คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Distrust.
“มินฮยอก แกคิดจะทำอะไรชั้นว่ะ” จองชินแผดเสียงใส่ มินฮยอกยังงงๆ เกาหัวแกรกๆ พึมพำคนเดียว
“ฝันไปเหรอว่ะ” แล้วมองหน้าจองชินเซ็งๆ “แกรอให้ชั้นจูบกะนางในฝันก่อนไม่ได้หรือไงว่ะค่อยปลุก”
“นางในฝันบ้านแกสิ แกกำลังจะข่มขืนชั้นอยู่แล้วโว้ย” จองชินโวย มินฮยอกทำตาโตตกใจ
“งั้นก็เป็นแกสิที่ถีบชั้นลงมานอนแบบนี้”
“เออ...ถ้ายังไม่เลิกบ้า จะกระทืบด้วย” จองชินสำทับ โบกมือไล่มินฮยอก “ไปอาบน้ำเลยแก หิวแล้วจะได้ไปหาอะไรกิน” มินฮยอกฟังแล้วงึมงำจับใจความไม่ได้ ตัดพ้อต่อว่าที่จองชินมาทำให้ตื่นจากฝันก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินหายไปจากห้อง
ระหว่างทางกลับจากสนามบินยงฮวานั่งเหม่อมองออกไปนอกกระจกรถ เหมือนจะหมดอาลัยตายอยากทั้งๆที่เพิ่งจากกับซอฮยอนได้ไม่นาน มันเป็นปฏิกิริยาซ้ำๆที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า การพบกันที่เต็มไปด้วยความสุขมักจะมาเพิ่มความปวดร้าวในยามไกลกัน ยังไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ ที่ไหน บางทีการที่ไม่มีฝันที่ยิ่งใหญ่อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อาจจะทำให้เขามีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตกับคนที่รักก็เป็นได้ เขาควานหาไอพอดที่อยู่ในกระเป๋าเพื่อจะมาฟังฆ่าเวลาระหว่างเดินทางกลับ แล้วก็ไปสะดุดสายตากับกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินกล่องนั้น ยงฮวาหยิบขึ้นมามองแล้วถอนใจก่อนจะโยนมันกลับคืนลงไปที่เดิม
สองมักเน่สาละวนอยู่กับการหาของกินภายในครัว ปากก็พล่ามเรื่องแผนการอันแยบยลที่ได้วางร่วมกันไว้เมื่อคืน จองชินว่ายงฮวาคงต้องขอบใจเขาเป็นแน่ แล้วพากันหัวเราะคิกคัก ยงฮวาเปิดประตูเข้ามาได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่โดยที่ไม่ได้ทันตั้งตัว หลังจากนิ่งฟังสองมักเน่วายร้ายแล้วก็อยากจะสั่งสอนให้รู้สำนึก
“พวกนายนี่มันเกินไปจริงๆ” ยงฮวาพูดขึ้น สองมักเน่ตกใจไม่ทันคิดว่าพี่ชายจะมาได้ยินเข้า
“พี่ตื่นแล้วเหรอ นึกว่าพี่ยังไม่ตื่นซะอีก” มินฮยอกเฉไฉ
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ชั้นยังไม่ได้จัดการพวกแกเรื่องเมื่อคืนนี้เลยนะ” ยงฮวาดูจริงจัง
“โห...พี่ก็ เราอยากช่วยพี่นะ” จองชินกอดแขนของเขาเอาไว้ เหมือนจะออดอ้อน
“ไปไกลๆเลย แล้วอย่าคิดจะทำอะไรแบบนี้อีกเด็ดขาด ไม่งั้นชั้นเอาแกสองคนตายแน่ๆ” ยงฮวาคาดโทษ
