ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [YongSeo Story] Part 4 Protect the love.

    ลำดับตอนที่ #2 : Who do you love?

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 54


     






    “มักเน่  ไม่มีตารางงานที่ญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ  จะไปทำไมจ๊ะ”  ยุนอาแกล้งถามขึ้นเมื่อเห็นซอฮยอนมาเตรียมพร้อมรออยู่ที่หอพร้อมๆกับพี่ๆที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น

    “พรุ่งนี้ยงซอบังจะเมเจอร์เดบิวต์นี้  ฮยอนบูอินจะไม่ไปได้เหรอ”  แทยอนยิ่งล้อเลียน  กลอกตาไปมา   ซอฮยอนได้แต่ยิ้มอายๆ

    “อร๊ายยยยย   ยงซอบังคงเท่ห์สุดๆไปเลย”  ยุนอากรี๊ดกร๊าด

    “นอกจากยงซอบังแล้ว   มือกีต้าร์อีกคนก็คงเท่ห์ไม่แพ้กัน  ใช่มั๊ยฮโยยอน”  ซูยองชี้เป้าไปที่ฮโยยอนไม่ทันตั้งตัว

    “นี่ๆ  อย่ามาดึงชั้นไปเกี่ยวด้วยสิ  พวกเธอกำลังแกล้งซอฮยอนอยู่ไม่ใช่เหรอ”  ฮโยยอนร้อนตัววุ่นวาย

    “เธอนั่นแหละอย่ามาไขสือ  มีอะไรดีๆไม่บอกพวกเราเลยนะ”  ซูยองกัดไม่ปล่อย

    “บอกมาเดี๋ยวนี้เลย  เล่ามาเลย  ซูยองเล่าให้พวกเราฟังหมดแล้วนะ  ในลิฟท์น่ะ   ไปถึงไหนกันแล้ว”  ในที่สุดยุนอาก็เปลี่ยนเป้าหมาย  สาวๆพากันรุมซักไซ้ฮโยยอนเป็นการใหญ่  เสียงเจี้ยวจ๊าววุ่นวายแทบฟังไม่ออกว่าใครเป็นใคร

     

    “พี่ค่ะ...ชั้นมีเรื่องอยากจะปรึกษาพี่”  ซอฮยอนเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตว่าพี่ๆคนอื่นประจำที่นั่งบนเครื่องเรียบร้อย  และกำลังจะเข้าสู่โลกส่วนตัว

    “หืม...เรื่องอะไรล่ะ” 

    “เอ่อ...ถ้าพี่รู้ว่ามีใครอีกคนชอบพี่จงฮยอน  พี่จะทำยังไงค่ะ”  ซอฮยอนไม่รู้ว่าจะเริ่มตั้งคำถามอย่างไรดี

    “อ่า...”  ฮโยยอนนิ่งคิด  “ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่ามีใครมาชอบจงฮยอนนะ  ปัญหามันอยู่ที่ว่าจงฮยอนชอบคนนั้นหรือปล่าว”  ซอฮยอนพยักหน้าเข้าใจ  “แล้วปัญหาที่เธอสงสัยมันอยู่ตรงไหน”

    “อืม...ที่ชั้นอยากรู้ก็คือ  ชั้นควรจะทำยังไงถ้ามีใครอีกคนมาชอบพี่ยงฮวา” 

    “ประเด็นนี่สินะ  เหมือนที่พี่พูดครั้งแรกนั่นแหละ  ปัญหาไม่ใช่ว่าใครรักยงฮวานะ  แต่มันอยู่ที่ยงฮวารักใคร”  ฮโยยอนพูดพลางหันมามองหน้าน้องสาวหยั่งความคิดเธอ

    “ซึ่งพี่ค่อนข้างมั่นใจว่ายงฮวารักเธอนะ  รักมากด้วย   เรื่องจะมีใครมารักยงฮวาก็ไม่สำคัญหรอก  แต่ถ้าเป็นพี่นะ  พี่กับจงฮยอน  อืม....”  ฮโยยอนนิ่งคิดไป  ยิ่งกระตุ้นให้ซอฮยอนอยากรู้

    “ขอแค่เขารักพี่จริงๆ  พี่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องความรักระหว่างเรา  พี่ไม่สนใจหรอกว่าจะมีใครพยายามเข้ามาแทรก”  ฮโยยอนดูจริงจังมากกว่าที่เคยเป็น  ซอฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    “แล้วเราจะไม่ทำร้ายคนอื่นเหรอค่ะ”

