คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Suppressed Emotion # 9
Scene 9
แฮร์รี่คิดถึงมัลฟอย
เขารู้ว่าเขาไม่ควรทำแบบนี้ แต่เขาจะหลับตาลงและคิดถึงมัลฟอยทุกครั้งที่เบลสจูบเขา จูบของเบลสนุ่มนวลและจริงใจ ไม่เหมือนจูบของมัลฟอยที่แฮร์รี่ไม่เคยจับความรู้สึกอะไรได้เลย แฮร์รี่ไม่เคยจูบเบลสก่อน แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธเวลาที่เบลสขอ ลึก ๆ แล้วเขารู้สึกผิดที่ทรยศต่อเบลส แต่เขาก็อดหวังไม่ได้จริง ๆ ว่าคนที่จูบเขาจะเป็นมัลฟอย...
แฮร์รี่ไม่ได้รักเบลส...ไม่ใช่ในลักษณะนั้น แม้ว่าเบลสจะเป็นผู้ชายที่ดีมากคนหนึ่งก็ตาม...
oOoOoOoOo
หลังจากทะเลาะกับพวกแพนซี่ เดรโกอยู่คนเดียวมาตลอดอาทิตย์ อันที่จริงจะพูดว่าอยู่คนเดียวก็คงไม่ถูกนัก เขายังมีแครบกับกอยล์ แต่สองคนนั่นก็ไม่ได้ทำให้เดรโกรู้สึกแตกต่างอะไรเท่าไหร่ เมื่อสิ่งเดียวที่พวกเขาจะตอบเวลาที่เดรโกถามอะไรก็ตามมีเพียงว่า ‘ใช่ ฉันก็ว่าอย่างนั้น’ เดรโกไม่ชอบให้ใครขัดใจก็จริง แต่การเห็นด้วยกับทุกความคิดเห็นโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เลยนั้นมันน่ารำคาญเกินไป และนั่นแหละที่ทำให้เดรโกขัดใจ
บางทีเดรโกอยากเตะสองคนนี่ออกไปไกล ๆ แต่เขาคงจะไม่ทำอย่างนั้นหรอก...
เวลาที่เดรโกเบื่อแครบกับกอยล์เขาจะเข้าไปนั่งในห้องน้ำ แล้วเมอร์เทิลก็จะมาคุยกับเขา เดรโกคุยกับเธอครั้งแรกตอนที่เขาหลบเบลสกับแฮร์รี่อยู่ในห้องน้ำ ดูเหมือนเธอจะบินโฉบไปมาแล้วเห็นเหตุการณ์เข้า เมอร์เทิลคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกดี และเดรโกบอกเธอว่าเขาก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน การคุยกับเมอร์เทิลไม่ได้ดีไปกว่าแครบกับกอยล์สักเท่าไหร่ เธอชอบที่จะบินวนรอบตัวเขาและชมว่าผมเขาสวยเพียงไรทุก ๆ ห้านาที แต่ก็นั่นแหละ มีเมอร์เทิลเพิ่มมาอีกคนก็ดีกว่ามีแครบกับกอยล์แค่สองคนน่ะนะ
ทุกอย่างก็ยังคงดำเนินไป เขาไปเรียนหนังสือ กินข้าว ทำการบ้าน เจอแฮร์รี่เดินอยู่กับเบลส แพนซี่กับพวกน็อต...บางทีก็เบลส แพนซี่เหล่มองเขาบ้าง แต่ก็แค่นั้น ไม่มีใครเข้ามาคุยกับเขา...ไม่มีเลย
หลายครั้งเดรโกเกิดความคิดเรื่องเข้าไปขอโทษแพนซี่...แต่เขาก็ไม่ได้ทำสักที เขาไม่เคยทำอะไรอย่างนี้ และมันก็ค่อนข้างยากสำหรับครั้งแรก
เดรโกไม่เคยรู้สึกว่าเขาจะเดือดร้อนอะไรมากนักเมื่อโกรธกับเบลส แต่กับแพนซี่ไม่เหมือนกัน แพนซี่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่เดรโกสนิทด้วย เธอค่อนข้างจะคอยดูแลเขาทุกอย่าง เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องนู่นเรื่องนี่ ครอบครัวของแพนซี่สนิทกับครอบครัวของเขา มันทำให้เขาเคยชินกับการมีแพนซี่อยู่ด้วย และตอนนี้ชีวิตเขาเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง ช่องว่างนี้ใหญ่พอดูเหมือนกัน เขาเพียงแต่คิดว่าแพนซี่จะรู้สึกแบบเดียวกันบ้างรึเปล่า...
