ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [YongSeo Story] Part 1 Unseen Heartstings

    ลำดับตอนที่ #2 : Sweet date is not easy.

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 54


    ยงฮวาตื่นเช้ากว่าปกติทุกวัน  ตื่นเต้นที่จะได้เจอกับเจ้าของหัวใจของเขาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า  เขารีบอาบน้ำแต่งตัว  เลือกชุดที่ดูดีที่สุดมาสวมใส่หมุนตัวไปมาหน้ากระจกอยู่นาน  ก่อนจะต้องเปลี่ยนใจเลือกชุดที่ธรรมดาสะดุดตาน้อยที่สุด  เพื่อไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใคร  และง่ายต่อการหลบหลีก  ยงฮวาค่อยๆย่องออกจากห้องให้เบาที่สุด  ราวกับว่าจะไปลักขโมยของคนอื่น  อีกเพียงนิดเดียวก็จะถึงหน้าประตูแล้ว  แต่ก็ต้องตกใจขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียง มินฮยอกร้องเรียก 

    “พี่ยงฮวา  จะไปไหนแต่เช้า  พี่มีตารางงานด้วยเหรอ”  มินฮยอกพูดพลางเดินไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม

    “ว่าจะออกไปหาอะไรกินหน่อย”  ยงฮวาอึกอัก  ไม่อยากบอกให้น้องรู้

    “จิงดิ่  ไปด้วยสิ  เริ่มหิวแล้ว  พี่รอก่อนได้มั๊ยผมไปอาบน้ำแป๊บเดียว” มินฮยอกดูกระตือรือร้น  ยงฮวาสั่งสมองให้ทำงานอย่างหนัก เจ้ามินฮยอกมันตื่นเช้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ  สถานการณ์แบบนี้ควรจะทำยังไงถึงจะสะบัดเจ้าเด็กบ้านี่ออกไปได้นะ คิดสิ คิดสิ

    “เออๆๆ  รีบๆ  เดี๋ยวรอตรงนี้แหละ”  ยงฮวาคิดแผนแบบปัจจุบันทันด่วนขึ้นมา  แล้วเดินไปนั่งรอที่โซฟารวมพล  มินฮยอกกลับไม่รู้สึกถึงความเจ้าเล่ห์ของพี่ชาย  กระตือรือร้นเข้าห้องน้ำไปทันที  ยงฮวานั่งรอจนแน่ใจเมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝักบัว  จึงค่อยๆลุกจากโซฟาพยายามจะออกไปที่ประตูอีกครั้ง 

    “พี่ไปไหนแต่เช้า”  เสียงจงฮยอนดังขึ้น  ยงฮวาชะงักกึก  อยากจะบ้าตาย  แค่เริ่มต้นก็ยากขนาดนี้แล้ว  แล้ววันนี้จะได้เจอนางฟ้ามั๊ยเนี่ย 

    “ไปข้างนอก”  ยงฮวาบอกปัด  จงฮยอนยังมองเขาอย่างสงสัย

    “ความลับ???”  จงฮยอนถามทั้งๆที่รู้

    “เออ...ไปแล้ว”  พูดจบยงฮวารีบเปิดประตูออกไปทันที  ก่อนที่จะมีใครมาทักท้วงเขาอีก  หวังว่าเจ้าจงชินจะไม่มายืนรออยู่หน้าประตูหรอกนะ  พอพ้นประตูมาเขาหยิบหมวกแก๊ปมาสวมพร้อมกับแว่นตากรอบสีฟ้าที่คู่ของมันฝากไว้กับอีกคน  ก่อนจะดึงฮูดมาปิดทับหมวกแก๊ปอีกที  กระชับกระเป๋าเป้ให้พอดีกับแผ่นหลังกว้างของเขา  ฮัมเพลง Tell me you wish เพลงโปรดของเขามุ่งหน้าไปยังที่นัดหมายทันที

     

    ฮโยยอนลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก  พยายามเพ่งมองไปที่นาฬิกาที่วางไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือของซอฮยอนรูมเมทของเธอ  นาฬิกาบอกเวลาว่ายังไม่เช้า  แต่ทำไมเธอถึงได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเพลง I’m a loner. นะ  หรือว่านี่เธอจะคิดถึงหนุ่มเบิร์นนิ่งคนนั้นมากเกินไปจนเพ้อเป็นเพลงของเขา  เป็นเอามากจริงๆ  เธอพยายามสลัดเขาออกจากหัวแต่ก็ยังได้ยินเพลงนั้นอยู่   ทำยังไงดี  ก่อนจะบ้าไปฮโยยอนตัดสินใจนิ่งฟังให้แน่ใจ  ก่อนจะรู้ว่าเป็นเสียงของซอฮยอนที่กำลังฮัมเพลงขณะอาบน้ำนั่นเอง เฮ้อ  นึกว่าเป็นบ้าไปแล้วซะอีก    “มีนัดแต่เช้าหรือไงสาวน้อย” ฮโยยอนรำพึงรำพันคนเดียว  ก่อนจะทิ้งตัวล้มนอนอีกครั้งพลันเหลือบไปเห็นชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนแขนยาวแสนหวานที่แขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า  พอดีกับที่เสียงเพลงเงียบลง  ซอฮยอนเดินกลับเข้ามาในห้องสวมชุดคลุมอาบน้ำ  ท่าทางสดชื่น 

    “สาวน้อยมีเดทหรือไง”  ฮโยยอนถามทั้งที่ยังนอนจมอยู่บนเตียง  ซอฮยอนดูจะตกใจเพราะไม่คิดว่าพี่สาวจะตื่นอยู่

    “ชั้นทำให้พี่ตื่นหรือปล่าวค่ะ”  ซอฮยอนถามเกรงใจ

    “พี่คิดว่าใช่นะ  เพราะเสียงเวโทรียา เวโทรียา นั้นแหละ”  ฮโยยอนแกล้งเย้า  “นัดกับยงซอบังเหรอ  ชุดสีฟ้าสวยเชียว”  ฮโยยอนยันตัวเองลุกขึ้นพิงหัวเตียงกึ่งนั่งกึ่งนอน

    “มันดูเว่อร์ไปหรือปล่าวค่ะ” ซอฮยอนเดินไปจับชุดสวยมาทาบลงบนร่างเพรียวบาง  “เราแค่จะไปทานข้าวกันค่ะ  ไม่รู้จริงๆว่าจะสวมชุดไหนดี”  ซอฮยอนดูวิตกกังวล

    “ใส่อะไรพี่ก็ชอบหมดแหละ” ฮโยยอนล้อเลียนท่าทางของยงฮวา  ซอฮยอนหัวเราะก๊ากออกมา  สองสาวหัวเราะให้กันอย่างจริงใจ  ช่วงเวลาแห่งความรักโลกมันสดใสจริงๆ

     

    ซอฮยอนเข้ามาในซาลอนพร้อมกับทักทายทุกคนอย่างนอบน้อม  ชุดสีฟ้าอ่อนช่วยขับให้ผิวขาวผ่องของเธอยิ่งกระจ่างใสน่ามอง  เธอกวาดสายตาไปทั่วซาลอนอย่างระมัดระวังสไตลิสต์คู่ใจดูจะจับสัญญาณได้ดี  รีบเอ่ยขึ้นก่อนที่คนอื่นในซาลอนจะสังเกตเห็น

    “เดี๋ยวพี่พาไปเลือกแบบผมใหม่ๆในห้องรับรองดีมั๊ย  ซอฮยอนน่าจะเปลี่ยนทรงผมบ้างนะ” พูดจบก็รีบจูงมือซอฮยอนไป  ซอฮยอนเดินเข้ามาในห้องรับรองที่คุ้นเคย  ยงฮวานั่งอ่านหนังสือรออยู่แล้ว  เขาละสายตาจากหนังสือตรงหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาในห้อง  เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นใครเขาก็เผยยิ้มออกมา  ซอฮยอนยังคงโค้งคำนับให้ยงฮวาเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน  ยงฮวาพยักหน้ารับส่งยิ้มหวานไปให้เธอ  เขาชินกับท่าทางสุภาพอ่อนน้อมที่เธอมักแสดงต่อหน้าคนที่อาวุโสกว่าแล้ว  แม้จะสนิทกันแค่ไหนซอฮยอนก็ยังคงใช้ภาษาทางการกับเขาอยู่  การที่เธอทักทายเขาแบบสุภาพก็ไม่แปลกเลย  ซอฮยอนค่อยนั่งลงข้างๆยงฮวาแล้วส่งยิ้มหวานไปให้เขาอย่างอายๆ  ยงฮวาไม่อาจจะละสายตาจากเธอได้จริงๆ  เขาเอาแต่จ้องมองดวงหน้าที่หมดจดนั้นจนกระทั่งซอฮยอนต้องเอ่ยปากถาม

