คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Suppressed Emotion # 2
Scene 2
แฮร์รี่วิ่งมาจนถึงหอกริฟฟินดอร์ กระแทกประตูปิดเสียงดังลั่น แล้วตรงเข้าคว้าคอเสื้อรอนที่กำลังยืนคุยออกรสออกชาติอยู่กับเฮอร์ไมโอนี่ทันที
“อยู่ไหน!” แฮร์รี่ถามเสียงดังเจือเสียงหอบ “นายเอาไปไว้ที่ไหน!”
“เฮ้ย ๆ เดี๋ยว นี่มันอะไรเนี่ย” รอนยกมือปรามแฮร์รี่ ตกใจและไม่เข้าใจ “เป็นอะไรของนายแฮร์รี่ ใจเย็นสิ เกิดอะไรขึ้น?”
“เย็นไม่ไหวแล้วโว้ย! เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นายเอากระดาษพวกนั้นไปไว้ที่ไหน! ”
“เฮ้ย อย่าเขย่าฉันสิแฮร์รี่ นายพูดเรื่องอะไรอยู่ กระดาษไหน?”
“ก็กระดาษที่... ปัดโธ่โว้ยยย! กินขี้ซะรอน!” แฮร์รี่กระชากคอเสื้อรอน ลากเขาขึ้นบันไดหอชายไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตางงงันที่จับจ้องมาของเฮอร์ไมโอนี่และบรรดานักเรียนคนอื่น ๆ
แม้จะเป็นไปอย่างทุลักทุเลเพราะขนาดตัวและส่วนสูงที่ห่างกันค่อนข้างจะไกลอยู่ แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ไปอยู่ในห้องนอนจนได้ เนวิลล์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวในห้องหันมาสนใจทันทีที่ทั้งคู่เข้ามาทำลายความสงบของเขา
รอนขมวดคิ้ว ชักรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย “ตกลงนายพูดเรื่องอะไรของนาย
แฮร์รี่สูดลมหายใจเข้า พยายามรีดเอาความเหนื่อยและโทสะออกไปจากร่างให้ได้มากที่สุด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังออกทันทีว่าเขาพอจะตั้งสติได้แล้ว “อาทิตย์ก่อน เราเล่นเกมส์ไพ่งี่เง่ากัน จำได้ไหม?” เขาจ้องลูกตาที่กรอกไปมาอย่างใช้ความคิดของรอน “ที่มีกติกางี่เง่าว่าให้แต่ละคนเขียนความลับที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนลงกระดาษ แล้วคนแพ้จะต้องถูกเปิดอ่านน่ะ”
รอนอ้าปากอ๋อทันที ตอนนั้นน่ะเอง ใช่แล้ว อาทิตย์ก่อนพวกเขาเล่นเกมส์ไพ่กันสี่คน มีเขา แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ และเนวิลล์ กติกาก็ตามที่แฮร์รี่บอก ทุกคนจะต้องเขียนความลับสุดยอดของตัวเองลงในกระดาษ (แน่นอน เฮอร์ไมโอนี่เสกคำสาปใส่กระดาษเพื่อป้องกันการโกง) และคนที่แพ้ในแต่ละตาจะต้องเปิดเผยความลับในกระดาษให้คนที่เหลือรู้ เขาแพ้ไปตาหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่สอง เนวิลล์สาม ส่วนแฮร์รี่ยังไม่แพ้เลยสักตา
“นายหมายถึงกระดาษที่เขียนความลับพวกนั้น?”
“ก็เออสิ! นายเป็นคนเก็บไปทำลายไม่ใช่เรอะ เผามันหมดรึยัง!”
“เอ่อ...” รอนกระพริบตา “ความจริงแล้วฉันฝากเนวิลล์ไปอีกทีน่ะ”
แฮร์รี่หันขวับไปมองเนวิลล์ทันที เด็กชายสะดุ้งโหยง รับรู้ในบัดดลจากแววตาน่ากลัวนั่นว่าลางร้ายมาเยือนแล้ว...
แฮร์รี่ปล่อยมือจากคอเสื้อรอน ปราดเข้าไปหาเหยื่อคนใหม่แทนทันที “นายเอาไปไว้ไหน?”
