คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : SF taeckhun #ฟิควูบ #ฟิคขัดดอก
SF taeckhun
By : iceziey0810
เป็นฟิคอารมณ์ชั่ววูบ วูบเมิกกกกกกกกกกกกกก
ณ โรงเรียนมัธยมเอกชนชื่อดัง JYP International School
ร่างเล็กเพรียวบาง ของนักเรียนม.ปลาย เกรด10 ที่กำลังยืนกอดอกแน่นอยู่บริเวณหน้าประตูโรงเรียน ดวงตากลมโตสอดส่องสายตา มองรถยนต์หรูของบรรดาผู้ปกครองที่วิ่งผ่านหน้าไปมา ดวงตากลมมองหารถ BMW คันคุ้นตาที่ควรจะมาถึงโรงเรียนแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้ตนเองยืนรออยู่อย่างนี้เกือบครึ่งชั่วโมง ดวงตาสวยฉายแววไม่พอใจ แขนเรียวที่กำลังกอดอกอยู่นั้นยิ่งรัดแน่นเข้าไปอีก ฟันซี่เล็กขบกัดเข้าที่ริมฝีปากอิ่ม คิ้วสวยขมวดแน่น ใบหน้าน่ารักฉายแววไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด จะไม่ให้ “นิชคุณ หรเวชกุล” นักเรียนมัธยมปลาย เกรด10 ที่กำลังยืนรอผู้ปกครองมารับเหมือนเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆอย่างเช่นทุกวัน แต่ที่ไม่เหมือนทุกวันก็คงเป็นเพราะวันนี้ นิชคุณนั้นยืนรออยู่นานร่วมครึ่งชั่วโมง ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่คนตัวเล็กเป็นอย่างมาก
มือสวยล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงนักเรียนแล้วหยิบสมาร์ทโฟนยี่ห้อดังขึ้นมา นิ้วเรียวสวยสัมผัสเข้าที่หน้าจอแล้วกดรหัสผ่านอย่างชำนาญ พลางกดเข้า application ยอดฮิตที่ใครๆก็ใช้กัน โลโก้สีเขียวปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ นิ้วเรียวยังคงเลื่อนหน้าจอไปเรื่อยๆเพื่อหาบุคคลที่ต้องการจะสนทนาด้วย เมื่อเจอก็กดเข้าโปรแกรมสนทนาทันที
Khunnie: ป๊ะป๋า เมื่อไหร่ป๊ะป๋าจะมา คุณรอนานแล้วนะ! (Read)
Khunnie: ป๊ะป๋า อ่านแล้วก็ตอบสิ ทำไมไม่ ตอบน้องคุณล่ะ (Read)
Khunnie: ป๊ะป๋า!!!!!!!!!! (Read)
ใบหน้าสวยยิ่งทำบึ้งเข้าไปใหญ่ เมื่อบุคคลในโปรแกรมสนทนานั้น ไม่ยอมตอบตนเอง ทั้งๆที่ขึ้นโชว์ว่าอ่านแล้ว คนตัวเล็กที่ยืนหน้างออยู่นั้น ยัดสมาร์ทโฟนเครื่องสวยเข้ากระเป๋ากางเกงทันที แล้วหันหลังไปคว้าเอากระเป๋าเป้สีแดงที่ถอดวางไว้นั้น สะพายเข้าที่หลังแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากโรงเรียนไป
ปริ้น ปริ้น ปริ้น เสียงแตรรถยนต์ดังขึ้น ซึ่งเรียกความสนใจจาก คนตัวเล็กที่เพิ่งจะเดินออกจากโรงเรียนมาได้ไม่เท่าไหร่ให้หันไปมอง ดวงตากลมโตที่หันไปเห็นถึงต้นตอของเสียงแตรนั้น เมื่อเห็นรถคันที่เป็นต้นเหตุ ใบหน้าสวยก็บึ้งตึงขึ้นแทบจะทันที คนตัวเล็กหันหลังกลับทันที พร้อมกับสาวเท้าเดินหนีรถยนต์หรูที่กำลังขับชะลอตามอยู่ข้างๆ
