คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : นอกสายตา Epidose3
SF taeckhun 2pm
นอก สาย ตา Epidose3
By: iceziey0810
ชีวิตประจำวันในทุกๆวันยังคงดำเนินไปตามปกติ แต่มีบางอย่างที่ผิดปกติไปในความรู้สึกของอ๊คแทคยอน เขารู้สึกเหมือนมีบางสิ่งบางอย่างหายไป ความรู้สึกบางอย่างมันหายไป…
“เฮ้ย ไอ้แทคมายืนทำหน้าแมวอะไรหน้าล็อคเกอร์วะ ฮั่นแน่ๆๆๆๆ มาดักน้องแซนวิสหรอวะ ฮ่าๆๆๆ” เสียงอิมซึลองเอ่ยแซวเพื่อนสนิท เพราะตั้งแต่ตนเองเดินขึ้นตึกเรียนมาก็เห็นไอ้เพื่อนหน้าหล่อยืนมึนอยู่หน้าล็อคเกอร์ได้ตั้งนานสองนาน
“อะไรมึง ใครรอใคร ห่า มั่วและมึงอ่ะ” แทคยอนสะดุ้ง เมื่อเจ้าเพื่อนรักตัวดีสะกิดเข้าตรงใจพอดิบพอดี เจ้าตัวเลยรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน จะให้พูดไปตรงๆได้อย่างไรล่ะ ว่าเมื่อเช้าตนมาโรงเรียนก็รีบมาดักแถวๆหน้าล็อคเกอร์แต่เมื่อเปิดตู้ดู กลับไม่พบ เจ้าขนมแซนวิสและน้ำแคนเบอร์รี่ ที่มันน่าควรอยู่ตรงนี้ แต่วันนี้กลับไม่มี ทำให้คนอย่างอ๊คแทคยอนอดเสียใจเบาๆไม่ได้
“ไม่รออะไรก็รีบลงไปเข้าแถวสิครับ วันนี้มึงต้องขึ้นพูดเรื่องการแข่งบอลนะครับ คุณกัปตัน” ซึลองเอ่ยกับเพื่อนรักพลางเอามือตบไหล่เพื่อนรัก แล้วก็เดินเข้าห้องเรียนเพื่อเอากระเป๋าของตนไปเก็บ ทิ้งให้อ๊คแทคยอนยืนอยู่ตรงนั้น พลางบ่นพึมพำอยู่คนเดียวก่อนจะเดินลงตึกไปเพื่อเตรียมตัว
“ทำไมวันนี้ไม่มาส่งนะ วันนี้ต้องขึ้นพูดด้วย จะกินเพื่อเพิ่มกำลังใจซะหน่อย ใจร้ายจังเลย”
อีกด้านหนึ่งของโรงเรียน
คนตัวเล็กกำลังวิ่งกระหืดหระหอบจากหน้าโรงเรียนเพื่อจะรีบขึ้นตึกเรียนอย่างเร็วที่สุด ก็จะไม่ให้รีบได้อย่างไรอีกไปถึง10นาทีข้างหน้าก็จะต้องเรียกรวมแถวแล้ว นิชคุณทำหน้ามุ่ยอย่างไม่สบอารมณ์พลางคิดกล่าวโทษตนเองในใจ ว่าเมื่อคืนตนไม่น่านอนคิดถึงเรื่อง อ๊คแทคยอน จนนอนไม่หลับ กว่าจะได้หลับก็เกือบเช้าทำให้ตนต้องตื่นสาย ทำแซนวิสก็แทบจะไม่ทัน ไหนจะต้องแวะซื้อของจำเป็นบางอย่างอีก ทำให้คนตัวเล็กแทบจะขาดใจตายกว่าจะมาถึงโรงเรียน
นิชคุณเดินขึ้นมาบนตึกเรียนอย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กหันซ้ายหันขวา เพื่อเช็คเส้นทางว่าแถวๆรอบข้างมีใครอยู่ไหม สองขาเรียวเดินไปหยุดอยู่ที่ตู้ล้อคเกอร์ตู้เดิม ที่นิชคุณจำได้เป็นอย่างดี มือขาวค่อยๆเปิดฝาตู้อย่างเบามือ แล้วก็ล้วงหยิบแซนวิสปลาทูน่าที่ตนเองตั้งใจทำอย่างดีเพื่อมาให้อีกคนค่อยๆวางลงอย่างถะนุถนอม พร้อมด้วยน้ำส้มคั้น เมื่อเห็นขวดน้ำส้มคั้นเจ้าตัวก็ยู่หน้าเล็กน้อยอย่างขัดใจ ก็วันนี้ร้านป้าร้านประจำน้ำแคนเบอร์รี่ดันหมด คนตัวเล็กเลยซื้อน้ำส้มมาแทน แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกคนจะชอบไหม นิชคุณวางขวดน้ำส้มข้างขนมแซนวิส คนตัวเล็กค้นกระเป๋าแล้วหยิบของสำคัญอีกอย่างหนึ่งขึ้นมา ของสำคัญที่คนตัวเล็กเพิ่งซื้อมาเมื่อเช้า “ยานวดบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ” ก็เป็นเพราะเมื่อวานที่คนตัวเล็กเผลอไปเห็นเผือกอ่อนที่พันอยู่ที่หัวเข่าของอีกคนอย่างไม่ตั้งใจ ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ คงจะซ้อมหนักมากจนบาดเจ็บสินะ พอตอนเช้าก็เลยไปแวะร้านขายยาแล้วซื้อเจ้านี่ก่อนมาจะมาโรงเรียน คนตัวเล็กค้นกระเป๋าตนเองอีกครั้งพร้อมหยิบกระดาษโพสอิทสีเหลืองครีมและปากกาออกมา เจ้าตัวก้มๆเขียนสักพักแล้วก็เอาเจ้าโพสอิทมาแปะไว้ที่หลอดยาพร้อมข้อความที่ว่า….
