คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Suppressed Emotion # 5
Scene 5
“อารมณ์ดีอะไรน่ะเดรโก นั่งอมยิ้มอยู่ได้” แพนซี่ พาร์กินสันทักขึ้น เธอกำลังนั่งสะสางการบ้านกองโตอยู่กับเดรโก มัลฟอยภายในห้องนั่งเล่นรวมสลิธิรีน แต่ผ่านมาราวครึ่งชั่วโมงแล้วการบ้านของเดรโกก็ไม่มีทีท่าว่าจะพร่องลงแม้แต่น้อย ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะเจ้าตัวมัวแต่นั่งยิ้มกริ่มคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้น่ะสิ...
“หืม? อ๋อ เปล่าไม่มีอะไรหรอก” เด็กหนุ่มผมบลอนด์ปฏิเสธ จรดปากกาขนนกลงกับม้วนกระดาษ แต่ยังไม่ทันจะได้เขียนอะไรเขาก็ยกปลายปากกาขึ้นเท้าคางอีกครั้ง นิ้วมืออีกข้างจิ้ม ๆ จับ ๆ อยู่กับริมฝีปากตัวเองอยู่อย่างนั้น
“นี่ แล้วนายมีอะไรกับปากนายนักหนา?” แพนซี่ถาม “จับอยู่ได้”
“หา? ปากฉันเรอะ?” เดรโกกระตุกปากยิ้ม แล้วไม่ตอบ
พรีเฟ็คสาวบ้านสลิธิรีนยิ่งขมวดคิ้วงงหนักเข้าไปใหญ่ เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เช้าแล้วนะ ไม่สิ ตั้งแต่เมื่อคืนมากกว่า...หลังจากกลับมาจากไปช่วยงานศาสตราจารย์สเนป... เธอสังเกตเห็นว่าพฤติกรรมของเด็กหนุ่มคนนี้แปลกไปจริง ๆ อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อคืนมันต้องมีอะไรสนุก ๆ เกิดขึ้นแน่ ๆ เดรโกถึงดูเพลิดเพลินเจริญใจถึงขนาดนี้...แล้วตกลงหมอนี่เป็นอะไรนักหนากับปากเนี่ย...?
“นี่นายจะเลิกจับปากได้รึยังเดรโก มันเป็นแผลหรือเป็นอะไรรึไงห๊ะ?”
“ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ” เดรโกตอบ “ฉันแค่... มันเหมือนกับ...” เขานิ่งและพยายามนึกถึงคำจำกัดความที่จะนิยามสิ่งที่เขาคิดอยู่ได้ตรงที่สุด ก่อนจะพูดต่อ “นี่แพนซี่ เธอเคย...แบบว่า กินอะไรสักอย่างที่อร่อยมาก ๆ แล้วเลยรู้สึกอยากจะกินอีกสักครั้งไหม?”
“เคยสิ” แพนซี่ตอบ ทำหน้าแปลกใจ “ของอร่อยกินแล้วติดใจมันก็อยากกินอีกเป็นธรรมดา ว่าแต่นายไปกินอะไรมาล่ะ อร่อยขนาดนั้นเลยเรอะ?”
เดรโกพยักหน้า “อร่อยกว่าที่เคยคิดไว้จมเลยล่ะ คาดไม่ถึงจริง ๆ”
แพนซี่ พาร์กินสันส่ายศีรษะแล้วก้มลงทำงานต่อ...ที่แท้ก็เรื่องอาหารเองหรอกเรอะที่ทำให้คุณชายจอมวางมาดทำหน้าทำตาเคลิ้มได้ขนาดนี้? เด็กสาวอดคิดไม่ได้ว่าบางทีเด็กหนุ่มหน้าตาดีก็ชอบหมกมุ่นอยู่กับเรื่องจิปาถะไร้สาระเหมือนกันแฮะ...
เดรโกนั่งเหม่อหวนนึกถึงริมฝีปากบางที่ได้สัมผัสเมื่อคืนนี้อีกครั้ง...หอม เนียนนิ่ม แถมยังหวานนิด ๆ อีกต่างหาก เด็กหนุ่มยกมือขึ้นแตะริมฝีปากอีกครั้ง...ยังจำได้อยู่เลย ตัวเขาเองเคยจูบกับผู้หญิงมาก็มาก แต่ไม่เคยจูบผู้ชายเลยสักครั้ง ไม่คิดว่าแค่จูบกับแฮร์รี่ พอตเตอร์เมื่อคืนครั้งเดียวจะทำให้เขาติดใจได้ขนาดนี้... ร่างสูงอดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายทั่วไปมีจูบที่หอมขนาดนี้เลยหรือ? (ถ้ารู้อย่างนี้ตัดสินใจเป็นเกย์ไปนานแล้ว!) หรือว่ามีแค่หมอนี่เท่านั้น? (อย่างน้อยเขาไม่คิดว่าจูบของผู้ชายอย่างแครบกับกอยล์เป็นอะไรที่น่าสนใจหรอกนะ)
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ถ้าแฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นผู้ชายที่มีฟีโรโมนหอมขนาดนี้ละก็... เขาก็ชักจะ...