    “นี่ยัยโง่...ความรักน่ะไม่มีใครผิดถูก  มีแต่สมหวังกับผิดหวัง  คนเดียวที่เธอห้ามทำร้ายก็คือยงฮวา  ไม่ใช่อีกคนที่พยายามจะทำร้ายเธอ  เข้าใจมั๊ย”  ฮโยยอนเริ่มเร่งเสียงตัวเองให้ดังขึ้น จนซอฮยอนต้องสะกิดให้เบาเสียงลง

    “นี่ๆ  นอนไปเลยนะ  แล้วอย่ามาถามคำถามแบบนี้อีก  ยงฮวาน่ะเป็นที่หมายปองนะพี่จะบอกให้  ถ้าเธอลังเลเมื่อไหร่โดนงาบแน่ๆ”   ซอฮยอนฟังแล้วพยักหน้าเข้าใจ  เธออาจจะใจดีเกินไปที่เป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นจนลืมคิดถึงความรู้สึกของยงฮวา  เธอตัดสินใจได้ในนาทีนั้นว่านับจากนี้ไปควรจะทำอย่างไรกับคนอื่นที่พยายามจะแทรกกลางระหว่างเธอกับเขา  ขอแค่เพียงยงฮวาอยู่ข้างเธอ  เธอจะปกป้องความรักครั้งนี้อย่างดีที่สุด

     

     

    มินฮยอกพาตัวเองมาเดินวนไปมาอยู่ที่ทางออกของสนามบิน  มองหารถที่อาจจะเป็นพาหนะของสาวๆโซชิในคืนนี้  ก่อนจะสังเกตเห็นหญิงสาวร่างบอบบางที่ดูคล้ายว่าเธอกำลังเปล่งประกายเดินตรงมาที่รถตู้ที่จอดถัดจากที่เขายืนอยู่ไม่ไกล  มินฮยอกรีบสาวเท้ามุ่งเข้าไปหาเธอทันทีโดยไม่ทันสังเกตว่ามีการ์ดเดินตามเธอมาห่างๆ

    “นูน่า  นูน่าจริงๆด้วย”  มินฮยอกเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่  ทิฟฟานี่หน้าหราเมื่อได้พบเขาแบบไม่ทันตั้งตัว  ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมินฮยอกก็ถูกการ์ดของเธอเข้ามาหิ้วปีกลากเขาให้ห่างจากเธอเสียก่อน

    “นูน่า  บอกเขาหน่อยสิครับว่าเรารู้จักกัน”  มินฮยอกดิ้นขลุกขลักให้พ้นการจับกุมปากก็ยังส่งเสียง  ทิฟฟานี่ยังดูงงๆ

    “อ๋อๆ  เรารู้จักกันค่ะ CNBLUE”  ทิฟฟานี่หันไปพูดกับการ์ดของเธอ  จึงยอมปล่อยแขนมินฮยอก  มินฮยอกยังมารยาทดีโค้งให้กับการ์ดแล้ววิ่งตรงเข้าไปหาทิฟฟานี่

    “ตี๋น้อยมาได้ไงเนี่ย”  ทิฟฟานี่ยังสงสัยที่ดูเหมือนเขาจะปรากฏตัวไปในทุกๆที่ๆเธออยู่

    “มากับพี่ยงฮวาครับ  ทำไมนูน่าออกมาคนเดียวล่ะ” 

    “คนอื่นกำลังตามมา  ว่าแต่ทำไมนายถึงได้ไปอยู่ในทุกๆที่ๆชั้นไปเนี่ย”

    “เพราะว่าผมจะอยู่ข้างๆนูน่าเสมอไงครับ”  มินฮยอกยิ้มตาหยี  ทิฟฟานี่แค่นหัวเราะ  เด็กคนนี้คิดจะทำอะไรกัน

    “ชั้นอนุญาตให้นายทำแบบนั้นหรือไง”

    “ผมไม่เห็นว่านูน่าจะว่าอะไรนี่ครับ”  มินฮยอกต่อปากต่อคำ  ทิฟฟานี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่  หมดปัญญาจะเถียง

    “ปากดีนะตี๋น้อย  อยู่ๆก็โผล่มาแบบนี้  ไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่มั๊ย”  ทิฟฟานี่เอียงคอมองเขา

