คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตามล่าชายในฝัน
ทุกวันการไปโรงเรียนของไข่หวานนั้นจุดประสงค์หลักคือไปเรียนแต่ผลข้างเคียงที่ได้รับก็คือการได้เจอหน้าวรรณสิทธิ์ ถึงแม้ว่าวรรณสิทธิ์จะไม่รู้ตัวก็ตามจนวันนั้นก็มาถึง
“ไอหวานพี่ไอต้นเดินมาแหนะ” แคทบอกเพื่อนเมื่อเห็นวรรณสิทธิ์กำลังเดินผ่านมา
“ไอแคททักดิ แกทักดิ”ไข่หวานยุให้แคททัก ถึงแม้ว่าตัวเองอยากจะทักก็ตามแต่ก็ไม่กล้า
“หวัดดีพี่ต้น”เมื่อวรรณสิทธิ์เดินมา แคทก็ทัก
วรรณสิทธิ์ทำท่างงๆแต่ก็รับการทักทาย “ครับ” โดยพร้อมกับรอยยิ้มที่มัดใจของไข่หวานไปแล้ว 180 รอบ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่คำๆเดียวแต่ความรู้สึกของไข่หวานเหมือนกับได้พูดคุยกันเป็นล้านคำ ความรักนี้มีอิทธิพลจังน๊า
“เฮ้ยน้องเค้าไม่เห็นหยิ่งเลยอะ”ไข่หวานบอกหลังจากที่วรรณสิทธิ์เดินผ่านไปแล้ว
“อืมก็ดี”แคทไม่อยากออกความเห็นมากกว่านี้แล้ว
“ไว้เจอกลางวันนี้ไปหาต้นกัน ไปถามว่าพี่ของมันชื่ออะไร”ไข่หวานบอกต่อ
“อืมก็ได้” แคทตอบรับเพื่อน
ตอนกลางวันของวันนั้นหลังจากที่ไข่หวานและแคทกินข้าวกลางวันเสร็จแล้วก็ไปหาต้นที่ที่ต้นมักชอบไปอยู่กับเพื่อนๆ
“อาร์ม ต้นหละ”ไข่หวานถามหาต้นจากเพื่อนของเค้า
“อยู่โน้นหนะพี่หวาน”อาร์มตอบพร้อมชี้ไปทางที่ต้นอยู่
“อืม”ไข่หวานรับคำพร้อมกับเดินไปหาต้น
“ต้น ทำไรอยู่อะ”ไข่หวานถาม
“ป่าวทำไมเหรอ”ต้นตอบ
“ไอแคทถามดิ” ไข่หวานโยนหน้าที่ให้แคทอีกตามเคย
“ต้นพี่ชายต้นชื่อไรอะ”แคทเลยตามอย่างไม่อ้อมค้อม
“ชื่อต้อง”ต้นตอบสั้นๆ
“อืมแค่นี้แหละ” แคทบอก
“ทำไมพี่แคทชอบเหรอ” ต้นถามกลับมั้ง
“ไม่ใช่พี่หรอกนะ คนที่ชอบอะไอหวาน”แคทชี้แจงให้ฟัง
“พี่หวานชอบต้องมันเหรอ”คราวนี้ต้นถามไข่หวานบ้าง
“ทำไมเหรอ พี่ชอบไม่ได้เหรอ”ไข่หวานตอบแบบกึ่งรับกึ่งปฏิเสธ
“ไม่ได้ ถ้าพี่แคทก็ว่าไปอย่าง”ต้นตอบ
“ทำไม พี่ชอบต้องไม่ได้อะ”
“ไม่รู้ เอาเป็นว่าพี่ชอบไม่ได้อะ”
“อืม งั้นพี่จะจีบต้อง คอยดูเหอะนะ พี่จะจีบต้องให้ได้เลย”
“ต้นจะขัดขวาง คอยดูดิ พี่หวานไม่สำเร็จหรอก แล้วคอยดูว่าต้นจะทำไง”
