ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic DM/HP] Suppressed Emotion (Y)

    ลำดับตอนที่ #8 : Suppressed Emotion # 8

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 52


     

    Scene 8

     

    ประตูหอสลิธิรีนเปิดออก เด็กหนุ่มร่างสูงผมบลอนด์เดินลากเท้าเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง เขาเดินตรงไปยังโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ริมเตาผิง นักเรียนชายสามคนกำลังนั่งคุยอยู่กับเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งโดยไม่ได้สังเกตเห็นผู้มาใหม่ มัลฟอยเดินเข้าไปกลางวงสนทนาแล้วโยนข้าวของลงบนโต๊ะเสียงดังโครม เด็กสาวอุทานด้วยความตกใจ

     

    เดรโก! โธ่...นี่นายหัดเดินเข้ามาทักทายดี ๆ มั่งได้ไหมเนี่ย  แพนซี่ถอนหายใจ

     

    มัลฟอยไม่พูดอะไรตอบ เขาหันไปจ้องหน้าเด็กหนุ่มร่างอ้วนคนหนึ่งที่กำลังนั่งท่าสบายอยู่บนโซฟาตัวถัดจากเด็กสาว แครบสะดุ้งขึ้นนั่งตัวตรง ก่อนจะค่อย ๆ ลุกเปิดที่ให้กับเด็กหนุ่มผมบลอนด์ แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งเบียดกับกอยล์แทน เบลสเห็นทั้งคู่แล้วรู้สึกสงสารโซฟาจับใจ...

     

    ฉันนึกว่านายไปทำการบ้านที่ห้องสมุด  เด็กหนุ่มกล่าว หันกลับมามองมัลฟอย

     

    เออ นั่นสิ  แพนซี่เอ่ยรับเหมือนเพิ่งนึกได้  ทำไมกลับมาเร็วจัง ห้องสมุดปิดหรือไง?

     

    มัลฟอยถอนหายใจ เบือนสายตาไปมองด้านข้าง  เปล่า

     

    แครบกับกอยล์มองหน้ากัน กะพริบตา แล้วหันกลับมามองมัลฟอยอีกครั้ง

     

    หรือว่าคนที่นัดไว้ไม่มา?  เบลสถาม ยิ้มมุมปาก

     

    มัลฟอยหรี่ตาจ้องหน้าเขาอย่างไม่พอใจ  ฉันไม่ได้นัดใครไว้ บอกไปแล้วไม่ใช่หรือไง

     

    โอเค ไม่นัดก็ไม่นัด  เบลสยกมือยอมแพ้...อีหรอบนี้สงสัยทะเลาะกันมาแหง ๆ... แล้วทำไมถึงหน้าตาบูดกลับมาอย่างนี้น่ะหา?

     

    ไม่มีอะไร  เด็กหนุ่มผมบลอนด์ยกมือกอดอก เอนหลังพิงพนัก

     

    ไม่เอาน่าเดรโก ก็เห็น ๆ อยู่จะไม่มีอะไรได้...

     

    ฉันบอกว่าไม่มีอะไรไง! เลิกเซ้าซี้สักที ไม่รู้สักเรื่องจะได้ไหม?  มัลฟอยตวาดใส่แพนซี่ที่ปิดปากนิ่งอึ้งในทันที เขากวาดสายตามองไปยังเบลสที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟา และแครบกับกอยล์ที่กอดกันพร้อมกับส่งสายตาหวาดหวั่นมาทางเขา เด็กหนุ่มยันตัวลุกขึ้นอย่างหัวเสียก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังประตูหอนอนชาย

     

    แพนซี่หันมองหน้าเพื่อน ขมวดคิ้วแล้วยกนิ้วชี้หน้าอกตัวเอง  ความผิดฉันงั้นเรอะ?

     

    เบลสยักไหล่  

     

    oOoOoOoOo

     

    ประตูห้องนอนเปิดออกช้า ๆ  เบลส ซาบินี่ยืนอยู่ที่กรอบประตูมองเข้ามา เดรโก มัลฟอยนอนไขว้ขาอยู่บนเตียง กอดอก จ้องมองเพดานเตียงสี่เสา ไม่สนใจผู้มารบกวน เบลสถอนหายใจ เด็กหนุ่มตอบตัวเองไม่ได้ว่าเขาถอนหายใจเพราะรับรู้ว่าปัญหากำลังตั้งท่าจะยุ่งยากกว่าเดิม หรือเพราะเหนื่อยหน่ายนิสัยที่แก้ไม่หายของเพื่อนคนนี้กันแน่...ไม่แน่ บางทีเขาอาจเหนื่อยใจเพราะรู้สึกตงิดว่าตัวเองจะต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงก็ได้ เด็กหนุ่มงับประตูปิดแล้วสาวเท้าเงียบเชียบเข้าไปภายใน ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงที่อยู่ติดกับมัลฟอย

     

    มัลฟอยหันศีรษะไปอีกทาง แสดงออกสุดฤทธิ์ว่า เลิกมายุ่งกับฉันสักที

     

    เบลสถอนหายใจอีกรอบ...นี่เขาไม่ใช่ศิราณีนะ...  ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น  เด็กหนุ่มพูดเสียงเรียบ  แต่ถ้าพวกนายทะเลาะกันมา นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่เข้าท่าเลย

     

    มัลฟอยนอนนิ่ง

     

    เบลสจับหมอนตั้งกับหัวเตียงแล้วเอนหลังพิง ยกขาไขว่ห้าง  ถ้าให้ฉันทาย คนผิดคือนายล่ะสิ

     

    ไม่ตอบ

     

    นายจะทำตัวเป็นเด็ก ๆ พอโกรธก็หนีเข้าห้องรอแม่มาเคาะประตูเรียกไปตลอดไม่ได้หรอกนะ นายอาจเคยชินกับการโดนง้อ ฉันไม่รู้ แต่กับแฮร์รี่...

