ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [JongNiel]Love at first choice (เพียงเธอรักนี้ดีสุดแล้ว)

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 At First sight - (re-write)

    • อัปเดตล่าสุด 3 ส.ค. 56


     




    Chapter 1 At First Sign.

    นี่อาจจะเป็นเรื่องที่บ้าบอที่สุดในชีวิต   ที่ฉันตัดสินใจทำตามความฝัน  ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันจะมีอยู่จริงหรือไม่

     

    สาวน้อยร่างบาง  รูปร่างกะทัดรัด   ผิวขาวนวลราวกับว่าเธอจะเปล่งประกายได้ด้วยตัวเอง  ได้พาตัวเองมาหยุดที่หน้าตึก FNC academy  ก่อนจะเบิกตามองป้ายระบุสถานที่เหนือสายตาของเธอขึ้นไป  แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดช้า ๆ เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง  ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าไปภายในตึกอันเป็นสถานที่ที่เธอเชื่อว่าที่น่าจะมีความฝันให้กับเธอ

    ภายในล๊อบบี้ดูเงียบเหงามีเพียงชายหนุ่มสองคนที่กำลังนั่งเล่นกีต้าร์กันเพียงลำพัง  โดยไม่คิดจะสนใจคนรอบข้าง  ทันทีที่ทั้งสองคนเข้ามาอยู่ในสายตา  ราวกับว่ามีแรงดึงดูดจากชายหนุ่มสองคนตรงหน้า   เธอค่อย ๆ พาตัวเองเข้าไปใกล้ทั้งคู่โดยที่ไม่รู้ตัว  เพียงแค่อยากจะฟังให้แน่ใจว่าพวกเขาเล่นเพลงอะไร  ซึ่งมันคล้ายว่าจะเป็นเพลงโปรดของเธอ

    จุนฮี”  เสียงเรียกชื่อเธอดังขึ้นจนเธอชะงัก  และก็ทำให้เธอรู้ตัวว่ากำลังเข้าใกล้ชายแปลกหน้าสองคนมากเกินไป  ซึ่งมันจะทำให้เธอกลายเป็นคนที่มาแอบฟังไปในที่สุด

    อ๊ะ   พี่กวังจิน”  เธอโค้งคำนับให้เขาเป็นการทักทาย

    พี่บอกให้รอไง  จะได้ออกมาพร้อมกัน” 

    ฉันอยากจะมารีบมาแต่เช้าน่ะ  จะได้มีเวลามาสำรวจรอบๆด้วย”  จุนฮีพูดกับคนตรงหน้าแต่สายตาเธอก็ยังเหลือบมองนักดนตรีสองคนนั้นอยู่

    รู้จักเหรอ”  กวังจินมองตาสายตาของจุนฮีไปด้วยอดสงสัยไม่ได้ที่ดูเธอจะให้ความสนใจมากเกินไป

    ไม่....จะไปรู้จักได้ไง  แค่สงสัยน่ะ” จุนฮีขยับเข้าไปใกล้เขาก่อนจะทำท่ากระซิบกระซาบราวกับว่ากลัวจะมีใครมาได้ยินเข้า  “สองคนนั้นเป็นดาราหรือเปล่า”   กวังจินส่ายหน้าทันที

    พวกเขาก็เป็นเด็กฝึกหัดเหมือนเรานี่แหละ  คนที่สวมเสื้อยืดน่ะชื่อพี่จองยงฮวา  อีกคนก็พี่ลีจงฮยอน  เก่งทั้งสองคนเลย

    ลีจงฮยอน.....งั้นเหรอ”  เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ  ราวกับว่าจะท่องจำชื่อเขาไว้  ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าจะจำไปเพื่ออะไร  บางทีก็อาจจะแค่อยากทวนชื่อเขาเฉย ๆ ก็เท่านั้น

     

     

     

     “เอาล่ะมาพร้อมกันหมดแล้วสินะ  วันนี้เราจะมีสมาชิกใหม่มาฝึกกับเราด้วย  รับรองว่าพวกนายต้องชอบแน่ๆ”  ปาร์คจิแทอาจารย์ประจำชั้นเรียนดนตรีพูดขึ้น

    ถ้าไม่ใช่ผู้หญิง  ก็ไม่น่าสนใจหรอกครับ”  เสียงซึงฮยอนเจื้อยแจ้ว  พร้อมกับเสียงของคนอื่นที่เซ็งแซ่ราวกับจะเห็นด้วยกับคำพูดของซึงฮยอน  ก็ชั้นเรียนสำหรับศิลปินฝึกหัดที่นี่มีแต่ผู้ชายเต็มไปหมด  ไม่มีผู้หญิงเลยแม้แต่คนเดียว

    นายคอยดูล่ะกัน”    ทันทีที่ปาร์คจิแทพูดจบ  จุนฮีก็พาตัวเองเข้ามาอยู่ในห้อง  ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เธอจนเธอต้องก้มหน้าเขินอาย  วางตัวไม่ถูก  ไม่แน่ใจว่าที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาเพราะเธอดูประหลาดหรือเพราะอะไร