“เอ่อ คือว่า นั่นน่ะฉัน...” เนวิลล์พูดตะกุกตะกัก
“นายเอามันไปไว้ที่ไหน พูดมาเร็วเข้าเนวิลล์!” แฮร์รี่เริ่มตะคอกอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขาไม่อยากคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกระดาษพวกนั้นหากมันอยู่ในมือของเนวิลล์ ไม่อยากแม้แต่จะนึก แต่ความจริงนั้นแสนโหดร้ายและปฏิเสธไม่ได้ คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว และแฮร์รี่ก็เห็นมากับสายตาตัวเอง เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเท่านั้น...จากบุคคลที่มีชื่อปรากฏอยู่ในกระดาษของเขา คนที่เขาอยากให้เป็นคนสุดท้ายในโลกนี้ที่จะได้เห็นมัน!
“ฉัน...ทำหายอ่ะ” เนวิลล์หลุดคำพูดออกมาในที่สุด “ขอโทษ”
คำพูดน่าสมเพชที่แฮร์รี่เคยได้ยินจากป้าเพ็ตทูเนียผุดขึ้นมาในหัวเขา เขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่รู้สึกอยากพูดคำ ๆ นี้ออกมา พอ ๆ กับที่ไม่เคยคิดว่ากระดาษความลับของเขาจะตกอยู่ในมือมัลฟอย...
เวลานี้แฮร์รี่อยากจะเป็นลม...
OoOoOoOoO
แฮร์รี่พบกับฝันร้ายของจริงในเช้าวันต่อมา เมื่อนักเรียนทุกคนในหอกริฟฟินดอร์ดูเหมือนจะรู้เรื่องใบความลับของแฮร์รี่จากใบปลิวปึกหนึ่งที่ถูกนำมาวางไว้หน้าบอร์ดประกาศข่าวในห้องนั่งเล่นรวมโดยไม่ทราบที่มา ใบปลิวเหล่านั้นไม่สามารถเป็นอย่างอื่นได้เลยนอกจากฉบับก็อปปี้ของใบจริงซึ่งถูกขยายอย่างต่ำห้าเท่า
คนบางพวกมองว่ามันเป็นเรื่องแกล้งกันที่แสนไร้สาระ แต่คนส่วนมากนั้นให้ความสนใจและใช้ควมพยายามอย่างยิ่งยวดในการซักไซ้แฮร์รี่ ผู้ซึ่งพยายามอย่างยิ่งยวดไม่แพ้กันในการตามเก็บใบปลิวพวกนี้จนเกลี้ยงหอพร้อมตะโกนอย่างหัวเสียอยู่ตลอดเวลาว่านั่นเป็นของที่ทำขึ้นมาเพื่อแกล้งเขา และหัวโจกก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเดรโก มัลฟอย นักเรียนส่วนใหญ่เชื่อเขา...แต่นั่นก็แค่ในบ้านกริฟฟินดอร์เท่านั้นแหละ...
เมื่อออกจากหอเพื่อไปทานข้าวเช้า แฮร์รี่แทบช็อคกับสิ่งที่เจอ โปสเตอร์ลักษณะเดียวกับใบปลิว...ลักษณะเดียวกับจดหมายน้อยของเขา...ถูกแปะเรียงอยู่เต็มพื้นที่โต๊ะกินข้าวตัวยาวของทั้งสี่บ้านราวกับเป็นผ้าปูโต๊ะหน้าตาประหลาด ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายเลยว่าทำไมแฮร์รี่ถึงเป็นจุดสนใจของผู้คนอย่างมากทันทีที่เขาก้าวข้ามธรณีประตูเข้าสู่ห้องโถงใหญ่
“ทุเรศที่สุด!” แฮร์รี่สบถ ฉีกทึ้งโปสเตอร์ออกจากโต๊ะเบื้องหน้าเขาอย่างกราดเกรี้ยว นักเรียนต่างบ้านยังคงหันมาให้ความสนใจเขาเป็นระยะ ๆ ซึ่งมันน่ารำคาญเหลือเกิน
“อย่าไปสนใจเลย ช่างมันเถอะแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างสงบ ส่งยิ้มให้เขาเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของเขา แต่นั่นไม่ทำให้แฮร์รี่รู้สึกสบายใจขึ้นเลย เขาไม่ได้ปรารถนาให้ใครมาเข้าใจ สิ่งที่เขาต้องการคือการไม่มีใครรู้ความลับของเขา...ซึ่งในเวลานี้แม้แต่จะฝันก็ดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว แฮร์รี่นั่งลงอย่างหัวเสีย รอนตบไหล่เขาและไม่ได้พูดอะไร แฮร์รี่เดาไม่ออกว่าเพื่อนคนนี้คิดอะไรอยู่ หมอนี่ทำหน้าตกใจและมองหน้าเขาแบบแปลก ๆ มาตั้งแต่เช้าแล้ว...ตั้งแต่ได้เห็นข้อความในใบปลิวนั่น...