    “มีอะไรติดหน้าชั้นเหรอค่ะ”  ซอฮยอนทำหน้าสงสัย

    “ป่าว”  ยงฮวาส่ายหน้า  แต่ก็ยังไม่ละสายตาจากเธอ  ขยับเข้าไปนั่งชิดกับเธอ

    “ฮยอน....สวมชุดสี blue สวยจัง”  ยงฮวาทำเสียงออดอ้อน  ส่งสายตากรุ้มกริ่มให้สาวน้อยข้างกาย

    “สีฟ้าอ่อนค่ะ”  ซอฮยอนตอบไม่กล้าจะสบตาเขา

    “พี่ว่ามันเป็นสี blue นะ” ยังคงออดอ้อน

    “อ่า....พี่นี้จริงๆเลย  สี blue ก็ได้  พอใจหรือยังค่ะ”  ซอฮยอนแกล้งค้อน หันไปสบตากับเขาอย่างไม่ตั้งใจ  ได้สบตากันแบบนี้สร้างความปั่นป่วนในหัวใจของยงฮวายิ่งนัก  สาวน้อยคนนี้กำลังจะแผดเผาหัวใจของเขาให้ไหม้เป็นจุล  เขาควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่รบกวนจิตใจเขาในขณะนี้  ดวงตากลมโตสดใส  ดวงหน้างดงามไร้ที่ติ  ริมฝีปากบางๆตรงหน้า  ทำเอายงฮวาแทบจะคลั่ง  สาวน้อยรู้ตัวบ้างไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่  ซอฮยอนเองก็สับสนกับสิ่งเกิดขึ้นในใจ  อะไรกันที่ทำให้เธออยากจะสัมผัสเขาให้มากกว่านี้  “พี่ยงฮวาพี่รู้บ้างไหมว่าชั้นว้าวุ่นใจมากแค่ไหน”  การกระทำเร็วกว่าความคิดเสมอยังไม่ทันที่สมองจะตอบว่ายงฮวาควรจะทำอย่างไรเขากลับรู้สึกว่าใบหน้าของเขากำลังเคลื่อนเข้าไปหาใบหน้าของสาวน้อยตรงหน้าอย่างช้า ๆ ใกล้พอที่จะรู้สึกได้ว่าสาวน้อยตรงหน้านั้นยังคงกล้าๆกลัวๆกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อจากนี้  เขาอ้อยอิ่งลังเลเพื่อดูให้แน่ใจว่าสาวน้อยตรงหน้าจะทำอย่างไร  แต่แล้วเขากลับตัดใจละสายตาจากริมฝีปากบางๆ  เพราะไม่แน่ใจว่าเธอพร้อมยอมรับมันหรือไม่  แล้วมอบจุมพิตแผ่วเบาลงบนหน้าผากของสาวน้อยแทนที่จะทำตามความปรารถนาของตัวเอง  ซอฮยอนหลับตาทันทีเพราะอายเกินกว่าที่จะจ้องตาเขา  ใจเต้นโครมคราม  นี่มันไม่เหมือนตอนที่ถ่ายรูปแต่งงานเมื่อถ่ายรายการเรียลลิตี้ด้วยกัน  ครั้งนั้นมันแค่สัมผัสแผ่วเบา  ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในอกแบบนี้  เธอควรจะปล่อยให้เขาทำตามใจหรือเปล่า  ซอฮยอนยังไม่แน่ใจ  ตอนนี้เธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่ขาดห้วงของเขา  ยงฮวาค่อยเลื่อนปลายจมูกของเขาช้าๆมาหยุดที่ปลายจมูกของสาวน้อย  อยากจะห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรมากไปกว่านี้  อยากจะทะนุถนอมเธอจนถึงเวลาอันสมควร  เขาควรจะหยุดแค่นี้ใช่ไหม  ตอนนี้เขามาไกลเกินจะหยุดแล้วหรือ  เขาอยากจะยับยั้งชั่งใจ  ยงฮวาตัดสินใจหยุดการกระทำของเขาเพียงแค่นั้น  ถอยออกมาจากใบหน้างดงามนั้น  ซอฮยอนค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ  บอกกับตัวเองว่ามันจบลงแล้ว  ยงฮวาขยับออกห่างไป  เธอก้มหน้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา  ทั้งคู่นิ่งเงียบไปนาน  นานพอที่จังหวะการเต้นของหัวใจจะกลับมาเป็นปกติ

    “พี่ทำผมเสร็จแล้วใช่มั๊ยค่ะ”  ซอฮยอนเอ่ยออกมาอย่างอยากลำบาก  เพราะเธอไม่อยากให้ยงฮวาคิดว่าเธอไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