    แนะนำตัวหน่อยสิ “  ซึงฮยอนดูตื่นเต้นแต่ก็ยังไม่วายตะโกนแซวสาวน้อยหน้าใหม่ผู้มาเยือน  จุนฮีไม่กล้าแม้แต่จะสบตาใคร  ได้แต่หันไปหาปาร์คจิแท  หวังว่าเขาจะช่วยให้เธอหายประหม่า  แต่เขากลับทำแค่พยักหน้าส่งสัญญาณให้เธอทำตามข้อเรียกร้อง

    ฉันชเวจุนฮีค่ะ  ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ”  เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแค่พูดมันออกไปเพื่อให้จบ ๆ ไปเสีย  เสียงปรบมือเกรียวกราวบ้างก็เป่าปาก  โห่ร้องแซวเธอด้วยความสนุกสนาน  จุนฮีอายเสียจนไม่รู้จะทำยังไง  รู้สึกเหมือนตาพร่าลาย  ประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก  แต่แล้วจู่ๆ  ก็มีดวงหน้าของคนๆหนึ่งลอยขึ้นมาท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่  ภาพรอบตัวพร่าเบลอ  แต่ดวงตาสดใสที่จ้องมองมาที่เธอ  พร้อมกับยิ้มบางๆ  กลับเด่นชัดขึ้นมา  บางทีเธออาจจะจำเขามาจากที่ล๊อบบี้ก็เป็นได้  แต่ว่าทำไมภาพหลอนนั่นมันถึงได้ชัดเจนราวกับว่าเขานั่งอยู่ตรงนั้นจริงๆ

    เอาล่ะ  พอได้แล้ว  ไอ้เด็กพวกนี้”  ปาร์คจิแทต้องปรามชั้นเรียนจึงได้เงียบลง  จุนฮีตื่นจากภวังค์ในทันทีที่ได้ยินเสียงดุจากอาจารย์  เธอรีบหันมาโค้งให้เขาเป็นการขอบคุณ  ที่ดูเหมือนจะช่วยชีวิตเธอเอาไว้

    ไปนั่งข้างๆจงฮยอนล่ะกัน  น่าจะปลอดภัยกับเธอที่สุดแล้ว”  ปาร์คจิแทเสนอ  จุนฮีแทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง  นี่เธอไม่ได้เห็นภาพหลอนใช่ไหม  เขาอยู่ในห้องนี้จริงๆ  จุนฮีตัวแข็งทื่อก้าวขาไม่ออกขึ้นมาเฉยๆ  จงฮยอนขยับให้มีที่นั่งบนโซฟามากขึ้นเผื่อให้เธอ   จุนฮีเดินเซไปนั่งข้างเขาโดยอัตโนมัติ  สร้างความแปลกใจให้กับคนอื่น ๆ อยู่ไม่น้อยที่เธอรู้ได้อย่างไรว่าใครในห้องนี้ที่ชื่อจงฮยอน  เธอโค้งคำนับทักทายเขาตามมารยาท   แต่จงฮยอนแค่ค้อมหัวให้เธอเล็กน้อยราวกับว่าไม่ได้ใส่ใจอะไร  แล้วหันไปให้ความสนใจกับบทเรียนตรงหน้าที่กำลังจะเริ่มขึ้น  ไม่ได้แยแสหรือแสดงความสนใจเหมือนสายตาคู่อื่นภายในห้องที่กำลังชะเง้อชะแง้มาที่เธอด้วยความสนใจ

    บทเรียนแรกสำหรับเด็กฝึกหัดหน้าใหม่ดูจะยากเกินไปสำหรับจุนฮี  แม้เธอจะมีพี้นฐานทางดนตรีแต่ก็ใช่ว่าจะแต่งเพลงได้ง่ายๆ เพียงแค่ฟังที่อาจารย์สอน  ปาร์คจิแทออกจากห้องไปก่อนแล้ว  สมาชิกคนอื่นๆในห้องก็พากันทยอยออกไป  ดูเหมือนว่าเมื่อเวลาผ่านไปความสนใจที่มีต่อเธอก็ลดลงไปด้วย  มีสองสามคนที่เข้ามาทักทายเธอและก็พอจะให้จุนฮีจำได้ว่าหนึ่งในนั้นมีซึงฮยอนคนที่ดูจะเป็นมิตรกับเธอมากที่สุด  เสียงชวนกันไปเที่ยวเล่นตามประสาเด็กผู้ชายพาให้ทุกคนหายไปจากห้องจนเหลือเธอเพียงคนเดียวในห้องซ้อมแห่งนี้ที่ดูจะใหญ่โตเกินไปเมื่อต้องนั่งอยู่คนเดียว  กีต้าร์อคูสติกในมือถูกกดคอร์ดที่คุ้นเคยลงไปอย่างช้า ๆ แต่งเพลง แต่งจากอะไร  ตอนนี้แทบจะไม่มีเรื่องอะไรในหัวกลวงๆนี่เลย