“อรุณสวัสดิ์พอตตี้ วันนี้ก็ยังงี่เง่าเหมือนเดิมนะ”
แฮร์รี่กระแทกโต๊ะลุกขึ้นยืนทันทีที่น้ำเสียงคุ้นหูเอ่ยทักอย่างยียวน เดรโก มัลฟอยยืนกอดอกเหยียดยิ้มด้วยท่าทางหาเรื่องอยู่ด้านหลังเขา
“มัลฟอย!!” แฮร์รี่พุ่งเข้าหามัลฟอยอย่างมุ่งร้าย และคงจะชกหน้าซีด ๆ นั่นได้แล้วถ้าเฮอร์ไมโอนี่กับรอนไม่รั้งเขาไว้ก่อน “นายมันไอ้หน้าตัวเมีย! เล่นสกปรก! ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น! ขี้ขลาดทุเรศทุรัง!”
“เฮ้ ๆ ระวังปากหน่อย ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายพูดเรื่องอะไร”
“อย่ามาทำเป็นไขสือนะ! นายนั่นแหละเป็นคนทำโปสเตอร์กับใบปลิวพวกนี้!!” แฮร์รี่เขวี้ยงโปสเตอร์ที่เขาเพิ่งจะฉีกออกมาใส่มัลฟอย
มัลฟอยขยับตัวมามองบนโต๊ะกริฟฟินดอร์ ทำหน้าเหมือนเพิ่งจะสังเกตเห็น ก่อนจะพูดในสิ่งที่แฮร์รี่นึกไม่ถึง “ถ้าฉันบอกว่าใช่แล้วไงล่ะ?” เขายิ้ม “จะตกใจอะไรนักหนา กับอีแค่จดหมายที่นายเขียนส่งมาให้ฉัน”
ทั่วทั้งห้องโถงระงมไปด้วยเสียงคุยซุบซิบกันทันที
แฮร์รี่เดือดพล่าน “โกหก! นายโกหก! ไอ้ทุเรศมัลฟอย! ฉันไม่ได้เขียน ฉันไม่ได้ส่งจดหมายนั่นให้นาย! ไปตายซะไป! ไปให้พ้น! ไอ้จอมตลบตะแลง!”
มัลฟอยเดินลากเท้ากลับไปยังโต๊ะบ้านตัวเองพร้อมกับเสียงหัวเราะสบายใจ ขณะที่รอนและเฮอร์ไมโอนี่ก็พยายามกล่อมแฮร์รี่ที่กำลังกระฟัดกระเฟี้ยดให้อย่าไปสนใจ แฮร์รี่นั่งลงในที่สุด กินข้าวและดื่มน้ำฟักทองอย่างบ้าคลั่ง ตะโกนใส่พวกนักเรียนที่หันมามองเป็นระยะ ๆ ว่า
“มองอะไร! ฉันบอกแล้วไงว่าเป็นฝีมือไอ้บ้านั่น!”
