คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Suppressed Emotion # 4
Scene 4
“แฮร์รี่ นายแน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว”
แฮร์รี่ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เฮอร์ไมโอนี่ถามเขาเป็นรอบที่สามแล้วตั้งแต่เช้า และเขาก็เบื่อที่จะตอบซ้ำซากเต็มที “ฉันไม่เป็นไร” แฮร์รี่ตอบ เปิดกระเป๋าหยิบหนังสือเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดขึ้นมาวางบนโต๊ะ ก่อนจะหยิบใส่กระเป๋าเข้าไปตามเดิม “จริง ๆ” เด็กหนุ่มเงยหน้าสบตาเพื่อนขี้กังวลของเขา
เธอเม้มปากเรียวบาง แตะมือเขาเบา ๆ “ถ้ามีอะไรต้องบอกฉันนะ สัญญาสิ”
“โธ่ เฮอร์ไมโอนี่! จะพูดย้ำอีกนานไหม เธอกำลังทำให้แฮร์รี่รู้สึกแย่นะ” รอนส่งเสียงมาจากโต๊ะด้านหลัง เขานั่งคู่กับเนวิลล์ผู้ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านบทเรียนที่เป็นการบ้านคราวที่แล้วอยู่อย่างเร่งร้อน รอนคิดว่าเขาคงมุดเข้าหน้าหนังสือไปแล้วถ้าทำได้
“ฉันเป็นห่วงนี่” เฮอร์ไมโอนี่แย้ง ยืดตัวนั่งตรงเหมือนจะประกาศเจตนารมณ์
แฮร์รี่หยิบหนังสือออกมากางวางบนโต๊ะในที่สุด เขารู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจที่เฮอร์ไมโอนี่เป็นห่วงเขา แต่ก็อย่างที่รอนพูดนั่นแหละ ยิ่งเธอพูดถึงเรื่องนี้ก็เหมือนยิ่งย้ำให้เขาคิดถึงมันอยู่เรื่อย ๆ แฮร์รี่อาจจะยังเจ็บปวดอยู่ แต่เขาเองไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว เขาจัดการกับตัวเองได้ อย่างน้อยเขาก็นอนทำใจมาทั้งคืนแล้ว และตอนนี้ก็นิ่งได้แล้ว เขาไม่ต้องการหมกมุ่นกับเรื่องของเดรโก มัลฟอยอีก...
ศาสตราจารย์สเนปยังไม่เข้ามาทั้งที่ผ่านมาสิบนาทีแล้ว รอนพูดเล่น ๆ ว่า บางทีสเนปอาจจะขาดสอนเพราะป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ก็ได้...แต่นั่นช่างเป็นความคิดที่ไร้สาระสิ้นดี ใคร ๆ ก็รู้ว่าสัตว์ประหลาดป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไม่ได้หรอก...
ผ่านไปไม่ทันไรเท่านั้น สเนปก็กระแทกประตูห้องเข้ามาอย่างรุนแรงมาก...หมายความว่า มากกว่าทุกครั้ง เพราะสเนปไม่เคยดันประตูเข้ามาอย่างสุภาพอยู่แล้ว เขากลัวว่านักเรียนจะไม่เห็นแสนยานุภาพแห่งผมมันเยิ้มและแขนซีดเซียวเหี่ยวแห้งนั่น
ทุกคนนั่งเงียบกริบขณะที่อดีตอาจารย์วิชาปรุงยาของเขาเดินมาหยุดยืนหน้าห้อง กวาดสายตามองบรรดานักเรียนด้วยใบหน้าเหมือนตูดยิ่งกว่าปกติ ก่อนจะหยุดสายตาอยู่ที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ ถลึงจ้องเขม็งเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
“ทำไมถึงไม่ใส่เนกไท พอตเตอร์?” แฮร์รี่แน่ใจว่าสเนปต้องใช้ความพยายามอย่างรุนแรงในการสะกดอารมณ์ ถึงสามารถพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งขนาดนั้นได้
“ผมลืมครับ” แฮร์รี่ตอบ มองหน้าเขาไม่หลบสายตา
“อ้อ...ลืม งั้นเรอะ” สเนปพูดด้วยสำเนียงเยาะเย้ย “เป็นเหตุผลที่ฟังเข้าท่าดีนี่ หลังจากใส่เครื่องแบบมาห้าปีเต็ม ไม่ว่าใครก็ลืมได้ทั้งนั้น จริงไหม?”