    “เราควรจะคุยกันตรงนี้มั๊ยครับ”  มินฮยอกไม่ตอบ  เปลี่ยนเรื่องขึ้นมาเฉย

    “ทำไมจะคุยไม่ได้ล่ะ”  ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วทำไมถึงต้องหลบซ่อน  ทิฟฟานี่คิดในใจ

    “ผมน่ะไม่เป็นไรหรอกครับอยากให้คนทั้งโลกรู้ให้หมดเลยว่าเราสนิทกัน  แต่นูน่าจะไหวมั๊ยครับ  แฟนคลับผมเยอะนะ”  มินฮยอกยียวน  ทิฟฟานี่ได้แต่แค่นหัวเราะ  เด็กคนนี้จะมาไม้ไหน

    ในที่สุดทั้งคู่ก็พาตัวเองเข้ามานั่งอยู่ในรถตู้ของ CNBLUE  ทิฟฟานี่ดูอึดอัด  ไม่เคยต้องทำพฤติกรรมลับล่อๆแบบนี้

    “เชื่อเขาเลย  นี่ชั้นบ้าตามนายได้ยังไงเนี่ย”  ทิฟฟานี่ยังขัดใจ  เธอไม่ใช่ประเภทที่จะทำอะไรตามใจใครง่าย ๆ

    “ยังมีอีกหลายเรื่องเลยล่ะครับที่นูน่าอาจจะยังไม่รู้ตัว”  มินฮยอกเจ้าเล่ห์  ทิฟฟานี่มองหน้าเขาชัดๆอีกที  เธอประเมินเขาต่ำเกินไปหรือเปล่า

    “ว่าแต่มีเรื่องอะไรล่ะ  บอกให้มาแล้วถ้าไม่มีเรื่องอะไร  นายจะเจ็บตัวนะ”

    “อ่า...นูน่าร้ายนะเนี่ย”  เขายังยียวน  ทิฟฟานี่เท้าเอวจะเอาเรื่อง

    “โอเค ๆ พรุ่งนี้ผมจะมีคอนเสิร์ตเมเจอร์เดบิวต์นะครับ “

    “อืม...ยินดีด้วย”

    “นูน่าอ่ะ...ใจร้ายนะครับ  ผมกำลังชวนให้นูน่าไปดูคอนเสิร์ตของผมอยู่นะครับ”  เขาทำเสียงเศร้าคล้ายจะออดอ้อน

    “เหรอ...เอ่อ...ต้องดูตารางงานก่อนนะ”  ทิฟฟานี่ตอบกลับมาราวกลับว่าไม่สนใจ

    “โห....ตอบแบบนี้พูดว่าไม่ไปออกมาเลยดีกว่ามั๊ยครับ”   ทิฟฟานี่ฟังแล้วยิ้ม  ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กคนนี้จะช่างพูดช่างจาได้น่าหมั้นไส้ขนาดนี้    มินฮยอกยิ้มจนตาหยีมีความสุขที่ได้เจอนูน่าคนสวย เมื่อไหร่กันที่ตัวเขาเอาแต่คิดถึงเธอ  เลิกทำตัววุ่นวายปลื้มคนนั้นทีคนโน้นทีเหมือนอย่างที่ผ่านมา แม้รู้ทั้งรู้ว่าเธอเป็นดาวส่องประกายที่ใครๆต่างก็หมายปอง  ไกลเกินเอื้อมถึงแต่ก็ยังไม่วายพาตัวเองเขามาวนเวียนรอบตัวเธอ  วันข้างหน้าไม่อาจจะรู้ว่าจะเป็นไปอย่างไร  แต่เขาก็สุขใจเพียงแค่ได้รู้ว่าเธอรับรู้การมีอยู่ของเขาบนโลกใบนี้

     

     

    ยงฮวาค่อยๆเดินช้าๆผ่านผู้คนมากหน้าหลายตาภายในสนามบิน  โดยมีซอฮยอนเดินตามทิ้งระยะห่าง  มองเผินๆคล้ายกับว่าต่างคนต่างมา  แม้จะอยู่ในต่างประเทศแต่ก็ยังต้องปิดบังความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักเอาไว้  ซอฮยอนมองแผ่นหลังของเขาแล้วคล้ายว่ามีเรื่องให้คิดในใจ  มีบางอย่างที่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำดีหรือไม่  ก่อนจะตัดสินใจสาวเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อให้ทันเขา  แล้วคว้าหมับเข้าที่แทนของยงฮวาจนเขาสะดุ้งหันมามองหน้าเธอด้วยคิดว่าอาจเป็นคนอื่น