ศึกสงครามขนาดย่อมๆเริ่มเกิดขึ้น ไข่หวานเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมต้นถึงต้องแสดงท่าทางขัดขวางถึงขนาดนี้ จากที่คิดว่าตัวเองจะไม่จีบวรรณสิทธิ์แล้วแต่ในเมื่อมันมีคนห้ามมันก็เหมือนกับยุ ยิ่งคนอย่างไข่หวานแล้วด้วยนั้นยากที่จะยอมวางมือ
“เฮ้ย ไอแคททำไมต้นมันต้องขวางด้วยอะ”ไข่หวานต้องการคำปรึกษาจากเพื่อ
“ชั้นก็จะไปรู้เหรอ สงสัยมันคงห่วงพี่ชายมั้ง”
“แต่ว่าชั้นไม่อยากจะชอบพี่แล้วต้องเป็นปรบักกะน้องนะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกแก ไอต้นอาจจะไม่ได้คิดอะไร มันคงพูดไปอย่างงั้นแหละ”
“ไม่เหมือนแกหนิ แอบชอบเค้าแล้วไม่เห็นทำไรเลย”ได้ทีไข่หวานจึงย้อนเพื่อนกลับไปมั้ง
“เฮ้ย....แกอย่าบอกใครนะ”
“ทำไม”
“ไม่อยากให้ใครรู้เยอะอะ เดี๋ยวมันแซวกัน”
“อืมได้ แล้วแกจะเอาไงเนี้ย”
ไข่หวานรู้สึกว่าเรื่องความรักนี้มันก็แปลกดีเหมือนกันนะอีกคงมีความรักแล้วต้องการจะบอกแต่อีกคนเมื่อมีความรักแล้วก็แค่อยากเก็บไว้ในใจแค่ได้แอบรักเค้าก็เกินพอ
“แก เอานี่ไปให้น้องเค้าหน่อยดิ ฝากคนอื่นไปให้ก็ได้” แคทพูดพร้อมกับยื่นกล่องขนมที่แนบด้วยจดหมายให้กับไข่หวานเพื่อนที่จะได้ไปให้กับรุ่นน้องคนนั้น
“ให้ชินหรอ”ไข่หวานถามต้องการความแน่ใจ
“อืมใช่”แคทตอบรับทั้งที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนของตนนั้นก็ต้องรู้เหมือนกัน
“อืม ได้แต่ชั้นจะฝากคนอื่นไปให้นะ”ไข่หวานพูดเพราะตัวเค้าเองนั้นกะชินก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันเทาไหร่
ไข่หวานหลังจากได้รับการช่วยเหลือของเพื่อนที่นี้ก็เป็นคราวที่ไข่หวานจะช่วยให้ความรักของเพื่อนสมหวังได้บ้าง
“น้ำพี่ฝากนี้ให้ชินหน่อยดิ”ไข่หวานได้นำของที่แคทฝากมาให้ฝากไปให้ชินโดยผ่านรุ่นน้องอีกคนหนึ่ง
แคทมักจะมีของฝากแบบนี้มาให้ชินเสมอพร้อมกับจดหมาย อย่างน้อยก็อาทิตย์หละครั้ง จนในที่สุดก็มีจดหมายตอบมาหาแคท
“พี่หวาน ชินฝากนี้มาให้ด้วยอะ” น้ำรุ่นน้องที่ไข่หวานมักจะวานเอาของไปให้ชินเสมอ
“อะไร..จดหมายเหรอ ถึงพี่เนี้ยนะ”ไข่หวานรับจดหมายด้วยสีหน้างงๆ
“ชินบอกว่า ฝากให้คนที่เอาขนมมาให้ด้วย”
“อืม..ขอบใจ”
หลังจากที่ไข่หวานรับจดหมายมาจากน้ำนั้นก็มาให้แคทอ่านเพราะคิดว่าจดหมายนี้คงมาถึงแคท