“ใจเย็น ๆ สิ นายก็รู้ว่ามันจงใจยั่วนาย อย่าไปตกหลุมมันสิ”
“เธอก็พูดได้สิ เธอไม่ใช่ฉันนี่!” แฮร์รี่ตะคอกเฮอร์ไมโอนี่ กระแทกถ้วยมีเชิงที่เขาเพิ่งซดน้ำฟักทองจนเกลี้ยงลงบนโต๊ะ “ถ้าเธอเป็นฉันเธอจะนั่งสบายใจอยู่ไหมล่ะถ้าถูกเปิดเผยความลับต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนแบบนี้น่ะ!”
ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบที่หนักหน่วงและยาวนาน เฮอร์ไมโอนี่กับรอนจ้องเขาตาโตเช่นเดียวกับบรรดานักเรียนคนอื่น ๆ ทั้งจากบ้านกริฟฟินดอร์และต่างบ้าน...ก็ระดับเสียงที่เขาพูดน่ะดังน้อยเสียเมื่อไหร่... ส่วนเสียงหัวเราะที่ฟังดูสนุกสนานเหลือเกินนั้นดังมาจากที่แห่งเดียวเลยก็คือ...บริเวณที่มัลฟอยนั่งอยู่
“แฮร์รี่...” รอนยังคงจ้องมองแฮร์รี่อย่างไม่เชื่อหู “นายพูดอะไรออกมา...”
แฮร์รี่อยากจะบอกเพื่อนเหลือเกินว่าเขาต่างหากที่ช็อคยิ่งกว่าใครกับคำพูดที่หลุดออกมาจากปากตัวเองนั่น “ฉัน... ฉัน...” แฮร์รี่อ้าปากพะงาบ ๆ และก่อนที่เขาจะพูดอะไรได้มากกว่านั้นใครคนหนึ่งก็ขัดจังหวะขึ้นมา
“นายหมายความว่ายังไงแฮร์รี่ อย่าบอกนะว่านายเขียนจดหมายนั่นส่งให้มัลฟอยจริง ๆ?”
“ไม่ใช่นะ!” แฮร์รี่ตะโกนใส่หน้าจินนี่ วีสลีย์ “ฉันไม่ได้เขียนส่งให้มัลฟอย! กระดาษความลับของฉันไปอยู่ที่หมอนั่นได้ยังไงฉันยังไม่รู้เลย!”
อีกครั้งที่ห้องโถงตกอยู่ในความเงียบ ยกเว้นแต่เสียงหัวเราะเสียงเดิมซึ่งเพิ่มดีกรีความสำราญขึ้น
แฮร์รี่ตัวแข็งทื่อ กรอกตามองไปรอบห้องและพบกับสายตาทุกคู่ที่มองสบมา เขาไม่รู้ตัวเลยว่าลุกขึ้นยืนตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้เขาอยากหายตัวไปให้เร็วที่สุดเลย
“เฮ้ พอตตี้” แฮร์รี่ได้ยินเสียงมัลฟอยตะโกนข้ามห้องมา “ตกลงแล้วนายเป็นคนเขียนข้อความในกระดาษนี่ใช่ไหม?” เขามองเห็นมัลฟอยโบกกระดาษความลับของเขาไหว ๆ อยู่เหนือหัว และก่อนที่เขาจะทันได้รู้ตัว เขาก็ตะโกนออกไปว่า “ใช่”
แฮร์รี่อ้าปากค้าง
“อะไรกัน ที่แท้นายแอบชอบเดรโกอยู่เรอะ?”
แฮร์รี่รู้ตัวแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขารู้ว่าสิ่งที่กำลังจะตามมาคืออะไร และก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่กำลังจะออกจากปากของเขานั้น เขาหยุดมันไม่ทันแล้ว
“ใช่” แฮร์รี่ตะโกนตอบแพนซี่
เสียงโห่ฮาดังเป็นสายมาจากโต๊ะสลิธีรินทันที ห้องโถงใหญ่ในเวลานี้ไม่ได้ตกอยู่ในความเงียบอีกแล้ว แต่ระงมไปด้วยเสียงพูดคุยแสดงความสนอกสนใจของเหล่านักเรียนทั้งหลาย หลังจากที่พวกเขาเพิ่งได้ยินแฮร์รี่ พอตเตอร์...สารภาพรักเดรโก มัลฟอย!