“พี่ยงฮวา พวกเราแค่ล้อเล่นน่า ไม่ได้คิดจะทำร้ายซอฮยอนจริงๆหรอก ใช่มั๊ยจองชิน” มินฮยอกแก้ตัว
“เออ...ชั้นรู้ว่าพวกแกไม่ได้คิดร้ายแต่ก็ไม่ควรโว้ย อย่าแม้แต่จะคิดอีก เข้าใจมั๊ย” สองมักเน่คอตก ทั้งที่ใจจริงแค่อยากเล่นสนุกไม่คิดว่าพี่ชายจะจริงจังขนาดนี้ “ชั้นอยากตบกะโหลกแกสองคนจริง ๆให้ตายสิ” ยงฮวาพูดแล้วเดินหนีไป สองมักเน่ได้แต่มองตามแล้วโบ้ยกันไปมา
“กลับมาแล้วเหรอ....คอนเป็นไง”
“ยงซอบังต้องเท่ห์แน่ๆเลย”
“อิจฉาอ่ะ อิจฉา” พี่ๆทั้งแปดคนต่างพากันถามเสียงเซ็งแซ่เมื่อซอฮยอนปรากฏกายให้เห็น ซอฮยอนทำได้แค่เพียงยิ้มตอบ ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามไหนก่อนดี
“สาวน้อย อุตส่าห์บินไปหายงซอบังตั้งไกล ไม่มีอะไรมาเล่าหรือไง” ยุนอาแกล้งถามแล้วหัวเราะคิกคัก
“พี่ก้อ...ชั้นแค่ไปดูคอนเสิร์ตนะค่ะ” ซอฮยอนหน้าแดง
“คอนเฉยๆทำไมหน้าแดงล่ะ นี่ นี่ นี่” ยูริแกล้งเย้า ซอฮยอนไม่ตอบแกล้งเฉไฉว่าจะเข้าไปเอาของในห้อง พี่ๆพากันตะโกนโวกเวกให้กลับมาเล่าก่อน ฮโยยอนรีบเดินตามเข้าไปแล้วล๊อคห้องทันทีก่อนที่สาวๆจะตามเข้ามาอีก
“เล่ามาเลยนะ ไปญี่ปุนคราวนี้เป็นไงบ้าง” ฮโยยอนขาดคั้น
“พี่อยากรู้เรื่องชั้นหรือเรื่องพี่จงฮยอนล่ะ” ซอฮยอนแกล้งถาม
“ก็ต้องเรื่องเธอสิ” ฮโยยอนตอบแบบอายๆ ซอฮยอนจ้องอย่างสงสัย “จงฮยอนนิดนึง” ฮโยยอนเอ่ยออกมาเบาๆ “เล่ามาเถอะน่า พี่อยากรู้นะ แบบว่า....” ฮโยยอนทำตาหวานซึ้ง
“หยุดเลยนะค่ะ ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก พี่ก็รู้นี่ว่าชั้นไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่ๆ พี่ยงฮวาเขาก็เป็นสุภาพบุรุษด้วย” ซอฮยอนพูดจริงจัง
“แหม...ก็คิดมากไปได้ พี่หมายถึงคิสน่ะ อะไรแบบเนี้ย ไม่มีเลยเหรอ” ฮโยยอนถามทีเล่นทีจริง ซอฮยอนเขินอายอย่างเห็นได้ชัด ได้แต่พยักหน้างึกๆ ไม่กล้าตอบเต็มปากเต็มคำ
“อร๊ายยย เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วเหรอ แล้วนี่ๆๆ ยงซอบังจูบเก่งหรือเปล่า บอกหน่อยสิ” ฮโยยอนตื่นเต้น ซอฮยอนหน้ามุ่ย
“พี่เขาแค่คิสที่หน้าผากเองค่ะ ไม่ได้จูบอะไรแบบนั้นสักหน่อย”
“อะไรเนี่ย ยงซอบังไปไม่ถึงไหนเลยเหรอ” ฮโยยอนทิ้งตัวลงบนที่นอนถึงกับเซ็ง “ไม่ไหวจริงๆเลย อุตส่าห์ปล่อยปลาย่างไปให้แมว แมวดันเอาแต่ดมไม่ยอมกินซะนี้” ฮโยยอนตัดพ้อ
“พี่ค่ะ พูดแบบนี้ไม่ดีเลย ชั้นไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นสักหน่อย” ซอฮยอนพ้อบ้าง
