คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : นอกสายตา Epidose5
นอก สาย ตา
Epidose 5
By:iceziey0810
เช้าวันต่อมา ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ นิชคุณที่กำลังเดินลงมาจากรถประจำทางสายประจำที่ใช้บริการทุกวัน คนตัวเล็กเดินก้มหน้าก้มตาเดินลงมา สองมือกำสายกระเป๋าเป้สีแดง ทัศนียาภาพรอบตัวที่แสดงถึงวิถีของผู้คนสามารถเรียกร้องความน่าสนใจจากนิชคุณได้เลย สองขาเรียวยังคงพาร่างของตนเองเดินตามเส้นทางจากป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างจากประตูโรงเรียนประมาณ200เมตร โดยที่คนตัวเล็กหารู้ไม่ว่ามีใครบางคนแอบเดินตามตนเองมาตั้งแต่ที่เจ้าตังลงรถแล้ว
ยังไม่ทันที่นิชคุณจะเดินถึงหน้าโรงเรียนดี คนตัวเล็กได้สัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเหมือนมา เกาะอยู่ที่ไหนของตน จึงหันไปดูด้วยความตกใจ แล้วก็พบหัวแมวสีเขียวคุ้นตา ที่นิชคุณจำได้ดีว่ามันคือกระเป๋าดินสอของตน
“สวัสดีครับ นิชคุณคนน่ารัก^^” เจ้าแมวสีเขียว ขยับขึ้นลง ตามจังหวะที่เสียงนุ่มๆของใครคนนึง ที่พยายามดัดเสียงเล็กๆเพื่อจะให้ดูเขากับเจ้าแมวสีเขียวนี่ นิชคุณหันไปมองแล้วก้มหน้าเดินต่อ เมื่อรู้ว่าสื่งที่มารบกวนตนคืออะไร แถวยังเป็นคนที่คนตัวเล็กนั้นยังไม่พร้อมจะเห็นหน้าที่สุดด้วย ทางออกที่ดีที่สุดก็คือการเงียบ ไม่สนใจแล้วก็เดินหนีไปซะ
“งื่อออ นิชคุณจะไม่ทักทายผมหน่อยหรอครับ เมื่อวานก็ไม่ยอมไปรับผมกลับบ้าน ผมไปนอนบ้านใครมาก็ไม่รู้ คิดถึ๊งคิดถึงคุนนี่นะครับ” เจ้าแมวสีเขียวยังไม่วาย เดินตามพร้อมบ่นทำเสียงงุ้งงิ้ง ออดอ้อน เล่นเอาคนตัวเล็กที่เดินก้มหน้าก้มตาอยู่นั้นอดอมยิ้มไม่ได้ แต่ก็ต้องแอบกลั้นยิ้มเอาไว้ เพราะเมื่อคืน หลังจากที่คนตัวเล็กนั่งทบทวนเหตุการณ์และความรู้สึกของตัวเองอย่างดีแล้ว ก็ได้ตั้งปนิธาณกับตัวเองไว้ว่า ต่อไปนี้จะเลิกชอบอ๊คแทคยอนแล้ว จะเลิกสนใจผู้ชายใจร้ายที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น สักที แต่พอมาถึงตอนนี้ ความตั้งใจของคนตัวเล็กดูจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่นัก
“งื่อออ คุนนี่ไม่คุยกะ ‘อ๊คแคท’ แล้วอ่ออออ อ๊คแคทเสียจายยยนะ งื่ออออ” นิชคุณถึงกับหลุดขำ เมื่อได้ยินชื่อประหลาดๆที่คาดว่าอีกคนคงถือวิสาสะตั้งให้ตุ๊กตากระเป๋าแมวสีเขียวของตนเองแน่ๆ เจ้าอ๊คแคท กำลังส่ายหัวด๊อกแด๊กไปมา พลางทำเสียงพากย์งุ้งงิ้งๆ ไปด้วย
ภาพน่ารักๆของ เด็กผู้ชายตัวโตที่กำลังเอากระเป๋าดินสอสีเขียวที่มีหัวแมวหน้าตาประหลาดๆติดอยู่ บังหน้าตัวเองพลางขยับหัวแมวไปมา พร้อมทำเสียงงุ้งงิ้งๆ น่ารักๆเดิน ตามเด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตาน่ารักๆใส่แว่น ช่างเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูในสายตาของผู้คนที่เดินสวนไปมา “ดูดิ เค้าง้อแฟนน่ารักเนอะ”