.”ใกล้แข่งแล้ว ดูแลตัวเองด้วย หายไวไวนะ^^” ก่อนเจ้าตัวจะปิดตู้อย่างเบามือแล้วเดินกลับห้องตัวเองไป โดยที่คนตัวเล็กไม่รู้เลยว่า ว่ามีใครบางคนเหตุการณ์กระทำของตนตั้งแต่ต้นจนจบหมดแล้ว…
@หน้าเสาธง
“ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆและน้องๆ ส่งกำลังใจมาเชียร์พวกเราด้วยนะครับ ขอบคุณครับ” ทันทีที่แทคยอนพูดจบเสียงกรี้ด จากสาวๆทั้งโรงเรียนก็ดังสนั่นขึ้น เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับเขินไปไม่เป็นเลยดีทีเดียว
หลังจบกิจกรรมหน้าเสาธง อ๊คแทคยอนกับกลุ่มเพื่อนก็พากันเดินขึ้นตึกเรียน และระหว่างทางขึ้นบันไดนั้น ก็พบนิชคุณ ชานซองจึงเอ่ยทักคนตัวเล็กว่า
“หวัดดี คุนนี่ จำเราได้ไหม^^” ฮวางชานซองเอ่ยทักนิชคุณเสียงดัง จนทำให้คนที่ถูกเรียกสะดุ้งอย่างตกใจ แล้วพอหันกลับมายังพบกับสายตาคมกริบของแทคยอนที่มองตนเองอยู่ ยิ่งทำให้ประหม่ากันไปใหญ่
“อื้มม หวัดดีชานซอง มีอะไรกับเราหรอ?” กว่าที่เจ้าตัวจะตั้งสติได้ก็ใช้เวลาอยู่สักพักแล้วจึงเอ่ยทักทายกลับไป
“ดีใจนะเนี่ย คุนนี่จำชื่อเราได้ด้วย เขินๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ชานซองเอ่ยแซว หยอดคนตัวเล็กหน้าตาน่ารักอย่างอดไม่ได้ ตามประสาคนเจ้าชู้ เล่นเอาอีกคนถึงกับหน้าแดงขึ้นมาเสียอย่างนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่าที่หน้าแดงเพราะถูกแซวหรือว่าหน้าแดงเพราะยังถูกสายตาคมกริบของคนบางคนจ้องมองอยู่กันแน่
“ว่าแต่ชานซอง มีอะไรกับเราหรอ?” คนตัวเล็กพยายามไม่สนใจสิ่งที่มารบกวนจิตใจ แล้วพยายามดึงเข้าถึงสาเหตุที่ ฮวางชานซองเอ่ยเรียกตน
“อ่อๆๆ เราจะถามว่าตอนเที่ยงนี้ คุนนี่ว่างไหม คือเมื่อวานเราไปทำแบบฝึกหัดที่คุนนี่เอามาให้แล้วนะ แต่เราไม่ค่อยเข้าใจน่ะ เลยอยากจะให้คุนนี่อธิบาย แต่ขอนัดเที่ยงได้ไหมอ่ะ ตอนเย็นเราไม่ว่างต้องซ้อมบอลอ่ะ” ฮวางชานซองอธิบายถึงเหตุผลที่ตนเรียกหานิชคุณ แล้วก็เห็นคนตัวเล็กพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“อ่อ เที่ยงหรอ อื้มก็ได้ คาบก่อนเที่ยงเราไม่มีเรียน เดี๋ยวเราจะรีบทานข้าว เดี๋ยวจะไปดูให้นะ แล้วชานจะให้เราไปรอที่ไหนล่ะ” คนตัวเล็กบอกเพื่อนต่างห้องอย่างใจดี ด้วยนิสัยที่มีน้ำใจของตัวเองคนตัวเล็กจึงไม่คิดจะปฏิสธคำขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ถึงแม้จะเป็นเพื่อนต่างห้องก็ตาม
“มาที่ห้องเราละกัน ตอนเที่ยงไม่มีใครอยู่หรอก ยิ่งวันนี้ น้องม.5ซ้อมลีด แม่งหนีไปดูน้องมาร์คกันหมดแหละ ฮ่าๆๆๆ” ฮวางชานซองบอกเพื่อนตัวเล็ก เมื่อคนตัวเล็กได้ยินชื่อน้องมาร์ค ชื่อของคนที่เป็นสาเหตุทำให้ตนนอนคิดมากทั้งคืนจนทำให้มาโรงเรียนสาย ตากลมโตก็อดหันสายตาไม่มองหน้าของอีกคนไม่ได้ เมื่อดวงตากลมโตเผลอไปสบเข้าดวงตาคมกริบที่ยังคงมองตนอยู่ คนตัวเล็กที่ทำใจกล้าเมื่อครู่ก็หลบสายตาแทบจะทันที ไม่เคยกล้าเลยสักครั้งที่จะมองตาของเค้าคนนั้น แม้แค่สบตายังไม่กล้าเลยจริงๆ
