คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่9
ฤดูใบไม้ร่วง วันเสาร์ เวลา 7:30 PM. โซลโซไซตี้ เมืองลูคอนทางเหนือ เขต1
งานเทศกาลต้อนรับฤดูหนาว
“แหม! ไม่ได้มาซะตั้งนาน คิดถึงจังเลย~ งานเทศกาลที่จัดแบบพื้นๆ เรียบง่ายเนี่ย” ยมทูตหนุ่มผมสีฟ้าซีดพูดขึ้น ขณะที่เดินมาถึงประตูทางเข้าด้านหน้าของงานเทศกาล พร้อมกับเพื่อนร่วมทางอีก2คน ซึ่งเป็นยมทูตเช่นเดียวกัน
“นี่! ลูเคีย ทำไมเธอต้องพาหมอนั่นมาส่งที่นี้ด้วยล่ะ?” ยมทูตหนุ่มผมสีส้มถามคนที่เดินอยู่ข้างๆกับตัวเอง ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ยังคาใจอยู่ โดยไม่รู้สาเหตุว่าตนเองหงุดหงิดเพราะอะไร
“ก็เจ้านั่นไม่ค่อยชำนาญทางในมิตินี้ของโซลโซไซตี้เท่าไหร่น่ะ แถมยังเดินหลงอยู่บ่อยๆด้วย” ลูเคียตอบ
“มิตินี้..?” อิจิโกะเริ่มสงสัย(อีกรอบ)
“อ๋อ..! ก็เจ้านั่นน่ะ ไม่ได้สังกัดอยู่ใน13หน่วยพิทักษ์หรอก เจ้านั่นน่ะ สังกัดอยู่หน่วย0 หน่วยพิทักษ์ราชันย์ ซึ่งอยู่กันคนละมิติน่ะ” ลูเคียตอบ
“งั้นเหรอ..” อิจิโกะพูด พลางคิดไปด้วย ‘หมอนั่นเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?’
ขณะที่ยมทูตทั้ง3คนกำลังเดินชมงานมาด้วยกันได้ซักพักหนึ่ง อยู่ๆเซ็นริก็ขอแยกตัวออกมาจากกลุ่ม “อะ..เอ่อ..ขอโทษนะผมมีที่ที่อยากจะไปน่ะ ขอแยกตัวไปก่อนนะ” แล้วเขาก็เดินหายเข้าไปในฝูงคนที่เดินไปมาอยู่ในงานนั้น
“อะไรกัน? เจ้าหมอนั่น ขอให้คนอื่นมาเป็นเพื่อนแล้วมาทิ้งกันเฉยเลยอย่างนี้น่ะเหรอ?” อิจิโกะบ่นขึ้น
หลังจากนั้นเขาก็เดินชมงานกับลูเคียไปซักพักจนกระทั่ง
“โธ่เอ้ย~! หลงจนได้”อิจิโกะพูดกับตนเองในขณะที่ตาก็มองหาลูเคียไปพลาง แต่ในงานมีผู้คนอยู่มากมาย ไม่ว่าจะมองหาเท่าไรก็ไม่เจอสักที ในตอนนั้นเองเขาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนที่ร่วมทางมาด้วยกันในตอนแรก อาโอกิ เซ็นริ เดินเข้าไปในป่าบริเวณด้านหลังของงานเทศกาล
“เจ้านั่นนี่นา ทำอะไรลับๆล่อๆอยู่น่ะ” เขาเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นพฤติกรรมที่ท่าทางแปลกๆของเพื่อนที่มางานด้วยกันของเขา ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินตามเขาเข้าไปในป่านั้น โดยที่เขาที่ระยะห่างจากอีกฝ่ายพอสมควร เดินมาได้ซักพัก เขาก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายอยู่ๆก็หยุดเดินกะทันหัน แล้วก็หันกลับมามองข้างหลัง ทำให้อิจิโกะต้องรีบหลบไปหาที่ซ่อนที่ใกล้ตัวที่สุดซึ่งก็คือพุ่มไม้ก่อใหญ่ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตนเองแอบตามมาอยู่ เมื่ออีกฝ่ายที่หันกลับมองดูข้างหลังพบกับความว่างเปล่า