“คุนนี่คร๊าบบบบบ คุยกะอ๊คแคทหน่อยน๊า” เจ้าอ๊คแคทที่ยังไม่ละความพยายามในการง้ออีกคน จนในที่สุด นิชคุณก็ยอมเงยหน้าขึ้นไปมอง แมวเจ้าปัญหาที่มาบ่นใส่หูของตนอยู่ตั้งนาน คนตัวเล็กทำหน้านิ่ง แต่ก็ไม่สามารถห้ามแก้มขาวๆที่กำลังแดงระเรื่อไม่ได้ ไหนจะตากลมๆที่ฉายแววเขินอายนั่นอีก อ๊คแทคยอนเมื่อเห็นดังนั้น จึงลดเจ้าตุ๊กตาอ๊คทแคทลงจากหน้าตัวเอง ร่างสูงส่งรอยยิ้มกว้างจนเห็นรอยบุ๋มของลักยิ้มของตนไปให้อีกคน ดวงตาคมมองใบหน้าหวานๆของคนตัวเล็กอย่างเต็มตา ก็เห็นว่าตาโตๆของคนตรงหน้านั้น ออกจะบวมเล็กๆ ด้วยความที่เป็นคนผิวขาวจัดเลยเห้นได้ชัดว่า ใต้ตาของคนตัวเล็กนั้นแลดูแดงๆเหมือนช้ำ คงนอนร้องไห้ทั้งคืนสินะ อ๊คแทคยอนได้แต่คิดในใจ ขนาดใส่แว่นตาอันใหญ่มาปกปิดยังสังเกตเห็นรอยช้ำได้เลย ว่าแล้ว ร่างสูงก็ถือวิสาสะเอื้อมมือไปหยิบแว่นตาอันใหญ่ของคนตัวเล็กข้างหน้าตนออก ทันทีที่แว่นตาอันใหญ่หลุดออกจากใบหน้าหวาน อ๊คแทคยอนถึงกับชะงักนิ่ง ยืนยิ้มค้าง เมื่อสายตาของตนได้เห็นใบหน้าของอีกคนยามไร้กรอบแว่น ใบหน้าหวานจัด ติดไปทางสวยน่ารักราวกับหญิงสาว จมูกโด่งที่รับเข้ากับรูปหน้าของอีกคน ริมฝีปากแดงๆที่เผลอตัว เผยอออกเล็กน้อยอย่างลืมตัว แต่จุดที่เรียกความสนใจจากอ๊คแทคยอนได้มากที่สุด คงจะเป็นดวงตากลมโตของคนตรงหน้าในยามที่ไม่มีกรอบแว่นใหญ่มาบดบังให้ขัดใจ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มๆใสแจ๋วที่กำลังเบิกกว้างเหมือนตกใจอะไรบางอย่าง ภายในดวงตากลมโตนั้นดูเหมือนจะคลอไปด้วยหยาดน้ำตลอดเวลา ถึงใต้ตาจะติดไปทางบวมช้ำเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าสวยน้อยลงไปเลย แทคยอนได้แต่คิด คนตรงหน้านี้ตอนใส่แว่นก็ว่าน่ารักแล้วนะ พอเมื่อถอดแว่นเท่านั้นแหละ ยิ่งน่ารักกว่าเดิมไปร้อยๆเท่า จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกสินะที่ตนเองเห็นอีกคนถอดแว่นพลางคิดในใจ ‘ทำไมน่ารักขนาดนี้นะ’ ร่างสูงยืนค้างอยู่พักใหญ่แล้วก็สะดุ้งเหมือนได้ยินเสียงหวานๆของคนตรงหน้าดังขึ้น
“แทคยอน ทำอะไรน่ะ ถอดแว่นเราทำไม” นิชคุณตกใจมากที่จู่ๆ อ๊คแทคยอนก็ถอดแว่นของตัวเองซะอย่างนั้น แล้วยิ่งประหม่าเข้าไปใหญ่เมื่อเห็น ร่างสูงตรงหน้ายืนจ้องหน้าตนนิ่งขนาดนั้น
“ห้ะ ห๊า ว่าอะไรนะ” อ๊คแทคยอนที่เพิ่งได้สติ จึงตอบรับอีกคนไปอย่าง งงๆ แล้วก็ต้องยิ้มกว้างอีกครั้งเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำหน้ามุ้ย มือขาวๆพยายามงัดขาแว่นออกจากมือตนเอง ที่ก็ไม่รู้ว่าเผลอกำแน่นไปตอนไหน
“ขอแว่นเราคืนด้วย” นิชคุณที่กำลังพยายามงัดนิ้วของอีกคนที่กำขาแว่นตนอยู่แน่นเหลือเกิน เพื่อจะเอาของของตนคืน นิชคุณได้แต่คิดในใจ คนคนนี้จะขโมยของตนทุกอย่างเลยหรือไงนะ ตั้งกระเป๋าดินสอ ทั้งแว่น ไหนจะหัวใจที่ไม่รักดีนี่อีก….