“ยัยโง่เอ๋ย ใครๆเขาก็ทำแบบนี้ทั้งนั้นแหละ” ซอฮยอนกอดอกฟังไม่เห็นด้วย ฮโยยอนได้แต่ส่ายหน้า
“พี่ค่ะ ชั้นมีเรื่องจะสารภาพด้วยล่ะ” ซอฮยอนเปลี่ยนโหมดมาเป็นสำนึกผิดทันที
“อ่ะ นี่มีซัมติงใช่มั๊ย” ฮโยยอนยังเล่นไม่เลิก
“ชั้นเผลอพูดเรื่องพี่กับพี่จงฮยอนไปอ่ะค่ะ แล้วก็เรื่องจองชินด้วย” ฮโยยอนตาโตขึ้นมาทันที
“ยัยบ้า ตายล่ะคราวนี้ไอ้เด็กยักษ์มันมาเอาเรื่องชั้นแน่ แล้วนี่พูดอะไรไปบ้าง โอ๊ยยย” ฮโยยอนตีโพยตีพาย
“จำไม่ได้ค่ะ ชั้นเมา” ซอฮยอนตอบซื่อๆ ฮโยยอนถึงกับกุมขมับ
“นี่ริไปเมา แล้วยังไปพูดไปทั่วอีก ที่สำคัญจำไม่ได้ ยัยโง่ ทำไมเป็นแบบนี้” ฮโยยอนหยีผมของซอฮยอนทีเล่นทีจริง
“โอ๊ย...พี่ค่ะ เดี๋ยวหัวฟูนะ เรามีงานต่อนะค่ะ” ซอฮยอนหลบเป็นพัลวัน
“อยากจะฆ่าเธอให้ตายเลย ยัยตัวร้าย”
“แต่ไม่มีใครว่าอะไรนี่ค่ะ เมื่อเช้าตอนออกมาพี่จงฮยอนยังยิ้มให้ชั้นอยู่เลย” ซอฮยอนพยายามแก้ตัว
“ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย นี่ๆๆๆ” ฮโยยอนคว้าหมอนมาตีซอฮยอน แล้วก็กลายเป็นสงครามระหว่างพี่น้องไปในทันที
ทันทีที่เท้าของยงฮวาเหยียบย่ำสู่แผ่นดินแม่ อย่างแรกที่เขาทำคือโทรศัพท์หาคนเพียงคนเดียวที่เขาอยากพบมากที่สุดในเวลานี้ การพบกันครั้งนี้อยู่เหนือการคาดหมาย ตารางงานของซอฮยอนยกเลิกกะทันหัน ทำให้การกลับมาเกาหลีครั้งนี้ของเขาอาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเวลาหนึ่ง
“พี่ถึงแล้วนะ ไม่คิดจะมารับหรือไง” ยงฮวาเอ่ยทักทายผ่านโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี
“พี่มีใบขับขี่แล้วนี่ ก็มาเองสิค่ะ” ซอฮยอนตามเขาได้ทัน
“อ๊า....ซอฮยอนเดี๋ยวนี้ไม่สนใจพี่เลยนะ เดี๋ยวพี่จะฟ้องคุณพ่อคุณแม่เธอนะ” ยงฮวาแกล้งเย้า
“รีบๆมาเลยค่ะ คุณแม่เตรียมของโปรดพี่ไว้เต็มเลย” ซอฮยอนขี้เกียจจะเล่นด้วย
“คร้าบบบบ เดี๋ยวเจอกันนะ” ยงฮวากดตัดสายอย่างมีความสุข เดินลิ่วนำหน้าสามแสบไป
“มีนัดล่ะมั๊ง” จองชินพูดแล้วมองตามพี่ชายไป มินฮยอกก้มมองรถเข็นกระเป๋าที่เขาเข็นมาอย่างเซ็ง ๆ
“ไม่มีนัดแล้วยังต้องมาเข็นกระเป๋าอีก” มินฮยอกพึมพำกับตัวเอง
“พี่ล่ะมีนัดหรือปล่าว” จองชินหันไปถามจงฮยอนที่เดินมาข้างๆกัน จงฮยอนได้แต่ส่ายหน้า
“นึกว่ามีนัดกะเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติอีกคน” จองชินพูดติดตลก จงฮยอนยิ้มแล้วยักไหล่เดินตามยงฮวาไป
“แล้วแกล่ะมีนัดหรือปล่าว” มินฮยอกถามขึ้น จองชินยักไหล่
