คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Suppressed Emotion # 6
Scene 6
สเนปกำลังนั่งทำหน้ามืดมนตรวจการบ้านนักเรียนอยู่ที่โต๊ะทำงาน...หรือจริง ๆ แล้วไม่ได้ทำแต่มันเป็นไปเองก็ไม่รู้ แต่ก็นั่นแหละ เอาเป็นว่าเขามืดมนก็แล้วกัน หลักฐานที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเห็นจะเป็นเสื้อผ้า...อย่างน้อยแฮร์รี่ก็ไม่เคยเห็นเขาใส่สีอื่นเลยนอกจากสีดำ เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าพวกชุดนอนหรือชั้นในจะเป็นสีดำด้วยรึเปล่า...?
สเนปขยับตัวแล้วชำเลืองดูแฮร์รี่ที่กำลังรื้อตู้เก็บเครื่องปรุงยาออกมาทำความสะอาด ก่อนจะชำเลืองมองไปยังเด็กหนุ่มร่างสูงผมบลอนด์ที่กำลังจัดเอกสารอยู่ที่อีกมุมหนึ่ง ทำอย่างนี้อยู่เรื่อย ๆ ราวกับกลัวว่าทั้งคู่จะอดใจไม่ไหว กระโดดเข้ามาหาเรื่องต่อยกันในวินาทีใดวินาทีหนึ่งงั้นแหละ
เหตุผลที่สเนปมีอาการไม่ไว้ใจขนาดนี้ก็เนื่องมาจากคืนก่อนหน้านั่นแหละ อาจารย์วิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนล่าสุดมีธุระด่วนต้องไปคุยกับอาจารย์ใหญ่ เขาจึงทิ้งนักเรียนตัวดีสองคนนี่เอาไว้โดยไม่ได้ฉุกใจคิดสักนิดว่าตัวเองได้ทำพลาดอย่างมหันต์ลงไป ผลที่ตามมาน่ะหรือ? เจ้าสองหน่อนี่ก็มีเรื่องกับหนอนเน่าจนห้องทำงานเขาเขียวอื๋อเลยน่ะสิ! แถมก่อเรื่องเสร็จก็หายหัวไปทั้งคนโดนทำโทษทั้งคนเฝ้าเลย ให้มันได้อย่างงี้สิเมอร์ลิน! ว่าแต่เขาก็เพิ่งจะสังเกตเห็นนะเนี่ย เจ้าเด็กพอตเตอร์มันแก้มแดงเป็นมะเขือเทศอย่างนี้เลยเหรอ...?
“ฮัดชิ่ว!” เด็กชายเจ้าของแก้มมะเขือเทศจาม ยกนิ้วขึ้นปัดจมูก แล้วก้มหน้าก้มตาเช็ดขวดแก้วฝุ่นเขรอะต่อไปอย่างรำคาญใจ...สเนปเคยทำความสะอาดตู้นี่บ้างรึเปล่าเนี่ย ฝุ่นงี้หนาเป็นนิ้วเลย ส่วนผสมแต่ละอย่างก็เหม็นฉุนจมูกชะมัด แล้วดูสิ ขณะที่เขาต้องมานั่งคลุกฝุ่นอยู่อย่างนี้มัลฟอยทำอะไร? จัดเอกสาร! ไม่ค่อยจะลำเอียงเลยให้ตาย เอกสารพวกนั้นมีอะไรให้จัดนักหนาไม่ทราบ!
แฮร์รี่ชำเลืองมองมัลฟอย หมอนั่นเอาแต่เคาะตั้งกระดาษอยู่นั่นแหละ ทำเสร็จแล้วล่ะสิท่า ไม่คิดจะมาช่วยเขาหน่อยหรือไง น้ำใจน่ะมีไหม “ฮึ!”
“มีปัญหาอะไรพอตเตอร์?”
“ปะ เปล่าครับ” แฮร์รี่เบ้ปากอุบอิบ “แค่...ฝุ่นมันเยอะมากๆๆ ก็เลยคันจมูก”
“งั้นก็รีบ ๆ เช็ดซะสิจะได้ไม่มีฝุ่น”
แฮร์รี่ชะงัก เขาหันหลังขวับให้สเนปแล้วออกแรงขัดขวดใส่เล็บมังกรอย่างหมั่นไส้...หน็อย ไอ้หัวเมือกบ้า! เขาประชดต่างหากล่ะ ประชดน่ะเข้าใจไหม! ฮึ้ย...ฉุนโว้ย! น่าหมั่นไส้จริง ๆ ทั้งอาจารย์ทั้งลูกศิษย์นั่นแหละ!