แทคยอนที่เห็นอาการของอีกคน ก็ยกยิ้มขึ้นอย่างถูกใจ พลางยกแขนของตนขึ้นสูง ซึ้งส่งผลให้คนตัวเล็กกระโดดหยองแหยงเพื่อจะแย่งของตนคืนอย่างหนักจนแทคยอนต้องดุอย่างเสียไม่ได้
“อยู่นิ่งๆสิครับ” เพียงแค่ร่างสูงทำหน้านิ่งแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก็ทำให้คนตัวเล็กชะงักนิ่ง ดวงตากลมโตหันไปสบตากับอีกคนพลางส่งสายตาที่เจือไปด้วยความสงสัยไปให้ ทางด้านอ๊คแทคยอนเมื่อเห็นอีกคนนิ่งตามที่ตนบอกแล้ว ก็ยิ้มหวานให้ พลางใช้มือข้างหนึ่งเก็บแว่นและเจ้าอ๊คแคทยัดไว้ในกระเป๋ากางเกงของตน เพื่อให้มือทั้งสองข้างของตนว่าง มือใหญ่ค่อยๆประครองใบหน้าเล็กๆของอีกคนที่ชอบก้มมองพื้นอยู่ตลอดเวลาขึ้นมา สายตา2คู่มองสบตากัน อ๊คแทคยอนระบายยิ้มอ่อนๆ พลางใช้นิ้วหัวแม่มืออุ่นๆทั้ง2ข้างของตนค่อยๆไล้ไปตรงเปลือกตาของคนตรงหน้า เหมือนจะให้ความอุ่นร้อนของฝ่ามือตนเองนั้นไปประคบให้อาการตาบวมของคนตัวเล็กทุเลาลง นิชคุณที่ยืนมึนตั้งแต่ร่างสูงจับหน้าตนขึ้นมา พอได้เห็นว่านิ้วมือของอีกคนกำลังจะมาแตะที่เปลือกตาของตน ก็อดลับตาลงตามสัญชาตญาณไม่ได้ สัมผัสอุ่นร้อนที่อ่อนโยนซึมซับไปทั่วเปลือกตา ในหัวของคนตัวเล็กโล่งไปหมด คิดอะไรไม่ออกสักอย่าง ทำได้แต่ยืนนิ่งให้อีกคนสัมผัสทั้งๆที่หัวใจของตนนั้นเต้นระรัว ความตั้งใจที่จะตัดใจจากอีกคนละลายหายวับไปกับตา
หลังจากยืนนิ่งอยู่สักพัก นิชคุณก็รู้สึกได้ถึงกรอบแว่นที่ครอบใบหน้าตนอยู่ คนตัวเล็กลืมตาขึ้นก็เห็นร่างสูงยืนส่งยิ้ม พลางถือเจ้าอ๊คแคทอยู่ตรงหน้าตน
“อ่ะ ผมคืนให้” แทคยอนยืนเจ้าอ๊คแคทให้คนตรงหน้า นิชคุณที่เห้นดังนั้นก็ยื่นมือขาวๆไปรับ แต่ทันใดนั้นอ๊คแทคยอนกลับดึงเข้าอ๊คแคทกลับ แล้วเอาหน้าตุ๊กตาแมวสีเขียวประหลาดจูบเข้าที่ปากของตนเอง แล้วเอามาสัมผัสที่แก้มขาวๆของคนตัวเล็กอย่างเร็ว แล้วก็วางเจ้าอ๊คแคทไว้ในมือของนิชคุณที่ยืนนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น
“ผมคืนล้ะ ดูแลตัวเองด้วยนะ อย่าให้ตาบวมอีกรู้ไหมครับ ผมเป็นห่วงนะ” แทคยอนก้มลงกระซิบเบาๆที่ข้างหูของคนตัวเล็กที่กำลังยืนตัวแข็งทื่อหน้าแดงก่ำอยู่ อ๊คแทคยอนซึ่งเห็นอาการชะงักข้างของอีกคนก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ แล้วก็กระซิบประโยคเด็ดอีกประโยคว่า
“เวลานิชคุณถอดแว่นแล้วน่ารักมากเลยนะ แต่ห้ามไปถอดแว่นให้ใครเห็นนะ ให้ผมเห็นได้คนเดียว ผมหวงนะครับ^^”
พูดจบ อ๊คแทคยอนก็เดินเข้าประตูโรงเรียนไป ทิ้งให้นิชคุณที่ยืนกำอ๊คแคทแน่น มองตามร่างสูงที่เดินจากไปอย่างมึนงง กับประโยคทิ้งท้ายที่ร่างสูงพูดเอาไว้ คนตัวเล็กมองเจ้าอ๊คแคทที่อยู่ในมือ ภาพเหตุการณ์ที่อ๊คแทคยอนจูบอ๊คแคทแล้วเอามาชนแก้มตน ก็ปรากฏขึ้น เล่นเอานิชคุณถึงกับหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มหวานขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ มือขาวๆจับเข้าที่แก้มนิ่มๆของตัวเอง แล้วก็ยิ่งยิ้มกว้างเข้าไปอีก ว่าแล้วคนตัวเล็กก็เอาเข้าอ๊คแคทกอดแนบอกแล้วเดินอมยิ้มเข้าโรงเรียนไป…..