“ไม่บอก” แล้วรีบเข็นกระเป๋าตามพี่ๆไป ทิ้งให้มินฮยอกยืนบื้ออยู่คนเดียว
“เดี๋ยวหนูไปเปิดเองค่ะ” ซอฮยอนพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้าน พร้อมกับเห็นใบหน้าของยงฮวาปรากฏอยู่บนจอของกล้องวงจรปิด แล้วเดินออกไปก่อนที่ทั้งพ่อและแม่ของเธอจะได้พูดอะไร ซอฮยอนมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูเร็วเหมือนใจคิด ทันทีที่เปิดประตูออกก็พบยงฮวายืนรอเธออยู่แล้ว เขายิ้มกว้างเหมือนอย่างที่เคยเป็น
“เข้ามาก่อนค่ะ” ซอฮยอนเชื้อเชิญ ยงฮวาจึงได้ก้าวเข้ามาในบริเวณบ้าน “คุณพ่อคุณแม่กำลังรอพี่อยู่เลยค่ะ”
“มีแต่คุณพ่อคุณแม่เหรอที่รอ” ยงฮวามองเธออย่างมีความนัย
“พี่เนี่ย ตลอดเลยนะ” ซอฮยอนหน้าแดงตีเข้าที่แขนของเขา ยงฮวาหัวเราะออกมาเบาๆ
“เด็กน้อย อายพี่เหรอ” ยิ่งอยากจะแกล้งเธอเข้าไปอีก
“มาแล้วเหรอ” แม่ของซอฮยอนพูดขึ้นเมื่อทั้งคู่เข้ามาภายในบ้าน ยงฮวากลับเปลี่ยนเป็นยงฮวาผู้สุขุมขึ้นมาทันที รีบทำความเคารพทั้งสองคนอย่างคุ้นเคย “พาพี่เขามานั่งนี่สิ ไปยืนคุยกันอยู่ได้” คุณแม่บอก ทั้งคู่ทำตามอย่างว่าง่าย ยงฮวานั่งลงตรงข้ามกับพ่อของซอฮยอน ซอฮยอนแยกตัวไปนั่งกับแม่ของเธอพลางเกาะแขนของแม่ไว้
“ไม่เจอกันนานนะ” พ่อถามขึ้นอย่างเรียบๆ
“ครับ ช่วงนี้งานยุ่ง ไปต่างประเทศตลอดเลยครับ” ยงฮวาดูนอบน้อม ทั้งพ่อและแม่ของซอฮยอนต่างชื่นชมในความสามารถและความรับผิดชอบที่ยงฮวามีต่อหน้าที่ การคบกันของทั้งคู่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่มาเสมอ ทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องเสียหาย และยงฮวาก็สามารถดูแลซอฮยอนได้เป็นอย่างดี พ่อและแม่ของซอฮยอนไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการเข้าที่ยงฮวาก้าวเข้ามาในชีวิตของซอฮยอนนั้นได้เปลี่ยนแปลงเธอไปอย่างมากมาย จากคนที่เคร่งครัดกลายเป็นคนที่ผ่อนคลายรู้จักผ่อนปรน ร่าเริงมากกว่าที่เธอเคยเป็น
“ถึงงานจะยุ่งก็น่าจะแวะมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ่อยๆนะ” แม่เสริมขึ้น
“ผมจะพยายามครับ” ยงฮวารับคำอย่างนอบน้อม แล้วควานหาของฝากที่เขาถือติดมือมาด้วย “นี่ของคุณพ่อครับเป็นยาบำรุงครับ เหมาะกับคุณพ่อที่ทำงานหนัก” ยงฮวาโค้งตัวส่งของให้อย่างมีมารยาท “นี่ของคุณแม่ครับ สีสวยมากนะครับคุณแม่น่าจะชอบ” ยงฮวาเลือกเมคอัพชุดใหญ่มาเป็นของฝาก
“ชักจะเหมือนกันเข้าไปทุกทีแล้วนะ หาแต่ยาบำรุงมาให้พ่อ” พ่อของซอฮยอนพูดพลางหยิบกล่องของฝากขึ้นมาชื่นชม