    “อืม  พี่มาตั้งแต่เช้าน่ะ  อยากรีบทำให้เสร็จจะได้มีเวลาอยู่กับเธอนานๆ”  ยงฮวาตอบดูจริงจัง

    “งั้นเราไปหาอะไรทานกันมั๊ยค่ะ  พี่ชวนชั้นมาทานข้าวนี่ค่ะ”  ซอฮยอนพยายามผ่อนคลาย  พลางเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ตรงหน้ามาถือไว้ในมือ  แล้วลุกขึ้นยืนยื่นมือไปให้ยงฮวาเป็นการเชื้อเชิญให้เขาไปด้วยกัน  ยงฮวาเผยยิ้มออกมาแล้วคว้ามือเรียวงามนั้นไว้  “ไปกันเลย” 

    ทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อออกมาจากห้องรับรอง  แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นว่ามีเพื่อนร่วมวงการอีกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า  แม้จะไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่ยงฮวาก็พอรู้จักงานของเขาอยู่บ้าง  ชายหนุ่มคนนั้นเมื่อเห็นคู่รักก็ดูมีท่าทีดีใจอย่างเห็นได้ชัด  เขากระวีกระวาดลุกจากโซฟาตรงมายังทั้งคู่  โค้งคำนับแล้วกล่าวทักทาย “คู่ยงซอใช่มั๊ยครับ  ผมเป็นแฟนของพวกคุณ”  ท่าทางเขาดูเป็นมิตรจนทั้งคู่แปลกใจ

    “ครับยินดีที่ได้รู้จักครับ” ยงฮวายื่นมือให้เขาพร้อมกับโน้มศรีษะนอบน้อม  ซอฮยอนก็เช่นกัน

    “ดีใจมากจริงๆที่ได้เจอครับ  ผมดูคุณสองทั้งทุกตอนเลยนะครับ  โชคดีจริงๆครับ”  เขาดูกระตืนรือร้น  แต่ยงฮวากลับรู้สึกไม่สะดวกนักเพราะบางทีตอนนี้เขากับซอฮยอนอาจจะตกเป็นเป้าสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาก็เป็นได้

    “เราอยากจะคุยด้วยนะครับ  แต่ว่าตอนนี้ไม่สะดวกไว้เจอกันคราวหน้าผมจะทักคุณก่อนแน่นอนครับ”  ยงฮวากล่าวตัดบท  ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มให้ทั้งคู่อย่างเข้าใจ  “คงได้เจอกันอีกครับ”  เขากล่าวแล้วเปิดทางให้ทั้งคู่เดินออกไป  ซอฮยอนโค้งคำนับเป็นการลาและขอบคุณเขาอีกครั้งก่อนจะเดินตามยงฮวาออกไป

    เมื่อทั้งคู่พ้นจากซาลอนไปแล้วชายหนุ่มก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมากดทันที  “ตื่นเต้นจริงๆ ได้เจอคู่ยงซอ  ทวิตสักหน่อย ทวิตๆๆ”  เขาพูดพร้อมกับกดโทรศัพท์ไปด้วย

     

    ยงฮวาเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีห้องแยกเป็นสัดส่วน  เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยจากสายตาคนภายนอก  ซอฮยอนดูจะดีใจที่ได้มาที่ร้านอาหารญี่ปุ่น  เพราะอาหารญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องดีต่อสุขภาพมาก  ทันทีที่นั่งลงบนเบาะรองนั่ง  ซอฮยอนก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  “พี่ค่ะ  ผู้ชายที่เราเจอที่ซาลอนคนนั้น  ไม่เป็นไรแน่เหรอค่ะ”  ยงฮวาไม่ตอบทำเพียงส่งยิ้มบางๆไปให้เธอ  เหมือนจะบอกให้เธอสบายใจ  ทั้งที่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน  ถ้าข่าวนี้หลุดออกไปคงไม่มีผลต่อเขา  เพราะตัวเขาเองไม่เคยแคร์อยู่แล้ว  มีแต่อยากจะประกาศให้ใครต่อใครรู้เสียมากกว่า  แต่ซอฮยอนอาจจะตกที่นั่งลำบาก  ทั้งแอนตี้แฟน  และท่านประธานSM ที่กำชับเขาหนักหนาไม่ให้มีเรื่องเสียหาย  หรือข่าวอันไม่สมควรหลุดลอดไป  แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาเคร่งเครียดกับเรื่องข้อห้ามพวกนั้น  เขาควรจะใช้เวลาอันมีค่านี้ให้คุ้มค่ามากที่สุดถึงจะถุกต้องสิ  พนักงานเข้ามารับออร์เดอร์เพียงครู่เดียวก่อนจะออกไป  ปล่อยให้ทั้งสองอยู่ตามลำพังอีกครั้ง  ซอฮยอนเหมือนมีบางอย่างในใจ  เธอกำลังคิดว่าควรจะพูดออกไปไหม  ยงฮวาสังเกตเห็นถึงสีหน้าครุ่นคิดของเธอ