แฮร์รี่เกลียดคำพูดประชดประชัดของสเนปชะมัด แล้วยิ่งมาว่าเขาในเรื่องที่เขาไม่ผิดแต่บอกความจริงไม่ได้อย่างนี้ยิ่งทำให้ฉุนเข้าไปใหญ่
“เพียงแต่ว่าคนทั้งโรงเรียนไม่มีใครลืม กลับมีแค่แฮร์รี่ พอตเตอร์เท่านั้น” สเนปยังคงตั้งมั่นที่จะแดกดันต่อไป “ฉันสังเกตเห็นตั้งแต่วันแรกที่มาโรงเรียนแล้ว ดูเหมือนว่าปีนี้เธอจะมีปัญหามากเหลือเกินกับการแต่งเครื่องแบบให้ถูกต้อง”
ปัดโธ่โว้ย...ก็ไอ้คุณลูกศิษย์สุดโปรดของแกนั่นแหละเป็นคนเอาเนกไทไป ถ้าจะด่าก็ไปด่าคนนู้นเดะ!
“เธอมีอะไรไม่พอใจกับเครื่องแบบในปีนี้รึเปล่า? หรือเข้าใจผิดว่าการเป็น ‘คนที่ถูกเลือก’ คือการทำตัวเป็นฮีโร่ผู้แหกกฎ?”
ตกลงวันนี้จะสอนป่ะหนังสือน่ะ? หรือจะนั่งด่าเขาทั้งชั่วโมง? กับเรื่องแค่ขี้หูแมวเนี่ย...
“หรือว่ามันเป็นสันดานของเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว? อา...ฉันน่าจะรู้อยู่แล้ว พ่อมันเป็นยังไงลูกก็เป็นยังงั้น”
แฮร์รี่ฉุนถึงขีดสุด สเนปชักจะพูดเลยเถิดไกลไปหน่อยแล้วนะ “ผมไม่เห็นว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับพ่อผมตรงไหน!” เขาพูดเสียงดัง ไม่สนใจคำว่ามารยาทแล้วตอนนี้ “และถ้าอาจารย์หัดรู้จักแยกแยะซะบ้าง แม้ว่าอาจารย์จะเกลียดพ่อผมมากแค่ไหน ผมกับพ่อเป็นคนละคนกัน!”
นักเรียนทุกคนนั่งกันเงียบกริบชนิดถ้าใครตดขึ้นมานี่แอบทำเนียนไม่ได้แน่ ๆ
ใบหน้าของสเนปตอนนี้ดูราวกับลูกโป่งสีแดงใบใหญ่ที่ถูกอัดก๊าซจนพร้อมจะระเบิด “ดี...” อาจารย์แห่งบ้านสลิธีรินกัดฟัน “สามสิบแต้มสำหรับมารยาทต่ำทรามและค่ำนี้สองทุ่มมาที่ห้องทำงานฉันด้วยพอตเตอร์ ที่เหลือเปิดหน้าหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ด”
ทั้งห้องยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง
“ฉันบอกว่าหน้าหนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ด!”
เสียงพลิกหน้ากระดาษดังขึ้นทั่วห้อง
OoOoOoOoO
นาฬิกาตีบอกเวลาสองทุ่มตรงตอนที่แฮร์รี่เดินมาถึงหน้าประตูห้องทำงานของสเนปพอดี เด็กชายเคาะประตูด้วยความเซ็ง
“เข้ามาได้” น้ำเสียงเย็นและมืดมนเหมือนบรรยากาศคุกใต้ดินตอบกลับมา แฮร์รี่เปิดประตูเข้าไป สเนปกำลังนั่งเขียนอะไรสักอย่างอยู่บนโต๊ะ และบุคคลที่ยืนกอดอกอยู่ข้าง ๆ เขาด้วยท่าทางอวดดีนั่น...เดรโก มัลฟอย แฮร์รี่ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ นี่เขาอุตส่าห์พยายามหลบหน้าหมอนี่ทั้งวัน ดันต้องมาเจอกันตอนกักบริเวณเนี่ยนะ? มันจะอะไรกันนักกันหนา หมอนี่น่าจะเป็นนักเรียนคนเดียวในโลกที่อวดเก่งกับสเนปได้โดยไม่มีวันโดนทำโทษนี่?
“ตรงนู้น” สเนปไม่เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยซ้ำตอนที่ชี้ไปยังกระบะที่ตั้งอยู่ริมตู้เก็บเครื่องปรุงยา แฮร์รี่หันไปมอง...หนอนฟลอบเบอร์อีกแล้วเรอะ? เกลียดมันเกือบจะเท่า ๆ กับตัวสกรู๊ตของแฮกริดแล้วนะเนี่ย...