     

    เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์!”  มัลฟอยขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ หันหน้ามามองเบลส  แล้วก็ไม่เกี่ยวกับนายด้วย

     

    เบลสประสานสายตานิ่ง  ฉันคิดว่านั่นไม่ใช่คำพูดที่ดีสักเท่าไหร่เลยนะ

     

    ฉันอยากอยู่คนเดียว  เด็กหนุ่มหันศีรษะสีบลอนด์ให้คู่สนทนาอีกครั้ง 

     

    เบลสเริ่มรู้สึกถึงขีดความอดทนของตัวเองที่ลดต่ำลงเรื่อย ๆ  เลิกทำตัวงี่เง่าสักที นายคิดว่าหมอนั่นจะรอนายตลอดไปหรือไง?

     

    มัลฟอยนอนนิ่ง  ฉันไม่รู้ว่านายพูดเรื่องอะไร

     

    เบลสขบกราม  นายคิดว่าจะได้รับการอภัยไปตลอดงั้นเรอะ? คิดว่าแฮร์รี่เป็นเทพบุตรสุดเมตตาที่นายอยากจะเดินไปหาเมื่อไหร่เขาก็จะอยู่รอนายงั้นสิ?  เขาลุกขึ้นยืน มือกำแน่นอยู่ข้างลำตัว  ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแฮร์รี่ถึงยอมทนเพื่อคนอย่างนายถึงขนาดนี้

     

    มัลฟอยเพ่งสายตามองม่านข้างเตียงที่ทิ้งตัวแข็งนิ่ง อากาศในหอสลิธิรีนเย็นชาและเงียบเหงาดังเช่นทุกวัน นิ้วมือของเด็กหนุ่มสั่น เขากำมันไว้แน่น  ฉันไม่เข้าใจแม้แต่นิดเดียวว่านายพูดเรื่องอะไร เบลส ซาบินี่

     

    พวกเขาไม่มองหน้ากัน ไม่มีใครพูดอะไรเลย แล้วเสียงส้นเท้ากระทบพื้นก็เดินห่างออกจากเตียงมัลฟอยไป

     

    ประตูห้องนอนถูกชักเปิดออก ก่อนจะปิดลงหลังจากที่เบลสหันกลับมามองเพื่อนของเขาเป็นครั้งสุดท้าย

     

    ถ้าฉันเป็นเขา ฉันจะเกลียดนายตลอดไป...

     

    ...ถ้าฉันเป็นเขา ฉันจะเกลียดนายตลอดไป..จะเกลียดนายตลอดไป...จะเกลียดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ...จะเกลียดตั้งแต่เหตุการณ์ในห้องโถงใหญ่วันนั้น....จะเกลียดเพราะทุกสิ่งที่นายทำมันต่ำทราม...จะเกลียดเพราะนายมันไร้หัวใจ...จะเกลียดเพราะนายเป็นผู้ชายที่ไม่มีวันได้รับการอภัย...

     

    ...จะเกลียดเพราะนายมันน่าสมเพช เดรโก มัลฟอย

     

    มัลฟอยซุกใบหน้าลงกับหมอน ซ่อนตัวจากแสงแม้เพียงน้อยนิดที่ส่องสว่างอยู่ภายในห้องที่หนาวเย็น

     

    ทำไม...อยู่ ๆ สิ่งนี้จึงสำคัญกับเขาเหลือเกิน...

     

    oOoOoOoOo

     

    บ่ายวันพุธเดรโกนั่งอยู่ริมทะเลสาบคนเดียว เขาไม่ได้ไปฮ็อกส์มี้ดวันเสาร์ที่ผ่านมาแต่กลับใช้เวลาเกือบทั้งวันนั่งแช่อยู่ในห้องสมุด ดูหนังสือภาพงี่เง่าสำหรับเด็กที่ทำให้เขารู้สึกงี่เง่าขึ้นตามจำนวนหน้าที่เปิดอ่าน เขาเดาไม่ออกว่าใครซื้อหนังสือพวกนั้นมาใส่ห้องสมุดฮอกวอตส์ แล้วทำไมมาดามพินซ์ถึงยอมให้มีหนังสือพวกนั้นอยู่ในห้องสมุดสุดรักสุดหวงของหล่อนได้

     

    ก่อนหน้านี้เดรโกไม่เคยรู้สึกว่าห้องสมุดเป็นสถานที่ที่น่าเหยียบย่างเข้าไปสักเท่าไหร่ เหมือนกับห้องพยาบาลนั่นแหละ ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ประโยชน์ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปทำไม... คงเป็นเพราะช่วงเวลาสองอาทิตย์ที่เขามานั่งทำการบ้านกับแฮร์รี่ที่นี่ ทำให้เขาเริ่มคิดว่าอันที่จริงห้องสมุดก็เป็นที่ที่ไม่เลวเหมือนกัน และบางครั้งเขาก็จะแวะเข้ามานั่งบ้าง...