    “อ๊ะ...”  ยงฮวาอุทานออกมา  แต่แล้วก็ต้องยิ้มร่าเมื่อเห็นว่าเป็นซอฮยอนนั่นเองที่มาควงแขนเขา

    “อ๊า....ซอฮยอน  ที่นี่พี่ดังนะเนี่ยมาทำแบบนี้เดี๋ยวพี่เสียหาย”  ยงฮวาสุดแสนจะดีใจที่จู่ๆนางฟ้าก็เป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน   แต่ก็ยังไม่วายหยอกล้อเธอ  ซอฮยอนตีเพี๊ยะเข้าที่ต้นแขนของเขา  ใช่ว่าเธอไม่อาย

    “ถ้างั้นแยกกันเดินเหมือนเดิมก็ได้นะคะ”  ซอฮยอนพูดทำท่าจะปล่อยแขนเขา  ยงฮวากลับจับมือเธอไว้ให้อยู่ที่เดิม

    “ถึงจะดังแต่ไม่มีใครจำได้หรอก”  ยงฮวายังสนุก  ซอฮยอนค้อนให้เขา  หมั้นไส้พ่อหนุ่มสุดคูล

    “ซอฮยอน...”  เขากระซิบ  “เธอมีมุมนี้ด้วยเหรอ”  นางฟ้าไม่ตอบกลับซุกหน้าไปที่ต้นแขนของเขาด้วยความอาย  เมื่อไหร่งั้นเหรอที่พร้อมจะแสดงออกว่าเธอรักเขามากเพียงใด  เมื่อไหร่ที่เธออยากจะเก็บเขาไว้เป็นของเธอคนเดียว   สิ่งเหล่านี้มันค้างอยู่ในใจมานานแค่เธอไม่กล้าพอที่จะแสดงมันออกมา  ขอบคุณคนที่ไม่หวังดี  เพราะนับจากนี้ไปเธอจะเผยความรู้สึกทุกอย่างที่มีต่อเขาให้ทุกๆคนได้รับรู้  ข่าวลือบ้าๆที่มักจะพูดว่ายงฮวาเพ้อไปคนเดียวจะได้จบลงเสียที

    ยงฮวาค่อยๆปล่อยแขนของเขาออกจากการเกาะกุมแล้วเปลี่ยนมาโอบร่างบางไว้ในอ้อมแขนแทน  ไม่อาจรู้ได้ว่าสายตากี่คู่ที่จับจ้องมายังคู่รักชาวต่างชาติ  ภาพที่เห็นตรงหน้าราวกับภาพในนิยายรักโรแมนติกเจ้าหญิงเจ้าชายตระกองกอดแสดงออกถึงความรักที่มีต่อกัน   นี่สิ่งที่ยงฮวาอยากทำมาตลอด  ได้แสดงออกว่ารักซอฮยอน  ได้บอกให้ทุกคนรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นของเขาเพียงคนเดียว 

     

     

     

    แม้จะไม่ใช่การแสดงสดครั้งแรกของพวกเขาในญี่ปุ่น  แต่หนุ่มๆก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้  จงฮยอนเดินวนไปวนมาอยู่หลังเวทีเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย  จองชินได้แต่นั่งแคะแกะเกาเบสคู่กายไปเรื่อย ๆ แต่มินฮยอกยังก้มหน้าก้มตาส่งข้อความอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย  แอบหวังเพียงสักนิดว่านูน่าคนสวยคงจะอยากมาให้กำลังใจ   มีเพียงคนเดียวที่ดูจะตื่นเต้นแต่ก็คล้ายๆว่าจะสบายใจกว่าเพื่อน  ยงฮวานั่งอยู่อีกมุมโดยมีซอฮยอนนั่งอยู่ข้างๆ  ไม่มีคำพูดใดๆหลุดรอกออกมาจากปากทั้งคู่  ซอฮยอนรู้ดีกว่าก่อนจะขึ้นแสดงนั้นต้องการสมาธิมากแค่ไหน  สิ่งที่เธอก็เพียงแค่นั่งข้างๆ  เป็นกำลังใจให้อย่างที่เคยทำมาตลอด

     