“โอเค งั้นเดี๋ยวเที่ยง เราไปเจอที่ห้องDละกัน เราไปก่อนนะ ต้องรีบไปรับอาจารย์น่ะ บายๆนะ” นิชคุณรีบเอ่ยลาเพื่อนต่างห้องอย่างรีบเร่ง เพื่อหนีสายตาที่น่าอืดอัดที่จ้องมองตนอยู่ ถ้าไม่รีบหนีไปตอนนี้กลัวเหลือเกิน กลัวว่าตนเองจะเผลอร้องไห้ออกมา คงจะน่าอายมากแน่ๆ
“อ้าว! คุนนี่ รีบไปซะล้ะ บ๊ายยยยบายนะครับบบบ” ฮวางชานซองผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ตะโกนโวกเวกโวยวายเสียงดังร่ำราเพื่อนตัวเล็กเสียงดังจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองอย่างตกอกตกใจ
“ถ้าจะมองตามขนาดนี้ ไม่เดินตามเค้าไปเลยล่ะครับคุณเพื่อน” เสียงอึมซึลอง เอ่ยบอกเพื่อนหน้าหล่อที่ยืนส่งสายตามองตามเพื่อนตัวเล็กต่างห้องที่เดินลงบันไดไปอย่างไม่วางตา พลางเอามือตบไหล่หนาอย่างไม่เบามือนัก จนทำให้คนที่ถูกเพื่อนสนิทตบไหล่สะดุ้งอย่างได้สติ
“พูดไรของมึงวะ ไอ้อง ใครมองอะไร พูดมั่วๆอีกละมึงเนี่ย”ร่างสูงแก้ตัวกับเพื่อนสนิทเป็นพลันวัน จะให้ยอมรับง่ายๆได้อย่างไรว่า ตนเองนั้นยืนจ้องเพื่อนตัวเล็กต่างห้องตาไม่กระพริบตั้งแต่ไอ้ชานเรียกเพื่อนตัวเล็กแล้ว
“หรา กูเห็นมึงยืนจ้องเค้าตั้งแต่ไอ้ชานมันเรียกล้ะเนี่ย แหม่ๆๆๆ จะมีเพื่อนสะใภ้ก็คราวนี้ละมั้งกู ฮ่าๆๆๆ” อิมซึลองแซวเพื่อนสนิทอย่างรู้ใจ จะไม่ให้รู้ใจได้อย่างไง เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาล คนอย่างอ๊คแทคยอน แค่มองตาอิมซึลองก็มองทะลุถึงต่อมลูกหมากแล้วครับผม
“พูดเหี้_ ไรมึงเนี่ยยย มั่วและ กูไม่คุยกะมึงแล้ว เข้าห้องไปแดกแซนวิสดีฟ่า หิว!” ร่างสูงบอกปัดเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจ แต่กลับทำให้อึมซึลองตาโตเพราะเหมือนตนจะได้รับข้อมูลใหม่ๆ
“เดี๋ยวนะ แซนวิสมาส่งแล้วหรอ แหม่!! มิน่าหน้าบาน หูกางเลยนะมึง กำลังใจมาส่งแล้วนี่เอง กูก็ว่าขึ้นไปพูดบนเวทีพริ้วเชียว ที่แท้มีกำลังใจดีนี่เอง แหม่ๆๆๆๆเมื่อเช้ายังหน้าบูดเป็นตูดปลาหมึกอยู่เลยนะครับ คุณเพื่อน” จัดชุดใหญ่ใส่เพื่อนสนิท เล่นเอาเพื่อนร่างสูง อึ้ง หน้าเหวอ คงตกใจที่โดนจับไต๋ความซึนได้สินะ
“ไม่เกี่ยวเลยเว้ย ความสามารถกูต่างหาก แล้วอีกอย่าง ปลาหมึกพ่องมึงดิมีตูด ไอ้ฟายย!” พูดจบร่างสูงก็เดินหนีเข้าห้องเรียนไปแทบจะทันที ทิ้งให้อิมซึลองยืนมองตามส่ายหัวให้กับความซึนของเพื่อนสนิท
“เห้ย ไอ้อง ปลาหมึกมันมีตูดด้วยหรอวะ” ฮวางชานซองผู้มึนอึน จู่ๆก็ถามโพลงขึ้นมา
“มึงเดินไปตึกวิทย์ดิ แล้วก็ขึ้นไปถามอาจารย์ชีวะ ไปถามเขาว่าปลาหมึกมีตูดไหม” อึมซึลองรู้สึกเพลียกับเพื่อนคนนี้เหลือเกิน
“เออ มึงแต่ว่ากูอยากกินปลาหมึกย่างว่ะ เย็นนี้ไปแดกกันมึง” ทำไมมันเปลี่ยนหัวข้อเร็วแท้วะ ไอ้เพื่อนบ้านี่มันโยงทุกอย่างเป็นของกินหมดเลยหรือไงว๊า
“ไอ้บ้าเอ้ย มันใช่เวลาป่ะ ไปชวนไอ้แทคโน่น ฟายยยยยยยยย” อิมซึลองส่ายหัวให้กับความเห็นแก่กินของเพื่อน แล้วเดินหนีเข้าห้องเรียนไป ทิ้งให้ฮวางชานซองยืนโวกเวกโวยวายอยู่คนเดียวแถวๆชั้นเรียน