“หมดกระบะนั่นแล้วก็กลับได้” อาจารย์แห่งบ้านสลิธิรีนบอก ผมสีดำมันเยิ้มเกลี่ยละใบหน้าขาวซีดของเขาตอนลุกขึ้นเก็บม้วนกระดาษบนโต๊ะ “ฉันมีธุระต้องไปพบศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ ระหว่างนี้เดรโกจะเป็นคนอยู่เฝ้าเธอแทน”
“อะไรนะ?” แฮร์รี่โพล่งออกมาอย่างลืมมารยาท อะไรบางอย่างที่แฮร์รี่ได้ยินไม่ไช่สิ่งที่เขาคาดคิดเอาไว้ “อาจารย์ว่าไงนะ?”
สเนปหรี่ตามองแฮร์รี่ “มีปัญหาอะไรงั้นหรือพอตเตอร์?”
มีปัญหา? สเนปถามเขาว่ามีปัญหาอะไรงั้นหรือ? ไม่อยากจะเชื่อเลย! “อาจารย์ ถ้าอาจารย์ไม่ว่าง เรียกผมมากักบริเวณวันอื่นก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องให้นักเรียนคนอื่นมาคุมแทน...”
“ฉันเรียกเธอมาทำโทษ พอตเตอร์ ไม่ใช่มาออกความเห็น” สเนปพูด “และการที่พรีเฟ็คทำหน้าทีคุมนักเรียนตามคำสั่งอาจารย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกตรงไหน” สเนปตบท้าย ก่อนจะเดินผ่านหน้าเด็กหนุ่มกริฟฟินดอร์ออกประตูไป เสื้อคลุมสีดำปลิวสะบัดอยู่ด้านหลังเหมือนปีกค้างคาวตัวใหญ่
แฮร์รี่ยืนกัดฟัน ถ้านี่เป็นเรื่องบังเอิญ มันก็ชักจะบังเอิญเยอะเกินไปหน่อยแล้ว...
OoOoOoOoO
“ท่าทางนายจะชอบโดนกักบริเวณนะพอตเตอร์ โดนบ่อยเหลือเกินนี่” มัลฟอยนั่งกลับข้างอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานสเนป ดูแฮร์รี่นั่งแยกหนอนฟลอบเบอร์เน่า ๆ ออกจากหนอนดีที่ใช้การได้ แต่เท่าที่เห็น ดูเหมือนในกระบะจะมีแต่หนอนเน่า ๆ ทั้งนั้นเลย...
“วันไหนไม่โดนทำโทษแล้วนอนไม่หลับเรอะ?”
แฮร์รี่ตั้งใจอย่างจริงจังว่าจะเมินมัลฟอยจนถึงที่สุด จะไม่เปิดโอกาสให้หมอนี่หาเรื่องแกล้งเขาได้อีก แต่พอได้ยินคำพูดนี้ของมัลฟอย เด็กหนุ่มอดไม่ไหวจริง ๆ ถ้าไม่ด่าหมอนี่สักหน่อยเขาต้องอึดอัดจนทนไม่ได้แน่ ๆ
“ก็นายนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุ! ไม่ต้องมาพูดมากเลยนะไอ้งี่เง่า!”
“อะไร? นายนี่เอะอะก็โทษฉันยันเลยนะ ทำไม? มัวแต่นั่งเหม่อคิดถึงฉันอยู่หรือไง?”
แฮร์รี่อยากยัดหนอนเน่า ๆ พวกนี้ใส่ปากหมอนี่จริง ๆ “สมองนายมันอยู่ที่ตูดหรือไง ถึงคิดแต่เรื่องหลงตัวเองได้ไม่รู้จักหยุดจักหย่อนห๊ะ? ถ้าบังเอิญว่านายไม่มีสมองฉันก็จะไม่ถือสาหาความแล้วกัน แต่ถ้าบังเอิญมีก็หัดใช้ซะบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้มันเน่าบูดอยู่ในนั้น และถ้าพูดอะไรดี ๆ กับเขาไม่เป็นก็หุบปากไว้เถอะ โลกจะได้เจริญ”
ขอบตามัลฟอยกระตุก...โอ้โห แรงไม่ใช่เล่นนะเนี่ย “นายพูดอะไรแต่ละคำนี่ทำให้โลกเจริญเหลือเกินเนอะ”
แฮร์รี่เหล่ตามองร่างสูง ไม่ตอบ ไม่เถียง กลับไปสู่ความมุ่งมั่นเดิมที่จะเมินมัลฟอยจนถึงที่สุด
“ไอ้ผู้ชายบ้านฮัฟเฟิลพัฟฟ์เมื่อเช้าแฟนใหม่นายเรอะ?” มัลฟอยจงใจแหย่ต่อ เขาสังเกตเห็นว่าร่างบางมีปฏิกิริยาเล็กน้อย “แหมดีนี่ อกหักปุ๊บก็มีหน้าใหม่มาให้ควงปั๊บ”
“เออร์นี่เป็นเพื่อนของฉัน!”