    ทิฟฟานี่ดูวุ่นวายกับตารางงานของเธอเหมือนปกติ  ลืมไปเสียสนิทว่ามีชายหนุ่มรุ่นน้องรอกำลังใจจากเธออยู่  หลังจากจบสัมภาษณ์ทางรายการวิทยุจึงพบว่ามีข้อความส่งเข้ามาหาเธอติดๆกันหลายข้อความ

    <นูน่า  อย่าลืมนะครับ>

    <ผมตื่นเต้นจัง>

    <ผมจะขึ้นเวทีแล้วนะครับ>

    ทิฟฟานี่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  เธอลืมไปเสียสนิท  ทั้งๆที่ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปให้กำลังใจเขาแต่ลึกๆในใจก็ยังไม่วายเป็นห่วงเขา  ในขณะเดียวกันฮโยยอนที่ดูรีบร้อนเดินแซงเธอไปโดยไม่พูดอะไร

    “ฮโยยอน  เดี๋ยวก่อนสิ”  ทิฟฟานี่เรียกเธอไว้ตามสัญชาตญาณเมื่อคิดตรรกะง่ายๆในหัวออกมา

    “มีอะไรเหรอ  ชั้นรีบนะ”  ฮโยยอนหยุดรอเธอ

    “จะไปเจอจงฮยอนใช่มั๊ย”    ฮโยยอนพยักหน้า

    “งั้นช่วยหน่อยสิ....”

     

     

    เสียงสั่งแสตนด์บายบอกถึงช่วงนาทีสุดท้ายที่จะต้องขึ้นแสดงแล้ว  ยงฮวาลุกขึ้นยืนสูดลมหายใจเข้าสุดปอด  ได้เวลาที่ต้องทำมันแล้ว  ซอฮยอนยืนตามราวกับอัตโนมัติ  หากเธอจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เขาเข้มแข็งและพร้อมที่จะแสดงศักยภาพอย่างออกมาอย่างเต็มที่ เธอก็พร้อมจะทำทุกวิถีทาง  ยงฮวาหันมายิ้มให้เธอขอกำลังใจ  ซอฮยอนขยับเข้าไปใกล้ดึงร่างเขาเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเธอโดยไม่ได้สนใจสายตาเพื่อนร่วมวงของเขาที่มองทั้งคู่อยู่

    “ชั้นรู้ว่าพี่ต้องทำได้ค่ะ”  ซอฮยอนกระซิบบอกเขาเบาๆ  ยงฮวาหัวใจพองฟู  ไม่มีอะไรดีไปกว่าอ้อมกอดและกำลังใจจากคนที่รัก  ก่อนที่ทั้งสองจะผละจากกันทั้งๆที่ใจไม่ต้องการ   สี่หนุ่มเรยกพลังก่อนจะขึ้นเวที  แล้วมุ่งไปทำตามความฝัน

     

    ฮโยยอนกระหืดกระหอบมาถึงพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ  กลับพบว่ามาช้าไปเพียงนิดเดียวจงฮยอนขึ้นเวทีไปแล้ว  เหลือแต่เพียงซอฮยอนที่นั่งอยู่ในห้องพักเพียงลำพัง

    “พี่ฮโยยอน  นั่งพักก่อนสิค่ะ”  ซอฮยอนเอ่ยเชื้อเชิญ

    “อ๊า...เพราะไอ้ดอกไม้นี่แท้ๆเชียว  ทำเอาพี่สายเลย”  ฮโยยอนพูดแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา

    “ของพี่จงฮยอนเหรอค่ะ”

    “ไม่ใช่  มีคนเขาฝากมา”  ซอฮยอนฟังแล้วพยักหน้าเข้าใจ  ไม่คิดจะเซ้าซี้ต่อ

    “ขึ้นเวทีไปนานหรือยัง”

    “ก่อนพี่มาแป๊บเดียวเองค่ะ  พี่จงฮยอนดกระวนกระวายนิดหน่อยอาจจะอยากเจอพี่”

    “เหรอ...แย่จังดันมาไม่ทันเสียนี่  อุตส่าห์รีบแล้วเชียว” 

     