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังรัวขึ้น ทั้งสามชีวิตในห้องหยุดมือจากสิ่งที่ทำและหันมองอย่างตกใจ
“ใครน่ะ!” สเนปถาม
เสียงฟิลช์ตอบกลับมา “ผมเองครับศาสตราจารย์”
“มีอะไร?”
“ผมจับนักเรียนได้สองคน กำลังทำลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่ตรงทางลงคุกใต้ดินครับ”
สเนปลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู แฮร์รี่และมัลฟอยมองตาม พวกเขาเห็นฟิลช์ยืนอยู่หลังกรอบประตู สองมือยึดหลังคอรอนและเฮอร์ไมโอนี่เอาไว้ สองคนส่งสายตามาทางแฮร์รี่เป็นเชิงขอโทษ เด็กชายตาโตด้วยความตกใจ...สองคนนี้ออกจากหอมาทำอะไรที่นี่? แล้วยังซุ่มซ่ามให้โดนจับได้อีก! สเนปหักคะแนนกริฟฟินดอร์สนุกใหญ่ละคราวนี้!
“ดูเหมือนเกรนเจอร์กับวีสลีย์จะเดทกันลืมเวลาไปหน่อยนะ” อาจารย์พูดเสียงเย็น “คนละยี่สิบ...ไม่สิ เป็นพรีเฟ็คต้องพิเศษหน่อย หักคนละสามสิบคะแนน และบางทีถ้าได้ช่วยกันขัดถ้วยรางวัลอาจจะพอจำได้บ้างว่าเวลาปิดหอมันกี่โมง” สเนปเหล่หางตามามองแฮร์รี่ เหยียดยิ้ม “สงสัยจริง เด็กบ้านกริฟฟินดอร์มีปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการจำทุกคนรึเปล่า”
เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ
แฮร์รี่ได้ยินเสียงมัลฟอยหัวเราะหึ ๆ เด็กชายเหลียวไปมองและได้รับรอยยิ้มเยาะเย้ยกลับมา เขากัดฟันกรอด
“ฉันจัดการเอง ขอบใจมากฟิลช์” สเนปบอกแล้วเดินออกจากห้องไป ก่อนจะชะงักและเหลียวกลับมามองทั้งสองอีกครั้ง...ค่อนข้างจ้องแฮร์รี่มากเป็นพิเศษ “ฉันจะกลับมาภายในสิบนาที ถ้าทุกอย่างไม่เรียบร้อยอย่างที่ควรจะเป็น...คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เขาบอกแล้วปิดประตูเสียงดังลั่น
แฮร์รี่อยากได้หนอนฟลอบเบอร์อีกสักกระบะจัง...
OoOoOoOoO
ห้องทำงานของสเนปหนาวขึ้นอย่างน่าประหลาดเมื่อเหลือเพียงเด็กหนุ่มกับมัลฟอยเท่านั้น แฮร์รี่พยายามจดจ่ออยู่กับการขัดขวดมากขึ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องสนใจสังหรณ์แปลก ๆ ที่คอยกระตุกแขนเสื้อเขาอยู่ตลอดเวลา ภาพใบหน้าระยะใกล้ของมัลฟอยเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัวอย่างน่ารำคาญ ยิ่งพยายามจะไม่คิดถึงมันเท่าไหร่ มันยิ่งมาเยี่ยมเขาบ่อยเหลือเกิน ยิ่งในเวลาน่าอึดอัดอย่างนี้ด้วยแล้ว...ถ้ามัลฟอยรู้ว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ละก็ หมอนั่นต้องหาเรื่องแกล้งเขาไม่หยุดไม่หย่อนแน่ ๆ!
“พอตเตอร์” จู่ ๆ มัลฟอยก็โพล่งขึ้นมา
แฮร์รี่สะดุ้งโหยง “อะ อะไร”
มัลฟอยนึกขำท่าทางของเด็กหนุ่มอยู่ในใจ “ฉันจัดเอกสารเสร็จแล้ว”
แฮร์รี่ขบฟัน...ก็เสร็จตั้งนานแล้วไม่ใช่ไง! ทำเป็นลีลาเคาะตั้งหนังสืออยู่นั่นแหละ! “แล้วไง” ร่างบางตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง แกล้งทำเป็นไม่สนใจแม้ว่าหัวใจจะเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อยู่ในอก...หมอนี่จะมาไม้ไหนอีกเนี่ย!