พักกลางวัน
นิชคุณก็ยังคงนั่งทานข้าวคนเดียวเหมือนเดิมทุกวัน ด้วยความที่ไม่มีกลุ่มเพื่อนอย่างคนอื่นเขา อาจจะดูเหงาๆแต่เจ้าตัวก็ชินซะแล้วล้ะ กับการอยู่คนเดียวแบบนี้ นิชคุณที่กำลังทานข้าวเที่ยงไปเพียงไม่กี่คำ ก็ได้ยินเสียงดังโวยวายที่ตะโกนเรียกชื่อตนมาแต่ไกล ตาโตเหลือบตาขึ้นมอง ก็เห็นฮวางชานซองที่มือนึงถือจานข้าว มืออีกข้างถือชามก๋วยเตี๋ยว แล้วไหนจะถุงลูกชิ้นทอด ไส้กรอกรมควัน แล้วก็ทอดมันปลากรายอีก กำลังเดินมาทางตนพร้อมกับกลุ่มเพื่อนนักบอลของชานซอง พลางตะโกนเรียกตนเสียงดัง
“คุณณณณณณณณณณณณณณณณณนี่คร๊าบบบบบบบ ชานนี่เอ๊งงงงงครับ” ตามสไตล์ฮวางชานซอง เสียงดังโวยวาย วันนี่ยังเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นชานนี่ อีก
“อื้มมม หวัดดีชานซอง มีอะไรหรอ” คนตัวเล็กเอ่ยทักอีกคนเสียไม่ได้ เพราะเกลัวว่าถ้าไม่รีบขานรับอีกคนจะตะโกนชื่อตนให้เสียงดังกว่านี้ พูดตรงๆว่า นิชคุณอาย
“ฮี่ๆๆๆ ของชานนี่กะเพื่อนนั่งด้วยคนนะ โต๊ะเต็มหมดเลย คุนนี่นั่งคนเดียวอ่อออ” ยังไม่ทันที่ นิชคุณจะตอบรับหรือปฏิเสธ ชานซองก็ถือโอกาสวางถุงของกิน ลงบนโต๊ะแล้วเสียบตัวเข้าไปนั่งข้างๆคนตัวเล็กแทบจะทันที อิมซึลองที่เดินถือจานข้าวตามมาติดๆ ก็อดจะกัดเพื่อนของตัวเองไม่ได้
“แหม่ ไอ้ชาน วางของพร้อมขนาดนี้มึงจะถามคุนนี่เค้าทำไมวะครับ แล้วกูถามจริง ผีเข้ามึงหรอ มาแทนตัวเองว่าชานนี่ กูจะอ้วก ไอ่ห่าน” อิมซึลองทำท่าสยดสยองกับชื่อที่เพื่อนตัวเองใช้แทนตัวเอง
“มึงก็ไม่เข้าใจ ชานนี่ก็คู่กับคุนนี่ไง มึงนี่ไม่รู้เรื่องเล้ยย เดี๋ยวนี้เค้าฮิตชื่อ2พยางค์ จะได้ดูน่ารัก ฟรุ้งฟริ้งๆเนอะคุนนี่เนอะ” ฮวางชานซอง ตวัดสายตาใส่เพื่อนสนิทตัวเอง แล้วหันมายิ้มหวานเยิ้มให้กับคุนนี่ของตนเอง
“เอิ่ม…นั่งด้วยกันก็ได้นะ ซึลอง ตรงนี้ไม่มีใครนั่งหรอกเรานั่งคนเดียว” นิชคุณเอ่ยบอก พลางยิ้มให้เพื่อนต่างห้อง แต่เมื่อเบนสายตาไปก็พบ สายตาคมคู่หนึ่งที่กำลังจดจ้องตนอยู่ คนตัวเล็กถึงกับหันสายตาหลบเพราะยังเคอะเขินกับเหตุการณ์เมื่อเช้าไม่หาย
“ว๊า เฮ้ย!ชาน กูว่ากูต้องไปกินโต๊ะอื่นล้ะว่ะ คุณครูเค้าไม่เรียกกูนั่งอ่ะ” ร่างสูงทำน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ บอกเพื่อนซึ่งก็เรียกความสนใจจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี ถึงกับหันมาพร้อมรีบพูดลำล้ำละลัก ด้วยความที่กลัวอีกคนเข้าใจเจตนาของตนผิด
