คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตามล่าหาความจริง
และในที่สุดเมื่อคำตอบที่ไข่หวานได้จากต้นนั้นยังไม่กระจ่างพอ ก็ทำให้ไข่หวานเริ่มกังวลอีก สาเหตุหนึ่งอาจจะมาจากนิสันส่วนตัวที่ไม่ชอบมีอะไรค้างคาใจและอีกสาเหตุหนึ่งคือไม่อยากได้ชื่อว่าชอบคนที่เป็นเกย์เพราะผู้ชายกว่าครึ่งทีไข่หวานแอบปิ๊งอยู่นั้นเป็นพวกกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ทำให้บทเรียนที่ไข่หวานได้รับเริ่มเข็ดขยาดกับพวกประเภทนี้จริงๆ
“เฮ้ย....ทำไมคนที่เป็นเกย์มันดูยากยังงี้”ไข่หวานไมรู้จะทำยังไงกับเรื่องนี้จึงได้แต่มานั่งคิดหนักอยู่ที่ประจำของตน
“ไอหวาน ถ้าแกดูออกว่าใครแมนใครไม่แมนแกคงไม่ต้องมานั่งช้ำอยู่ประจำหรอก” แคทปลอบเพื่อน
“มันเป็นความผิดของแกนะ ที่ไม่ชำนาญเรื่องนี้” บิวบอกเพราะจะว่าไปไข่หวานก็ผิดอยู่ดีที่ดูไม่ออก
“พวกแกนี้ช่วยชั้นได้มากเลยนะ ขอคิดดูก่อนว่าจะทำไงดี วันนี้กลับบ้านก่อนแล้วกันนะ ไปหละ
พรุ่งนี้เจอกัน ”ไข่หวานไม่รู้ว่าจะต้องทำไงแล้วจึงได้แต่ขอตัวกลับบ้านเพื่อมาปรึกษากะหมิวหรือไม่ก็ลูกน้ำเพื่อนกันตั้งแต่ ม.ต้นซึ่งตอนนี้ได้อยู่กันคนละโรงเรียน แต่ความผูกพันของทั้งสามยังแน่นแฝ้นกันอยู่เหมือนเดิมไม่ว่าห่างกันแค่ไหนแต่ความรู้สึกของความเป็นเพื่อนไม่เคยอยู่ห่างกันเลย
“ฮัลโหล ขอสายหมิวค่ะ”ไข่หวานโทรศัพท์หาหมิวทันที่เมื่อกับมาถึงบ้าน
“อืมพูดอยู่หวะ มีไรหวะ”ทางปลายสายนั้นหมิวเป็นคนรับสายเอง
“มีเรื่องนิดหน่อยหวะ”
“มีไรว่ามาดิ”
“แกจำต้องที่เราเล่าให้ฟังได้ไหม”
“อืมจำได้ ทำไมมันหักอกแกแล้วรึ”
“ไม่ใช่ยิ่งกว่านั้นอีก มีข่าวลืมว่ามันเป็นเกย์อะ”ไข่หวานเล่าถึงสาเหตุที่ต้องโทร.หาหมิวให้ฟังพร้อมกับขอคำชี้แนะจากหมิวด้วย
“อืมแกก็ตัดใจซะ เท่าที่ดูในรูปไม่เห็นหล่อตรงไหนเลย บอกว่าไม่เอาก็ไม่เชื่อ” หมิวบอกเพื่อให้เพื่อนของตนนัน้ตัดใจจากวรรณสิทธิ์ซะ
“โห่พูดง่ายนะแก ก็ชอบไปแล้วนี้หว่าจะให้ทำไง “ไข่หวานยืนยันคำเดิมว่าไม่ขอตัดใจจากวรรณสิทธ์เด็ดขาดไม่ว่ายังไงก็ตาม
“ไอหวานแกต้องเจอคนที่ดีกว่านี้ เชื่อเราเถอะหน้าตาแกก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรไอต้องไม่เห็นหล่อเลยอะ”หมิวบอกกับเพื่อนว่าให้เลิกชอบต้องซะเพราะยังไงอนาคตก็ต้องเจอกับคนอื่นอีกมากมายเธอยังมีโอกาสที่จะเจอคนอื่นอีก
“อืมรู้ ไอคนที่ดีกว่าเนี้ยมันมีอยู่แล้ว แต่คนที่ใช่อะจะมีซักกีคนวะที่เห็นแล้วใช่อะ”ไข่หวานยังยืนกรานคำเดิม
“เอาเหอะสิ่งที่เพื่อนชอบก็ชอบไปเถอะแต่หากวันใดเพื่อนเจ็บอะนะ มีคนที่อยู่ข้างเพื่อนคอยซับน้ำตาเพื่อนนะ”หมิวพูดทำเอาไข่หวานซึ้งไปเลย
