ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [YongSeo Story] Part 1 Unseen Heartstings

    ลำดับตอนที่ #3 : My heart belong to you.

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 54


    สามแสบอยู่ระหว่างเดินทางเพื่อไปทำงานตามตารางงานของแต่ละคน  มินฮยอกมีท่าทีหงุดหงิดเอาแต่ก้มหน้ากดหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดเวลา  ปากก็พร่ำบ่นความขุนเคืองในใจ  “ไอ้พี่บ้า  ผมจะโหวตให้พี่จงฮยอนเป็นลีดเดอร์คอยดูสิ”  มินฮยอกกดพิมพ์ข้อความลงในมือถือ  แล้วกดส่งหวังให้เจ้าของเครื่องปลายทางได้รู้รับรู้ว่าเขาไม่พอใจ

    “นายส่งไปกี่รอบแล้วว่ะ”  จงชินที่นั่งข้างๆเขาถามขึ้นเซ็งๆ  เพราะเพื่อนรักมัวแต่ส่งข้อความไปต่อว่าพี่ใหญ่ของวงมาตั้งแต่ที่เขารู้ว่าเขาถูกทิ้งให้เดินทางไปงานแถลงข่าวละครเพียงคนเดียว  จนถึงตอนนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

    “ก็มันแค้นนี่หว่า  ไปไหนบอกตรงๆก็ได้  มาหลอกทำไมอ่ะ”  มินฮยอกงอแงเหมือนเด็กๆ

    “นายก็น่าจะรู้นี่ว่าพี่เขาไปไหน  แล้วยังจะตามไปอีก  เป็นชั้นก็ทำแบบนี้แหละ  แกจะได้เข็ด  เลิกตามไง”  จงชินตอกย้ำ

    “พี่จงฮยอน  พี่ต้องเข้าข้างผมนะ  ไอ้กบมันเข้าข้างพี่ยงฮวาไปแล้ว”  มินฮยอกหันไปเรียกความสนใจจากจงฮยอนที่นั่งอยู่เบาะด้านหน้า

    “ชั้นไม่กฏบต่อพี่ยงฮวาหรอก”  จงฮยอนตอบสั้นๆ

    “ใช่สิ  พี่ก็รู้เห็นเป็นใจให้พี่ยงฮวาหลอกผมด้วย”  มินฮยอกเริ่มพาล

    “ชั้นไม่รู้เรื่องนะโว้ย  ออกมาก็เห็นพี่ยงฮวาออกไปแล้ว”  จงฮยอนอธิบาย

    “วันนี้จะไม่พูดกับใครเลย  คอยดูสิ”  มินฮยอกกอดอก  หน้างอเป็นเด็กๆ  จงฮยอนออกจะตลกในความเป็นเด็กของมินฮยอกมากกว่าที่จะสงสาร  จงชินทำท่าตบไหล่ปลอบใจเพื่อนรัก  แต่ก็อดที่จะชอบใจในแผนการของยงฮวาไม่ได้

    เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ยงฮวาไม่อาจรับรู้  สิ่งที่เขาสัมผัสได้ตอนนี้มีแค่นางฟ้าซอฮยอนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา  ราวกับว่าเวลาหยุด  ทุกสิ่งรอบกายเงียบงัน  เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน  เขาแอบภาวนาในใจให้โลกหยุดหมุนหรือหมุนให้ช้าลงกว่านี้  เพียงเพื่อหวังว่าช่วงเวลานี้จะยาวนานออกไปอีกเท่าที่ใจต้องการ

    “พี่ต้องไปทำงานนะค่ะ”  ซอฮยอนเตือนสติเขา  ทั้งๆที่ใจไม่ต้องการ  ยงฮวาพ่นลมหายใจพรืดแล้วค่อยๆคลายอ้อมแขนออกจากร่างอันบอบบาง  มือสองข้างประครองไหล่ของเธอไว้  ซอฮยอนยังคงก้มหน้าด้วยความเขินอาย  เขาเชยคางเธอขึ้นเพื่อให้เธอสบตากับเขา  ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองไปที่เธอตรงหน้า หวังเพียงให้เธอรับรู้และเข้าใจว่าผู้ชายที่ยืนตรงหน้าคนนี้ทั้งรักและภักดีกับเธอเพียงคนเดียว  จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าตรงมาทางห้องฟิตติ้งบังคับให้ยงฮวาและซอฮยอนต้องผละออกจากกัน  เป็นพนักงานประจำร้านนั้นเอง