แฮร์รี่กลืนน้ำลายเอื้อก เขารู้สึกถึงความเคลื่อนไหวและได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา มัลฟอยกำลังเดินมาหาเขางั้นเหรอ! มาทำไม จะเอาอะไร โอ๊ย...ไม่นะ! เขาไม่อยากให้หมอนั่นเห็นหน้าเขาตอนนี้!
ร่างสูงเดินมาย่อเข่านั่งลงข้างไหล่แฮร์รี่ เด็กชายยังไม่ยอมหันไปมองหน้าเขา
มัลฟอยพูดอีกครั้งว่า “ฉันทำส่วนของฉันเสร็จแล้ว”
“ก็แล้วไงล่ะ จะมาบอกฉันทำไม!”
“ช่วยเอาไหม?”
“ไม่ต้อง ขอบใจ” แฮร์รี่วางขวดที่เช็ดเสร็จแล้วลง หยิบขวดใบใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมมาขัดต่อ “เดี๋ยวมือคุณชายของนายก็เปื้อนฝุ่นเอาหรอก” ...เชอะ ทำมาเป็นมีน้ำใจ วางแผนอะไรอีกล่ะสิ!
มัลฟอยหัวเราะหึ ๆ
“ขำอะไรไม่ทราบ!” แฮร์รี่แว้ด เผลอหันไปมองหน้าเจ้าเล่ห์ของร่างสูงเข้าจนได้
“เปล๊า” มัลฟอยเหยียดยิ้ม “กลัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ใครกลัวนายไม่ทราบ!”
“ถ้านายไม่กลัวทำไมต้องนั่งตัวสั่นขนาดนั้นล่ะ?”
“ฉันไม่ได้ตัวสั่น!”
“โกหก”
“ไม่ใช่!”
“นายตัวสั่นแล้วก็ไม่กล้ามองหน้าฉันตรง ๆ ด้วย”
“นายหุบปากแล้วกลับหอนอนนายไปเลยไป!” แฮร์รี่ฉุนจัด เขาผลักไหล่มัลฟอยอย่างแรงทำให้เด็กหนุ่มเสียหลักหงายหลังลงไปนั่งก้นกระแทกพื้น แฮร์รี่ตั้งท่าจะลุกหนี แต่คราวนี้มัลฟอยขยับตัวอย่างรวดเร็ว เขาคว้าร่างบางกลับมาแล้วล็อคแขนตรึงไว้กับพื้น แฮร์รี่ดิ้นและยกขาขึ้นเตะลำตัวมัลฟอย ร่างสูงอุทานก่อนจะใช้เข่ากดทับขาเด็กหนุ่มเอาไว้ ทำให้ตอนนี้แฮร์รี่ทำได้แค่หวีดร้องโวยวายและสะบัดไหล่ไปมาเท่านั้น “ปล่อยยยยย! ปล่อยฉัน! ไอ้บ้าเอ๊ย! เจ็บนะ!”
“นายเตะฉันก็เจ็บเหมือนกันนั่นแหละ!”
“ก็นายมาจับฉันก่อนทำไมล่ะ! ”
“ไม่จับนายก็วิ่งหนีไปอีกน่ะสิ!”
“แล้วนายมายุ่งอะไรกับฉันนักหนาเล่า!”
“นายหุบปากแล้วหยุดดิ้นได้แล้วพอตเตอร์!”
“นายนั่นแหละหุบปากแล้วไปตายซะมัลฟอย!!” แฮร์รี่หอบหน้าแดงแจ๋ เขาจ้องหน้ามัลฟอยซึ่งหายใจถี่ไม่แพ้กัน ริมฝีปากเรียวของร่างสูงขยับอ้าออก
“นายนี่สร้างแต่ปัญหาไม่มีที่สิ้นสุดจริง ๆ”
“ใครกันแน่!”
ทั้งคู่จ้องตาอีกฝ่าย แฮร์รี่หยุดดิ้นในที่สุด...ถึงดิ้นไปก็สู้แรงควายหมอนี่ไม่ได้หรอก!
เด็กหนุ่มผมดำตัดสินใจพูดจาดี ๆ “นายจะปล่อยฉันได้รึยังมัลฟอย?” ...ดีแล้วจริง ๆ นะ
แต่เด็กหนุ่มผมบลอนด์กลับยื่นหน้าลงไปใกล้เขา “บอกมาก่อนสิว่านายหลบหน้าฉันทำไม?”
“เพราะฉันเหม็นขี้หน้านายน่ะสิ! ยังมีหน้ามาถามอีกเรอะ!”
