ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [YongSeo Story] Part 2 You are the one.

    ลำดับตอนที่ #1 : The Waiting.

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 54





                    เสียงเพลง
    K-rock ดังกึกก้องผสมกับเสียงกรีดร้องอย่างพอใจของฝูงชนร่วม 15,000 คน  บรรยากาศแสงสียิ่งเร่งเร้าให้ฝูงชนคึกคะนอง  จองยงฮวาเป็นเอนเตอร์เทรนเนอร์ชั้นดีเสมอ  ถึงแม้การแสดงของวงใกล้จะจบลงแล้วแต่ความสนุกสนานยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง  ซอฮยอนค่อยๆแฝงตัวเองตามมุมมืดเพื่อแยกตัวเองออกจากฝูงชนก่อนที่การแสดงจะจบลง  เธอพาตัวเองมาอยู่ที่ห้องพักของศิลปินในเวลาไม่นานนัก  รู้สึกโล่งใจที่รอดพ้นสายตาผู้คนมาได้  ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่ประเทศบ้านเกิดของเธอและยงฮวา  แต่ทั้งสองคนก็โด่งดังและเป็นที่รู้จักอย่างมากที่นี่  และในสถานะที่การคบกันยังไม่เปิดเผยการระวังตัวยังเป็นสิ่งสำคัญ

    ยงฮวาและน้องๆบอกอำลาแฟนเพลงของพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะลงจากเวทีและมุ่งหน้ามายังห้องพัก  การแสดงครั้งสุดท้ายในฐานะวงอินดี้ได้จบลงแล้ว  นับจากนี้ไป CNBLUE จะก้าวสู่โอกาสครั้งสำคัญในการเมเจอร์เดบิวต์  ก้าวสู่ฝันอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขาฝันไว้  ก่อนจะขึ้นแสดงยงฮวาไม่สามารถติดต่อซอฮยอนได้  เขาจึงค่อนข้างกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้  และยังมีความคาดหวังให้เธอมาดูการแสดงของเขา  เมื่อเปิดประตูห้องพักเข้าไป  ยงฮวาก็ถึงกับยิ้มกว้าง  สามแสบดูจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นซอฮยอนที่นี่  ยงฮวาตรงดิ่งเข้าไปหาเธอในทันที

    “พี่นึกว่าเธอจะไม่มา”  ยังยิ้มกว้าง

    “ชั้นสัญญาแล้วนี่ค่ะ”  ซอฮยอนเองก็ดีใจไม่แพ้กันที่ได้เจอกับเขา  หลังการพบกันครั้งสุดท้ายที่นานเกินสัปดาห์

    “เราไปข้างนอกก่อนดีมั๊ย”  จองชินส่งสัญญานให้เพื่อนร่วมก๊วน  จงฮยอนกับมินฮยอกต่างพยักเพยิดเห็นด้วย  ซอฮยอนได้ยินรู้สึกเกรงใจที่อาจเป็สาเหตุให้ทั้งสามคนไม่ได้พักผ่อน

    “ไม่เป็นไร  พวกพี่ใช้ห้องนี่ได้นะ”  เธอหวังดี

    “ม่ายยยย  พวกเรามีห้องพักอีกห้องข้างๆกัน  ตามบาย”  จองชินพูดแล้วรีบลากให้อีกสองหนุ่มออกไปด้วยกันก่อนที่ซอฮยอนจะพูดอะไรได้อีก  ยงฮวาแอบยิ้มให้กับความรู้จักกาลเทศะของน้องๆ

    “พี่ค่ะ  ชั้นรบกวนหรือเปล่า”  ซอฮยอนยังกังวล

    “ไม่หรอก  เหมือนอย่างที่จองชินบอกนั้นแหละมีอีกห้องที่เราจะใช้พักได้อยู่ข้างๆ” ซอฮยอนฟังแล้วพยักหน้าเข้าใจ  ยงฮวาจูงมือเธอให้ไปนั่งที่เก้าอี้หน้ากระจกสำหรับแต่งหน้าด้วยกัน  แล้วหมุนเก้าอี้ให้ตัวเองหันหน้าเข้าหาเธอ  “พี่แสดงเป็นไงบ้าง”  ยงฮวาถามกระตือรือร้น

    “สนุกค่ะ  ต่างจากที่เกาหลี  ที่นี่ดูเป็น...ร๊อคมากกว่าค่ะ  ชั้นชอบค่ะ”  ซอฮยอนบรรยายดวงตาเป็นประกายเมื่อนึกถึงยงฮวาที่เจิดจรัสบนเวที  ยงฮวายิ่งยิ้มกว้างขึ้นไปอีก  ใจอยากจะรอฟังคำสุดท้ายแค่คำเดียว  ยงฮวายกสองมือขึ้นมาเท้าคางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ซอฮยอน  ส่งสายตาหวานเยิ้ม

    “ชอบพี่เหรอ”  ซอฮยอนหน้าแดงขึ้นมาทันที  ตีเพี๊ยะเข้าที่ต้นแขนของเขา  จนยงฮวาสะดุ้งโหยง

    “พี่ก็  เดี๋ยวเหอะ”

    “แล้วไม่ใช่เหรอ”  ยงฮวายังแกล้งเย้า  ซอฮยอนไม่ทันได้ตอบโต้อะไรทีมงานคนหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามาพูดภาษญี่ปุ่นกับยงฮวา  เขาพยักหน้ารับแล้วหันกลับมาหาซอฮยอน

    “เดี๋ยวพี่มานะ”  ซอฮยอนพยักหน้ารับ  แล้วยงฮวาจึงเดินตามทีมงานออกไป  เหลือซอฮยอนอยู่เพียงลำพังในห้อง  จู่ๆเสียงเพลงที่คุ้นหูก็ดังขึ้น  เพลง Honey Honey เพลงโปรดของเธอ  ซอฮยอนรีบตามไปหาเสียงนั่น  ก็พบว่าเป็นเสียงที่ดังมาจากกระเป๋าของยงฮวา  เสียงโทรศัพท์มือถือของเขานั่นเอง  ซอฮยอนถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ  สงสัยว่ายงฮวาเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าเป็นเสียงเดียวกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่  เมื่อมองหน้าจอก็พบว่าเป็นสายจากคุณแม่ของยงฮวา

    “สวัสดีค่ะคุณแม่”  ซอฮยอนรับสายอย่างนอบน้อม

    “อ๊า...ซอฮยอนเหรอลูก  ดีใจจังที่ได้เจอหนู”  เสียงแม่ของยงฮวากระตือรือร้น

    “ค่ะ  พี่ยงฮวาออกไปกับทีมงานค่ะ  หนูเลยมารับสายแทน”

    “อยู่ด้วยกันที่ญี่ปุ่นสินะ  ทำไมไม่พากันมาหาแม่ที่ปูซานบ้างล่ะลูก  แม่น่ะคิดถึงหนูนะ”

    “ไว้คราวหน้าหนูจะหาเวลาไปเยี่ยมนะค่ะ” 

    “แม่จะรอนะ  แม่ฝากบอกพี่เขาว่าแม่โทรมาหานะ”

    “ค่ะ  เดี๋ยวพี่ยงฮวากลับมาหนูจะบอกให้โทรกลับนะค่ะ”

    “จ้า  ดูแลพี่เขาให้แม่ด้วยนะ”  แม่ของยงฮวาพูดแล้ววางสายไป  ซอฮยอนรับคำแล้วยิ้ม  เก็บโทรศัพท์คืนลงในกระเป๋าของยงฮวา  พลันก็เห็นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มหรูหราในกระเป๋าของยงฮวา  แม้จะรู้ว่าไม่ควรจะละลาบละล้วงแต่ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมา  เธอชั่งใจอยู่ครู่เดียวก่อนจะค่อยๆเปิดฝากล่องออก  พบว่าเป็นสร้อยคอเป็นเงินห้อยจี้รูปกีต้าร์  มีเม็ดอัญมณีสีขาวระยิบระยับประดับบนจี้  ซอฮยอนเผลออุทานคำว่าสวยออกมา  แต่แล้วก็ต้องรีบเก็บกล่องนั้นกลับคืนเข้าที่จนเกือบจะไม่ทันเมื่อ มินฮยอกพรวดพราดเปิดประตูเข้ามา