    “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าค่ะ” พนักงานคนนั้นถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นยงฮวาทำท่าเหมือนพยายามจะแกะอะไรบ้างอย่างออกจากเสื้อผ้าที่เขาถืออยู่

    “อ๋อ  ไม่ครับ  เอ่อ...ผมคิดว่ากระดุมนี้มันสวยดี”  ยงฮวาแก้ตัวไปขุ่นๆ  แล้วส่งมันให้กับพนักงาน  “เอาสองชุดนี้ครับ”  ซอฮยอนอดขำกับท่าทีของยงฮวาที่พยายามกลบเกลื่อนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้  ทั้งๆที่พนักงานคนนั้นดูเหมือนจะไม่สงสัยอะไรเลย

    ยงฮวาและซอฮยอนเดินตามพนักงานออกมารออยู่บริเวณเคาน์เตอร์เก็บเงินภายในร้าน  ยงฮวายังคงขี้เล่นอยู่เสมอ  เมื่อเวลาอยู่ด้วยกันก็เหมือนโลกมีเราแค่สองคน  ยงฮวาไม่เคยสนใจคนรอบข้างหรือใครๆก็ตามที่ผ่านไปมา  สองตาของเขาจะมีเอาไว้มองเธอเท่านั้น  ซอฮยอนบังเอิญมองนอกไปนอกร้านแล้วก็ต้องสะดุดกับผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านนอกร้านคล้ายว่าจะหันกล้องของโทรศัพท์มาที่เธอและยงฮวา  ด้วยสันชาตญาณเธอหันหลังให้เขาทันที  สะกิดยงฮวาให้รู้สึกตัว  ยงฮวาเอียงศรีษะเข้าไปใกล้เพื่อฟังเธอกระซิบ

    “พี่ค่ะ  ชั้นคิดว่ามีคนกำลังถ่ายรูปเราค่ะ”  หลังสิ้นเสียงซอฮยอน  เขารีบหันไปทางหน้าร้านเพื่อจะดูให้แน่ใจ  ชายคนนั้นเหมือนจะรู้ว่าคู่รักรู้ตัวเสียแล้ว  รีบเก็บโทรศัพท์แล้วเดินหนีไป  แน่นอนทั้งคู่ถูกถ่ายรูปได้ขณะที่อยู่ด้วยกัน  อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้ได้ขึ้นหน้าหนึ่งอย่างแน่นอน  พนักงานเอาถุงเสื้อผ้ามาส่งให้  ยงฮวารีบรับมาแล้วจูงมือซอฮยอนเดินออกจากร้านทันที

    “เราต้องไปจากที่นี่ก่อน  แล้วค่อยมาคิดกันว่าจะทำยังไงต่อ”  ยงฮวาพูดขณะที่เดินไปด้วย  ดูเขาเคร่งเครียด  ซอฮยอนได้แต่ทำตาม  ทั้งคู่มาหยุดที่มุมที่ไกลจากสายตาผู้คน  ต่างคิดหาทางออก

    “ชั้นจะโทรไปหาพี่มินยองค่ะ”  ซอฮยอนยังคงดูสงบแม้จะอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน  ยงฮวาตัดสินใจโทรเรียกคนขับรถให้มารับ  การออกไปจากที่นี่น่าจะดีที่สุด  ก่อนที่ซอฮยอนจะวางสาย  เธอหันมาหาเขายื่นโทรศัพท์ให้  ยงฮวารับมาแล้วทักทายคนในสายด้วยความนอบน้อม

    “สวัสดีครับพี่”

    “จองยงฮวา  นายจะแก้ตัวว่ายังไงดี”  เสียงปลายสายพูดมาน้ำเสียงทีเล่นทีจริง  ยงฮวาไม่แน่ใจว่าผู้จัดการของซอฮยอนอยู่ในอารมณ์ไหน