     

    เดรโกหยิบก้อนหินขึ้นมาจากพื้นหญ้าข้างกาย ขว้างมันลงทะเลสาบเบื้องหน้า และนั่งมองผิวน้ำตีวงกว้างออกช้า ๆ

     

    นายคิดดูให้ดี ๆ เถอะเดรโก เบลสเอาจริงแน่ 

     

    ประโยคคำพูดที่เพิ่งได้ยินมาเมื่อวันก่อนแว่บเข้ามาในความคิดของเดรโก จนถึงตอนนี้เด็กหนุ่มก็ยังไม่เข้าใจว่าแพนซี่ต้องการจะบอกอะไรเขากันแน่ และบางทีเขาอาจไม่ต้องการจะรู้...

     

    เบลสไม่พูดกับเขาเลยตั้งแต่คืนวันศุกร์ ไม่มองเลยด้วยซ้ำ เดรโกไม่เข้าใจว่าทำไมหมอนั่นถึงได้โกรธเขาอย่างเอาจริงเอาจังขนาดนั้น ใช่ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะไม่เคยพูดจาแรง ๆ ใส่กัน เบลสไม่ค่อยโกรธใครง่าย ๆ  เขาเป็นผู้ชายที่มีความอดทนและค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าหมอนั่นจะเริ่มเป็นเพื่อนที่ดีกับแฮร์รี่เพราะไปเข้าไอ้สมาคมซลักฮอร์นอะไรนั่น และทำให้พวกเขาเถียงกันบ่อยขึ้นเวลาที่เดรโกชอบหาเรื่องแกล้งแฮร์รี่แรง ๆ ก็เถอะ พวกเขาไม่เคยโกรธกันแรงขนาดนี้มาก่อนเลย...

     

    เฮ้ ดูสิว่าใครนั่งอยู่ตรงนี้  เสียงใครบางคนดังขึ้นข้างหลังเขา และด้วยความตั้งใจบางอย่างในน้ำเสียงนั้น เดรโกรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงกำลังพูดถึงเขาอยู่ เด็กหนุ่มเหล่ตามองและเห็นนักเรียนฮัฟเฟิลพัฟฟ์สามคนเดินตรงมาทางเขา หนึ่งในนั้นเป็นคนที่เดรโกจำได้ว่าเคยเห็นเข้าไปสารภาพรักแฮร์รี่ ใช่ เขายังเอาเรื่องนี้ไปยั่วหมอนั่นตอนโดนกักบริเวณอยู่เลย รู้สึกแฮร์รี่จะเคยพูดถึงว่าชื่อ...

     

    ไอ้ผู้ชายบ้านฮัฟเฟิลพัฟฟ์เมื่อเช้าแฟนใหม่นายเรอะ?  มัลฟอยจงใจแหย่ต่อ เขาสังเกตเห็นว่าร่างบางมีปฏิกิริยาเล็กน้อย  แหมดีนี่ อกหักปุ๊บก็มีหน้าใหม่มาให้ควงปั๊บ

     

    เออร์นี่เป็นเพื่อนของฉัน!”

     

    อา ใช่แล้ว ชื่อเออร์นี่...

     

    คุณหนูลูกผู้ดีตีนแดงนี่หว่า  เออร์นี่พูด อีกสองคนหัวเราะคิกคัก เดรโกทำเป็นไม่สนใจ

     

    เพื่อนหายไปไหนหมดล่ะคุณชาย ถึงต้องมานั่งคุยกับปลาหมึกเนี่ย?  อีกเสียงพูดขึ้น ถ้าเดรโกจำไม่ผิดหมอนี่ชื่อจัสติน

     

    แหม ไม่น่าถาม  เด็กผู้หญิงที่ชื่อฮันนาห์ตอบ ยกมือปิดปากซ่อนยิ้ม  ก็ถูกทิ้งหมดแล้วน่ะสิ คนแบบเนี้ยใครจะไปอยากคบด้วย

     

    เออร์นี่กับจัสตินหัวเราะ

     

    ...พวกสวะ... เดรโกคิด ไม่คู่ควรให้เขาเสียเวลามายุ่งด้วยหรอก เขาลุกขึ้นยืนแล้วเดินเลี่ยงทั้งสามออกไป แต่เออร์นี่เดินเข้ามายืนขวางหน้าเดรโกไว้ เด็กหนุ่มจ้องกลับ

     

    มีปัญหารึเปล่า?  เออร์นี่ถามอย่างเอาเรื่อง

     

    มีแน่ ถามพวกนายไม่หลบไปดี ๆ  เขาตอบ

     

    อู้หูย เขาขู่เราว่ะ!”  เออร์นี่หันไปพูดกับเพื่อน ก่อนจะหันกลับมามองเดรโกอีกครั้งด้วยสีหน้าเยาะเย้ย  กลัวจัง

     

    นายจะทำอะไรพวกเราห๊ะ ทำตาขวางใส่เรอะ?  จัสตินพูด

     

    ฮันนาห์หัวเราะ  อย่าล้อเขาสิจัสติน ก็รู้ ๆ อยู่ว่าหมอนี่ทำเป็นแค่ตาขวางกับยิ้มเยาะเท่านั้นแหละ

     

    เดรโกชักไม้กายสิทธิ์ออกมาอย่างเดือดดาล เออร์นี่ชักออกมาเช่นกัน

     

    วิงการ์เดียม เลวีโอซ่า!”