มัลฟอยดูพึงพอใจอีกครั้ง “อ้อเหรอ แต่ท่าทางฝ่ายโน้นคงไม่ได้คิดแค่นั้นละม้าง”
ดูเหมือนมัลฟอยจะแอบเห็นเข้า เมื่อเช้าเออร์นี่ มักมิลลันมาสารภาพรักแฮร์รี่ เด็กชายทั้งอึ้งและอายจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะเขาไม่เคยมองเออร์นี่มากเกินไปกว่าเพื่อนเลย แฮนนาห์ อับบอตเข้ามาเป็นคนที่สองต่อจากเออร์นี่ แล้วหลังจากนั้นตลอดวันก็มีนักเรียนหญิงชายเข้ามาหาเขาด้วยเรื่องเดียวกันนี้อีกสิบกว่าคนได้ เล่นเอาแฮร์รี่อึ้งไปเสียหลายหน ก็ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเคยมีใครมาสารภาพรักเขาเลย แต่แล้วจู่ ๆ ก็รุมกันเข้ามาเป็นสิบภายในวันเดียวอย่างเนี้ย ใครจะไปทำใจทัน หลายคนในนั้นเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร...
“บ้านกริฟฟินดอร์ก็เห็นมีตั้งหลายคนนี่ พ่อหนุ่มป๊อปปูล่าตัดสินใจได้รึยังล่ะว่าจะเลือกใคร?”
แฮร์รี่ทำเป็นไม่ได้ยิน
“หรือไง ยังตัดใจจากฉันไม่ได้เรอะ?”
คำพูดสุดท้ายนั้นทำให้เด็กหนุ่มผมดำฉุนขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะทันได้คิดอะไร เขาก็ส่งหนอนเน่าที่กำอยู่เต็มกำมือข้ามห้องไปหามัลฟอยซะแล้ว เด็กหนุ่มสลิธิรีนทะลึ่งพรวดขึ้นจากเก้าอี้พร้อมอุทานด้วยความตกใจ หนอนฟลอบเบอร์กระจายยั้วเยี้ยเต็มพื้นห้อง
“พอตเตอร์!”
แต่แฮร์รี่ไม่สนใจแล้วว่ามัลฟอยจะพูดอะไรต่อ ทำแล้วก็เลยตามเลยแล้วกัน ร่างบางกำหนอนปาใส่มัลฟอยต่อไม่ยั้งจนทั้งตัวมัลฟอยและห้องของสเนปเลอะเทอะไปด้วยหนอนฟลอบเบอร์เน่า ๆ ในที่สุดเมื่อรู้ตัวว่าได้ละเลงห้องทำงานของอาจารย์สุดรักสุดใจขาดดิ้นให้เขียวอื๋อไปด้วยเมือกเหนียว ๆ เรียบร้อยแล้ว แฮร์รี่ก็รีบลุกขึ้นแล้วพรวดพราดวิ่งหนีออกประตูไปทันที เดรโก มัลฟอยร้องเรียกอย่างหัวเสีย เขาถอดเสื้อคลุมส่งกลิ่นไม่น่าพิสมัยทิ้งไปแล้ววิ่งตามต้นเหตุตัวดีออกไปจากห้อง
“พอตเตอร์ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
หยุดให้โง่เรอะ! แฮร์รี่จ้ำขึ้นบันไดทีละสองขั้น เลี้ยวออกไปยังโถงทางเดิน แล้วรี่ขึ้นบันไดกลาง มัลฟอยวิ่งตามไปสุดกำลัง แต่เจ้าซีกเกอร์ไม่รู้จักโตนั่นวิ่งไวเหลือเกิน
“พอตเตอร์ ฉันบอกให้หยุดไง!” เด็กหนุ่มเห็นหลังเล็ก ๆ เลี้ยวหายไปหลังกำแพง เขาเร่งฝีเท้าเลี้ยวตามไป ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แฮร์รี่หายไปเสียแล้ว... ร่างสูงเหลียวซ้ายแลขวาหาดูให้แน่ใจ แต่ภาพที่เห็นก็ยังคงมีแค่โถงทางเดินที่ว่างเปล่า
“พอตเตอร์” มัลฟอยส่งเสียงออกไป ไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ทุกอย่างเงียบสนิท เป็นไปได้ยังไง เขาคลาดสายตากับหมอนั่นไม่ถึงสามสิบวิด้วยซ้ำ! “ออกมาเดี๋ยวนี้นะพอตเตอร์! ฉันรู้ว่านายซ่อนอยู่แถวนี้” พรีเฟ็คหนุ่มตะโกน เดินวนไปมา “พอตเตอร์นายหนีไม่พ้นหรอก!” เขาเปิดประตูห้องเรียนห้องหนึ่งเข้าไปดู แฮร์รี่ไม่ได้อยู่ในนั้น เด็กหนุ่มเดินไปสำรวจตู้เก็บไม้กวาดที่ห่างออกไปไม่มากนัก ไม่มีใครอีกเช่นกัน เขาชักเริ่มหงุดหงิด “นี่! แฮร์รี่ พอตเตอร์!”