    “ครับ  ผมชวนซอฮยอนมาเอง  ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้”  ยงฮวารู้สึกผิด

    “อ่า....ชั้นจะทำไงกับนายดีพ่อหนุ่มขาร๊อค”

    “ผมจะรับผิดชอบเองครับ”  ยงฮวาพูดจากใจ  ผู้จัดการของซอฮยอนหัวเราะแล้วว่า

    “ชั้นจะจัดการเรื่องรูปเอง  นายมีหน้าที่ไปส่งซอฮยอนกลับบ้านก็พอ  แล้วก็อย่าลืมนะว่านายติดหนี้ชั้นอีกแล้ว”  เขาเฉลยอารมณ์ของเขาออกมาในตอนท้ายว่าต้องการแกล้งให้ยงฮวาขวัญเสียเท่านั้น  สายปลายทางถูกตัดไปแล้ว  ซอฮยอนกำลังมองเขาอยู่เหมือนจะรอการตัดสินใจ  ยงฮวายิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดในใจ  “สบายใจได้  เราไปจากที่นี่กันเถอะ”  ยงฮวาพูดแล้วจูงมือเดินนำซอฮยอนไป

    ระหว่างทางกลับหอของ SNSD  ยงฮวานั่งเงียบครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ผลกระทบที่อาจเกิดหากภาพที่ถูกถ่ายได้ไม่ได้รับการยับยั้ง  พลันภาพเหตุการณ์ที่เขาเพิ่งได้ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ก็ผุดขึ้นมาในสมอง  ยงฮวานั่งอยู่ในห้องของท่านประธานแห่ง SM Entertainment แม้จะคิดว่าตัวเองไม่ได้ทำความผิดอะไร  แต่เขาก็ไม่กล้าพูดเต็มปากว่าไม่กลัวกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นข้างหน้า  เขายังจำความรู้สึกในตอนนั้นได้ดี  มันคือความกล้าหาญที่มากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา  ประธาน SM ยืนอยู่ตรงหน้าในขณะที่เขานั่งนิ่งบนโซฟา 

    “ชั้นรู้เรื่องที่พ่อแม่ของนายกับซอฮยอนได้พูดคุยกันแล้ว  นายทำให้ชั้นประหลาดใจ”  คิมยองมินกล่าว  ยงฮวายังไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ  “รวมถึงแหวนที่นายสวมอยู่นั่นด้วย”  ยงฮวาลูบที่แหวน eternity ของเขาอย่างไม่รู้ตัว “แหวนหมั้น???  น้ำเสียงของเขาบ่งบอกถึงว่ามันคือคำถาม

    “ไม่ใช่ครับ”  ยงฮวาปฏิเสธหนักแน่น

    “นั่นสินะ  แหวนหมั้นควรจะมีราคามากกว่านี้”  เขาทำราวกับว่าพูดอยู่คนเดียว  “แล้วมันคืออะไรล่ะ”  จ้องหน้ายงฮวาอย่างเอาจริงเอาจัง  ยงฮวาไม่แม้แต่จะหลบตาเขา

    “มันเป็นสัญญาระหว่างเราครับ” ยงฮวาดูจริงจัง  คิมยองมินพยักหน้าเข้าใจ

    “แล้วสัญญาของซอฮยอนกับ SM ล่ะ”

    “ผมคิดว่ามันเป็นคนละเรื่องกันครับ  ระหว่างผมกับซอฮยอนมันไม่ใช่ธุรกิจ”  คิมยองมินเหลือบมองเขาด้วยหางตา  ออกจะประหลาดใจในคำพูดของเด็กหนุ่มตรงหน้า

    “นายเพิ่งเข้ามาเส้นทางนี้ไม่นาน  นายคงไม่เข้าใจ  เพราะนับจากวินาทีที่นายเดบิวต์  ชีวิตนายคือธุรกิจ  จะหายใจก็เป็นธุรกิจ  ฉะนั้นนายจะบอกว่ามันไม่ใช่ธุรกิจคงจะไม่ได้”  คิมมินยองจริงจัง  “ชั้นไม่สนหรอกนะว่านาย วงของนายจะเป็นยังไง  ที่ชั้นสนคือสิ่งที่นายกระทำมันจะมีผลยังไงต่อธุรกิจของชั้น  และนายควรจะรู้ไว้ว่าตั้งแต่นายเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมามันกระทบต่อภาพลักษณ์ของซอฮยอน”