    “อยากจะพูดอะไรกับพี่หรือเปล่า”  ซอฮยอนฟังแล้วชั่งใจ

    “พี่รู้มั๊ยค่ะ  ว่า.....อนนี่ของชั้นเป็นบ๊อยซ์”   ยงฮวางงกับคำถาม  พยายามทำความเข้าใจ

    “นี่เป็นรหัสลับอะไรหรือเปล่า”  ซอฮยอนฟังแล้วส่ายหน้า  “เดี๋ยวพี่คิดก่อนนะ...”  ยงฮวานิ่งไปสักพักพยายามถอดรหัสลับนั่น  แต่กลับไม่เข้าใจในคำถามของซอฮยอนเลย  “พี่ๆเป็นบ๊อยซ์  แล้วยังไงเหรอ”

    “พี่คิดว่าพี่จงฮยอนจะรู้มั๊ยค่ะ”  ซอฮยอนรอคำตอบ

    “พี่ไม่แน่ใจ”

    “พี่จงฮยอนชอบไอดอลผู้หญิงคนไหนเหรอค่ะ”  ยงฮวาฟังแล้วพยายามใช้ความคิดรื้อฟื้นหาข้อมูลในสมองของเขา  จงฮยอนชอบใครงั้นเหรอ  ผู้ชายไม่ค่อยพูดเรื่องแบบนี้ด้วยสินะ

    2NE1  เขาลังเลที่จะตอบ  ซอฮยอนพยักหน้าเข้าใจ  ก่อนที่ยงฮวาจะได้คลายความสงสัยพนักงานก็นำอาหารเข้ามาเสิร์ฟเสียก่อน  ทำให้ทั้งคู่ต้องเงียบอีกครั้ง  เมื่ออาหารทยอยเข้ามาวางจนหมด  เหลือเพียงสองคนลำพังอีกครั้ง  ยงฮวาก็พยายามจะไขข้อข้องใจของเขา

    “ถามถึงจงฮยอนทำไมเหรอ  มีอะไรหรือเปล่า”

    “ไม่ค่ะ”  ซอฮยอนตัดบทแล้วไปให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้าแทน  “น่าทานจังเลย  จะทานแล้วนะค่ะ”  พูดจบก็คีบอาหารใส่ปากทันที

    “ฮยอน.....พี่หึงนะ”  ยงฮวาตัดพ้อ  ซอฮยอนถึงกับชะงักเมื่อได้ยินคำตัดพ้อของเขา

    “อะไรเนี่ย”  ซอฮยอนอุทานออกมา

    “ก็เธอเอาแต่ถามถึงจงฮยอน  แล้วก็ไม่บอกอะไรพี่เลย  จะไม่ให้พี่คิดมากหรือไง”  ยงฮวาพูดพลางทำหน้าเง้างอน

    “ชั้นพูดถึงอนนี่ของชั้นนะค่ะ  ไม่เกี่ยวกับชั้นสักหน่อย”  ซอฮยอนพยายามอธิบาย

    “แล้วเธอไม่ใช่แฟนคลับของ CNBLUE เหรอ”  ยงฮวาเซ้าซี้ต่อ

    “ไม่ใช่ค่ะ”  หยุดพูดเหมือนจะรอดูปฏิกิริยาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้า  ยงฮวาหน้างอ  “ชั้นเป็นแฟนคลับจองยงฮวา”  พูดจบพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ท้าทายชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้า  ยงฮวากลับหลบตาแล้วแกล้งทำเฉไฉคีบอาหารมาใส่ปาก 

    “อย่ามาล้อเล่นแบบนี้นะเด็กน้อย”  เขาพูดทั้งที่ยังก้มหน้า

    “ทำไมเหรอค่ะ”  ซอฮยอนสงสัย

    “มันจะไม่ปลอดภัยต่อตัวเธอ”  ยงฮวาเงยหน้าขึ้นมาตอบ  พยายามให้เธอทำความเข้าใจ  ซอฮยอนพยักหน้าแต่ก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ยงฮวาพยายามจะบอก  แต่เธอก็ไม่คิดที่จะท้าทายเขาต่อไปอีก

