คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Suppressed Emotion # 11
Scene 11
ความจริงเดรโกตั้งใจจะแกล้งทำเป็นหลับไปจนกว่าทั้งแฮร์รี่และเบลสจะคุยจบและออกจากห้องไป แต่พอเบลสเกิดอุตริถามคำถามพรรค์นั้นออกมา...แถมปฏิกิริยาของแฮร์รี่ก็ยังเป็นแบบนั้นอีก...มันทำให้เขาอดทนไม่ไหวอีกต่อไป เดรโกลืมตาลุกขึ้นมองแฮร์รี่ จ้องใบหน้านั้นราวกับไม่ได้เห็นมันมานานแรมปี มือเดรโกสั่นและใจของเขาก็เต้นรัว แฮร์รี่ยืนอยู่ใกล้มาก ใกล้ขนาดที่เขาสามารถรวบตัวเข้ามากอดได้ด้วยแขนข้างเดียว และเดรโกคงจะทำอย่างนั้น...ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามที่แม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้...ถ้าแฮร์รี่ไม่หันมาเห็นเขาเสียก่อน
“อะ...” แฮร์รี่ผงะถอยไปด้านหลัง พ้นจากระยะกอดแต่ยังไม่พ้นระยะเอื้อม และนั่นทำให้เดรโกตระหนักว่าเขาช้าเกินไป...
เดรโกรีบขยับตัวอย่างรวดเร็ว หวังจะฉวยเวลาที่เขาช้ากลับคืนมา เขากระชากผ้าห่มเปิดออก แต่แฮร์รี่หันหลังและเริ่มต้นออกวิ่งไปแล้ว
“เดี๋ยว...” เดรโกส่งเสียงพร้อมกับยื่นแขนออกมา...ยังทัน ถ้าเขาพุ่งตัวตามไปตอนนี้เขาต้องจับแฮร์รี่ได้แน่ ยังทันอยู่...แต่โชคชะตาไม่ปรานีเดรโกนัก ผ้าห่มที่เปิดไม่พ้นตัวเกี่ยวเข้ากับข้อเท้าซ้ายของเขา ส่งให้เดรโกพุ่งลงด้านล่างแทนที่จะพุ่งไปด้านหน้า ร่างเด็กหนุ่มหล่นกระแทกพื้นเสียงดัง เขาส่งเสียงร้องในลำคอ กล้ามเนื้อปวดแปลบ เดรโกมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง
เสียงฝีเท้าของแฮร์รี่ดังแผ่วห่างออกไปเรื่อย ๆ...
oOoOoOoOo
“ผมชอบคุณ”
เบลสเลิกคิ้วมองเด็กหนุ่มตรงหน้า “นี่น่ะเหรอเหตุผลที่นายเรียกฉันออกมาดึกดื่น?”
เด็กหนุ่มสลิธิรีนร่างเล็กพยักหน้าอย่างเคอะเขิน
“ฉันมีแฟนแล้วนะ”
“ผมรู้ครับ คุณเป็นแฟนกับ...แฮร์รี่ พอตเตอร์...คนพูดถึงกันทั้งโรงเรียน” เด็กชายเม้มปาก ทำสีหน้ายอมรับในความพ่ายแพ้อย่างไม่เต็มใจนัก (อันที่จริงถ้าตัดประเด็นเรื่องชื่อเสียงกับความเป็นที่นิยมที่เขาอาจสู้แฮร์รี่ไม่ได้ทิ้งไป เด็กคนนี้ก็น่ารักไม่หยอกอยู่) “ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณเลิกกับเขาด้วย ผมแค่...อยากบอกให้รู้เท่านั้นเอง” เด็กชายขยุ้มชายเสื้อตัวเอง “แล้ว...ถ้าเผื่อว่าคุณต้องการความช่วยเหลือหรือมีเรื่องกลุ้มใจอะไรก็คุยกับผมได้นะครับ หรือถ้าเผื่อว่าคุณกับแฮร์รี่ พอตเตอร์เกิดไม่อยากคบกันแล้ว...บางที... อ๊ะ! ผมไม่ได้หมายความว่าอยากให้พวกคุณเลิกกันนะครับ ผมหมายความว่า...ถ้าหากว่าบางที...แค่สมมติเท่านั้นน่ะครับ! ถ้าหากว่าวันนึงพวกคุณเกิดอยากเลิกกันขึ้นมา...แล้วถ้าคุณไม่รังเกียจ...ผม... อ๊ะ! หวา...ผมพูดจาเสียมารยาทจังเลย ขะ ขอโทษนะครับ ผมไม่น่าทำคุณเสียเวลาด้วยเรื่องไร้สาระพรรค์นี้เลย ขอโทษนะครับ อย่าสนใจผมเลย จะลืมมันไปก็ได้นะครับ ขอโทษจริง ๆ ครับ ผม...”