     

    ร่างของเดรโกลอยขึ้นจากพื้น ตัวเอียงเท้งเต้งอยู่กลางอากาศ

     

    ฮันนาห์ปรบมือรัวอย่างชื่นชม  ว้าว เก่งจังเออร์นี่ คาถาที่เรียนตั้งแต่ปีหนึ่งก็ยังใช้ได้ดี 

     

    เออร์นี่ทำท่าโค้งคำนับ แต่ลอยได้แค่นิดเดียวเองดูสิ สงสัยจะชิ้นใหญ่ไปหน่อย...

     

    เอ็กซ์เปลลิอาร์มัส!”

     

    ไม้กายสิทธิ์หลุดกระเด็นออกจากมือเออร์นี่เมื่อโดนคาถาโต้กลับกะทันหัน ร่างของเดรโกร่วงลงมานอนที่พื้น เขารีบยันตัวลุกขึ้นยืน

     

    วิงการ์เดียม เลวีโอซ่า!”

     

    สิ่งต่อมาที่เด็กหนุ่มได้เห็นคือก้อนหินก้อนหนึ่งพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูง เดรโกเหลือกตากว้าง แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ป้องกันตัวใด ๆ  เขาก็ล้มลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง รู้สึกเวียนหัวและปวดอย่างรุนแรงบริเวณคิ้วข้างขวา

     

    โอ๊ย...!” 

     

    อุ้ยตายแล้ว  ฮันนาห์ร้อง ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่เดือนร้อนใด ๆ เลย

     

    แย่เลยนะมัลฟอย ก็นายเล่นพรวดพราดลุกขึ้นมาตอนฉันกำลังซ้อมใช้คาถาอยู่นี่น่า วันหลังระวังหน่อยนะ มันอันตรายรู้ไหม  จัสตินพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ฮันนาห์ปิดปากหัวเราะ

     

    มัลฟอยยกมือกดหน้าผากแล้วเอาลงมาดู ฝ่ามือของเขาเป็นสีแดงฉาน...เลือด หัวแตกเหรอเนี่ย? เจ็บชะมัด...ไอ้พวกสวะโสโครกฮัฟเฟิลพัฟฟ์!...

     

    ทำอะไรกันน่ะ? 

     

    เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นด้านหลังทั้งสาม พวกเขาหันไปมองที่มาของเสียงด้วยความตกใจแล้วแตกฮือทันที

     

    ซวยแล้วสเนปมา  เดรโกได้ยินเสียงเออร์นี่กระซิบ และก่อนที่เขาจะทันได้สังเกต ทั้งสามก็วิ่งหนีหายไปจากสายตาแล้ว เด็กหนุ่มพยายามยันตัวลุกขึ้นยืนแต่รู้สึกเวียนหัวจึงนั่งลงไปใหม่

     

    เดรโก เกิดอะไรขึ้น?  สเนปเดินมาถึงและย่อตัวลงมาหาเขา

     

    เดรโกรีบหันศีรษะไปด้านข้าง พยายามซ่อนบาดแผลจากผู้เป็นอาจารย์  ผมไม่เป็นไร  เขาพูด มือขวายังคงกดหน้าผากแน่น

     

    พวกนั้นทำอะไรเธอ ไหนหันมาดูซิ  สเนปจับไหล่เขาแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้

     

    เดรโกยกมือบังหน้า หันหนีมากขึ้น  ผมไม่ได้เป็นอะไร

     

    ฉันบอกว่าให้หันมานี่!”  สเนปจับข้อมือเดรโกและบิดคางบังคับเด็กหนุ่มให้หันหน้ามา  นี่อะไร?

     

    เดรโกปัดมืออาจารย์ออก  แค่หัวแตกนิดหน่อย ไม่ตายหรอกน่า

     

    พวกเด็กกลุ่มเมื่อกี้มันรังแกเธอใช่ไหม?

     

    ผมบอกว่าไม่มีอะไรไงเล่า แผลแค่นี้ไปห้องพยาบาลเอาก็ได้

     

    ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันรักษาให้  สเนปจับหน้าเดรโกให้อยู่นิ่ง ๆ  ก่อนจะดึงไม้กายสิทธิ์ออกมา บรรจงแตะที่หน้าผากเขาเบา ๆ แล้วพึมพำคาถาที่เดรโกฟังไม่รู้เรื่อง เลือดหยุดไหล สเนปเสกผ้าพันแผลปิดเอาไว้  ปิดไว้สักสามวันจะได้ไม่มีแผลเป็น  เขาสั่ง แล้วช่วยพยุงตัวลูกศิษย์ให้ลุกขึ้นยืน

     

    เดรโกยังคงขืนตัวไม่รับความช่วยเหลือ  ผมยืนเองได้ ไม่เป็นไร

     