“เมี้ยว!”
เดรโก มัลฟอยสะดุ้งโหยง เหลียวหลังกลับไปมองตามสันชาตญาณ มิสซิสนอริสแมวแก่หน้าตาสุดแสนงามงดยืนจ้องเขาอยู่ด้วยดวงตากลมโตฉ่ำเยิ้ม และเพียงแค่อึดใจต่อมาเท่านั้น เจ้านายผู้มีหน้าตาแสนงดงามเป็นบ้าไม่แพ้กันของมันก็โผล่ออกมา
“อะฮ่า! คาหนังคาเขาเลย ไอ้เด็กเลว!” ฟิลช์ร้องอย่างพึงพอใจสุดขีด ตรงเข้าตะครุบมัลฟอยไว้ราวกับพบขุมทองขนาดใหญ่ “หนีออกจากหอมาเดินข้างนอกอีกแล้วใช่...” เขาย่นจมูกแสดงความรังเกียจ “นี่แกเล่นระเบิดเหม็นมาใช่ไหม? เลวจริง ๆ! เอาออกมาให้หมดเดี๋ยวนี้นะ!” เขาควานมือพยายามจะล้วงกระเป๋ามัลฟอย
เด็กหนุ่มปัดมือชายแก่ออกไป “หยุดนะ! แกนั่นแหละเอามือออกไปเดี๋ยวนี้!” เขาพยายามจะดึงแขนตัวเองคืน “ฉันรับคำสั่งมาจากศาสตราจารย์สเนปนะ!”
ฟิลช์กดแขนเขาแน่นกว่าเดิม “อย่ามาโกหกเสียให้ยาก! พวกที่ชอบออกมาเดินข้างนอกตอนกลางคืนก็อ้างอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ! เอาระเบิดเหม็นของแกออกมา!”
“ไม่มี! ปล่อยฉันนะ! คอยดูเถอะ ศาสตราจารย์สเนปต้องไม่พอใจแน่ ๆ!”
“เขาจะทำโทษแกให้หนักน่ะสิไม่ว่า! มากับฉันเดี๋ยวนี้ไอ้เด็กเลว!” ฟิลช์ลากแขนมัลฟอยไป
“ฉันไม่ไป!” ให้ตายสิ เจ้าแก่นี่เสกคาถาติดหนึบไว้ที่มือหรือไงนะ! “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! แกอยากเจอดีใช่ไหม!”
ตูม!
ทั้งฟิลช์และมัลฟอยต่างสะดุ้งตกใจ เมื่ออะไรสักอย่างส่งเสียงระเบิดดังลั่นและปล่อยควันคลุ้งโขมงออกมาจากสุดทางเดินฝั่งตรงข้าม
“พีฟส์!” ฟิลช์กัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยว เผลอปล่อยแขนจากมัลฟอยโดยไม่รู้ตัว
มัลฟอยยืนจ้องกลุ่มควันอยู่ด้วยความประหลาดใจตอนที่มือปริศนายื่นมาปิดปากเขาไว้จากด้านหลัง ใครคนนั้นตวัดผ้าลักษณะโปร่งแสงมาคลุมตัวเขา ก่อนจะลากเดินหนีออกมา เด็กหนุ่มจับแขนผู้ช่วยเหลือปริศนาไว้ เขาเห็นสีหน้าประหลาดใจปนฉุนเฉียวของฟิลช์ตอนที่นักการหันกลับมาตั้งใจจะรวบตัวเขา แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า ตอนนั้นเองที่มัลฟอยรู้ว่าเขาอยู่ใต้ผ้าคลุมล่องหน...
แฮร์รี่ลากเดรโก มัลฟอยเดินห่างออกมาจากฟิลช์ที่ตอนนี้จำใจต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปยังกลุ่มควันแทน พาเขาเข้าไปในห้องเรียนว่างเปล่าที่เด็กหนุ่มเปิดเข้ามาดูเมื่อสักครู่นี้ ก่อนจะดึงผ้าคลุมล่องหนออก
“ฉันละเชื่อเลย! นายนี่โง่หรือง่าวเนี่ย เที่ยวตะโกนโหวกเหวกตามทางเดินตอนนี้ได้ไง! ฟิลช์ไม่เจอนายก็บ้าแล้ว!” แฮร์รี่บ่นอย่างอดไม่ได้ กระโดดขึ้นไปนั่งบนโต๊ะนักเรียนแล้วโยนผ้าคลุมล่องหนไว้ข้าง ๆ “แล้วดูตัวนายสิ สุดยอดแห่งความเหม็นเลย!”