“เฮ้ย...เลิกขอโทษซ้ำไปซ้ำมาได้แล้ว” เบลสขำ “นายยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
“แต่ว่า...ผม...”
“เออ ไม่ต้องพูดแล้วน่า” เบลสยิ้ม...น่ารักจริง ๆ ด้วยนั่นแหละ “นายชื่ออะไรนะ?” เขาถาม
“ผม...เอ่อ...ชื่อแมทธิวครับ”
“แมทธิว...อยู่ปีอะไรแล้ว?”
“ปีสองครับ”
เบลสเลิกคิ้ว “ฮื้ม...ปีสองงั้นเรอะ”
“คะครับ”
“ขอโทษด้วยนะ ฉันคงเป็นแฟนกับนายไม่ได้หรอก”
แมทธิวทำหน้ายอมรับความจริงอย่างหมดหวัง “ครับ ผมเข้าใจ”
เบลสยิ้ม “แต่ฉันก็ไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้นหรอก ในฐานะที่นายกล้ามาสารภาพกับฉันตรง ๆ ฉันมีรางวัลให้นาย”
“เอ๋? รางวัลอะไรเหรอครับ?”
เบลสก้มลงเชยคางแมทธิวขึ้นแล้วประทับปากจูบ เด็กหนุ่มทำหน้าตกใจและตัวเกร็งขึ้นมาทันที
...จูบแรกรึเปล่าเนี่ย? ไม่ทันได้ถามซะด้วยสิ แต่ไม่ขัดขืนอย่างนี้จะทึกทักเอาเองว่ายินยอมก็แล้วกันนะ...
เบลสกำลังคิดว่ามันจะเยอะเกินไปไหมถ้าเขาจะสอดลิ้นเข้าไปด้วย แต่เขาก็ถูกกระชากคอเสื้อออกมาอย่างรุนแรงเสียก่อนที่จะทันได้ตัดสินใจทำอะไร เบลสทันได้เห็นแววตาเดือดดาลของเดรโกแวบเดียวเท่านั้น ก่อนที่หมัดลุ่น ๆ จะกระแทกเข้าเต็มเบ้าตา ส่งให้เขาลงไปนอนกองกับพื้น
ร่างของเดรโกที่ยืนก้มมองลงมาด้วยสายตาเดียดฉันท์นั้นสูงใหญ่ราวกับยักษ์
“นายมันสกปรก”
เสียงของหมอนั่นดังก้องราวกับมาจากที่ไกลแสนไกล...
oOoOoOoOo
นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว แต่เดรโกยังไม่หลับ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ง่วง แต่เขามีเรื่องให้คิดเยอะเหลือเกิน ผ่านมาสองวันแล้วหลังจากเหตุการณ์ปะทะกับแฮร์รี่ในห้องน้ำ และแผลของเขาก็ดีขึ้นมาก อันที่จริงเดรโกได้สติมาตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เขาก็แกล้งทำเป็นหลับไปทุกครั้งที่มีคนมาเยี่ยม นอนหลับตานิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น ฟังบทสนทนาระหว่างนักเรียนที่แวะมากับมาดามพอมฟรีย์ มีคนมาเยี่ยมเขามากกว่าที่คิด ทั้งพวกที่มาเพราะเป็นห่วง (ซึ่งมีไม่มากนัก) และพวกที่มาเพื่อสมเพศ...
