ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ GOT7 ] - MY BROMANCE - #MARKBAM

    ลำดับตอนที่ #1 : ::Chapter 1::

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 58


    01

     

    [REWRITE]

     

    MY BROMANCE

     

     

     

     









     

                ในยามนิทราท้องฟ้ามืดมิดแสงตะวันที่ค่อยๆลับหายไปยังท้องนภา ความมืดและความเงียบสงัดค่อยคืบคลานเข้าปกคลุมทั่วอาณาบริเวณ ท้องฟ้าที่ท่อแสงเป็นสีม่น ยามฟ้ามืดมิดแล้วนี่จะเป็นเวลาออกเที่ยวกลางคืนหลงในแสงสีขอบผับบาร์แต่ผิดกับคนร่างเล็กเจ้าของชื่อแบมแบม แบมแบมก็เป็นวัยรุ่นทั่วไปที่มีชีวิตแค่เรียน แบมแบมไม่ใช่เด็กติ๋มไม่รู้เรื่องรู้ราว เขาแค่คิดว่าการไปใช้ชีวิตแบบนั้นมันค่อนข้างจะไร้สาระและไม่เกิดประโยชน์แก่ชีวิตเลยสักนิด

     

                แบมแบมที่อาศัยเวลาในค่ำคืนช่วงก่อนจะเปิดเทอมนอนหลับพักผ่อนเหมือนคนปกติทั่วไป...

     

                ในความมืดมิดร่างเล็กที่กำลังหลับใหลในห้วงแห่งนิทราทว่ากลับมีชายร่างสูงตัวบางย่องเข้ามาทางหน้าตาที่ลืมปิดไว้ เดินย่องเบาเหมือนจะเข้ามาขโมยของแค่ทว่าสิ่งของที่อยากได้กลับไม่ใช่เงินทองแต่เป็นความบริสุทธิ์ของร่างเล็กที่หลับไหลอยู่

               

                มือบางที่ลูบไลไปทั่วอาณาบริเวณต้องห้ามด้วยท่าทีที่จาบจ้วง แบมแบมที่พลิกตัวไปมาตามแรงเร้าอารมณ์แต่ทว่าคนที่ทำกริยาจาบจ้วงกลับดูเหมือนว่าไม่มีท่าทางจะตกใจเลยสักนิด ยังคงดำเนินกิจของตัวเองให้ดำเนินล่วงต่อไป

     

                " อ๊ะ " แบมแบมที่ร้องครางรับในลำคอขณะที่หลับตาอยู่เพราะว่าร่างสูงคนในความมืดกำลังใช้มือหนาชักแก่นกายเล็กของแบมแบมอยู่ จนแก่นกายแข็งกราวและมีน้ำเอ่อล้นปริ่มที่ปลายแก่นกาย ร่างสูงในความมืดยังคงออกแรงชักและยกยิ้มอย่างพออกพอใจ

     

                " เฮ้ยยย คุณจะทำอะไรอะ !! " แบมแบมที่ร้องลั่นเมื่อเห็นเงาตะคุมที่ยืนอยู่ข้างเตียงกำลังออกแรงชักแก่นกายของเขาอยู่ ร่างเล็กพยายามที่จะดิ้นขัดขืนแต่ทว่าทันทีที่สบตากับแววตาคู่นั้นทำให้เขาเหมือนต้องมนต์สะกด

     

                ก่อนที่ร่างในเงามืดจะขึ้นค่อมร่างของเขาอย่างทันควัน แบมแบมที่นอนนิ่งไม่รู้ทำไมเขาถึงยอมแต่รู้แค่ว่าเขาอยากจะให้ร่างกายของเขาแก่บุรุษตรงหน้านี้