ร่างสูงเจ้าของรถยนต์หรูที่กำลังเปิดไฟเลี้ยวเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าไปรับเด็กน้อยที่คิดว่าคงกำลังยืนหน้างออยู่แน่ๆ ที่ปล่อยให้เด็กน้อยยืนรออยู่นานสองนาน ด้วยภาระงานที่รัดตัว บริษัทที่กำลังจะขยายสาขาตีตลาดแถบยุโรป ทำให้ “ท่านประธานอ๊คแทคยอน” ยิ่งงานยุ่งมากขึ้นอีกเท่าตัว จนแทบจะไม่มีเวลาให้กับ “เด็กในปกครอง” ของตนสักเท่าไหร่ ไหนจะวันนี้การประชุมใหญ่ที่ค่อนข้างจะยืดเยื้อทำให้กินเวลาล่วงเลยมามาก ไหนจะช่วงเวลาเร่งด่วนช่วงเย็นๆแบบนี้อีก การจราจรก็ไม่ค่อยจะเป็นใจสักเท่าไหร่ เป็นเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้เขานั้นมารับเด็กน้อยช้ากว่าปกติ
แต่ไม่ทันที่รถยนต์คันสวยจะเลี้ยวเข้าบริเวณรั้วโรงเรียนดี สายตาคมก็เหลือบไปเห็น ร่างขาวๆคุ้นตาที่สะพายกระเป๋าเป้สีแดงใบโปรดของเจ้าตัวกำลังจะเดินพ้นรั้วโรงเรียน ชายหนุ่มขมวดคิ้วพลางนึกสงสัยว่าทำไมเด็กในปกครองของตนถึงมาเดินอยู่ริมถนนด้านนอกแบบนี้ ทำไมไม่นั่งรออยู่ในโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวัน ใบหน้าหล่อฉายแววไม่พอใจในความดื้อรั้นของอีกคน ร่างสูงจะเร่งเหยียบคันเร่งหักพวงมาลัยแล้วขับตามไปทางที่คนตัวเล็กเดินอยู่ทันที
เมื่อรถยนต์คันสวยขับเคลื่อนเข้าใกล้บริเวณที่เด็กน้อยกำลังเดินอยู่ ร่างสูงจะชะลอความเร็วของเครื่องยนต์ลง มือแกร่งกดลงบนพวงมาลัยเพื่อให้เกิดเสียงแตรดังขึ้น เพื่อให้คนตัวเล็กที่กำลังเดินอยู่นั้นรู้ตัว แล้วก็ได้ผลเมื่อคนตัวเล็กหันมามองตามเสียงแทบจะทันที แต่มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น คิ้วเข้มยิ่งขมวดแน่นขึ้นอีกเมื่อเห็นเด็กในปกครองตัวเองที่ก็เห็นอยู่ว่าหันกลับมามองแล้ว แต่ก็ยังเมินเฉยแถมยังเดินหนีตนไปซะดื้อๆอย่างนั้น ชายหนุ่มยังคงขับรถชะลอตามคนตัวเล็กไป พลางเปิดกระจกรถเรียกอีกคนให้ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่มีทีท่าจะได้รับความสนใจจากคนตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย
“นิคคุณ ขึ้นรถเร็ว รถข้างหลังติดหมดแล้ว” ร่างสูงตะโกนบอกอีกคนเล็กที่ยังคงแสดงทีท่าเมินเฉย แค่นั้นยังไม่พอมือเล็กๆนั่นยังล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบหูหน้าตาเฉยอีกต่างหาก