มัลฟอยส่ายหน้า “นายไม่ได้เหม็นขี้หน้าฉัน พอตเตอร์ นายชอบฉัน”
แฮร์รี่เริ่มต้นดิ้นอีกครั้ง มัลฟอยออกแรงกดมากกว่าเดิม
“หยุดดิ้นแล้วยอมรับความจริงมาได้แล้ว!”
“ยอมรับอะไร! นายมันอันธพาล คอยแต่จ้องหาเรื่องฉัน! นั่นแหละความจ...” เสียงของแฮร์รี่หายไปเมื่อมัลฟอยก้มลงมาปิดปากเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างบางตาโตด้วยความตกใจ ส่งเสียงประท้วงอู้อี้ในลำคอ...โอ๊ย ให้ตายเถอะ!
มัลฟอยถอนปากกลับไปก่อนจะเหยียดยิ้ม “เป็นไง อร่อย ไหม?”
แฮร์รี่เหลือกตากว้าง หน้าร้อนผ่าว “ไอ้...! ไอ้...!”
“ยอมรับมาเถอะ นายหลบหน้าฉันเพราะกลัวฉันจะรู้ล่ะสิว่านายติดใจอยากจูบฉัน”
“ฉันไม่ได้... ใครจะไปติดใจจูบน่ารังเกียจของนาย!”
มัลฟอยยื่นหน้าลงไปอีกครั้ง “นายไม่ชอบ?”
แฮร์รี่กลืนน้ำลาย “ไม่ชอบ!”
ร่างสูงประกบปากกับเขาอีกรอบ...แรงกว่าเดิม...แน่นกว่าเดิม แฮร์รี่หลับตาปี๋ กรีดเสียงในลำคอและดิ้นพล่าน ๆ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่อ้าปากรับ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คล้อยตาม แต่คราวนี้มัลฟอยไม่ยอมถอนปากกลับไปง่าย ๆ เหมือนครั้งแรก...ให้ตายเถอะให้ตายเถอะ! นานเกินไปแล้ว!!...เด็กหนุ่มตะโกนในใจ ถ้ามัลฟอยยังไม่ยอมหยุดละก็ เขาต้องแย่แน่ ๆ!!! แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น แฮร์รี่ก็ต้องลืมตาโพล่ง!...ลิ้น! ลิ้น! ไอ้หอกมัลฟอย! อย่าสอดลิ้นเข้ามาเซ่!...
“อื้ออออ!” แฮร์รี่หลับตาอีกรอบ หัวใจเร่งจังหวะแรงขึ้น ลิ้นของมัลฟอยเต้นไปมาในช่องปากของแฮร์รี่ ลมหายใจร้อน ๆ เป่ารดใบหน้าของเขา ฟันของทั้งคู่กระทบกันเสียงดังกึก ๆ แล้ววินาทีนั้นแฮร์รี่ก็คิดอะไรไม่ออกอีกต่อไป ไม่มีแรงขัดขืนใด ๆ ร่างบางผ่อนแรงลง รู้สึกถึงความร้อนที่แก้ม...ที่หน้าผาก...ทั่วใบหน้า เด็กหนุ่มอ้าปากและเริ่มขยับลิ้นรับ เขาได้ยินเสียงครางแผ่วในลำคอของตัวเอง แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อได้ยินอีกเสียงผ่านเข้ามาในปากของเขาเช่นกัน
มัลฟอยเริ่มขยับตัวให้สบายขึ้น เขายกขาที่ใช้กดล็อคขาแฮร์รี่ออก ตวัดมันคร่อมผ่านร่างบางที่นอนนิ่งไม่ขัดขืน เด็กหนุ่มส่งจูบลงลึก เก็บทุกรสชาติจากอีกฝ่าย เสียงครางเป็นจังหวะของแฮร์รี่ทำให้เขาเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ มัลฟอยเลื่อนมือข้างหนึ่งลงมาปลดแว่นร่างบางออกทิ้งไป แฮร์รี่ใช้มือที่ว่างข้างนั้นจับหลังคอเขาไว้ มัลฟอยสอดแขนรวบไหล่เด็กหนุ่มในจังหวะเดียวกัน ลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดไปมา ความร้อนเพิ่มสูงขึ้นเมื่อร่างสูงทิ้งน้ำหนักตัวลงไปบนอกร่างบาง ลมหายใจทั้งคู่ขาดห้วงมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วในที่สุดมัลฟอยก็ถอนปากออกไป
ไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้น พวกเขาจ้องหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างสูญเสียความสามารถในการพูดเหมือน ๆ กัน แต่คราวนี้คนที่กลับมาได้ก่อนคือแฮร์รี่
“หนัก...”