“ไอ้แทค เย็นนี้ไปกินปลาหมึกกันนนนนนนนนนนนนนนนนนน”
ณ ตอนพักกลางวัน
นิชคุณที่คาบก่อนพักเที่ยงไม่มีเรียน เจ้าตัวจึงไปทานข้าวกลางวันแล้วไปหลบมุมอยู่ในห้องสมุด เพื่อทบทวนบทเรียนเพื่อรอเวลานัดกับฮวางชานซอง พลางก็คิดถึงใครอีกคนไปด้วย คนตัวเล็กพยายามหาเหตุผลที่อีกคนยืนจ้องตนเมื่อเช้า คิดไปถึงว่าเที่ยงนี้ อีกคนจะไปดูน้องมาร์คซ้อมลีดไหม คิดถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ว่าเป็นพี่เป็นน้องกันจริงๆใช่ไหม คิดไปก็ปวดใจไป ขนาดแค่คิดยังเจ็บแปลบไปทั้งหัวใจขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นเรื่องจริง นิชคุณคนนี้จะทนได้ไหม…
เมื่อถึงเวลานัด คนตัวเล็กจึงเดินออกจากห้องสมุดเพื่อตรงไปยังห้องD ที่ฮวางชานซองนัดไว้ ยังไม่ทันจะเดินถึงห้องดี ก็ได้ยินเสียงฮวางชานซองตะโกนเรียกตนเสียงดัง พลางเกาะประตูห้องโบกมือเรียกตนอยู่
“คุนนนนนนนนนนนนนนนี่ เค้าอยู่นี่ค๊าบบบบบบบบ” ยังคงเสียงดังไม่เปลี่ยนสินะ คิดว่าคนรอบข้างเขาจะตกใจไหม?
“หวัดดีชานซอง ไม่ต้องตะโกนก็ได้ เราได้ยิน” อดจะติงไม่ได้ เพราะไม่ใช่แค่คนรอบข้างที่ตกใจ ตนเองคนที่ถูกเรียกก็ตกใจไม่น้อยไปกว่ากัน
“ฮ่าๆๆๆ มานี่เร็วคุนนี่ เราพร้อมเรียนแล้ววว” ไม่พูดเปล่า เจ้าตัวเดินออกมาถือวิสาสะคว้ากระเป๋าชีทเรียนของอีกคนมาถือแล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างจูงมือคนตัวเล็กแล้วพาเดินเข้ามาในห้องเรียนหน้าตาเฉย ไม่ได้สนใจคนตัวเล็กที่พยายามแกะมือปลาหมึกของตนเองแม้แต่น้อย
เมื่อทั้ง2เข้ามาในห้องก็เรียกความสนใจให้แก่สมาชิกอีก2คนที่อยู่ในห้องได้เป็นอย่างดี อึมซึลองกับอ๊คแทคยอน ที่นั่งอยู่หลังห้องหันไปมองตามเสียงโวยวายของเพื่อนตนเอง ก็ได้เห็นฮวางชานซองกึ่งลากกึ่งจูงเพื่อนตัวเล็งต่างห้องเข้ามาในห้องอย่างทุลักทุเล เมื่อฮวางชานซองเห็นเพื่อนอีก2คนยังนั่งอยู่ก็แปลกใจก็อดจะถามไม่ได้
“อ้าว ทำไมมึง2คนยังอยู่เนี่ย ไม่ไปแดกข้าว ไปหาดูน้องมาร์คซ้อมลีดหรือไง มาอยู่เป็นก้างกูทำไมเนี่ย”ฮวางชานซองอารมณ์เสียเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักทั้งสองยังนั่งอยู่ในห้อง ทำให้ตนหมดโอกาสที่จะอยู่กับนิชคุณ2ต่อ2
“กูก็จะติวเหมือนกันนี่หว่า กูก็ไม่เข้าใจบทเรียนเหมือนกัน คุนนี่ครับติวให้ผมด้วยนะครับ^^” อึมซึลองผู้รู้ทันความคิดฮวางชานซองที่กำลังมีแผนร้าย ทำให้ฮวางชานซองหัวเสียอีกครั้ง
“จะมาขยันเรียนอะไรตอนนี้วะ แล้วมึงอ่ะ ไอ้แทค อยู่ทำไมครับผม ไม่ไปดูน้องมาร์คหรือไง? เดี๋ยวน้องเค้าก็นับจังหวะไม่ถูกหรอก ไปไป๊ จะมาอยู่อะไรกันเยอะแยะวะ ขัดจังหวะจริง หึ้ยยย” ฮวางชานซองยิ่งหัวเสียนักเข้าไปใหญ่ เมื่อแผนที่ตนวางไว้ แผนที่กะจะเนียนแต๊ะอั๋งเพื่อนตัวเล็กหน้าสวยต่างห้อง ต้องล่มอย่างไม่เป็นท่า มันน่าเจ็บใจจริงๆเชียว
“กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก็อยากจะมานั่งเรียนด้วย ผมขอเรียนด้วยคนนะครับคุณครู” ร่างสูงบอกเพื่อนของตน แล้วหันสายตาไปหาคนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างหลังฮวางชานซองพลางส่งยิ้มน้อยๆไปให้อีกคนด้วย คนตัวเล็กเมื่อได้ยินเสียงของอีกคนเอ่ยถึงตาก็สะดุ้งด้วยความตกใจจึงเงยหน้าขึ้นมาแล้วก็พบกับดวงตาสีน้ำตาลอบอุ่น พร้อมด้วยรอยยิ้มหวานๆที่ร่างสูงส่งมาให้ตนเอง คนตัวเล็กถึงกับตาโตรีบก้มหน้าอีกครั้ง มือที่ถูกฮวางชานซองจับอยู่นั้นก็เผลอบีบมืออีกคนแน่นอย่างตกใจปนเขินๆ แก้มขาวๆขึ้นสีแดงอย่างห้ามไม่ได้
“แหม่ ขยันเรียนกันจริงนะ กูล่ะหมันใส๊ คุนนี่มานั่งนี่มา ต้องใช้กระดานไหม เดี๋ยวเราย้ายไปนั่งหน้าห้องก็ได้นะ” เมื่อกันก้าง2ชิ้นใหญ่ออกไปไม่ได้ ฮวางชานซองก็ได้แต่ปลงแล้วก็หันไปถามเพื่อนตัวเล็กพลางนึกในใจ เออวะ ยอมๆไปก่อน วันพระไม่ได้มีหนเดียว วันออกพรรษาไม่ได้มีหนเดียว!
เมื่อนิชคุณได้สติ จึงเรียบดึงมือของตนออกจากมือของอีกคนแล้วหันไปพูดกับฮวางชานซอง แต่สายตาก็อดมองไปยังร่างสูงที่ยังคงนั่งยิ้มอยู่หลังห้องไม่ได้
“อื้มม เราจะใช้กระดาน พวกนายย้ายมานั่งหน้าห้องละกันนะ จะได้ใกล้ๆ เราขอเคลียร์กระดานก่อน จะไปเข้าห้องน้ำหรือหาซื้อขนมกินก่อนก็ได้นะ เราให้เวลา10นาที” คนตัวเล็กที่ตั้งสติได้แล้วก็จูนตัวเองเข้าสู่โหมดการสอนทันที
“ดีเลย เราขอไปห้องน้ำแปปนะคุนนี่ ปวดชิ้งฉ่องมากเลย” ฮวางชานซองที่กำลังขนอุปกรณ์การเรียนของตนเพื่อย้ายมานั่งหน้าห้อง ถือโอกาสไปทำธุระส่วนตัวแทบจะทันที
คนตัวเล็กไม่ว่าอะไร ทำได้แค่ส่งยิ้มหวานๆไปให้เพื่อน แล้วเริ่มลงมือลบกระดาน ด้วยขนาดตัวที่เล็กความสูงไม่มาก เจ้าตัวจึงพยายามเขย่งเพื่อจะลบส่วนบนของกระดาน โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ตนเอง ในขณะที่คนตัวเล็กที่กำลังพยายามลบกระดานอยู่นั้น แผ่นหลังบางก็สัมผัสได้ถึงแผ่นอกแกร่งของอีกคนที่กำลังทาบทับมาที่หลังของตนเองพร้อมได้มือใหญ่ที่กำลังกุมทับหลังมือขาวๆของตนเอง ด้วยความตกใจคนตัวเล็กจึงหันหน้าไปมอง แล้วก็พบกับบุคคลที่ตนเองขาดไม่ถึง กำลังอยู่ใกล้กับตนเองใกล้เสียจนกลัวอีกคนจะได้ยินเสียงหัวใจของตนที่กำลังเต้นแรง แรงเสียจนเจ็บไปทั้วหน้าอก คนตัวเล็กรีบหันหน้ากลับเข้ากระดานอย่างเร็วมือขาวๆที่จับแปรงลบกระดานอยู่นั้นกำแน่น เกร็งไปทั้งตัวแต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างหลังสะทกสะท้านเลยสักนิดนึง
“ตัวเล็กแค่เนี้ย จะลบสูงๆได้ไงล่ะครับคุณครู ทำไมไม่เรียกพวกผมมาช่วยล่ะครับ หื้มมม” ขยับร่างเข้าชิดอีกคนเข้าไปอีกยังไม่พอ ยังกระซิบเสียงนุ่มๆใส่หูเล็กๆที่กำลังแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้อีก
“คุณครูใช้แชมพูยี่ห้อไหนเนี่ย ทำไมหอมจังเลยครับ” ไม่พูดเปล่าพลางใช้จมูกโด่งๆดมกลุ่มผมนุ่มที่อยู่บริเวณปลายจมูกของตนอย่างช่วยไม่ได้ ก็มันหอมจริงๆนี่หน่า มือแกร่งก็ยังคงจับมือเล็กไม่ปล่อยพลางลบกระดานไปด้วยอย่างไม่สะทกสะท้านต่อสิ่งใดทั้งสิ้น
