คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สิ่งที่ค้างคาในใจ
ความพยายามของไข่หวานนั้นไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่วันเดียว ที่โรงเรียนหากไข่หวานรู้ว่าวรรณสิทธิ์เรียนห้องอะไรก็จะต้องมีหาเหตุผลที่จะเดินผ่านไปให้ได้ หรืออาจจะไม่มีธุระก็จะเดินผ่านไป ไข่หวานไปทักวรรณสิทธิ์ทุกครั้งที่เจอ นอกจากจะสนิทกับวรรณสิทธิ์แล้วยังรามไปถึงเพื่อนๆของเค้าอีกด้วยไข่หวานถูกเพื่อนของวรรณสิทธิ์ในนาม “เจ๊หวาน” เป็นที่รู้กันในหมู่ของเพื่อนวรรณสิทธิ์ว่าคนๆนี้มาจีบวรรณสิทธิ์
ด้วยความที่สนิทกันนั้นทำให้ผู้เพื่อนของวรรณสิทธิ์เริ่มหาทางแกล้งยั่วให้ไข่หวานโมโหเล่น
“เจ๊หวาน ผมมีไรจะบอก”หนึ่งเพื่อนของวรรณสิทธิ์คุยกับไข่หวานท่าทางมีลับลมคมใน
“มีไรหรอ” ไข่หวานเริ่มสงสัยในท่าที
“ผมไม่รู้ว่าบอกเจ๊แล้วเจ๊จะเชื่อรึเปล่านะ อันนี้ขึ้นอยู่กับเจ๊นะ”ยิ่งหนึ่งพูดแบบนี้ยิ่งทำให้หวานอยากรู้มากยิ่งขึ้น
“เอ๊า มีไรจะบอกก็บอกมาดิ ไม่ต้องลีลาหรอก เจ๊รับได้”ไข่หวานบอกเพราะเริ่มทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ไหวแล้ว
“พวกผมสงสัยว่าไปต้องจะเป็นเกย์อะ เห็นท่าทางมันแปลกๆ” หนึ่งตัดสินใจบอก
“เฮ้ยๆ พูดเป็นเล่นน๊า ต้องเนี้ยนะเป็นเกย์” ถึงแม้ว่าคำพูดของไข่หวานจะแสดงว่าไม่เชื่อ แต่ในใจนั้นเชื่อไปแล้วกว่าครึ่ง
“เจ๊คอยดูก็แล้วกันหละ ผมบอกเจ๊แค่นี้แหละ” เมื่อหนึ่งเห็นว่าไข่หวานเริ่มมีท่าทีว่าเชื่อขึ้นมาแล้วก็เลิกอำแล้วคอยดูท่าทีต่อไป
“อืมๆ ขอบใจนะ แต่เจ๊ไปเรียนก่อนก็แล้วกัน”ไข่หวานลาน้องๆที่มาคุยด้วยแล้วเตรียมตัวเรียนคาบต่อไป ถึงแม้ว่าไข่หวานจะดูตั้งใจเรียนก็เถอะแต่ว่าในใจของหวานนั้นยังเก็บคำพูดของหนึ่งมาคิดเสมอ จนเก็บเอาไว้ในใจไม่อยู่แล้ว
“แคท ชั้นถามไรหน่อยดิ” ไข่หวานตัดสินใจขอคำปรึกษาจากแคท
“มีไรอะ”
“คนที่เป็นเกย์เค้าดูยังไง”
“แล้วจะรู้มั๊ยเนี้ย มาถามชั้นแบบนี้” แคทตกใจกับคำถามของเพื่อน
“แกลองดูพฤติกรรมดิ ของยังงี้ดูไม่อยากหรอก หรือไม่ก็ถามไปเลยจะได้จบ” ถึงแม้ว่าแคทจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนของตนถามก็ตามแต่ก็ช่วยได้แค่แนะนำ
ทุกวันนั้นไข่หวานได้แต่จ้องมองเหมือนกับจะจับผิดต้องอยู่ตลอดเวลา เรื่องนี้ไม่ได้พ้นสายตาของบรรดารุ่นน้องตัวแสบที่เอาข่าวลือแบบนี้มาบ่อย
“เฮ้ยหนึ่งนายว่าที่แกพูดเจ๊หวานจะเชื่อไหม”เอกถามขึ้นหลังจากที่ดูพฤติกรรมของไข่หวาน