    “ก็เลยกระทบกับธุรกิจของคุณ”  ยงฮวาย้อนเขาอย่างไม่เกรง  เขาเอียงคอมองยงฮวาพยายามจะเข้าใจ  ยงฮวาแตกต่างจากเด็กหนุ่มทั่วๆไปที่เขารู้จักจริงๆ  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้คุยกับไอดอลเกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆ  ทุกๆคนต่างพากันปฏิเสธและพร้อมที่จะทำตามหรือแม้แต่เลิกคบกัน  แค่เพียงเขาเอ่ยปากภาคฑัณฑ์  แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับดูแข็งกร้าวและแน่วแน่กับการตัดสินใจของเขาเองอย่างไม่น่าเชื่อ  “คุณต้องการให้ผมทำยังไง”  ยงฮวาถาม

    “เลิกคบกับซอฮยอน”  เขาตอบสั้นๆ  ยงฮวาลุกขึ้นประจันหน้ากับเขาทันที

    “ผมไม่ทำ”

    “แล้วถ้าชั้นสั่งให้ซอฮยอนทำล่ะ”  เขาหยั่งเชิง

    “ผมมั่นใจว่าเธอจะไม่ทำ”  ยงฮวาพูดไปทั้งๆที่ไม่แน่ใจ

    “นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ  มันเป็นชีวิตเป็นความฝันของซอฮยอนด้วยนะ  ลำพังนายก็คงไม่มีปัญหาอะไร  ไอดอลชายน่ะขายได้ง่ายกว่า  อย่างมากนายก็อาจจะเสียแฟนคลับไปนิดหน่อย  แต่นายจะยังอยู่ได้  แต่กับซอฮยอน  นายรู้ใช่มั๊ยว่ามันไม่ใช่ “  ยงฮวาจำต้องยอมรับในความจริงจากปากของเขา  แรงกดดันอีกมากมายที่ซอฮยอนจะต้องเจอ  เขารับมันได้อย่างแน่นอน  แต่ซอฮยอนล่ะจะเป็นเช่นไร

    “แต่ผมไม่ต้องการเลิกกับเธอ”  ยงฮวาดูอ่อนลง  คิมมินยองรู้สึกถูกชะตากับยงฮวาอย่างบอกไม่ถูก  ยิ่งมองเข้าไปในแววตาที่มุ่งมั่นของเขาแล้วยิ่งรู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีดีเกินกว่าคนทั่วไป  เขานิ่งคิดไปนาน  ยงฮวาอึดอัดรอคำพูดจากปากเขา  นึกแปลกใจในตัวเองที่ปล่อยให้คนอื่นมาบงการชีวิต

    “ความลับ  ความลับอย่างถึงที่สุด”  คิมมินยองพูดออกมาในที่สุด  “สัญญากับชั้น  ว่านายจะไม่ทำลายซอฮยอน  ชั้นรักเธอเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง  มันออกจะลำบากที่ต้องปล่อยให้คนอื่นมาดูแล”  เขาเสมองไปทางอื่นกลบเกลื่อนแววตาอ่อนโยนที่มีทุกครั้งที่นึกถึงน้องเล็กแห่งโซยอชิเด  “ชั้นไม่ได้พูดเรื่องนี้กับซอฮยอน  เพราะชั้นรู้ว่าจะได้คำตอบแบบไหน  แม้จะต้องเสียใจเธอก็จะยอมทำตามที่ชั้นบอก  คิดถูกแล้วล่ะที่มาพูดเรื่องนี้กับนาย”  แม้จะงุนงงแต่ยงฮวาก็แสนจะดีใจที่คล้ายๆว่าเรื่องจะพลิกผัน

    “นายต้องรอจนกว่าจะถึงเวลา  ระหว่างนั้นต้องไม่มีข่าวเสื่อมเสียใดๆ  ถ้ามี  ทุกอย่างจบ”  คิมมินยองยื่นคำขาด