    “ซอฮยอนพวกเราจะไปฉลองกันไปด้วยกันป่าว” มินฮยอกดูตื่นเต้น

    “ห่ะ  อะไรนะ”  ซอฮยอนฟังไม่ถนัด  ขณะเดียวกันยงฮวา จองชิน จงฮยอนก็พากันทยอยเข้ามาในห้อง

    “ปาร์ตี้ ปาร์ตี้”  จองชินกับมินฮยอกพูดขึ้นด้วยความร่าเริง  ซอฮยอนมองไปที่ยงฮวาเหมือนจะขอความเห็น  เขาแค่เลิกคิ้วแล้วยิ้ม

    “ไปด้วยกันสิ  พวกเราไม่ได้ไปสนุกด้วยกันนานแล้ว” จงฮยอนเสริม

    “เก็บของ เก็บของ”  มินฮยอกและจองชินดูร่าเริง  ต่างช่วยกันเก็บอุปกรณ์ต่างๆของตัวเองเตรียมพร้อมเดินทาง

    จะอย่างไรก็แล้วแต่ซอฮยอนก็ถูกลากมาพร้อมกับสามแสบจนได้  แม้จะสนิทกันเป็นอย่างมาก  แต่ซอฮยอนก็ยังไม่เคยต้องไปปาร์ตี้หลังจบการแสดงกับหนุ่มแม้แต่ครั้งเดียว  เธอค่อนข้างกังวลและออกจะลำบากใจที่จะต้องไปอยู่ท่ามกลางทีมงานที่เธอไม่รู้จัก  จองชินกับมินฮยอกขึ้นไปนั่งอยู่เบาะหลังสุดพูดคุยหัวเราะเสียงดังหยอกล้อกันไปมาอยู่ตลอดเวลา  จงฮยอนแยกตัวห่างออกจากสองมักเน่แล้วงัดเอาไอแพดคู่กายขึ้นมาประจำการทันที  ยงฮวาถูกซอฮยอนบังคับให้โทรกลับไปหาแม่ทันทีที่เขาขึ้นมานั่งด้านหน้าข้างๆเธอ  เขาจึงจำเป็นต้องทำตามแม้จะรู้สึกเขินที่โทรหาแม่ของตัวเอง  ในขณะที่ต่างคนต่างสนใจแต่เรื่องของตนเอง  ซอฮยอนก็เผลอคิดไปถึงเรื่องสร้อยคอที่เธอเห็นในกระเป๋าของยงฮวา  ทำให้อดคิดถึงที่มาของมันไม่ได้  และแอบหวังเล็กๆว่ามันอาจจะเป็นของขวัญเซอร์ไพร์สจากเขา  ยงฮวาสะกิดซอฮยอนด้วยศอกของเขาเบาๆ  ทำเอาเธอหลุดจากความคิดเรื่องสร้อย

    “มีอะไรเหรอค่ะ” 

    “จะไม่พูดอะไรกับพี่เลยเหรอ  อุตส่าห์มาถึงที่นี่เพื่อจะมานั่งเหม่องั้นเหรอ”  ยงฮวาแซว

    “ก็พี่คุยโทรศัพท์กับคุณแม่อยู่นี่ค่ะ  จะให้ชั้นไปแทรกได้ยังไงล่ะค่ะ”

    “แม่พี่ถามด้วยล่ะว่าพี่ดูแลเธอดีหรือเปล่า” 

    “แล้วพี่ตอบว่ายังไงล่ะค่ะ”

    “พี่ก็ตอบไปว่า  พี่ดูแลเธอฝ่ายเดียวเลย  เธอไม่เคยสนใจพี่เลย”  ยงฮวาพูดแล้วหัวเราะ

    “พี่เนี้ย” ตีเพี๊ยะเข้าที่แขนของเขา “พูดแบบนั้นได้ยังไง  เดี๋ยวท่านจะเข้าใจผิดนะค่ะ”

    “แล้วไม่จริงเหรอ  เธอมัวแต่ทำงานกะไปเรียนทิ้งให้พี่ต้องคิดถึงเธออยู่คนเดียว”  ยงฮวากอดอกทำหน้างอ

    “อ๊าย...อะไรเนี้ย” ซอฮยอนกอดอกบ้าง  “พี่ก็เอาแต่ทำงาน  แล้วก็กอดสาวๆไปทั่วเหมือนกันแหละ”  ยงฮวาถูกเอาคืนทันควัน

    “พี่ไปกอดใครตอนไหน  ไม่มีสักหน่อย”  ยงฮวาเปลี่ยนท่าทีมาเป็นง้องอนซอฮยอนทันที

    “ชั้นเห็นนะ  พี่กอดคนนั้นคนนี้ไปทั่วเลย  ในงานแฟนไซน์น่ะ”

    “มันเป็นงานนี้”  ยงฮวาเอียงหัวของเขาไปแตะที่ไหล่ของซอฮยอนเป็นการขอโทษและรู้สึกผิดเหมือนที่เขาเคยทำทุกครั้งที่รู้สึกผิดต่อเธอ

    “คราวหน้าชั้นก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน”  ซอฮยอนควบคุมเขาได้อยู่หมัด

    “ฮ-ยอน อ่า  ไม่เอานะ”  เขายังเอียงหัวแตะที่ไหล่เธอซ้ำๆ  จองชินกับมินฮยอกมองทั้งคู่ผ่านช่องว่างระหว่างที่นั่งบนรถ  ซุบซิบกันเล็กน้อยก่อนที่จงชินจะเอ่ยปากขึ้น

    “นี่มันรถไปฮันนีมูนเหรอไง”  จองชินทำลอยหน้าลอยตา

    “จองชินอย่าพูดแบบนี้สิ  เขินนะเนี้ย”  มินฮยอกทำเสียงอ่อนเสียงหวานแกล้งนัวเนียจองชินล้อเลียน

    “พวกแกอยากตายหรือไง  ห๊า!!!  ยงฮวาเปลี่ยนเป็นโหมดโหดทันที  มินฮยอกทำท่าไม่แยแสแกล้งล้อเลียนนัวเนียกับจองชินต่อ

    “อ๊า...พวกนายเนี่ย  จริงๆเลย”  ซอฮยอนเขินหน้าแดงขึ้นมาทันที 

    ทั้งห้าคนเดินทางมาถึงปาร์ตี้ก็พบว่าเป็นผับหรูแห่งหนึ่งซึ่งทางทีมงานได้เตรียมไว้ก่อนแล้ว  จองชินกับมินฮยอกดูจะดีใจเกินเหตุรีบวิ่งลงจากรถไปทันที  จงฮยอนได้แต่มองตามทั้งสองคนแล้วยิ้มให้กับเด็กน้อยทั้งสองคน  ก่อนที่จะเดินตามเข้าไป  ซอฮยอนดูลังเลเมื่อมาถึง  ที่เธอคิดไว้มันควรจะเป็นแค่การรับประทานอาหารมื้อพิเศษร่วมกันเท่านั้น  แต่กลับกลายเป็นว่าเป็นผับสถานที่เที่ยวกลางคืนที่เธอไม่คุ้นเคย  ยงฮวากำลังจะก้าวเดินออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อซอฮยอนดึงแขนของเขาไว้