                ร่างสูงค่อยๆใช้มือลูบไลไปทั่วเลือนร่างก่อนจะก้มใช้ริมฝีปากขบเม้มติ่งหูอ่อนก่อนจะส่งเสียงซิ๊ดผ่านไรฟันออกมาอย่างห้ามมิได้ ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาอีกใช้มือยาวเลิกเสื้อแบมแบมขึ้นก่อนจะขบตุ่มไตเม็ดสีทับทิมอย่างสนุกปากแบมแบมที่พยายามขัดขืนแต่ก็ไม่สำหรับได้แค่ครางรับในลำคอ

               

               

                แสงจันทร์ที่สาดส่องมาพอให้เห็นใบหน้านั้นพอสมควรจมูกที่โด่งรั้นรับกับหน้าที่คมกริบเหมือนใบมีดนั้นคือสัญลักษณ์ที่แบมแบมพอจะจำได้

     

     

     

                เฮือก !!!

     

                แบมแบมที่เด้งตัวออกจากที่นอนเมื่อกี้มันคือความฝันใช่มั้ย มันไม่ได้เกิดขึ้นจริงใช่มั้ยแต่ภาพในความฝันกลับเหมือนความจริงกว่าจะเป็นฝัน เหงื่อกายที่ไหลชโลมเต็มหน้าและขมับทั้งสองข้างรวมถึงลำคอทำให้แบมแบมต้องลุกไปล้างหน้าในห้องน้ำทันที

     

                " เมื่อกี้คือความฝันใช่มั้ย ทำไมมันเหมือนจริงนักละ " แบมแบมที่ใช้แขนยาวทั้งสองข้างรั้งอ่างล้างหน้ายาวไว้ก่อนจะใช้น้ำพรมให้ทั่วใบหน้าคลายร้อนและล้างเหงื่อที่ไหลรินออกมาจากผิวหนัง คอที่แห้งเทือกทำให้แบมแบมที่ลงไปด้านล่างของบ้านเพื่อจะไปหาอะไรดื่มแก้ดับกระหาย

     

                " อ่าวแม่ยังไม่นอนอีกหรอครับ " แบมแบมที่เอ่ยเรียกผู้บังเกิดกล้าด้วยความสงสัยเพราะเวลานี้แม่ของเขาควรจะนอนได้แล้วนี่

     

                " ไม่เห็นหรอว่าแม่ดูซีรี่ส์อยู่เนี่ย " คนเป็นแม่เอ่ยก่อนจะชี้ไปยังจอคอมพิวเตอร์ขนาดสีเหลี่ยมลูกบาศก์ก่อนจะหันไปหยิบผลส้มข้างกายมาเคี้ยว

     

                " เอ่อแม่แบมฝันร้ายอะ " แบมแบมพูดก่อนจะลงมือเล่าเรื่องให้ความฝันทั้งหมดให้คนเป็นแม่จนหมดสิ้น

     

                " ถ้าแบมคิดว่าเป็นฝันร้ายให้แบมแก้เคล็ดด้วยการไปยืนหน้ากระจกแล้วพูดว่า ขอให้เป็นแค่ความฝัน " แบมแบมที่พยักหน้ารับทำหน้าเข้าใจก่อนจะหยิบน้ำขึ้นมากระดกดื่ม

     

                " แต่!!! ห้ามพูดว่าเมื่อกี้ฝันไปหรอเนี่ย เพราะเรื่องที่ฝันอาจจะเกิดขึ้นจริง " แบมแบมที่ตาเบิกกว้างเพราะก่อนลงมาข้างล่างถ้าจำไม่ผิดเขาเพิ่งพูดอย่างนั้นไปเสีย แต่แบมแบมก็พยายามสลัดความคิดไร้สาระออกไปจากหัวเพราะว่านี้คือความฝันและไม่มีทางเป็นจริง

     

                " โอเคครับแม่งั้นผมไม่นอนก่อนนะ " แบมแบมที่เอ่ยคำลามารดาบังเกิดกล้าพยักหน้ารับก่อนจะหันหน้าไปจดจ่อกับซีรี่ส์เช่นเคย

     

    .