...ไม่มีแฮร์รี่ พอตเตอร์อยู่ในจำนวนนั้น...
แม้จะรู้ว่าไม่ควรคาดหวังมาก แต่เดรโกก็ค้นพบว่าเขาตั้งตารอใบหน้านั้นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงลูกบิดประตู
แพนซี่เป็นคนที่มานั่งอยู่ข้างเตียงเขานานที่สุด ก่นด่าแฮร์รี่ พอตเตอร์ให้มาดามพอมฟรีย์ฟัง เบลส ซาบินี่เป็นอีกคนที่มาบ่อย...แม้จะไม่เคยอยู่นานเกินสามนาทีเลยสักครั้ง...และต่อให้เขาแกล้งทำท่าเหมือนเข้ามาเพราะลืมของบ่อยเสียจนน่าขำ แต่เดรโกก็ยังรู้สึกดี
ปมความขัดแย้งระหว่างเขากับพวกแพนซี่กำลังค่อย ๆ คลายตัวออก เดรโกรู้สึกได้ และเขาดีใจ แม้ว่าเขายังไม่พร้อมจะตื่นมาสนทนากับแพนซี่ตอนนี้ก็ตาม
เดรโกไม่รู้ตัวว่าหลับไปอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อเขาลืมตาตื่นอีกครั้งเพราะเสียงเก้าอี้ครูดพื้นข้างเตียง ความเหนื่อยล้าก็ลดลงไปมาก เขาคงหลับไปพักใหญ่เหมือนกัน
ทีแรกเดรโกยังไม่ทันสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้องพยาบาลที่เขาพำนักอยู่ แต่แล้วเขาก็เห็นแผ่นหลังของใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเตียงของเขา เขาจำได้ทันทีว่าเป็นเบลส ซาบินี่ เดรโกแปลกใจที่เห็นเขาอีกครั้ง เด็กหนุ่มแน่ใจว่าตอนนี่ต้องดึกมาก ๆ แล้ว แม้เขาจะไม่รู้เวลาที่แน่นอนก็ตาม เดรโกรีบปิดตาลง หวังว่าเบลสจะยังไม่เห็นว่าเขารู้สึกตัวตื่นแล้ว และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะขณะนั้นเบลสกำลังหันหลังให้เดรโก จับจ้องไปยังผู้มาใหม่ที่เพิ่งผ่านประตูห้องเข้ามาด้วยความประหลาดใจ เดรโกไม่ทันเห็นว่าเป็นใคร เขามัวแต่ยุ่งกับการแสร้งทำเป็นหลับอยู่ แต่ภายในเวลาไม่นานนักเขาก็ได้รู้คำตอบ เพราะเบลสเปล่งเสียงแปร่งปร่าที่ไม่เป็นธรรมชาติออกมา
“แฮร์รี่...”
เดรโกหยุดหายใจ เกร็งตัวและปิดตาแน่นทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น...แฮร์รี่งั้นหรือ? แฮร์รี่ พอตเตอร์งั้นหรือ?...หัวใจเต้นเสียงดังตูมตามอยู่ในอก เขาได้ยินเสียงที่เกร็งและสั่นยิ่งกว่าตอบกลับมา
“บ...เบลส”
เดรโกจำเสียงแฮร์รี่ได้เป็นอย่างดี มันเป็นเสียงเดียวที่ลอยวนอยู่ในหัวเขาชัดเจนที่สุดตลอดเวลาที่เขาหลับ และเขาแปลกใจที่เพิ่งค้นพบว่าเขาคิดถึงเสียงนี้มากจนแทบจะบังคับตัวเองให้นอนนิ่งอยู่ไม่ได้
“ฉัน...ฉันไม่คิดว่าจะมีใครอยู่...ดึกขนาดนี้” แฮร์รี่พูดต่อ น้ำเสียงเกร็งและประหม่ากว่าเดิม แต่เบลสกลับนิ่งลงมาก จนเดรโกคิดว่าเขาได้ยินเสียงหมอนี่ยิ้มน้อย ๆ
“นายคงไม่ได้คิดว่าฉันจะยังอยู่ดึกขนาดนี้”