    สเนปถอนหายใจแล้วจึงปล่อยแขนเด็กหนุ่ม  พักนี้เธอดูแปลก ๆ นะเดรโก

     

    เด็กหนุ่มหันไปมองสเนปด้วยความแปลกใจ

     

    ในห้องเรียนฉันก็เอาแต่นั่งเหม่อ ถึงฉันจะพยายามทำเป็นไม่เห็น แต่พวกกริฟฟินดอร์ที่นั่งเรียนเต็มห้องก็เหล่กันจนตาจะหลุดจากเบ้าอยู่แล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปอีกฉันคงหลีกเลี่ยงไม่ทำโทษเธอไม่ได้

     

    ...นั่งเหม่อเรอะ...นี่เขานั่งเหม่อในห้องเรียนด้วยหรือเนี่ย?... เดรโกนึกขันตัวเอง  แล้วทำไมอาจารย์ไม่ทำล่ะ? อันที่จริงอาจารย์จะกักบริเวณผมบ้างก็ได้นะ ผมไม่ว่าอะไรหรอก ทีกับพอตเตอร์ยังทำออกบ่อยไป

     

    เดรโก เธอก็รู้ว่ามันไม่เหมือนกัน  สเนปมองหน้าลูกศิษย์ เด็กหนุ่มหันไปมองทางอื่นและไม่ตอบว่าอะไร  เธออยากพูดถึงพอตเตอร์หรือ  สเนปพูดต่อเรียบ ๆ แต่ทำให้เดรโกมีปฏิกิริยาได้มากทีเดียว  มีเรื่องอะไรอยากเล่าให้ฉันฟังหรือเปล่า...เรื่องที่เกี่ยวกับพอตเตอร์น่ะ

     

    นี่อาจเป็นครั้งแรกที่คำพูดของสเนปทำให้มัลฟอยใจเต้นแรงได้ขนาดนี้...

     

    oOoOoOoOo

     

    อุ้ย! หัวไปโดนอะไรมาเดรโก แพนซี่ร้องเสียงสูงก่อนปราดเข้าไปหาเพื่อนของเธอที่เพิ่งเดินเข้าห้องนั่งเล่นรวมมาด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อนทั้งที่มีผ้าพันแผลแถบเบ้อเร่อพันอยู่รอบศีรษะ

     

    ไม่มีอะไรมากหรอกน่า  มัลฟอยถอนหายใจ ชั่งใจว่าควรจะพูดอะไรมากกว่านี้ไหม แล้วมองใบหน้าที่เหมือนจะเป็นคนเจ็บเสียเองของเด็กสาวผมดำ เขาถอนหายใจอีกรอบ  โดนก้อนหินน่ะ

     

    แพนซี่เลิกคิ้ว  นายคงไม่บอกว่าบังเอิญสะดุดเอาหัวไปโขกก้อนหินใช่ไหม?

     

    เปล่า ไม่ใช่  มัลฟอยหย่อยตัวลงนั่งที่โซฟา รู้สึกปวดหัวแปลบ ๆ  พวกฮัฟเฟิลพัฟฟ์ขี้ขลาดโสโครกน่ะ...

     

    แพนซี่ถอนหายใจเสียงดัง ค่อย ๆ นั่งลงข้างมัลฟอย  ฉันกะแล้วว่ามันต้องมีอย่างนี้เกิดขึ้นสักวัน นายเล่นไปสร้างศัตรูกับคนเกือบทั้งโรงเรียนนี่  เด็กสาวกล่าว  แต่เล่นกันถึงเลือดตกยางออกแบบนี้มันชักจะมากไปแล้ว ฉันว่านายน่าจะบอกสเนปนะ

     

    เขารู้แล้ว

     

    อ้าวเหรอ? แล้วเขาว่าไงบ้าง?

     

    ก็หักคะแนนแล้วก็สั่งทำโทษไปแล้ว

     

    เหรอ...อืมก็ดี แต่นายระวังตัวไว้มาก ๆ ละกัน ฉันกลัวว่าหลังจากนี้มันจะยิ่งแรงขึ้นเรื่อย ๆ น่ะสิ  แพนซี่พูด  ว่าแต่นายแวะไปหาสเนปมาเหรอ?

     

    เปล่า เขาบังเอิญผ่านมาเจอฉันน่ะ...ก็เลยทำแผลให้ด้วย

     

    แพนซี่ขยับตัวมามองหน้ามัลฟอย ยิ้มบาง ๆ  เขาเหมือนพ่อทูนหัวนายจริง ๆ เลยนะ บางทีฉันรู้สึกว่าเขาห่วงนายมากกว่าพ่อนายซะอีก

     

    มัลฟอยมองแพนซี่กลับ รู้สึกขัดเขินแปลก ๆ ที่อยู่ดี ๆ แพนซี่ก็พูดอะไรแบบนี้ขึ้นมา เขาทำเสียงกระแอมเบา ๆ แล้วหันหน้าไปทางอื่น  พ่อฉันก็คือพ่อฉัน

     

    ฉันรู้น่า  เธอพูดขำ ๆ  คุณลูเซียสเขาก็รักนาย...แค่อาจจะแสดงออกไม่ค่อยเก่งน่ะ

     

    มัลฟอยอึกอัก เขาไม่อยากยกเรื่องของพ่อมาเป็นหัวข้อสนทนาสักเท่าไหร่  เออแล้ว...เบลสไปไหนล่ะ ปกติป่านนี้หมอนั่นน่าจะกลับมานั่งเตร่อยู่ในห้องนั่งเล่นรวมแล้วนี่?