    ..

    ...

     

                อาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าบดบังความมืดแสงตะวันที่ท่อแสงสาดส่องไปทั่วท้องฟ้าในรุ่งเช้า บรรยากาศที่เงียบสงัดในตอนเช้าไร้ซึ่งผู้คนทำให้แบมแบมนั้นแถบอยากจะนอนอยู่เฉยๆบนเตียงแต่ก็ทำได้แค่ความฝันเพราะว่าอาจารย์ดันทิ้งโปรเจ็คไว้ให้ตอนปิดเทอมส่งตอนเปิดเทอมมหาลัยเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ สัตวศาสตร์เล็กๆตรวจสอบหรือรวบรวมข้อมูลที่ต้องไม่ซ้ำจากอินเทอร์เน็ต

     

                นั่นไม่แปลกที่บ้านของแบมแบมจะเต็มไปด้วยขวดโหล่ที่บรรจุแมงมุมสายพันธุ์ต่างๆรวมถึงสายพันธุ์หายากและเป็นอันตรายก็มี กล่องบรรจุทรงสีเหลี่ยมยาวที่ภายในบรรจุวัสดุชั้นดีหินกรวดขัดละเอียดเป็นที่อยู่ของสัตว์เลื่อนคลานอย่างงูงูที่แบมแบมเลี้ยงจะมีตั้งแต่งูไม่มีพิษไปถึงงูมีพิษ เช่น งูคอร์นสเน็ก งูคิงส์สเน็ก งูโบอาแคระ งูบอลไพธอน งูไทบัน งูแมกแมมบาและมากมาย พรรณไม้ก็จะเป็นพรรณไม้หายากอย่างพวกกล้วยไม้หายากจากป่าดิบชื้น

     

                เรียกว่าแบมแบมมีความสนใจในชีววิทยามากๆเลยก็ว่าได้...

     

                มือบางที่ช้อนงูตัวโปรดอย่างคิงส์สเน็กสีลาเวนเดอร์ที่มีมอร์ฟสีม่วงตัดกับสีเหลือง มาเลี้ยงอย่างสนุกมือก่อนจะวางลงและลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูตัวขนาดกลางเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายวันนี้เขาต้องเคลียโปรเจ็กวิจัยส่วนพันธุศาสตร์ให้เสร็จ

                            *มอร์ฟ คือ สีสันและลวดลายบนตัวงู

               

     

    มือบางที่ขมักขะเม้นใช้เครื่องทดลองกล้องจุลทรรศน์ส่องหาความแปลกใหม่ของดอกกล้วยไม้ว่านเพชรพึงที่มีสีสันสะดุดตา สายตาที่จดจ่อกับงานวิจัยตรงหน้า ตาส่องมืดจดตามประสานิสิตเรียนดีทั่วไป

     

               

     

    แบมแบมเรียนอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาชีววิทยา มหาลัยอันดับ 1 ของประเทศแต่ในการที่เขาเรียนดีใช่ว่าเขาจะเป็นเด็กติ๋มหรือเด็กเอ๋อแบบฉบับคนเรียนเก่งหรอกนะ เขาก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่ต้องการเพื่อน ต้องการอินเทอร์เน็ต ต้องการปัจจัยรอบข้างเหมือนวัยรุ่นทั่วไป

     

               

    ตอนนี้ทั้งบ้านเงียบสงัดเพราะว่าแม่ของเขาบอกว่าจะออกไปรับเพื่อนที่ไม่เจอกันมานานและสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาลัยจะย้ายมาอยู่ข้างบ้านกันนี่เอง แม่เล่าให้แบมแบมฟังว่าเพื่อนแม่คนนี้ก็มีลูกชายแต่อายุมากกว่าแบมแบมอยู่สัก 2-3 ปี

     