“นี่เดรโก แล้วนายว่าไงล่ะ พอตเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่เขาบอกชอบนายแน่ะ” แพนซี่ถามมัลฟอยด้วยเสียงล้อเลียน
“นั่นสินะ” เด็กหนุ่มผมบลอนด์มองมาทางเขาแล้วตะโกนข้ามห้องมาเสียงดังลั่น “เฮ้พอตตี้ ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันคงรับความรู้สึกนายไม่ได้หรอก เผอิญว่าฉันไม่มีรสนิยมแบบนั้นน่ะนะ” เขาทำหน้าเหมือนพยายามปกปิดความรู้สึกรังเกียจไว้ได้อย่างยากลำบาก “แล้วก็อีกอย่างหนึ่งนะ คือฉันเกลียดขี้หน้านายชะมัดเลยอ่ะ เห็นทีไรมันรู้สึกคลื่นไส้ อย่าว่าแต่จะให้ชอบเลย แค่มองก็อยากจะอ้วกแล้ว เพราะงั้นเห็นใจฉันหน่อยเหอะนะ”
โต๊ะสลิธีรินส่งเสียงหัวเราะกันดังลั่น แฮร์รี่หน้าร้อนผ่าว ไม่รู้ว่าเพราะความโกรธหรืออายหรืออะไรกันแน่ เขาเห็นมัลฟอยแอบกระดิกขวดแก้วบรรจุของเหลวสีใสแล้วขยิบตาให้เขาก่อนจะเก็บมันลงใต้โต๊ะอย่างรวดเร็วแล้วร่วมวงหัวเราะกับเพื่อน ๆ ต่อ แฮร์รี่รู้สึกได้ว่ามือเท้าของเขาเย็นเฉียบและสั่นเทิ้ม เขารู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขา และเข้าใจบรรดาคำพูดที่ควบคุมไม่ได้ทั้งหมดนั่น แต่มันสายเกินไปเสียแล้ว เดรโก มัลฟอยแอบหยดสัจจะเซรุ่มนั่นลงในแก้วน้ำฟักทองของเขาและจงใจทำให้เขาสารภาพด้วยตัวเอง...ต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน ก่อนที่จะ...ปฏิเสธเขาต่อหน้าคนทั้งโรงเรียน!
หยดน้ำไหลปริ่มอยู่ที่ขอบตาของแฮร์รี่ เขายอมแลกทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขากับการให้เรื่องทั้งหมดนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แฮร์รี่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อ เขาไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้อีกแล้ว ไม่สามารถพูดโกหกออกไปได้เลย เขาโมโหและเจ็บใจ เขาอับอายขายขี้หน้า เขาอยากหายตัวไปจากที่นี่ตอนนี้เลย ไปให้ไกลที่สุด ไปอยู่ที่ไหนก็ได้...
“เฮ้ นายอกหักซะแล้วล่ะพอตเตอร์ ถูกปฏิเสธแล้วรู้สึกเป็นยังไงบ้างหือ?” แพนซี่ พาร์กินสันซึ่งดูเหมือนจะสนุกกับการล้อเล่นเขาจนไม่ยอมหยุดง่าย ๆ ตะโกนมาอีกครั้ง แฮร์รี่ตอบกลับไปว่า
“อับอายขายขี้หน้า”
และคราวนี้เสียงหัวเราะไม่ได้ดังมาจากแค่โต๊ะสลิธีรินอีกต่อไปแล้ว แฮร์รี่ขยับเท้าถอยหลัง สะอึกในลำคอ ริมฝีปากสั่นสะท้าน รู้สึกเวียนหัวและพร่าเลือน เด็กชายหมุนเท้าแล้วออกวิ่งอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะยังคงดังอยู่รอบตัวเขาอย่างหลอกหลอน เขาวิ่งไม่คิดชีวิตออกไปจากห้องโถงใหญ่ น้ำตาเอ่อคลอบดบังดวงตาสีมรกตของเขาจนดูซีดและหม่นหมอง แฮร์รี่เจ็บปวดและคิดไม่ออกเลยว่า...
ทำไมเขาถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้...
ความคิดเห็น