    จะแต่งเพลงงั้นเหรอ”  เสียงหนึ่งดังขึ้น  ทำให้จุนฮีต้องชะงักหันไปหาต้นเสียง

    รุ่นพี่ลีจงฮยอน”  ทันทีที่รู้ว่าเป็นใครเธอก็แทบจะลุกขึ้นยืนโดยอัติโนมัติ  พร้อมกับโค้งคำนับเขา  การแสดงออกที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ  โดยไม่รู้ตัวจนดูเหมือนเธองก ๆ เงิ่น ๆ อยู่ตลอดเวลา  นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคำพูดของเขาออกจากปาก  ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงร้องเพลงเพราะ  เพราะแม้แต่เสียงพูดห้วน ๆ ของเขาก็ยังดูน่าฟัง

    รุ่นพี่ลืมของเหรอค่ะ”  เธอถามตะกุกตะกัก

    ป่าว”  เขาตอบเธอสั้น ๆ ก่อนจะเดินตรงมานั่งที่เดิมของเขาก่อนหน้านี้  จุนฮีไม่ได้สังเกตว่าเขาทิ้งกีต้าร์เอาไว้  จู่ ๆ เธอก็เริ่มรู้สึกอึดอัด  ราวกับว่าอากาศในห้องลดน้อยลงทันที  จงฮยอนถอนหายใจออกมา  ภาษาทางกายที่จุนฮีไม่เข้าใจว่าเขากำลังรู้สึกหรือคิดอะไร  แล้วก็แยกตัวไปนั่งอีกมุมของห้องเสียเฉย ๆ   ทำราวกับว่าไม่มีเธออยู่ตรงนั้น  ก่อนจะเริ่มเล่นกีต้าร์ไปเรื่อยๆ  จนจุนฮีรู้สึกราวกับว่าเธอเป็นอากาศธาตุในห้องนี้   แล้วอยู่ดี ๆ จงฮยอนก็วางมือจากกีต้าร์แล้วหันมามองเธอ

    หรือว่าเธออยากจะใช้ห้องนี้  ฉันไปใช้ห้องอื่นก็ได้นะ”  นี่เป็นสิ่งที่เขาคิดอย่างนั้นหรือ  ถ้าจะคิดแบบนั้นเขาควรจะรู้สึกถึงมันได้ตั้งแต่ตอนแรกที่เขากลับเข้ามา

    ไม่ ไม่ค่ะ  ฉันแค่...เอ่อ....ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับบทเรียนวันนี้  ก็เลย....

    แต่งเพลงสินะ “  เขาทำท่าราวกับว่าเข้าอกเข้าใจ  แต่กลับไม่พูดอะไรต่อจากนั้น  หันไปให้ความสนใจกับกีต้าร์ในมืออีกครั้ง  จุนฮีลอบถอนหายใจออกมา  ทั้งโล่งอกที่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรจากเธอ  ทั้งหงุดหงิดตัวเองที่แอบหวังว่าเขาจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ  จู่ ๆ กวังจินก็เปิดประตูเข้ามาภายในห้องโดยไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆมาก่อน 

    “อยู่นี่ จริง ๆ ด้วย”  เสียงกวังจินพูดออกมาด้วยความดีใจทันทีได้พบจุนฮี

    พี่กวังจิน”  

    พี่รออยู่ข้างล่างตั้งนานไม่เห็นลงไปสักทีเลยแวะมาดูน่ะ”  กวังจินสนใจแต่จุนฮีจนไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครอีกคนอยู่ในห้องด้วย จุนฮีต้องแอบชี้นิ้วไปที่จงฮยอนเพื่อให้กวังจินรู้ว่ามีบุคคลที่สามที่เขาควรเคารพนั่งอยู่ด้วย  กวังจินหันไปตามนิ้วมือของจุนฮีก็พบว่าจงฮยอนนั่งกอดกีต้าร์มองมาที่เขาอยู่  กวังจินโค้งคำนับให้เขาโดยอัตโนมัติ  จงฮยอนเป็นเหมือนรุ่นพี่ในตำนานที่ทั้งเก่งและก็โหดอย่างไม่น่าเชื่อในสายตาของรุ่นน้องอย่างเขา

    ขอโทษครับ  ผมไม่รู้ว่าพี่อยู่ด้วย”  กวังจินรีบเอ่ยขอโทษ  ในขณะที่จงฮยอนโบกมือส่งสัญญาณว่าไม่ถือสา  แล้วก้มหน้าสนใจกีต้าร์ต่อไป

    กลับกันเถอะ”  กวังจินชวน  จุนฮีแค่พยักหน้าก่อนจะเก็บของตามเขาออกไป  ระวังไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวนอีกคนที่ยังคงอยู่ในห้อง  จงฮยอนมองตามทั้งคู่ด้วยหางตา  ก่อนจะกลับมาสนใจกับกีต้าร์ต่อ  นี่คงเป็นคู่รักเด็กฝึกหัดล่ะมั๊ง 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×