“นิคคุณ ป๊ะป๋าบอกให้ขึ้นรถไงครับ” ร่างสูงเริ่มหงุดหงิดขึ้นเมื่อเห็นอีกคนยังคง เมินเฉยไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น สร้างความหงุดหงิดให้กับชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องต่อความยาวสาวความยืด อ๊คแทคยอนตัดสินใจจอดรถเดี๋ยวนั้น แล้วเปิดประตูลงจากรถยนต์คันสวยพร้อมเดินตรงดิ่งไปที่เด็กในปกครองทันที มือแกร่งฉวยจับเข้าที่ข้อมือเล็กแล้วดึงเข้าหาตัวเองอย่างรวดเร็ว จนร่างเล็กๆกระแทกเข้ากับหน้าอกของร่างสูงอย่างไม่เบามือนัก
“โอ๊ะ ป๊ะป๋า ปล่อยนะ มายุ่งอะไรเล่า เค้าจะกลับบ้านเอง ป๊ะป๋าไมต้องมายุ่งกะเค้าเลย ปล่อยเค้านะ เค้าเจ็บ!” คนตัวเล็กพูดพลางพยายามสะบัดมือใหญ่ที่จับข้อมือของตนอยู่ให้เป็นอิสระ ใบหน้าสวยบูดบึ้ง ดวงตากลมโตฉายแววไม่พอใจอย่างปิดไม่มิด แล้วหันมองใบหน้าของอีกคนอย่างเอาเรื่อง
“ทำไมไม่รอป๊ะป๋าอยู่ในโรงเรียน ออกมาเดินข้างนอกแบบนี้ได้ยังไง ไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มที่กำลังหงุดหงิดเพราะเห็นเด็กของตัวเองมาเดินริมถนนที่เต็มไปด้วย รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างแถมยังชอบขับปาดไปมา ปีนฟุตบาตรบ้าง ไหนจะร้านค้าแผงลอยที่ตั้งขายของที่ตั้งกินพื้นที่ทางเท้าอีก อันตรายทั้งนั้น ถ้าเดินๆอยู่ถูกรถเฉี่ยวชนไปจะทำอย่างไร ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ แล้วยังจะเห็นเด็กในปกครองของตนดื้อดึงเฉยเมยไม่ฟังคำบอกกล่าวอีก ยิ่งทำให้ชายหนุ่มโมโหและหงุดหงิดขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
“ไม่ขึ้น เค้าไม่ขึ้น เค้าจะกลับเอง ตัวกลับไปเลยนะ เค้าจะไม่ไปไหนกับตัวทั้งสิ้น” คนตัวเล็กยังคงออกแรงดื้นให้หลุดจากการจับกุมของร่างสูง ชายหนุ่มพอได้ยินอีกคนเปลี่ยนสรรพนามเรียกตนนั้น ก็ยิ่งทวีความโมโหขึ้นไปอีก จนเผลอตวาดเสียงดังใส่คนตัวเล็กจนอีกคนนิ่งไป
“หยุด งี่เง่า แล้วไปขึ้นรถเดี๋ยวนี้ จะไปขึ้นดีดีหรือจะให้อุ้มขึ้นไป พูด!!!” คนตัวเล็กที่พอได้ยินอีกคนตวาดใส่ก็ถึงกับหยุดชะงัก ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น ดวงตากลมโตฉายแววตัดพ้อ น้อยใจที่ตนเองถูกดุ จึงหันสะบัดพรึบเดินไปที่รถยนต์คันสวยแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถพร้อมปิดประตูเสียงดัง บ่งบอกได้เลยว่าอารมณ์ของคนปิดไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้น ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเห็นถึงปัญหาใหญ่ที่กำลังจะตามมา ปัญหาในการง้อเด็กขี้งอน ยิ่งเมื่อครู่นี้คนตัวเล็กสะบัดพรึบ ปากเม้มแน่ ตาขวางขนาดนั้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังงอนถึงขั้นสุดแน่ๆ ร่างสูงจึงตัดสินใจเดินขึ้นรถด้านคนขับอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมก้มหัวขอโทษคนขัยรถคนอื่นๆที่ตนเองเป็นสาเหตุทำให้รถติดอยู่ด้านข้างหลัง