ก็หันหน้ากลับไปในทิศทางเดิมและออกเดินต่อไป อิจิโกะเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินออกไปได้ห่างพอสมควรแล้ว เขาจึงออกมาจากที่ซ่อนและแอบสะกดรอยตามต่อไป จนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ดูเปลี่ยวไร้ผู้คน แต่ไม่มืดเท่าไรเนื่องจากฟ้าเปิดและจันทร์คืนนี้สว่างทำให้มีแสงสว่างมากพอที่จะเห็นอะไรเป็นอะไรได้ ภาพที่เห็นคือ เสาปูนหล่อที่มีชื่อคนสลักไว้อยู่หรือป้ายปักหลุดศพนั่นเอง ถูจัดไว้เคียงคู่กัน 2ต้น แต่ละต้นมีชื่อสลักไว้ไม่เหมือนกัน เมื่ออาโอกิ เซ็นริเดินไปถึงเสาทั้ง2ต้นนั้น ก็ใช้มือของตนปัดเศษใบไม้และฝุ่นออกจนหมด แล้วเดินถอยห่างออกมาเล็กน้อย แล้วจึงประนมมือขึ้นมา ในขณะเดียวกันอิจิโกะที่แอบสะกดรอยตามมา ก็เข้าหลบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่บริเวณนั้น
“ไม่เจอกันนานเลยนะครับ คุณพ่อ คุณแม่” เขาเอ่ยทักทายกับเสาปูนหล่อทั้ง2ต้นนั่น เปรียบเสมือนกำลังคุยกับพ่อแม่ของเขาอยู่
ประโยคแรกที่ชายหนุ่มกล่าวทักทายตัวแทนพ่อและแม่ของเขา ทำให้อิจิโกะที่แอบซ่อนตัวอยู่ชะโงกหัวออกมาดูสถานการณ์ภายนอก และแอบฟังอยู่เงียบๆอย่างนั้นต่อไป
“สบายดีกันรึเปล่าครับ? ส่วนผมน่ะสบายดีครับไม่ห่วง” ก่อนเงียบไปซักพัก
“นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่มาเนี่ย ผมมัวแต่ยุ่งๆอยู่กับงานน่ะครับ อ๋อ!จริงสิ! งานของคุณพ่อที่คั่งค้างไว้อยู่น่ะ ผมทำให้เสร็จแล้วนะครับ ส่วนงานของคุณแม่เหลืออีกนิดหน่อยก็จะหมดแล้วล่ะครับ ไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ!ผมจะจัดการให้เสร็จแน่นอนเลยครับ!”
“แหม~! แต่จะว่าไปแล้ว..งานของหน่วย0เนี่ย ทั้งยากทั้งหนักมากเลยนะครับเนี่ย คุณพ่อกับคุณแม่เนี่ย เก่งกันจริงๆเลยทำงานจนได้ตำแหน่งหน่วย0ทั้งคู่เลย ฮ่าฮ่า....”ก่อนจะเงียบไปอีกพักหนึ่ง
มือที่ประนมกันไว้ที่อกเมื่อครู่ ตอนนี้ถูกปลดออกมาวางไว้ข้างลำตัวของเขาแล้ว ชายหนุ่มค่อยๆก้มหน้าลง“....ทำไมกัน?.... ทำไมถึงผมทิ้งไว้คนเดียว ผม..ผมเหงานะ...” แล้วชายหนุ่มเอามือปาดหยาดน้ำตากำลังจะไหลออกมา
“......” และก็เงียบไปอีกพักใหญ่ๆ
“เฮ้อ~!”ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกอย่างเหนื่อยล้า “ในเมื่อหมดเรื่องที่จะคุยแล้ว งั้นผมขอลาก่อนนะครับ” แล้วเขาก็กราบไหว้หลุมศพอีกครั้ง ก่อนจะออกเดินในทางที่เขาเดินเข้ามาในตอนแรก จนมาถึงต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง “ออกมาได้แล้วมั้งครับ อิจิโกะคุง”
คนที่ถูกเรียกชื่อสะดุ้ง ในที่สุดเขาก็ออกมาจาที่ซ่อน “แหม รู้ตัวตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย?”