    เสียงกรี๊ดสนั่นยิ่งปลุกเร้าให้นักดนตรีหนุ่มทั้งสี่คนหึกเฮิม  อยากจะแสดงอย่างเต็มที่  ใช้โอกาสนี้ประกาศศักดิ์ดาความเป็นร๊อคแบนด์แห่งเกาหลี  ร้องเอง เล่นเอง  แต่งเอง  ลบคำสบประมาทที่มีมามากมาย  เสียงเพลง In my head. เพลงหลักในการเมเจอร์เดบิวต์ถูกบรรเลงขึ้นจากฝีมือที่สั่งสมประสบการณ์มาแรมปี   ผู้คนต่างโห่ร้องชอบใจ  เบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อจะยลโฉมนักดนตรีร๊อคที่เป็นที่กล่าวขานทั้งเรื่องหน้าตาและความสามารถ

     

    แต่แล้วการแสดงกลับต้องยุติลงเร็วกว่ากำหนดเพราะจำนวนฝูงชนที่มากเกินไปจนเหน้าที่ไม่อาจจะดูแลความปลอดภัยได้  แม้จะต้องลงจากเวทีเร็วกว่าที่กำหนดไว้แต่ทั้งสี่คนกลับรู้สึกสบายใจที่ได้ใส่พลังไปในเพลงแรกอย่างเต็มที่  การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้ประสบควาสำเร็จเกินความคาดหมาย 

    “หวัดดี”  ยงฮวาทักทายฮโยยอนทันทีที่พบเธอ

    “ยินดีด้วย”  ฮโยยอนตบไหล่เขาเบาๆอย่างสนิทสนม  หลังจากนั้นสมาชิกคนอื่นๆจึงตามมาสมทบ   จงฮยอนยิ้มร่าเมื่อเห็นว่าฮโยยอนรอเขาอยู่พร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ  สองมักเน่หยอกล้อกันตามหลังมาติดๆ   แต่ยังไม่ทันที่จงฮยอนจะพูดอะไรช่อดอกไม้ในมือของฮโยยอนกลับถูกส่งให้กับมินฮยอกต่อหน้าต่อตาเขา  มินฮยอกหน้าหราไปนิดหน่อยไม่คาดคิดว่าจะได้รับดอกไม้จากเธอ  แต่จงฮยอนกลับออกอาการมากกว่าไม่พูดอะไรแล้วเดินหนีไปจากกลุ่มเฉย ๆ ฮโยยอนเห็นท่าจะไม่ดี  บางทีจงฮยอนอาจจะเข้าใจเธอผิด 

    “เจ้าของเขาไม่ให้บอกว่าเป็นใคร  แต่ชั้นคิดว่านายน่าจะรู้นะ”  ฮโยยอนละล่ำละลักพูดออกมา  มินฮยอกพยักหน้างึกๆ 

    “นายทำงานเข้าชั้นนะเนี่ย”  ฮโยยอนยังมีอารมณ์ตลกก่อนจะวิ่งตามจงฮยอนออกไป

    ทุกคนต่างพุ่งเป้ามาที่มินฮยอกในทันที  มินฮยอกยิ้มพลางมองช่อดอกไม้ในมือ  ดอกไม้นี้มาจากฮโยยอน  คนที่ฝากมาก็ต้องเป็นนูน่าคนสวยอย่างแน่นอน

    “ใครฝากดอกไม้มาให้นาย”  จองชินถามพลางพยายามจะจับต้องดอกไม้  มินฮยอกกลับปัดป้องไม่ให้เข้าใกล้

    “พี่ ๆ ของชั้นงั้นเหรอ”  ซอฮยอนปากตรงกับใจ  ดอกไม้มากับฮโยยอนก็ต้องมาจากพี่ของเธอคนใดคนหนึ่ง  จองชินฟังแล้ตาลุกวาว  เพื่อนรักแอบมีอะไรซ่อนในใจไม่บอกหรือยังไง

    “ชั้นก็ไม่รู้หรอกว่าใครฝากมา”  มินฮยอกตัดบท  ตอนที่พยายามจะบอกกลับไม่มีใครอยากรู้  แต่ตอนนี้ไม่อยากจะพูดไปทั่วอีกแล้ว

    “ร้ายนะไอ้น้อง”  ยงฮวาตบไหล่  มินฮยอกได้แต่เก๊กหน้าเฉยกลัวความลับแตก  แล้วเดินเลี่ยงหนีไปอีกทาง

     

     

    จงฮยอนเดินเร็วกว่าที่ฮโยยอนคิดไว้  เธอทั้งกึ่งเดินกึ่งวิ่งก็ยังไม่ทันเขา  ยิ่งตามนานเขาก็ยิ่งจะหมดความอดทน   เหนื่อยจนแทบจะไม่อยากเดิน  พลางนึกหมั้นไส้ผู้ชายตัวใหญ่แต่ใจน้อย  ไม่ฟังคำธิบายอะไรสักคำ