ก่อนขึ้นไปนั่งแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อรถยนต์คันสวยพาสองร่าง พ้นซอยแคบๆของโรงเรียนออกมาได้ การจราจรในถนนใหญ่ก็ดูจะเบาบางลง คล่องตัวมากขึ้น แต่บรรยากาศภายในรถระหว่างคนทั้งสองนั้น ดูทีท่าว่าจะยังไม่ทุเลาลง ยังคงไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นอย่างที่มันควรจะเป็นเช่นทุกวัน คนตัวเล็กที่เอาแต่นั่งกอดกระเป๋าเป้สีแดงของตัวเองแน่สายตาก็เอาแต่หันไปมองนอกกระจกรถ ไม่ยอมสนใจชายหนุ่มอีกคน ที่เอาแต่นั่งมองคนตัวเล็กจนแทบจะไม่มองทางอยู่แล้ว ความอึดอัดได้ก่อตัวขึ้นภายในรถยนต์คันสวย จนเป็นชายหนุ่มเองที่ทนไม่ไหวถึงกับหักรถเข้าบริเวณไหล่ทางเพื่อจอดรถแล้วเคลียร์กับอีกคนให้รู้เรื่อง
“คุณ หันหน้ามาคุยกันก่อน” ร่างสูงที่นั่งเท้าพวงมาลัยหันมามองคนตัวเล็กเต็มๆตา ส่วนอีกคนที่เอาแต่นั่งเหม่อมองไปนอกตัวรถ พอได้ยินเสียงอีกคนเรียกก็สะดุ้งรู้สึกตัว แล้วก็พบว่าอีกคนได้จอดรถและกำลังนั่งจ้องตนอยู่ พอเห็นดังนั้นใบหน้าสวยก็บูดบึ้งขึ้นอีกครั้ง ดวงตากลมโตที่ฉายแววไม่พอใจจ้องกลับอย่างท้าทาย
“ไม่คุย เค้าไม่อยากคุยกับคนไม่ตรงเวลา ผิดสัญญาแล้วก็ไม่รักษาคำพูด!” คนตัวเล็กกระแทกเสียงใส่ชายหนุ่มร่างสูงอย่างไม่กลัวเกรง เมื่อเห็นอาการของคนตัวเล็กนั้น อ๊คแทคยอนถึงกับถอนหายใจออกมา งอนชุดใหญ่สินะ อาการแบบนี้เหนื่อยล่ะทีนี้ คงจะต้องใช้น้ำเย็นเข้าลูบก่อน
“ป๊ะป๋าขอโทษที่มารับช้า วันนี้การประชุมมันยืดเยื้อ ป๊ะป๋าผิดที่มารับช้าแต่คุนนี่ก็ผิดนะ ทำไมไม่รอป๊ะป๋าอยู่ในโรงเรียน ออกมาเดินแบบนั้นมันอันตรายมากนะรู้ไหม?” รู้ตัวว่าผิดแต่การที่คนตัวเล็กออกมาเดินแบบนั้น มันก็อันตรายมาก ไม่อยากจะคิดว่าถ้าอีกคนเป็นอะไรไปเกิดโดนรถเฉี่ยวชนขึ้นมา แล้วอ๊คแทคยอนคนนี้จะเป็นอย่างไร ต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ แต่เหมือนเด็กน้อยจะไม่ค่อยเข้ใจถึงความเป็นห่วงของอีกคน ใบหน้าสวยที่นั่งปั้นหน้าบึ้งถึงกับหันขวับมาจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่อง
“สรุปนี่เค้าผิด? เค้านั่งรอป๊ะป๋ามาร่วมชั่วโมง เค้าผิด? ถ้าการที่มารับเค้ามันเสียเวลามาก วันหลังก็ไม่ต้องมา เค้ากลับเองก็ได้ เค้าไม่อยากเป็นภาระให้ป๊ะป๋าอีก!!” เด็กน้อยยิ่งกระแทกเสียงใส่ร่างสูง ดวงตากลมโตเริ่มมีหยาดน้ำใสๆเอ่อคลอ เมื่อเข้าใจว่าอีกฝ่ายกล่าวโทษตนเอง ชายหนุ่มเมื่อได้ฟังคนตัวเล็กพูด ก็ยิ่งถอนหายใจออกมาอย่างแรงอีก มือใหญ่ถึงกับยกขึ้นมากุมขมับ เมื่อรู้ว่าคนตัวเล็กเข้าใจจุดประสงค์ของตนผิด ยิ่งทำให้เรื่องราวไปกันใหญ่ แลดูยุ่งเหยิงเข้าไปอีก