เดรโกไม่ได้โกรธที่เพื่อนของเขาไม่คุยกับเขา แต่เขาโกรธแฮร์รี่ โกรธเวลาที่ทั้งคู่สวนทางกันแล้วเขากลายเป็นเหมือนผีสำหรับแฮร์รี่ โกรธที่แม้แต่หมอนั่นก็ยังไม่มองเขา...
บางครั้งถ้าเดรโกเดินอ้อยอิ่งอยู่ที่ระเบียงทางเดินฝั่งตะวันตกตอนค่ำ ๆ เขาจะเห็นเบลสกับแฮร์รี่ยืนอยู่ด้วยกัน...บางครั้งก็จูบกัน และมันทำให้เขาก้าวขาไม่ออก เดรโกเคยคิดว่าเบลสอาจจะรู้ก็ได้ว่าเดรโกยืนอยู่แถวนั้นและเห็น แต่สองคนนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนที่ไปไหน
เดรโกไม่ต้องการให้แฮร์รี่อยู่กับเบลส เขาเคยรู้ว่าแฮร์รี่ชอบเขา...ไม่ใช่เบลส และเขาต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น ไม่เกี่ยวกับว่าเขาจะต้องชอบแฮร์รี่กลับหรือไม่ แต่ในเมื่อแฮร์รี่ชอบเขา มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป...
เดรโกเคยเห็นรอนกับแฮร์รี่ทะเลาะกันเสียงดัง รอนไม่ชอบเบลส ดูเหมือนเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมแฮร์รี่ถึงคบกับเบลส รอนต้องการให้ทั้งคู่เลิกกัน เดรโกยืนหลบอยู่ริมกำแพงและแอบฟัง เขาก็อยากรู้เหตุผลของแฮร์รี่เช่นกัน แต่แฮร์รี่ก็ไม่ได้ให้คำตอบอะไรที่ชัดเจน เดรโกไม่ชอบรอน ไม่ชอบวิธีที่รอนกราดเกรี้ยวใส่แฮร์รี่ และยิ่งไม่ชอบที่เฮอร์ไมโอนี่เอาแต่ยืนเฉยเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร ถ้าเขาเป็นเฮอร์ไมโอนี่เขาจะกอดแฮร์รี่ไว้ แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่ใช่เฮอร์ไมโอนี่นิ...
เดรโกยอมรับอย่างไม่เต็มใจนักว่าเขาเหงา หลายครั้งที่เขานั่งอยู่เฉย ๆ โดยไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี หลายครั้งที่เดินไปโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน เดรโกมีเรื่องให้ต้องคิดและต้องทำหลายอย่าง แต่เขาทำมันออกมาไม่ดีสักอย่าง เขารู้สถานะและปัญหาของตัวเองดี แต่บางครั้งการรับรู้ถึงปัญหาไม่ได้แปลว่าจะสามารถแก้ไขมันได้...
เดรโกอยากได้แฮร์รี่คืน เขาอาจไม่ได้รักแฮร์รี่อย่างที่หมอนั่นรักเขา แต่เขาไม่ต้องการเสียแฮร์รี่ไป...
oOoOoOoOo
“นายมาสาย” แฮร์รี่ดุเสียงเข้ม เหล่ตาจ้องอย่างไม่จริงจังนัก มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “นายบอกว่าจะมาตอนทุ่มครึ่ง...” แฮร์รี่เหลือบมองนาฬิกาแล้วหันมองหน้าร่างสูง “นี่ทุ่ม-สี่-สิบ-ห้า”
เดรโก มัลฟอยถอนหายใจยาว วางหนังสือกับม้วนกระดาษลงบนโต๊ะ ก่อนลากเก้าอี้มานั่งด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย “ฉันบอกว่าประมาณทุ่มครึ่ง ประมาณน่ะรู้จักไหม?”
“เลทตั้งสิบห้านาทีไม่เรียกประมาณแล้ว” แฮร์รี่เลิกคิ้วอย่างมีแผน “เอาเป็นว่านายอยู่ทดเวลาถึงสามทุ่มสิบห้าละกัน...”