    “พี่ค่ะ  ชั้น...”  ซอฮยอนดูกังวล  ยงฮวาดูเหมือนจะเข้าใจเธอในทันที  ซอฮยอนบริสุทธิ์และสดใสมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เธอจะกลัวสถานที่แบบนี้  ยงฮวาก็แค่ทำให้เธอไว้ใจเขาเหมือนอย่างที่เคยทำ  เขาปล่อยมือจากเธอแล้วเปลี่ยนไปโอบเอวดึงร่างของเธอเข้ามาใกล้

    “พี่จะดูแลเธอเอง”  ยงฮวาให้ความเชื่อมั่น  แม้ซอฮยอนจะอยากวิ่งหนีไปมากเพียงใดแต่เธอก็บอกตัวเองว่าเธอควรจะไว้ใจเขาเหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา

    แสงไฟสลัวประกอบกับเสียงเพลงคลอเคล้าไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาในห้องที่หรูหรา  ประดับประดาไปด้วยแสงไฟต่างสี  ชวนให้ซอฮยอนตื่นตาตื่นใจเมื่อก้าวเข้าไปในห้องนั้น  สามแสบหนีหายไปอยู่ที่ไหนสักแห่งในห้องนี้  แต่เธอก็ไม่อาจมองเห็นได้อย่างชัดเจน  ยงฮวายังคงโอบเอวเธอไว้  ซอฮยอนเหมือนเด็กเล็กๆที่ดูตื่นเต้นเมื่อเห็นสถานที่แปลกใหม่  ยงฮวาโบกมือทักทายใครบางคนแล้วพาให้เธอเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นพร้อมกัน

    “ซอฮยอนก็มาด้วยเหรอ”  เป็นประธานฮัน  ประธานแห่ง FNC นั่นเอง  ยงฮวาและซอฮยอนโค้งคำนับเขาทันที  ซอฮยอนจำเขาได้ดี  ผู้ชายคนนี้เป็นทั้งเจ้านาย  เพื่อน  พี่  และที่ปรึกษาของยงฮวา

    “สวัสดีค่ะ”  ซอฮยอนทักทายเขาทันที

    “ประหลาดใจจริงๆที่เจอหนูวันนี้”  เขาทักทายกลับอย่างสนิทสนม

    “คอนเสิร์ตใหญ่ของผมนะครับ  ซอฮยอนจะไม่มาได้ไง”  ยงฮวารีบท้วง

    “เห็นในเน็ตเขาลือกันให้แซ่ดว่ายงฮวาถูกทิ้งแล้วนี่”  ประธานฮันแกล้งยงฮวากลับ  ซอฮยอนได้แต่ยิ้ม

    “พี่พูดแบบนี้  มาฉีกสัญญากันเลยดีกว่า”  ยงฮวาพูดติดตลก

    “ชั้นรู้หรอกน่า”  เขาพูดแล้วเอื้อมมือมาตบไหล่ยงฮวาเบาๆ  “ไปสนุกเถอะ  เดี๋ยวไม่ทันเจ้าสามแสบนั่น”  ยงฮวากับซอฮยอนจึงได้ปลีกตัวออกมา  ยงฮวาพยายามมองหาสามแสบอยู่พักเดียว  จองชินก็เดินเข้ามาด้านหลังของทั้งคู่แล้วยื่นหน้าเข้าไปแทรกกลางระหว่างสองคน

    “นี่ที่สาธารณะนะครับ  ไม่ใช่ที่บ้าน  ลดความหวานลงหน่อยครับ”  จองชินแซว  ซอฮยอนตกใจจนขยับตัวออกจากอ้อมแขนของยงฮวา  เมื่อรู้ว่าเห็นจองชินเธอก็อดที่จะเขินไม่ได้  พูดจบจองชินก็จูงมือทั้งสองคนให้เดินตามเขาไปยังโต๊ะที่มินฮยอกกับจงฮยอนนั่งรออยู่ก่อน  หลังจากจัดแจงที่นั่งให้คู่รักแล้วจองชินก็เริ่มสั่งเครื่องดื่มทันที

    “เบียร์สี่ครับ  เอ่อ...ซอฮยอนดื่มอะไรอ่ะ”  เขาหันมาถามเธอ

    “น้ำผลไม้ได้ไหม”  ซอฮยอนตอบหวั่นๆ เนื่องจากไปไม่แน่ใจว่าจะมีน้ำผลไม้ในสถานที่แบบนี้หรือไม่  จงชินหันไปซุบซิบกับพนักงาน  ยงฮวามองดูน้องชายด้วยความสงสัย  หลังจากพนักงานจากไปแล้วเขาจึงถามขึ้น

    “นายสั่งอะไรให้ซอฮยอน” 

    “ก็แค่พั๊นซ์น่ะพี่  อร่อยๆ”  จงชินเจ้าเล่ห์หันไปส่งซิกให้มินฮยอกคู่หู  จงฮยอนมองดูคู่ซี้แล้วยิ้มเหมือนจะอ่านเกมส์ของคู่ซี้ออก

    “อย่าได้แม่แต่จะคิดนะโว้ย  ซอฮยอนไม่ดื่มแอลกอฮอลล์”  ยงฮวาบอกคาดโทษกับน้อง  ซอฮยอนพยักหน้าเห็นด้วย

    “โนแอล  โนเมา โนฟัน”  จองชินพูดติดตลกแล้วหันไปไฮไฟว์กับมินฮยอกราวกับว่าชนะเกมส์อะไรสักอย่าง  ซอฮยอนมองพฤติกรรมของเพื่อนทั้งสองอย่างสงสัย

    “ไม่มีอะไรหรอกน่า  พี่ก็ทำยังกับว่าไอ้สองคนนี้มันจะคิดร้ายอะไร  พี่ก็อยู่ตรงนี้ทั้งคน”  จงฮยอนนึกสนุกอยากเข้าร่วมแผนการไปกับคู่ซี้  ยงฮวาต้องยอมรับว่าเห็นด้วยกับที่จงฮยอนพูด  สองมักเน่ขี้เล่นแต่ก็เป็นเด็กดีมากในสายตาเขา  ไม่มีทางคิดไม่ดีกับซอฮยอน  เครื่องดื่มมาถึงในไม่ช้า  ซอฮยอนรับมาถือไว้ในมือ  ยังรู้สึกแปลกๆ  จองชินกับมินฮยอกแกล้งทำเป็นไม่สนว่าเธอจะดื่มมันหรือไม่ 

    “ถ้าเธอไม่อยากดื่มมัน  เธอก็ไม่ต้องดื่มนะ”  ยงฮวาบอกกับเธอ

    “ไม่เป็นไรค่ะ  มันก็ดูสวยดี  น่าจะอร่อย”  ซอฮยอนไม่อยากทำตัวให้เป็นปัญหา  จองชินแอบส่งซิกให้มินฮยอกเป็นไปตามแผนแล้วยกขวดเบียร์กรอกน้ำสีอำพันเข้าปาก  เธอค่อยๆละเลียดจิบอย่างระมัดระวัง  เมื่อพบว่ารสชาติดีและก็ดูไม่มีพิษภัยอะไร  ถึงจึงกล้าดื่มอย่างมั่นใจ

    “โอเคมั๊ย”  ยงฮวายังห่วง

    “อร่อยค่ะ” ซอฮยอนหันไปพูดกับยงฮวา  ก่อนจะหันไปหาจองชิน  “จองชินชินกู  นายรู้ได้ยังไงว่าชั้นจะชอบ”  ซอฮยอนดูร่าเริง

    “มันแน่อยู่แล้ว”  จองชินยักไหล่  จงฮยอนได้แต่มองพฤติกรรมของคู่ซี้แล้วยิ้ม  ยงฮวาดูโล่งอก  แน่นอนเมื่อเขาอยู่ด้วยไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับเธอ  เพราะเขาจะดูแลเธอเอง  เขาพยักหน้าพอใจที่ซอฮยอนดูผ่อนคลายขึ้น

    “อันนี้อร่อยกว่าอันที่พี่ซื้อให้ชั้นตอนเราไปพักที่เรียวกังนะค่ะ”  ซอฮยอนยังคงติดใจในรสชาติของเครื่องดื่มสีสวยในมือ