“ไม่เชื่อ ก็ต้องมีสงสัยบ้างหละ ดูดิเจ๊แกมองไอต้องไม่กระพริบเลยอะ”หนึ่งพูดเพราะมั่นใจกะแผนการของตนเอง
“ต่อไปนี้ก็ตานายแล้วนะไอไมค์ทำงานหน่อยนะ”หนึ่งบอกกับไมค์ผู้ซึ่งได้รับหน้าที่หนักกว่าคนในกลุ่ม
“ ทำไมต้องเป็นตูด้วยหวะ ไม่เข้าใจพวกมรึงเลยอะ ให้ไปแกล้งคลอเคลียกะไอต้องเนี้ยนะ ฟังแล้วขนลุกหวะ”ไมค์บอกเพื่อนเพาะคิดว่าหน้าที่นี้หนักเกินไปสำหรับตน
“ไม่มีใครเหมาะเท่ากับมรึงอีกแล้ว เพื่อนเอ๋ย”เอกแกล้งชม
“อืม ก็ได้หวะ”ไมค์จำใจทำตามแผนที่เพื่อนวางไว้
และแล้วแผนการที่วางไว้ก็ถูกทำให้ขึ้นที่โรงอาหารภายในวันนั้นเอง ทุกคนทำเหมือนไม่รู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่มองมาอยู่ตอลดไมค์ยังคงนั่งข้างต้องแล้วก็มักจะพูดกระซิบข้างหูวรรณสิทธิ์เสมอ ทำเหมือนกับว่าโลกทั้งใบมีกันอยู่แค่ 2 คน หรือบางครั้งก็มีการโอบไหล่ของวรรณสิทธิ์บ้าง วรรณสิทธิ์เองอาจจะรู้สึกว่าเพื่อนแปลกไปแต่คงไม่สนใจเท่าไหร่ แต่คนที่สนใจกับเป็นไข่หวานที่ความรู้สึกหนึ่งก็คืออิจฉาที่ไมค์ได้ใกล้ชิดวรรณสิทธิ์ขนาดนี้ ส่วนอีกใจก็คิดว่าทั้งสองคนนั้นเป็นเกย์กันจริงเหรอ
“แคท ชั้นเริ่มทนไม่ไหวแล้วหวะ” ไข่หวานโพล่งกลางโต๊ะกินข้าว
“อะไรของแกวะ” แคทวางสายตาจากอาหารตรงหน้าเปลี่ยนมาเป็นมองเพื่อนของตนแทน
“พวกแกหันไปดูดิ”ไข่หวานเบนความสนใจจากสายตาเพื่อนให้ไปอยู่ที่วรรณสิทธิ์ ในขณะที่ไมค์กำลังเดินกอดคอวรรณสิทธิ์ไป
“อืม ต้องทำไมเหรอ” เฉื่อยพูดเพราะดูเหมือนว่าจะยังไม่เข้าใจในเหตุผลที่เพื่อนให้มอง
“เหมือนคู่เกย์เลยหวะ”บิว พูดตามที่ตัวเองคิดออกไป
“เราก็ว่างั้นแหละแก” อาชื่อเสริมต่อ
“ต้องเป็นเกย์รึเปล่าอะ” เบสเริ่มถามไข่หวานที่นั่งเงียบอยู่ไม่ออกความเห็นใดๆ
“ต้องอะไม่รู้ว่าเป็นเกย์รึเปล่า แต่คนข้างๆอะเป็นชัวร์ ท่าทางมันฟ้อง” กุ๊กพูดเชิงวิเคราะห์ตามที่ตัวเองเห็น
“ไม่รู้ดิ สงสัยอยู่เหมือนกัน แต่เพื่อนในห้องบอกว่าต้องเป็นอะ”หลังจากที่นั่งฟังเพื่อนวิจารณ์อยู่นาน
“เฮ้ย ไม่เป็นหรอกมั้ง คิดมากผู้ชายก็งี้แหละเค้าสนิทกัน” แคทพูดให้กำลังใจเพื่อน
“เป็นไม่เป็น ชั้นต้องพิสูจน์ให้ได้” ไข่หวานยืนกรานอย่างชัดเจน
“เฮ้ย แกเป็นผู้หญิงนะ”อาซื่อร้องห้ามเพื่อน
“นี้แกจะเอาจริงเหรอ” บิวถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“หวาน ..แก..จะ..ทำ..ไร..ต้อง..อะ”เฉื่อยหลังจากนั่งฟังการสนทนาของเพื่อนอยู่นานเริ่มจับใจความได้