    “ถ่ายละครเป็นไงบ้างค่ะ”  ซอฮยอนเปลี่ยนเรื่องพูด

    “สนุกมากเลย  เหมือนได้เล่นเป็นตัวเอง  ได้เล่นดนตรี  ได้ทำตามความฝัน  แต่ก็เหนื่อย”  ยงฮวาบรรยาย

    “พี่ดูผอมไปนะค่ะ  ยังต้องคุมน้ำหนักอยู่เหรอค่ะ”  น้ำเสียงของเธอบ่งบอกถึงความห่วงใย

    “พี่แข็งแรงดีนะ  เธอเองต่างหากที่ดูผอมลง” 

    “ชั้นต้องควบคุมน้ำหนักค่ะ  อ้วนไม่ได้”  ซอฮยอนตอบอายๆ

    “อย่าให้ผอมไปล่ะ  เดี๋ยวจะป่วยเอานะ  เธอจะป่วยไม่ได้นะถ้าไม่มีพี่คอยดูแล”  น้ำเสียงของเขาบอกความจริงใจ  ซอฮยอนยิ้มหวานซึ้งใจในความรักที่เขามีต่อเธอ  “ไม่ว่าอ้วนหรือผอม  ขอแค่เป็นซอฮยอนพี่ก็ชอบทั้งนั้นแหละ”  ยงฮวากล่าวออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย  ซอฮยอนหน้าแดงเขินอายที่เขาพูดตรงๆแบบนี้  คีบอาหารส่งใส่จานให้เขาเป็นการกลบเกลื่อน

    “พี่ต้องทานเยอะๆนะค่ะ”  ยงฮวาส่ายหน้าแล้วเบะปาก

    “เด็กน้อย  อยากให้พี่ทานเยอะๆแล้วทำไมทำแบบนี้ล่ะ”  ซอฮยอนฟังแล้วสงสัย  บางทีเธออาจจะเลือกอาหารที่เขาไม่ชอบอย่างนั้นหรือ  ยงฮวาชี้มือมาที่ปากของเขา  “ป้อนพี่สิ  ไม่ใช่วางใส่จานให้พี่”  เขาออดอ้อน  ส่งสายตากรุ่มกริ่ม  ซอฮยอนดูจะหงุดหงิดที่เขาดูเหมือนพยายามจะบอกให้เธอทำในสิ่งที่เขาห้ามอยู่อยู่ตลอดเวลา

    “พี่เนี่ย...จริงๆเลย”  แต่ซอฮยอนก็ทำตามคำขอของเขาอยู่เสมอ  เธอคีบเนื้อปลาสีสวยข้างหน้ายื่นใส่ปากให้ยงฮวา  เขาอ้าปากรับชิ้นปลานั้นแต่สายตายังจ้องอยู่ที่ซอฮยอนอย่างไม่ลดละจนเธอต้องหลบสายตาเขา

    “พี่ทานเองล่ะกันนะค่ะ”  ซอฮยอนหมั่นไส้

    “ฮยอน...หลายวันมาเนี่ยมีแต่คนขัดใจพี่ทั้งนั้นเลย  ตามใจพี่หน่อยสิ”  เขาออดอ้อน

    “น่าตีจริงๆเลย”  ซอฮยอนบ่น  แต่ก็หมือนเคยที่เธอมักจะยอมทำตามคำขอของเขาเสมอ  ทั้งคู่ต่างทานอาหารไปหยอกล้อกันไป  มีความสุขจนไม่ทันสังเกตว่าอาหารตรงหน้าแทบจะไม่เหลืออยู่ในจานแล้ว  ซอฮยอนวางตะเกียบหยิบชาขึ้นมาดื่มอย่างมีความสุข

    “อิ่มจังเลยค่ะ  อร่อยมากด้วย” ซอฮยอนกล่าวอารมณ์ดี

    “พี่พอมีเวลาเราไปช้อปกันมั๊ย”  ยงฮวาเสนอ  ซอฮยอนนิ่งคิด

    “ได้เหรอค่ะ”