เดรโกได้ยินเสียงลมหายใจแฮร์รี่ขาดห้วง ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นคือสิ่งที่แฮร์รี่คิดอยู่จริง ๆ แต่การที่เบลสพูดออกไปตรง ๆ อย่างนั้นก็ทำให้เดรโกไม่สบายใจ เขาไม่รู้ว่าเบลสตั้งใจจะทำอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเบลสถึงมาที่ห้องพยาบาลดึกดื่นป่านนี้ เรื่องนี้น่าแปลกใจยิ่งกว่าเรื่องที่แฮร์รี่แอบเข้ามาเสียอีก
“ฉันเกือบคิดว่านายจะไม่มาซะแล้ว” เบลสพูดต่อ เงาของเขาขยับตัวออกห่างเตียงเล็กน้อย เดรโกยังไม่กล้าเสี่ยงปรือตาดูแฮร์รี่ “แต่ไม่รู้สิ ลึก ๆ ฉันยังเชื่อว่านายจะต้องมา...แล้วนายก็มาจนได้”
“ฉัน...เอ่อ ฉันแค่ม’ดูว่าเขาเป็น’ไง” แฮร์รี่พูดรัวเร็ว เหมือนไม่อยากให้คนฟังจับใจความได้ แต่วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเบลสหรอก
“อืม” เบลสตอบ หลีกตัวออกจากเตียง เผยให้แฮร์รี่เห็นใบหน้าของร่างที่นอนอยู่ชัดขึ้นแม้จะยืนอยู่ห่าง “มาดูสิ” เบลสเอ่ย เรียบง่ายและชัดเจนเสียจนแฮร์รี่ไม่กล้าขยับตัว
“เอ่อ...ไม่...” เด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์กลืนน้ำลาย “คือ...เขาเป็นยังไงบ้าง...?”
เบลสหันศีรษะไปมองร่างบนเตียง “ก็ดี” เขาตอบ “ใกล้จะหายแล้ว...เห็นมาดามบอก”
“งั้นเหรอ...”
“งั้นแหละ”
...เงียบ...
“เอ่อ...ดีจังเลยนะ”
“อืม”
...เงียบ...
แฮร์รี่รู้สึกอึดอัด แน่นอนว่าการที่เขาลอบเข้ามาห้องพยาบาลดึกดื่นป่านนี้ก็เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ แล้วครั้นจะให้เดินดุ่ย ๆ ไปดูอาการมัลฟอยทั้งที่มีคนยืนมองอยู่...ทั้งที่มีเบลสยืนมองอยู่แบบนี้...เขารู้สึกประหม่า แต่จะให้ปลีกตัวกลับไปก่อนก็เกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้มาอีก...ก็ห้องพยาบาลไม่ยอมปลอดคนสักที ไม่รู้ทำไมใครต่อใครถึงพากันมาเยี่ยมหมอนี่อยู่ได้ไม่รู้จักหยุดจักหย่อน
“มาสิ ไม่เป็นไรหรอก เดรหลับอยู่” เบลสชำเลืองมองเดรโกแล้วหันกลับไปหาแฮร์รี่
ร่างบางลังเลใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินเข้าไป
ร่างบนเตียงนอนนิ่งไม่ไหวติง ผิวสีขาวดูซีดจนแทบจะกลืนไปกับสีของผ้าปูเตียง เหงื่อผุดพรายบนหน้าผากเขาจนเปียกชุ่ม มัลฟอยทำสีหน้าปั้นยากและดูไม่สบายตัว แฮร์รี่อยากซับเหงื่อให้เขา เผื่อมันจะทำให้พักผ่อนได้สบายขึ้น แต่เขาจะไม่ทำอย่างนั้นต่อหน้าเบลสแน่นอน...
“เขาไม่เป็นไรหรอก” เบลสย้ำอีกครั้ง มองแฮร์รี่ซึ่งจ้องเขากลับมาด้วยสายตาแปลกใจ “ก็นายทำหน้ายังกับกลัวว่าเดรจะตายงั้นแหละ” เบลสชี้แจง
แฮร์รี่ก้มหน้าหนี...เขาไม่ได้ทำหน้ายังงั้นสักหน่อย...