“เออ ....ที่แกอยากรู้ว่าเป็นเกย์รึเปล่าอะนะ แกลองเย็บๆถามๆดูว่าชอบผู้หญิงแบบไหน หรือถามตรงๆไปเลยแกไม่ต้องเครียดเรื่องแบบนี้”หมิวให้คำแนะนำแก่เพื่อน
“อืม...ไอพวกนั้นก็บอกให้เราถามต้องมันตรงๆอะแต่เราขอคิดก่อน”ไข่หวานเห็นด้วยกะที่หมิวพูดเพราะในใจของตนนั้นก็อยากจะถามให้รู้แล้วรู้รอด
“แต่แกต้องถามต่อหน้านะอย่าถามทางโทรศัพท์เพราะมันไม่เห็นสายตาของมัน”หมิวยังแนะนำต่อเพื่อให้เพื่อของตนนั้นสบายใจ
“ว่าแต่ลูกน้ำรู้เรื่องนี้ยัง”หมิวถามเลยไปถึงลูกน้ำที่ยังเป็นเพื่อนซี้กันอีกคน
“ยังอะ ยังไม่เล่าให้มันฟัง ถ้ามันรู้เรื่องนี้นะมันก็คงบอกให้เลิกชอบอีกนั้นแหละ”ไข่หวานให้เหตุผลเพราะจากที่คบกันลูกน้ำก็เปรียบเสมือนกับแม่ของทั้งสองที่จะคอยดูแลเพื่อนตลอด ไข่หวานและหมิวยังมีธุระจิปาถะอื่นๆอีกมากจนกว่าจะวางสายโทรศัพท์ซึ่งก็ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อไข่หวานมาถึงโรงเรียนได้นั่งคิดถึงเรื่องนี้มาแล้วตลอดทั้งคือ ว่าจะทำอย่างไรหากวรรณสิทธิ์เป็นเกย์อย่างที่ข่าวลือกันจะเลิกชอบหรือว่าทำใจชอบต่อไปแล้วอาจจะสามารถเปลี่ยนให้วรรณสิทธิ์กลับมาเป็นชายแท้ได้อย่างแน่นอน
“เฮ้ยพวกแก ชั้นรู้แล้วว่าจะทำไงตัดสินใจได้แล้ว”ไข่หวานบอกกับเพื่อนที่หูหนึ่งก็ฟังไข่หวานพูดส่วนมือก็กำลังสาระวนอยู่กับการบ้านที่ต้องลอกอย่างเร่งรีดเพราะต้องส่งคาบแรกแต่ไข่หวานโชคดีที่ทำเสร็จแล้วเป็นต้นฉบับให้เพื่อน
“อืม....อืม....ว่ามาดิ...... ฟัง..อยู่” เฉื่อยหลังจากที่ไม่ได้มาโรงเรียนหลายวันเนื่องจากเป็นไข้เลือดออกพูดขึ้นเหมือนกับจะเข้าใจทุกอย่าง
“แกรู้รึเฉื่อยว่าพวกเราหมายถึงเรื่องไรกัน”อาซื่อสงสัยจึงถามเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆตนเอง
“ก็...ไม่รู้หรอก....บอกไปงั้นแหละ....ไม่ให้ไอหวานเสียหน้า”เฉื่อยบอกที่ทำลงไปเพราะเป็นห่วงเพื่อน
“อืม....ขอบใจแกนะเฉื่อย ไว้จะเล่าให้ฟังที่หลังนะ”ไข่หวานใช้มือตบไหล่เพื่อนเพื่อแสดงความขอบใจที่เพื่อนอุตส่ามีน้ำใจ
“ชั้นตัดสินใจว่าจะไปถามต้องว่าเป็นเกย์รึเปล่า”ไข่หวานบอกกับเพื่อนถึงเรื่องที่ตัดสินใจมาทั้งคือ
“ถ้ามันเป็นแกจะเลิกชอบมันเหรอ”กุ๊กถามต่อ
“เปล่า ไม่เลิกชอบ”ไข่หวานตอบเพื่อนด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสายตามุ่งมั่นกับอุดมการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างมาก
“แล้วแกจะชอบต่อไปเหรอ” อาซื่อถามขึ้นอีกอย่างสงสัย
“อืมจะชอบต่อไป แต่ชั้นจะทำให้ต้องเป็นผู้ชายให้ได้ คอยดู”ไข่หวานบอกกับเพื่อนๆทุกคน
“อืมเอาเหอะ .....เอาใจช่วยนะ”เฉื่อยพูดให้กำลังใจเพื่อนหลังจากที่นั่งฟังแล้วก็สามารถจับใจความที่เพื่อนคุยกันได้
“ขอบใจแกหวะเฉื่อย”ไข่หวานขอบใจเพื่อนเป้นครั้งที่สอง