    “อันนั้นมันไม่มีแอลกอฮอลล์นิ่”  ยงฮวาบอก

    “หมายความว่าอันนี้มีเหรอค่ะ”  ซอฮยอนมองแก้วทำตาโต  แล้วหันไปมองจองชินเหมือนจะหาคำตอบ

    “นิดหน่อย”  จองชินยกมือขึ้นใช้นิ้มหัวแม่มือแตะปลายนิ้วก้อยเพื่อยืนยันว่ามันเล็กน้อยจริงๆ

    “อ่อ...ไม่เมาใช่มั๊ยค่ะ”  ซอฮยอนหันมาถามยงฮวา  ยงฮวาอึกอัก

    “มันมีแอลกอฮอลล์”  จงฮยอนย้ำคำคล้ายๆจะตอบคำถามแทนยงฮวา  ซอฮยอนพยักหน้าเข้าใจ

    “ไม่เป็นไรหรอก  ถ้าดื่มไม่เยอะ  มันมีอยู่นิดหน่อยเอง  ไม่เมาๆ  เชื่อเราสิ”  มินฮยอกยุส่ง

    “ชั้นจะลองดูค่ะ  ไม่เป็นไรใช่มั๊ย”  ซอฮยอนหันไปถามยงฮวาอีก  ยงฮวาพยักหน้าแล้วยิ้มแหยงๆ  ไม่แน่ใจว่าควรจะปล่อยให้เธอทำตามใจหรือเปล่า

    “แต่เธอต้องจำไว้ว่าจะดื่มอะไรแบบนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีพี่อยู่ด้วยเท่านั้น  เข้าใจมั๊ย”  ยงฮวาพูดจริงจัง

    “กับพี่ๆของชั้นก็ไม่ได้เหรอค่ะ”  ยงฮวาส่ายหน้า

    “กับพี่คนเดียวเท่านั้น”  แล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ซอฮยอนพยักหน้า

    สามแสบกับคู่รักต่างพากันพูดคุยสนุกสนาน  มีทีมงานแวะเวียนมาทักทายเป็นช่วงๆ  แม้จะมีข่าวลือต่อๆกันมานานว่ายงฮวามีเจ้าของหัวใจเป็นเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังแต่ก็ยังไม่เคยมีใครได้รับรู้ความจริงข้อนี้จากปากของเขานอกจากสมาชิกในวงกับคนที่เขาสนิทจริงๆเท่านั้น  ตอนนี้ภาพตรงหน้าของทีมงานเกือบครึ่งร้อยได้ยืนยันแล้วว่าข่าวลือนั้นเป็นความจริง  CNBLUE จองยงฮวา กำลังเดทกับ SNSD ซอฮยอน  นี่คงไม่ใช่ความลับในวงการอีกต่อไป

    “พี่ค่ะ  ชั้นคิดว่าชั้นอาจจะเมา”  ซอฮยอนกระซิบข้างหูของยงฮวา  ยงฮวาอดขำในความซื่อของเธอไม่ได้

    “ก็น่าจะใช่  เพราะเธอดื่มเข้าไปเยอะมาก”  ยงฮวาบอกหลังจากการทบทวนการดื่มของแฟนสาวที่แสนจะติดใจในรสของคอกเทลแสนหวานนั้น  เธอน่าจะดื่มเข้าไปไม่ต่ำกว่า 4-5 แก้วแล้ว ณ ตอนนี้  สามแสบก็เริ่มสนุกได้ที่  หลังจากหมดเบียร์ไปคนละหลายขวด

    “เมาแล้วเหรอ”  จองชินถามเมื่อเห็นซอฮยอนพยายามสะบัดความมึนงงออกจากหัวของเธอ

    “ฝาแฝดของชั้นทำไมคออ่อนจังเลย”  มินฮยอกเริ่มชงต่อ

    “แค่มึนๆน่ะ”  ซอฮยอนไม่อยากเสียฟอร์ม

    “งั้นสั่งอีก ๆ สั่งมาเลย”  จองชินเริ่มได้ที่แล้ว  รีบสั่งเครื่องดื่มมาให้ซอฮยอนอีก

    “พอเหอะน่า  พวกนายนี่จะมากไปแล้วนะ”  ยงฮวาเริ่มดุน้องๆ  แต่ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ทำให้ความกล้าของคู่ซี้เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ 

    “พี่ก็  สนุกๆน่า”  มินฮยอกทำใจกล้าต่อ

    “ชั้นยังไม่ได้จัดการพวกนายเรื่องคอกเทลนั่นเลยนะ”  ยงฮวาเอาจริง

    “ชั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะ” ซอฮยอนสะกิดยงฮวาไว้  “กำลังสนุกเลยพี่อย่าไปดุน้องๆสิค่ะ”  ซอฮยอนออกจะเกรงใจและไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้บรรยากาศเสีย  ยงฮวาไม่อาจต้านทานคำพูดของซอฮยอนได้  ได้แต่ปล่อยให้เป็นไป  ในที่สุดซอฮยอนก็กลายเป็นคนอารมณ์ดีผิดหูผิดตาเพราะฤทธิ์แอลลกอฮอลล์นิดหน่อยของจองชิน  สนุกสนานเฮฮาไปกับคู่ซี้อย่างสนุกสนาน  จงฮยอนนั่งมองดูแผนการของสองแสบดำเนินไปเรื่อยๆ ตลกในความใสซื่อของซอฮยอนที่หลงกลสองแสบอย่างง่ายดาย  แต่คนที่ดูจะอยู่ไม่เป็นสุขกับกลายเป็นยงฮวาที่ดูจะห่วงซอฮยอนมากเกินเหตุ

    “ตั้งแต่มาพี่จงฮยอนไม่พูดอะไรเลยนะค่ะ”  ซอฮยอนช่างพูดขึ้นมาทันที  “วันนั้นที่หลังเวที  ไม่เห็นพี่เงียบแบบนี้เลย”  ซอฮยอนยังคงพูดต่อ  สามคนที่เหลือหูผึ่งทันที  เวทีไหนเมื่อไหร่กันที่ซอฮยอนได้เจอกับจงฮยอนแล้วพวกเขาไม่รู้  “พี่ฮโยยอนน่ะเอาแต่เปิดซีดีที่พี่ให้ไปฟังเป็น ร้อย ร้อยรอบ”  ซอฮยอนเน้นเสียง  ยงฮวาถึงกับงงกับตรรกะภายในหัวของเขา  ฮโยยอนกับจงฮยอนเกี่ยวข้องกันยังไง 

    “ซอฮยอน อ่า...อย่านะ”  จงฮยอนพยายามจะห้าม  แต่คล้ายว่าจะไม่ทันเสียแล้ว

    “พี่จะเดทกันใช่มั๊ย  ชั้นน่ะสงสัยเรื่องนี้มากๆเลย”  ซอฮยอนต่อ  จงฮยอนได้แต่ฝืนยิ้มพยักหน้ารับชะตากรรม  คู่ซี้จองชิน  มินฮยอกถึงกับตกตะลึงไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

    “เวลาเธอเมานี่มันน่าสนใจจริงๆ”  จองชินพูดขึ้น  เริ่มสะใจที่ความลับของจงฮยอนเริ่มเปิดเผย

    “ชั้นไม่ควรพูดสินะ”  ซอฮยอนพูดแล้วหัวเราะ  จงฮยอนถึงกับเซ็ง

    “เธอพูดไปหมดแล้ว”  จงฮยอนพูดเซ็งๆ  ยงฮวาหัวเราะก๊ากออกมาสะใจที่ความลับของจงฮยอนเปิดเผยจากปากของคนที่น่าเชื่อถือที่สุด