“ทดเวลาอะไรของนาย ฉันไม่ได้สัญญาไว้ทุ่มครึ่งสักหน่อย ที่สำคัญห้องสมุดปิดสามทุ่ม”
แฮร์รี่เบ้ปาก “ก็ได้ ๆ ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลย” ยักหัวให้อย่างไม่ค่อยยอมรับนัก “ว่าแต่นายไปไหนมาถึงได้มาสายเนี่ย?”
“ฉันก็มีธุระส่วนตัวต้องจัดการบ้างไม่ได้หรือไง”
“ยุ่งขนาดไม่มีเวลาไปกินมื้อค่ำเลยเรอะ?” แฮร์รี่มุ่นคิ้ว
“ใครบอกนายว่าฉันไม่ได้กิน?”
“ฉันไม่เห็นนายที่ห้องโถง”
มัลฟอยอ้าปากตั้งท่าจะเถียง แต่คงจะนึกคำไม่ออกกระมังจึงพูดออกมาว่า “ให้ตายสิ นี่นายเอาแต่นั่งมองหาฉันหรือไง?”
“เปล่า” ตอบทันควัน “ก็แค่ที่ที่ฉันนั่งมันมองเห็นโต๊ะฝั่งนายชัด” แฮร์รี่ชี้แจง...จริง ๆ แล้วเขานั่งที่เดิมประจำก็เพราะเหตุผลที่ว่านี่นั่นแหละ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องบอกหมอนี่ไปเสียทั้งหมดนี่...
“ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกินที่ห้องโถงทุกวันนี่ บางทีฉันก็ลงไปที่ครัวเอง” มัลฟอยบอกหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง “นายก็เคยลงไปไม่ใช่หรือไง? เอลฟ์พวกนั้นอยากจะทำอาหารประเคนให้จะตาย”
“อืม...ก็คงงั้น”
“นายทำวิชาอะไรอยู่น่ะ?” มัลฟอยเปลี่ยนเรื่องคุย พยักพเยิดไปยังม้วนกระดาษที่แฮร์รี่เขียนค้างอยู่
“สมุนไพรศาสตร์” แฮร์รี่ตอบเรียบ ๆ
“เรอะ...อืม” เขายักหัวสองสามทีแล้วเริ่มต้นหยิบงานของตัวเองขึ้นมาทำบ้าง
แฮร์รี่ชำเลืองมองเด็กหนุ่มสลิธิรีนครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “มัลฟอย?”
“หืม?” เด็กหนุ่มขานรับโดยไม่เงยหน้ามามอง
แฮร์รี่ครุ่นคิดในใจ มัลฟอยกำลังทำอะไรอยู่? วันนี้ไม่ใช่วันแรกที่แฮร์รี่ไม่เห็นมัลฟอยที่ห้องโถง เขารู้ว่ามัลฟอยกำลังพยายามทำอะไรสักอย่างอยู่ และมันจะต้องเป็นเรื่องไม่ดี...แม้กระทั่งต่อตัวมัลฟอยเอง มัลฟอยดูผอมลงเมื่อเทียบกับตอนต้นปี และแฮร์รี่เป็นห่วงเขา แฮร์รี่อยากรู้ว่าเขากำลังทำอะไร...แต่ยิ่งอยากให้เขาเลิกทำมันมากกว่า ไม่ว่าจะมองยังไงแฮร์รี่ก็รู้สึกว่าสิ่งนั้นไม่ทำให้มัลฟอยมีความสุขเลย...ตรงข้ามกลับให้ผลในทางกลับกันเสียอีก แต่เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ? เขาจะพูดอะไรให้มัลฟอยยอมล้มเลิกได้ง่าย ๆ อย่างนั้นหรือถ้าหากว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้เรียวแขนข้างนั้นคือตรามารจริง ๆ...?