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ เราก็ชวนทุกคนน่ะแหละ นั่งด้วยกันซิแทคยอน” เมื่อร่างสูงที่ยินอย่างนั้นก็ยกยิ้มถูกใจ พลางวางจานข้าวจองที่นั่งตรงข้ามกับคนตัวเล็กทันที โดยมีอิซึลองที่มองเหตุการณ์อยู่นั่งลงตามข้างๆแทคยอนอย่างเงียบๆ
“โหยยยย คุนนี่อ่า ไม่น่าไปเรียกมันเลย มานั่งทำไมก็ไม่รู้ ไอ้พวกก้าง!” ฮวางชานซองโวยวายใส่เพื่อนตัวเองที่นั่งกันหน้าตาเฉย ฮึ้ยยยยยย หงุดหงิดจริงกะจะนั่งกินข้าวกะว่าที่แฟน2ต่อ2 จะได้ป้อนบ้าง สวีทบ้างไรเงีย หมีเซ็ง!
ระหว่างที่ทั้ง4คนกำลังนั่งทานข้าวอยู่นั้น ก็มีเสียงหวานๆของใครคนหนึ่งดังขึ้น เรียกความสนใจจากคนทั้ง4ได้อย่างดี
“พี่แทคฮะ พี่แทคจริงๆด้วย” รอยยิ้มหวานของน้องมาร์คปรากฏขึ้น เมื่อรุ่นน้องหน้าสวยเจอรุ่นพี่คนสนิท
“อ้าว มาร์คมาทำอะไรแถวนี้ นี่มันเวลาเรียนเด็กม.5ไม่ใช่หรอ” อ๊คแทคยอนเอ่ยทักรุ่นน้องหน้าสวย พลางหรี่ตามองอย่างจับผิด เพราะร่างสูงสงสัยว่ารุ่นน้องผมแดงตรงหน้าแอบโดดเรียนหรือเปล่า ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะน่ารักๆของน้องมาร์คได้เป็นอย่างดี
“บ้า น้องมาร์คเป็นเด็กเรียนนะ อาจารย์เค้ามีธุระอ่ะครับคาบบ่ายไม่ว่างเลย สอนควบพักเที่ยงเลย นี่ก็เพิ่งปล่อยมากินข้าวฮะ” น้องมาร์คอธิบายเจื้อยแจ้ว ใบหน้าหวานระบายรอยยิ้มน่ารักๆตลอดเวลา
“อ้าวหรอ! แล้วได้ทานข้าวหรือยังล่ะ กับข้าวไม่เกลี้ยงแล้วหรอ ว่าแต่แล้วเพื่อนๆเราไปไหนหมดล่ะ” น้องมาร์คทำหน้ายู่ใส่รุ่นพี่คนสนิท แต่มันช่างดูน่ารักในสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมาเหลือเกิน แล้วก็ยิ้มหวานอีกครั้งก่อนตอบคำถามแทคยอน
“จูเนียร์กับแบมแบม ลดหุ่นไม่ทานข้าว มาร์คเลยต้องมาทานข้าวคนเดียว ขอนั่งกะพี่แทคได้ไหมฮะ” มาร์คทำตาปริบๆ ส่งสายอ้อนๆให้รุ่นพี่ของตน ร่างสูงที่เห็นรุ่นน้องหน้าสวยส่งสายตาอ้อนๆก็อด ยกยิ้มพลางเอื้อมมือไปขยี้หัวทุยๆนั่นอย่างอดจะเอ็นดูในความขี้อ้อนของอีกคนเสียไม่ได้
“เอาสิ นั่งด้วยกันสิ” ไม่ทันที่ร่างสูงจะพูดจบประโยคดี น้องมาร์คก็แทบจะวางจานข้าวลงบนโต๊ะแล้วถลาตัวเข้าไปแทรกนั่งข้างๆรุ่นพี่รูปหล่อแทบจะทันที อิมซึลองที่มองอยู่นานถึงกับเอ่ยปากกระแนะกระแหนคนทั้งคู่อย่างอดไม่ได้
“ในมันน้อยๆหน่อยป้ะ จะหวานก็ไปหวานที่อื่นป้ะ เห็นใจคนโสดอย่างพวกกูมั่งดิ” น้องมาร์คเมื่อได้ยินรุ่นพี่อึมซึลองเอ่ยแซว เจ้าตัวก็ยิ่งยิ้มหวาน โชว์ฟันเขี้ยวเล็กๆ ช่างเป็นรอยยิ้มที่กระชากใจเสียจริงๆ