“ไอหวานแกอ่านดิ”แคทโยนหน้าที่ให้ไข่หวานเพราะไม่อยากอ่านข้อความข้างใน
“แล้วทำไมต้องเป็นชั้นด้วยหวะ”
“แกนั้นแหละอ่านดีแล้ว”
“อืมๆ” ไข่หวานพยักหน้า เพราะนิสัยของไข่หวานเรื่องอย่างนี้ก็อยากอ่านอยู่เหมือนกัน
.....คือ พวกพี่คงงงกันใช่ไหมว่าทำไมผมถึงเขียนจดหมายมาหาพี่ ขอบคุณขนมที่พี่ให้ผมนะ แต่ทีหลังไม่ต้อง ผมกับพี่ไม่เคยรู้จักกันนะ ไม่รู้นะว่ามีเหตุผลอะไร แต่ต่อไปผมคงรับของของพี่ไม่ได้แล้ว
ขอบคุณสำหรับขนม
ชิน
“โหย..ไอนี้มันคิดว่าตัวเองเป็นใครอะ คนเค้าอุตส่าเอาของไปให้ ยังมีหน้ามาบอกอีกว่า ทีหลังไม่ต้อง รู้งี้ไม่เอาไปให้หรอก” ไข่หวานโมโหแทนเพื่อนเพราะอะไรนะเหรอ ก็เพราะว่าชินทำอย่างนี้เหมือนกับดูถูกน้ำใจของเพื่อนตนนะซิ
“แคท เลิกชอบไปเหอะ คนนิสัยอย่างเนี้ย ไม่หล่อแล้วยังจะหยิ่งอีก สู้ต้องก็ไม่ได้” และแล้วการพรรณนาถึงความดีของต้องจากไข่หวานก็ได้เริ่มขึ้น
“ต้องนะถึงจะไม่หล่อ แต่ก็ไม่เคยทำลายน้ำใจใครหรอก คนอะไรก็ไม่รู้น่ารักจริงๆ”
“พอเหอะๆ ขอซักวันได้ไหมที่ไม่พูดเรื่องต้องอะ ขี้เกียดฟัง” บิว เพื่อนที่นั่งร่วมฟังด้วยขอแสดงความเห็นบ้างเนื่องจากทนรับฟังไม่ได้ที่จะต้องมานั่งฟังการบรรยายสรรพคุณของวรรณสิทธิ์อีกแล้ว
“ออ..แล้ววันไหนชั้นไม่พูดเรื่องต้องแกจะเหงา” ไข่หวานแก้ต่างให้ตัวเอง
“คงไม่มีหรอก แกอะต้องพูดถึงต้องทุกวัน” อาซื่อบอกเพื่อนเพราะทุกวันนี้ไข่หวานหายใจเข้า-ออก ก็เป็นต้อง
การเปรียบเทียบชินกะต้องจะต้องเกิดขึ้นทุกวันเมื่อกับว่าต้องและชินได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มไปแล้ว
ทุกเช้าหลังจากที่ไข่หวานมาถึงโรงเรียนสิ่งแรกที่ต้องทำไม่ใช่การมองหาต้องหรอกนะ แต่เป็นการลอกการบ้าน(อันนี้สำคัญมาก-ผู้แต่ง)เพราะการลอกการบ้านกลายเป็นกิจวัตรยามเช้าไปแล้ว เมื่อการบ้านเสร็จแล้วการมองหาต้องหรือเดินผ่านก็เป็นกิจกรรมต่อไป ทุกเช้าๆไข่หวานและแคทมักจะเดินผ่านโต๊ะม้าหินอ่อนที่ต้องนั่งอยู่เป็นประจำ และจะมีคำพูดที่ติดปากคนทั้งสองเมื่อเจอหน้าต้อง
“ต้องหวัดดี ..มีคนฝากมาคิดถึงอะ” คำพูดนี้มักจะเกิดขึ้นทุกครั้ง
.......และแล้ว.....