“แฮร์รี่ นายยังรักเขาอยู่ใช่ไหม?”
แฮร์รี่ยืนนิ่งตกใจ ไม่นึกว่าจะถูกจู่โจมด้วยคำถามนี้
“ฉันไม่ตั้งใจจะคาดคั้นอะไรจากนายหรอก แต่ช่วยตอบฉันสักอย่างได้ไหม” เบลสเดินเข้ามาใกล้ขึ้น “ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน นายเคยนึกรักฉันบ้างรึเปล่า?” เขาเอื้อมมือออกมา
แฮร์รี่กระถดตัวหนีอย่างไม่ตั้งใจ จู่ ๆ เด็กหนุ่มก็รู้สึกรังเกียจคนคนนี้ขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาเขายอมให้เบลสสัมผัสเขาได้ยังไง เขาไม่ได้คิดอะไรกับเบลสเลย...
“ฉันขอโทษ...เบลส” แฮร์รี่เอ่ยเบา ๆ อย่างรู้สึกผิด “ฉันขอโทษ”
แววตาเด็กหนุ่มสลิธิรีนเลื่อนลอยไปชั่วครู่หนึ่ง เขาเหลือบมองมือข้างที่ยื่นออกไปอย่างไร้ความหมาย ก่อนจะยิ้มบาง ๆ “ช่างเถอะ ฉันก็คิดเอาไว้บ้างแล้วล่ะ” เขาพูดอย่างทำใจ หันหลังพิงปลายเตียง แหงนหน้ามองนาฬิกาแขวนที่ขณะนี้ชี้บอกเวลาตีสามยี่สิบนาที “จริงสิ แฮร์รี่ ฉันมีเรื่องจะบอกนายอีกอย่าง” เขาเอ่ยขึ้นเหมือนเพิ่งนึกได้ “นายยังจำเรื่องที่ฉันถูกเดรต่อยคราวก่อนได้ไหม? ตอนนั้นน่ะ...ที่จริงแล้ว...”
“อะ...” แต่แฮร์รี่ไม่ได้สนใจเบลสแล้ว เขากำลังถอยห่างจากเตียงและมีสีหน้าตื่น ๆ
“แฮร์รี่?” เบลสหันกลับไปมองเตียง จังหวะเดียวกับที่แฮร์รี่หมุนตัวแล้ววิ่งไปยังประตู และสิ่งที่เบลสเห็นก็คือ เดรโก มัลฟอย...ที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้...กำลังกระชากผ้าห่มแล้วพุ่งลงจากเตียง
เด็กหนุ่มยืดแขนออกไปหาร่างที่วิ่งหนีเกินระยะเอื้อมไปจนไกลแล้ว “เดี๋ยว...” เดรโกร้องเรียก ขาข้างหนึ่งเกี่ยวติดอยู่กับผ้าห่มส่งผลให้เขาล้มลงกระแทกพื้น เสียงฝีเท้าของแฮร์รี่ดังห่างออกไป
เบลสตกใจรี่เข้าไปหาร่างที่นอนกุมอกตัวเองอยู่กับพื้น ทำท่าจะช่วยพยุง แต่...
“อย่า!” เดรโกปัดแขนเขาทิ้งอย่างแรง “เอ่อ...” เด็กหนุ่มรู้สึกตัวว่าเขาไม่ควรทำอย่างนั้น แต่ในเมื่อมีเรื่องอื่นเร่งด่วนกว่า อีกทั้งเขายังคิดคำพูดอะไรไม่ออกในขณะนั้น เดรโกจึงใช้เวลาเพียงแค่วินาทีเดียวตัดสินใจยันตัวขึ้นยืนแล้ววิ่งตามแฮร์รี่ไป
ปล่อยเบลสทิ้งไว้ในห้องพยาบาลคนเดียว...
oOoOoOoOo
เดรโกวิ่งกวดขึ้นไปตามระเบียง เห็นหลังไว ๆ ของแฮร์รี่ห่างออกไปเบื้องหน้า เงาสีดำของเสาหินซุ้มระเบียงกับแสงสีนวลของพระจันทร์พาดสลับไปมาบนร่างที่กำลังเคลื่อนไหว เห็นเป็นลวดลายแปลกตา เดรโกเร่งฝีเท้าย่นระยะห่างเข้าไป แผลที่หน้าอกเจ็บจี๊ดเป็นระยะ...สงสัยจะเป็นตอนที่ล้มกระแทกเมื่อกี้...