“ไม่ใช่อย่างนั้น อย่าเข้าใจผิดซิ งานป๊ะป๋ายุ่งจริงๆนะ ไหนจะต้องแวะไปส่งคุณซอนมีอีก รถก็ติดกว่าจะถึงโรงเรียนก็ช้า น้องคุณอย่างอนป๊ะป๋าเลยนะ อ่ะๆๆป๊ะป๋าขอโทษ เนอะ” พยายามอธิบายให้เด็กดื้อเข้าใจ แต่เหมือนสถานการณ์จะยิ่งแย่ลง เมื่อตากลมๆนั่นยิ่งทวีความเกรี้ยวกราด ใบหน้ายิ่งบูดบึ้งขึ้นไปอีก นี่เขาทำอะไรผิดไป
“ห๊ะ! อ้อ ที่มาสายเพราะมัวแต่แวะไปส่งแม่เลขาหน้าซิลิโคนนั่นใช่มะ ป๊ะป๋า เห็นผู้หญิงคนนั้นดีกว่าเค้าใช่มะ เฮอะ! ใช่ซี้ แม่นั่นนมตู้มนี่ แต่เค้านมแบนๆนี่ ป๊ะป๋าคนบ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ไม่พูดเปล่า กำปั้นเล็กๆนั่นยังกระหน่ำทุบเข้าที่ท่อนแขนใหญ่ของอีกคนรัวๆ ยิ่งคิดถึงหน้าของยัยเลขาตัวดี ที่แค่เห็นหน้าครั้งแรกก็ไม่ถูกชะตา แถมยังทำท่าจ้องจะง้าบป๊ะป๋าของตนอยู่ตลอดเวลา คนตัวเล็กก็ยิ่งอารมณ์เสีย ไหนจะคนของเราอีกที่ซื่อบื้อไม่ทันเกมส์ของแม่ผู้หญิงคนนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห จนอยากจะบีบคอคนตรงหน้าให้ตายนัก ร่างสูงหลังจากที่โดนกำปั้นเล็กๆกระหน่ำทุบอยู่นั้น ก็เริ่มเจ็บตัวจนต้องเอามือใหญ่ของตนรวบข้อมือของคนตัวเล็กไว้แล้วกดลงไปที่เบาะรถพลางแทรงตัวไปนั่งเบียดคนตัวเล็กที่เบาะข้างคนขับแล้วใช้มืออีกข้างกดปรับเบาะให้เอนนอนลง พลางโถมตัวเข้าไปทนแนบชิดกับอกคนจนแทบไม่เหลือที่ว่าง ใบหน้าของคนทั้ง2อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ดวงตากลมโตจ้องกลับอีกคนอย่างไม่ยอมแพ้ จนต้องเป็นตัวอ๊คแทคยอนเองที่ต้องถอนหายใจออกมา ดวงตาคมเข้มจ้องไปที่คนตัวเล็กตาใสที่จ้องตน แล้วอมยิ้มน้อยๆใส่ตนเล็กพลางคิดในใจต้องอธิบายชุดใหญ่แล้วสินะ แต่ก็จะอย่างไรได้ล่ะก็อีกคนขี้หึงซะขนาดนี้
“ฟังป๊ะป๋านะคะ ที่ป๊ะป๋าต้องแวะไปส่งคุณซอนมี ก็เพราะวันนี้เค้าทำงานให้ป๊ะป๋าทั้งวันเลย วิ่งวุ่นให้ตลอดแล้วอีกอย่างคอนโดเขาก็เป็นทางผ่านพอดี ป๊ะป๋าก็ควรจะมีน้ำใจใช่ไหมคะ แล้วอีกอย่างป๊ะป๋าไม่ได้คิดอะไร ไม่เคยสนใจใครนอกจากคุนนี่นะคะ หื้มมมม แน่ใจหรอคะว่าตัวเองอกไม่ตู้ม ไหนๆๆขอป๊ะป๋าดูหน่อยสิคะ” ดวงตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์แกล้งทำเป็นกวาดมองทั่วทั้งเรือนร่างของคนตัวเล็ก เล่นเอาอีกคนหน้าแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ยังไม่วายไม่ยอมแพ้ ยังคงหลับหูหลับตาเถียงอีกคนอย่างเอาเป็นเอาตาย