     

    ไม่รู้สิ  แพนซี่ยักไหล่ เบนสายตาไปมองทางอื่น  คงไปหาแฟนมั้ง

     

    แฟน?  เด็กหนุ่มผมบลอนด์เลิกคิ้วมองเพื่อนด้วยความประหลาดใจ  เบลสมีแฟนเรอะ? ตั้งแต่เมื่อไหร่?

     

    ก็...วันเสาร์น่ะ ที่ฮ็อกส์มี้ด วันที่นายยืนยันเสียงแข็งว่ารู้สึกปวดหัว ยังไงก็อยากจะอยู่ที่โรงเรียนมากกว่าน่ะ

     

    มัลฟอยพยักหน้าเบา ๆ  อ๋อ อืม...  เขาเงียบไปครู่หนึ่ง  น่าตกใจแฮะ ก่อนหน้านี้ฉันไม่เห็นหมอนั่นจะสนใจใครเป็นพิเศษ

     

    นายไม่เคยสนใจเบลส จะรู้ได้ยังไงว่าเขาสนใจใคร

     

    แล้วเขาสนใจใครล่ะ?

     

    แพนซี่หันกลับมามองเพื่อน  ทำไมนายไม่ถามเบลสเองล่ะ? ไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย

     

    มัลฟอยถอนหายใจแล้วเอนหลังพิงพนัก

     

    แพนซี่ขยับตัวหันมา ทำสีหน้าหมดความอดทนเต็มที  พวกนายจะทะเลาะกันอีกนานแค่ไหนห๊ะ? เมื่อไหร่จะคุยกันซะที น็อตบ่นให้ฉันฟังทุกวันว่าพวกนายทำให้ห้องนอนไม่น่าอยู่แค่ไหนนายรู้ไหม?

     

    ไม่ใช่ความผิดของฉันนี่

     

    นี่หยุดดื้อสักวันนึงได้ไหมเดรโก ไปคุยกับเบลสเถอะ พวกนายควรจะคุยกันนะ

     

    แล้วทำไมจะต้องเป็นฉันล่ะ? ทำไมไม่ให้หมอนั่นเข้ามาคุยกับฉัน!”

     

    ก็เพราะว่าถ้าปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ คนที่จะเสียใจก็คือนายไงล่ะ!”

     

    มัลฟอยลุกขึ้นยืน ประสานสายตากับแพนซี่  ทำไมฉันจะต้องเสียใจ?

     

    แพนซี่ถอนหายใจแล้วกอดอก 

     

    ฉันไม่เสียใจอะไรทั้งนั้น

     

    แล้วไอ้ที่ชอบนั่งเหม่อทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่ทุกวันนี่เรียกอะไร?

     

    ฉันไม่ได้ทำหน้าหมดอาลัยตายอยาก!”

     

    ทำแน่ล่ะ! ใคร ๆ ก็สังเกตทั้งนั้น นอกจากทำหน้าหมดอาลัยตายอยากแล้วนายยังเจ้าอารมณ์ขึ้น พาลไปทั่ว จนไม่มีใครอยากยุ่งกับนายแล้วรู้ตัวไหม!”

     

    งั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!”  มัลฟอยตะคอกแล้วหันหลังกระแทกเท้าเดินห่างออกไป

     

    แพนซี่ลุกขึ้นจากโซฟา  เดรโก!”

     

    หุบปาก!”

     

    เออ!”  เด็กสาวตะโกนเสียงดัง  ดี! อยากทำอะไรก็เชิญ อยากไปไหนก็ไป! เชิญปากแข็ง ดื้อด้าน ปิดหูปิดตาอยู่ในโลกแคบ ๆ นั่นตลอดไปเลยแล้วกัน อีตาบ้างี่เง่า!”

     

    ประตูหอสลิธิรีนถูกกระแทกปิดเสียงดังลั่น

     

    oOoOoOoOo

     

    เดรโกหัวเสียสุด ๆ

     

    แม้จะออกจากหอมาจนถึงระเบียงทางเดินแล้วเขาก็ยังคงกระแทกเท้าอยู่ดี เด็กนักเรียนที่เดินสวนมามองเขาอย่างไม่พอใจแล้วหลบออกห่าง บางทีแพนซี่อาจจะพูดถูกก็ได้ แต่เดรโกไม่สนใจหรอกว่าเขาจะระรานคนอื่นมากแค่ไหน ก็เขาโกรธนี่ ไม่ว่าใครเวลาโกรธก็ต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว และถ้าช่วงนี้มีเรื่องให้เขาโกรธบ่อยมันก็ไม่ใช่ความผิดของเขาสักหน่อย!

     

    เพราะทุกคนพากันพูดจาหน้าโมโหทั้งนั้น บอกให้เขาทำนู่นทำนี่ ไปหาคนนู้นสิไปพูดกับเขา ไปหาคนนี้สิไปคุยกับเขา ทำไมเขาต้องเป็นฝ่ายเริ่มด้วย! เขาเป็นคนผิดตลอดเลยงั้นสิ!