อยากจูบอีกสักครั้งนึงแฮะ...
OoOoOoOoO
ทำไงดี...อยากจูบอีก...
ความคิดนี้วิ่งวนไปมาอยู่ในหัวแฮร์รี่ พอตเตอร์เด็กหนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านกริฟฟินดอร์ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาถูกมัลฟอยจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นก็ฉายซ้ำกลับไปกลับมาอยู่ในหัวเขาไม่รู้จักหยุดจักหย่อน แถมความรู้สึก ‘ติดใจ’ ก็ยังฝังแน่นอย่างน่าโมโห
“ฮึ้ย!” ก็รู้อยู่หรอกว่ามัลฟอยไม่มีทางจริงจัง ค่อนข้างมั่นใจด้วยซ้ำว่าหมอนั่นต้องจงใจแกล้งเขาแน่ ๆ คงสนุกที่ได้เห็นเขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก สะใจที่เขาอายหน้าแดงขนาดนั้นล่ะสิ “ฮึ!” แหงสิ! มัลฟอยรู้นี่ว่าแฮร์รี่ชอบเขา แค่นี้ก็รู้แล้วว่าวิธีแกล้งแบบนี้มันใช้ได้ผล!
“เชอะ!” แฮร์รี่กำชับตัวเองหลายครั้งหลายหนว่าต้องทำเฉยไว้ อย่าไปมีปฏิกิริยาอะไรให้หมอนั่นสนุกได้เด็ดขาด แต่ยิ่งคิดกลับกลายเป็นยิ่งหมกมุ่นหนักกว่าเก่า “เฮ้อ...” ก็จูบของมัลฟอยทำไมถึงให้ความรู้สึกดีอย่างนี้ล่ะ! เล่นเอาเขาร้อนผ่าวแทบละลายเลย...!
“อา...” ก่อนหน้านี้ถึงจะเคยแอบมองมาหลายครั้งแล้วก็เถอะ แต่เทียบกับสัมผัสของจริงแล้วต่างกันไกลโข! “อืม...” เรื่องหน้าตายิ่งไม่ต้องพูดถึง ลูกผู้ดีมีตระกูลผิวขาวผ่องเพราะได้รับการดูแลมาดี ตัวสูงไหล่กว้างสมสัดส่วนจนน่าอิจฉา (แหงสิ หมอนั่นไม่ได้ถูกพวกเดอสลีย์ดูแลมาเหมือนอย่างเขานี่ ถึงได้ผอมกะหร่องแถมยังตัวเตี้ยกระเปี๊ยกเดียวอย่างนี้!) เรื่องที่หมอนั่นหน้าตาดีน่ะรู้อยู่นานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นใกล้ ๆ ขนาดนี้นี่น่า! แล้วผิวขาวจั๊วะกับผมสีเป็นประกายอย่างนั้นยิ่งมืดก็ยิ่งเห็นชัดไม่ใช่หรือไง! ไม่อยากทำให้หมอนั่นยิ่งได้ใจหรอก แต่... “อื้อ...” ก็มันน่ามองนี่น่า!
แล้วแถมยังลมหายใจอุ่น ๆ นั่น...
ริมฝีปากสีแดงระเรื่อนั่นอีก...
ยิ่งคิดก็ยิ่ง...
“อะ อ๊า...ง”
“ฮะ แฮร์รี่ นายโอเครึเปล่า?” รอนเอ่ยถามขึ้นอย่างอดไม่ไหวในที่สุด ไม่ใช่แค่สงสัยพฤติกรรมแปลก ๆ ของเพื่อนสนิทเท่านั้นหรอกนะ แต่ว่าขืนแฮร์รี่ยังส่งเสียงแปลก ๆ พร้อมกับทำท่ายั่วใจอยู่อย่างนี้ล่ะก็ อีกไม่เกินครึ่งนาทีเขา (และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในห้องนั่งเล่นรวมกริฟฟินดอร์) ต้องเลือดกำเดาพุ่งแน่ ๆ “รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม? เอ่อ... ปะ ไปห้องพยาบาลไหม?”