    “ผมสัญญา  จะดูแลเธออย่างดีที่สุด  ขอบคุณที่คุณเข้าใจและให้โอกาสผม”  ยงฮวามุ่งมั่น

    “สัญญาลูกผู้ชาย”  คิมมินยองตบไหล่ยงฮวาเบาๆแล้วเดินออกจากห้องไป 

    “พี่ค่ะ  คิดอะไรอยู่”  เสียงซอฮยอนปลุกเขาจากภวังค์  นำยงฮวากลับมาเหตุการณ์ปัจจุบัน  ยงฮวาแค่ส่งเสียง “อือ” ในลำคอ

    “ขอเราคุยกันตามลำพังได้มั๊ยค่ะ”  ซอฮยอนพูดกับคนขับรถ  แล้วรอจนเมื่อยู่กันลำพังสองคน  รถมาหยุดที่หน้าหอพักของ SNSD เมื่อไหร่ยงฮวาไม่แน่ใจ

    “พี่กังวลเรื่องชั้นใช่มั๊ยค่ะ”  ซอฮยอนรู้จักยงฮวาคนนี้ดี  เขามักจะห่วงเธอมากกว่าตัวเองเสมอไม่ว่าเรื่องใดๆ

    “พี่แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”  แน่นอนเขาปฏิเสธ

    “พี่ยองมินบอกว่าจะจัดการเรื่องรูปนั้นเองค่ะ  พี่ไว้ใจใน SM ได้ค่ะ”  ซอฮยอนพยายามจะพูดให้ตลก  “ไม่มีใครทำอะไรชั้นได้หรอกพี่ก็รู้นี่  ถ้าเทียบกับที่พี่ไปพบคุณพ่อคุณแม่ชั้นแล้วล่ะก็  เรื่องนี้เล็กมากเลยค่ะ”  เธออยากให้เขาสบายใจ  ยงฮวาหลุดหัวเราะออกมาขำในความพยายามของซอฮยอนที่อยากให้เขาสบายใจจนพูดอะไรที่ดูเหมือนไม่ใช่เธอออกมา

    “อ่า...พี่เป็นห่วงเธอจริงๆนะ  ถ้าคนที่ถ่ายนั้นเป็นพวกแอนตี้แฟนจะทำยังไง”  ยงฮวาเริ่มคร่ำครวญ

    “นั่นไง  แล้วบอกว่าไม่ได้คิดอะไร”  ซอฮยอนจับผิดเขาทันที “เดี๋ยวพี่ยองมินก็คงโทรมาแจ้งผลค่ะ  ชั้นมั่นใจ”  ซอฮยอนยิ้ม  “อย่าไปคิดเรื่องนี้อีกเลยนะค่ะ  เดี๋ยวพี่ต้องไปทำงานจะไม่มีสมาธินะค่ะ”  ซอฮยอนพูดพลางควานหาของในกระเป๋าของเธอ  แล้วหยิบกล่องของขวัญออกมา  ยงฮวายิ้มกว้างทันทีที่เห็นว่าในมือของซอฮยอนคืออะไร

    “อ่า....เด็กน้อย  มีของขวัญมาด้วยเหรอ”  ยงฮวายิ้มกว้างพูดพลางเอื้อมมือไปแตะต้นแขนซอฮยอนเป็นการหยอกล้อ

    “ชั้นอยากส่งดอกไม้ไปค่ะ  แต่คงไม่ได้เลยเอาของขวัญมาให้พี่ดีกว่า “ ส่งกล่องของขวัญให้ยงฮวา  “ยินด้วยนะค่ะกับละครเรื่องใหม่”  ยงฮวารับมาอย่างเต็มใจที่สุด  หุบยิ้มไม่ลง  “เสร็จงานแล้วโทรหาด้วยนะค่ะ  ชั้นจะรอ”  คล้ายจะเป็นคำสั่งแต่ยงฮวาก็พร้อมจะทำตาม  เขาพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม  ซอฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึกคล้ายจะเพิ่มความกล้าหาญให้ตนเอง  ยงฮวาสังเกตเห็นได้และก็ออกจะแปลกใจในท่าทีของเธอ 