“คุณครูจะไม่พูดกับผมหน่อยหรอครับ ว๊า คุณครูไม่อยากคุยด้วย ผมเสียใจจัง” ร่างสูงแสร้งทำน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจใส่คนตัวเล็ก ที่กำลังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง ใบหน้าหล่อยกยิ้มอย่างถูกใจเมื่อเก็บอากัปกิริยาของคนตัวเล็กในอ้อมกอดตนเองที่ยืนตัวแข็งทื่อ หูแดง หน้าแดง อย่างถูกอกถูกใจ เห็นแล้วก็นึกสงสารเลยแกล้งคลายมือกับอ้อมกอดออกสักนิดเพื่อให้อีกคนได้หายใจหายคอบ้าง พอคนตัวเล็บสบโอกาสก็รีบมุดตัวออกมาจากอ้อมกอดของอีกคนแทบจะทัน แล้วรีบเดินก้มหน้าก้มตาไปที่โต๊ะของตนเองทันที
“งั้นฝากแทคยอนลบด้วยละกันนะครับ เราขอเตรียมเอกสารก่อน” คนตัวเล็กหันหลังให้อีกคนอย่างรวดเร็วเพื่อปิดบังใบหน้าหวานที่กำลังแดงอย่างหยุดไม่ได้ คนตัวเล้ดพยายามยืนให้ห่างจากอีกคนที่สุดเพราะกลัวเหลือเกินว่าอีกคนจะได้ยินเสียงหัวใจของตนที่กำลังเต้นกระหน่ำอยู่ตอนนี้
ร่างสูงยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับกิริยาเขินอายไปไม่เป็นของคนตัวเล็ก แล้วก็รีบลบกระดานให้เสร็จจึงเดินยิ้มกริ่มกลับมานั่งที่โต๊ะของตนเอง ก็พบกับสายตาล้อเลียนปนๆจับผิดของอิมซึลองที่กำลังมองตนอยู่
“แหม่ ให้มันน้อยๆหน่อยมั้ยครับคุณเพื่อน” อิมซึลองพูดกับเพื่อนสนิท ร่างสูงก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร เพียงแต่ทำหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่อีกเพื่อนอย่างนึกสนุก
“ถ้ามึงไม่จริงจัง ก็อย่าไปหลอกเขานะเว้ย คุนนี่เค้าเป็นคนดี กูสงสารเขา” ซึลองพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังจนทำให้ ร่างสูงที่กำลังหาค้นหาของในกระเป๋าชะงักนิ่ง แล้วหันหน้ากลับมามองเพื่อนของตนด้วยสายตาไม่พอใจ
“กูพูดได้แค่นี้จริงๆไอ้แทค ถ้ามึงไม่จริงจัง มึงก็อย่าไปหลอกเขา กูสงสาร” พูดไม่ทันจบประโยคดี เสียงโวยวายของฮวางชานซองที่กำลังเดินเข้าห้องมาหลังจากหายไปเข้าห้องน้ำนานสองนาน
“มาและคร๊าบบบบ คุนนี่ของผม คิดถึงผมป่ะเนี่ยยยย คิคิคิ โอ๊ะ ทำไมคุนนี่หน้าแดงๆ ร้อนหรอครับ เค้าลดแอร์ให้เอามั้ย” ฮวางชานซองรีบวางถุงขนมในมือแล้วเข้าเอามือไปประครองใบหน้าหวานๆของเพื่อนตัวเล็กแล้วจับพลิกไปพลิกมาอย่างเป็นห่วง พลางนึกในใจ ทำไมแก้มคุนนี่นิ่มจัง อร้ายยยย หมีอยากหอม^^
“เราไม่เป็นไรหรอก ไปนั่งทีเถอะ เสียเวลาเยอะแล้วนะชานซอง” คนตัวเล็กจับมือของชานซองที่จับอยู่ที่แก้มของตนออกแล้วเอ่ยไล่ให้อีกคนไปนั่งที เพื่อกลบเกลื่อนอาการของตน
“โอเคคร๊าบบบ เริ่มเรียนๆๆๆๆๆๆ ตั้งใจๆๆๆๆ เฮ่” ฮวายชานซองยังคงมึน ไม่ได้สังเกตถึงบรรยากาศรอบข้าง ไม่ได้สังเกตถึงอาการของเพื่อนสนิทหรือของคุณครูตัวเล็กของตนแม้แต่น้อย
การเรียนการสอนได้เริ่มขึ้น นิชคุณได้สวมบทบาทในการเป็นติวเตอร์ได้เป็นอย่างดี คนตัวเล็กตั้งใจถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจของตนให้เพื่อนทั้ง3อย่างเต็มความสามารถ สมาธิแน่วแน่ต่อการสอน แม้จะมีสายตาหวานเยิ้มของฮวางชานซองคอยมองหยอด หรือแม้กระทั่งสายตาคมกริบของอ๊คแทคยอนที่คอยมองมาเป็นระยะๆ ก็ไม่สามารถทำลายสมาธิในการสอนของคุณครูตัวเล็กได้แม้แต่น้อย ไม่แปลกใจเลยสักนิดว่าทำไมเจ้าตัวถึงได้เรียนหนังสือเก่งนัก