“แล้วทำไมไม่ตอบไลน์ ป๊ะป๋าอ่านแล้วนะ แต่ทำไมไม่ยอมตอบ รู้ไหมคนรอมันทรมานนะ หรือว่าแอบเหล่สาวๆข้างทางอยู่ ใช่มะ ใช่แน่ๆ มันต้องผ่านโรงเรียนหญิงล้วนนี่ก่อนถึงโรงเรียนเค้า ใช่มั้ยๆ นี่แหน่ะๆๆๆๆคนบ้าคนเจ้าชู้ เค้าจะไม่ยอ….อื้ออออ!” ไม่ทันที่คนตัวเล็กจอมเหวี่ยงจะพูดจบประโยคดี ริมฝีปากหยักก็ประกบเข้ากับริมฝีปากอิ่มๆที่กำลังพูดฉอดๆอยู่นั่นทันที ร่างสูงค่อยๆบดคลึงช้าๆอย่างใจเย็น จนคนใต้ร่างที่ตอนแรกขัดขืนอยู่นั้นถึงกับอ่อนปวกเปียกทันที มือใหญ่ค่อยๆคลายจากข้อมือเล็กๆแล้วเลื่อนมาประครองที่ใบหน้าสวย พลางจับใบหน้าบิดองศาเพื่อจะได้รับจูบจากตนได้ถนัดยิ่งขึ้น คนตัวเล็กที่มือหลุดพ้นจากพันธนาการแล้วก็เผลอเลื่อนขึ้นไปกอดคอร่างสูงอย่างลืมตัว พลางลูบไล้แผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อสูทสีเข้มอย่างหลงใหล จนเวลาผ่านไปสักพัก ร่างสูงจึงถอนริมฝีปากออกมา เนื่องจากคนตัวเล็กอาจจะขาดอากาสหายใจได้ แล้วก็เป็นอย่างทีอีกคนคิด เมื่อถอนจูบเสร็จคนตัวเล็กที่เอาแต่หอบเอาอากาศเข้าปอดอย่างแรง ปากอิ่มบวมเจ่อขึ้นหน่อยๆแล้วก็ขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งทำให้คนตัวเล็กดูเซ็กซี่ขึ้นมาอีกเป็นเท่าตัว ทำให้ร่างสูงอดใจไม่ไหวถึงกับก้มหน้าไปฟัดแก้มใสๆนั่นอย่างแรงอีกครั้ง
“หายงอนป๊ะป๋าหรือยังคะ หื้มมมมมมมมมมม คนดี หายงอนหรือยังคะ” ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหูเล็กพลางกระซิบเบาๆใส่ เล่นเอาใบหูขาวๆขึ้นสีแดงก่ำขึ้นมา ร่างสูงใช้มือเท้าศีรษะของตัวเล็กแล้วใช้มืออีกข้างเกลี่ยแก้มใสๆของอีกคนเล่น พลางหอมแก้มบ้าง ซุกอยู่แถวๆซอกคอบ้าง จนคนตัวเล็กทนไม่ไหว จึงใช้แรงทั้งหมดดึงป๊ะป๋าตัวดีให้นอนลงเต็มเบาะแล้วก็ย้ายร่างตัวเองขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บริเวณของร่างสูง กางเกงนักเรียนขาสั้นที่ถูกร่นขึ้นมาจนเห็นต้นขาขาวๆ ที่ถูกมือแกร่งประครองไว้อย่างไม่ตั้งใจเพราะกลัวอีกคนจะตกลงไป ไหนจะนักเรียนสีขาวที่กระดุมบน2เม็ดแรกขาดแล้วกระเด็นหายไปตอนไหนไม่รู้อีก ยิ่งเผยผิวเนินอกขาวๆที่เจ้าตัวกำลังก้มต่ำอย่างไม่ได้ตั้งใจที่จะเผยสู่สายตาร่างสูงอีก ชายหนุ่มถึงกับลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นเด็กน้อยกำลังยั่วยวนอยู่ตรงหน้า
“แต่ป๊ะป๋าลืมนัดของเรา ป๊ะป๋ากำลังจะพาเค้ากลับบ้าน ป๊ะป๋าลืมนัดของเรา อ๊ะ!” ขณะที่คนตัวเล็กกำลังโวยวายอยู่นั้น คนตัวเล็กก็สัมผัสได้ว่ากำลังมีอะไรบางอย่างดุนดันอยู่ที่บริเวณสะโพกของตัวเอง จึงขยับลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นจังหวะที่ร่างสูงใช้มือดึงคนตัวเล็กให้มาแนบอกตัวเองพอดี สภาพตอนนี้จึงเหมือนคนตัวเล็กลังนอนคร่อมทับอยู่บนตัวร่างสูง ส่งผลให้ชายเสื้อนักเรียนหลุดออกจากขอบกางเกงแล้วร่นขึ้นเผยผิวช่วงเอวขาวๆอีกรอบ ยิ่งทำให้ร่างสูงแทบคลั่งอีกครั้งอย่างอดใจไม่ไหวส่งมือใหญ่เข้าไปลูบไล้เบาๆที่ช่วงบั้นเอวนั่นอย่างลืมตัว เล่นเอาอีกคนขนลุกไปทั้งตัว