นิชคุณที่นั่งก้มหน้า พยายามจะตักข้าวในจานเข้าปากของตัวเองแต่ก็รู้สึกว่ามันช่างยากลำบากเหลือเกิน ทำได้เพียงเขี่ยข้าวในจานไปมา แล้วก็นั่งฟังบทสนทนาแสนหวานของคนทั้งคู่ไปพลางๆ ถึงแม้คนตัวเล็กนั้นจะเพิ่งทานข้าวไปเพียงไม่กี่คำแท้ๆ แต่ก็รู้สึกกลืนอะไรไม่ลงขึ้นมาซะอย่างนั้น พาลทำให้รู้สึกอิ่มเสียดื้อๆ คนตัวเล็กตัดสินใจ หันไปหาฮวางชานซองที่กำลังนั่งกินอาหารทั้งหลายทั้งแหล่ที่ตนเองซื้อมาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น คนตัวเล็กหยุดมองสักครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้นมา แต่ก็เรียกความสนใจจากคนทั้งโต๊ะได้เป็นอย่างดี
“ชานซอง เราอิ่มแล้ว เราขอตัวไปเก็บจานก่อนนะ”คนตัวเล็กลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ฮวางชานซองที่ยังคงกินอยู่จะเอ่ยเรียกก็ไม่ได้ เพราะปากยังเต็มไปด้วยน่องไก่ทอดที่ขโมยจากอิมซึลองมา
“อ้าวว คุนนี่ เดี๋ยวซิ คุนนี่ กินไปนิดเดียวเองทำไมอิ่มเร็วจังงงงง คุนนี่ ไอ้ชานมึงขโมยไก่กูอีกแล้ว ไอ้เวนนนนน เอาไก่กูคืนมา” ซึลองที่ตั้งสติได้ก็ตะโกนเรียนคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินจากไปเสียงดัง แล้วก็ต้องโมโหอีกครั้ง เมื่อเห็นไอ้เพื่อนหมีเห็นแก่กินของตนขโมยน่องไก่ที่ตนเองอุส่าห์ถนอมเก็บไว้กินเป็นอย่างสุดท้าย โดนขโมยไปต่อหน้าต่อตา
ระหว่างที่เพื่อนทั้ง2กำลังแย่งน่องไก่กันนั้น สายตาเรียวของตามหลังของคนร่างบางที่เพิ่งเดินจากไปอย่างครุ่นคิด คิ้วหนาขมวดเกร็ง สายตาแห่งความเป็นห่วงกังวลแสดงชัดขึ้น แทคยอนหันไปมองรุ่นน้องหน้าสวยที่กำลังกินข้าวอยู่แล้วเอ่ยบอก
“มาร์คคุง พี่จะไปซื้อน้ำ เราจะเอาน้ำอะไรไหม?” แทคยอนพูดกับรุ่นน้องหน้าสวย
“น้ำเปล่าละกันฮะ ลดน้ำหนักอยู่ทานน้ำอัดลมไม่ได้” น้องมาร์คบอกรุ่นพี่ยิ้มๆ
“รออยู่นี่ละกันนะ เดี๋ยวพี่มา” พูดจบแทคยอนก็ลุกเดินออกไปทันที โดยทิ้งน้องมาร์คคนสวยไว้กับมนุษยืเพื่อนบ้าๆที่กำลังจะตบกันเพื่อแย่งน่องไก่
หลังจากที่เก็บจานเสร็จแล้ว นิชคุณก็พาร่างของตนเอง มานั่งอยู่ที่โรงยิม พักเที่ยงแบบนี้ โรงยิมที่ปกติเงียบอยู่แล้วก็ยิ่งเงีบเข้าไปใหญ่ คนตัวเล็กเลือกที่จะเดินขึ้นไปนั่งบนสแตนเชียร์ชั้นบนสุดของโรงยิม ที่ติดกับหน้าต่างระบายอากาศ ลมเย็นๆอ่อนพัดผ่านไปหน้าหวานเบาๆ อย่างน้อยๆก็ช่วยให้คนตัวเล็กรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง หลังจากต้องเผชิญกับสถานการณ์ชวนปวดใจ เมื่อคิดถึง