    “โห...สุดยอดอ่ะ  พี่จงฮยอนในที่สุดพี่ก็จะเดทแล้วเหรอ”  มินฮยอกดูชื่นชม  จงฮยอนได้แต่โบกไม่โบกมือเป็นการปฏิเสธเพราะอายเกินกว่าจะพูดออกมา  “เล่าให้ฟังหน่อยสิ  นะนะนะนะ”  มินฮยอกเร่งเร้า

    “ซอฮยอน  ทำไมทำกับพี่แบบนี้เนี่ย”  จงฮยอนตัดพ้อ  ซอฮยอนได้แต่ส่ายหน้าไม่รับรู้

     

    วันนั้นที่หลังเวที K-POP All Star Live in Niigata  ระหว่างรอขึ้นเวที  จงฮยอนอาศัยช่วงที่สมาชิกในวงต่างวุ่นวายเตรียมตัวอยู่หลังเวทีแอบไปด้อมๆมองๆอยู่ที่ห้องแต่งตัวของ SNSD  อาจจะเป็นโชคดีที่บังเอิญเขาได้พบกับซอฮยอนที่กำลังจะไปเข้าห้องน้ำ  เหมือนกับซอฮยอนจะรู้ได้ทันทีว่าจงฮยอนมาทำอะไรแถวๆห้องแต่งตัวของพวกเธอ  เธอจึงอาสาจะพาฮโยยอนมาพบเขาเอง  เมื่อทั้งสองคนพบกันต่างก็ประหม่าอย่างเห็นได้ชัด  ซอฮยอนแค่รับหน้าที่ดูต้นทางให้  จงฮยอนเอาซีดีพร้อมลายเซ็นของเขามาให้ฮโยยอนนั่นเอง  นี่ออกจะเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของฮโยยอนไปมาก  แต่ก็ใช่ว่าเธอจะไม่แอบหวังไว้  หลังจากที่ได้พบกันครั้งสุดท้ายที่คาเฟ่ใกล้ๆหอพักของเธอ  มีบางสิ่งบางอย่างที่บอกกับเธอว่าสิ่งดีๆกำลังจะเกิดขึ้น  ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างเขินอายอยู่เพียงครู่เดียวเพราะต่างก็ต้องเตรียมตัวไปทำงานจึงต้องแยกจากกัน

    “พี่จงฮยอนกับฮโยยอนนู่น่า  ทำไมชั้นถึงไม่รู้อะไรเลยเนี่ย”  จองชินเริ่มตัดพ้อ

    “อ๊ะ อ๊ะ นายก็มีนี่”  ซอฮยอนยังคงเดินหน้าแฉภายใต้ความเมา  “ชั้นรู้นะ”  ซอฮยอนวางท่าถือไพ่เหนือกว่า

    “เฮ้ย...มาถึงชั้นได้ไง  ซอฮยอนอย่าคิดแม้แต่จะพูดนะ”  จองชินร้อนตัว  ซอฮยอนหัวเราะร่วน

    “พูดดีมั๊ยค่ะ”  เธอหันไปถามยงฮวา  ยงฮวาอมยิ้มซอฮยอนเมาได้น่ารักจริงๆ

    “นี่เป็นผลกรรมที่นายก่อว่ะ”  ยงฮวาบอกจองชิน  สะใจ  จองชินแทบไม่อยากจะฟัง

    “ใครน้า  คนนั้นนะที่เป็นลีดเดอร์เหมือนพี่ยงฮวา”  มินฮยอกทำตาโตเมื่อได้ฟัง  จงฮยอนยิ้มพอใจที่โฟกัสพุ่งไปที่อื่น  ยงฮวารอฟังอย่างตั้งใจ

    “ซอฮยอนอย่านะ  ไม่นะ  ได้โปรด  ชั้นขอร้อง”  จองชินอ้อนวอนเมื่อรู้ว่าซอฮยอนเริ่มมาถูกทาง

    “ไปงานที่นิงาตะกับพวกเราด้วยล่ะ”  ซอฮยอนเล่นใบ้คำสนุกสนาน  มินฮยอกตื่นเต้นสุดขีด

    “ซอฮยอน  ชั้นจะไม่แกล้งเธออีกแล้ว  นะนะนะน” จองชินยิ่งร้อนตัวไปใหญ่

    “โอเค ไม่พูด”  ซอฮยอนกลับลำทันที  ทำเอามินฮยอกถึงกับเซ็ง  ยงฮวาหัวเราะเบาๆกับมุขตลกของซอฮยอนที่ทำเอาจองชินถึงกับหมดท่า  จงฮยอนนั่งนิ่งเพียงแต่หวังว่าเรื่องจะไม่วกกลับมาหาเขา

    “นี่นายคงไม่ได้ไปชอบซังกยู(leader Infinite นะค่ะ เผื่อมีคนไม่ทราบค่ะ)หรอกนะ”  ยงฮวาแกล้งเย้า

    “พี่จะบ้าหรือไง”  จองชินยังเซ็ง

    “ไม่ไหวจริงๆเล้ยยยยย”  ซอฮยอนพูดแล้วโงนเงนไปมา  บ่งบอกอาการว่าเมาเต็มที่  แล้วหงายหลังพิงโซฟาหลับไปทันที  ยงฮวาหันไปมองแล้วเกาหัวแกรกๆ  ไม่รู้จะทำยังไงกับสาวน้อยผู้ไร้เดียงสาคนนี้

    “เป็นอันจบ”  จองชินปิดประเด็น “ชนๆๆ”  หันไปชวนให้คนอื่นมาดื่มด้วยกัน  มินฮยอกอยากรู้เต็มที่แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางที่จะหลุดออกจากปากจองชินแน่ๆ 

    งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา  หลังจากสองมักเน่เมาได้ที่ก็ถึงคราวที่จงฮยอนและยงฮวาต้องลากทั้งสองคนกลับ  แถมซอฮยอนที่หลับเป็นตายอีกคนที่ยงฮวายังต้องดูแล  ยงฮวาปลุกให้ซอฮยอนตื่นเพื่อที่จะพาเธอกลับ  ซอฮยอนลืมตาขึ้นมาแต่ก็เมาเกินจะรับรู้อะไรได้  เขาค่อยประคองซอฮยอนมาที่รถอย่างระมัดระวัง  สองมักเน่เมาแอ๋หลับอยู่ที่เบาะหลัง  ถ้าเทียบกับเขาแล้วจงฮยอนต้องทำงานหนักมากกว่าหลายเท่าเพื่อลากเจ้าเด็กสองคนที่ตัวโตยังกะยักษ์มาที่รถ  เขาจัดแจงให้ซอฮยอนอยู่ในท่าที่สบายโอบกอดเธอไว้ในอ้อมอก  เหมือนจะปกป้องเธอจากอันตรายใดๆก็ตามที่อาจจะผ่านเข้ามาในขณะที่เธอหลับไม่รู้เรื่องในตอนนี้  ซอฮยอนเหมือนเด็กเล็กๆที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของยงฮวาหลับสบายอยู่แบบนั้น

    “เอาไงดี  ซอฮยอนเมาขนาดนี้”  จงฮยอนเอ่ยขึ้น

    “ไปหอล่ะกัน  ไปส่งที่โรงแรมคงไม่ได้มั๊ง  เดี๋ยวพนักงานแตกตื่นกันพอดี” ยงฮวาเสนอ  จงฮยอนเห็นด้วย