“พอตเตอร์!”
แฮร์รี่เร่งฝีเท้าหนี เขาดึงผ้าคลุมล่องหนออกมาเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าควรจะใช้
“หยุดนะ!” เดรโกเร่งขึ้นไปอีก...ถ้าปล่อยให้แฮร์รี่ใช้ผ้าคลุมล่องหนได้ล่ะก็ เขาคงหมดสิทธิ์หาหมอนี่เจอแน่ ๆ...เดรโกเอื้อมมือออกไป “หยุด!” เขาคว้าปลายผ้าคลุมได้ส่วนหนึ่ง จึงรีบกำแน่นแล้วออกแรงดึง
แฮร์รี่อุทานตกใจเมื่อผ้าคลุมถูกดึงไปด้านหลัง เด็กหนุ่มใช้สองมือกอดผ้าส่วนที่ยังอยู่กับตัวแล้วพยายามดึงกลับคืน แต่เดรโกไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ ทั้งคู่ยื้อยุดกันอยู่ราวสองวินาที ก่อนที่แฮร์รี่จะตัดสินใจปล่อยผ้าทิ้งแล้ววิ่งหนีไป ส่งผลให้เดรโกเสียหลักหงายหลังล้มลงกระแทกพื้นอีกรอบ ผ้าคลุมล่องหนปลิวสะบัดหล่นลงบนตัวเขา
“โอ๊ย...”
เสียงร้องของเดรโกทำให้แฮร์รี่ชะงักเท้าไปจังหวะหนึ่ง เด็กหนุ่มหันกลับมามองด้วยสีหน้าวิตกกังวล เมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะลุกขึ้นยืนจึงหันหนีไปอีกรอบ
“เดี๋ยว...” เดรโกร้องเรียก แต่แฮร์รี่ออกวิ่งอีกแล้ว เขาสบถเบา ๆ คลำแผลที่หน้าอก แล้วจึงเกิดความคิดบางอย่าง เดรโกทิ้งตัวลงกับพื้น จงใจทำเสียงกระแทกให้ดังกว่าความเป็นจริงเล็กน้อย แล้วอ้าปากร้องเสียงดัง “โอ๊ย...!!”
ได้ผล แฮร์รี่สะดุ้งแล้วหมุนตัวกลับมามองทันที สีหน้าตกใจแต่ยังลังเลเล็กน้อยว่าจะเข้ามาดีหรือไม่ ดังนั้นเพื่อเพิ่มความเข้มข้นขึ้นไปอีก เดรโกจึงบีบสีหน้าเจ็บปวด ขดตัวกุมแผลพร้อมกับทำท่าหอบคล้ายหายใจไม่ออก “โอ๊ย อึ๊ก...โอ๊ยยยยย!!” เขาร้องโหยหวน
แฮร์รี่วิ่งเข้ามาทันที สีหน้าตื่นตกใจสุดขีด “มัลฟอย!” เด็กหนุ่มนั่งลงพยุงร่างเขาไว้ มือสั่นจนเดรโกรู้สึกได้ “มัลฟอยทำใจดี ๆ ไว้! แผลเปิดหรือ! ฉันจะพากลับห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้ล่ะ! นายขยับตัวไหวรึเปล่า? มัลฟอย...มัลฟอ...อ๊ะ!” แฮร์รี่ตกใจผงะออกไปเมื่อจู่ ๆ มัลฟอยที่ควรจะนอนขยับตัวไม่ไหวก็ลุกขึ้นมาคว้าต้นแขนแฮร์รี่ไว้แน่น “นาย...นี่นาย!!” เด็กหนุ่มออกแรงกระชากแขนคืน ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่หลุด...