“อ่ะ ทุกคน เดี๋ยวคุณ มีโจทย์ให้1ข้อ ทุกคนลองทำนะ อันนี้เป็นโจทย์พิเศษที่คุณคิดขึ้นมาเอง ลองทำดู ถ้าทำได้ก็ถือว่าที่เรียนมาเข้าใจนะ ลองทำนะ เดี๋ยวคุณจะเดินดู” คุณครูตัวเล็กเขียนโจทย์บนกระดานแล้วปล่อยให้ลูกศิษย์ทั้ง3นั่งทำไปเงียบๆ เมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ๆ คุณครูตัวเล็กที่เงยหน้าจากโจทย์ที่ตนกำลังแก้เพื่อทำเป็นเฉลยให้แก่ลูกศิษย์ทั้ง3นั้น ก็เห็นฮวางชานซองกำลังตั้งหน้าตั้งตาคิดโจทย์อย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว จนทำให้นิชคุณอดยิ้มให้ในความพยายามของเพื่อนตัวโตไม่ได้ แล้วหันไปมองอิมซึลองที่ตอนแรกดูขยันขันแข็งดีแต่ตอนนี้กลับหลับคอพับคากระดาษไปเรียบร้อยแล้ว แต่อีกคนนึงที่นั่งอยู่ริมสุด อ๊คแทคยอนซึ่งกำลังทำแบบฝึกหัดอยู่ใบหน้าหล่อดูไม่ค่อยเข้าใจกับสิ่งที่ตนทำอยู่ คิ้วเข้มขมวดแน่น ริมฝีปากปากบางเม้มเข้าหากันอย่างคนไม่มั่นใจในตัวเอง ทำให้คุณครูตัวเล็กที่แอบมองลูกศิษย์อยู่ก็อดเข้าไปสอบถามถึงปัญหาไม่ได้
“เอิ่ม แทคยอนทำได้ไหม?” เสียงหวานเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ กับอีกคน ทำให้อ๊คแทคยอนยอมเงยหน้าจากโจทย์สุดหินขึ้นมามองคุณครูหน้าสวย พลางยิ้มแหยๆส่ายหัวให้กับอีกคนเบาๆ เมื่อเห็นดังนั้นมือเรียวสวย จึงไปลากเก้าอี้อีกตัวจากโต๊ะข้างๆมานั่งข้างๆร่างสูง มือเรียวสวยหยิบดินสอของร่างสูงมาแล้วอธิบายให้อีกคนฟังอย่างช้าๆ มือก็พลางเขียนอธิบายในสิ่งที่ตนเองพูดไปด้วย โดยไม่ได้สนใจลูกศิษย์ตัวดีที่เอาแต่นั่งเท้าแขนมองหน้าคุณครูคนสวยที่กำลังอธิบายอยู่ปาวๆแม้แต่น้อย สายตาคมค่อยๆพิจารณาใบหน้าหวานๆของคุณครูคนสวยอย่างช้าๆ ใบหน้าสวยหวานเกินหญิง ผิวขาวเนียนละเอียด ดวงตากลมโต ภายใต้กรอบแว่นอันใหญ่ แพขนตาหนายาวๆงอนๆ จมูกโด่งสวยรับกับใบหน้า ไหนจะปากแดงอิ่มๆที่กำลังเจื้อยแจ้วอธิบายโจทย์แคลคูลัสสุดหินให้ตนฟังอยู่ มองโดยรวมคนตรงหน้าจัดว่าหน้าตาน่ารักมาก แต่ติดตรงที่นิสัยขี้อาย ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ทำให้คนตัวเล็กแลดูจืดชืดทำให้ดูหน้าเบื่อ แต่อ๊คแทคยอนกลับคิดว่า ไอ้ความขี้อายของเจ้าตัวเนี่ยแหละที่เป็นเสน่ห์ให้กับอีกคนเป็นอย่างมาก ยิ่งเวลาคนตัวเล็กเขินอายยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆนะครับคุณครูคนสวย
คนตัวเล็กที่รู้สึกว่านักเรียนของตนเงียบไปจึงเงยหน้าขึ้นมามอง ก็พบว่าอีกคนนั่งจ้องตนอยู่ ก็คิดว่าอีกคนสงสัยอะไรหรือเปล่าด้วยความเป็นห่วงจึงเอ่ยถามอีกคนอย่างกระตือรือร้น คิ้วสวยขมวดแน่น ริมฝีปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรง
“แทคยอน เข้าใจไหม งงตรงไหนถามเราได้นะ” ดวงตากลมสบเข้าดวงตาของอีกคน ถ่ายทอดความกังวล ความกลัวอีกคนจะไม่เข้าใจในบทเรียนที่ตนกำลังสอน เมื่อร่างสูงเห็นความจริงจังในแววตาของอีกคนก็อดยิ้มเบาๆไม่ได้