มัลฟอยรู้สึกตัว รีบยันตัวขึ้นแล้วขยับตัวไปนั่งด้านข้าง แฮร์รี่ยันตัวขึ้นนั่งตาม เหล่มองซีกหน้าแดงเรื่อของเด็กหนุ่มที่คราวนี้กลายเป็นฝ่ายไม่ยอมสบตากับเขาแทน
“มัล...”
“พอตเตอร์!” เด็กหนุ่มสลิธิรีนร้องขัดจังหวะขึ้นเสียงดังจนทำให้แฮร์รี่สะดุ้ง “นาย... เป็นไงล่ะ! ถึงกับเคลิ้มเลยล่ะสิ!” โทนเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติและสายตาที่ยังคงมุ่งมั่นจ้องแต่หัวเข่าของแฮร์รี่ทำให้มัลฟอยโดนจับพิรุธได้ไม่ยากนักเลย
“นายเอง...ก็เคลิ้มนี่”
มัลฟอยหน้าเป็นสีชมพูเข้ม “นายนั่นแหละที่เคลิ้มพอตเตอร์! อย่ามาทำเฉไฉ นายชอบจูบของฉันใช่ไหมล่ะ!”
“ไม่เห็นแปลกนี่ เพราะฉันชอบนาย นายเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ แต่ที่นายก็เคลิ้มเนี่ย...”
“ฉันไม่ได้เคลิ้ม!”
“โกหก นายเคลิ้ม...นายกอดฉันด้วย”
“นายเองก็กอดฉันเหมือนกัน!”
“ก็ฉันเคลิ้มนี่”
มัลฟอยหน้าแดง...และแดง...และแดง “หะ...ในที่สุดก็ยอมรับแล้วใช่ไหมล่ะ! เมื่อกี้ละทำเป็นปากหนัก!”
“มัลฟอย...”
“ฉันไม่ได้เคลิ้ม พอตเตอร์! เลิกเซ้าซี้ได้แล้ว!”
“แล้วทำไมต้องหลบตาฉันด้วย”
มัลฟอยตวัดสายตาขึ้นมองหน้าแฮร์รี่ตรง ๆ รู้สึกกระอักกระอ่วนบอกไม่ถูก นี่เขากะจะแกล้งแฮร์รี่แท้ ๆ ทำไมถึงเสียท่าซะเองแบบนี้ล่ะ! ว่าจะเล่นให้หมอนี่อายทำอะไรไม่ถูกเหมือนเมื่อคืนวาน แต่คนที่ทำอะไรไม่ถูกกลับกลายเป็นเขาแทนซะนี่...ทั้งที่ก็เคลิ้มด้วยกันทั้งสองคนแท้ ๆ!
“นายก็ชอบจูบของฉันใช่มะ มัลฟอย?”
“ใครจะไปชอบจูบห่วย ๆ ของนาย!”
“ไม่เอาน่า ยอมรับมาเถอะ ปากหนักอยู่นั่นแหละ”
“ฉันไม่รับ!”
“ฉันเองก็เนื้อหอมเหมือนกันนะ”
“เรื่องของนาย! ฉันไม่...”
ประตูห้องเปิดผางออก เด็กหนุ่มทั้งสองคนนั่งแข็งนิ่งอยู่กับที่ สเนปยืนค้างอยู่ที่ประตู จ้องมองมาทางทั้งสองพลางหรี่ตาอย่างประหลาดใจ “ทำอะไรกัน?”
“เปล่าครับ” ตอบพร้อมกัน
“ผมจัดเอกสารเสร็จแล้ว กลับหอได้เลยใช่ไหมครับ?” มัลฟอยลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว อยากจะออกไปพ้น ๆ จากห้องนี้สักที สเนปขมวดคิ้วมองหน้าลูกศิษย์ที่แดงจนผิดสังเกตด้วยความแปลกใจก่อนจะพยักหน้าให้ช้า ๆ มัลฟอยพุ่งตัวออกจากห้องไปทันที ไม่มีเหลียวหลัง
สเนปหันมามองแฮร์รี่ “เสร็จรึยังพอตเตอร์?”
“ยังครับ”
“งั้นก็ทำไปสิ”
แฮร์รี่หยิบขวดกับผ้าขึ้นมาแล้วจึงลงมือเช็ด
สเนปเดินข้ามห้องเข้ามาทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะทำงาน เหลือบมองเด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์แล้วถอนหายใจ ก่อนจะหยิบม้วนกระดาษมานั่งตรวจต่อ
โรคแก้มมะเขือเทศนี่ติดต่อกันได้ด้วยหรือ...?
OoOoOoOoO
ความคิดเห็น