    “จงฮยอน!”  ฮโยยอนตะโกนออกมาจนสุดเสียง  ทำเอาเขาชะงักกึก

    “ถ้าคุณยังไม่หยุด  ชั้นจะไม่ตามแล้วนะ”  ฮโยยอนชักจะเหลืออด  จงฮยอนหันขวับกลับมาหาเธอ  ผู้หญิงอะไรตัวเองผิดแท้ๆ ยังจะมาพูดแบบนี้อีก  ฮโยยอนจึงรีบสาวเท้าตามเขาให้ทัน

    “เป็นอะไร  ทำไมคุณถึงได้เดินหนีออกมาแบบนี้” 

    “คุณก็น่าจะรู้นี่ว่าเพราะอะไร”  จงฮยอนลอยหน้าลอยตา

    “เฮ้อ...แค่ชั้นเอาดอกไม้ให้มินฮยอกเนี่ยนะ”  จงฮยอนพยักหน้า  ใครบ้างจะไม่โกรธ

    “อีตาบ้าเอ๋ย...ถามชั้นสักคำสิก่อนจะหนีออกมาแบบนี้”  ฮโยยอนไม่พอใจ  หันหลังกลับไม่อยากจะพูดด้วย  แล้วเดินหนีมา  จงฮยอนเกาหัวแกรก ๆ คนที่โกรธเป็นเขาไม่ใช่เหรอไง  แล้วทำไมเธอถึงทำเหมือนกับว่าเธอโกรธ

    “นี่ผมโกรธคุณอยู่นะ”  จงฮยอนรีบเดินจนตามเธอทัน  ฮโยยอนหันมามองเขาตาขวาง

    “ตามสบาย”

    “งั้นคุณก็บอกผมมาสิว่าความจริงมันเป็นยังไง”  จงฮยอนจนมุม  เธอคนนี้ไม่เหมือนใครจริงๆ   ฮโยยอนหยุดเดินแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    “มีคนฝากมาให้มินฮยอก  ซึ่งเขาไม่ให้บอกว่าเป็นใคร  โอเคมั๊ย?”  จงฮยอนพยักหน้าเข้าใจ  เขาไม่ควรจะวู่วาม  จู่ๆก็ได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากอีกฝากของลานจอดรถ  ที่นี่เป็นที่โล่งแจ้ง  ด้วยอารมณ์โกรธทำให้เขาไม่ได้ระวังตัวว่าอาจจะมีใครมาพบว่าเขาอยู่กับฮโยยอนเพียงลำพัง

    “รีบไปจากที่นี่เถอะ”  เขาฉวยข้อมือเธอแล้วรีบพาเธอเดินหนีไปอีกทาง  ฮโยยอนต้องยอมถูกลากไปด้วยความจำเป็น  เสียงผู้คนกลุ่มใหญ่ยิ่งเข้ามาใกล้  จงฮยอนตัดสินใจพาฮโยยอนเข้าไปหลบที่ทางหนีไฟ  ด้วยความเร่งรีบทำให้ไม่ทันได้ระวังตัวจงฮยอนเผลอโอบร่างบางนั้นเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  กว่าจะรู้สึกตัวก็ต้องมาอยู่ในพักบันไดทางเดินหนีไฟด้วยกันแล้ว  ฮโยยอนพยายามเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดของเขาด้วยความเขินอาย  แต่จงฮยอนกลับรั้งร่างบางนั้นไว้ไม่ให้ได้ขยับจากไปไหน  ฮโยยอนก้มหน้าหลบสายตาคม  เขินอายเกินกว่าจะมองหน้าเขาตรงๆ   จงฮยอนค่อยขยับเข้าไปใกล้เธอช้า ๆ จนปลายจมูกของเขาแทบจะสัมผัสกับแก้มนวล  ก่อนที่อะไรจะเกินเลยไป  ฮโยยอนกลับหันหน้าหนีจากเขา  จงฮยอนชะงักไป  ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรที่ไม่ถูกใจเธอ