“ก็ตั้งแต่คุณเดินตามผมเข้ามาในป่า”
“ก็ตั้งแต่แรกเลยล่ะสิ” อิจิโกะพูด “เอ่อ...’โทษทีนะที่แอบฟังน่ะ เมื่องี้นาย...”
“อืม คุณพ่อกับคุณแม่ของผมเอง นานๆทีจะได้มาหาน่ะ” เซ็นริตอบ “ในเมื่อได้ยินไปแล้วก็..อย่าเอาบอกใครล่ะ” พลางยกนิ้วชี้ขึ้นมาป้องปาก ก่อนขยิบตาข้างหนึ่งให้อิจิโกะ
“เอาล่ะๆ!! กลับกันเถอะ ป่านนี้ลูเคียจังคงเดินหาเรา2คนแย่แล้วล่ะ” เซ็นริพูดขึ้น
ประโยคนั้นทำให้อิจิโกะนึกขึ้นมาได้ว่าลูเคียยังอยู่ในงานเทศกาลนี่นา “จริงด้วยสิ! ลืมยัยนั่นซะสนิทเลย”
------------------------------------------------------------------
บริเวณประตูทางเข้าด้านหน้าของงานเทศกาล
“พวกเจ้า2คนหายไปมา รู้ไหมเดินหาพวกเจ้าซะทั่วงานเลย” ลูเคียบ่นขึ้นหลังจากที่เห็นเพื่อนชายทั้ง2ของเธอเดินออกมาจางานเทศกาล
“ขอโทษด้วยนะ” เซ็นริเอ่ยของลูเคีย
“ ’โทษทีๆ” อิจิโกะก็เช่นกัน
“เรื่องของเจ้า เรียบร้อยแล้วใช่ไหมอาโอกิ?” ลูเคียถาม
“อืม เรียบร้อยแล้วล่ะ” เขาตอบ “ขอบคุณมากเลยนะ ลูเคียจังที่อุตส่าห์มาส่งน่ะ” ก่อนส่งยิ้มหวานไปให้กับคนที่เขาเอ่ยขอบคุณ
เมื่ออิจิโกะเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกว่าความรู้สึกหงุดหงิดที่คาอยู่ในใจของเขาเพิ่มมากขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว ‘ทำไมเราจะต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยนะ?’
“เอาล่ะๆ!! กลับกันได้แล้ว!” อยู่ๆอิจิโกะพูดขึ้น ทั้ง3ออกเดินไปซักพักอยู่ๆอิจิโกะถามขึ้นมาว่า
“แล้ว..บ้านนายอยู่ที่ไหนล่ะ?” พลางมองไปทางชายหนุ่มผมสีซีด เพื่อขอคำตอบ
“บ้านผมจริงๆน่ะ ไม่อยู่ในมิตินี้หรอก” อาโอกิ เซ็นริตอบ
“เอ๋!? แล้วนาย...”
“เจ้านั่นน่ะพักอยู่ที่บ้านของข้าเองแหละ” ลูเคียตอบแทน
“เอ๋!? แล้วเบียคุยะไม่ว่าอะไรเหรอ?” อิจิโกะถามต่อ
“ก็ท่านพี่เป็นคนอนุญาตเองนี่นา”ลูเคียตอบ
“เจ้าเบียคุยะ มันว่าง่ายขณะนั้นเลยเหรอเนี่ย?”อิจิโกะพูด
“อย่ามาเรียกท่านพี่ข้าแบบนั้นนะ!”
-----------------------------------------
ลุกขึ้นมาจากหลุมอีกครั้ง!!! หลังจากที่ดองไว้ข้ามปี!!! <<< ((O[]O))
ความคิดเห็น