“หยุดดิ้นได้แล้ว พอตเตอ...โอ๊ย!” เดรโกทำหน้ายู่เมื่อแฮร์รี่ถีบแข้งของเขา “มันเจ็บนะเฮ้ย!”
“ปล่อยฉันนะ!” ร่างบางยังคงดิ้นต่อไปทั้งที่ถูกจับให้นั่งอยู่กับพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
“ฉันบอกให้หยุดไง! นิสัยเสียของนายนี่แก้ไม่หายจริง ๆ ใช่ไหมห๊ะ? เอะอะเอาแต่หนีเนี่ย”
“ปล่อ...ว่าไงนะ? คนที่นิสัยเสียน่ะใครกันแน่! แกล้งทำเป็นเจ็บ...น่าเกลียดที่สุด!”
“หาว่าฉันแกล้งงั้นเรอะ? ฉันเจ็บจริง ๆ นะ! นายทำฉันล้มตั้งสองรอบ!”
“สองรอบที่ไหนกัน เมื่อกี้นายแกล้งทำเป็นล้มเอง!”
“ฉันหมายถึงในห้องพยาบาลต่างหาก!”
“อะไร? ในห้องพยาบาลฉันยังไม่ทันแตะถูกตัวนายเลยด้วยซ้ำ!”
“แต่สาเหตุก็เป็นเพราะนายอยู่ดี!”
“อะไรเนี่ย? โยนความผิดกันดื้อ ๆ เลยนี่น่า! ขี้โกงชัด ๆ!”
“แล้วทีนายล่ะ? เล่นแอบมาเยี่ยมฉันตอนกลางคืนดึกดื่นป่านเนี้ย ก็ขี้โกงเหมือนกันนั่นแหละ!”
“ใครบอกว่าฉันมาเยี่ยมนายมิทราบ!”
“ฉันบอกอยู่นี่ไง!”
“ฉันไม่ได้มาเยี่ยมนาย!”
“งั้นนายมาทำแป๊ะอะไร? เดทกับเบลสรอบดึกงั้นหรือ?”
“ฉันจะมาทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย!”
“แล้วทำไมไม่มาตอนกลางวันเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาล่ะ!”
“จะมาได้ไงล่ะ! เดี๋ยวคนนู้นคนนี้ก็มาอยู่นั่น ห้องพยาบาลไม่เคยจะว่างสักที! ยิ่งแพนซี่ พาร์กินสันนะ นั่งแช่อยู่ได้เป็นวัน ๆ!”
“นั่นไง! ยอมรับแล้วใช่ไหมว่านายมาเยี่ยมฉัน!”
“ฉันยังไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย!”
“มันก็ความหมายเดียวกันนั่นแหละ ยอมรับซะเถอะ”
“ไม่! ทำไมฉันจะต้องมาดูอาการนายด้วย? นายไม่เห็นเป็นอะไรสักหน่อย นอนป่วยการเมืองล่ะสิไม่ว่า!”
“ว่าไงนะ? วันนี้ดีขึ้นเยอะก็จริง แต่เมื่อวานน่ะเจ็บเจียนตายเลยนะ!”
“เจ็บเจียนตายอะไรกัน โม้ล่ะสิไม่ว่า! ไม่เห็นนายจะดูเหมือนคนป่วยเพิ่งฟื้นไข้เลยสักนิด!”
“นายไม่รู้อย่ามาทำเป็นพูดดี!”
“ทำไมจะไม่รู้? ฉันเคยเจอหนักกว่านี้มาแล้วตั้งเยอะ ไม่เห็นต้องนอนสำออยเหมือนนายเลย!”
“นายไม่มีสิทธิ์มาพูดอย่างนี้นะ! ลืมไปแล้วหรือไงว่าคนที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ก็คือนาย!!”
เกิดความเงียบขึ้นอย่างฉับพลันทันด่วน เมื่อฝ่ายที่ควรจะเถียงกลับนิ่งอึ้งไป
แฮร์รี่ก้มหน้าหลบตาเดรโก ความรู้สึกผิดโถมเข้ามาทับเหมือนคลื่นทะเลหนักหน่วง เขาพึมพำเสียงแผ่ว “ฉัน...”