คนตัวเล็กก็ซึมขึ้นมาทันที ตนเองก็ไม่เข้าใจว่าอ๊คแทคยอนต้องการอะไรจากตนกันแน่ บางทีก็เหมือนจะมีใจ ทั้งๆที่ตัวเองก็มีแฟนแล้ว ถ้ามีแฟนแล้วจะมายุ่งกับตนทำไม? คนตัวเล็กนั่งเหม่อปล่อยความคิดของตนเองไปเรื่อย บรรยากาศเงียบๆ ลมเย็นอ่อนๆพัดเบาๆ ช่วยให้สมองโล่งขึ้น จิตใจสบายขึ้น คนตัวเล็กที่มัวแต่นั่งหลับตาซึมซับบรรยากาศ ก็เลยไม่ได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาแล้วมาหยุดอยู่ข้างๆตน
“หนีมานั่งอยู่นี่ นี่เอง หาแทบแย่” เสียงนุ่มๆของใครคนหนึ่งดังขึ้น เรียกให้คนตัวเล็กที่นั่งหลับตาอยู่ถึงกับลืมตาแล้วหันมามองแทบจะทันที แล้วก็พบภาพอ๊คแทคยอนนั่งยิ้มหวานมองตนเองอยู่ เมื่อเห็นดังนั้น คนตัวเล็กก็กระชับกระเป๋าเป้ของตนเอง พร้อมลุกขึ้นเดินหนีทันที แต่จู่ๆก็ถูกมือใหญ่จับข้อมือขาวของตนเองนั้นดึงรั้งไว้
“เดี๋ยวสิ นิชคุณ คุยกันก่อน” อ๊คแทคยอนรีบบอกอีกคนก่อนที่คนตัวขาวข้างหน้าจะเดินหนีไป นิชคุณที่หันหน้ากลับมา ก็ทำให้อ๊คแทคยอนถึงกับตกใจ เมื่อเห็นอีกคนกำลังร้องไห้ น้ำตาใสๆกำลังไหลออกจากดวงตาคู่สวยนั่น เล่นเอาร่างสูงถึงกับใจเสีย รีบลุกขึ้นแล้วจับหน้าของอีกคนที่เอาแต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่ให้เงยขึ้นมาสบตากับตนเอง
“ร้องไห้ทำไมครับ ฮึ ตาบวมหมดแล้ว” ร่างสูงจับแว่นของคนตัวเล็กตรงหน้าออก แล้วลวงกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนเองออกมา มือใหญ่ค่อยๆประครองหน้าอีกคนขึ้น ความอ่อนนุ่มของผืนผ้าเช็ดหน้าค่อยๆซับไปที่ดวงตาหวานของอีกคนที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำใสๆ ค่อยซับมาจนถึงพวงแก้มอ่อนนุ่มที่กำลังขึ้นสีแดงระเรื่อๆ อ๊คแทคยอนอดคิดไม่ได้ว่า น้ำตาคือสิ่งที่แสดงถึงความอ่อนแอ แต่มาถึงตอนนี้ ร่างสูงก็คิดได้ว่า ถึงน้ำตาจะเป็นสิ่งอ่อนแอ แต่คนตรงหน้านี้เป็นสิ่งอ่อนแอที่สวยที่สุดในโลก แล้วก็น่าถนุถนอมเหลือเกิน
ทั้ง2คน ยืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอยู่นาน จนอ๊คแทคยอนต้องฉุดอีกคนให้นั่งลง คนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้า มือขาวๆก็เอาแต่กำผ้าเช็ดหน้าของอีกคนแน่น ไม่ยอมพูดอะไร อ๊คแทคยอนที่นึกอะไรขึ้นได้ ก็หันกลับไปเปิดกระเป๋าเป้สีดำของตนเองแล้วหยิบ “แซนวิส” กับน้ำเปล่าออกมาจากกระเป๋า มือใหญ่ค่อยๆบรรจงแกะห่อพลาสติกแล้วยืนไปตรงหน้าร่างบาง