มัลฟอยสะดุดทันที แฮร์รี่กล้าว่าเขาได้เรอะ? ในเมื่อนี่... “มันฝีมือนายไม่ใช่หรือไง!”
“ไม่ใช่!” แฮร์รี่โต้ จ้องตาร่างสูงอย่างท้าทาย หมอนี่โทษว่าเป็นความผิดเขาทั้งหมดได้ไง ก็... “นายต่างหากที่เป็นฝ่ายพูดจาหาเรื่องฉันก่อน”
“หาเรื่อง? หาเรื่องอะไร? ฉันพูดความจริงต่างหาก!”
“พูดเองเออเองต่างหาก! ไอ้ขี้มั่วหลงตัวเอง!”
“นี่นายเมื่อไหร่จะเลิกปากหนักซะที ป่านนี้แล้วยังจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีก คนเขารู้กันทั้งโรงเรียนแล้วว่านายชอบฉัน ยอมรับมาดี ๆ มันจะเสียศักดิ์ศรีนักหรือไงห๊ะ แค่คำว่า ‘ชอบ’ เนี่ย ไม่โดนสัจจะเซรุ่มแล้วสะกดไม่เป็นเรอะ?”
“ใช่!” แฮร์รี่พูดเสียงดัง “ใช่ ฉันชอบนาย ฉันมันโง่เองที่ไปชอบคนอย่างนาย พอใจหรือยังล่ะ!” เขาจ้องหน้ามัลฟอยเขม็ง “ดีนี่ คนอุตส่าห์ช่วย ขอบคุณกันสักคำก็ไม่มี แล้วยังมาด่าอีก” เขาโดดลงจากโต๊ะ คว้าผ้าคลุมล่องหนแล้วเดินผ่านหน้ามัลฟอยไป
เด็กหนุ่มสลิธิรีนคว้าต้นแขนร่างบางไว้ “อะไร แค่นี้ต้องทวงเรอะ?”
“ไม่ได้ทวง ฉันไม่เคยหวังอะไรจากคนอย่างนายอยู่แล้ว”
มัลฟอยดึงแขนแฮร์รี่กลับมา ไม่ได้ตั้งใจจะดึงแรง แต่ร่างบางก็ยังเซและทำผ้าคลุมหลุดมือ “นายต้องการอะไรบอกมาสิ?”
แฮร์รี่หันกลับไปมองหน้ามัลฟอยที่ตอนนี้อยู่ห่างจากใบหน้าเขาเพียงไม่ถึงฟุต ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นใสและสวยงาม เด็กหนุ่มเพียงแต่คิดว่าถ้าจิตใจของคนคนนี้สวยงามได้อย่างนี้บ้าง... ร่างบางไม่ได้ต้องการค่าตอบแทนอะไรเลย เขาช่วยมัลฟอยด้วยความตั้งใจของตัวเอง และทั้งหมดที่เด็กหนุ่มคาดว่าจะได้รับก็แค่คำขอบคุณสักคำแค่นั้น มัลฟอยคิดว่าเขาต้องการค่าตอบแทนงั้นหรือ? หมอนี่มั่นใจนักหรือว่าจะสามารถให้อะไรก็ตามที่แฮร์รี่ขอได้...?
“นายคิดว่านายสามารถซื้อใครก็ได้งั้นหรือ? คนอย่างนายมันก็แค่ลูกผู้ดีจอมยโส อย่ามาทำอวดเก่งไปหน่อยเลย ถ้าฉันเรียกร้องจริง ๆ นายไม่มีทางจ่ายฉันได้หรอก”
มัลฟอยกำแขนแฮร์รี่แน่นขึ้น ไม่พอใจที่ถูกสบประมาท “ฉันจ่ายได้ทั้งนั้น” เขากล่าวชัดถ้อยชัดคำ “นายต้องการอะไรล่ะ?”
แฮร์รี่เกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา เด็กชายไม่รู้หรอกว่าทำไมตัวเองถึงกล้าพูดมันออกไป แต่ปฏิกิริยาของอีกฝ่ายก็แสดงให้เห็นว่าเขาเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
“นอนกับฉันสิ”
นัยน์ตาสีอมฟ้าขยายกว้าง
“ทำไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” เด็กหนุ่มดึงแขนตัวเองคืนแล้วหันหลังเดินจากไป ชั่วแวบเดียวเท่านั้น แฮร์รี่แอบคิดอยู่ในใจว่าบางทีมัลฟอยอาจจะหยิ่งในศักดิ์ศรีมากพอจนยอมทำจริง ๆ ก็ได้ แต่สุดท้ายร่างสูงก็ไม่ขยับตัวเลยจนกระทั่งแฮร์รี่ปิดประตูห้องออกไป ไม่มีการรั้ง ไม่มีการต่อรองใด ๆ ทั้งนั้น...