                " แบมเอ้ยลงมาช่วยป้าเขาขนของเข้าบ้านหน่อยลูก " เสียงผู้มีพระคุณที่เอ่ยเลี้ยงดังจากด้านล่างทำให้แบมแบมที่รีบวางงานตรงหน้าและตรงดิ่งลงหาคนเป็นแม่ข้างล่างทันที

     

                " เอ้ามือไม้แข็งจังรีบสวัสดีเพื่อนแม่สิ " แม่ที่ใช้มือตีไปที่แขนเบาๆก่อนจะเอ่ยปากให้สวัสดีคนเป็นเพื่อน แบมแบมที่สงสัยว่าไหนลูกของเพื่อนแม่กัน

     

               

     

    BamBam’s Part

     

                " สวัสดีครับ " ผมพูดก่อนจะโคงตัวให้คุณน้าเพื่อนแม่อย่างน้อบน้อมก่อนจะยิ้มหวานให้คนอายุมากกว่าอย่างน่ารัก

     

                " สวัสดีจะหนูแบม " คุณน้าพูดก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาตัวยาวสีขาวก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปในห้องครัวจัดการหาน้ำและขนมทานเล่นไว้ให้ท่านทั้งสองได้พูดคุยกัน ผมที่ทิ้งตัวนั่งลงแม่คล้ายจะแอบฟังผู้ใหญ่กันด้วย ผมเองก็อยากรู้ว่าท่านคุยเรื่องอะไรกัน

     

                " อ้าวแล้วลูกเธอละ " เป็นฝ่ายแม่ผมเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน

     

                " รายนั้นนะหรอขอเก็บของให้เสร็จก่อนเดี๋ยวนั่งรถตามมาหน่ะ "

     

                " เห็นว่าเรียนอยู่มหาลัยเดียวคณะเดียวกับแบมแบมด้วยนิใช่มั้ยจ้ะ " คุณน้าเอ่ยเสียงหวานยิ้มใสมาให้ก่อนจะจิบน้ำแก้กระหาย

               

    " งั้นหรอฮะ ไม่รู้เลยยังไงผมต้องลองไปถามงานพี่เขาดูบ้างแล้ว " ผมพูดพอเป็นพิธีก่อนจะเกาหัวแก้เก้อ

               

    " ตามาร์คก็เหมือนหนูนี้ละจ้ะ ชอบเลี้ยงสัตว์แบบนี้ ปลูกต้นไม้เต็มไปหมดเลยบางทีน้าก็แอบกลัวแต่เริ่มชินแล้วหล่ะ " ผมที่พยักหน้ารับและยิ้มหวานให้เพราะว่าไม่ค่อยมีใครชอบอะไรแบบผมสักเท่าไหร่ จะมีก็ส่วนน้อยที่จะรับได้

     

                " อ๋อครับถ้ามีโอกาสคงจะได้ถามงานกันบ้าง " ผมเก้าหัวแก้เก้อก่อนจะลาท่านทั้งสองและขึ้นไปเคลียร์งานบนห้องต่อเสีย

               

                ผมที่รีบเคลียร์งานให้เสร็จสรรพก่อนจะหยิบกระเป๋าตังเตรียมออกไปหาซื้อของเข้ามาทำรายงานต่อพรุ่งนี้กระดาษหมด ปากกาก็หมึกหมด ชีวิตดี ผมจ้ำอ้าวลงบันไดบ้านก่อนจะเดินออกจากบ้านไปอย่างอ้อยอิ่งสายตาก็อยากรู้อยากเห็นเหลือบมองบ้านข้างๆก็เห็นว่าแม่ผมช่วยบ้านของคนย้ายมาใหม่อยู่ ผมจึงไม่ได้บอกว่าผมจะออกไปข้างนอก

     

               

     

    เอี๊ยดดดด

     