    “ไปร้านที่เธอชอบล่ะกัน  ไม่เดินไปทั่วคงไม่เป็นไรมั๊ง”  ซอฮยอนฟังแล้วพยักหน้า  นึกสนุกที่จะได้ช้อปปิ้งกับเขา  ยงฮวาเป็นคนมีเซ้นต์เรื่องแฟชั่น  แม้เธอจะรู้สึกแปลกกับสไตล์ที่เขาแนะนำ  แต่พอได้ลองทำตามกลับรู้สึกว่ามันเข้ากับเธอได้ดี  การได้ไปเดินเลือกซื้อของกับเขามันทำให้เธอมีความสุขอย่างน้อยๆเวลาที่ต้องห่างกันเธอก็ยังได้สวมชุดที่เขาเป็นคนเลือกให้  เพื่อบอกกับเขาผ่านทางสื่อต่างๆว่าเธอคิดถึงเขามากแค่ไหน  และยังรอเวลาที่จะได้พบกันอยู่เสมอ

     

     

    ทั้งคู่หลบหลีกสายตาผู้คนจนมาถึงร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่ซอฮยอนเป็นลูกค้าประจำ  การไปเดินเที่ยวเล่นตามศูนย์การค้าด้วยกันย่อมเป็นฝันของคู่รักทุกคู่  แต่ทั้งคู่ทำได้แค่เพียงมาที่ร้านประจำเท่านั้น  มันออกจะอันตรายเกินไปที่จะไปเที่ยวเดินเล่นกันสองคน  หากมีใครจำได้  คงจะเกิดปัญหาใหญ่เป็นแน่  ทั้งคู่ถอดแว่นตาดำอันโตที่ใช้บดบังใบหน้าออกพร้อมๆกัน  พนักงานในร้านออกจะดูตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่ได้เจอทั้งคู่มาด้วยกันอีกครั้ง  แต่ด้วยหน้าที่จึงไม่สามารถไปรบกวนทั้งคู่ได้  พนักงานคนหญิงคนหนึ่งเดินตรงมายังพวกเขา  เพื่อคอยให้การดูแล  ยงฮวาออกจะรู้สึกอึดอัดจึงเลือกจะจะปฏิเสธอย่างสุภาพ “ขอเราดูก่อนนะครับ  ถ้าต้องการความช่วยเหลือจะบอกนะครับ”  เขากล่าวอย่างนอบน้อมทำให้พนักงานคนนั้นต้องเลี่ยงออกไป

    “เธออยากได้แบบไหนล่ะ  เลือกได้ตามสบายเลยนะ”  ยงฮวาหันไปพูดกับซอฮยอน

    “ชั้นจะจ่ายเองค่ะ  พี่ไม่ต้องซื้อให้ชั้น  พี่ใจดีกับชั้นเกินไปแล้ว”  ซอฮยอนกล่าวพลางเดินเลาะไปตามราวเสื้อที่แขวนโชว์อยู่  ยงฮวาเดินตามไปดึงกระเป๋าถือของเธอมาถือไว้ในมือ

    “ก็พี่อยากให้นี่  พี่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลเธอ  อะไรที่ทำให้ได้พี่ก็อยากทำ”   หลังจบประโยคของเขาซอฮยอนหันหลังกลับมาหาเขาทันที

    “พี่ดีกับชั้นมากๆเลยค่ะ  แต่สิ่งที่ชั้นอยากได้จากพี่ไม่ใช่ของพวกนี้หรอก”  ซอฮยอนดูจริงจัง  ยงฮวายิ้มกว้างส่งไปให้เธอ

    “บอกพี่สิว่าเธออยากได้อะไร”

    “ยังไม่บอกตอนนี้ค่ะ”  พูดจบซอฮยอนก็เลือกชุดกระโปรงลายดอกไม้สีสดตัวหนึ่งออกมาจากราว  “สวยจังเลย”  ซอฮยอนดูสดชื่น  เธอทาบชุดสวยลงบนร่างที่บอบบางของเธอ  ยงฮวายิ้มกว้างจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา  ไม่อาจละสายตาจากนางฟ้าคนนี้ได้เลย 

    “ลองสวมดูสิ  พี่จะได้ดูด้วยว่าสวยหรือเปล่า” ยงฮวาเสนอ  ซอฮยอนเลือกติดมือไปอีกสองชุด  แล้วเดินตรงไปที่พนักงาน  ก่อนจะแจ้งว่าเธอต้องการลองชุด  แล้วเดินตรงไปยังห้องฟิตติ้ง ยงฮวาเดินตามไปเงียบ ๆ   แล้วนั่งรออยู่ที่บริเวณรับรองหน้าห้อง  แล้วตั้งตารอนางฟ้าของเขา  เพียงครู่เดียวซอฮยอนก็ออกมาพร้อมกับชุดกระโปรงลายดอกสีส้มสดใส  ยงฮวาได้แต่ยิ้มแอบภูมิใจในความโชคดีของตัวเอง 