“เอาจริงเหรอวะเนี้ย”แคทพูดด้วยไม่เชื่อในหูตัวเองที่ได้ฟังเรื่องแบบนี้จากปากของเพื่อนตน ทุกคนนั้นต่างภาวนาไม่ให้วรรณสิทธิ์เป็นเกย์อย่างที่หลายต่อหลายคนเข้าใจไม่งั้นกลุ่มของเค้าคงจะไม่สงบอีกต่อไป เพราะคิดว่าไข่หวานคงจะต้องหาเรื่องทำอะไรแผลงๆอีกแน่นอน จนกระทั่งเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง หลังจากหมดคาบเรื่องที่ 6 ไข่หวานต้องเดินลงมาจากตึกวิทย์และได้เจอกับวรรณสิทธิ์โดยบังเอิญ
“เฮ้ย ...ต้อง..ถามไรหน่อยดิ”ไข่หวานเรียกวรรณสิทธิ์อย่างสนิทสนม
“มีไรอะ”วรรณสิทธิ์ทำท่างง เพราะทุดครั้งที่ไข่หวานมีเรื่องถามเค้าต้องเป็นเรื่องที่ชวนให้หัวเราะทุกที
“ได้ข่าวว่าแกเป็นเกย์จริงปะ”ไข่หวานเริ่มได้ตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม
วรรณสิทธิ์คิดไว้แล้วเชียวว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ชวนให้ขำจริงคิดว่าถ้าเค้าตอบว่า “ไม่ใช่” เรื่องมันคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเค้าจึงตัดสินจัดตอบกับไข่หวานไปว่า
“อืมใช่ ถามทำไมเหรอ” วรรณสิทธิ์แกล้งตอบไปด้วยสีหน้าที่เป็นปกติเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่คำตบนั้นทำให้คนฟังชักสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“อะไรนะ แกเป็นเหรอเนี้ย ...เออ....จะไปที่ไหนก็ไปเถอะนะ ..ไม่มีไรแล้ว”ไข่หวานรีบไล่วรรณสิทธิ์เพราะไม่รู้ว่าจะทนดูหน้าได้อีกรึเปล่า ไข่หวานไม่ลืมปณิธานของตัวเองหรอกนะ แต่ว่าเวลาแบบนี้ด้วยแล้วไข่หวานขอเวลาทำใจแป๊บ เพราะเรื่องแบบนี้เป็นใครก็ไม่อยากรับรู้ด้วยกันทั้งนั้น
“ทำไมชีวิตชั้นต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วยนะ”ไข่หวานนึกอยู่ในใจ
“เฮ้ย....แล้วชั้นจะทำไงต่อไปเนี้ย ...ดันไปชอบพวกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอีก นี่ขนาดชั้นไม่ชอบผู้ชายหล่อนะเนี้ย ต้องแกเป็นเกย์อาจทำให้สถาบันเกย์เค้าเสื่อมลงก็ได้นะเลิกเถอะ พระเจ้าได้โปรดดลบันดาลให้ต้องกลับใจเป็นผู้ชายที่เถอะสาธุ”ไข่หวานคิดพลางเดินคอตกกลับไปเรียนวิชาต่อไป ถึงแม้ว่าตัวนั้นจะอยู่ในห้องเรียนก็ตามแต่จิตใจของไข่หวานได้ลอยไปอยู่ข้างนอกเสียแล้ว (**** กองกำลังไม่ทราบฝ่ายหมายถึง พวกที่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นหญิงหรือชายหรืออื่นๆ)
“เบส เราจะทำไงดีหวะ ต้องมันเป็นเกย์อะ”ไข่หวานไม่รู้จะทำไงจึงปรึกษากับเบส
“ไม่เป็นหรอกน่า....หรือว่าเป็นแกก็ทำใจได้ไม่ใช่เหรอ”เบสตอบไข่หวานอย่างให้กำลังใจ
“ถึงจะทำใจไว้แล้วก็เถอะ ลองเจอแบบนี้ใครก็ช็อคดิหวะ”ไข่หวานบอกเพื่อนด้วยอาการหมดอาลัยตายอยากแล้วตอนนี้