ฝ่ายที่พลั้งปากชะงักไปกับท่าทีของเด็กหนุ่มตรงหน้า แน่นอนว่าเขาไม่ตั้งใจจะด่าว่าแฮร์รี่ในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับที่เขารู้แล้วว่าแฮร์รี่ไม่ตั้งใจจะทำร้ายเขา และตอนนี้ที่ทุกอย่างมีโอกาสจะดีขึ้น เขาไม่อยากให้แฮร์รี่รู้สึกแย่ลงไปอีก...
เดรโกกลืนน้ำลาย จับไหล่แฮร์รี่ไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง “พอตเตอร์...”
“ฉันไม่ได้...ตั้งใจ” แฮร์รี่พูดเสียงเบา “ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ คาถานั่น...”
“พอตเตอร์...ใจเย็น ๆ ฟังฉันนะ”
“คาถานั่น...ฉันไม่คิดว่ามันจะรุนแรง ฉันไม่รู้...”
“พอตเตอร์ หยุดก่อน ฟังฉัน”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ มันเป็น...อุบัติเหตุ”
“พอตเตอร์”
“ฉันจะไม่ใช้มันกับนายเลยถ้าฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉัน...ถ้านายเป็นอะไรไปฉันคง...”
“แฮร์รี่ มองฉัน!” เดรโกประคองแก้มแฮร์รี่ให้เงยหน้าขึ้น แล้วจ้องเข้าไปในดวงตาสีเขียวที่สั่นเทา แฮร์รี่สะดุ้ง เดรโกนิ่งไป “นายร้องไห้ทำไม?” น้ำเสียงของเดรโกฟังดูอ่อนโยนจนแม้แต่คนพูดเองยังแปลกใจ เขาเลื่อนนิ้วโป้งขึ้นไปปาดเบา ๆ ใต้ตาแฮร์รี่ “ฉันรู้แล้วว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่โกรธนายเลยสักนิด เพราะงั้นนายก็เลิกโกรธตัวเองได้แล้ว” เดรโกเขี่ยปอยผมเด็กหนุ่มออกไปให้พ้นใบหน้า แฮร์รี่จ้องเขากลับมาด้วยแววตาสับสน เดรโกได้ยินเสียงหัวใจเต้น ไม่แน่ใจว่าของเขาหรือของแฮร์รี่ เขากลั้นหายใจแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หยุดชะงักนิดหนึ่ง แล้วจึงค่อย ๆ จูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากแฮร์รี่...
แฮร์รี่มองหน้าเขา ลืมตากว้าง เดรโกจูบเขาเบา ๆ อีกครั้งบนหน้าผาก
“มัลฟอย...ทำไม...?”
“ทำไมงั้นหรือ? เอ่อ...นั่นสินะ สงสัยว่าฉันคงจะ...” เดรโกเม้มปาก “คงจะ...รักนายเข้าแล้วล่ะมั้ง”
ริมฝีปากแฮร์รี่อ้าออกอย่างไม่อยากเชื่อ เดรโกรู้สึกใบหน้าร้อน ใจเต้นแรง เขายังคงประคองแก้มแฮร์รี่ไว้ด้วยสองมือ ปลายนิ้วก้อยที่แตะอยู่บริเวณลำคอสัมผัสได้ว่าร่างบางก็กำลังใจเต้นอย่างรุนแรงเช่นกัน เดรโกยิ้มแล้วโน้มตัวเข้าไปอีกรอบ
“ดะ...เดี๋ยว” แฮร์รี่พยายามจะยกมือขึ้นกัน แต่เดรโกอยู่ใกล้เกินไป พวกเขาจูบกันอีกครั้ง นานกว่าครั้งก่อน มือของแฮร์รี่สั่นอยู่บนอกของเดรโก ถึงแม้จะอยากคุยกันให้รู้เรื่องกว่านี้ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่เด็ดขาดพอจะผลักร่างสูงออกไป
...จะทำอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะ ก็เขาเฝ้าฝันถึงจูบนี้มาตลอดนี่น่า...
oOoOoOoOo
ปล. ตอนหน้ามีเฮ!
...ดีมั้ย?
ความคิดเห็น