    “พี่ว่าเป็นไงบ้างค่ะ”  ซอฮยอนถามความเห็น  ยงฮวาแค่พยักหน้า  แต่สายตายังคงจ้องอยู่ที่เธอ  “ชั้นชอบชุดนี้ค่ะ”  เธอพูดแก้เขิน  ออกจะอายในสายตาที่ยงฮวามองมายังเธอ  พูดจบซอฮยอนก็เดินกลับเข้าไปให้ห้องเพื่อเปลี่ยนชุดใหม่  ระหว่างรอยงฮวาหันไปเจอแซกสีเขียวทหารตัวหนึ่งที่เขารู้สึกชอบมาก  เขาจึงไปหยิบเสื้อตัวนั้นมากจากที่โชว์  หวังจะให้ซอฮยอนลองสวมดู  ซอฮยอนลองชุดครบแล้วจึงเปลี่ยนกลับมาใส่ชุดเดิมของเธอ

    “ชั้นชอบชุดแรกค่ะ  พี่ว่าไงค่ะ” 

    “ลองนี่อีกชุดสิ”  ยงฮวาส่งแซกสีเขียวทหารให้ซอฮยอน

    “อ่า...ไม่ดูหนักไปเหรอค่ะ”  ซอฮยอนอยากจะปฏิเสธ

    “ไม่หรอก  พี่เป็นขาร๊อคนะ แฟนพี่ก็ต้องร๊อคหน่อยสิ”  ยงฮวาพูดติดตลก

    “ไม่ลองไม่ได้เหรอค่ะ  มันดูแปลกๆนะค่ะ”  ยงฮวาไม่พูดต่อจูงมือซอฮยอนไปหยุดที่หน้าห้องลองเสื้อผ้า

    “ลองดูนะ  พี่ชอบชุดนี้จริงๆ  ซอฮยอนใส่ต้องสวยแน่ๆ” เขาหว่านล้อม  พยายามผลักเธอเข้าไปในห้อง  ซอฮยอนก้าวถอยหลังไปตามแรงดันจากยงฮวาโดยที่เธอไม่ทันได้ระวังตัว  ประตูห้องเปิดออกทันทีเพียงแค่หลังของเธอไปกระทบเบาๆ  ซอฮยอนเสียหลักเกือบจะหงายหลัง  ยงฮวารีบถลาตามไปขว้าตัวเธอไว้ก่อนที่ล้มลงไป  โชคดีที่ทั้งคู่ไม่ล้มลงไป  แต่กลับกลายเป็นว่าร่างบอบบางของซอฮยอนอยู่ในอ้อมแขนของยงฮวาในห้องฟิตติ้งแคบๆ ทั้งคู่กำลังกอดกัน  ซอฮยอนดูจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอกอดยงฮวาเอาไว้แน่นหน้าซุกอยู่ที่อกกว้างของเขา  ทั้งคู่นิ่งอยู่นานจนรู้สึกได้ว่าความตกใจหายไปหมดแล้ว  ซอฮยอนได้ยินสียงหัวใจของยงฮวาเต้นรัวอยู่ในอก  ทั้งเขินอายแต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก  อยากจะกอดเขาไว้แบบนี้นานๆ  แต่ก็กลัวเกินกว่าจะทำตามใจตัวเอง  เธอขยับตัวเหมือนจะผละออกจากเขา  ยงฮวากระชับอ้อมแขนของเขาให้แน่นขึ้น  ก้มลงกระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ “ขอพี่กอดอีกหน่อยนะ”  ซอฮยอนรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที  ยิ่งซุกหน้าลงไปบนอกของเขา  รู้สึกได้ถึงลมหายใจแผ่วเบาที่สัมผัสอยู่บนเรือนผมของเธอ  อยากจะหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้  แค่ที่ที่เรามีกัน  การที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของคนที่รักมันช่างมีความสุขเหลือเกิน
















    มาถึงตอนที่
    2 แล้วนะค่ะ  มาอัพให้ช้าเพราะว่าคิดไดอะลอกไม่ออกจริงๆ  กลัวทำอิพี่ยงน้ำเน่า 555  บอกไว้ล่วงหน้าก่อนนะค่ะ  ว่ายังไม่มีโมเม้นต์จงเจิดกะฮโยยอน  เพราะว่ามันเป็นฟิคสั้นค่ะ  ไรเตอร์เมนจง 555  ยังใจไม่ถึงพอค่ะ  กลัวช้ำตายเอง 555


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×