แฮร์รี่น่าจะรู้อยู่แล้ว มัลฟอยไม่มีทางยอมกอดเขาหรอก เขาหวังอะไรอยู่นะ น่าสังเวชจริง ๆ...
เด็กหนุ่มเดินมาหยุดหลบมุมอยู่หลังกำแพงเมื่อรู้ตัวว่าลืมผ้าคลุมล่องหนไว้ เขาตั้งใจว่าจะรอให้มัลฟอยออกมาก่อนค่อยกลับเข้าไปเอา แต่รออยู่ราวสิบนาทีประตูก็ยังคงปิดสนิทอยู่อย่างนั้น หมอนั่นทำอะไรอยู่กันแน่ ทำไมถึงยังไม่ออกมาสักที...
“ทำอะไรอยู่พอตเตอร์?”
แฮร์รี่สะดุ้งสุดตัว หัวใจหล่นไปอยู่ที่หัวแม่โป้ง เมื่อจู่ ๆ สเนปก็โผล่มาข้างหลังเขา
“แยกหนอนเสร็จแล้วเรอะ?”
“อะ เอ่อ... ครับ” แฮร์รี่ตัดสินใจโกหกอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนสเนปจะยังไม่ได้กลับไปห้องทำงาน แฮร์รี่ไม่อยากนึกเลยว่าอาจารย์จะทำหน้ายังไงถ้าได้เห็นสภาพห้องตอนนี้ แต่ตอนนี้เขาขอเอาตัวรอดก่อนแล้วกัน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
“เสร็จแล้วทำไมไม่รีบกลับหอ มายืนทำอะไรอยู่?”
“เอ่อ...เปล่าครับ กำลังจะกลับแล้ว” แฮร์รี่ตอบ รีบหันขวับแล้วสาวเท้าเดินหลีกสเนปออกมาตามทางเดิมอย่างรวดเร็ว แต่มันจะอะไรกันหนักกันหนาก็ไม่รู้ ดั๊นเดินมาปะหน้ากับมัลฟอยที่เปิดประตูห้องออกมาพอดี...!
ร่างสูงถือผ้าคลุมล่องหนของแฮร์รี่อยู่ในมือ ทำหน้าตกใจที่เห็นร่างบางย้อนกลับมาอีกครั้ง “พอตเตอร์?”
ไวกว่าความคิด แฮร์รี่รีบวิ่งไปปิดปากมัลฟอยแล้วลากเขากลับเข้าไปในห้องอีกรอบทันที ชั่วแวบเดียวเท่านั้นตอนที่เด็กชายงับประตูปิด เขาทันเห็นสเนปเลี้ยวหัวมุมออกมาพอดี
“ทำอะไรของนาย คิดจะจู่โจมเรอะ?”
“หุบปากเถอะน่า!” แฮร์รี่กระซิบอย่างหัวเสีย เมื่อกี้สเนปเห็นรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ยังไงกันไว้ก่อนดีกว่า
เด็กหนุ่มลากแขนมัลฟอยที่เริ่มทำหน้าตาประหลาดมากขึ้นทุกทีไปยังมุมห้อง คลี่ผ้าคลุมล่องหนออกคลุมตัวพวกเขาไว้ก่อนที่สเนปจะเปิดประตูเข้ามาเพียงวินาทีเดียวเท่านั้น
มัลฟอยและแฮร์รี่กลั้นหายใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
อาจารย์แห่งบ้านสลิธิรีนก้าวเข้ามา มุ่นคิ้วกวาดสายตามองรอบห้องหาความผิดปกติ ไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว สเนปเดินลึกเข้ามาในห้องอีก ตอนนั้นเองที่แฮร์รี่สังเกตเห็นว่ารองเท้าของมัลฟอยโผล่ออกไปนอกผ้าคลุมนิดหนึ่ง ก็ใครใช้ให้สูงขนาดนี้เล่า!