    “เพราะไอ้สองคนนี่เลยนะเนี่ย  สร้างเรื่องแล้วยังเมาหนีไปเฉยๆเลย”  จงฮยอนบ่น

    ยงฮวาแบกซอฮยอนใส่หลังพาเธอมาที่หอพักของ CNBLUE  ปล่อยให้จงฮยอนสู้รบปรบมือกับสองมักเน่อยู่ข้างหลัง  ความรู้สึกนี้มันคุ้นๆ  เหมือนเดจาวู  เขาเคยให้ซอฮยอนขี่หลังตอนที่ยังอยู่ในรายการเรียลลิตี้โชว์ด้วยกัน  ข้างๆแม่น้ำฮันที่งดงามแต่เขากลับไม่ได้รู้สึกถึงความงดงามนั้นมากไปกว่าหญิงสาวผู้งดงามที่อยู่บนหลังของเขาในตอนนั้น  ในสายตาเขาซอฮยอนสวยขึ้น  น่ารักมากขึ้นทุกวัน  และก็รู้สึกว่าความรักที่มีให้เธอมันมากขึ้นไปเรื่อยๆ  ยงฮวาเคยคิดสงสัยเหมือนกันว่ามันจะมากได้แค่ไหน  เพราะมันดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุดเลยสำหรับความรู้สึกในใจเขา

    ยงฮวาค่อยๆวางร่างอันบอบบางลงบนเตียงนอนของเขาอย่างทะนุถนอมด้วยกลัวว่าจะเป็นการรบกวนให้เธอตื่น  แล้วก้มลงถอดรองเท้าให้เธออย่างระมัดระวัง  ซอฮยอนขยับตัวเล็กน้อยเมื่อร่างของเธอสัมผัสบนเตียงนอนอันอบอุ่น  ค่อยๆเผยอเปลือกตาขึ้นมามองผู้ชายที่จ้องมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน

    “พี่ยังไม่นอนอีกเหรอค่ะ”  ซอฮยอนงัวเงีย  ยงฮวานั่งลงข้างเธอเอื้อมมือไปลูบผมเธออย่างอ่อนโยน

    “พี่กำลังจะนอน”  เต็มไปด้วยความอ่อนโยนในน้ำเสียง

    “ชั้นง่วงมากๆเลยค่ะ  ลืมตาไม่ขึ้นเลย”  ซอฮยอนไร้เดียงสาอย่างที่เธอเป็นเสมอ  ยงฮวาค่อยๆโน้มกายลงไปจุมพิตที่หน้าผากเธออย่างแผ่วเบา  ซอฮยอนหลับตารับจุมพิตจากเขาด้วยความหวามไหวในใจ

    “นอนเถอะ  เดี๋ยวพี่จะไปนอนกับจงฮยอน”  ยงฮวาบอกให้เธอสบายใจ  ซอฮยอนปิดเปลือกตาที่รู้สึกหนาหนักนั้นลงอย่างช้าๆ  ยงฮวากระชับผ้าห่มเข้ากับร่างของซอฮยอนด้วยความห่วงใย  ดูให้แน่ใจว่าเธอจะหลับสบายแล้วจึงออกจากห้องไป

    ยงฮวาค่อยๆเปิดประตูห้องนอนของจงฮยอนเบาๆ  ด้วยกลัวว่าจะเป็นการรบกวนให้จงฮยอนต้องตื่นขึ้นมา  แล้วจึงถอดแจ๊คเก็ตของเขาออกโยนไปกองไว้บนโต๊ะทำงานของจงฮยอน  ค่อยๆคลานขึ้นไปนอนข้างๆจงฮยอนอย่างระมัดระวัง  จงฮยอนรู้สึกตัวได้ทันทีลืมตาขึ้นมาในความมืดก็รู้ได้ว่าเป็นพี่ชายร่วมวงของเขาที่มานอนอยู่ข้างๆ  จึงขยับกายไปอีกฝั่งของเตียงเพื่อแบ่งให้ยงฮวาได้นอนให้สบาย

    “นายยังไม่นอนเหรอ”  ยงฮวาถามขึ้น

    “กำลังจะหลับ  ทำไมพี่ถึงมานอนกับผมล่ะ”  จงฮยอนถามแม้จะรู้คำตอบดีอยู่ในใจ  พี่ชายของเขาไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบฉวยโอกาส  นี่ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายของเขา

    “แล้วนายจะให้ชั้นไปนอนที่ไหนล่ะ”  ยงฮวาถามติดตลก

    “นั่นสินะ  ไอ้สองคนนั้นต้องแทบจะคลั่งแน่ๆถ้าร้ว่าแผนที่มันวางไว้ให้พี่ต้องโดนพี่ทำลายซะเอง”

    “ชั้นไม่ใช่คนแบบนั้นนายก็รู้  แล้วเจ้าสองคนนั่นมันก็คงรู้แหละว่าแผนมันจะพังถ้ามาฝากความหวังไว้กับชั้น”  ยงฮวาอยากจะหัวเราะขึ้นมาเฉยๆเมื่อนึกถึงแผนการที่ไม่มีวันประสบความสำเร็จของสองมักเน่

    “นี่พี่ชอบซอฮยอนจริงๆใช่มั๊ย” ฟังดูเหมือนจะเป็นคำรำพึงรำพันของจงฮยอนมากกว่าจะเป็นคำถาม  ยงฮวาถอนหายใจเฮือกใหญ่  ก่อนจะพูดออกมา

    “เป็นคำถามที่น่าสนใจจริงๆ”  ยงฮวานิ่งคิดไป  “นายควรจะลองมีความรู้สึกแบบที่ชั้นมีในตอนนี้ดูสักครั้ง  แล้วนายจะรู้ว่าเพราะอะไรนายถึงได้ยอมแลกทุกอย่างๆ  เพียงแค่ให้มีคนๆหนึ่งอยู่เคียงข้างนาย”  จงฮยอนไม่อาจเห็นสีหน้าของพี่ชายได้ในความมืด  แต่เขารับรู้ได้ดีถึงความหนักแน่นในคำพูดของยงฮวา

    “อยากจะลองดูสักครั้งเหมือนกัน”  จงฮยอนบอก

    “กับฮโยยอน  ถ้านายคิดว่าใช่  นายก็ไม่ควรที่จะปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง”  ยงฮวาพยายามจะแนะนำในแบบที่พี่ชายควรจะทำ  จงฮยอนถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

    “ตอนนี้มันยังไม่แม้แต่จะเริ่มต้นด้วยซ้ำ”  จงฮยอนดูมืดมน

    “ก็แค่ทำมัน”  ยงฮวาให้กำลังใจ  “เมื่อเจอคนที่ใช่นายก็แค่คว้าไว้  การที่ได้ผ่านช่วงเวลาที่เจ็บปวดจากการห่างไกลจากคนที่เรารัก  มันทำให้ชั้นรู้ว่าชั้นจะไม่มีวันปล่อยให้คนที่ชั้นรักหลุดมือ  ถ้านายไม่อยากจะเจ็บปวดนายก็ควรจะรักษาเธอไว้”  ยงฮวาพูดแล้วค่อยๆหลับตาลงช้าๆ  ไม่มีเสียงตอบใดๆกลับจากจงฮยอน  เขากำลังใช้ความคิด  และตั้งคำถามกับตัวเอง  “เขาจะพร้อมยอมแลกทุกอย่างเพื่อใครสักคนหรือยัง  และใครคนนั้นจะพร้อมยอมทำทุกอย่างเพื่อเขาเหมือนที่ซอฮยอนทำให้พี่ยงฮวาหรือป่าว”

    เสียงมีดกระทบกับเขียงดังเป็นจังหวะ  พร้อมกับน้ำซุปที่กำลังเดือดส่งกลิ่นหอมอบอวลตั้งแต่เช้าตรู่  ยงฮวาแต่งตัวเต็มยศสวมผ้ากันเปื้อนวุ่นอยู่หน้าเตา  เตรียมอาหารเช้ามื้อสำคัญ  จงฮยอนแสดงความแปลกในออกมาทางสีหน้าทันทีที่พบว่าพี่ชายของเขากำลังเข้าครัวทำอาหาร  แม้จะเคยเห็นยงฮวาทำแบบนี้ในรายการทางทีวี  แต่ก็ใช่ว่ามันจะเป็นเรื่องประจำที่เขาทำจนชินตา  จงฮยอนค่อยๆเลียบๆเคียงๆ  เข้าไปหายงฮวา