“ใครว่าป๊ะป๋าลืมคะ ป๊ะป๋าไม่ลืมหรอกนะว่ามีนัดพาเด็กไปกินชาบู แต่ตอนนี้ป๊ะป๋าเริ่มไม่อยากกินแล้วสิ อยากกินอย่างอื่นมากกว่า” ไม่พูดเปล่าพลางเอามืดมุดเข้าไปในเสื้อนักเรียนสีขาวของคนตัวเล็กลูกไล้กระดูกสันหลังอีกคนอย่างเบามือ เล่นเอาเกร็งไปทั้งตัวเลยทีเดียว แค่นั้นยังไม่พอยังใช้จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามลำคอขาวๆปากหยักก็เริ่มจูบไปตามลาดไหล่พลางสร้างรอยสีชมพูจางๆไว้เป็นระยะๆ คนตัวเล็กนั้นที่พอได้ยินว่าอีกคนไม่ได้ลืมนัดของตน ริมฝีปากอิ่มก็เผยยิ้มหวานออกมาอย่างถูกใจ จึงยืดตัวขึ้นแล้วค่อยบดเบียดสะโพกของตนลงบนตัวร่างสูงพลางบดคลึงช้าๆอย่างยั่วยวน เล่นเอาร่างสูงถึงกับมองอีกคนพลางส่งสายตาปานจะชาดใจตายให้ได้เสียอย่างนั้น เมื่อเห็นสายตาแบบนั้นจากอีกคน คนตัวเล็กก็ยิ่งยกยิ้มหวานขึ้นกว่าเดิม พลางใช้มือเล็กๆค่อยๆลูบไปที่หน้าอกแกร่งที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวบางของอีกคนเบาๆ พลางแกล้งปัดผ่านยอดอกที่กำลังแข็งเป็นไตของอีกคนอย่างไม่ตั้งใจ เล่นเอาร่างสูงขนลุกซู่ขึ้นมาทันที คนตัวเล็กจึงก้มไปกระซิบที่ข้างหูอีกคนเบา พลางฝังจมูกลงที่แก้มตอบอย่างแรงๆอีกครั้ง
“แต่เค้าอย่างกินชาบูอ่ะ ถ้าป๊ะป๋าอยากกินเค้าก็ต้องอดใจรอ ”คืนนี้”ก่อนนะ” พูดเสร็จคนตัวเล็กก็ปีนกลับไปนั่งฝั่งคนขับ แล้วสตาร์ทรถขับออกไปทันที เล่นเอาร่างสูงถึงกับอ้าปากค้างแล้วตะโกนออกอย่างขัดใจ พลางทำท่างอนตุ๊บป่องเป็นสาวน้อยมัธยมปลายซะอย่างนั้น ไม่เหลือภาพลักษณ์นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเห่งปีเลยสักนิด
“คุนนี่อ่า ทำไมทำแบบนี้เล่า!!!!!!!!!!!”
คิคิ ไม่ผิดใช่ไหมฮะ ก็แค่อยากเติมพลังก่อน เพราะรู้เลยว่า หนทางคืนนี้ยังอีกยาวไกล อย่าอิจฉาผมนะครับ รีดเดอร์ทั้งหลาย แล้วก็ห้ามคิดมาวอแวกะป๊ะป๋าเค้าด้วย หวงมาก จบป้ะ!!
.
.
.
.
END
Talk: แกรรรรรรร มันคือช็อตฟิควูบบบบ วูบมาก ฟิคขัดดอก โอ้ยยยยยยยยยยฟหกด่าสว อร้ายยยยยยยยยยยยยยยยย เดี่ยวนอกสายตาจะตามมานะแกร เอาอันนี้ไม่ขัดดอกก่อน มันเป็นวูปจริงๆ เรื่องมันเกิดจากรูปตัดต่อรูปนึง เหมือนป๋าแทคจะพาน้องนิชไปกินชาบู 5555555555555555555555555 ฟิคนี่เลยบังเกิด
นะจ้ะ ฝากด้วย แล้วเจอกันนอกสายตาตอนหน้าครับ
Byeeeeeeeeeee
Thank you love U all
ความคิดเห็น