     

    เดรโกเดินผ่านห้องน้ำชายและเห็นป้ายชำรุดตั้งอยู่หน้าประตู เขาหยุดยืนดู ตอนกลางวันที่เดินผ่านเขาแน่ใจว่ายังไม่มีป้ายอยู่แน่ ๆ  เดรโกหันมองซ้ายขวา ไม่มีใครเดินผ่าน เขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป เดรโกไม่สนหรอกว่าห้องน้ำใช้ได้รึเปล่า เขาแค่อยากอยู่คนเดียวเงียบ ๆ เท่านั้น และห้องน้ำชำรุดก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว

     

    ภายในห้องน้ำมีสภาพปกติอย่างที่เดรโกเคยเห็น บางทีอาจจะมีแค่ก๊อกน้ำหรือชักโครกบางตัวที่ชำรุด แต่เขาไม่เห็นว่าทำไมจะต้องตั้งป้ายห้ามเข้าถ้ามันชำรุดแค่นั้น เด็กหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าอ้างล้างมือ ส่องกระจก หน้าตาเขาก็เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหละ ไม่เห็นจะดูหมดอาลัยตายอยากตรงไหน อาจจะตาขวางมากกว่าปกติก็เพราะตอนนี้เขากำลังโมโหอยู่น่ะสิ

     

    คนโมโหจะให้ยิ้มหวานหรือไง?

     

    oOoOoOoOo

     

    เดี๋ยวก่อนเบลส แบบนี้มันไม่ดีมั้ง

     

    ก็นายไม่อยากให้ใครเห็นไม่ใช่เหรอ?

     

    มันก็ใช่...แต่

     

    เอาน่า ไม่เห็นเป็นไรเลย  เบลสลากแขนแฮร์รี่เข้าไปยังห้องน้ำด้านในสุดแล้วปิดประตู

     

    ถ้าฟิลช์บังเอิญผ่านมาเจอเข้าเราตายแน่ ถึงเขาจะแก่แต่ก็คงไม่เลอะเลือนจนลืมไปหรอกว่าไม่ได้ตั้งป้ายชำรุดไว้หน้าห้องน้ำนี้น่ะ

     

    ไม่มาหรอกน่า อย่าขี้กังวลสิแฮร์รี่ ฟิลช์เดินตรวจแต่ตอนกลางคืนเท่านั้นแหละ ขืนเดินทั้งวันทั้งคืนคงด้องไปนานแล้ว

     

    แฮร์รี่หัวเราะ เบลสจับได้ว่าเขาแสร้งทำ แต่ไม่ได้พูดอะไร แฮร์รี่หน้าแดงและเกร็งจนสังเกตได้ และนั่นคงเป็นสาเหตุที่แท้จริง เด็กหนุ่มเดินเข้าไปใกล้แฮร์รี่มากขึ้น ลดพื้นที่ที่แคบอยู่แล้วให้แคบลงไปอีก จนแฮร์รี่หลังชนกำแพง เบลสยิ้ม ยิ้มพอใจที่แฮร์รี่ไม่หลบสายตาเขา

     

    ยิ้มอะไร?  แฮร์รี่ว่า

     

    ยิ้มไม่ได้เหรอ?  เบลสยกมือแตะข้างศีรษะแฮร์รี่เบา ๆ  ฉันกำลังจะได้จูบนาย จะไม่ให้ยิ้มได้ไง

     

    อย่ามาทำหน้าตากะลิ้มกะเหลี่ยนะ พูดมากเดี๋ยวฉันเปลี่ยนใจด้วย

     

    โอ๊ะ อย่านะ  เขายกอีกมือประคองหน้าแฮร์รี่  ฉันไม่ยอมจริง ๆ ด้วย  แล้วเบลสก็ยื่นหน้าเข้าไป ปิดช่องว่างที่เหลืออยู่ระหว่างทั้งคู่จนแน่นสนิท ลมหายใจร้อน ๆ เป่ารดใบหน้ากันและกัน แฮร์รี่ยกแขนเกาะไหล่เบลสไว้ เบลสสางนิ้วมือไปตามเรือนผมแฮร์รี่ แฮร์รี่ปิดตาแน่นตลอดเวลาที่เบลสจูบเขา และแม้ว่าเบลสจะผละออกไปแล้ว เขาก็ยังรู้สึกกลัวที่จะลืมตา

     

    แย่แฮะ ฉันชักติดใจซะแล้วสิแฮร์รี่  เบลสยิ้ม  คงต้องหาโอกาสทำอีกบ่อย ๆ ซะแล้ว

     

    อย่าบ้า  แฮร์รี่หลบตาเขาจนได้

     

    เบลสยกนิ้วแตะริมฝีปากเบา ๆ  มองหน้าแฮร์รี่  มิน่าล่ะ หมอนั่นถึงได้...

     

    อะไรนะ?

     

    เปล่า ไม่มีอะไร...ว่าแต่ขออีกทีได้ไหมแฮร์รี่?

     

    เบลส!”