“สีสวยมากเลยจ๊ะ ยงฮวาเลือกเก่งนะ” แม่ของซอฮยอนดูพอใจเมื่อเปิดของฝากของดู ยงฮวาได้แต่ยิ้มกว้างภูมิใจที่ทำคะแนนเพิ่มได้อีก
อาหารเย็นวันนั้นผ่านไปด้วยบรรยากาศอันแสนสุข การที่ยงฮวาได้มาพบกับพ่อแม่ของซอฮยอนก็ไม่ต่างไปจากการมาพบครอบครัวของตัวเองอีกครอบครัวหนึ่ง เขารับรู้ได้ดีถึงความเอ็นดูที่ทั้งสองท่านมีต่อเขา และไว้ใจให้เข้านอกออกในได้ตามสบาย หลังอาหารเย็นยงฮวาและซอฮยอนได้มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง หลังจากที่พ่อแม่ของซอฮยอนเปิดโอกาสให้ ซอฮยอนเลือกมานั่งอยู่บริเวณเทอเรสหน้าบ้านเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ สายลมเบาๆผ่านมาเป็นระยะช่วยให้อากาศปลอดโปร่ง ยงฮวายืนกอดอกมองดูดาวเงียบๆ
“พี่ซื้อของมาฝากพ่อกับแม่ชั้นเยอะแยะเลยนะค่ะ ไม่เห็นมีของฝากให้ชั้นบ้างเลย” ซอฮยอนพูดขึ้น ยงฮวาจึงหันมามองเธอ พร้อมกับเดินมานั่งข้างๆ
“เดี๋ยวนี้เด็กน้อยรู้จักทวงของฝากด้วยเหรอ” ยงฮวาแกล้งเย้า
“ก็อยากได้นี่” ซอฮยอนออดอ้อน ยงฮวาพยักหน้าอมยิ้มแล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน ซอฮยอนอดคิดไม่ได้ว่าอาจจะเป็นสร้อยคอรูปกีต้าร์เส้นนั้นที่เธอเห็นที่ญี่ปุ่น ยงฮวากลับออกมาพร้อมกับกระเป๋าเป้คู่กาย แล้วค่อยๆหยิบกล่องกระดาษสีหวานออกมาจากกระเป๋า ทันทีที่ซอฮยอนเห็นกล่องเธอต้องยอมรับกับตัวเองว่าผิดหวังที่ไม่ใช่กล่องที่เธอหวังไว้ ในขณะเดียวกันก็ทวีความสงสัยให้กับตัวเองมากขึ้นไปอีก แล้วสร้อยเส้นนั้นมีที่มายังไงกันแน่ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง แต่เธอก็ยังอดที่จะตื่นเต้นกับของขวัญตรงหน้าไม่ได้อยู่ดี
“อ๊า....น้ำหอมเหรอค่ะ พี่ไม่เคยให้น้ำหอมชั้นเลยนี่ค่ะ” ซอฮยอนพูดขึ้นเมื่อรู้ว่าของขวัญคืออะไร ยงฮวายิ้มพลางหยิบขวดน้ำหอมออกมาจากกล่องที่ตอนนี้อยู่ในมือของซอฮยอน
“ก็เธอไม่จำเป็นต้องใช้น้ำหอมนี่” พูดพลางเปิดฝาขวดออก “ซอฮยอนหอมอยู่แล้ว น้ำหอมไม่จำเป็นเลย” ยงฮวาเขินกับคำพูดของตัวเอง แกล้งเฉไฉมองไปข้างหน้าไม่กล้าหันมาสบตาซอฮยอนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“แล้วทำไมถึงซื้อมาล่ะค่ะ” ซอฮยอนจ้องมองเขาด้วยแววตาสดใส ยงฮวาทำได้เพียงเหลือบมองแล้วสูดดมกลิ่นน้ำหอมที่อยู่ในมือ
“มันเป็นกลิ่นเดียวกับที่พี่ใช้ อย่างน้อยๆเวลาที่เธอใช้มันเธอจะได้รู้สึกว่าพี่อยู่ใกล้ๆ” ยงฮวาพูดแล้วส่งขวดน้ำหอมให้ซอฮยอนไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ ซอฮยอนรับมาสูดดมแล้วพยักหน้า