“นี่พวกแกคิดว่าชั้นจะทำไร” ไข่หวานเริ่มงงกับคำพูดของเพื่อนๆ
“อ้าวก็แกบอกว่าจะพิสูจน์ พวกชั้นก็เลยคิดว่าแกจะ .....จะ.....”กุ๊กไม่อยากพูดต่ออีกเพราะเกรงว่าเพื่อนจะอาย
“จะบ้าเหรอ ชั้นไม่ทำขนาดนั้นหรอก พวกแกนี้ มันต้องมีวิธีดิ ประเภทแบบทดสอบอะไรทำนองเนี้ย”ไข่หวานบอกกับเพื่อนเพราะเห็นว่าเพื่อนคงเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว
“อืม วิธีดูมันก็มีหรอกนะ”เบส เพิ่งนึกขึ้นได้ จากหนังสือที่ตนเคยอ่าน
“เค้าให้ดูหลายอย่างอะนะ เช่นพวกเกย์เนี้ย ชอบใส่กางเกงในสีขาว ชอบไว้เล็บยาว ชอบกรีดกรายนิ้ว หรืออาจดูจากกันดูสนเท้าของตนเองก็ได้ หรือการดูเล็บของตัวเอง” เบสบอกกับเพื่อนที่นั่งฟังตั้งอกตั้งใจ
“ทีเรื่องอย่างงี้แหละตั้งใจฟังนะ ที่ชั้นติวหนังสือให้หละไม่ยอมฟังกัน” เบสพูดประชด
“อืมน่า บอกมาเหอะเร็ว อยากรู้ๆ”ไข่หวานเริ่มแสดงอาการอยากรู้อีกแล้ว
“ก็ถ้าผู้ชายที่เป็นแมนอะ เวลาดูฝ่าเท้าของตนจะยกขึ้นมาดูทางด้านหน้าอะ ส่วนถ้าผู้หญิงหรือว่าพวกที่มีนิสัยคล้ายผู้หญิงหรือพวกไม่ปกติ เวลาดูฝ่าเท้าจะหันหลังก้มไปดู โดยเปิดฝ่าเท้าขึ้น”เบสบรรยายให้ฟัง
“อืมดีจะเอาไปใช้กะต้องมั้ง” ไข่หวานเห็นด้วยกะเพื่อน
“แต่เราว่าดูแค่นี้ไม่พอหรอกนะ” อาซื่อเสริมต่อ
“อืม....เอาเป็นว่าดูรวมๆไปก่อนแล้วกัน แต่ชั้นว่ามันไม่เป็นหรอก”แคทยังยืนยันคำตอบเดิม
การทดสอบของเบสนั้นจะใช้ได้จริงรึเปล่าไข่หวานเองก็ยังไม่รู้เพราะไม่เคยลองดู แต่ก็ต้องลองเพื่อพิสูจน์ทฤษฎีนี้เพื่อความแน่ใจของตนเอง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องพสูจน์อะไรมาเมื่อไข่หวานเจอกับกลุ่มของต้อง
“เฮ้ยตูดไอต้องนิ่มหวะ”ไมค์เริ่มพูดด้วยเสียงดัง ต้องการให้ไข่หวานได้ยินด้วย
“ไอไมค์จับตูดไอต้องอีกแล้ว”หนึ่งพูดเหมือนจะห้าม แต่หนึ่งกลับเน้นคำว่า อีกแล้ว เพื่อให้ไข่หวานเห็นว่านี้ไม่ใช่แค่ครั้งแรก
“ไอไมค์มึงอะ” วรรณสิทธิ์ร้องห้าม เพราะเห็นสายตาที่ไข่หวานมองอยู่
“พวกแกนี้ทำอะไรกันในโรงอาหารอะ”ไข่หวานห้ามปรามเพราะไม่ชอบการกระทำของไมค์เท่าไหร่นัก แต่ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุ ทำให้ไมค์นั้นเอามือขอบคนลูบไล้ไปที่อกของวรรณสิทธิ์พร้อมกับเอียงตัวลงไปซบกับอกของวรรณสิทธิ์จนเจ้าตัวก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน
