อนสายตามาจับจ้องอยู่ที่เนินอกนวลเนียน สายตาที่เขาจ้องมองมันทำให้เธอรู้สึกกระดากอายมากเสียจนต้องดึงเสื้อนอกที่สวมทับไว้มาปิดบังให้พ้นจากสายตาของเขา
“พี่เปลี่ยนไม่ได้หรอก มันเป็นชุดของสปอนเซอร์ เธอก็รู้นี่” กยูริหลบการจ้องมองจากเขา เพราะรู้สึกราวกับว่าเธออาจจะถูกแผดเผาเพียงแค่เขาจ้องมอง จองชินนิ่งใช้ความคิดก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“งั้น...พี่ถอดเสื้อตัวนี้ออกได้แค่เฉพาะตอนขึ้นเวทีเท่านั้น ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน” แม้น้ำเสียงจะอ่อนลงแต่เขาไม่ได้มีท่าทีผ่อนคลายลงเลย จบคำพูดเขาก็เดินจากไปเฉย ๆ กยูริได้แต่ถอนหายใจ เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องทำหน้าที่ต่อไป... งาน MC ยังรออยู่ข้างหน้า โอกาสที่ท้าทายครั้งใหม่เธอไม่ควรจะทำลายมัน....อย่างไรเสียมันก็ต้องดำเนินต่อไป
มินฮยอกก้มหน้าล้างมือช้า ๆ อยู่เพียงลำพังในห้องน้ำ ในขณะที่สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้ากระจก พยายามสำรวจหาข้อบกพร่องของตัวเอง แต่แล้วจู่ ๆ สายตาของเขากลับพบใครบางคนที่วิ่งผ่านหลังเขาไปตรงไปยังห้องน้ำด้านใน ช่างน่าแปลกใจที่เหมือนว่าเขาจะมองเห็นผู้หญิงกำลังวิ่งเข้าห้องน้ำผู้ชาย เขาหยุดล้างมือก่อนจะหันกลับมามองหาเจ้าของเงาในกระจก ยังไม่ทันที่เขาจะได้คำตอบอะไร กลับมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากทางด้านในห้องน้ำ เขาจึงรีบสาวเท้าเข้าไปหาต้นเสียง แล้วก็ต้องปะทะเข้ากับร่างเล็ก ๆ ที่ตอนนี้โดนแรงปะทะผลักให้ลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นแล้ว
“นี่คุณอีกแล้วเหรอ” มินฮยอกพูดขึ้นทันทีที่ได้รู้ว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่พื้นตรงหน้าเขาในเวลานี้เป็นคน ๆ เดียวกับที่ชนเขาเมื่อประมาณสองชั่วโมงก่อน
“ขอโทษนะคะ พอดีฉันรีบไปหน่อยเลยเข้าผิดห้อง” เธอรีบแก้ตัวและดูเหมือนว่าจะลืมไปแล้วว่าเธอควรจะลุกขึ้นยืนเสียที มินฮยอกเอื้อมมือไปให้เธอหวังช่วยให้เธอลุกขึ้น แต่เธอกลับลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองเหมือนไม่เห็นความหวังดีจากเขา เขาดูจะเก้อไปเล็กน้อยก่อนจะแกล้งทำราวกับว่าไม่รู้สึกอะไร
“คุณดูซุ่มซ่ามจังเลยนะครับ”
“ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ...”
“ต้องระวังให้มากกว่านี้นะครับ ไม่งั้นคงจะเจ็บตัวเข้าสักวัน”
“ขอบคุณคะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ชนคุณอีก” จบคำพูดเธอก็โค้งให้เขาเป็นการบอกลาก่อนจะเดินหนีไป มินฮยอกเพียงแค่ผงกศรีษะเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก
สาวน้อยเดินจากมาด้วยความขุ่นเคืองในใจ รู้สึกเหมือนโดนเขาต่อว่าที่เธอชนเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น
“CNBLUE งั้นเหรอ... ฉันก็ไม่ได้อยากจะชนนายสักหน่อย คิดว่าตัวเองแน่นักหรือไง ชิสห์” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินหายไป โดยไม่รู้ตัวว่าคนที่เธอต่อว่าได้ยินทุกคำพูดจากเธอทั้งที่เธอไม่ได้อยากให้เขาได้ยิน มินฮยอกมองตามหลังเธอไปโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง.....
ไรเตอร์ดึงเกมส์ป่าวเน้.... ยงซอก็ยังไม่มา จงฮโยก็ยังไม่ตั้งเค้า.... แถมสาวปริศนามาอีกคน เอาล่ะเซ่.....
ขอบคุณมิตรรักแฟนเพลงที่ยังเหนียวแน่นนะคะ.... หายไปนานแต่ยังมีคนมารออ่าน ขอบคุณจริง ๆ เก๊าจะทำให้ดีที่สุดนะ อิอิอิ hug hug hug hug อย่าลืมไปเล่นเกมส์กันนะคะ อยากแจกจริง ๆนะ
ความคิดเห็น