“มัลฟอย รองเท้า!” แฮร์รี่กระซิบ เสียงดังที่สุดเท่าที่เขาจะกล้า “รองเท้านายโผล่! ก้มลงอีกสิ!” แต่สิ่งเดียวที่มัลฟอยทำก็คือขมวดคิ้วอยู่ใต้ผ้าคลุม แฮร์รี่เห็นสเนปหมุนตัว เขารีบกระชากคอเสื้อมัลฟอยลงมา ชายผ้าคลุมหย่อนลงระพื้นเมื่อสเนปหันมาทางพวกเขาพอดี อาจารย์มองผ่านทั้งคู่ไป
แฮร์รี่ผ่อนหายใจอย่างโล่งอก โดยไม่ได้เจตนา ลมหายใจแห่งความตื่นเต้นของเขารดลงบนซอกคอขาวเนียนของร่างที่เพิ่งถูกกระชากตัวลงมา ร่างสูงสะดุ้ง แฮร์รี่รู้สึกตัวและรีบเงยหน้าขึ้น ส่งผลให้ดวงตาของทั้งคู่เจอะกันพอดี แฮร์รี่เพิ่งค้นพบว่าใบหน้าของเขาและมัลฟอยห่างกันไม่ถึงคืบเท่านั้น
เด็กหนุ่มร่างเล็กเบือนหน้าหนีจากสายตาอันตราย แต่การทำแบบนี้กลับกลายเป็นว่าทำให้ลมหายใจอุ่น ๆ ของมัลฟอยเป่ารดแก้มเขาเต็ม ๆ แทน แฮร์รี่หน้าร้อนผ่าว...ถึงจะรู้สึกดีก็เถอะ แต่อยู่อย่างนี้นาน ๆ เขาได้หัวใจวายตายแน่! ไอ้ครั้นจะให้หันกลับไปจ้องตากันแบบเดิมก็ไม่ไหว เขาจึงได้แต่ภาวนาให้ความมืดบดบังทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ ไม่งั้นมัลฟอยได้เห็นแน่ว่าหน้าเขาตอนนี้นั้นมันแดงเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว...
ด้านสเนปดูเหมือนจะยังไม่ละความพยายามในการสำรวจห้อง เขาเดินเฉียดเข้ามาใกล้จุดที่ทั้งคู่ยืนอยู่มากขึ้นกว่าเดิม แฮร์รี่กดหลังแนบติดกำแพง หัวใจเต้นแรงจนแน่ใจว่ามัลฟอยต้องได้ยินแล้วแน่ ๆ เด็กหนุ่มหลับตาปี๋ ได้ยินเสียงสูดลมหายใจดังอยู่ข้างหู...ชัดราวกับหมอนี่กำลังดมเขาอยู่อย่างนั้นแหละ...นอกจากนี้แฮร์รี่ก็ยังรู้สึกเหมือนตัวมัลฟอยจะขยับเบียดเข้ามามากขึ้นด้วย...นี่เขาไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม?
โอ๊ย...ทำไงดี หัวใจจะวายอยู่แล้ว!
เด็กหนุ่มตัดสินใจหันหน้ากลับไป จมูกโด่งได้รูปของมัลฟอยเสียดผ่านแก้มของเขา และแล้วก่อนที่แฮร์รี่จะทันได้ตั้งตัว ปากของทั้งคู่ก็เจอกัน...!
ร่างบางได้แต่ยืนนิ่งอึ้งขณะที่มัลฟอยเริ่มต้นจูบเขา นิ่งเมื่อในที่สุดสเนปก็ปิดประตูออกไป นิ่งจนกระทั่งพวกเขาถอนปากออกจากกันไปแล้ว
ดวงตาสีเขียวค้างเติ่ง คนที่ตกใจคือแฮร์รี่ แต่คนที่ประหลาดใจกว่าคือมัลฟอย
อะไรเนี่ย...ปากเก่งถึงขนาดกล้ายื่นเงื่อนไข ‘นอนด้วย’ เองแท้ ๆ ไหงแค่โดนจูบก็วิญญาณออกจากร่างซะแล้วล่ะ?
“พอตเตอร์?” มัลฟอยส่งเสียงหยั่งเชิงออกไป แฮร์รี่วิญญาณกลับเข้าร่างและสะดุ้งโหยง ร่างสูงสะดุ้งตาม
“นาย...”
“ฉัน?”
“นาย...”
“อะไร? ทำไม?”
แฮร์รี่อ้าปากเหมือนนึกคำพูดไม่ออก “อร่อย...”
“หา?”
“เอ๊ย! ไม่ใช่! เอ่อ คือ... อะ อะ อะไร...”
“อะไร?”
“อะ...อรุณสวัสดิ์” แฮร์รี่คว้าผ้าคลุมล่องหนออกแล้วเปิดแน่บทันที
กว่าจะรู้ตัวว่าลืมใส่ผ้าคลุม เด็กหนุ่มก็วิ่งไปจนถึงหน้าหอเรียบร้อยแล้ว...
เดรโก มัลฟอยยังคงอยู่ในห้องนั้นต่ออีกราวห้านาที...หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง...
OoOoOoOoO
ความคิดเห็น