    “คุณหายโกรธแล้วรึไง”  ฮโยยอนพูดเสียอ่อย

    “ไม่ได้โกรธแล้ว”  จงฮยอนลูบผมเธออ่อนโยน

    “แต่ชั้นยังโกรธ”  จงฮยอนฟังแล้วยิ้มออกมา

    “ผมขอโทษ”  โดยไม่ทันได้ตั้งตัวฮโยยอนรู้สึกถึงริมฝีปากอุ่นๆที่ประทับอยู่บนริมฝีปากของเธอในตอนนี้  จะทำอย่างไรให้ควบคุมสติสตังของตัวเองได้   เสียในหูดังอืออึ้งเกินกว่าจะรับรู้สิ่งใด  รสจูบที่หวานหอมอ่อนโยนแต่ทว่าร้อนแรงและหนักหน่วง  วัฎจักรแห่งรสจูบที่วนไปมาราวกับว่าจะไม่มีวันจบสิ้น   

     

     

    ทั้งๆที่เป็นคนร่าเริงอยู่แล้วแต่มินฮยอกกลับดูร่าเริงมากกว่าทุกวัน  เขามุ่งหน้ามายังสถานีวิทยุอันเป็นจุดหมายปลายทางพร้อมกับช่อดอกไม้ที่เพิ่งได้รับมาวันนี้   เพียงแค่ดอกไม้ไม่กี่ดอกกลับทำให้รู้สึกว่าโลกทั้งโลกเต็มไปด้วยดอกไม้  แม้แต่ทางเดินข้างหน้าที่เหยียบย่ำไปก็เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ  นูน่าคนสวยกำลังยืนอยุ่ที่หัวมุมทางเลี้ยวข้างหน้า  บางทีเธออาจจะรับรู้ได้ว่ามินฮยอกจะต้องมาหาเธอหลังจากที่ได้ดอกไม้ 

    “นูน่า....”  เขากำลังจะเปล่งออกไปสุดเสียง  แต่กลับต้องเบาเสียงลงเมื่อมีใครอีกคน  เดินไปถึงทิฟฟานี่ก่อนที่เธอจะทันสังเกตเห็นเขา

    “รอพี่นานหรือเปล่า”  รุ่นพี่ไอดอลคนดังที่มินฮยอกคุ้นเคยดี  พูดคุยกับทิฟฟานี่อย่างคุ้นเคย

    “ไม่ค่ะ  รีบมาเหรอค่ะ  ดูพี่เหนื่อยๆ”  ทิฟฟานี่ดูอ่อนโยนเมื่ออยู่กับเขา

    “พอดีตารางงานพี่มันผิดพลาดนิดหน่อยนะ  แต่ก็โอเคแล้วล่ะ  ไปกันเถอะ”  ยุนโฮจับที่แขนของเธออย่างสนิทสนม  ก่อนจะพากันเดินหายไปจากสายตาของมินฮยอก

    แม้จะเคยบอกตัวเองว่าขอแค่ให้เธอรับรู้การมีตัวตนอยู่  แต่ก็ใช่ว่าคนอย่างเขาจะไม่มีหัวใจ  ภาพที่เห็นตรงหน้าเขาควรจะไปตั้งคำถามที่ใคร  แล้วใครล่ะจะตอบได้ว่ามันหมายความว่าอะไร  ในเมื่อมินฮยอกรับรู้ดีอยู่ในใจ  ไม่ว่าจะพยายามเท่าไรในใจเธอนั้นก็ไม่มีวันที่จะมีที่ให้เขายืน  















    เอาตอนใหม่มาส่งช้าเพราะว่างานเข้าอย่างที่เคยบอก  ตอนนี้ทั้งงานราษฎร์งานหลวงท่วมหัวมาก  555  แต่สัญญาค่ะว่าจะพยายามอัพให้เร็วที่สุด
    ตอนหน้าเตรียมผักเตรียมลูกชิ้นไว้เลยดีมั๊ยค่ะ 555  บ้านบัวน้ำไม่ท่วมแต่ช่วงนี้ก็กินมาม่าบ่อยด้วยความขี้เกียจส่วนตัว  เลยอยากเอามาแบ่งรีดเดอร์บ้าง    ไปลองกินมาม่าใส่น้ำตาลกันดีกว่าค่ะ  
    อ๊า....น้องมินฝนจะตกแล้วเตรียมร่มมารึเปล่านะ   ชินนี่ตอนนี้ยังไม่มีอะไร  ตอนหน้าจะเสิร์ฟมาม่าอีกคนปล่าวเน้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×