“ต้องมีคนฝากมาคิดถึง” ไข่หวานก็บอกอีกเหมือนปกติ
“เออ...ผมถามไรหน่อยดิว่าใครฝากมาอะ”วรรณสิทธิ์หรือว่าต้องผู้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีพากหัวใจของไข่หวานไปนั้นต้องการจะรู้ว่าใครกันนะที่เป็นผู้ฝากความคิดถึงมายังเค้าทุกวัน
“เอาเป็นว่าคนที่แอบชอบแกก็แล้วกันนะ”แคทพูดตัดบท
“แล้วใครหละ”วรรณสิทธิ์ยังไม่ยอมละ
“ชั้นเอง” ไข่หวานตัดสินใจบอกกับวรรณสิทธิ์
“ชั้นชอบแกเองแหละ มีไรเปล่า”ไข่หวานทำเหมือนกับเป็นเรื่องปกติทั้งที่ในใจนั้นกลับได้ยินเสียงของหัวใจตัวเองที่เต้นดังราวกับจะทะลุออกมาจากอก
“ป่าวไม่มีไร”วรรณสิทธิ์บอกหลังจากได้ยินคำตอบจากไข่หวาน
“นี่แกเชื่อชั้นด้วยเหรอเนี้ย” ไข่หวานพูดเพราะต้องการความแน่ใจ
“อืม เชื่อดิ” วรรณสิทธิ์บอกกับไข่หวานทำให้ไข่หวานทำท่าทางงงๆ
“อืม เชื่อก็ตามใจแกเถอะ” ไข่หวานไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้มากกว่านี้แล้ว
หลังจากที่ไข่หวานได้บอกความรู้สึกของตนให้แก่วรรณสิทธิ์ไปแล้วนั้น มันทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเริ่มสนิทกันมากขึ้น ความรู้สึกของไข่หวานที่มีต่อวรรณสิทธิ์นั้นทำให้หลายต่อหลายคนสงสัยว่าที่ไข่หวานทำลงไปนั้นทำจากใจจริงหรือแค่เล่นๆ
“หวานแกชอบต้องเหรอ” เพื่อนในห้องคนหนึ่งถาม
“อืมก็ชอบดิ”ไข่หวานตอบ
“ถ้าพวกแกจะถามว่าทำไมถึงชอบต้อง ชั้นขอไม่ตอบได้ไหม เพราะไม่รู้จะตอบไงหวะ”ไข่หวานดักคอเพื่อน เพราะรู้ว่าเพื่อนจะพูดอะไรต่อไปอีก
“อืม เปล่าชั้นเห็นแกเหมือนเล่นๆอะ ก็ไม่คิดว่าจะจริงจัง”ยุ้ยหนึ่งในเพื่อนร่วมห้องกล่าวขึ้น
“ทำไม ชั้นเหมือนเล่นๆเหรอ”ไข่หวานถามกลับ
“ป่าวหรอก ก็แกอะนะทำแซวไอต้องไปวันๆ”ยุ้นบอกเหตุผลที่ทำให้ตนคิดยังงั้น
“ชอบเด็กแล้วมันแปลกตรงไหน มีแต่คนมาถามอะ ชั้นว่าอายุเป็นเพียงตัวเลขนะ ความรักมันไม่มีขีดจำกัดเรื่องอายุหรอกแก”ไข่หวานบอกเพื่อน
“เริ่มเน่าอีกแล้ว ชั้นแค่จะเข้าชมรมคนรักเด็กกะแกด้วยอะ”ยุ้ยบอกกับไข่หวานเนื่องจากตนเองก็แอบชอบรุ่นน้องอยู่เหมือนกัน
“เฮ้ย จริงอะ แกไปชอบใครหวะ ไม่เห็นรู้เรื่อง”ไข่หวานตาโต ตกใจกับเรื่องที่เพื่อนบอกเพราะคิดไม่ถึง
“ก็เด็กม.4 นั้นแหละ ห้อง3 ชื่อโชอะแกรู้จักเปล่า”ที่ยุ้ยต้องถามอย่างนี้เพราะคิดว่าบรรดาหนุ่มน้อง หนุ่มหใหญ่ในโรงเรียนไข่หวานต้องรู้จักหมด
“ไม่แน่ใจอะต้องเห็นหน้าก่อน”ไข่หวานบอกเพื่อน
“เหอ เหอๆๆและแล้วชมรมคนรักเด็กก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 555”ไข่หวานหัวเราให้กับความคิดของตนที่คิดว่าไม่ใช่เค้าคนเดียวที่แอบชอบรุ่นน้อง
“เฮ้ย....แล้วทำไมผู้ชายถึงไม่ชอบผู้หญิงที่แก่กว่ามั้งหวะ ชั้นจะได้รู้สึกสดชื่นมากกว่านี้อะ”ไข่หวานถอนหายใจพลางคิดถึงเหตุข้อนี้
ความคิดเห็น