    “มีอะไรหรือป่าว”  เขาถามด้วยความเป็นห่วง  ซอฮยอนส่ายหน้า

    “ไปทำงานเถอะค่ะ  เดี๋ยวจะสาย”  ยงฮวาสังเกตเห็นความลังเลในสายตาซอฮยอน

    “เด็กน้อย...ต้องมีอะไรแน่ๆเลย  บอกพี่มาเถอะ  เธอปิดไม่ได้หรอก” เขาเซ้าซี้  ซอฮยอนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้งเรียกความกล้าให้ตัวเอง  แล้วจูบที่แก้มของเขาทันที  ยงฮวาที่ไม่ทันตั้งตัวไม่คาดคิดถึงกับตาค้างกับสัมผัสที่ได้รับจากเธอ  ก่อนที่สมองจะสั่งการให้เขาทำอะไรซอฮยอนก็รีบลงจากรถทันที  เธอโบกมือให้เขาแล้วว่า “ตั้งใจทำงานนะค่ะ”  ก่อนจะปิดประตูรถหนีไปด้วยความเขินอาย

    ยงฮวาถึงกับตกตะลึงลูบแก้มตัวเองป้อยๆ  อยากจะเอาตัวผู้ร้ายที่ขโมยจูบมาลงโทษหนัก  มาทำให้เพ้อแล้วก็หนีไปงั้นเหรอเด็กน้อยซอจูฮยอน  พลางนึกสงสัยว่าซอฮยอนเปลี่ยนไปอีกแล้วเหรอ  ตั้งแต่วันที่เธอร้องเพลง love light เป็นของขวัญวันเกิดให้เขา  นั้นก็ทำเขาประหลาดใจมากแล้ว  แล้วจูบเมื่อกี้นี้เธอเตรียมการมาหรือเปล่า  ยงฮวานึกสงสัยในใจ  แต่ไม่ว่าจะยังไงวันนี้เขาก็มีความสุขเหลือเกิน  หัวใจที่คับพองอยู่ในอกมันพองโตราวกับว่าจะแตกออกมาให้ได้

    มินฮยอกมาถึงงานแถลงข่าวแล้ว  แต่ก็ต้องแปลกใจที่ยังไม่เห็นพี่ชายของเขา  ทั้งๆที่ล่วงหน้าออกมาก่อนตั้งแต่เช้า  มองไปทั่วห้องพักแล้วก็ยังไม่พบยงฮวา  เขาโค้งคำนับทุกคนที่เดินผ่านจนกระทั่งชินเฮเดินเข้ามา  ชินเฮโบกมือทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง  มินฮยอกได้แต่ยิ้มกว้างโบกมือตอบแล้วรีบวิ่งตรงเข้าไปหาเธอ

    “พี่สวยมากเลยครับ”  มินฮยอกพูดจากใจแม้จะเขินอายต่อหน้าเธอแต่ก็ยังอยากจะพูดคุยกับเธอ

    “นายก็หล่อมาก” ชินเฮทักทายกลับแบบสบายๆ  มินฮยอกอ้าปากจะพูดต่อพลันผู้จัดการของชินเฮก็เอาโทรศัพท์มายื่นให้เธอแล้วกระซิบบอกเธอถึงเจ้าของสาย  ชินเฮรับมาแล้วชี้ไปที่โทรศัพท์ให้มินฮยอกดู  เพื่อส่งสัญญาณว่าเธอขอตัว  ก่อนเธอจะเดินจากไปมินฮยอกก็ได้ยินเธอเรียกชื่อปลายสายนั้น  เขาพ่นลมหายใจพรืด  เซ็งๆสุด

    “พี่ฮงกิ  มาได้เวลาจริงๆ”  มินฮยอกบ่นกับตัวเอง  แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อถูกตบเข้าที่ไหล่

    “มาถึงนานแล้วเหรอ”  ยงฮวานั้นเองที่ตบไหล่เขา  มินฮยอกสะบัดไหล่หนีจากมือของเขา  พยายามแสดงออกให้รู้ว่าไม่พอใจ  “ไอ้น้องชาย  นายโกรธชั้นหรือไง”  ยงฮวากอดคอมินฮยอกดึงให้เขามายืนใกล้ๆ