“เฮ้ย” เสียงร้องนี้ไม่ใช่ของวรรณสิทธิ์หรอก เป็นของไข่หวาน แต่เจ้าคนที่ถูกกระทำไม่ได้มีท่าทีว่าไม่ชอบกลับยิ้มเฉยๆ รอยยิ้มนั้นสร้างความหงุดหงิดให้แก่ไข่หวานมาก
“นี่ต้องแกชอบให้ไอไมค์ทำแบบนี้เหรอ” ข่หวานตัดสินใจพูด
“เจ๊หวาน ในห้องมันยิ่งกว่านี้อีกแล้ว” เอกพูดขึ้นเพื่อต้องการให้ไข่หวานเข้าใจผิดอีก
“แกนี่ไม่ห้ามเพื่อนเลยนะ ชอบหละซิยิ้มซะหน้าบานเลยนะ”ไข่หวานพูดเพราะเริ่มทนไม่ได้ที่จะเห็นไมค์แสดงบทรักที่มีต่อวรรณสิทธิ์
“ก็ไม่ได้ไม่ชอบนี่”เมื่อเห็นท่าทางของไข่หวานวรรณสิทธิ์ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ยิ้มอย่างมีความสุข มันทำให้ไข่หวานพูดไรไม่ออก จึงต้องรีบเดินหนีไป
“เฮ้ย...เจ๊หวาน..แกคงเกลียดไอไมค์แน่เลยหวะ”เอกพูด หลังจากเห็นท่าทางที่หงุดหงิดของไข่หวาน
“ก็แน่อะดิ ไม่เห็น แล้วไอต้องมึงอะไปรับมุขไอไมค์มัน” หนึ่งพูดพร้อมกับตำหนิเพื่อนของตนด้วย
“พวกมึงไงไม่รู้อะไร ป่านนี้พี่หวานคงอกแตกตายไปแล้วมั้ง ก็รู้ๆอยู่เค้านิสัยยังไง” วรรณสิทธิ์ยังตลกอยู่กับท่าทางของไข่หวานที่ตาโตเหมือนเห็นไมค์มาซบที่อกของเขา
“เฮ้ย ...พวกแกดูดิ..ชั้นหละไม่อยากจะเชื่อเลยหวะ”ไข่หวานเมื่อเดินมาไกลจากพวกวรรณสิทธิ์แล้วก็เริ่มระบายความอัดอั้นใจออกมา
“เหอ...เหอ..เห็นแบบนี้แล้วสยองหวะ”กุ๊กเสริมกับสิ่งที่ตาตัวเองเพิ่งเห็นมาเมื่อกี้นี้
“กรรมจริงๆ ไอหวานแกนี้นอกจากจะชอบคนไม่หล่อ พวกที่หน้าตาเหมือนจิ้งจก แล้วยังชอบเกย์อีกเหรอเนี้ย” บิวพูดพร้อมกับเห็นใจเพื่อนของตนที่ไม่น่าจะเป็นได้ถึงเพียงนี้
“แล้วแกจะทำไงต่อไปเนี้ย”แคทถามเพื่อนเพราะคิดว่าเพื่อนคงจะตัดใจได้
“ชั้นตัดสินใจแล้วคอยดูนะชั้นจะทำให้ต้องเป็นผู้ชายให้ได้เลยแหละ”ไข่หวานบอกกับเพื่อนพร้อมกับย้ำจุดประสงค์ใหม่ของตน
“แกก็ลองถามต้นดูดิว่าต้องเป็นเกย์รึเปล่า”เบสเสนอความคิดเห็น
“อืม เป็นพี่น้องกันถึงไม่ฟันธง ก็คงพอจะรู้พฤติกรรมบ้างหละ” อาซื่อบอกเพื่อนเพราะเห็นด้วยกับความคิดของเบส
“อืม ดีเหมือนกันนะ” ไข่หวานพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
“ถ้าแกไม่แน่ใจ แกก็ไปถามต้องซะก็หมดเรื่อง แค่นี้แกทำได้หนิ” บิวพูดเสนอความเห็นใหม่เพราะเพื่อนตนนั้นคงไม่อยากให้ข้อข้องในติดอยู่ในใจนาน
“เดี๋ยวถามตั้งก็ดีกว่า ไม่อยากถามต้องอะ กลัวทำใจไม่ได้” ไข่หวานบอกกับเพื่อนที่สีหน้าเป็นกังวลเรื่องที่ต้องเป็นเกย์เพราะถ้าเป็นจริงเธอคงจะเสียใจอย่างสุดจะบรรยาย
ความคิดเห็น