“ครับ งั้นขอถามนะครับ ทำไมใจดีจังเลยครับ” คนตัวเล็กถึงกับชะงัก มือสวยๆที่จับดินสออยู่ถึงกับค้างชะงัก
“ใจดีแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่าครับ ถ้าต่อไปนี้ผมขอให้ใจดีกับผมแค่คนเดียวจะได้ไหมครับ?” ตากลมโตยิ่งโตเข้าไปอีก มือที่ตอนแรกถือดินสออยู่ถึงกับปล่อย ดินสอเจ้ากรรมจึงตกลงพื้นอย่างช่วยไม่ได้ คนตัวเล็กที่กำลังตกใจยิ่งลนลานเข้าไปใหญ่ รับก้มลงพื้นหาดินสอที่กลิ้งไปอยู่ข้างๆเท้าของอีกคน มือเล็กๆกำลังจะเอื้อมไปเก็บแต่มือของอีกคนที่ไม่รู้ว่าลงมาใต้โต๊ะตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แย่งเก็บไว้ก่อน นิชคุณเงยหน้ามองหน้าร่างสูง ก็เห็นอีกคนนั่งอมยิ้มหวานๆส่งให้ตนอยู่ ยิ่งทำให้คนตัวเล็กหน้าแดงก่ำเข้าไปใหญ่ ใบหูแดงลามไปถึงลำคอ ยิ่งทำให้คนตรงหน้าน่าเอ็นดูเข้าไปอีกในสายตาอ๊คแทคยอน
“ว่าไงครับ นิชคุณยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ งั้นขอถามอีกข้อ ถ้าผมจะขอจีบ ได้ไหมครับ” เหมือนมีไม้หน้าสามฟาดเข้ามาที่กลางหน้าผากคนตัวเล็กเข้าอย่างจัง รู้สึกมึนไปชั่วขณะเมื่อเจอคำถามชวนหัวใจวายตายจากร่างสูง นิชคุณนั่งสตั๊นอยู่ที่พื้นใต้โต๊ะ ผมสีน้ำตามเข้มนุ่มมือเสียดสีเข้าผงฝุ่นใต้โต๊ะจนเปรอะเปื้อนไปหมด แทคยอนเห็นดังนั้นถึงเอื้อมมือของตนเองมาปัดฝุ่นออกจากผมของคนตรงหน้าอย่างเบามือ แล้วก็ก้มหน้าไปกระซิบข้างๆหูของอีกคนด้วยว่า
“ต่อไปนี้ ผมขอเป็นน้ำส้มทุกวันเลยนะ เพราะมันเข้ากันแซนวิสทูน่ามากกว่าเจ้าแคนเบอร์รี่อีกนะครับนิชคุณของผม”
หากเธอก็รับ เธอก็รู้สึกดีดีเหมือนกัน แต่เธอก็เขินอายอย่างนั้นที่จะต้องพูดมา
แค่ร้องว่า อาอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยาก็พอ
และฉันจะขอเป็นคนนั้นที่ดูแลหัวใจ ไม่เคยบอกรักใครคนไหนเพิ่งจะมีแค่เธอ
แต่ฉันก็อ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยาเหมือนเธอ แค่เพียงเท่านี้เป็นอันเข้าใจ~~
2be continue
Talk: มาต่อแล้วจ้า อิอิ มันหวานๆแปลกมั้ย เอ๊ะ หรือว่าจะหลอกให้วางใจ ต้องติดตามตอนต่อไปนะพูดเลย
555555555555555555555555555 ทุกคนแลดูทวงฟิคเรา ดีใจนะที่ยังไม่ลืม กร๊ากกกกกกกกก
ขออย่าเดาเรื่องเลยนะจ้ะ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะอารมณ์คนแต่งก็ไม่ค่อยมั่นคงเช่นกัน
5555555555555555555555 ตอนหน้าน้องมาร์คจิออกโรงแล้วนะครัช หลังจากเป็นเกสมา2ตอน
อ้อ แล้วฝากเรื่องใหม่ที่เพิ่งเปิดด้วย love in the past อดีตแห่งรัก ฝากด้วยจริมๆ คนละรสชาติกะเรื่องนี้เลยล่ะจ้า
พูดคุยกันได้ หรือมาฟังเราฝอยได้ที่ @iceziey0810 นะจ้ะ ทวิตเตอร์ที่รักที่เก่าเวลาเดิม
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ขอบคุณทุกคอมเม้นต์จริงๆ ที่ยังส่งกำลังใจให้กัน ยังคง taeckhun ไปด้วย ข้าน้อยซาบซึ้งจริงๆ
รักคนอ่านเหมือนเดิมนะจ้ะ อ่าห๊า บ๊ายบาย เจอกันตอนต่อไปครับผ้ม
Thank you love you all
ความคิดเห็น