    “พี่ทิ้งผม  แล้วยังไม่รับโทรศัพท์ผมอีก”  มินฮยอกตัดพ้อ

    “เอ่อน่ะ  ชั้นขอโทษชั้นรีบจริงๆ อย่าโกรธเลย  เดี๋ยวชั้นจะช่วยนายเรื่องชินเฮ”  ยงฮวาหลอกล่อเขาเหมือนเด็ก ๆ

    “ไม่ต้องแล้ว  พี่ชินเฮไปคุยกะพี่ฮงกิอยู่โน่นแล้ว”  มินฮยอกพูดแล้วบู้ยปากไปทางชินเฮที่กำลังคุยโทรศัพท์ที่ยืนห่างออกไป  ยงฮวายักคิ้วไม่พูดอะไร  กอดคอน้องชายเป็นเชิงปลอบใจ

    “ไม่เป็นไรน่า  คนใหม่ก็ได้”  ยงฮวาพูด  มินฮยอกไม่ทันจะพูดอะไรก็มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งให้เตรียมขึ้นเวที  แม้จะขุ่นเคืองใจที่พี่ชายทิ้ง  แล้วยังไม่รับโทรศัพท์  แต่มินฮยอกก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ของพี่ชายได้  การแสดงว่าโกรธของเขาก็แค่อยากจะให้พี่ชายที่เขารักมาสนใจเขาบ้างก็เท่านั้น

    การแถลงข่าวดำเนินไปอย่างเรียบร้อย  ยงฮวาทำได้ดีเสมอในหน้าที่ของเขาแต่แล้วก็ต้องมาสะดุดกับคำถามที่ถามถึงซอฮยอน  แม้จะอยากบอกความจริงมากแค่ไหน  ยงฮวาก็ต้องหาวิธีเลี่ยงคำตอบให้ดูดีที่สุด  ขืนบอกไปตามตรงมีหวังคงตายคาเวที

    “เราบังเอิญเจอกันครับ  เมื่อเช้าผมต้องไปทำผมก็เลยได้เจอเธอที่ซาลอนครับ  เธอบอกว่าจะติดตามและให้กำลังใจครับ”  ยงฮวาตัดสินใจตอบเพียงแค่นั้น  แต่รอยยิ้มของเขาเมื่อเอ่ยถึงนางฟ้าในใจกลับเกินกว่าคำว่าบังเอิญเจอกัน  ชินเฮแอบขำให้กับอาการเขินอายของเพื่อนรักเมื่อเอ่ยถึงนางในฝัน  จับพิรุธได้ทันทีว่าไม่ได้มีแค่ยงฮวาพูดแน่ๆ

    หลังงานแถลงข่าวจบลงชินเฮนึกสนุกอยากจะแซวยงฮวาดูว่าเขาจะมีอาการยังไง  จึงแกล้งไปยืนใกล้ ๆ แล้วพูดเบาๆ ให้ได้ยินกันแค่สองคน

    “บังเอิญเจอกันเหรอ  แค่บังเอิญแล้วทำไมหน้านายบานได้ขนาดนั้น”

    “ชินเฮ...  เธอจะล้อเลียนชั้นหรือไง” เขาถาม  ชินเฮหัวเราะขำกับท่าทางเขินอายของยงฮวา

    “นี่นายนะ  มีงานแถลงข่าวยังมีหน้าไปนัดสาวแล้วเอามาพูดออกสื่ออีก  นายนี่มันขี้อวดจริงๆ” ชินเฮชักจะหมั่นไส้เพื่อนจอมอวดคนนี้  ตั้งแต่เดบิวต์  แต่งงานหลอกๆในรายการเรียลลิตี้  เรื่องเดทวันนี้ยงฮวาก็ยังมาคุยอวดเธอเหมือนที่เคยทำทุกครั้ง

    “ถ้าอิจฉา  คราวหน้าไปเดทก็เอามาอวดชั้นสิ”  ยงฮวายอกย้อน

    “ชั้นไม่อยากงานเข้าเหมือนนายหรอก  ตามสบายเถอะ”  ชินเฮพูดแล้วเดินหนีไป  มินฮยอกกระตือรือร้นตรงมาที่ยงฮวา  คล้ายจะให้อภัยเมื่อทราบเหตุผลที่แท้จริงที่พี่ชายทิ้งเขาเมื่อเช้า