แฮร์รี่หลุดจากห้วงความคิด “อื๋อ ฉันเหรอ? ไม่ได้เป็นไร สบายดี” ร่างบางยิ้มกลบเกลื่อน “อ๊ะ กี่โมงแล้วเนี่ย ไปกินข้าวเย็นกันเลยไหม?”
“อืม ไปสิ เฮอร์ไมโอนี่ก็คงไปแล้วมั้ง” รอนเก็บกระเป๋าแล้วทั้งคู่ก็พากันปีนออกจากช่องรูปภาพ ท่ามกลางแววตาเสียดายของใครหลายคนที่ชะเง้อคอมองตาม
เด็กหนุ่มร่างโย่งเหลือบชำเลืองดูเพื่อนตัวน้อยเป็นระยะ ๆ วันนี้แฮร์รี่เป็นอะไรไปนะ? ชอบเดินห่อไหล่แล้วก็หน้าแดงทั้งวันเลย พอนึกว่าอาจมีไข้ ถามดูก็บอกว่าไม่เป็นไรตลอด นั่งเรียนอยู่แป๊บ ๆ ก็เหม่อ ยิ่งกว่านั้น...ทำไมอยู่ ๆ แฮร์รี่ถึงน่ารักขึ้นผิดหูผิดตาอย่างนี้ล่ะ แก้มผ่อง ดวงตาเป็นประกาย...แต่เดิมก็น่ารักน่ากอดจะแย่อยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งน่าจับกด (?) เข้าไปใหญ่ สายตาของนักเรียนที่มองเหลียวหลังมาก็เพิ่มจำนวนขึ้นจนสังเกตได้ ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้สนใจรับรู้เลยก็เถอะ แต่ไอ้คนเดินข้าง ๆ อย่างเขากับเฮอร์ไมโอนี่น่ะ อึดอัดจะแย่แล้ว...
“เฮ้อ...”
ดูสิ อยู่ ๆ ก็ทำท่าเคลิ้มถอนหายใจอีกแล้ว หรือว่าแฮร์รี่ไปเจอเรื่องอะไรดี ๆ มา? เฮอร์ไมโอนี่ก็สงสัยว่าท่าทางแบบนั้นแฮร์รี่อาจจะ... แต่บ้าน่า! เมื่อคืนแฮร์รี่ไปกักบริเวณกับสเนปนะ กับสเนป! ไม่มีทางหรอก! ให้ดิ้นตายยังไงเขาก็ไม่เชื่อเด็ดขาด!
แต่จะว่าไปตอนกลางวันที่ผ่านมาจู่ ๆ สเนปก็เรียกแฮร์รี่ไปพบนี่ หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้...? ไม่ใช่น่า! แฮร์รี่เหม่อมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ แถมเหม่อไปหาสเนปยังไงก็เหม่อกลับมาอย่างนั้น เพราะฉะนั้นสเนปต้องไม่เกี่ยวแน่!
แล้วถ้างั้นใครเกี่ยวล่ะฟะ...?
“...เดรโก มัลฟอย”
รอนหันมามองหน้าแฮร์รี่ที่กำลังหย่อนตัวลงนั่งที่โต๊ะบ้านกริฟฟินดอร์ “เมื่อกี้นายว่าอะไรนะแฮร์รี่?”
“ฉันบอกว่า คืนนี้ฉันต้องไปกักบริเวณที่ห้องทำงานสเนปอีกวัน...กับเดรโก มัลฟอย”
“อ้าว ทำไมล่ะ วันนี้ไม่มีเรียนวิชาสเนปนี่ เขามาทำโทษนายเรื่องอะไรอีก?”
“ก็... เมื่อคืนที่โดนกักบริเวณฉันดันไปทำห้องทำงานเขาเละน่ะสิ”
“เห? ทำห้องทำงานเละเนี่ยนะ?”
แฮร์รี่พยักหน้าหงึกหงัก
“นายไปทำอีท่าไหนล่ะนั่น! แล้ว...มัลฟอยไปเกี่ยวอะไรด้วย?” รอนถามต่อ ทำสีหน้าไม่พอใจชัดเจนเวลาพูดถึงชื่อมัลฟอย
แฮร์รี่เม้มปาก “ก็...ก็หมอนั่นเป็นต้นเหตุน่ะสิ มาพูดหาเรื่องฉันก่อน ฉันยัวะเลยปาหนอนใส่น่ะสิ”
รอนเลิกคิ้ว “นายหมายความว่า เมื่อคืนหมอนั่นถูกกักบริเวณด้วยกันกับนายงั้นหรือ? แถมยังหาเรื่องนายอีกด้วย? ให้ตายเหอะ! แล้วสเนปก็นั่งดูอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้ไอ้สมองขี้เลื่อยนั่นทำตามอำเภอใจงั้นสิ! นอกจากนั้นก็ยังมาสั่งทำโทษนายอีก?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น รอน” แฮร์รี่รีบพูด “เมื่อคืนสเนปไม่อยู่น่ะ เลยให้มัลฟอยมาคุมฉันแทน แล้วเลย...”