“กินหน่อยนะ เมื่อกลางวันก็กินไปนิดเดียวเอง” แทคยอนส่ายแซนวิสไปมาตรงหน้าคนตัวเล็ก นิชคุณที่เห็นดังนั้นก็เบื้อนหน้าหนี คนตัวเล็กก็แค่ไม่อยากจะหวั่นไหวไปกับคนคนนี้อีกแล้ว เมื้อกี้ก็ทำเหมือนไม่สนใจ พอมาตอนนี้ก็มาดูแล อะไรกัน
“กินหน่อยน๊า ไม่กินเนี่ยย แซนวิสต้องเสียใจแน่ๆเลยย” อ๊คแทคยอนบีบเสียงตัวเอง ทำเสียงเล็กๆ พลางทพท่าแอ๊บแบ๊วน่ารักๆ เล่นเอาคนตัวเล็กที่แอบมองอยู่นั้น อดหลุดยิ้มออกมาไม่ได้ มือขาวๆเอื้อมไปหยิบแซนวิสมาถือไว้ในมือ พลางกัดกินแซนวิสใส้ปลาทูน่าที่อีกคนเอามาให้ อ๊คแทคยอนเมื่อเห็นคนตัวขาวยอมทานแซนวิสที่ตนเอามาให้แล้วก็อดยิ้มหวานดีใจไม่ได้ อ๊คแทคยอนนั่งเอามือขันเข่าเท้าหน้ามองคนตัวเล็กกินแซนวิสอยู่นาน จนหมดไปเกือบครึ่งอันแล้ว นั่งมองแก้มขาวๆที่กำลังตุ่ยๆเขี้ยวแซนวิสอยู่ แล้วจู่ๆอ๊คแทคยอนก็ขว้าเข้าที่ข้อมือของคนตัวเล็กข้างที่ถือแซนวิสอยู่ให้ดึงมาใกล้ตน แล้วร่างสูงก็กัดเข้าที่แซนวิส ตรงรอยที่คนตัวเล็กได้กินไปเมื่อก่อนหน้า หน้าตาเฉย นิชคุณที่เห็นดังนั้นก็ตกใจใหญ่ ตากลมโตที่โตอยู่แล้วก็เบิกกว้างขึ้นอีก คนตัวเล็กพยายามจะดึงมือตนเองออกจากการพันธนาการแต่อีกคนก็จับไว้แน่นเหลือเกิน อ๊คแทคยอนที่เห็นอาการของคนตัวเล็กข้างหน้า ก็ยกยิ้มหวานอย่างถูกใจแล้วก็เอ่ยประโยคที่ทำให้อีกคนใจเต้นระรัวอีกครั้ง
“อร่อยจัง ถึงแม้จะอร่อยไม่เท่าที่นิชคุณทำ แต่มากินแบบนี้ รู้สึกดีกว่าเยอะเลยอ่ะ”
“วันหลังอย่าคิดเองเออเองอีกนะ”
“เรากินต่อกันอย่างงี้ เหมือนเรา ‘จูบ’ กันแล้วป่ะ ว่าไหมครับ นิชคุณ^^”
ฉันก็ไม่รู้มันจริงหรือเปล่า
ฉันก็ไม่รู้มันจริงไหมที่เธอบอกรัก
ที่เธอบอกฉัน ฉันจะเชื่อเธอได้ไหม
เธอไม่ได้รักวันเดียวใช่ไหม
เธอจะมีฉันเรื่อยไปไหม ตื่นมาตอนเช้า
จะเจอเธอไหม ไม่ใช่แกล้งให้หวั่นไหว
แล้วก็ทิ้งกันไป
.
.
.
.
.
.
2be continue
คุยกานนนนนน มาต่อแบ้วจ้า
ด้วยพลังแห่ง มีด เขียง ส่งผลให้ตอนนี้หวานแปลกๆ งุ้ยยยยยยยยยยย
พี่แทคก็รุกน้องเกินนนน เป็นผลพวงมาจากเดทจักรยาน 5555555555555555555555555555555555555
แต่ก็อย่างว่า อย่าไว้ใจทะเลในยามคลื่นลมสงบ แล้วก็อย่าไว้ใจเราด้วย
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก ชอบไหมบอกด้วยย
นี่พูดเลยย ว่าคอมเม้นต์มีพลังกะเรามากจริมๆ
ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ คิคิคิ แล้วเจอกันตอนหน้านะจ้ะ แวะไปเม้าส์ได้ที่ ทวิตเตอร์นะจ้ะ
@iceziey0810 คุยกันได้ ฉีดยาแล้วว
ไปละจ้า บ๊ายยยยยยยยย
Thank you love U all
ความคิดเห็น