“ใช่จริงๆด้วย นี่กลิ่นเหมือนพี่เลย นี่ไม่ใช่ว่าลืมของฝากเลยเอาของตัวเองมาให้นะ” ซอฮยอนยิ้มหวานแล้วหันไปจ้องยงฮวาอีกครั้ง ยงฮวาโบกมือปัดปฏิเสธสิ่งที่ซอฮยอนถาม
“มะ...” แต่ก็ต้องเปลี่ยนประเด็นไปทันทีที่เห็นดวงตาคู่ใสจ้องเขาอยู่ “มาจ้องพี่ทำไมเนี่ย” ยงฮวารู้สึกอายที่พูดอะไรเลี่ยนๆไปก่อนหน้านี้
“พี่น่ารักค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่พี่อาย” ซอฮยอนพูดตรง ยงฮวาไม่พูดอะไรแต่คว้ามือของซอฮยอนไปกุมไว้แทนพลางบีบมือเธอเบาๆคล้ายจะส่งผ่านความรู้สึกในใจของเขา
“ไม่ได้อายสักหน่อย พี่ก็เป็นแบบนี้แหละ” ซอฮยอนพยักหน้า “พี่คิดถึงซอฮยอน” เขาเว้นวรรคประโยค เหมือนจะรอดูท่าทีฝ่ายตรงข้าม ซอฮยอนเอนหัวมาซบไหล่เขาอย่างช้าๆ เป็นการตอบโต้แทนบทสนทนา ยงฮวาถึงกับใจแกว่ง สูดลมหายใจยาว “คิดถึงจริงๆ ทุกครั้งที่ต้องแยกจากกันเหมือนมันจะตายเสียให้ได้” เขาพรั่งพรูความรู้สึกออกมา “ไม่อยากกลับไปญี่ปุ่นอีกเลย อยากอยู่กับเธออยู่ตลอดเวลา” ซอฮยอนไม่พูดอะไรนอกจากกุมมือเขาให้แน่นขึ้นเพื่อแทนความในใจมากมายที่เธอไม่อาจจะบรรยายมันออกมาได้ด้วยคำพูด ทั้งคู่นั่งเงียบอยู่อย่างนั้น เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน เพียงเพื่อจะซึมซับช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันให้ยาวนานเพื่อทดแทนช่วงเวลาที่ต้องไกลกัน
“อาทิตย์หน้าชั้นมีตารางงานที่ปูซานค่ะ ไปด้วยกันมั๊ยค่ะ” ซอฮยอนเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ
“พี่ต้องกลับญี่ปุ่นอาทิตย์หน้า” ยงฮวาตอบสั้นๆ ซอฮยอนพยักหน้าเบาๆ ยังพิงอยู่ที่ไหล่ของเขา ยงฮวารับรู้ได้ถึงคลื่นความเสียใจของคนข้างกาย เขาค่อยๆคลายมือออกจากการเกาะกุม แล้วโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแทน “ไว้คราวหน้าเราไปด้วยกันนะ” ซอฮยอนไม่ตอบแต่ขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้น ยงฮวากระชับแขนของเขาให้แน่นมากขึ้น อยากจะกอดนางฟ้าไว้ให้นาน นานเท่าที่พอใจ อยากเก็บอ้อมกอดนี่ไว้ตลอดกาล
อยากบอกว่าไรตอร์เสียใจที่ยังไม่ได้เฉลยว่าคนในใจของจองชินเป็นใคร 555 ใจเย็นๆนะค่ะ ตอนหน้ามาแน่ แต่แอบบอกไว้นิดนึงบางทีความรักก็ไม่เป็นดั่งใจไปหมดหรอกค่ะ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะค่ะ ไรเตอร์อ่านทุกอันนะค่ะ สัญญาจะแต่งต่อเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีปัญญาค่ะ 555
ความคิดเห็น