    “พี่ไม่ได้คิดจะวางยาเจ้าสองคนนั่นใช่มั๊ย”  จงฮยอนถามแบบหวาดๆ

    “ไม่นี่  ก็แค่อาหารเช้า”  ยงฮวาพยายามตอบให้เป็นธรรมชาติทั้งๆที่ก็อายอยู่เหมือนกันที่ลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้  จงฮยอนกวาดสายตาไปทั่ว  ทำจมูกฟุดฟิด

    “เสร็จแล้ว”  ยงฮวาพูดขึ้นหลังจากส่งส่วนผสมสุดท้ายลงไปในน้ำซุปข้นที่กำลังเดือด  “นายจัดการต่อทีนะ  ชั้นจะไปปลุกซอฮยอน  ต้องกลับเกาหลีแต่เช้านี่หน่า”  ยงฮวาพูด  ประโยคหลังเหมือนพึมพำกับตัวเอง

    ยงฮวาเปิดประตูเข้าไปในห้องของเขาช้าๆ  ซอฮยอนยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง  เธอดูสงบนิ่งซุกตัวอยู่ในผ้าห่มราวกับเด็กน้อยๆ  ยงฮวาขยับเข้าไปใกล้ๆ  โน้มตัวลงไปช้าๆแล้วมอบจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ  ซอฮยอนรู้สึกตัวได้ทันทีที่ได้รับสัมผัสนั่น  เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้า  เมื่อพบว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นยงฮวาเธอก็เผยยิ้มออกมา

    “ตื่นได้แล้วเด็กน้อย  ไม่กลับเกาหลีหรือไง”  ยงฮวามองเธออย่างเอ็นดู  ซอฮยอนบิดตัวไปมาเพื่อให้ร่างกายสดชื่น  ก่อนจะลืมตาโพล่งออกมา

    “กี่โมงแล้วค่ะ  ชั้นตื่นสายหรือเปล่า”

    “เราพอมีเวลา  ทานอาหารเช้าแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่ง”  ซอฮยอนพยักหน้าเห็นด้วย  “พี่รอข้างนอกนะ”  ยงฮวาพูดจบก็เดินออกไป  ปล่อยให้ซอฮยอนได้ตั้งสติทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  เธอมองสำรวจไปรอบห้อง

    “ห๊ะ  นี่ไม่ใช่ห้องเราเหรอ”  ซอฮยอนเหมือนเพิ่งจะคิดได้  “แล้วพี่ยงฮวาเข้ามาในห้องได้ไง”  ซอฮยอนเบิกตาโพลง  ไม่อยากจะคิดถึงเหตุการณ์ที่เธอจำไม่ได้เมื่อคืนนี้  เปิดผ้าห่มออกสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองทันที  เสื้อผ้ายังอยู่ครบดี  เธอไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป  หรือว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเธอก็อาจจะไม่รู้สึกอย่างนั้นหรือ 

    “อะไรเนี่ย  ชั้นทำอะไรไป  ใครจะบอกเรื่องนี้กับชั้นได้เนี่ย”  ซอฮยอนรำพึงรำพันซ้ำไปซ้ำมา  ขณะที่พยายามดูแลตัวเองให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้อง  ทั้งพะว้าพะวง  ไม่รู้ว่าจะทำหน้าอย่างไรถ้าต้องออกไปพบกับยงฮวาในตอนนี้  แต่ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจออกไปจากห้องอย่างกล้าๆกลัวๆ  จงฮยอนกับยงฮวานั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารในห้องโถง  เธอสังเกตว่าสองคนนั้นดูปกติดี  ไม่มีทีท่าอะไรแปลกๆเลย  ซอฮยอนค่อยเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆยงฮวา  จงฮยอนยิ้มให้เป็นการทักทายในยามเช้า  ซอฮยอนทำได้แค่การโค้งคำนับเขาเท่านั้น  ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปาก

    “ข้าวหน้าเนื้อของโปรดเธอน่ะ  พี่ทำเองนะ”  ยงฮวาดูภาคภูมิใจ  ซอฮยอนไม่อยากอาหารสักนิด  เอาแต่ก้มหน้าห่อไหล่  ทำซังกะตาย  ซอฮยอนไม่อยากตีโพยตีพายไปในสิ่งที่เธอกลัว  แต่สถานการณ์แบบนี้ก็อดทำให้เธอต้องกลัวไม่ได้  ไหนจะยังข้อขัดแย้งในใจเรื่องที่เธอมั่นใจมาตลอดว่ายงฮวาไม่มีทางจะทำร้ายเธอ  ซอฮยอนฝืนทานอาหารลงไปทั้งๆที่ไม่มีแก่ใจ  ยงฮวาจับสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลง  แต่ก็ยังคิดไปว่าอาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ก็เป็นได้ที่ทำให้ซอฮยอนไม่สดชื่นในเช้านี้  จงฮยอนนั่งกินอย่างเงียบๆ  รู้สึกตัวเหมือนเป็นกระดูกชิ้นโตบนโต๊ะอาหาร  สองมักเน่ก็เมาจนลุกไม่ขึ้น 

    ซอฮยอนยังไม่พูดอะไรจนนั่งมาในรถด้วยกันตามลำพังกับยงฮวา  ระหว่างทางไปโรงแรมที่พักของซอฮยอนจึงตัดสินใจที่จะถามเขาถึงเหตุการณ์เมื่อคืน  แต่จะถามอย่างไร  เธอควรใช้คำพูดว่าอะไร  ซอฮยอนยังไม่แน่ใจ

    “โกรธกันหรือไง”  ยงฮวาเหมือนจะอ่านใจเธอออก  ซอฮยอนได้แต่ส่ายหน้าไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา  “เด็กน้อย  พี่รู้จักเธอดี  ตอนนี้เธอต้องไม่ปกติแน่ๆ”  ยงฮวาแกล้งหยอกเอื้อมมือไปสะกิดที่ต้นแขนของซอฮยอนเบาๆ  ซอฮยอนอึกอัก  ชั่งใจจะพูดดีหรือไม่

    “เมื่อคืนชั้นเป็นไงบ้างค่ะ”  ยังไม่กล้าสบตา

    “จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” ยงฮวายังคงดูสนุกสนาน  ไม่ได้คาดคิดถึงสิ่งที่ซอฮยอนกังวลอยู่

    “เมื่อคืน...”  ซอฮยอนนิ่งไป  “พี่นอนที่ไหน”  ซอฮยอนพูดออกมาอย่างลำบาก  ยงฮวายิ้มกว้างเข้าใจได้ในทันทีถึงสิ่งที่ซอฮยอนกังวล

    “ก็นอนที่หอสิ  จะให้พี่ไปนอนที่ไหน”  เขาอยากจะแกล้งอ้อมไปอ้อมมาบ้าง

    “ชั้นทำอะไรที่ไม่ดีรึปล่าวค่ะ”  ซอฮยอนยิ่งกังวล  ยงฮวาทำเป็นว่านิ่งคิด

    “เยอะเชียวล่ะ  พี่ไม่คิดว่าเธอจะมีด้านนี้เลย”  ยงฮวาเน้นเสียงให้ดูเป็นเรื่องน่าสนใจ  ซอฮยอนยิ่งทวีคูณความกลัวเข้าไปอีก

    “พี่ยงฮวา”  ซอฮยอนเสียงสั่นทำท่าจะร้องไห้  ซุกหน้าลงกับตักตัวเอง  ยงฮวาชักจะตลกไม่ออกเพราะซอฮยอนเริ่มดูไม่ดี  พยายามจะดึงให้ซอฮยอนเงยหน้าขึ้นมา  แต่เธอยังก้มอยู่แบบนั้น