    “พี่นี่สุดยอดไปเลย  โห...ไปเดทแล้วมาแถลงข่าว  ไม่แคร์สื่อเลยนะพี่”  มินฮยอกพูดยกนิ้วหัวแม่มือให้ทั้งสองมือ  ยงฮวาเออออ ก่อนจะรับโทรศัพท์  ปลายสายเป็นฮวังยองมินผู้จัดการของซอฮยอนนั่นเอง

    “ชั้นจัดการเก็บรูปพวกนั้นหมดแล้วนะ  ตากล้องถ่ายได้มุมดีมากเลย  ไม่ต้องบอก็รู้ว่าเป็นนายกับซอฮยอนเลยล่ะ  นี่ดีนะที่เรารู้ก่อน  ถ้าภาพหลุดออกไปชั้นหัวขาดแน่”  ฮวังยองมินบอก 

    “ขอบคุณมากเลยครับ  ถ้าไม่ได้พี่ผมต้องแย่แน่ๆ”  ยงฮวาขอบคุณจากใจ  เขาไม่ได้ห่วงภาพลักษณ์ของตัวเองแม้แต่น้อย  ห่วงก็เพียงว่าถ้ามีข่าวออกไปจะกระทบต่อซอฮยอน

    “นี่แล้วก็มีคนทวิตว่าเห็นเธอสองคนที่ซาลอนนะ  แต่ชั้นรู้ข่าวเรื่องนายให้สัมภาษณ์ตอนแถลงข่าวแล้วล่ะ  เป็นอันว่าเคลียร์  อ่า...วันนี้เหนื่อยจริงนะเนี่ย” 

    “ไว้ผมจะตอบแทนพี่นะครับ”  ยงฮวานอบน้อม

    “ไม่ต้องมาตอบแทนอะไรหรอก  แค่พยายามอย่าสร้างเรื่องยุ่งๆก็พอ”  ฮวังมินยอกพูดจบแล้ววางสายไป  ยงฮวายิ้มออกมาโล่งใจที่ผ่านไปด้วยดี  มินฮยอกอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น  ยงฮวาแค่บอกว่าจะเล่าให้ฟังทีหลัง  แล้วชวนให้มินฮยอกกลับไปพร้อมกัน

    ผ่านไปอีกหนึ่งวันกับคู่รักนกนางนวล  แม้หนทางจะยังอีกยาวไกล  อุปสรรคยังไม่รู้จะหนักหนาแค่ไหน  ขอแค่เรามีใจเชื่อมั่นต่อกัน  ความรักจะชนะทุกสิ่ง  แม้ยังไม่รู้ว่าการพบเจอกันครั้งหน้าจะมาถึงเมื่อไหร่  แต่ที่ยงฮวารู้ดีที่สุดคือในใจเขาจะมีนางฟ้าคนนี้เสมอและเธอก็คงเช่นกัน







    จบฟิคสั้นนะค่ะ  โมเม้นต์เรียลๆเกี่ยวกับ
    HS  เท่าที่หาข้อมูลได้มีเท่านี้นะค่ะ  แถมตอนพิเศษให้อีกตอนนะค่ะ  เดี๋ยวมาอัพให้ตามคำเรียกร้อง(ของใคร) จงฮโยโมเม้นท์  ตอนนี้มีพล๊อตเรื่องใหม่ในหัวแล้ว  ใครรออยู่ใจเย็นๆนะค่ะ  



    ขอบคุณมากๆเลยนะค่ะที่เข้ามาอ่าน  ไรเตอร์ได้อ่านทุกคอมเม้นท์นะค่ะ  ตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าเป็นการเขียนฟิคครั้งแรกในชีวิต  ดีใจที่มีคนให้ความสนใจค่ะ  ส่วนฟิคยาวเนี่ยยังไม่มีนะค่ะ  กลัวเขียนไม่จบ  จะรีบมาอัพตอนพิเศษให้นะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×