     

    โธ่ ไม่เห็นเป็นไรเลย เราเป็นแฟนกันนี่น่า

     

    แฮร์รี่ผ่อนลมหายใจแล้วยักหัวเบา ๆ  อย่าลามปามขออะไรที่มากกว่านี้แล้วกัน

     

    ทำไมล่ะ?

     

    เบลส!”

     

    โอเค ๆ ตกลง ฉันสัญญา  เด็กหนุ่มยกมือทำสัญญาณยอมแพ้  แต่ตอนนี้ขออีกทีก่อนนะ  เบลสเชยคางแฮร์รี่ขึ้นแล้วจูบเขาอีกครั้ง และครั้งนี้นานกว่าครั้งแรกจนแฮร์รี่ต้องผลักเบลสออกเพื่อให้เขาหยุด

     

    คราวหน้าฉันไม่ให้แล้วจริง ๆ ด้วย  แฮร์รี่ทำเสียงโกรธ ๆ อย่างไม่จริงจังนัก แล้วทั้งคู่ก็เปิดประตูห้องน้ำเดินออกไปด้วยกัน

     

    ห่างออกไปเพียงเมตรเดียวที่ห้องน้ำถัดจากทั้งคู่ เดรโก มัลฟอยยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สับสนและหายใจไม่ออก

     

    ...นี่มันเรื่องอะไรกัน...

     

    oOoOoOoOo

     

    นี่มันเรื่องอะไรกัน?  มัลฟอยตรงดิ่งเข้าไปกระชากแขนแพนซี่ทันทีที่เขาเห็นเธอเดินลงบันไดมากับน็อต เด็กสาวอุทานด้วยความตกใจเมื่อถูกจับเหวี่ยงหมุนร้อยแปดสิบองศา 

     

    โอ๊ย อะไรเนี่ย! ฉันต่างหากล่ะที่ควรจะถามว่านี่มันเรื่องอะไรหาเดรโก?  แพนซี่ดึงแขนคืน ขมวดคิ้วมองมัลฟอยด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง  นายเป็นอะไรของนายอีก?

     

    เด็กหนุ่มหายใจเสียงดัง  เบลส...เรื่องที่หมอนั่นคบกับ...เธอรู้อยู่แล้วใช่ไหม?

     

    ออ...  เด็กสาวผ่อนลมหายใจ  อืม  เธอตอบสั้น ๆ พร้อมกับยักหัว

     

    ทำไมไม่บอกฉัน?

     

    ทำไมจะต้องบอก?  เด็กสาวจ้องกลับตาขวาง  บอกแล้วนายจะทำอะไร? เดินเข้าไปต่อยหน้าเบลสเรอะ? นายทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกนะเดรโก เพราะนายไม่ได้เป็นอะไรกับแฮร์รี่ พอตเตอร์

     

    มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าฉันเป็นอะไรกับพอตเตอร์รึเปล่า! แต่ทำไมจะต้องปิดฉันเรื่องที่สองคนนั่นคบกัน!”

     

    ถ้ามันไม่เกี่ยวกับนายแล้วนายจะสนใจทำไมหา!”

     

    ฉันไม่ได้สน! แต่เธอก็ควรจะบอกให้ฉันรู้ไม่ใช่หรือไง!”

     

    ฉันไม่เห็นว่านายควรจะรู้ตรงไหน!”

     

    เธอจงใจปิดบังฉัน ทุกคนนั่นแหละ! อยากจะตลบหลังฉันนักใช่ไหม? คิดจะรวมหัวกันเล่นงานฉันด้วยวิธีแบบนี้เรอะ!”

     

    นายหยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว! ใครจะรวมหัวกับใครเล่นงานนายไม่ทราบ? ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้!”

     

    แล้วทำไมเธอถึงไม่บอกฉันล่ะยัยโง่!”

     

    แล้วทำไมนายไม่ไปถามเบลสเองล่ะ แทนที่จะมาตะโกนใส่หน้าฉันอย่างนี้!”  แพนซี่ขึ้นเสียงลั่นโถงทางเดิน มือกำแน่นจนสั่นอยู่ข้างลำตัว น้ำตาเอ่อคลอเบ้าตา ถ้ามันสำคัญกับนายนักทำไมไม่หัดสังเกตเองล่ะว่าเบลสหายไปอยู่กับใคร! ถ้าไม่อยากเสียเขาไปทำไมไม่บอกเขาตั้งแต่แรกว่านายชอบเขา! ฉันไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของนายนะ!!”

     

    น็อตโอบไหลแพนซี่แน่นเพื่อทำให้เธอสงบลง แพนซี่ซบหน้าลงกับไหล่เขา สะอึกสะอื้น มัลฟอยได้แต่ยืนนิ่งมองเธอ มองเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเขากำลังร่ำไห้ เพื่อนที่เขาเพิ่งทำร้ายเธอด้วยมือของเขาเอง...

     

    นายนั่นแหละต้นเหตุ เดรโก นายทำร้ายทุกคน และนายก็ทำร้ายตัวนายเอง  น็อตพูดอย่างเย็นชา เขาหันหลังให้มัลฟอยและพาแพนซี่เดินจากไป

     

    มัลฟอยไม่รู้ว่าเขาควรจะทำอะไรต่อไป ไม่รู้เลยจริง ๆ...

     

    oOoOoOoOo

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×