“อะไรของนายพอตเตอร์?” มัลฟอยถามย้ำ เงยหน้าขึ้นมอง
“เปล่า ไม่มีอะไร ช่างเถอะ” แฮร์รี่ตอบแล้วก้มลงเขียนงานต่อ เขาไม่ควรพูดเรื่องนี้กับมัลฟอยโดยตรง...อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้
มัลฟอยขมวดคิ้วมองเด็กหนุ่มเบื้องหน้า...อะไรของเขา จะพูดก็ไม่พูด... แฮร์รี่ยังคงก้มหน้าเขียนรายงานโดยไม่ได้สนใจมองมา มัลฟอยถอนหายใจ “อาทิตย์หน้าจะมาตอนทุ่มครึ่ง” ร่างสูงพูดขึ้นแล้วหันหน้าไปมองทางอื่นเมื่อแฮร์รี่เงยหน้าขึ้นมองเขา “สัญญา”
แม้จะไม่ได้มองหน้าตรงแต่เขาก็บอกได้อย่างไม่ลังเลเลยว่าเขาเห็นแฮร์รี่ยิ้ม
“อื้ม” เด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์ขานรับ แล้วกลับไปทำงานต่อโดยไม่ได้พูดอะไรอีก
เดรโก มัลฟอยรู้สึกโหวง ๆ ในอกบอกไม่ถูก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงรู้สึกแบบนี้ ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็นแฮร์รี่ยิ้มมาก่อน...ก็อาจไม่ใช่รอยยิ้มสำหรับเขา แล้วไงล่ะ? มันต่างกันขนาดนั้นเชียวหรือไง...?
มัลฟอยพยายามเลิกคิดมากกว่านั้นแล้วเริ่มต้นทำงานของตัวเองบ้าง ก่อนจะได้ยินเสียงเรียกอีกครั้ง
“เดรโก”
“หือ?”
“เดรโก”
“อืมมม”
“เดรโก!”
“อะไรเล่าพอตเตอร์ เรียกอยู่ได้!” เดรโกยันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสีย ก่อนจะพลันสังเกตเห็นว่าใบหน้าของแฮร์รี่กำลังเลือนหายไป แทนที่ด้วยใบหน้าคุ้นตาของ...
“อย่างแรกเลยนะ ฉันไม่ใช่พอตเตอร์ และอย่างที่สอง ฉันไม่อยากเรียกนายหลายทีนักหรอก ถ้านายจะกรุณาตื่นตั้งแต่แรก” แพนซี่ พาร์กินสันยืนพิงเสาเตียงมองมาที่เขาด้วยสีหน้าบึ้งตึง เด็กสาวโยนม้วนกระดาษใส่ตักเด็กหนุ่ม “รายงานสมุนไพรศาสตร์ของนาย อาจารย์ฝากมาคืน แล้วคืนนี้ไปหาสเนปด้วยล่ะ เขาบอกมีเรื่องจะคุยกับนาย แล้วก็หัดเข้าเรียนวิชาแปลงร่างซะบ้างนะ มักกอนนากัลบอกว่าถ้าขาดอีกครั้งนายไม่ผ่านวิชานี้แน่ ต่อให้ทำคะแนนได้ดีขนาดไหนก็เถอะ และอีกอย่าง...” แพนซี่หันมาอีกครั้งเมื่อเดินไปจวนถึงประตูแล้ว “รีบแต่งตัวแล้วลงไปกินข้าวซะ ก่อนจะไม่เหลืออะไรให้กิน” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงบึ้งตึงแบบเดิมก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วเดินจากไป
เดรโกถอนหายใจ ทิ้งตัวลงนอนราบอีกครั้ง
ทำไมทุกอย่างถึงเกิดขึ้นเร็วนัก จะให้เวลาเขาตั้งตัวสักหน่อยไม่ได้หรือไง...?
oOoOoOoOo
“เธอมัวทำอะไรอยู่ห๊ะเดรโก?”
นั่นเป็นสิ่งแรกที่สเนปพูดกับเขาทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในห้องทำงานของอาจารย์
“เมื่อไหร่ทุกอย่างจะพร้อม? เธอบอกว่าเธอจัดการเองได้ ไม่ให้ฉันเข้าไปยุ่ง แล้วเธอมัวทำอะไรอยู่จนถึงตอนนี้?”
เดรโกเดินเข้าไปหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างโต๊ะทำงานสเนปเอง...ขืนรอคำเชิญคงไม่ได้นั่งหรอก “ผมกำลังจัดการอยู่ ขอเวลาอีกหน่อย”
“อีกนานแค่ไหน?”
“ผมยังไม่รู้”
สเนปถอนหายใจ “เธอพูดอย่างนี้มากี่ครั้งแล้ว? ไม่เห็นจะเสร็จสักที ดาร์คลอร์ดต้องการความคืบหน้า...”