                เสียงรถที่แบกดังตรงถนนทางเข้าบ้านผมกำลังข้ามถนนอยู่ครับแต่จู่ๆรถมอไซต์คันใหญ่ก็แล่นมาจากไหนไม่รู้ ผมล้มก้นขมำกับพื้นเข้าอย่างจังร้องโอดครวญลั่น แค่จะออกไปซื้อของยังโชคไม่ดีเลยแบมเอ้ย

               

    ผมที่ได้สบตากับบุคคลที่ขับเฉียวผมแว้บนึกก็รู้สึดคุ้นตาไม่สิรู้สึกคุ้นมากๆด้วยเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่ แต่ก็ช่างมันเถอะครับผมลุกขึ้นด้วยความยากลำบากแผลที่ขาเนื้อเปิดใหญ่มีเลือดไหลซิบออกมาตามธรรมชาติแล้วผมต้องรีบทำแผลแต่ผมเดินมาไกลมากและตรงนี้ไม่มีรถเข้าบ้านเลย  ผมที่ค่อยๆพยุงร่างของตัวเองมายังบ้านแสนอบอุ่นจนไม่ได้สังเกตว่ามีรถมอเตอร์ไซต์ที่ชนจอดอยู่ ผมเดินเข้าไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลทันที

     

     

                " ไปโดนอะไรมาเนี่ย " คนเป็นแม่ถามขึ้นขณะที่กำลังเดินไปหยิบยาแก้อักเสบบนตู้ชั้นวางของให้กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

     

                " ก็ไอ้รถบ้าที่ไหนอะดิแม่ขับมาไม่ดูตาม้าตาเรือเฉียวแบมแล้วหนีไปเลยอะ " ผมสบถออกมาจากอย่างไม่สบอารมณ์ยอมรับว่าตอนนี้ผมอารมณ์เสียมากจริงๆ

     

                " คือว่าฟาดเคราะห์ไปละกันกินยาแล้วกินข้าวซะนะ เดี๋ยววันนี้เพื่อนแม่จะมากินข้าวบ้านเราด้วย " ผมพยักหน้ารับก่อนจะกินยาลงไป รสชาติที่ขมฟาดทำให้ผมตอบนิ่วหน้าตามรสชาติขื่นขมนั้น

     

                .

                ..

                ...

                " อ้าวลูกไม่มาด้วยหรอ " แม่ผมที่เอ่ยทันทีที่น้าข้างบ้านมายืนยิ้มหน้าประตู

               

                " เจ้าตัวบอกไม่หิวหน่ะ " น้าสาวพูดก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะอาหารผมที่นั่งหัวโต๊ะก็ตักข้าวนิ่งเงียบก่อนนจะขอตัวขึ้นไปนอนเล่นบนห้องกระดาษก็ไม่ได้ซื้อ อะไรก็ยังไม่ได้ชีวิตดีมากครับจริงๆ

     

                หน้าต่างที่ผมเปิดไว้เป็นประจำเพราะว่าข้างบ้านไม่มีคนอยู่ผมลืมตัวโดยการถอดเสื้อถอดกางเกงเตรียมจะอาบน้ำแต่ผมต้องผงะเพราะว่าตอนนี้มีผู้ชายร่างสูงผมคิดว่าน่าจะเป็นลูกของเพื่อนแม่ยืนมองผมอยู่ ผมรีบเดินไปปิดผ้าม่ายจนลืมความเจ็บปวดตรงต้นขาไปเสีย

     

                " ไอเชี่ยมันจะเห็นอะไรปะวะ " ผมที่สบถกับตัวเองก่อนจะไม่ได้ใส่ใจอะไรเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที ทันทีที่หยาดน้ำกระทบกับแผลที่สดใหม่ของผม ผมรู้สึกแสบมากแสบแบบแสบเหี้ยๆ แสบเหมือนคลองแสนแสบ(เกี่ยวม้ะ)

     