“ไม่เป็นหรอก....มีที่ในคนที่เป้นเกย์เค้าจะยอมรับ”แคทก็ยังปลอบใจเพื่อนเหมือนเคย
“ก็ไอต้องนี้ไงคนแรก ...ยอมรับซะเต็มปากเต็มคำ”ไข่หวานพูดไปก็ใช่ว่าจะไม่เสียใจที่เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้
“แล้วจะเอาไงต่อเนี้ย” แคทถามเพื่อนต่อคงคิดว่เพื่อนคงจะไม่ลืมที่ตนคาดคิดไงนะ
“อืมก็อย่างที่บอกเมื่อเช้านั้นแหละ ทำไงได้ใจให้เค้าไปแล้วนี่ เค้าจะเป็นไงชั้นก็รับได้ ความรักเราไม่จำกัดเพศหรือความชอบส่วนตัวนะ”ไข่หวานพูดด้วยแววตาที่ส่อให้เห็นถึงความตั้งใจจริงที่มีต่อปณิธานครั้งนี้
“ดูมัน เศร้าแล้วยังน้ำเน่าได้อีกนะ”บิวบอกกับเพื่อนหลังจากนั่งฟังอยู่นาน
“ถึงน้ำเน่าแต่ก็เห็นเงาจันทร์นะเฟ้ย”ไข่หวานเริ่มจะมีอารมณ์ขันขึ้นมาอีกแล้วหละซิ นี่แหละถึงจะเป็นไข่หวาน เธอเป็นคนไม่ค่อยจริงจังกับชีวิตซักเท่าไหร่ เรื่องเศร้าที่จะมีมาในชีวิตของเธอก็คงจะนับเรื่องได้แต่ว่าเรื่องที่เธอต้องเผชิญตอนนี้ก็คือ วรรณสิทธิ์ชายหนุ่มที่เธอแอบปิ๊งตั้งแต่ตอนแรกเห็นจนได้ทำความรู้จักกัน คุยกัน คนที่ทำให้ชีวิตของไข่หวานมีแต่รอยยิ้มเพิ่อมมาขึ้นทำให้มีตีนกาเพิ่มขึ้น(เนื่องจากต้องยิ้มตลอด) ทำให้ความฝันของเขามีแต่หน้าของวรรณสิทธิ์จนกระทั่งเขาไม่อยากนอนอีกแล้วเพราะกลัวฝันถึงวรรณสิทธิ์ไม่ใช่กลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ แต่กลัวหลอนซะมากกว่า เค้ามักจะบอกกะเพื่อนๆว่าไม่ค่อยอยากเห็นหน้าวรรณสิทธิ์ซักเท่าไหร่เพราะกลัวจะเบื่อแต่ว่าไข่หวานเองก็เป็นฝ่ายไปเสนอหน้าให้วรรณสิทธิ์เห็น
ทางด้านวรรณสิทธิ์หลังจากที่สร้างความเข้าใจผิดให้กับไข่หวานนั้นตัวเองก็มานั่งหัวเราะกับบรรดาเพื่อนๆในกลุ่ม
“ไอต้องมึงไปบอกเจ๊เค้าอย่างงี้ ....เจ๊แกแทบไม่เป็นลมเหรอวะ”หนึ่งถามถึงอาการของไข่หวานหลังจากที่ได้ฟังคำตอบจากวรรณสิทธิ์
“ไม่รู้หวะ ...รู้อย่างเดียว...อึ้งไปซักพักอะไม่เห็นพูดไรเลย”วรรณสิทธิ์ตอบเพื่อนพร้อมกับนึกถึงหน้าของไข่หวานจนอดขำไม่ได้
“ไอไมค์ที่เนี้ยเรื่องจะตกอยู่ที่มึงคนเดียว”เอกบอกกับไมค์
“ทำไมหวะ”ไมค์ไม่เข้าใจที่เพื่อนพูด
“อ้าว....ก็เจ๊เค้าต้องคิดว่ามึงกะไอต้อง....อะนะ ..อะนะ”เอกบอกกับเพื่อนเป็นที่รู้กัน
“อืม ช่างเหอะกูไม่สนหรอก หน้าที่กูแค่นี้ใช่ไหม”ไมค์ตอบเพราะตนไม่ค่อยกังวลเรื่องที่จะตามมาเท่าไหร่
“คิดได้ไงวะว่ากูเป็นเกย์เนี้ย ท่าทางกูออกเหรอ”วรรณสิทธิ์ถามกับเพื่อน
“เจ๊เค้าคิดมากเองมั้ง”หนึ่งบอกเพื่อนๆเพราะเห็นทุกเรื่องไข่หวานจะเป็นคนคิดมากเสมอ
“อืมแต่เค้าก็คิดมากนะเฟ้ย มึงเลนกันแบบนี้กูแย่แน่”วรรณสิทธิ์บอกกับเพื่อนเขาดูจะเป้นกังวลมากกว่าคนอื่นซะอีก
ความคิดเห็น