“ผมบอกแล้วไงว่ากำลังจัดการอยู่” เดรโกยกมือกอดอก หันหน้าไปมองทางอื่น
สเนปถอนใจอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปโน้มตัวลงหาลูกศิษย์ความอดทนต่ำของเขา “ถ้าเธอทำไม่ได้ก็บอกฉันมาตรง ๆ เถอะเดรโก ฉันจะช่วยเธอ...”
“แล้วดาร์คลอร์ดจะได้ฆ่าผมกับครอบครัวให้หมดเลยน่ะเรอะ?” เดรโกขึ้นเสียงด้วยความโมโห เขาลุกขึ้นยืนพรวดพร้อมกับผลักร่างอาจารย์ถอยหลังไป “ผมไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นหรอก!”
“เขาไม่ฆ่าเธอง่าย ๆ หรอกน่าเดรโก!”
“เขาฆ่าแน่!!” เด็กหนุ่มกัดฟัน จ้องหน้าผู้เป็นอาจารย์ด้วยดวงตาเหลือกลาน “เขาฆ่าแน่...” เดรโกกล่าวย้ำ...ไม่ใช่กับสเนป แต่เขากำลังบอกตัวเอง เตือนตัวเองไม่ให้ลืม...หน้าที่นี้เป็นความรับผิดชอบของเขา เขาต้องทำเอง ไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้...
เดรโกหลุบตาลง “เก็บความหวังดีของอาจารย์ไว้เถอะ ผมทำเองได้...” เด็กหนุ่มหันหลัง ก้าวเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรอีก
...ไม่มีประโยชน์หรอก ยังไงสุดท้ายเขาก็ต้องยืนเพียงลำพังอยู่ดี...
ประตูห้องปิดเสียงดังเบื้องหลังเดรโก เด็กหนุ่มรู้สึกปวดตุบ ๆ ที่แขน...บริเวณที่ ‘สิ่งนั้น’ ฝังตัวอยู่...
oOoOoOoOo
เดรโกเห็นเบลสกับแฮร์รี่...ยืนอยู่ด้วยกัน...สองคน...ริมระเบียงทางเดิน...
แฮร์รี่เท้าแขนกับขอบระเบียง มองท้องฟ้าเบื้องนอก เบลสหันหลังยืนพิงอยู่ข้าง ๆ แฮร์รี่ แหงนหน้ามองนาฬิกาแขวนที่ชี้บอกเวลาสามทุ่มสิบห้านาที แขนข้างหนึ่งของเขาอ้อมหน้าแฮร์รี่ไปเล่นอยู่กับปอยผมเด็กหนุ่ม คืนนี้อากาศเย็นและลมพัดเกือบตลอดเวลา ผมสีดำสนิทของแฮร์รี่ลู่ไปตามแรงลม เบลสทิ้งแขนลงเกาะบ่าแฮร์รี่แล้วเอนศีรษะพิงร่างบาง เดรโกไม่อาจรู้ได้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน หรือแฮร์รี่กำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ สิ่งเดียวที่เขารู้ตอนนี้คือเขาอยากต่อยเบลส...และยิ่งอยากมากขึ้นอีกเมื่อหน้าของเบลสเลื่อนเข้าไปใกล้แฮร์รี่ ก่อนจะหายไปเบื้องหลังศีรษะเด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์...
เดรโกไม่ต้องการคำตอบ...เพราะเขาไม่มีคำถามใด ๆ ทั้งนั้น เขารู้อยู่แก่ใจว่าเขาจะได้เห็นอะไร แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงเดินมา ทุกวัน ๆ เดินมาหยุดอยู่ที่เดิม มองภาพเดิม ๆ ด้วยความรู้สึกเดิม ๆ ก่อนจะหันหลังเดินจากมาพร้อมกับความรู้สึกหนักอึ้งติดค้างอยู่ในใจ ทุกวัน ๆ เหมือนเดิม...
มันน่ารำคาญ ใช่ และน่าโมโหมาก...เดรโกไม่เคยอยากรับรู้เรื่องนี้เลย เขาไม่เคยอยากเห็นในสิ่งที่เขาเห็น และเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาที่นี่ มาเพื่อเห็นในสิ่งที่ไม่อยากเห็น...
เดรโกอยากต่อยแฮร์รี่...มากพอ ๆ กับที่อยากจูบหมอนั่น...
oOoOoOoOo
ความคิดเห็น