                ไหนๆก็ไหนแล้วกระดาษก็ไม่มีงั้นวันนี้ผมก็เลยตัดสินใจที่จะเล่นคอมพิวเตอร์เช็คความเคลื่อนไหวของโลกผ่านนอกบ้าง ทันทีที่เปิดหน้าทวิตเตอร์ขึ้นมาเมนชั่นก็เต็มไปด้วยคำถามพร้อมกับรูปที่แนปมาถามงานของเพื่อนที่ไปเรียนพิเศษมา ก็ทำไงได้ละคนมันเก่ง หึหึ

     

                ผมไม่ลืมที่จะหยิบเจ้าดอสแมงมุมทารัลทูล่าสีดำของผมที่ให้มันเดินเล่นบนศรีษะหัวทุยๆของผม ผมที่นั่งคุยเล่น เข้าเว็บนู้นเว็บนี้ไปเรื่อยๆ

     

                ตึง !

     

                เสียงแชทมาตรฐานที่ดังขึ้นมาในห้วงโสตประสาทของผมทำให้ผมต้องคลิ๊กแท็บแชทขึ้นมาอ่านอย่างอดใจไม่ได้ เป็นยองแจเพื่อนสนิทของผมเองครับที่ส่งรูปใครคนนึงที่คุ้นตาอีกแล้วมา

     

                " มึงๆรู้จักคนนี้ปะมาร์ค ต้วนรุ่นพี่ปี 3 โคตรเด็ดอะ "

     

                " กูจำเป็นต้องรู้มั้ยวะ "

     

                " ไม่จำเป็นหรอกแต่กูบอกไว้เฉยๆแค่อยากแบ่งปันยุ่งหรอ "

     

                " เอ่อกูไม่ยุ่งหรอก มึงเลิกบ้าผู้ชายตั้งสติแล้ววิจัยส่งเปิดเทอมนะมึง "

     

                " เออกูรู้แล้วใกล้เสร็จละตอนนี้เขียนได้ละหน้านึงเก๋มั้ยละ "

     

                " เก๋มากมั้งสัส หน้าเดียวนี้เก๋หรอ "

     

                " งั้นกูฝากมึงวิจัยมาเผื่อกูด้วยเพื่อนรัก เออแค่นี้ละ "

     

                " เอ้าไอเวรนี่ "

     

                ยังไม่ทันจะลงมือพิมพ์ด่ามันก็ออฟไลน์หนีผมไปซะแล้ว มนุษย์ยองแจนี่มันมนุษย์ยองแจจริงๆ ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะลงมือปิดคอมพิวเตอร์แล้วทิ้งตัวลงบนที่นอนคู่ใจทันที

     

                END BAMBAM’S PART

     

                ร่างบางแผ่นหลังที่กระทบลงบนกับที่นอนนุ่ม ร่างเล็กที่อ่อนเพลียมาทั้งวันพล่อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่หารู้ไม่ว่าเขากำลังลืมปิดหน้าต่างและเป็นล่อเป้าให้คนที่ย้ายมาใหม่ได้ทำอะไรสะดวกขึ้น

     

                เพราะฝันที่กำลังจะเปลี่ยนผันชีวิตของเขา...

                เพราะฝันกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ ....

     

    1 คอมเม้น 1 กำลังใจ

    สกรีม #ฟิคพี่ข้างบ้าน :: เมื่อพูดถึงความโรคจิตของพี่มาร์ค

    TALK

    หู้ยกว่าจะมารีไรท์ใหม่ได้ โทษความขี้เกียจของเราเองแท้ๆอะ 555

    สำหรับใครว่างๆก็ไปอ่าน #ฟิคmrtaxi พลางก่อนนะเราซุ่มอ่านทุกคอมเม้นทุกสกรีมนะโว้ย

    พล็อตตอนนี้เรื่องความฝันนี้เราอ่านมาจากไหนสักทีนี่ละลืมแต่สนุกมาก


      CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×