“เดี๋ยวสิ งั้นเมื่อคืนพวกนายก็อยู่กันตามลำพังในห้องทำงานสเนปน่ะสิ!”
“ก็...อืม” แฮร์รี่ยักหัว รีบชี้แจงต่อ “แต่วันนี้ที่โดนกักบริเวณน่ะโดนทั้งสองคนนะ เพราะหมอนั่นก็ผิดเหมือนกัน สเนปจะอยู่คุมเองจะได้ไม่มีเรื่องกันอีก”
สเนปอยู่คุมเองแล้วจะไม่มีเรื่องกันอีกงั้นหรือ? มันจะเป็นยังงั้นได้ไงเล่า! ต้องกักบริเวณกับมัลฟอยก็เฮงซวยตายชักอยู่แล้ว เพิ่มสเนปเข้ามาอีกคนแทนที่จะดีขึ้นมันจะยิ่งห่วยแตกกว่าเดิมน่ะสิไม่ว่า! เผลอ ๆ สเนปนั่นแหละจะเป็นฝ่ายหาเรื่องนาย! ปัดโธ่! แล้วยิ่งตอนนี้แฮร์รี่ก็...
รอนเหลือบมองเด็กหนุ่มผมดำข้างกายผู้กำลังเริ่มต้นตักซุปกินอย่างไม่ยินดียินร้าย
...ก็น่ารักหน้าเด้งขึ้นขนาดนี้ ดีไม่ดีโดนงาบไม่รู้ตัวแหงแซะ! ดูสิ ซุปเลอะปากแล้วนั่น เหมือนเด็ก ๆ เลยแฮะ...เขากัดปากอย่างข่มใจ...โอ๊ยยยย! ทำไงดี เป็นห่วงโว้ย...!
ทางด้านต้นเหตุเจ้ากรรมผู้ทำให้เด็กหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ แทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ก็ยังคงนั่งกินซุปเห็ดไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอยู่...อันที่จริงแทนที่จะเรียกว่าไม่รู้เรื่องรู้ราว น่าจะเรียกว่า ‘เหม่อลอย’ เลยมากกว่า
แฮร์รี่ตักชิ้นเห็ดเข้าปาก เอาลิ้นดุนมัน...ชิ้นเห็ดมันนุ่มดีนะ “อืม...” แต่ไม่...ยังนุ่มสู้อะไรบางอย่างไม่ได้...
อะไรบางอย่างที่นุ่มกว่าชิ้นเห็ดในซุป... อะไรบางอย่างที่กำลังขยับขึ้นลงอยู่บนใบหน้าขาวของคนที่นั่งอยู่สุดฟากห้อง... อะไรบางอย่างนั้นเป็นของผู้ชายที่ชื่อเดรโก มัลฟอย...
มัลฟอยกำลังนั่งคุยสนุกสนานอยู่กับเบลส ซาบินี่ แพนซี่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไล่มองอาหารด้วยแววตามุ่งมั่น...ราวกับจะตรวจสอบหาเมนูแปลกใหม่อะไรสักอย่างงั้นแหละ แครบกับกอยล์นั่งหันหลังให้เขา บังเบลสกับแพนซี่ซะเกือบมิด แต่ดีเหลือเกิน เหลือช่องว่างตรงกลางให้เขาแอบมองเห็นมัลฟอยได้ชัดแจ๋ว
“เฮ้อ...” นึกแล้วก็แค้นใจตัวเอง ทำยังไงเขาถึงจะสลัดความรู้สึกนี้ทิ้งไปได้นะ หมอนั่นคงหัวเราะเยาะเขาสะใจใหญ่แน่ ถ้ารู้ว่าเขาเอาแต่คิดถึงจูบเมื่อคืนและปรารถนาถึงมันอีกมากขนาดนี้
ถ้าหากว่ามัลฟอยคิดเหมือนเขาบ้างก็ดีน่ะสิ...
“เฮ้อ...”
ซุปเห็ดนี่รสชาติไม่ได้เรื่องเลยแฮะ...
OoOoOoOoO
ความคิดเห็น