    “เด็กน้อย  มีอะไรที่เธอไม่สบายใจ  พี่ทำอะไรงั้นเหรอ”  ยงฮวาสับสนวุ่นวายอะไรกันที่ซอฮยอนหวาดกลัว  “เธอกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ใช่มั๊ย”  ยงฮวาพยายามจะคลำหาทางออก  ซอฮยอนไม่ตอบแต่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา  ยากที่จะหยั่งความรู้สึกของเธอในตอนนี้  ยงฮวาเอื้อมมือไปจับที่ไหล่ของเธอ  เหมือนว่าเขาจะมาถูกทางแล้ว  “ซอฮยอน  เธอไม่ได้คิดว่าพี่จะทำอะไรเธอใช่มั๊ย”  ยงฮวายังหวั่น  ซอฮยอนตาโตตกใจที่เขาพูดออกมาตรงๆ  เมื่อเห็นท่าทีซอฮยอนยงฮวาก็เข้าใจได้ทันที  เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  “เรื่องนี้เองเหรอ  ที่ทำเอาเด็กน้อยของพี่ไม่ร่าเริงวันนี้”  เขาพูดแล้วนิ่งคิดเพื่อที่จะหาคำพูดที่เหมาะสม

    “พี่บอกว่าพี่นอนที่หอ  แต่พี่ไปนอนกับจงฮยอนต่างหากล่ะ  เชื่อแล้วว่าเมาจริงๆ”  ยงฮวาอยากจะหัวเราะ  “พี่พูดจริงๆ ใช่ไหม”  ซอฮยอนเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ขึ้นมาทันที

    “อ่า....ไอ้เราก็นึกว่าอะไร  นี่พี่ดูเป็นคนแบบนั้นหรือไง”  ยงฮวาทำท่าจริงจัง

    “ก็ไม่รู้นี่ค่ะ  อยู่ดีๆก็ตื่นมาในห้องนอนพี่  จะไม่ให้คิดได้ยังไง”  ซอฮยอนอับอาย

    “เด็กน้อย.....นอกจากเธอจะแฉจงฮยอนกับจองชินแล้วนี่เธอยังจะแบล็คเมล์พี่อีกเหรอ”  ยงฮวาแกล้งเย้า

    “แฉ...เรื่องอะไรค่ะ”  ซอฮยอนพาซื่อไม่คาดคิดว่าตนเองได้เปิดเผยความลับของคนอื่นอย่างไม่ตั้งใจ

    “จงฮยอนกับฮโยยอน  จองชินก็ด้วย”  ยงฮวาบอก

    “ห่ะ  นี่ชั้นทำอะไรไปเนี่ย  สองคนนั้นโกรธชั้นหรือเปล่าค่ะ  ต้องไปขอโทษแล้ว  ซอจูฮยอนทำอะไรลงไปเนี่ย  ต่อไปจะไม่ดื่มอีกแล้วแย่จริงๆเลย”  ซอฮยอนพร่ำบ่นยาวยืด  ยงฮวาอดขำในความใสซื่อของเธอไม่ได้

    “แล้วไง  เข้าใจแล้วใช่มั๊ยว่าทำไมพี่ถึงห้ามเธอดื่มถ้าไม่มีพี่อยู่ด้วย”  ยงฮวาได้ทีสอนเธอ  ซอฮยอนพยักหน้าเข้าใจ  “เด็กน้อย  พี่ไม่เคยบอกเธอเหรอไงว่าให้เธอไว้ใจพี่  อะไรที่ทำให้เธอคิดว่าพี่จะทำกับเธอแบบนั้น”  ยงฮวามองลึกเข้าไปในตาของนางฟ้าที่อยู่ตรงหน้า  หรือมีบางเวลาที่เธอไม่ไว้ใจเขา  ซอฮยอนรู้สึกผิดไม่กล้าสบตาเขา

    “ซอฮยอน  ต่อให้คนทั้งโลกนี้ทรยศหักหลังเธอ  พี่ก็ยังจะเป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเธอ  เธอเชื่อใจพี่ได้เสมอ  พี่สัญญา  พี่จะไม่มีวันทำร้ายเธอ”  ยงฮวาพูดมันออกมาจากใจ  ซอฮยอนกล้ำกลืนก้อนที่จุกอยู่ที่คอลงอย่างอยากลำบากรู้สึกผิดรุนแรง  ยงฮวาดึงเธอเข้ามากอด

    “พี่ไม่ได้โกรธนะ  เรื่องแบบนี้เข้าใจผิดกันได้   ดีแล้วล่ะที่เธอถาม  ไม่อย่างนั้นเราอาจจะเข้าใจผิดกัน”  ยงฮวาพยายามปลอบเธอ  ซอฮยอนพยักหน้างึกๆอยู่ในอ้อมกอดเขา  ยงฮวาผู้ชายคนนี้ที่เธอรักมีพลังบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นเสมอเมื่อได้อยู่ใกล้  ซอฮยอนให้สัญญากับตัวเอง ณ เวลานั้นว่าไม่มีวันที่เธอจะไม่เชื่อใจเขาอีก  ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

     

    ยงฮวาสวมหมวกแก๊ป  แว่นตาดำพรางตัวมิดชิดนั่งรอซอฮยอนเช็คอินเตรียมขึ้นเครื่องบินกลับบ้านเกิด  ซอฮยอนนั่งถัดจากเขาไปสองแถว  ต่างคนต่างก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ในมือ

    <พี่อยากไปกับเธอ>

    <พี่มีงานต้องทำค่ะ>

    <จะคิดถึงพี่มั๊ย>

    <แน่นอนค่ะ>  จู่ๆความคิดเรื่องสร้อยเส้นนั้นก็แล่นเข้ามาในหัวเธอ  ไม่ใช่ของขวัญเซอร์ไพรส์แล้วมันเป็นของใครกัน  เธออยากจะรู้จริงๆ เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารบอกว่าเป็นครั้งสุดท้าย  ซอฮยอนตัดใจหันไปมองยงฮวาที่นั่งอยู่ห่างออกไป

    <ชั้นต้องไปแล้วค่ะ>  ยงฮวาหันมามองเธออย่างอาลัยอาวรณ์  บางทีเขาน่าจะกอดเธอให้นานกว่านี้ในเวลาที่มีโอกาส

    <ดูแลตัวเองดี ๆ  พี่รักเธอ>  ซอฮยอนอ่านข้อความนั้นขณะเดินตรงไปยังทางออก  ยิ้มกว้างออกมา  ก่อนที่จะพ้นสายตาของกันและกัน  เธอหันกลับมาโบกมือให้ยงฮวา  เขายิ้มกว้างโบกมือตอบกลับไป  แล้วมองตามจนเธอลับตาไป















    แอบมาโปรยคำทิ้งท้ายก่อนอัพพาร์ทใหม่ เร็วๆนี้ค่ะ  รีดเดอร์คิดเหมือนไรเตอร์มั๊ยค่ะว่า  ถ้าเป็นอะไรกับใครที่ไหนยังไง  ยงฮวาเคลียร์ชัดทุกข้อกล่าวหา  แต่ถ้าเอ่ยชื่อซอฮยอนขึ้นมานอกจากจะไม่เคลียร์ให้ชัด  แล้วยังยิ้ม เขินอายให้คลุมเครืออีก 555  ก็ยงฮวาอยากโชว์เรียลแต่ขัดใจต้นสังกัดน้องนี่  พาร์ทหน้ามาเฉลยค่ะว่าคู่จองชินเป็นใคร  แต่ที่น่าสนใจกว่าคือตัวละครที่ยังไม่เผยแต่คิดว่ารีดเดอร์คงคิดเหมือนไรเตอร์แน่ๆ  ขอบคุณที่มาติดตามนะค่ะ  เห็นคอมเม้นท์แล้วขอบอกว่าดีใจ ชื่นใจค่ะ  มือใหม่หัดฟิคมีคนตามอ่านก็ดีใจมากๆแล้วค่ะ  


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×